ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Laflora Secret ไขปมความรักกับสายลับ 5 สาว

    ลำดับตอนที่ #27 : ตอนที่ 17 : อดีตที่ฝังใจ

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.พ. 64


    TB


    17

    อดีตที่ฝังใจ


    เช้าวันต่อมา

    วันนี้เด็กนักเรียนคลาสดุ๊กปี 3 ก็ออกไปทำกิจกรรมถ่ายรูปตามชั้นต่างๆกันต่อ โดยผลัดกันหมุนเวียนไปตามชั้นต่างๆจนครบ วันนี้ก็คงเป็นเช้าวันธรรมดาๆอีกเช่นเคย

    "ฮัดเช่ย!!!"

    "ทิชชู่มั้ยตาตี๋ =_=;"

    "ขอบใจ" 


    ปืดดด!!!


    "อะโห มีมารยาทสุดๆ สั่งน้ำมูกไม่อายชาวบ้านชาวเมือง" ทิวาทำท่าขยะแขยงใส่กียุล

    แต่ว่ามันคงจะไม่เป็นวันที่ธรรมดาแล้วล่ะ เพราะว่านอกจากทิวาจะต้องมานั่งดูแลตัวเองแล้ว ยังต้องมาดูแลประธานนักเรียนที่ดันมาไม่สบายเอาอีก วันนี้น่าจะวุ่นอีกแน่ๆ

    "แล้ววันนี้แม่ฉันหายไปไหนล่ะเนี่ย?" ทิวาที่นั่งเล่นเกมอยู่บนเตียงถามคนที่นั่งสั่งน้ำมูกอยู่ที่เก้าอี้ข้างๆ

    "แม่เธอเหรอ? ซืดดด วันนี้แม่เธอไปคุมพวกนักเรียนแทน ซืดดด ฉันน่ะ" กียุลพูดไปสูดน้ำมูกไป

    "อ่า... นายพักเถอะไม่ต้องพูดแล้ว" 

    "ไม่เอาอ่ะ ฉันสบายดีไม่ได้เป็นอะไร" กียุลยังดื้อรั้นนั่งนิ่งไม่ยอมไปไหน

    "นั่งสั่งน้ำมูกปืดๆเป็นว่าเล่นเนี่ยนะสบายดี? นายหัดดูแลตัวเองบ้างเถอะ" ทิวารู้สึกเซ็งนิดๆกับการเอาแต่ใจของกียุล

    "ฉันบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ งานก็ยังทำได้ ที่สั่งน้ำมูกก็แค่มันมีเยอะเฉยๆ" 

    "ถ้านายยอมนอนพักดีๆนายจะไม่เป็นอะไรมาก นายจะดื้อไปถึงไหน"

    "ไม่ ฉันสบายดี จะไปทำงานแล้ว" ชายหนุ่มลุกขึ้นพรวดหมายจะไปที่โต๊ะทำงาน แต่ก็ต้องหยุดเพราะมือเล็กที่ฉุดแขนของเขาไว้

    "ดูสิ ตัวร้อนขนาดนี้ยังจะดื้อไปทำงานอีก ขอร้องล่ะอย่างฝืนร่างกายตัวเองได้มั้ย!?" ทิวาเริ่มขึ้นเสียงใส่กียุลโดยไม่ได้ตั้งใจ

    "ตัวร้อนแล้วไง ก็เธอไม่เปิดแอร์--"

    "เปิดย่ะ!"

    "เออนั่นแหละ จะให้ฉันนั่งนิ่งๆได้ไง เธอไม่เห็นเหรองานกองเท่าภูเขาไฟฟูจิอยู่อย่างนั้นน่ะ แค่นี้น่ะสบายไม่เป็นอะไรมาก!"

    "ไปนั่งทำงานตอนนี้เดี๋ยวอาการมันยิ่งหนักขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ ถ้าเกิดไม่มีคนมาดูแลนายล่ะจะทำยังไง ตอนนี้ทุกคนก็ไม่ใช่จะว่าง มีงานที่ต้องทำกันทั้งนั้นน่ะ!"

    "ขอโทษได้รึเปล่าล่ะ!!!" กียุลหันมาตวาดใส่ทิวาด้วยความหงุดหงิดแบบสุดๆ ทำคนที่โดนตวาดใส่อึ้งจนทำอะไรไม่ถูก

    "..." ทิวาจ้องหน้ากียุลด้วยใจที่หวิวๆ ในใจอยากเอ่ยปากขอโทษแต่ร่างกายก็ไม่ยอมทำตาม

    "ฉันไปทำงานแล้วนะ" ร่างสูงแกะมือของร่างบางออกจากแขนของเขาแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานตัวโตของตน ปล่อยให้หญิงสาวนั่งมองแผ่นหลังที่เดินหายไปช้าๆอย่างจุกอก ชายหนุ่มหยิบแว่นหนาขึ้นมาใส่แล้วหยิบกองเอกสารที่สูงเท่าหัวมาบังตรงข้างๆตัวเองไม่ให้เห็นหน้าของหญิงสาวแล้วนั่งทำงานตามปกติ

    ทิวาถอนหายใจแล้วทิ้งตัวลงไปนอนก่ายหน้าผากพลางหยิบ PS Vita ของมิเอเล่ขึ้นมาดู บนหน้าจอขึ้นรูปจรวด 8 bit กำลังโดนกระสุนปืนยิง มีตัวอักษรภาษาอังกฤษเขียนไว้ว่า 'GAME OVER' ตัวใหญ่อยู่กลางหน้าจอ

    "เฮ้อ... ทะเลาะกันอีกแล้ว.."

    .

    .

    .

    .

    .

    "เอาล่ะขอรับ ทุกคนยิ้มนะ" ฮอรัสผู้เป็นตากล้องจำเป็นเอ่ยสัญญาณขึ้น ทุกคนต่างทำท่าประหลาดๆเพื่อให้ได้รูปที่ประหลาดที่สุด(ห๊ะ?) บางคนถึงกับขี่คอเพื่อนกันเลย


    แชะ!


    "โอเคขอรับ" ฮอรัสลดกล้องต่ำลง เปิดรูปที่ถ่ายไปเมื่อกี้ให้พวกสภานักเรียนดู 

    "รูปสวยมากๆเลย นายอย่าลืมส่งมาให้พวกเราด้วยนะ!" นักเรียนคนนึงพูดกับฮอรัส

    "ได้ขอรับ"

    "แล้วนายไม่ไปถ่ายด้วยกันเหรอฮอรัส?" นักเรียนอีกคนถาม

    "ถ้ากระผมไปถ่ายแล้วใครจะเป็นตากล้องให้ล่ะขอรับ"

    "เดี๋ยวฉันถ่ายให้ก็ได้ นายถ่ายมาเยอะแล้ว"

    "ไม่เป็นไรหรอกขอรับ"

    "เถอะน่า!"

    "นี่ๆฮอรัส" นักเรียนอีกคนสะกิดที่ไหล่ของฮอรัส

    "ว่าไงขอรับ?"

