ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Laflora Secret ไขปมความรักกับสายลับ 5 สาว

    ลำดับตอนที่ #23 : ตอนที่ 14 : Nothing has happened?

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.พ. 64


    TB

    14

     Nothing has happened? 



    วันต่อมา

    ณ ห้องกล้องวงจรปิดรวม


    'หงุดหงิด!! หงุดหงิด(โว้ย)!!! เจ็บด้วยยย!!! -*-'


    ทิวาบ่นในใจอย่างหัวเสีย ขณะนี้เธอและพวกเพื่อนๆได้มารวมตัวกันที่ห้องนี้เพื่อย้อนดูกล้องวงจรปิดของเมื่อวาน โดยมีดันเต้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องคอมพิวเตอร์กำลังเช็คกล้องวงจรปิดอยู่ วันนี้เธอเริ่มเจ็บแผลน้อยลงแล้ว แขนขาพอขยับได้แล้วแต่ก็ยังเจ็บแผลอยู่ดี

    "ยัยลิง โกโก้ร้อนมั้ย?" นาซิสซ่าเดินถือแก้วโกโก้มาให้ทิวาที่นั่งอมทุกข์อยู่บนวีลแชร์

    "ขอบใจยัยกิ้งก่า" ทิวารับแก้วโกโก้จากนาซิสซ่าแล้วค่อยๆจิบทีละนิด

    "บาดเจ็บอย่างนี้เธอคงจะลำบากมากสินะยะ"

    "อืม.." ทิวาตอบแล้วจิบโกโก้ต่อ

    "แต่ว่ามีแฟนคอยดูแลอยู่อย่างนี้คงไม่ลำบากเกินไปหรอก~" นาซิสซ่าซ่าพูดโดยเน้นคำว่า แฟน หนักๆ

    "พรวด!!!!" ทิวาถึงกับโกโก้พุ่งกระจายเป็นเม็ดฝน ซึ่งนาซิสซ่าก็กางร่มรับฝนโกโก้(?)ได้ทันเวลา

    "ยัยกิ้งก่าบ้า!!! ไม่ใช่แฟนซักหน่อย!!!!"

    "ไม่ใช่แฟนแล้วทำไมหน้าแดงล่ะยะ~ ว้ายๆๆร้อนตัว"

    "หยุดเลยยัยกิ้งก่า!!! >///////<"


    ทางอีกฝั่งนึงของห้อง

    "ทั้งสองคนดูสนุกกันดีนะครับ กียุล" อเล็กเซยืนมองสองสาวที่คุยหยอกล้อกันอยู่ไกลๆ 

    "นั่นสิ" กียุลตอบ "แต่ว่า.."

    "?"

    "... ไม่มีอะไร" 

    "คุณทิวาเขายังไม่คิดว่าตอนนี้คุณกียุลคิดกับเขาเป็นมากกว่าคนคุยสินะครับ" อเล็กเซพูดจี้ใจดำ ทำกียุลที่ยืนอยู่ข้างๆสะอึกกับคำพูด

    "..."

    "คงพูดถูกสินะครับ ^_^"

    "อเล็กเซ นายนี่เป็นหมอดูรึไง? แต่ก็จริงอย่างที่นายพูดล่ะนะ ฉันพยายามทำทุกอย่างแล้วนะ ทั้งคอยดูแล คอยช่วยเหลือ พูดคุย แถมที่หนักๆอย่างกอด หอมแก้ม และเอ่อ.. จะ.. จูบด้วย -////- แต่พอเห็นปฏิกิริยายัยลิงดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วมันก็รู้สึกเหมือน ยังไม่มีใจให้" กียุลพูดอย่างเศร้าๆ

    "ผมว่ากียุลมองข้ามบางจุดไปนะครับ"

    "อะไร?"

