ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Laflora Secret ไขปมความรักกับสายลับ 5 สาว

    ลำดับตอนที่ #34 : ตอนที่ 23 : เมื่อเธอคนนั้นเข้าใจผิด

    • อัปเดตล่าสุด 25 ส.ค. 65


    TB

    23

    เมื่อเธอคนนั้นเข้าใจผิด


    “นายว่าไงนะ!?” กียุลทวนถามเพื่อนชาวอียิปต์ของตนอีกรอบอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมามันยิ่งตอกย้ำความจริงที่เกิดขึ้น

    “เอ่อ เด็กคนนั้นบอกที่อยู่เฟืองให้แก๊งฟักทองแล้วขอรับ”

    “บ้าชะมัด!!” คราวนี้เป็นไอริณที่สบถออกมาอย่างลืมตัว คิ้วที่ขมวดเข้าหากัน มือสองข้างที่กำหมัดแน่นแสดงถึงความไม่พอใจ ตนว่าตนก็ตรวจสอบละเอียดแล้ว แต่สุดท้ายก็มีข้อผิดพลาดหลุดมาจนได้ “ทุกคนอยู่ที่นี่ ห้ามไปไหนทั้งนั้น! เดี๋ยวครูจัดการเรื่องนี้เอง เสร็จเรื่องแล้วครูจะกลับมา เรื่องอเล็กเซด้วย” พูดจบไอริณก็รีบหยิบปืนที่วางไว้ในห้องนั่งเล่นแล้ววิ่งออกจากห้องทันที ปล่อยให้สิบชีวิตที่เหลืองงกับเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้นเร็วหยั่งจรวด

    “อ่า.. ปกติแม่ลื้อน่ากลัวแบบนั้นมั้ยน่อ =_=;”

    “แทบไม่เคยเห็นเลยนะ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่เห็นแม่โกรธขนาดนี้ก็ได้ =__=;” เหมยฮัวและทิวาเหงื่อตกให้กับความน่ากลัวของครูตัวเอง

    “คุณครูไอริณออกไปแบบนั้นแล้ว แล้วผมจะบอกเรื่องสำคัญยังไงล่ะขอรับ” ฮอรัสทักท้วงขึ้น

    “เรื่องสำคัญเหรอน่อ?”

    “เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เด็กคนนั้นบอกข้อมูลน่ะขอรับ”

    “ก็จริงนะ ไม่มีใครเขาบอกข้อมูลลับสุ่มสี่สุ่มห้าหรอก ยกเว้นแต่จะเป็นพวกเดียวกัน” กียุลใช้มือจับปลายคางพลางใช้ความคิด

    “ดูจากที่เด็กคนนั้นเล่ามากับเครื่องจับเท็จที่กระผมแอบใช้แล้ว เขาคงไม่ใช่ฝั่งเดียวกับพวกนั้นหรอกขอรับ” ฮอรัสหยิบเครื่องจับเท็จขนาดพกพาขึ้นมา แล้วกดเล่นคลิปเสียงที่ตัวเองถือวิสาสะแอบอัดตอนคุยกับรุ่นน้องคนนั้น

    [ผมไปกินข้าวกับพี่ผมเมื่อสามวันก่อน ไม่ใช่วันที่ผมเจอกับรุ่นพี่นะครับ กินที่ชั้นหอพักปี 3 นี่แหละ]

    [กินที่ไหนเหรอขอรับ]

    [กินที่ร้านอาหารญี่ปุ่น xxx ครับ]

    [โอเคขอรับ ช่วยบอกรายละเอียดต่อหน่อยขอรับ]

    [ได้ครับ พวกผมก็กินข้าวตามปกตินี่แหละ แล้วผมก็เล่าเรื่องคืนนั้นที่ผมออกมาจากห้องตอนตีสอง แล้วเจอกลุ่มเจ้าหน้าที่ขนอะไรสักอย่าง ผมพูดแค่นั้นจริงๆนะครับ ไม่ได้ลงดีเทลอะไรอีกเลย]

    [แล้วพี่คุณได้ถามอะไรมั้ยขอรับ]