    "ขอดูรูปในกล้องทั้งหมดเลยได้ป่าว"

    "ได้ขอรับ" ฮอรัสถอดสายกล้องที่คล้องคออยู่แล้วยื่นตัวกล้องให้นักเรียนคนนั้นไป

    "ขอบคุณฮอรัส!" นักเรียนคนนั้นรับกล้องจากมือฮอรัสมาคล้องคอแล้ววิ่งไปหากลุ่มเพื่อนที่มีเหมยฮัวที่ปลอมตัวเป็นผู้ชายยืนอยู่ในกลุ่มด้วย

    "เด็กแลกเปลี่ยนคนนั้นดูสนิทกับพวกเราได้เร็วดีนะ ว่างั้นมั้ยฮอรัส?"

    "ขะ..ขอรับ"

    "อ่าว หายไปไหนแล้วล่ะ?" นักเรียนคนนั้นชะเง้อหาตัวเหมยฮัว

    "ถ้าเป็นเหมยหยางล่ะก็ อยู่กับลู่เฟยขอรับ" ฮอรัสชี้ไปด้านหน้า ซึ่งเห็นเหมยฮัวยืนกอดคอดูรูปกับลู่เฟยอย่างสนิทสนมและถึงเนื้อถึงตัว ทำเอาฮอรัสหงุดหงิดไม่ใช่น้อยๆ แต่ก็ต้องเก็บความหงุดหงิดไว้ในใจเพราะจะให้คนอื่นรู้ไม่ได้ว่าเหมยฮัวเป็นใคร

    "โอโห ลู่เฟย แกจะสนิทกับเพื่อนใหม่เร็วอะไรปานนั้น!"

    "..."

    "สรุปนายจะไม่ถ่ายรูปจริงๆเหรอ?" นักเรียนคนนั้นถามฮอรัสอีกครั้ง

    "ไว้ค่อยถ่ายวันพรุ่งนี้แล้วกันนะขอรับ ^^"

    "ก็ได้ๆ"

    "^^"

    "เอ้อ แล้วเป็นไงมาไง ถึงได้เป็นโฮสต์ของเหมยหยางได้ล่ะ?"

    "อ๋อ พอดีผอ.กำลังหาคนรับดูแลนักเรียนแลกเปลี่ยนอยู่พอดีน่ะขอรับ กระผมอยากลองเป็นคนรับดูแลบ้างก็เลยรับมา"

    "ฉันอยากลองเป็นโฮสต์บ้าง วันหลังติดต่อผอ.ให้หน่อยได้มั้ยอ่ะฮอรัส"

    "ได้เลยขอรับ นี่ก็ได้เวลาแล้ว เดี๋ยวขอรวมตัวชี้แจงอะไรนิดหน่อยแล้วก็ปล่อยเลย ฝากเรียกเพื่อนๆได้มั้ยขอรับ กวิน"

    "วางใจได้เลย!" นักเรียนที่ชื่อกวิน(กะ-วิน)รับคำสั่งจากฮอรัสแล้ววิ่งไปเรียกเพื่อนๆให้มารวมตัวกันที่เซนเตอร์พ้อยท์ที่ฮอรัสยืนรออยู่

    .

    .

    .

    "มากันครบแล้วนะขอรับ"

    "อาฮอรัส นี่กล้อง" เหมยฮัวยื่นกล้องคืนให้ฮอรัส

    "ขอบคุณมากขอรับคุณเหมยหยาง ^^" ฮอรัสรับกล้องมาจากมือเหมยหยางแล้วนำมาคล้องคอก่อนจะส่งยิ้มละมุนไปให้หวังว่าจะแกล้งให้คนตรงหน้าตกใจเล่น

    "0///0" เหมยฮัวหน้าแดงแล้วรีบเดินกลับไปรวมกลุ่มกับพวกนักเรียนที่เหลืออย่างเร็วก่อนที่จะโดนแกล้งมากไปกว่านี้

    "วันนี้ก็ยังถ่ายรูปได้เยอะเหมือนเมื่อวานเลยขอรับ กระผมอยากให้ทุกคนเก็บความทรงจำพวกนี้เอาไว้ เพราะบางคนไม่ได้เรียนต่อคลาสคิงที่นี่ ช่วงเวลานี้เหลือไม่มากแล้วขอรับ สำหรับใครที่ยังทะเลาะกัน ไม่ลงรอยกัน ก็ขอให้ปรับความเข้าใจกันก่อนที่จะสายไปนะขอรับ สำหรับวันนี้คงมีแค่นี้ นี่ก็ 4 โมงเย็นแล้ว เชิญทุกคนแยกย้ายได้ขอรับ" ฮอรัสพูดจบแล้วโค้งตัวให้ทุกคนอย่างสุภาพ 


    แปะ แปะ แปะ


    ทุกคนปรบมือให้ฮอรัสอย่างพร้อมเพรียง เหมยฮัวก็ยืนปรบมือให้แฟนของตัวเองอย่างชื่นชม ร่างสูงระบายยิ้มให้เพื่อนๆอีกครั้งก่อนจะนัดหมายเวลา

    "พรุ่งนี้เจอกันเวลาเดิม เปลี่ยนสถานที่เป็นชั้น 5 นะขอรับ"

    "โอเค!" ทุกคนตอบตกลงแล้วแยกย้ายกันกลับห้องของตัวเองไป

    "อาฮอรัสไปกินข้าวเย็นกันเถอะน่อ" เสียงใสของเหมยฮัวดังขึ้นข้างหลังฮอรัส เมื่อร่างสูงหันหลังไปหาต้นเสียงก็พบว่ามีร่างบางในชุดนักเรียนโนอาห์ยืนถือกระเป๋ากล้องอยู่

    "ไปกันขอรับ" ฮอรัสรับกระเป๋ากล้องมาแล้วใส่กล้องถ่ายรูปอย่างระมัดระวังก่อนจะเดินไปที่โรงอาหารกับเหมยฮัว

    "เย็นนี้กินอะไรดีอ่ะน่ออาฮอรัส?" เหมยฮัวถามขณะก้มลงเล่นโทรศัพท์ไปด้วย

    "แล้วแต่คุณเหมยหยางเลยขอรับ"

    "^^ ดีมาก!" เหมยฮัวชมฮอรัสด้วยความชอบใจแล้วยื่นโทรศัพท์ของตนให้ร่างสูงดู


    'ดีมากที่ไม่หลุดชื่อจริงอั๊วไป เดี๋ยวอั๊วทำอาหารเย็นให้เป็นการตอบแทนเอง! ^^'


    "กระผมก็งงอยู่ว่าทำไมวันนี้คุณเหมยหยางเล่นโทรศัพท์ เห็นปกติไม่ค่อยเล่น เพราะอย่างนี้นี่เอง" ฮอรัสไล่สายตาอ่านหน้าจอแล้วพยักหน้าขึ้นลง

    "กินอะไรดีล่ะน่อ?" เหมยฮัวถามย้ำอีกรอบ

    "กระผมอยากกินสเต็กหมู ทำสเต็กหมูได้มั้ยขอรับ?"

