ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Laflora Secret ไขปมความรักกับสายลับ 5 สาว

    ลำดับตอนที่ #41 : ตอนที่ 30 : เฉียดฉิว

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ย. 65


    TB

    30 

    เฉียดฉิว


    “โย่ว~ รอนานมั้ยคร้าบคุณน้าทั้งสอง ;)”

    “โซเล่!?” ทั้งไอริณและแอริณตะโกนชื่อของผู้มาใหม่พร้อมกัน ริมฝีปากของเจ้าของชื่อเหยียดยิ้มอย่างอวดดีตามสไตล์ของเขาก่อนจะโยนดาบที่หักในมือลงทะเล

    สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่คือ ชายหนุ่มผู้มีนามว่า ‘โซเล่’ ใช้ดาบคมยาวของเขาฟันลงไปที่โซ่ของฮ.ของแก๊งฟักทองอย่างแรง เสียงของเหล็กกระทบกันดังลั่นทั่วท้องฟ้า ตะขอที่ยึดติดกับโซ่ร่วงหล่นลงทะเลไปตามแรงโน้มถ่วง ส่วนฮ.ที่เป็นเจ้าของโซ่ก็ถูกแรงเหวี่ยงส่งไปจูจุ๊บกับชายหาดดั่งเช่นอุกกาบาตที่พุ่งลงสู่ผิวโลก 

    ร่างสูงกระโดดลงบนดาดฟ้าอย่างระมัดระวังก่อนจะหันไปทักทายเจ้าหน้าที่สาวทั้งสอง สองเท้าเดินไปสำรวจเฟืองสักครู่ก่อนจะเรียกให้ฮ.ลำนึงขององค์กรโลกมารับ

    “มาทันเวลาพอดีเลยนะ” ไอริณกระโดดลงจากฮ.แล้วเดินเข้าไปกอดโซเล่

    “ต้องเรียกว่าเฉียดฉิวฉิวเฉียด!” แอริณนั่งยกนิ้วโป้งให้อยู่บนที่นั่งคนขับ

    “แต่ว่าผมมาไม่ทันที่จะช่วยน้าไว้น่ะสิ” โซเล่กอดตอบก่อนจะจับแผลที่แขนของไอริณขึ้นมาดูอย่างเบามือ

    “แผลนิดเดียวเอง สองสามวันก็หาย”

    “อย่าพูดว่ามันเป็นแค่แผลถลอกสิครับ ถ้ายัยลิงรู้ขึ้นมาเจ้าตัวจะไม่โวยวายแย่เหรอ”

    “เราก็ซ่อนมันไว้ซี่~”

    “พี่! หยุดคุยก่อนแล้วรีบไปช่วยพวกนั้นก่อนเถอะ” แอริณลดระดับฮ.ลงมาแล้วรีบเรียกพี่สาวของตน ภาพตรงหน้าคือกลุ่มฮ.ขององค์กรโลกที่กำลังโดนอีกฝั่งต้อนจนจนมุม

    “แย่แล้ว! อย่างนี้ท่าจะไม่ดีแล้วแน่ๆ”

    “ไม่ต้องห่วงครับ” โซเล่จับที่ไหล่ของไอริณแล้วโชว์วิดีโอโฮโลแกรมที่ถ่ายจากโดรนให้เธอดู “กองกำลังเสริมทั้งทางน้ำและทางอากาศมาถึงแล้วครับ”

    “กรี๊ด!! ในที่สุด! งั้นไปกันเถอะ!” ไอริณกระโดดดีใจก่อนที่จะก้าวขึ้นฮ.ไปอย่างรวดเร็ว “ฝากเฟืองด้วยนะโซเล่!”