    [ถามแค่ว่าออกมาทำไมตอนตีสอง แล้วก็บอกให้เลิกนอนดึกน่ะครับ แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้กันอีก แต่ว่ามีเรื่องแปลกๆหลังจากนั้นครับ หลังจากที่พวกผมกินเสร็จแล้วกำลังจะออกจากร้าน มีผู้หญิงคนนึงเดินมาสะกิดผม พอผมหันไปหาเขา ภาพก็ตัดไปเลย]

    [ภาพตัดเลยเหรอขอรับ คุณพอจำได้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น]

    [เอ่อ… จำได้แค่ลางๆว่าผู้หญิงคนนั้นเขาพูดอะไรสักอย่างว่า ‘...อยู่ไหน’ น่ะครับ หลังจากนั้นก็จำไม่ได้แล้ว ได้สติอีกทีก็โดนพี่เขย่าตัวตอนเดินกลับหอว่าทำไมเดินเหม่อลอยมาก]

    [อืม… งั้นพอจำรูปลักษณ์ของผู้หญิงคนนั้นได้มั้ยขอรับ]

    [พอจำได้ครับ แต่ไม่คุ้นหน้าเลย ตัวเล็กๆผมสีชมพูครับ]

    [ขอบคุณมากขอรับ]

    และเสียงของฮอรัสและรุ่นน้องปี 1 ก็เงียบไป

    “ผู้หญิงคนนั้น หรือว่าจะไลลาอีกแล้ว?” ดันเต้พูดขึ้น

    “ค่อนข้างมั่นใจว่าใช่ขอรับ และยังมีตอนที่เด็กคนนั้นภาพตัดอีก เลยคิดว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรบอกให้ทุกคนทราบ”

    “งั้นฝากนายติดต่อครูไอริณทีนะฮอรัส นี่น่าจะเป็นสิ่งเดียวที่เราทำได้ตอนนี้” 

    “ได้ขอรับ” ฮอรัสตอบรับคำขอของกียุลแล้วเดินออกไปคุยกับไอริณข้างนอกห้อง

    หลังจากที่เสียงปิดประตูของฮอรัสดังขึ้น ทั้งห้องก็เข้าสู่ความเงียบงัน ใบหน้าของทุกคนแสดงให้เห็นถึงความเครียดที่ก่อตัวขึ้น คิ้วขมวด สายตาก้มลงต่ำ บางคนก็มองออกไปยังข้างนอกเพื่อหาจุดดึงสายตาเผื่อจะบรรเทาความเครียดนี้ได้บ้าง แต่คนที่ดูจะเครียดสุดๆคือมิเอเล่ เพราะเจ้าตัวรู้สึกเหมือนตนเป็นสาเหตุของปัญหาครั้งนี้

    หญิงสาวตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปหาเพื่อนสาวชาวจีนของตนที่นั่งอยู่ตรงโซฟาใกล้กับประตู เมื่อเหมยฮัวเห็นว่าเงาของใครกำลังเดินดุ่มๆมาทางตัวเองก็เงยหน้าและพบว่ามิเอเล่ยืนอยู่หน้าตนด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิดแล้วรีบก้มหัวขอโทษ

    “ฉันขอโทษนะเหมยฮัว! เพราะฉันเอง ทำให้เรื่องเดือดร้อนมาถึงขั้นนี้”

    “...”

    “...”

    “เงยหน้าขึ้นมาเถอะน่อ” เหมยฮัวลุกขึ้นและแตะไหล่มิเอเล่ให้เธอดันตัวขึ้น “อั๊วรับคำขอโทษน่อ ที่ผิดมาแล้วก็ให้มันผิดไป ตอนนี้อั๊วว่าเรามาช่วยกันหาทางรับมือกับปัญหานี้ดีกว่า”

    “เหมยฮัว...” 

    “อย่าคิดมากไปเลยน่อ แถมถ้าเราโกรธกันก็จะทำให้เสียบรรยากาศเปล่าๆ แต่ถ้าลื้อยังรู้สึกว่าตัวเองผิดอยู่คนเดียว ลื้ออย่าลืมนะว่าอาฮอรัสก็ผิดเหมือนกัน ฮ่าๆ” เหมยฮัวพูดติดตลกเพื่อที่มิเอเล่จะได้ไม่โทษตัวเองแล้วฉีกยิ้มให้เพื่อนสาวตรงหน้า

    “ขอบคุณมากนะเหมยฮัว”