    "ถ้าเกิดคุณทั้งสองเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆป่านนี้คุณทิวาคงเกลียดกียุลเข้าไส้แล้วล่ะครับที่ไปทำอะไรกับเขาแบบนั้น แต่นี่ไม่โกรธแถมยังเขินตอบด้วย"

    "ก็จริงนะ.."

    "แต่เหมือนคุณทิวาจะยังไม่คิดถึงขั้นนั้นล่ะครับ คุณโรสก็เคยเล่าให้ฟังนะว่าทิวาบอกว่ายังไม่พร้อมที่จะมีแฟนตอนนี้ เธอคงกำลังให้เวลาคุณพิสูจน์ตัวเองอยู่ล่ะมั้งครับ"

    "อืม.. ขอบใจนะอเล็กเซ ถ้าเรื่องความรักนี่ปรึกษานายได้ดีจริงๆ"

    "ไม่เป็นไรครับ ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่นา แต่ว่าเวลาจะรุกก็ช่วยระงับอารมณ์และสติให้เบาลงหน่อยนะครับ คุณทิวาฟ้องมาว่ากียุลชอบรุกแรงมากแล้วก็แรงเกินไปด้วย -*-"

    "เอ่อ.... ครับๆ =_=;" รังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจากอเล็กเซทำกียุลถึงกับเหงื่อตกกับคำเตือนจากอเล็กเซ เขาก็รู้ตัวแหละว่าทำแรงเกินไป แต่ไม่คิดว่าทิวาจะกล้ามาฟ้องคนอื่นแบบนี้

    "รับคำแล้วก็ทำตามด้วยนะครับ ยังไงก็ผมจะเป็นกำลังใจให้นะครับ ^^" พอกียุลตอบรับ อเล็กเซก็มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มเหมือนเดิมผิดกับเมื่อกี้ที่ทำหน้าโหดใส่ อารมณ์แปรปรวนเกินไปแล้ว!

    "กียุล! อเล็กเซ! ทางนี้หน่อยสิ!" ดันเต้เรียกทั้งสองคนที่ยืนคุยถึงประเด็นของสาวไทยให้ไปหาที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ พอทั้งสองเดินไปถึงดันเต้ก็เปิดวิดีโอให้ดูก็เห็นว่ามันไม่มีอะไรขึ้นเลยสักนิด มีแต่หน้าจอสีดำปรากฎขึ้นเท่านั้น

    "เกิดอะไรขึ้น? กล้องเสียเหรอ?" กียุลถาม

    "น่าจะใช่นะ เพราะถ้ามีอะไรมาบังกล้องไว้ในวิดีโอมันจะขึ้นตัวเวลากับวันที่บอกไว้ แต่นี่ขึ้นแต่จอดำมานานแล้ว"

    "เดี๋ยวผมจะส่งคนไปซ่อมให้นะครับ กล้องตัวไหนเหรอครับ?" 

    "กล้องเสียหลายตัวเลยล่ะ ตั้งแต่ชั้นที่ 4 แล้วก็ตามทางเดินรวมถึงกล้องวงจรปิดในลิฟท์ กล้องข้างหน้าสวนพฤกษศาสตร์ด้วย" ดันเต้ตอบ

    "โอเคครับ" อเล็กเซกดโทรศัพท์แล้วโทรหาช่างประจำเรือให้ไปซ่อมกล้องวงจรปิดทันที

    "นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน? กล้องเสียพร้อมกันเป็นยี่สิบกว่าตัวอย่างนี้มีอะไรผิดปกติสุดๆ" กียุลนั่งเช็คภาพจากกล้องวงจรปิดที่ตอนนี้ขึ้นสีดำเป็น 20 กว่าภาพ ชายหนุ่มทำหน้าเครียดจนคิ้วขมวดกันจะเป็นโบว์อยู่แล้ว

    "ผมว่าเรารอให้กล้องซ่อมเสร็จก่อนดีกว่านะกียุล ถึงกดเข้ากดออกภาพอย่างนี้ภาพก็ไม่ขึ้นมาหรอก" ดันเต้ตัดพ้ออย่างหมดความหวัง แต่ยังไงมันก็เป็นเรื่องจริงอย่างที่เขาพูดล่ะนะ