    “เชื่อมือผมได้เลย” พูดจบ โซเล่ก็ยกเฟืองขึ้นแล้วขึ้นฮ.ที่ตนเรียกมาก่อนจะมุ่งหน้ากลับไปยังสำนักงานใหญ่

    ทั้งสองรีบมุ่งหน้าไปยังสงครามเบื้องหน้า โชคดีที่กำลังเสริมมาช่วยได้ทันเวลา พวกเขาเลยพอมีโอกาสที่จะโต้กลับได้บ้าง

    ทันใดนั้น ก็มีฮ.ที่คาดว่าเป็นของแก๊งฟักทองสองลำถูกยิงจนระเบิดหล่นลงทะเล ต่อมามีฮ.ของฝั่งเดียวกันบินสวนขึ้นมาอีกลำหวังจะจู่โจมคนของฝั่งองค์กรโลก ตลกร้ายที่กระสุนปืนกลหมดเกลี้ยงเพราะเพิ่งกราดยิงสองลำก่อนหน้านี้ 

    “พวกเธอทำอะไรอยู่น่ะ! รีบหนีออกมาเซ่!!!” ไอริณตะโกนไปยังเครื่องมือสื่อสารของตน อีกไม่กี่วิฮ.ทั้งสองลำก็จะชนกันแล้ว

    มีเจ้าหน้าที่คนนึงได้ยินเสียงที่ไอริณตะโกนมา จึงรีบพาคนที่เหลือสวมร่มชูชีพแล้วกระโดดลงจากฮ.ทันที ประจวบเหมาะกับที่ฮ.ทั้งสองพุ่งชนกันจนเกิดระเบิดเสียงดัง แสงสีส้มปนแดงกระจายออกมาพร้อมกับกลุ่มควันโขมงสีดำที่พวยพุ่งออกมาเฉกเช่นภูเขาไฟระเบิด แทบไม่ต้องเดากันเลยว่าสภาพของอีกฝ่ายที่ยังอยู่ในฮ.จะเป็นยังไง

    “รีบส่งคนไปรับพวกนั้นด่วยที่สุด!!” เสียงไอริณออกคำสั่งผ่านนาฬิกาโฮโลแกรม ทำให้กลุ่มเจ้าหน้าที่บริเวณใกล้เคียงไปรอรับบุคคลที่เพิ่งหนีออกจากความตาย

    “โห พวกนั้นยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อโจมตีฝั่งเราเลยเหรอ” น้ำเสียงตกใจของแอริณดังขึ้น

    “ฉันว่ามันไม่ปกติแล้วแหละ ไว้จบงานนี้แล้วฝากเธอเช็คด้วยนะ”

    “สบายมาก!”

    หญิงสาวผู้เป็นน้องตอบรับหนักแน่นแล้วเร่งคันเร่งจนสุดลิมิต ส่วนผู้เป็นพี่กระชับรีโมตสีขาวที่โรซารี่ให้มา รอจังหวะที่ปุ่มเปล่งแสงสีฟ้าสว่างแล้วออกคำสั่งทันที

    “ทุกคน! โจมตีด้วยรีโมตได้!!!” 


    วาบ!!


    แสงสีเขียวสาดส่องไปทุกรัศมีบนฟากฟ้า ฮ.ของแก๊งฟักทองทุกลำที่อยู่ในรัศมี 5 เมตรจากรีโมตหยุดทำงานทันที แรงโน้มถ่วงของโลกดึงนกเหล็กจำนวนสิบกว่าลำหล่นลงบนท้องทะเล แต่องค์กรโลกก็ไม่ใช่คนประเภทที่จะใจร้ายถึงขนาดที่จะปล่อยให้เหล่าคนร้ายจมน้ำตายในทะเล กองกำลังเสริมทางน้ำจึงรีบรุดไปจับกุมคนเหล่านั้นทันที

    ถึงแม้จะมีฮ.ของแก๊งฟักทองเล็ดรอดออกไปได้ประมาณสี่ลำ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเขา เพราะกำลังเสริมทางอากาศที่ตามมาทีหลังได้พกอาวุธลับที่เป็นท่าไม้ตายของพวกเขามาด้วย

    “ยิงได้!!!” เสียงออกคำสั่งของกำลังเสริมดังกึกก้องไปทั่ว มือของพวกเขาเหนี่ยวไกไปที่บาซูก้าลำใหญ่ ลูกกระสุนขนาดยักษ์พุ่งออกไปหาเป้าหมายราวกับมิสไซล์ หางของฮ.เหล่านั้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆเป็นเหตุให้ตัวของฮ.เสียการทรงตัวแล้วหมุนตกลงทะเล


    ตู้ม!!