    “แหมยัยหมวย เดี๋ยวนี้อารมณ์ไม่ร้อนแล้วนะ ฉํนนึกว่าเธอจะตวาดมิเอเล่ไปแล้วซะอีก” นาซิสซ่าเอ่ยแซวเพื่อนตัวเองอย่างอดไม่ได้ เพราะตั้งแต่รู้จักกันมา เหมยฮัวคือคนที่เลือดร้อนที่สุดในกลุ่ม มีอะไรก็ทำท่าจะไฝว้อย่างเดียว

    “อานาซิสซ่า อั๊วก็โตขึ้นนะน่อ มีการควบคุมอารมณ์บ้าง แต่ถ้าหัวร้อนจัดๆก็ใช้กังฟูอัดน่วมเหมือนกันน่อ” เหมยฮัวหันมาตอบนาซิสซ่าแล้วโพสท่ากังฟูโชว์ไปหนึ่งท่า ทำให้ทั้งห้องที่ตกอยู่ในความเครียดหัวเราะออกมา

    “นี่มันเหมยฮัวตอนคลาสพริ้นเซสชัดๆ ฮ่าๆ” ทิวาหลุดขำออกมาเมื่อท่าทางห้าวๆเมื่อกี้มันดันไปตรงกับบุคลิกของเหมยฮัวเมื่อครั้นยังอยู่คลาสพริ้นเซส 

    “จริงด้วย ฮ่าๆ” โรซารี่เสริม

    “ว่าแต่ตอนนี้ก็เย็นมากแล้วเจ้าค่ะ เรากลับกันก่อนดีมั้ยเจ้าคะ จะได้ให้คุณอเล็กเซพักผ่อนด้วย” ยูริก้มมองเวลาที่โทรศัพท์ของตนก่อนจะเอ่ยออกมา

    “Good idea ยูริจัง ไอว่าตรงนี้ปล่อยให้ Airin Teacher จัดการก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน” คริสโตเฟอร์เห็นด้วยแล้วรีบลากยูริออกไปจากห้องเพราะเห็นเจ้าตัวบอกว่าวันนี้จะต้องรีบไปดูกัปตัน C.L.O.C.K. ตอนใหม่ที่เพิ่งออกให้จบให้ได้

    “เอางั้นก็ได้ โรซารี่ฝากเธอเฝ้าอเล็กเซด้วยนะยะ” นาซิสซ่าหันมาพูดกับเพื่อนสาวชาวอังกฤษ

    “ไม่บอกก็ทำอยู่แล้ว” โรซารี่วิ้งค์ตอบเพื่อนตัวเองทีนึง

    ทุกคนทยอยออกจากห้องจนเหลือแค่อเล็กเซและโรซารี่สองคน หญิงสาวนั่งไขว่ห้าง ยกสองมือมากอดอกแล้วมองแผลของชายหนุ่มรอบๆแล้วถอนหายใจออกมา

    “ทำท่าไหนถึงได้สะบักสะบอมขนาดนี้ละคะคุณชาย”

    “ผมทำกับคุณโรซารี่คนเดียวนะฮะ”

    “นายนี่มัน! -////- เวลานี้ยังจะเล่นอยู่อีกเหรอ” โรซารี่เขินกับมุกแปลกๆของชายหนุ่มก่อนจะดุเขาเบาๆ

    “ก็จริงนี่ฮะ เวลานั้นน่ะคุณโรซารี่น่ารักมากๆเลย กอดผมแน่นแถมยังเรียกชื่อผมตลอด-”

    “เออๆๆๆๆๆ พอเลย! อย่าพูดถึงสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นสิ ถ้าคนอื่นได้ยินเดี๋ยวจะเข้าใจผิดหมดนะยะ -////-”

    “แต่เดี๋ยวในอนาคตก็จะเกิดนี่ครับ ไม่เห็นเป็นไรเลย ^^” อเล็กเซยิ้มหวานปนเจ้าเล่ห์ให้แฟนสสาวของตน ยิ่งทำให้คนถูกส่งยิ้มเขินกว่าเดิมเป็นสิบเท่า

    “นอกเรื่องแล้วนะนายน่ะ ตอบคำถามฉันด้วยสิ”