    "จัดไปน่อ เดี๋ยวทำให้พวกนั้นกินด้วย ไปซื้อของกันน่อ"

    "ได้เลยขอรับ ^_^"

    ทั้งสองเดินไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อเลือกซื้อวัตถุดิบไปทำอาหารเย็นนี้ เหมยฮัวเดินเลือกของไปเรื่อยๆโดยมีฮอรัสช่วยถือตะกร้าแล้วก็คอยมองศึกษาวิธีเลือกวัตถุดิบจากเหมยฮัวไปพร้อมๆกัน

    เดินเลือกของไปสักพักเหมยฮัวก็เริ่มแสดงอาการเหนื่อยใจออกมาไม่รู้ตัวโดยการถอนหายใจหลายต่อหลายครั้งจนคนข้างๆจับสังเกตได้

    "คุณเหมยหยางไม่สบายใจอะไรเหรอขอรับ?" เพราะว่าอยู่ข้างนอก ฮอรัสจึงต้องเรียกเหมยฮัวด้วยชื่อปลอม แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ไม่ได้ยินที่เขาเรียก

    "คุณเหมยหยาง"

    "..."

    "คุณเหมยฮัว!" ฮอรัสกระแทกเสียงให้คนถูกเรียกรู้สึกตัว

    "ห๊ะ!? อ่ะ มีอะไรอาฮอรัส!?" 

    "คุณเหมยฮัวมีเรื่องไม่สบายใจใช่มั้ยขอรับ ถึงขนาดผมเรียกแล้วยังใจลอยได้ขนาดนี้?" คนตัวสูงถามร่างเล็กอย่างจับผิด

    "บอกกี่ครั้งแล้วว่าอยู่ข้างนอกน่ะอาฮอรัส นี่อั๊วดูออกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอน่อ?"

    "ขอโทษขอรับ ดูออกสิขอรับ ถอนหายใจมากอย่างกับที่บ้านขายอาหารไม่ออกอย่างนั้น"

    "โห นั่นปากเหรอ.. -*- แต่ก็ใช่นั่นแหละ อั๊วไม่ค่อยสบายใจน่ะช่วงนี้" เหมยฮัวถอนหายใจอีกรอบแล้วหันหน้ากลับไปเลือกผักต่อ

    "เล่าให้กระผมฟังได้มั้ยขอรับ? เผื่อคุณเหมยฮัวจะอารมณ์ดีขึ้น"

    "ได้อยู่แล้วน่อ"

    "..."

    "คือลื้อรู้เรื่องแล้วใช่มั้ยน่อว่ารุ่นพี่สายลับคนที่ 1 ของพวกเราคืออามิเอเล่"

    "ขอรับ"

    "พออามิเอเล่เข้ามา อามิเอเล่ก็ดูสนิทกับอาทิวามากๆ แบบอั๊วรู้จักกับอาทิวามานานยังไม่ได้ทำตัวสนิทขนาดนั้นน่ะน่อ"

    "..."

    "เวลาอั๊วอยู่กับอาทิวาก็ปกติ แต่ว่าอามิเอเล่อยู่กับอาทิวามันเยอะไปอะน่อ อั๊วไม่เคยเดินจับมือ เดินกอดแขน นอนตักอาทิวาเลยนะ แต่อามิเอเล่ทำทุกอย่างที่อั๊วพูด แถมทั้งสองคนก็ดูสนิทกันดีมากๆ คุยทุกเรื่อง สนิทกันจนอั๊วรู้สึกเหมือนถูกแย่งคนสำคัญไปเลยน่อ"

    "..."

    "อั๊วมีอาทิวาเป็นเพื่อนสนิทคนสำคัญที่สุดของอั๊วมาตลอดเลย แต่อั๊วไม่รู้ว่าอาทิวาจะคิดแบบเดียวกับอั๊วบ้างรึเปล่า เวลาอาทิวาชวนอั๊วคุย หรือหาเรื่องแกล้งอั๊ว มันทำให้อั๊วรู้สึกใจชื้นตลอดเลย ยังรู้สึกว่าเค้ายังมีเรา"

    "..."

    "ในแชทส่วนตัว อั๊วคุยกับอาทิวาแต่ละครั้งไม่ถึง 10 ประโยคเลยน่อ แต่อั๊วไปเห็นมา ในแชทอามิเอเล่ของอาทิวา คุยกันยาวมากๆแถมใช้ศัพท์อย่างสนิทสนม บางทีอั๊วก็คิดนะว่า อั๊วเริ่มไม่สนิทกับอาทิวาแล้ว"

    "แล้วคุณเหมยฮัวได้บอกเรื่องนี้กับคุณทิวาไปรึเปล่าขอรับ?"

    "ไม่ได้บอกน่อ อั๊วไม่อยากทำตัวงี่เง่า อั๊วไม่อยากให้อาทิวาไม่สบายใจ อั๊วรู้สึกเงียบๆคนเดียวดีกว่าน่อ" เหมยฮัวพูดไปพลางก้มมองมันฝรั่งที่อยู่ในมือของตน

    .

    .

    .

    .

    'นี่อาฮัว หยิบมันฝรั่งให้อั๊วทีสิ' เสียงของผู้เป็นพ่อของเหมยฮัวเรียกลูกสาวคนเล็กของตนที่ยืนหั่นผักอยู่ไม่ไกลให้หยิบของให้

    'เอาอันไหนอาป๊า?'

    'เอาที่ลื้อหั่นแล้ว ไม่ต้องต้มมานะอาฮัว'

    'ได้น่ออาป๊า' เหมยฮัวรีบหยิบมันฝรั่งที่หั่นแล้วใส่ชามแล้วเดินไปให้พ่อของตัวเองที่ยืนทำอาหารอยู่

    'เซี่ยเซี่ยน่ออาฮัว นี่ มายืนดูอั๊วทำอาหารสิ เผื่อจะเอาไปทำบ้าง'

    'ได้น่อ อั๊วหั่นผักให้อาป๊าเสร็จพอดี' เหมยฮัวถอดผ้ากันเปื้อนสีแดงก่อนจะนำมันไปแขวนไว้ที่เดิม ร่างบางเดินกลับมาล้างมือแล้วมายืนดูพ่อของตนทำอาหารต่อ


    ...


    'อาฮัว หยิบช้อนให้ป๊าหน่อย'

    'ได้น่อ' เหมยฮัวยื่นช้อนให้พ่อของตน 

    'อาฮัวชิมให้หน่อยสิ'

    'อั๊ว?'

    'ใช่ ตักมาสักชิ้นแล้วชิมเลย'

    ร่างบางตักมันฝรั่งที่ถูกผัดด้วยซอสที่มีกลิ่นหอมขึ้นมาเป่าให้หายร้อนก่อนแล้วจึงกินมันเข้าไป สัมผัสที่ละมุนปาก ขนาดมันฝรั่งที่ถูกหั่นพอดีคำถูกผัดจนนิ่มกับซอสรสชาติเค็มๆหวานๆที่มีรสชาติกลมกล่อมลงตัว เป็นการปรุงอาหารที่ต้องใช้ฝีมือมากจริงๆ

    'อร่อยสุดๆเลยน่ออาป๊า!'