    ในขณะเดียวกัน ทางฝั่งของชายหาดมีนกเหล็กยักษ์พังจนไม่เหลือร่องรอยความเป็นเฮลิคอปเตอร์อยู่ มีร่างของหญิงสาวตัวเด็กที่สภาพเปรอะเปื้อนไปด้วยรอยแผล ฝุ่นควันและเม็ดทรายตามตัวค่อยๆคลานออกมาจากฮ.ลำนั้นอย่างช้าๆ ตามด้วยลูกทีมอีกสองคนในสภาพที่ไม่สู้ดีพอๆกัน

    “อึก!” ร่างเล็กกัดฟันทนความเจ็บปวดที่แปล๊บเข้ามาในโสตประสาท ข้อเท้าข้างซ้ายของเธอระบมและบิดอยู่ในท่าที่ไม่เป็นธรรมชาติ

    “คุณบลองค์ชาร์ด!? ข้อเท้าหักนี่!” ลูกทีมหญิงผู้เห็นอาการของนายของตนรีบรุดเข้ามา

    “พลาดท่าซะได้ ฮะๆ” ไลลาหัวเราะออกมา “เธอว่าที่เหลือจะรอดมั้ย ฟุกุ”

    หญิงสาวผู้มีศักดิ์เป็นลูกน้องของไลลาที่ชื่อฟุกุถอนหายใจก่อนจะตอบคำถามตามตรง

    “ขอโทษที่พูดแบบนี้นะคะ แต่ว่าอาจจะรอดน้อยค่ะ”

    “งั้นเหรอ...” ไลลาตอบกลับ ดวงตาของเธอมีแต่ความว่างเปล่า นั่งมองสงครามที่กำลังจะจบตรงหน้าราวกลับพลุปีใหม่ในตอนกลางวัน “แต่ฉันก็ไม่แคร์หรอกนะ พวกนั้นก็แค่ลูกน้องที่จ้างมาชั่วคราว”

    “...”

    “แต่ถ้าพวกเธอเป็นอะไรไป” ดวงตาสีฟ้าหม่นหมองเบนกลับมามองหน้าลูกทีมของตนทั้งสอง “ฉันว่าฉันแย่แน่ว่ะ”

    “คุณบลองค์ชาร์ด...”

    “เอ้าๆอย่ามาเศร้าแถวนี้! ลองติดต่อราเควลดิ๊ว่านางตายไปยัง!” ไลลาตัดบทอย่างไม่ชอบใจก่อนจะโยนวิทยุสื่อสารขนาดพกพาใส่ลูกทีมของตน


    ‘ห้ามแสดงด้านอ่อนไหวออกมาเด็ดขาดไอ้โง่!’


    “ครับๆ” ไมค์ หนึ่งในลูกทีมรับมันมาก่อนจะติดต่อไปยังปลายสาย


    ซ่า.. ซ่า..


    เสียงคลื่นสัญญาณดังอยู่เกือบนาทีก่อนจะมีเสียงปลายสายตอบกลับมา

    [ราเควลพูดค่ะ]

    “ลูกพี่ครับ นางยังไม่ตาย!”

    “เออรู้แล้ว ราเควลเธออยู่ไหน”

    [ไอ้ไมค์ ฉันได้ยินนะเว้ย!] ปลายสายตอบมาด้วยอารมณ์ที่ไม่ดีนัก [ฉันหนีมาทางน้ำกับคนที่เหลืออีกสามคนค่ะ]

    “ห๊ะ หนีไปได้ไง!?”

    [ก็เรือดำน้ำฉุกเฉินที่ฉันทำไว้ให้ไงคะ อย่าบอกนะว่าคุณลืมน่ะ?]

    “...”