    “ลืมไปเลยแฮะ ผมเดินเข้าสวนไปดีๆนะครับ แค่จะไปหาพืชทำโพชั่นเฉยๆ แต่ทำไม่ถึงโดนเล่นงานได้ล่ะ ผมไม่ได้รู้จักกับสามคนนั้นที่มาทำร้ายผมซะหน่อย” อเล็กเซกอดอกพลางอมลมไว้ที่แก้มจนแก้มป่อง ยิ่งเสริมความน่ารักให้กับตัวเขาเฉยเลย

    “เลิกทำตัวน่ารักสักทีได้มั้ย”


    ‘แต่ฉันว่าถ้าคนบงการคือไลลา ก็เป็นไปได้ที่นายจะโดนทำร้ายเพราะไลลารู้จักนาย’


    “เอ่อ.. ผมว่าตอนนี้ความคิดกับคำพูดคุณโรซารี่สลับกันอยู่นะครับ ^^;”

    “เอ้า ตายละ ขอโทษๆๆ ให้ตายสิ.. (-////-;  )”

    “คุณคงจะบอกว่า ถ้าคุณไลลาอยู่เบื้องหลัง เหตุผลมันจะสมเหตุสมผลขึ้นใช่มั้ยล่ะครับ”

    “อื้ม ยังไงเราก็ต้องรอฟังข้อมูลจากครูไอริณอีกรอบล่ะนะ ฉันว่าเรากินข้าวกันดีกว่า ได้เวลานายกินยาแล้วนี่”

    “ครับ! ป้อนผมด้วยก็ดีนะ ตอนนี้ผมเจ็บมือมา~กเลยล่ะ” อเล็กเซส่งสายตาออดอ้อนให้โรซารี่จนหญิงสาวแทบจะอดใจไม่ไหว 

    “จะน่ารักเกินไปแล้วนะ!”


    ทางด้านไอริณ

    หลังจากรับรู้เรื่องที่ฮอรัสบอกเมื่อเย็น ไอริณก็รีบวิ่งไปที่ที่เกิดเหตุทันทีโดยไม่ได้รอฟังรายละเอียดที่เหลือจากนักเรียนของตน สมองของเธอตอนนี้มีแต่ความโกรธที่บังอาจมาทำร้ายลูกศิษย์ของเธอได้ นี่ขนาดยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับการที่อเล็กเซเป็นสายสืบให้องค์กรโลกเลย เขายังบาดเจ็บได้ขนาดนี้

    แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ไอริณแน่ใจและมั่นใจมากๆว่า คนที่อยู่เบื้องหลังต้องรู้จักกับเหล่าราชาทั้ง 5 เป็นอย่างดีแน่ๆ ไม่งั้นคงไม่สั่งให้ลูกน้องตัวเองมาทำร้ายคนอื่นสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้หรอก

    มีอีกเรื่องที่เธอสงสัยก็คือบุคคลที่ชื่อ ‘ไลลา’ ถึงแม้ว่าไอริณจะไม่เคยได้ทำคดีที่เกี่ยวกับคนๆนี้ แต่จากที่ได้ฟังจากกียุลที่เล่าเหตุการณ์ที่ทุกคนเจอและอ่านแฟ้มคดีย้อนหลังก็ค่อนข้างมั่นใจว่าไลลาจะเป็นตัวแปรสำคัญของเรื่องราวครั้งนี้และเรื่องราวทั้งหมด รวมถึงที่เธอมาปรากฏตัวบนเรือจนกียุลไปเจอก็ไม่น่าจะใช่เรื่องบังเอิญหรือคนหน้าเหมือนเหมือนกัน

    ไอริณยืนรอกำลังเสริมอยู่ที่อีกฝั่งของชั้นดาดฟ้าที่เป็นนชั้นของสวนพฤกษศาสตร์ ในขณะที่ใจเธอกำลังลนลานถึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไฟสีเขียวบนเข็มกลัดก็กระพริบขึ้น เมื่อเธอสัมผัสที่เข็มกลัดก็พบว่าเสียงปลายสายที่ติดต่อมาก็คือฮอรัส

    [คุณครูไอริณขอรับ]

    “ว่าไงจ๊ะฮอรัส”

    [กระผมมีเรื่องจะต้องบอกคุณครูขอรับ]

    “เรื่อง?”