    "ก็ได้" กียุลกดชัตดาวน์คอมพิวเตอร์แล้วลุกออกมาอย่างเซ็งๆ "ยังไงก็ขอบคุณนายมากนะดันเต้"

    "ไม่เป็นไรครับ เรื่องนี้ผมก็มีส่วนเกี่ยวด้วยเหมือนกัน" ดันเต้ตบไหล่ให้กำลังใจกียุลเบาๆ

    ดันเต้กับอเล็กเซขอตัวกลับไปเรียนก่อน เพราะตอนนี้ก็เลยเวลาเรียนคาบแรกมานานมากแล้ว ส่วนคนอื่นๆก็จะตามพวกเขาไปทีหลัง

    หลังจากที่กียุลบอกลากับเพื่อนทั้งสองของเขาเสร็จ ร่างสูงก็เดินกลับไปหาทิวาที่ก็ยังทะเลาะกับนาซิสซ่าไม่หยุด

    "เอาขนมฉันคืนมานะยัยกิ้งก่า!!" 

    "ไม่ให้หรอกย่ะ แน่จริงก็ตามมาเอาเองสิ แบร่! :P" 

    นาซิสซ่าขโมยช็อคโกแลตของทิวาออกมาจากตู้เย็นแล้ววิ่งหนี ทิวาที่เห็นว่าเพื่อนกิ้งก่าตัวดีกำลังเอาขนมเธอไปก็ไล่ตาม แต่ไม่ใช่วิ่งนะ ร่างเล็กหมุนล้อวีลแชร์ให้ไว้ตามนาซิสซ่าไปอย่างเร็ว ทั้งสองวิ่งไล่กันทั่วห้องโดยไม่ได้สนใจบุคคลที่สามที่ยืนดูพวกเธออยู่เลย


    'เรื่องนี้ยุลจะไม่ยุ่ง =_=' กียุลคิดในใจ


    "แฮ่ก..ยัยกิ้งก่า!!!!" ทิวายังใช้มือหมุนล้อให้ตามทันนาซิสซ่า แต่พอไล่ตามไปเรื่อยๆเธอก็เริ่มหมดแรงแล้ว ทิวาจึงปล่อยมือจากการหมุนล้อวีลแชร์แล้วพักเหนื่อย

    "เหนื่อยแล้วเหรอยะ งั้นขอช็อคโกแลตถุงนี้นะ ไปเรียนก่อนละบายยยย" นาซิสซ่าแกว่งถุงไปมาแล้วโบกมือเยาะเย้ยเดินออกจากห้องไป

    "ว้า...มหรสพจบแล้วเจ้าค่ะ เดี๋ยวพวกยูริไปเรียนก่อนนะเจ้าคะคุณทิวา คุณกียุล ^^" ยูริที่นั่งมองเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นบอกลาทั้งสอง

    "ยูรี้~~~ ไปเอาขนมมาให้ฉันได้มั้ยอ่าา ToT" ทิวากอดแขนยูริแล้วโอดครวญ นั่นช็อคโกแลตจากเบลเยียมที่กียุลให้มาเชียวนะ!

    "ได้เจ้าค่ะ ถ้าคุณนาซิสซ่าไม่กินหมดซะก่อนนะเจ้าคะ ^^;"

    "ยูริใจดีจางงง~ ToT"

    "เจ้าค่ะๆ ยูริไปก่อนนะเจ้าคะ" ยูริโน้มตัวให้กียุลแล้วเดินออกจากห้อง

    "เดี๋ยวไอไปด้วย! See you again นะพวก!" คริสโตเฟอร์โบกมือลากียุลกับทิวาแล้ววิ่งตามยูริไป

    "บายยูริ บายคริส" กียุลโบกมือตอบทั้งสองคนก่อนจะหันมาดูสมาชิกที่เหลือในห้อง "พวกนายไม่ไปเรียนกันเหรอ?"