    'ใช่มั้ยล่ะ? มันฝรั่งนิ่มมั้ย'

    'นิ่มสุดๆเลยอาป๊า เคี้ยวง่ายสุดๆ'

    'มันฝรั่งมีประโยชน์ แต่ลื้ออย่าทำตัวให้เหมือนมันฝรั่งมากนะน่อ'

    'ยังไงอ่ะอาป๊า?' เหมยฮัวมึนงงกับคำพูดของพ่อ

    'มันฝรั่งปกติมันจะแข็งใช่มั้ยน่อ แต่พอถูกความร้อนมันฝรั่งก็จะนิ่ม อ่อนปวกเปียก มันก็เหมือนกับคนเรานั่นแหละ ถ้าเราไม่เข้มแข็งพอ พอเจออะไรกระทบกระเทือนใจหน่อยก็ยอมแพ้ สิ้นหวัง อาฮัวจงอย่าเป็นแบบมันฝรั่งนะ กินได้ นำมาทำอาหารได้ แต่อย่าทำตัวแบบมัน'

    'โอโห สุดยอดเลยอาป๊า โยงมาเรื่องนี้ได้ไงเก่งสุดๆ! *0*'

    'ชมหรือประชดเนี่ยอาฮัว อั๊วหวังดีกับลื้อนะน่อ! ^*^+'

    'ชมสิน่อ อาป๊าของอั๊วนี่เก่งสุดๆเลย ฮ่าๆๆ'

    .

    .

    .

    .

    "คนเป็นเพื่อนกันไม่จำเป็นจะต้องคุยกันบ่อยเสมอไปหรอกขอรับ" ประโยคที่ออกจากปากของชายหนุ่มดึงความสนใจให้เหมยฮัวเงยหน้าไปมองหน้าฮอรัสอย่างประหลาดใจ

    "หมายความว่ายังไงเหรอน่อ?"

    "เพื่อนสนิทกัน เขาคบกันที่หัวใจขอรับ ต่อให้ไม่ได้คุยกันสัก 100 ปียังไงเขาคนนั้นก็คือเพื่อนสนิทที่สุดไม่ใช่เหรอขอรับ"

    "..."

    "ถึงคนๆนั้นจะทำตัวสนิทกับคนอื่นก็ตาม แต่เชื่อกระผมเถอะขอรับ คุณทิวาก็คิดอยู่ตลอดเช่นเดียวกับคุณเหมยฮัวว่าคุณเหมยฮัวคือเพื่อนที่สนิทที่สุด"

    "ขอบคุณมากน่ออาฮอรัส หวังว่าจะเป็นแบบที่ลื้อพูดนะ"

    "ยินดีเสมอขอรับ เพื่อทำให้คนที่ผมรักสบายใจ"

    "อาฮอรัสบ้า... -/////-"

    .

    .

    .

    .

    "ทิวาาา ฉันกลับมาแล้วววว" มิเอเล่เปิดประตูห้องแล้ววิ่งแจ้นเข้ามาในห้องก่อนจะกระโดดกอดทิวาที่นั่งบนเตียงเหมือนไม่ได้เจอกันมา 10 ปี ทำทิวาสะดุ้งโหยงแต่ก็รับตัวมิเอเล่ไว้ได้

    "เป็นไงบ้าง คืบหน้าอะไรบ้างรึเปล่า?" ทิวาถาม

    "ไม่ได้อะไรเลยอ่ะ -3-" มิเอเล่ทำแก้มป่องแล้วซุกหน้าไปมาบนไหล่ของสาวไทย

    "เธอนี่ขี้อ้อนดีนะมิเอเล่ อยู่เหมือนแมวเลย"

    "ก็ไหล่เธอมันกลมๆมนๆน่าซุกนี่นา น่ารักกกก" ว่าแล้วมิเอเล่ก็ยิ่งซุกใหญ่ "เออนี่ ทิวา"

    "?"

    "ทะเลาะอะไรกันกับกียุลเหรอ? เห็นเอาอะไรไม่รู้มาบังซะไม่ให้เห็นหน้าเลย - -;" มิเอเล่กระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน

    "ก็ตาตี๋นั่นดื้อไม่ยอมพักผ่อนน่ะ ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่สบาย ฉันเลยขึ้นเสียงไปหน่อย ตานั่นเลยโกรธฉันมั้ง? =_=;;"

    "งั้นเหรอ ทะเลาะกันบ่อยดีนะ"

    "ก็ไม่ได้อยากทะเลาะหรอก แต่ไม่รู้ทำไมต้องทะเลาะกันด้วยก็ไม่รู้"

    "อยู่เหมือนคู่รักกันเลยเน้อ~!"

    "คะ..คู่รักอะไรล่ะ!?" ทิวาตะโกนเสียงดัง ทำให้คนที่นั่งทำงานอยู่ไม่ไกลเงยหน้าขึ้นมามองทั้งสองคนด้วยหางตาผ่านเลนส์แว่นก่อนจะก้มลงไปทำงานต่ออย่างเย็นชา

    "อึ๋ย.. น่ากลัว" มิเอเล่อุทาน "เปลี่ยนเรื่องคุยเถอะทิวา"

    "ฉันก็คิดอย่างนั้นนะมิเอเล่ - -;"

    "ไหล่เธอกลมดีจัง ขอซุกต่อหน่อยน้าาา"

    "ตามสบาย ฮ่าๆ" 

    พอทิวาอนุญาต มิเอเล่ก็ถอดหมวกปีกกว้างของตนก่อนจะซุกหน้าไปมาบนไหล่อย่างชอบใจ ส่วนทิวาก็นั่งนิ่งๆให้เพื่อนของเธอซุกไหล่ไป


    'เมื่อไหร่เหมยฮัวจะกลับมาน้า...' 


    เวลาล่วงเลยจนถึงห้าโมงครึ่ง ตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววคนที่เหลือจะกลับมาห้องแม้กระทั่งไอริณ แต่ทิวาก็ยังนั่งรอไปเรื่อยๆจน..


    แกร๊ก!


    "อ๊ะ! เหมยฮัวกลับมาแล้ว!" ทิวาเรียกเพื่อนของตนที่กำลังเปิดประตูเข้ามาแล้วโบกมือให้ตามนิสัยของเธอ ซึ่งเหมยฮัวก็เห็นทิวาแล้วยิ้มให้ทันที

    "อั๊วกลับมาแล้วน่อ!" 