    ‘เออ กูลืม’


    [รีบหนีมาก่อนเถอะค่ะแล้วค่อยคุยกัน ตอนนี้พวกองค์กรโลกน่าจะไล่ตามหาตัวพวกคุณแล้ว]

    “ได้-”

    “หัวหน้าครับ เราเจอซากของเฮลิคอปเตอร์ของคนร้ายแล้วครับ!!” เสียงของเจ้าหน้าที่องค์กรโลกดังขึ้นไกลๆตัดบทขณะที่ไลลากำลังตอบกลับราเควล ทำให้ทั้งสามรีบหนีกันจ้าละหวั่น

    “เชี่ยๆๆ มันมากันแล้ว ไมค์กับฟุกุไปหาไอ้เรือดำน้ำนั่นดิ๊!” ไลลาตะโกนด้วยความเลิ่กลั่ก ไอข้อเท้าบ้าก็ดันมาหักอะไรตอนนี้ ขยับลำบากชะมัด!

    “ได้แล้วค่ะ!” ฟุกุดึงแผ่นเหล็กรูปวงรีขนาดกลางออกมาจากซากเฮลิคอปเตอร์ก่อนจะกดปุ่มๆนึง แผ่นเหล็กบางๆกลายร่างกลายเป็นเรือดำน้ำขนาดไม่ใหญ่มาก

    ไมค์ค่อยๆช้อนตัวไลลาขึ้นก่อนจะวิ่งเข้าไปในเรือดำน้ำ เนื่องจากร่างอันกำยำของเขาทำให้เบียดตัวเข้ามาค่อนข้างลำบาก

    “ไมค์ เร็วๆ! พวกนั้นจะมาแล้วนะ!” ฟุกุผู้เป็นคนบังคับเรือตะโกนเรียกเพื่อนร่วมทีมที่ติดแหงกอยู่ตรงประตู

    “แปบนึง!”

    “ค้นซากเฮลิคอปเตอร์นี่ซะ!” เสียงสั่งของใครบางคนดังขึ้น ทำให้หัวใจของทั้งสามร่วงลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม กลัวว่าจะถูกจับได้ก่อนที่จะมีโอกาสหนี


    ฟุบ!


    “แอ้ก!!”

    “ออกเรือได้!”

    “รับทราบ!”

    ร่างเล็กใช้แรงที่หมดที่มีดึงลูกทีมร่างใหญ่ให้เข้ามา เขาล้มลงกับพื้นเรือโดยที่หน้าอกกระแทกลงกับพื้น เสียงร้องเพราะความจุกดังลั่นแต่ไลลาก็หาได้สนใจไม่ หันไปสั่งลูกทีมอีกคนให้ออกเรือหนีทันที

    เรือดำน้ำลำเล็กนี้ออกตัวด้วยความเร็วสูงสุดไปยังที่หมายที่ราเควลเป็นคนหาให้

    “ไปที่คอสตาริก้า เดี๋ยวนี้!”


    ในเวลาเดียวกัน กองกำลังเสริมขององค์กรโลกได้ค้นหาตามซากเฮลิคอปเตอร์และบริเวณโดยรอบ กลับพบแต่ซากเหล็กพังๆ เครื่องยนต์ที่ใช้การไม่ได้ อาวุธที่ถูกใช้จนหมดกระสุนและรอยเลือดที่ติดตามชิ้นส่วนต่างๆ 

    น่าแปลกที่แม้แต่ร่องรอยของคนที่พวกไลลาทิ้งไว้หรือแม้แต่รอยลากเหล็กแผ่นบนพื้นทรายกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ราวกับที่ตรงนั้นไม่เคยมีใครเหยียบย่ำมาก่อน

    “ไม่พบร่องรอยของผู้ร้ายครับ คาดว่าพวกมันหนีไปแล้ว”

    [งั้นรวบรวมหลักฐานให้เยอะที่สุด และแบ่งกำลังคนตามหาเดี๋ยวนี้]

    “รับทราบ!”