    เสียงของกียุลดึงความสนใจจากทั้งสามคนที่ถูกกียุลพูดถึงได้เป็นอย่างดี ทั้งสามหันมามองหน้ากียุลแล้วหันไปสนใจปิ่นปักผมทั้งสองอันนั้นต่อ

    "เดี๋ยวพวกอั๊วก็ไปแล้วน่อ แต่ขอตรวจสอบอะไรต่อแปบนึง" เหมยฮัวพูด

    "โอเค แต่อีก 20 นาทีก็เข้าคาบสองแล้วนะ เลทได้ไม่เกิน 15 นาที" กียุลมองนาฬิกาข้อมือแล้วบอกทุกๆคน

    "อิไรจิเร็วปานนั้น" เหมยฮัว

    "แล้วนายไม่ไปเรียนเหรอกียุล?" คราวนี้เป็นโรซารี่ถาม

    "คุณกียุลเขาไม่ต้องไปเรียนก็ได้น่ะขอรับ แค่บอก(อ้าง)ทางครูผู้สอนว่างานยุ่ง แค่นี้ก็ไม่โดนเช็คขาดแถมได้เช็คมาเรียนด้วยน่ะขอรับ" ฮอรัสตอบแทน

    "โห อย่างนี้ก็โดดได้สบายอ่ะดิ -0-" ทิวาโพล่งขึ้นเสียงดัง

    "โดดได้สบายใช่ว่าจะสบายสักหน่อยนะยัยลิงกัง! -*-"

    "นายตี๋ปากเสียจอมขี้เกียจ -0-"

    "ว่าใครขี้เกียจฮะยัยลิงสมองน้อย! -*-"

    "เอ่อ.. งั้นพวกกระผมขอตัวไปเรียนก่อนนะขอรับ" เมื่อเห็นว่าศึกกำลังเริ่มขึ้นอีกครั้งฮอรัสก็รีบหนีทันที

    "เดี๋ยวอั๊ว/ฉันไปด้วย!" เหมยฮัวกับโรซารี่ก็รีบหนีตามฮอรัสทันที

    "อ่า.. โอเคๆ โชคดีนะ ถ้ามีงานอะไรก็เก็บไว้ให้ฉันกับทิวาด้วยนะ" กียุลที่รู้ว่าพวกเพื่อนทั้งสามจงใจหนีและปล่อยให้เขาอยู่กับทิวาตามลำพังก็ไม่ขัดอะไร เขาบอกลาทั้งสามคนแถมไม่วายยังจะขู่เพื่อนตัวเองอีก

    "ถ้านายลืมเก็บงานมาให้ฉัน นาย-ตาย-แน่-ฮอรัส.." กียุลเดินไปกระซิบกับฮอรัสให้ได้ยินเพียงแค่สองคน ทำฮอรัสผู้สุขุมกลืนน้ำลายดังเอื๊อก

    "ขะ..ขอรับ!!"

    "เดี๋ยวฉันไปก่อนนะ ระหว่างนี้ฉันจะช่วยสืบหาเบาะแสให้" โรซารี่โบกมือลาทิวาแล้วหันไปพูดกับกียุลที่ยืนจ้องฮอรัสเขม็ง

    "ขอบคุณนะโรซารี่ เดินไปดีๆล่ะ"

    "Thanks บายทิวา บายกียุล" โรซารี่โบกมือลาอีกรอบแล้วลากเหมยฮัวกับฮอรัสออกนอกห้องไป

    เกิดความเงียบขึ้นในห้องทันทีที่ทั้งสามคนออกไป ทิวาเบือนสายตาออกจากประตูห้องแล้วนั่งเหม่อลอย กียุลที่เห็นปฏิกิริยาของหญิงสาวแปลกไปก็ทักเธอขึ้น

    "เป็นอะไรไปยัยลิง?"