    "คุณทิวาไม่ทักผมเลยนะขอรับ ^^" ฮอรัสที่เดินตามหลังมาทักทิวา

    "อ้าวขอโทษนะ ฉันมองไม่เห็นน่ะ ไม่โกรธกันนะฮอรัส"

    "ไม่โกรธหรอกขอรับ ^^"

    "อืม~~" เสียงมิเอเล่ร้องคราง หญิงสาวทำหน้างัวเงียแล้วลดตัวลงหนุนตักทิวาแทนซุกไหล่ ส่วนทิวาก็เขย่าตัวมิเอเล่เบาๆให้ตื่น

    "มิเอเล่ เหมยฮัวมาแล้วนะ ตื่นได้แล้ว"

    "อืม~ม ยังง่วงอยู่เลยอ่ะ" แล้วมิเอเล่ก็หนุนตักทิวานอนต่อ

    "..." ดวงตาสีมรกตมองไปที่ตัวมิเอเล่และทิวา หัวใจของสาวกังฟูรู้สึกสั่นและไหวๆ รู้สึกเหมือนหัวใจมันหล่นไปที่ตาตุ่มแล้ว มือสองข้างกำถุงใส่ของที่ซื้อมาอย่างหลวมๆเกือบจะหลุดมือ แต่ก็ได้ฮอรัสเรียกสติไว้


    เธออิจฉา อิจฉามิเอเล่ อิจฉาที่สามารถถึงเนื้อถึงตัวทิวาได้ขนาดนี้


    "โอเคมั้ยขอรับคุณเหมยฮัว"

    "ไม่โอเคน่อ"

    เหมยฮัวตอบแล้วก้าวเท้าเดินไปที่ครัว

    "เหมยฮัวจะไปไหนน่ะ!?" ทิวาเรียกเหมยฮัวที่กำลังหันหลังเดินไป

    "อั๊วไปทำข้าวเย็นน่ะ ลื้ออยู่กับอามิเอเล่ต่อเถอะ"

    "ไม่เอา ฉันอยากไปกับเหมยฮัวด้วย" ทิวาดึงตัวมิเอเล่ขึ้นแล้วจัดแจงท่านอนให้ดีๆก่อนจะถีบตัวลุกขึ้นยืนทั้งๆที่ยืนไม่ค่อยจะไหว

    "อาทิวา ลื้ออย่าเดินนะน่อ!"

    "ฉันเดินได้น่า ไม่เป็นไร ^^" ทิวายืนตรงด้วยสองขา มือสองข้างปล่อยตามลำตัวแล้วหันมายิ้มให้เหมยฮัวและฮอรัส "เห็นมั้ย ยืนได้แล้ว! ^_^"

    "ลื้อยังไม่หายดี กลับไปนั่งเลยน่อ เดี๋ยวอั๊วพาไป"

    "บู่ว ก็ได้ -3-" เหมยฮัวฝากถุงทั้งหมดให้ฮอรัสถือแล้วเดินไปพยุงทิวาให้นั่งลงบนวีลแชร์แล้วเข็นทิวาไปที่ห้องครัว

    "^_^" ฮอรัสยิ้มเล็กๆให้ทั้งสองคนแล้วเดินตามสาวๆไปที่ห้องครัว

    เมื่อทั้งสามเดินมาถึงห้องครัว เหมยฮัวก็ขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อน ปล่อยให้ทิวาอยู่กับฮอรัสสองคนในห้อง หนุ่มอียิปต์เดินไปหยิบน้ำเย็นให้ทิวาเป็นมารยาทและหยิบให้ตัวเองดื่มด้วย

    "นี่น้ำขอรับคุณทิวา"

    "ขอบใจนะฮอรัส" ทิวารับแล้วดื่มน้ำ "นี่ฮอรัส"

    "ว่าไงขอรับ?" ฮอรัสลดแก้วลง ซับน้ำที่เลอะปากแล้วขานรับทิวา

    "วันนี้เจออะไรบ้างมั้ยอ่ะ?"

    "อืม... ก็เจอนะขอรับ ไม่ได้เจอเป็นสิ่งของแต่ว่าพอมีคนพบบ้าง"

    "จริงเหรอ!?" ทิวาดูร่าเริงขึ้นมาทันทีที่ได้ยินสิ่งที่ฮอรัสพูด

    "ขอรับ วันนี้ชั้นที่กระผมสำรวจเป็นชั้นของหอพักปี 3 แต่วันนี้จู่ๆก็มีเด็กปี 1 ขึ้นมา กระผมเลยลองถามเด็กปี 1 ดูว่าขึ้นมาทำไม เขาก็บอกว่าขึ้นมาหาพี่ชายของเขาซึ่งเป็นนักเรียนปี 3 เลยถามอีกว่าช่วงนี้มีอะไรแปลกๆบ้างมั้ย เขาก็บอกว่า เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเห็นมีเจ้าหน้าที่กำลังขนเหล็กใหญ่ๆขึ้นลิฟต์ตอนตีสองกว่าๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นอะไรน่ะขอรับเพราะไม่ได้ถาม"

    "เหรอ.. ฉันไม่ได้ออกไปไหนเลยช่วยอะไรไม่ได้เลยอ่ะ -3-" ทิวานั่งฟังสิ่งที่ฮอรัสพูดอย่างตั้งใจก่อนจะทำปากยู่เพราะรู้สึกว่าไม่ได้ช่วยอะไรคนอื่นเลย

    "ไม่หรอกขอรับ คุณทิวาช่วยคนอื่นมาตั้งเยอะแล้ว ให้คราวนี้คนอื่นได้ช่วยเหลือแทนบ้างเถอะขอรับ ^^" ฮอรัสพูดให้กำลังใจทิวาเพื่อไม่ให้เธอคิดมาก

    "ขอบคุณนะฮอรัส"

    "ขอรับ"

    "..."

    "..."

    "เดี๋ยวก่อนนะ!!!" อยู่ดีๆทิวาก็ตะโกนดังลั่นห้อง ทำคนที่นั่งดื่มน้ำอยู่ข้างๆแทบพุ่งพรวดออกมา

    "อะ อะไรขอรับ!? O_o"

    "เมื่อกี้นายเล่าให้ฉันฟังว่ายังไงนะ!?" ทิวาถามอีกรอบ

    "เอ่อ.. ก็กระผมบอกว่า วันนี้กระผมไปสำรวจชั้นของหอพักปี 3 แต่จู่ๆก็มีเด็กปี 1 ขึ้นมา กระผมเลยลองถามเด็กปี 1 ดูว่าขึ้นมาทำไม เขาก็บอกว่าขึ้นมาหาพี่ชายของเขาที่เป็นนักเรียนปี 3 เลยถามอีกว่าช่วงนี้มีอะไรแปลกๆบ้างมั้ย เขาก็บอกว่า เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเห็นมีเจ้าหน้าที่กำลังขนเหล็กใหญ่ๆขึ้นลิฟต์ตอนตีสองกว่าๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นอะไรน่ะขอรับเพราะไม่ได้ถาม มีอะไรเหรอขอรับ"

    "ฉันว่ามันน่าสงสัยนะ" ร่างบางใช้มือจับคางตัวเองเหมือนที่นักสืบรุ่นจิ๋วทำเวลาจะสืบคดีก่อนจะพูดออกมายาวเหยียด

    "?"