    [เด็กปี 1 คนนั้นเล่าให้ฟังว่า ขณะที่เขากำลังเดินออกจากร้าน มีผู้หญิงคนนึง ผมสีชมพูตัวเล็กๆเดินมาหาเขาขอรับ เธอคนนั้นสะกิดรุ่นน้องคนนั้น แล้วรุ่นน้องก็ภาพตัดไปเลย รู้สึกตัวอีกทีก็คือพี่ชายของเขากำลังเขย่าตัวเรียกสติขอรับ]

    “อืม… เหตุการณ์แปลกใช้ได้เลย มีอย่างอื่นอีกมั้ยจ๊ะ”

    [ขอรับ ก่อนที่เขาจะภาพตัด ผู้หญิงคนนั้นเธอพูดอะไรสักอย่างที่มีคำว่าอยู่ไหนด้วย กระผมรู้สึกว่าเธอน่าจะทำอะไรสักอย่างกับเด็กคนนั้นขอรับ รบกวนคุณครูไอริณช่วยสืบเรื่องนี้ให้หน่อยได้มั้ยขอรับ]

    “ได้สิ เพราะครูก็รู้สึกว่าน่าจะมีวิธีการแปลกๆเกิดขึ้นให้เหตุการณ์นั้นแน่นอน เดี๋ยวถ้ามีอะไรคืบหน้าครูจะรีบบอกพวกเธอเลยนะจ๊ะ”

    [ได้ขอรับ ว่าแต่ตอนนี้คุณครูอยู่ที่ไหนเหรอขอรับ]

    “อ๋อ ตอนนี้..” ไอริณทิ้งช่วงไปสักครู่ สองตามองไปที่กระบอกปืนที่ถูกเหน็บไว้ข้างเอวแล้วยิ้มบางๆ “มาจัดการคนที่ทำร้ายอเล็กเซน่ะ”

    [อย่างนี้นี่เอง ระวังตัวด้วยนะขอรับ พวกผมรออยู่]

    “ไม่ต้องรอหรอกน่า เดี๋ยวอีกแปบก็เสร็จแล้ว พวกเธอพักเถอะจ้ะ ยังต้องเตรียมงานอื่นอีกไม่ใช่เหรอ”

    [ขอรับ งั้นกระผมไม่รบกวนแล้ว คุณทิวารออยู่ที่ห้องนะขอรับ ถ้าเสร็จแล้วก็ไปหาเธอหน่อยเพราะตอนนี้เธอดูกังวลมากเลย]

    “ได้เลยจ้ะ ขอบคุณนะจ๊ะฮอรัส”

    [ขอรับ]

    ไอริณบอกขอบคุณฮอรัสก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรหาใครบางคน

    [ฮัลโหลพี่?]

    “แอริณ ฉันมีอะไรจะให้ช่วย” หญิงสาวโทรหา ‘แอริณ’ ผู้เป็นน้องสาวของตน เป็นน้าของทิวาและเป็นอีกหนึ่งเจ้าหน้าที่ที่ดูแลคดีนี้กับไอริณ

    [อะไรเหรอ]

    “ช่วยดูให้หน่อยว่าเหตุการณ์นี้มันคืออะไร”

    ไอริณเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ฮอรัสเพิ่งเล่าให้ฟังเมื่อกี้ เมื่อแอริณได้ยินก็ไม่ได้มีท่าทีตกใจอะไร หลังจากฟังรายละเอียดถี่ถ้วนแล้วก็ขอตัวไปหาข้อมูลต่อ เพราะสิ่งที่ไอริณไหว้วานค่อนข้างจะยากในการหาคำตอบพอสมควรแต่ก็ไม่น่ายากเกินความสามารถ

    ต่อมาหลังจากไอริณวางสายได้ไม่นาน กองกำลังเสริมก็เดินทางมาถึงที่เรือโนอาห์พอดี เฮลิคอปเตอร์ลำเล็กสองลำค่อยๆจอดอยู่บนลานจอดฮ.ของเรือเพื่อไม่ให้เรือโคลงเคลงจนนักเีรยนเกิดความสงสัย

    “มาแล้วครับหัวหน้า!” กองกำลังเสริมคนหนึ่งพูดขึ้น

    “ดีมาก เดี๋ยวเราจะเข้าไปในนั้น เตรียมอาวุธเก็บเสียงให้พร้อมล่ะ เผื่ออาจจะเกิดการปะทะ” ไอริณชี้ไปทางสวนพฤกษศาสตร์

    “ครับ!!”