    บนดาดฟ้าของเรือโนอาห์คลาสดุ๊ก มีร่างของหญิงสาวสองร่างนั่งพักจากความเหน็ดเหนื่อยพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์ลำเก่งที่จอดไว้ตรงที่จอดฮ. พื้นโดยรอบมีรอยกระสุนและปลอกกระสุนกระจายเกลื่อนอยู่ทุกพื้นที่ 

    “เฮ้อ.. งานนี้เหนื่อยชะมัด โอ๊ยเจ็บๆๆๆ” ไอริณถอนหายใจแล้วร้องเจ็บออกมาขณะที่แอริณกำลังทำแผลให้ที่แขน

    “แหม ทีอย่างนี้ทำเป็นเสียงอ่อน พอเวลาสั่งงานลูกน้องนะ เสียงดุยิ่งกว่าร็อตไวเลอร์อีก”

    “ว่าฉันเป็นหมาเหรอ!?”

    “อ้าว เพิ่งรู้เหรอ”

    “หนอย ยัยแอริณ!!”


    วาบ!


     ในจังหวะที่ไอริณกำลังจะต่อว่าน้องสาวของตน แสงสว่างก็วาบออกมาจากนาฬิกาโฮโลแกรมของเจ้าตัว พร้อมกับหน้าจอวิดีโอคอลที่มีโซเล่อยู่ในจอ

    [โย่ว~ ผมมาถึงสำนักงานใหญ่แล้วน้า] โซเล่ฉีกยิ้มกว้างให้กับคุณ้าทั้งสอง

    “เธอมาได้ทันเวลาพอดี น้าเกือบโดนไอริณกินหัวแล้วมั้ยล่ะ”

    “เธอว่าฉันเป็นหมาก่อนเองไม่ใช่เหรอ”

    [เดี๋ยวๆ พวกน้าทะเลาะกันอีกแล้วเหรอ ใจเย็นๆกันก่อนครับพี่น้อง]

    “เย็นอยู่นี่ไง” ไอริณตอบกลับอย่างเซ็งๆ

    [เดี๋ยววันพรุ่งนี้ทางสำนักงานใหญ่จะส่งเฟืองคืนกลับพิพิธภัณฑ์ เบื้องบนฝากมาบอกว่าทำได้ดีมากด้วยครับ]

    “โล่งอกไปที น้านึกว่าจะโดนด่าเรื่องที่พี่เรียกกองกำลังมาแบบไม่คิดถึงงบประมาณซะอีก” แอริณถอนหายใจอย่างโล่งอก

    [ก็เกือบแหละครับ แต่ผมจัดการไว้ เลยไม่โดนอะไร ผมซะอย่าง!] โซเล่หลับตากอดอกแล้วเหยียดยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

    “จ้าๆ ยกความดีความชอบให้เธอเลย”

    [ว่าแต่เหลือของอีกสามชิ้นใช่มั้ยครับ]

    “ใช่จ้ะ แล้วเธอต้องมาช่วยด้วย ห้ามหนีล่ะ”

    [สุดหล่อคนนี้จะเทงานนี้ได้ไง ยิ่งมีลิงกังจอมแก่นร่วมทีมขนาดนี้ ;)]


    (ฮัดชิ่ว! เหมือนโดนนินทาอยู่เลยแฮะ//ทิวา)

    .

    .

    .


    ทางฝั่งของคนบนเกาะ

    ต้องขอบคุณบาเรียที่ทีมของไอริณติดตั้งไว้เมื่อหลายวันก่อน ทำให้เสียงของเหตุชุลมุนที่เกิดขึ้นภายนอกเกาะไม่ได้เล็ดลอดเข้ามายังพิธีจบการศึกษาเลยแม้แต่น้อย

    แต่ด้วยความบังเอิญ แขกบางคนที่อยู่ในงานหันหลังไปเล่นๆกะว่าจะเปลี่ยนท่าทางนั่งสักหน่อย กลับเห็นกลุ่มระเบิดและประกายไฟบนท้องฟ้าติดกันหลายนาทีจนต้องสะกิดให้คนข้างๆหันไปดู

    “เอ่อ.. งานนี้เขาจุดพลุกันด้วยเหรอ?”

    “นั่นดิ แล้วจุดกันตอนนี้เนี่ยนะ?”

    แต่ก็ไม่ได้มีใครเอะใจอะไรและหันกลับมาจดจ่อกับพิธีตรงหน้าต่อ

    .

    .

    .