    "ก็นายบอกว่าเจอเด็กปี 1 ใช่ป่ะ แล้วเด็กปี 1 บอกว่ามาหาพี่ชายที่เป็นเด็กปี 3 แต่ว่าตอนนี้เด็กปี 3 'ทุกคน'ต้องไปสำรวจตามชั้นต่างๆ แล้วเค้าจะไปหาใครอ่ะในเมื่อพี่เขาไม่อยู่ที่ห้อง"

    "ก็จริงนะขอรับ!" ฮอรัสคิดตาม

    "แล้วอีกอย่างนะ เจอเจ้าหน้าที่กำลังเข็นเหล็กใหญ่ๆขึ้นลิฟต์ตอนตีสองกว่าๆ ตอนนั้นเด็กคนนั้นออกไปทำอะไรล่ะ!? น่าสงสัยใช่มั้ย"

    "น่าสงสัยมากๆเลยขอรับ กระผมก็ไม่ได้สังเกตตรงจุดนี้เลย คุณทิวานี่ช่างสังเกตมากเลยนะขอรับเนี่ย"

    "แหะๆ ^^" หญิงสาวยิ้มเขินๆให้ฮอรัส ปกติไม่เคยมีใครชมเธอว่าช่างสังเกตเลย ฮอรัสนี่แหละคนแรกและครั้งแรก เธอเลยเขินเป็นพิเศษ

    "อย่างนี้ต้องบอกข้อมูลให้ครูไอริณแล้วสินะขอรับ"

    "ได้เลยจ้า"


    อีกด้านหนึ่ง

    สาวจ้าวกังฟูถอดวิกสีน้ำเงินสดออก ทำให้ผมจริงๆของเธอถูกปล่อยลงมา หญิงสาวจัดการเกล้าผมให้เป็นก้อนกลมๆสองข้างแบบที่ชอบทำประจำ พลางนึกอะไรเรื่อยเปื่อย


    ก๊อก! ก๊อก!


    เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำหญิงสาวที่คิดอะไรเพลินๆอยู่สะดุ้ง แต่เธอก็รีบดึงสติกลับมาก่อนจะเดินไปส่องตาแมวว่าเป็นใคร


    'อามิเอเล่?'


    "เชิญน่อ" เหมยฮัวเปิดประตูแล้วเชิญแขกผู้มาเยือนเข้าห้องตามมารยาท

    "ไม่เป็นไร ฉันมีธุระนิดเดียวน่ะ" มิเอเล่ปฏิเสธอย่างสุภาพ

    "มีอะไรเหรอน่อ?" เหมยฮัวถาม

    "คือฉันจะมาถามเรื่องทิวาน่ะ"

    "?"

    "เห็นว่าเธอสนิทกับทิวามากที่สุด แถม.."

    "ไม่ต้องยืดเยื้อน่อ ถามเลย"

    "ยังใจร้อนเหมือนเดิมเลยน้า~ เหมยฮัวเนี่ย" มิเอเล่แซว ทำคนฟังคิ้วกระตุกเพราะหงุดหงืดแต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทางอะไรออกไป

    "-*-"

    "คือเมื่อตอนประมาณ 4 โมงเย็นฉันกลับห้องมา ฉันแอบย่องเบาเข้าห้องมากะจะแกล้งทิวาเพราะเห็นว่าอยู่คนเดียว แต่จู่ๆทิวาก็ตบหัวตัวเองแล้วต่อยเข้าที่ขมับหลายที ฉันเลยวิ่งเข้าไปหาทำทีว่าเพิ่งเข้าห้อง ทิวาเลยหยุดต่อยขมับ เหมือนจะให้ใครรู้ไม่ได้ว่าเป็นแบบนี้ ทิวาเป็นอะไรรึเปล่า?" ผู้ที่มีสายเลือดราชวงศ์ของอาณาจักรพรอบโพลิสถามสาวแดนมังกรอย่างต้องการคำตอบ ใบหน้าสื่อถึงความจริงจังอย่างเห็นได้ชัด สองคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างตึงเครียด พลอยให้สาวจีนเครียดตามไปด้วย

    "ตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อคลาสพริ้นเซส มันเหมือนเป็นอดีตเลวร้ายที่ฝังลึกลงไปในความทรงจำของอาทิวา อาทิวาเวลาอยู่คนเดียวโดยไม่มีอะไรทำ ความทรงจำในตอนนั้นก็แล่นเข้ามา ทำให้อาการมันกำเริบน่อ" เหมยฮัวอธิบายอย่างมีสำบัดสำนวน

    "อาการกำเริบ??"

    "ก็ที่อาทิวาตีหัวตัวเองกับต่อยขมับนั่นแหละน่อ อาทิวาบอกว่า ที่ต่อยขมับก็เพราะจะได้ลืมๆเรื่องพวกนั้นไปสักที แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ลืมเลยน่อ มันฝังรากลึกลงไปจนแน่นแล้ว"

    "แล้วมันเกิดเรื่องอะไรกันเหรอเหมยฮัว เล่าให้ฉันฟังได้มั้ย?" มิเอเล่ถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าเมื่อครู่

    "เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนเปิดเทอมที่ 4 พวกอั๊วได้เรียนร่วมกับโนอาห์ในวิชาวัฒนธรรมสิ่งของ แล้วมักจะให้งานกลุ่มมาทำตลอด ในงานแรกที่คุณครูให้โจทย์มาทำ จู่ๆก็มีคนมาขอเข้ากลุ่มด้วย คนๆนั้นก็คือ 'ไลลา บลองค์ชาร์ด' "

    "..."

    "บุคลิกภายนอกที่พวกอั๊วเห็น อาไลลาจะเป็นคนทุ่มเท ตั้งใจทำงาน ดูน่ารัก งานแรกก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกน่อ แต่พองานที่ 2 คุณครูให้ใช้ด้ายตัดชุด 3 ชุดเพื่อเดินแบบ พวกอั๊วไปทำงานที่ห้องอาทิวาแล้วอาทิวาอาสาเป็นคนเก็บของให้ รวมทั้งชุดด้วย พอถึงวันส่งงานชุดที่ตัดไว้ถูกสีย้อมผ้าเปื้อนจนเละ แล้วอาไลลาก็เป็นคนแก้สถานการณ์ให้ ชุดฟินาเล่ที่เป็นชุดแต่งงานที่ตอนแรกอาโรซารี่เป็นคนได้ใส่กลับกลายเป็นอาไลลาที่ใส่มันเพราะตัดส่วนที่เลอะสีให้สั้นลง"

    "..."