    “งั้นไปกันเลย”


    ทางด้านแก๊งฟักทอง

    ตั้งแต่ที่อเล็กเซหนีไปได้และได้ขังคนที่ทำร้ายเขาได้ ไลลาก็รีบวิ่งขึ้นมาจากทางลับแล้วไปดูอาการของลูกทีมของตน เมื่อเธอเห็นสภาพที่นอนแน่นิ่งแต่ลืมตาแป๋วก็สบถออกมาด้วยความโมโห

    “ไร้น้ำยาชิ-หายเลยเนี่ย!! ทำไมปล่อยให้มันหนีไปได้!”

    “พวกผมโดนเจ้านั่นสาดน้ำอะไรสักอย่างใส่ครับ.. แล้วหลังจากนั้นไม่นานก็รู้สึกแสบร้อนไปหมดแล้วก็ขยับไม่ได้อยู่อย่างนี้” ลูกทีมที่ชื่อแบรตพูด

    “เฮ้อ ช่างเถอะ แล้วสเตลล่าล่ะ”

    “ยัยนั่น.. ตั้งแต่เข้าไปโจมตีชายคนนั้นก็ยังไม่เห็นออกมาเลยครับ”

    “ให้ตายสิ” ไลลาหน้านิ่วอย่างไม่พอใจแล้วเดินไปหาลูกทีมหญิงของตน เมื่อประตูเปิดออกก็พบกับสภาพที่นอนกรนบนพื้นแต่มีหนามกระบองเพชรทิ่มทั่วหน้า ไลลาได้แต่กุมหน้าผากแล้วส่ายหัวไปมาเพราะคิดว่าลูกทีมคนนี้ก็คงจะโดนอเล็กเซเล่นงานเหมือนกัน

    ไลลาจัดการลากสเตลล่าให้มานอนอยู่ข้างๆลูกทีมที่เหลือก่อนจะค่อยๆเอาหนามออกให้แล้วทำความสะอาดหน้าให้อย่างเบามือ หลังจากจัดการกับสเตลล่าที่นอนหลับใหลไม่รู้เรื่องเสร็จแล้ว ห็หันมาช่วยเช็ดหน้าให้แบรตกับแจ็คเกอรีนต่อ

    “ลูกพี่ครับ.. ไม่ต้องทำอย่างนั้นกับพวกผมก็ได้ครับ พวกผมทำแผนของลูกพี่พัง ลูกพี่ควรทิ้งเราไว้แล้วหนีไปเถอะครับ..”

    “ฉันทำอย่างนี้ไม่ได้แปลว่าไม่โกรธหรอกนะ แค่เห็นสภาพแล้วรับไม่ได้น่ะ น่าเวทนาเหลือเกินพวกนาย” ไลลาพูดแบบปัดๆแล้วจัดการเช็ดหน้าให้ลูกทีมต่อ

    ถึงแม้พวกเขาจะมีความสัมพันธ์แบบหัวหน้ากับลูกน้องก็ตาม แต่ไลลาก็อยู่กับพวกเขามานาน ช่วยเหลือพวกเขาก็เยอะ พวกเขาก็ช่วยเหลือกลับ ไลลาจึงปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนเพื่อนคนนึง เพราะเชื่อว่าคนพวกนี้จะไม่หักหลังและทำประโยชน์ให้เธอในอนาคตได้แน่

    “นานๆทีจะเห็นลูกพี่อ่อนโยนนะครับเนี่ย” แบรตที่นอนมองอยู่นิ่งๆแซว

    “เงียบไปเลย หรืออยากให้ฉันขัดหน้านายกัน?”


    ตึก ตึก


    “ลูกพี่ ผมว่าผมได้ยินเสียงคนเดินมา” แจ็คเกอรีนพูด

    “ไหนอะ ไม่เห็นได้-”


    ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด


    “ลูกพี่! นี่มันเสียงใส่รหัสประตูนี่ รีบหนีไปเร็ว!!”