    ทางฝั่งของไอริณและแอริณ

    โชคดีที่การต่อสู้กินเวลาไปไม่ถึงชั่วโมง เอาจริงๆก็เกือบชั่วโมงนึง แต่ก็ทันเวลาที่พิธียังไม่เลิก ไอริณสวมสูทแขนยาวสีฟ้าอ่อนเพื่ออำพรางแผลที่แขนก่อนจะจัดแจงเผ้าผมของตัวเองให้เรียบร้อยแล้วตรงไปที่งาน

    “แน่ใจนะพี่ว่าจะไม่ไปพักอะ” แอริณถามขณะช่วยจัดแจงเสื้อผ้าของไอริณ

    “ไม่เป็นไรหรอก ทายาชากับกินยาแก้ปวดไว้แล้ว น่าจะอยู่ได้สักสี่ชั่วโมง”

    “โชคดีที่ไม่ได้โดนจุดสำคัญอะไร”

    “นั่นสิ ไม่งั้นไม่มีเรื่องไปอ้างกับทิวาเลยเนี่ย ฮ่าๆ”

    “เอาเถอะ ดูแลแผลดีๆนะพี่ มีอะไรก็ให้โซเล่กับมิเอเล่ช่วย เดี๋ยวน้องจะกลับละ”

    “อืม ขอบคุณที่มาช่วยปิดจ๊อบงานนี้นะ”

    “งานปารตี้มันจะขาดเราสองคนไปได้ยังไงล่ะ!”

    ทั้งสองกำมือแล้วชนกันเป็นอันบอกลาก่อนที่แอริณจะขับเฮลิคอปเตอร์กลับสำนักงานใหญ่ไป ส่วนไอริณก็สาวเท้าไปยังสถาที่จัดงานกลางเกาะทันที

    .

    .

    .


    “กลับมาแล้วจ้ะ” ไอริณทักมิเอเล่แล้วนั่งลง

    “ไปนานจังนะคะ”

    “มีเรื่องนิดหน่อย” ไอริณก้มตัวลงกระซิบที่ข้างหูมิเอเล่ “ส่งเฟืองคืนสำเร็จแล้วนะ แล้วโซเล่ก็น่าจะมาพรุ่งนี้”

    “มาสักทีนะหมอนั่น ปล่อยให้หนูทำงานคนเดียวตั้งนาน”

    “เป็นไงบ้างไอริณ ถ้าไม่ไหวก็ไปพักได้นะ” ราชาแบรนดอนที่เห็นว่าไอริณกลับมาแล้วก็เอ่ยทัก

    “ดีขึ้นค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันกินยาไว้แล้ว”

    “ถ้าเธอว่าอย่างนั้นก็โอเค มีอะไรเรียกใช้ทหารของเราได้เสมอล่ะ”

    “ขอบคุณมากนะคะ”

    พิธีดำเนินมาถึงตอนจบ เหล่านักเรียนลุกจากที่นั่งมาหาแขกของตนรวมถึงเบดี้ที่พอลุกขึ้นปุ๊บ สายตาก็สอดส่องหามิเอเล่แล้วตรงดิ่งมาปั๊บ

    “มิเล่~ ฉันมาแล้ว~” เบดี้ยิ้มหน้าชื่นบานแล้ววิ่งมาหามิเอเล่ทันที

    “ทักแต่เจ้าหญิงไม่ทักพ่อเลยนะ” เซอร์ไคย่าที่ยืนอยู่ข้างๆเอ่ยแซว

    “ก็ทักพ่อไปตอนเช้าแล้วหนิ”

    “เบดิเวอร์พูดถูก” ราชาแบรนดอนเสริม ยิ่งทำให้เบดี้ได้ใจ

    “จริงพ่ะย่ะค่ะ เห็นมั้ยพ่อ!”

    “นายจะไปให้ท้ายมันทำไมล่ะเนี่ย” เซอร์ไคย่าหันไปมองค้อนใส่ราชาแบรนดอน ส่วนเจ้าตัวก็ทำทองไม่รู้ร้อนแล้วแลบลิ้นใส่เป็นการตอบ

    “ไหนๆขอฉันดู diploma นายหน่อย” หญิงสาวคว้ากระบอกพลาสติกที่บรรจุใบจบของเพื่อนสนิทของตนแล้วแกะมันออกมา

    “โห!! 3.88 นายทำได้ไงเนี่ย!?”