    "ในงานที่ 3 คุณครูให้ทำน้ำตาลปั้นเป็นเรื่องราว ครั้งนี้คุณครูจับกลุ่มให้ พวกอั๊วอยู่กับอาไลลาและอเล็กเซ ส่วนอานาซิสซ่าไปอยู่กับพวกเจ้าชาย ครั้งนี้อาไลลาเป็นเจ้าของไอเดีย และอาสาปั้นน้ำตาลตัวหลัก ตอนซ้อมละครอาทิวาใส่ชุดลิงแล้วเต้น จู่ๆน้ำตาลตัวหลักที่เป็นจอกก็ตกลงพื้นแตกกระจายโดยที่อาไลลายืนปั้นจอกอยู่ ก็เกิดปากเสียงกันว่าอาทิวาไปชนอาไลลาทำให้จอกตกแตก แต่อั๊วเห็นกับตาว่าอาทิวาไม่ได้ชน แล้วอาไลลาก็แก้สถานการณ์ได้อีกรอบโดยนำเศษจอกน้ำตาลมาปั้นใหม่เป็นดอกกุหลาบ แล้วเปลี่ยนบททิวาจากตัวเอกที่คู่กับจอกต้องกลายเป็นตัวประกอบแล้วอาไลลาก็ขึ้นเป็นตัวเอก แสดงเป็นหญิงสาวที่ถูกตกหลุมรักโดยชายรูปงามแทน"

    "โห.. ยังกับละครหลังข่าวแน่ะ"

    "ก็เหมือนอยู่น่อ พองานที่ 4 ได้รับโจทย์เป็นไข่มุก ทิวาได้รับบทเป็นนางเงือกที่เป็นตัวเอกแสดงคู่กับอากียุล แล้วอาไลลาอาสาที่จะเป็นคนจัดการเรื่องชุด พอถึงวันงาน ตอนอาทิวาลองชุด เข็มที่ยังอยู่ข้างในชุดทิ่มอาทิวาทำให้บาดเจ็บเล็กน้อย อานาซิสซ่าเลยดุอาไลลาไป สักพักทุกคนกำลังวิ่งเตรียมงานพรีเซ้นท์ อาทิวาอยู่กับอาไลลาสองคนในห้องเก็บตัว พวกอั๊วได้ยินเสียงโครมครามในห้องเลยวิ่งไปดูก็พบว่าอาไลลาลงไปกองกับพื้นพร้อมข้าวของที่กระจัดกระจายเหมือนถูกผลักให้ล้มลงไป ทุกคนถามว่าเกิดอะไรขึ้น อาทิวาบอกอยู่คำเดียวว่าฉันไม่ได้ทำ อาไลลาก็พูดขึ้นว่าอะไรสักอย่างนี่แหละทำให้อาทิวาโกรธจนตัวสั่น กระทืบเท้าเสียงดังเหมือนเสียสติไปแล้ว อั๊วเลยพาตัวอาทิวาออกจากห้องไปส่งที่หอพัก อาไลลาเลยได้บทนางเงือกไป"

    "..."

    "พองานที่ 5 เป็นงานเดี่ยว จับฉลากทำน้ำหอมให้สื่อถึงตัวตนของคนที่เราจับได้ อาทิวาจับได้อาไลลา ตอนแรกอาทิวาทำน้ำหอมเสร็จแล้ว แต่ว่ากลิ่นก็ยังไม่ถูกใจ เลยสะกดรอยตามอาไลลาเพื่อจะได้รู้จักตัวตนของอาไลลามากขึ้น แต่สุดท้ายอาทิวาก็ส่งขวดน้ำหอมเปล่าๆเพราะว่ายังรู้จักตัวตนของไลลาไม่ดีพอ"

    "แล้วเหมยฮัวคิดว่าตัวเหมยฮัวรู้จักไลลามากพอรึเปล่า?" มิเอเล่ถาม

    "อั๊วคิดว่ายังรู้จักไม่พอเหมือนกันน่อ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำแบบนั้น แต่ในความรู้สึกอั๊ว อาไลลาเป็นคนที่สร้างสถานการณ์เก่งมาก โกหกคนอื่นเก่ง เอาแต่ใจตัวเอง เห็นแก่ตัวเอง ต้องการเอาชนะ เหมือนขาดความอบอุ่นจากครอบครัวน่อ"

    "ฟังดูเลวร้ายกว่าที่คิดอีกนะ - -;"

    "ตัวจริงเลวร้ายกว่านี้อีกน่อ"

    "ดูท่าจะไม่ชอบจริงๆ - -;;"

    "แล้วพองานที่ 6 อาทิวาก็ยังจะดื้อดึงไปชวนอาไลลาเข้ากลุ่ม โจทย์คือให้ปั้นเซรามิค อาไลลาก็เป็นเจ้าของไอเดียอีกนั่นแหละ อานาซิสซ่าเลยให้เป็นหัวหน้ากลุ่ม พอแบ่งงานกันเสร็จทุกคนมีงานทำกันหมดยกเว้นอาทิวาเพราะเป็นงานที่ละเอียดอ่อน อาทิวาก็ไม่ได้อะไรน่อ แต่ถึงยังไงเขาก็อยากช่วย อาไลลาเลยให้ไปเลือกเพลงคลาสสิคสำหรับเปิดตอนพรีเซ็นท์งาน 2-3 เพลง แต่ตัวเองเลือกมาอยู่แล้ว มันเหมือนกับหลอกให้ทิวาทำงานไปงั้นๆอ่ะน่อ"

    "..."

    "แล้วจู่ๆแม่ของอาไลลาก็มาที่ลาฟลอร่า ทิวาที่เจอแม่ของอาไลลาก่อนก็ดูเข้ากันกับแม่ของอาไลลาได้ดี พออาไลลาเห็นทิวาสนิทกับแม่ตัวเองก็ไม่พอใจ ว่าทิวาและแม่ พอประกาศคะแนน อาไลลาได้ B+ อาไลลาก็มากล่าวหาอาทิวาว่าเพราะอาทิวาไปยุ่งกับแม่ของเค้า เค้าเลยได้คะแนนแค่นี้ นิสัยแย่จริงๆเลยน่อ"

    "มันเหมือนพวก Perfectionist เลยนะ"

    "เพอเฟคชั่นนิ๊ด..?" สาวจีนทวนคำประหลาดอีกรอบ

    "ใช่ เป็นศัพท์ที่ใช้เรียกพวกคนที่ยึดติดกับความเพอร์เฟคน่ะ ทุกอย่างต้องดี ทุกอย่างต้องเป๊ะจนติดเป็นนิสัย ไลลาอาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้" มิเอเล่อธิบาย

    "จะว่างั้นก็ได้นะน่อ"

    "แต่ถึงยังไงก็เถอะ.."

    "?"


    โครม!!!


    "จิตใจต้องต่ำขนาดไหนถึงทำแบบนั้นได้ลงคอกัน!!!???" มิเอเล่ทุบโต๊ะอย่างอารมณ์ร้อนเพราะสิ่งที่เหมยฮัวเล่าให้ฟังเมื่อกี้

    "โต๊ะพังหมดแล้วน่ออามิเอเล่!!! ใจเย็นก่อนสิน่อ!!! เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วอย่าถือสาเลยน่อ" เหมยฮัวรีบห้ามมิเอเล่ที่หัวร้อนเกือบจะทำลายข้าวของให้สงบสติแล้วดึงให้นั่งลงเหมือนเดิม

    "เหมยฮัว ยัยไลลานั่นหน้าตาเป็นยังไง!?"