    “ทำไงดีวะ เอาไงดี” ไลลาลนลานอยู่ครู่นึงแล้วตัดสินใจพยายามลากลูกทีมของตนไปที่ทางลับ แต่ตัวเธอคนเดียวคงลากไปได้ลำบากเพราะสองในสามของลูกทีมก็ดันเป็นผู้ชายร่างกำยำ แถมขยับตัวไม่ได้อีก 

    “ปล่อยพวกผมไว้เถอะครับ! แล้วหนีไป”

    “จะทำงั้นได้ไง!? ถ้าเกิดพวกองค์กรโลกมาล่ะ พวกนายจะถูกจับนะ!”

    “ให้พวกผมโดนจับดีกว่าลูกพี่โดนจับไปด้วยจะดีกว่านะ! ลูกพี่จะได้มาช่วยผมด้วยไง!”


    [The door has opened] 


    เสียงประตูประกาศดังทั่วสวนเป็นสัญญาณว่าประตูได้ถูกเปิดออกแล้ว หนึ่งในลูกทีมจึงตัดสินใจฮึบแรงที่มีใช้เท้าเตะเบาๆไปที่ไลลาแล้วทำหน้าเป็นเชิงว่าให้หนีไป

    ไลลาลังเลอยู่ไม่นานก็รีบวิ่งไปซ่อนที่ทางลับ ก่อนที่จะวิ่งเธอหันมาพูดกับลูกทีมของตัวเองเบาๆ

    “แล้วฉันจะไปช่วยพวกนายออกมานะ”

    “แล้วจะรอครับ...”

    สิ้นเสียงประกาศของประตูได้ไม่นาน คนขององค์กรโลกพร้อมกับไอริณเดินตรงไปทางที่ลูกทีมทั้งสามของไลลานอนแน่นิ่งทันที พอดีกับที่ไลลาหนีไปซ่อนตัว คนขององค์กรโลกจึงไม่ได้สังเกตการมีตัวตนของไลลา

    ไอริณเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเขาทั้งสามก่อนจะใช้สายตาไล่ตรวจสอบร่างกายของแต่ละคน หัวใจของหญิงสาวแอบกระตุกเล็กน้อยเมื่อเห็นสภาพบวกกับในใจที่รู้ถึงวิธีการที่อเล็กเซจัดการกับคนพวกนี้ เธอคิดในใจว่าอเล็กเซก็แอบใช้วิธีที่โหดร้ายเหมือนกัน

    “ใส่กุญแจมือแล้วพาไปขึ้นฮ.ซะ”

    “ครับ!” กองกำลังเสริมตอบรับคำสั่งของไอริณแล้วเดินไปใส่กุญแจมือ

    “อ้อใช่ พวกนายน่ะ..” ไอริณเหมือนจะนึกอะไรออก เธอกอดอกแล้วค่อยๆเดินมาหาลูกทีมผู้ชายสองคนด้วยท่าทีที่เย็นชา “ลักลอบขึ้นเรือโดยผิดกฏแล้วเนี่ย ยังจะมาทำร้ายนักเรียนบนเรืออีกเหรอ!!” หญิงสาวตะคอกใส่หน้าทั้งสองคนอย่างเหลืออด ความจริงเธออยากจะด่าออกไปด้วยคำที่ทำร้ายจิตใจมากๆและอยากจะพูดใส่หน้าด้วยว่า ‘มาทำร้ายลูกศิษย์ของฉันทำไม!?’ แต่เธอก็พูดไม่ได้เพราะนั่นจะเป็นการเปิดเผยตัวตนของตัวเธอและอเล็กเซเข้าไปใหญ่

    “...”

    “จงใจทำร้ายนักเรียนผู้บริสุทธิ์แบบนี้น่าจะได้ข้อหาพยายามฆ่านะ จำคุกกี่ปีดีล่ะ?”

    “พวกผมไม่ได้จงใจนะครับ! พวกผมแค่ทำตามคำสั่ง”

    “คำสั่งเหรอ” ไอริณเลิกคิ้วแกล้งทำเป็นสงสัยในสิ่งที่คนร้ายพูด ทั้งๆที่เธอรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่ามีคนบงการอยู่เบื้องหลัง “ใครสั่งมา?”

    “เอ่อ...”