    “หึ อย่างฉันซะอย่าง แถมได้ First Class Honor ด้วยนะคร้าบ” เบดี้ชูมือขึ้นฟ้าอย่างภาคภูมิใจ

    “จ้าๆ เก่งมากพ่อองครักษ์คนเก่ง”

    “เก่งแบบนี้แล้วมีรางวัลอะไรให้มั้ยอะ” ชายหนุ่มส่งสายตาหวานไปให้คนตรงหน้า เป็นเชิงต้องการบางสิ่งจากเธอ

    “แล้วอยากได้อะไรล่ะ อย่ามองแบบนั้นดิ เขินเว่ย!” มิเอเล่เสตามองไปทางอื่นเพื่อกลบเกลื่อนความเขิน แต่ปากเจ้ากรรมก็ดันพูดความจริงออกมาซะอย่างนั้น

    “เอาแบบทุกทีที่เธอให้รางวัลฉันอะ” เบดี้พูดจบแล้วย่อตัวลงมา โน้มหัวไปใกล้ๆมิเอเล่แล้วค้างรอท่านั้น


    ฟุบ


    มือเรียวเล็กของหญิงสาววางบนหัวของร่างสูง เรือนผมสีบลอนด์สว่างขยับไปมาตามแรงและทิศทางการขยับของมือ ไออุ่นค่อยๆซึมซับลงมาจนถึงหัวใจ ทำให้ชายหนุ่มผูถูกลูบหัวคลี่ยิ้มบางๆออกมาโดยไม่รู้ตัว

    “ขอบคุณนะมิเล่”

    “อะ อื้ม”

    เบดี้ยืดตัวขึ้นตรงตามเดิมแล้วลูบหัวมิเอเล่กลับเป็นการขอบคุณ ใบหน้าของเธอขึ้นสีระเรื่ออ่อนๆพร้อมกับหัวใจที่เริ่มเต้นเร็วอย่างแปลกประหลาด


    ‘ดูท่าจะได้เวลาแซวคู่นี้แล้วล่ะมั้งเนี่ย’ ผู้เป็นแขกของเบดี้อีกสามชีวิตคิดพร้อมกัน


    เวลา 20:00 น. ณ ท่าเรือของเกาะ

    “แล้วตอนนั้นที่พวกเราวิ่งไล่จับเป็ดกันอะ นาซิสซ่าโดนขี้นกตกใส่หัวด้วย โคตรตลกเลย ฮ่าๆๆๆ” (ลาฟลอร่า ฮันนี่แรลลี่เล่ม 2)

    “จริงอะ ทำไมตอนนั้นฉันไม่ได้อยู่ตรงนั้นด้วยนะ เสียดาย”

    “ใช่มั้ย น่าเสียดายมาก!”


    กริ๊ง!


    “แปบนะนายตี๋” ทิวาล้วงเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหาโทรศัพท์ของตนแล้วรับสาย

    “ฮัลโหลค่ะแม่”

    [ลูกรัก อยู่ไหนจ๊ะ]

    “เพิ่งกินข้าวกับครอบครัวกียุลเสร็จค่ะ ตอนนี้อยู่ที่ท่าเรือ”

    [อ๋อ สนุกมั้ย]

    “สนุกค่ะ บ้านกียุลเค้าเป็นกันเองกับหนูดี ไม่อึดอัดเลย”

    [ดีแล้วล่ะ แม่แค่จะโทรมาเตือนว่าพรุ่งนี้ต้องย้ายเข้าเรือคิงกันแล้วนะ แล้วแม่ก็มีอะไรจะคุยด้วยหลังจากย้ายเสร็จ ฝากบอกเพื่อนๆกันด้วยจ้ะ]

    “โอเคค่ะแม่”

    [โอเคจ้ะ รักลูกนะ]