    'โกรธจริงจังแล้วใช่มั้ยน่อ -.-;'


    "ก็ผมสีชมพูนมเย็นนุ่มๆ มีไฮไลต์ขาวตรงปลายผม มีกระดิ่งติดอยู่หลายอันน่อ แล้วก็หน้าตาที่แอ๊บน่ารักน่อ ตาสีฟ้าตัวเตี้ยๆ" เหมยฮัวอธิบายอย่างละเอียด

    "โอเค!!!" มิเอเล่ลุกขึ้นพรวดแล้ววิ่งออกจากห้องไป

    "อ้าวเฮ้ย!!?? เดี๋ยวอีก 1 ชั่วโมงอั๊วทำข้าวเย็นเสร็จนะน่อ!!" เหมยฮัวตะโกนไล่หลัง

    "รับทราบจ้า!!" แล้วมิเอเล่ก็วิ่งลับตาไป

    "..."

    "..."


    'อะไรของเค้าน่อ จะมาก็มาจะไปก็ไป งง =_____=;'


    เหมยฮัวถอนหายใจเบาๆก่อนจะไปหยิบกระบองสองท่อน อาวุธประจำตัวที่ถูกดัดแปลงให้เป็นก้อนแม่เหล็กรูปวงรี 2 อันใส่กระเป๋ากางเกงพร้อมปืนพกพา เพราะไอริณย้ำอยู่เสมอว่าให้พกติดตัวตลอดเพื่อความปลอดภัย


    'เป็นสายลับนี่ยุ่งยากเหมือนกันนะน่อ' 

    .

    .

    .

    .

    "อั๊วมาแล้วน่อ" เหมยฮัวเดินเข้าห้องครัวมา เห็นทิวาที่นั่งกินแอปเปิ้ลเล่นเกมเศรษฐีแบบกระดานกับฮอรัสฆ่าเวลา


    จะชิวไปแล้วนะเฟ้ย!


    "ดีเลยขอรับ กระผมเตรียมวัตถุดิบไว้ให้แล้วขอรับ คุณเหมยฮัวทำได้เลย ^^" ฮอรัสส่งยิ้มหวานมาให้แฟนของตนก่อนจะหันไปสนใจเกมเศรษฐีต่อ "ดับเบิล 3 ครั้งติดกัน เข้าคุกขอรับ"

    "แง TwT" ทิวาร้อง

    "งั้นเดี๋ยวอั๊วไปทำอาหารก่อนนะน่อ"

    "ถ้าฉันเล่นเสร็จเดี๋ยวตามไปนะ" ทิวาบอกก่อนจะเล่นเกมเศรษฐีต่อ "ฮะฮ่า!! จ่ายมาเลยสองหมื่น ^^+"

    "หนอย.. ก็ได้ขอรับ จะหมดตูดแล้ว =__=;;"


    20 นาทีผ่านไป

    "ได้ไงอ่ะ!? ฉันล้มละลาย!!!" ทิวาโวยวายเสียงดังเพราะว่าเธอเพิ่งแพ้จากการเล่นเกมเศรษฐีเมื่อกี้

    "ขอโทษด้วยขอรับคุณทิวา แต่คุณเดินมาตกที่ของผมเองนะ แถมค่าผ่านทาง x8 ซะด้วย ^^" หนุ่มอียิปต์ยิ้มอย่างมีชัยชนะ

    "โธ่! ไว้เจอตาหน้านายแพ้แน่ฮอรัส!"

    "จัดไปขอรับ เดี๋ยวกระผมไปหาพวกดันเต้ก่อนนะขอรับ เห็นโทรจิกหากระผมหลายสายแล้ว" 

    "อื้ม โอเค"

    "ให้กระผมไปส่งนะขอรับ"

    "ไม่เป็นไรหรอก นายไปเถอะ"

    "งั้น.. ถ้าได้เวลาข้าวเย็นก็โทรเรียกกระผมนะขอรับ" ฮอรัสลุกขึ้นแล้วเก็บเกมเศรษฐีก่อนจะเดินออกจากห้องไป

    "อื้ม" ทิวาขานรับในลำคอแล้วหมุนล้อวีลแชร์ไปหาเหมยฮัว


    ...


    "มาเองอีกแล้วนะน่อ ไม่บอกอั๊วล่ะเดี๋ยวอั๊วออกไปรับ" เหมยฮัวพูดกับทิวาขณะกำลังผัดกระเทียมกับเนยอยู่ กลิ่มหอมลอยฟุ้งไปทั่วห้อง

    "เดี๋ยวกระเทียมไหม้ไง ฉันเลยมาเอง ฮ่าๆ"

    "ติดตลกตลอดเลยนะน่อ อาทิวา"

    "แหงสิ ก็ฉันเป็นอย่างนี้ตลอดนี่แหละ" ทิวายิ้มยิงฟันให้เพื่อนสาวก่อนจะหยิบหน่อไม้ฝรั่งผัดเนยที่วางไว้ข้างๆตัวขึ้นมากิน

    "แน่ะๆ แอบกินอีกน่อ ตีมือซะดีมั้ยเนี่ย!?" เหมยฮัวหันมาดุทิวา

    "ขอกินสักชิ้นสองชิ้นหน่อยน่าาาา"

    "ก็ได้น่อ" ว่าแล้วเหมยฮัวก็หันไปผัดกระเทียมต่อ

    "..."

    "..."

    "เหมยฮัวมีเรื่องไม่สบายใจอะไรรึเปล่า?" ทิวาถามคำถามที่จี้ใจดำขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

    "เพราะอะไรถึงทำให้ลื้อถามอย่างนั้นล่ะ?" 

    "ก็ฉันเห็นหน้าเหมยฮัวไม่ค่อยยิ้มเลยอ่ะวันนี้ แถมคิ้วขมวดตลอดทั้งวัน แต่ขมวดแบบน้อยมากอ่ะ ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็น"

    "เดี๋ยวนี้ลื้อช่างสังเกตขึ้นนะเนี่-"

    "ฉันสังเกตแค่เหมยฮัวคนเดียวนั่นแหละ! ^_^" ทิวายิ้มยิงฟันให้เพื่อนสาวอีกรอบก่อนจะหยิบหน่อไม้ฝรั่งเข้าปากไปอีกชิ้น

    "อาทิวาที่เก่งจังน่อ รู้ด้วยว่าอั๊วมีเรื่องไม่สบายใจ"

    "ก็แหงอยู่แล้ว.."

    "..."

    "ก็เธอเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของฉันนี่นา!"

    "อาทิวา.."

    "^_^"

    "ลื้อก็เป็นเพื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของอั๊วเหมือนกันนะ!"



    ___________________________________________________________________________


    สวัสดีค่า~ กลับมาครบ 100% แล้วค่ะ สำหรับตอนนี้ก็มีดราม่านิดหน่อยให้เป็นสีสันของนิยายนะคะ(ฮา) บอกก่อนเลยว่านิยายตอนนี้มีเอามาจากเรื่องจริงของเราประมาณ 70% ค่ะ ส่วนไหนที่มันหลุดโลกเช่นเจอเจ้าหน้าที่ตอนตีสองงี้แต่งขึ้นเองนะคะไม่ได้เจอจริงๆ5555

    ยังไงก็ของฝากนิยายนี้ไว้ในอ้อมอก กดfavorite เก็บไว้อ่านได้นะคะ มันจะแจ้งเตือนด้วยนะเวลานิยายอัพ!  ฝากคอมเม้นติชมด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่า!! ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×