    “หืม? :)”

    “...” ทั้งสองก้มหน้าไม่ยอมตอบคำถาม ซึ่งไอริณก็รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นอย่างนี้จึงไม่ได้พูดอะไรแล้วหันหลังจะเดินออกจากสวน

    หนึ่งในลูกทีมงัดพลังเฮือกสุดท้ายแอบหยิบปืนพกเล็กๆที่ซ่อนอยู่ตรงเอวแล้วยิงไปที่ไอริณ แต่เธอสัมผัสได้ถึงวิถีกระสุนที่กำลังพุ่งไปทางหัวของเธอพร้อมกับเสียงยิงปืนที่ดังสนั่น ไอริณจึงเอียงหัวหลบ แต่ก็หลบไม่พ้น กระสุนได้เฉี่ยวโดนแก้มข้างขวาของเธอไปนิดหน่อย ทำให้มีเลือดซึมออกมาจากรอยแผลเป็นเส้นเล็กสองสามเส้น

    “ยิงตรงไหนก็ได้ แต่อย่ามายิง-โดน-หน้า-ฉัน!!!” ไอริณเดือดพล่านทันทีที่ใบหน้าของเธอถูกทำให้มีบาดแผล เธอรีบเดินไปหาคนที่ยิงเธอแล้วเตะปืนออกจากมืออย่างแรง ต่อมาไอริณใช้สันของปืนยาวที่หยิบมาจากกองกำลังเสริมที่ยืนข้างๆกระแทกไปที่ข้อมือของชายคนนั้นอย่างจังจนเขาร้องโอดครวญออกมา

    “อ๊ากกกก!!”

    “เล่นทีเผลอนี่ไม่ดีเลยนะ ถ้านายทำอีกครั้ง จะไม่ใช่แค่ข้อมือที่หักแน่ จำไว้”

    ไอริณกระแทกสันปืนลงบนข้อมือของชายคนนั้นซ้ำที่เดิมอีกครั้งจนเขาน้ำตาเล็ดออกมาก่อนที่เธอจะคืนปืนให้กองกำลังเสริมแล้วเดินออกไปจากสวนด้วยความหงุดหงิด ลูกทีมทั้งสามถูกนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปที่องค์กรโลกทันที ส่วนไอริณที่จัดการกับเรื่องราวเรียบร้อยก็รีบกลับห้องไปทำแผลและไปเจอเด็กๆ

    ในขณะที่ลูกน้องของไลลากำลังถูกนำตัวออกจากสวน ไลลาที่ซ่อนตัวอยู่ในทางลับเงียบๆก็ได้แค่นั่งกอดเข่าฟังบทสนทนาที่แทบจะไม่ได้ยิน แต่ถึงอย่างนั้นมีสองสิ่งที่เธอได้ยินชัดเจน ก็คือเสียงยิงปืนหนึ่งนัดและเสียงร้องของลูกทีมของเธอ ทำให้ไลลาเข้าใจไปว่าลูกน้องของเธอโดนยิงเพื่อที่จะให้เปิดปากบอกความจริงไป ใจของเธอตกวูบลงไปที่ตาตุ่ม สองมือยิ่งกอดเข่าตัวเองแน่นก่อนจะกัดฟันกรอดเพื่อไม่ให้ตัวเองระเบิดความโกรธออกมา 


    ‘บังอาจมาทำร้ายลูกน้องฉันเหรอไอ้องค์กรโลกงี่เง่า!! พวกแกจะต้องโดนอย่างสาสม!!’


    แต่ในความจริงแล้ว ตอนนี้ไลลากำลังเข้าใจผิดอย่างมหันต์เลยล่ะ


    ____________________________________________________________________________________


    สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน ขอโทษที่มาอัพช้าด้วยนะคะ เนื่องจากไรท์ไม่สบายนิดหน่อยทำให้โฟกัสกับการเขียนไม่ค่อยได้เลยค่ะ T___T

    แต่ยังไงในตอนนี้เราก็มีรูปวาดมาฝากกันนะคะ! คราวนี้เป็นคู่ของคริสโตเฟอร์และยูริค่ะ พอคุ้นๆบ้างป่าวว่ามาจากฉากไหนในตอนที่แล้ว


    ไม่รู้ว่าจะถูกใจผู้อ่านรึเปล่านะคะ ถ้าชอบเราก็ดีใจมากๆเลยค่ะ ^^

    สุดท้ายนี้ ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านอีกเช่นเคยนะคะ ไว้พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×