    “รักเหมือนกันค่า” แล้วทิวาก็วางสายไป

    “แม่เธอโทรมาเหรอ”

    “อื้ม บอกว่าพรุ่งนี้หลังจากย้ายไปอีกเรือเสร็จแม่มีอะไรจะคุยด้วย แล้วให้บอกเพื่อนๆที่เหลือด้วย”

    “งั้นเราขึ้นไปบอกพวกนั้นกันเลยมั้ย เริ่มดึกแล้วด้วย”

    “เอาสิ” หญิงสาวเตรียมที่จะก้าวเท้าไปยังเรือ แต่ก็ถูกมือหนารั้งไว้ที่ข้อมือ “อะไรนายตี๋”

    “แต่ค่อยไปบอกหลังจากที่เราค้างไว้นะ”

    “ห๊ะ? คะ ค้างอะไร!”

    “ก็ไม่รู้สิ มีใครที่ไหนไม่รู้บอกว่าโอเคแต่ต้องอ่อนโยน”

    “...”

    “หรือว่าต่อกันตรงนี้เลยดีนะ?”

    “เดี๊ยว!! นายต้องไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อนต่อไม่ใช่รึไง!?” ทิวาตะโกนเสียงดัง แต่ก็ไม่ได้ทำให้กียุลปล่อยมือออกจากเธอเลย

    “ก็ไว้มีคนตามแล้วค่อยไปก็ได้ แต่ถ้าไม่มีคนตาม..”

    “...”

    “ก็จะต่อกับเธอยาวๆเลยคืนนี้ :)”


    ‘โอ้มายก็อดดด ช่วยลูกช้างจากผู้ชายเจ้าเล่ห์คนนี้ด้วยยยยยยยยยย’


    ___________________________________________________________________________________________


              สวัสดีค่าผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกันอีกแล้ว ต่อไปนี้จะยาวนิดนึงนะคะ อยากให้อ่านกัน เพราะล่าสุดเราไปแอบเปิดนิยายเรื่องใหม่มาค่ะ เย่! ยังเป็นแฟนฟิคลาฟลอร่าเช่นเคย แต่คราวนี้เป็นนิยายแชทค่ะ ในเว็บ ReadAWrite ส่วนคู่ที่เราแต่งคือ ฮอรัสxกียุลxคริส นั่นเองงง แต่ไม่ใช่รักสามเส้านะคะ ไม่ดราม่าเยอะแน่นอน วางใจได้!
           นี่คือหน้านิยายของเราเองค่ะ ชื่อ ผมเป็นของพี่ได้มั้ย >>จิ้มที่นี่<< เพื่อไปหน้านิยายของเราค่ะ



            เรื่องนี้จะเป็นแนวชีวิตเด็กมหาลัยค่ะ สนุกๆปาร์ตี้คลายเครียด พอให้ได้สนุก+ฟินๆกันบ้าง สามารถเข้าไปอ่าน กดหัวใจ กดเพิ่มเข้าชั้นหรือคอมเม้นท์กันได้นะคะ เพราะ ReadAWrite ลงเรทได้ เลยคิดว่ามีเรทหน่อยจะดีมั้ยน้า ถ้าผู้อ่านอยากอ่านทางไรท์สามารถสนองนีดให้ได้นะคะ ><
            เป็นครั้งแรกของไรท์ที่แต่งนิยายแชท เลยอาจจะมีจุดบกพร่องหรือไม่สนุกบ้าง ยังไงก็คอมเม้นท์ติชมได้นะคะ และอย่าลืม Laflora Secret ของไรท์ด้วยน้า จะยังอัพอยู่เรื่อยๆควบคู่กันไปค่ะ
            สุดท้ายนี้ขอฝากนิยายทั้งสองเรื่องไว้ในอ้อมอกด้วยนะคะ ดีไม่ดีถ้าถึงจุดๆนึงแล้ว ไรท์อาจจะนำนิยายแชทมารีไรท์เป็นนิยายแบบบรรยายให้ได้อ่านกันเพลินๆในอนาคตด้วยนะคะ ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านและทุกกำลังใจ เจอกันใหม่ตอนหน้าค่า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×