    "..."

    "นี่ ตอบฉันหน่อยสิ" กียุลเดินไปหาทิวาแล้วคุกเข่าให้ระดับสายตาเขาอยู่พอดีกับหญิงสาว ดวงตาสีทับทิมเหม่อลอยเบือนกลับมามองใบหน้าของชายหนุ่ม ซึ่งชายหนุ่มก็ยิ้มบางๆตอบ


    ...มองหน้าทีไรก็รู้สึกอบอุ่นตลอดเวลาเลยแฮะ...


    "..กียุล.."

    "มีอะไรเหรอทิวา?"

    "..กอดหน่อย.." ทิวาพูดขึ้นอย่างไม่มีเรี่ยวแรง กียุลอึ้งไปเล็กน้อยกับคำขอของร่างบาง แต่เขาก็ไม่ได้ขัดอะไร ร่างสูงค่อยๆขยับตัวไปใกล้ร่างบางแล้วใช้แขนโอบกอดอย่างทะนุถนอม ทิวาเอื้อมมือกอดตอบแล้วซุกหน้าลงบนไหล่กว้างอย่างหมดแรง

    กียุลใช้มือหนาลูบหัวหญิงสาวอย่างอ่อนโยน ทิวาซุกหน้าลงบนไหล่ของกียุลมากกว่าเดิมเพราะทั้งเขินทั้งรู้สึกสบายใจ

    "เธอเป็นอะไรไปเนี่ยยัยลิง ไม่ร่าเริงเลยนะ"

    "..ฉันหมดแรง.. ฉันเจ็บ.. เจ็บมาก..." น้ำเสียงทิวาฟังแล้วดูอ่อนแรงลงไปมากจนแทบใจหาย ทำกียุลใจคอไม่ดีมากๆ เขากระชับกอดให้แน่นขึ้นเผื่อว่าความอบอุ่นนี้จะส่งไปถึง น้ำเสียงของเธอจะได้ดีขึ้น

    "กินยาแล้วไปนอนพักก่อนมั้ย? เผื่อจะดีขึ้นนะ"

    "...อืม... แต่ว่าฉันไม่อยากนั่งวีลแชร์แล้วอ่ะ"

    "นี่เธออ้อนฉันเหรอยัยลิง?"

    "ไปเองก็ได้.." ทิวาใช้มือหมุนล้อไปที่เตียงด้วยเธอเอง

    "ล้อเล่นๆเดี๋ยวฉันอุ้มเธอเอง!" กียุลวิ่งตามทิวาไปแล้วจับวีลแชร์ให้หยุดวิ่ง

    "..ฮี่ๆ ขอบคุณนะ"


    [Giyul]

    ตอนแรกผมก็กลัวๆยัยลิงจะต่อยผมในโทษฐานที่อุ้มโดยไม่ได้รับอนุญาตอยู่หรอก แต่คราวนี้เจ้าตัวกลับอนุญาตให้อุ้มได้แถมยังดูอ้อนแปลกๆด้วย มันดูไม่ใช่ตัวของทิวาเลย เกิดอะไรขึ้นรึเปล่านะ?

    ผมค่อยๆใช้มือช้อนตัวทิวาขึ้นแล้วอุ้มท่าเจ้าหญิง ทิวาก็ขดตัวอยู่เป็นลูกแมวอยู่ในแขนของผม น่ารักเกินไปแล้ว -/////-

    ระหว่างที่ผมเดินอุ้มทิวาไปส่งที่นอน ผมเห็นเธอทำหน้านิ่วตอนที่แขนข้างที่โดนยิงไปชนกับตัวผมเอง มันคงเจ็บมากๆ ผมเห็นสีหน้าที่ไม่สู้ดีของเธอยังรู้สึกเจ็บแทนเลย 

    "นี่ทิวา" ผมเรียกชื่อของคนในอ้อมแขน

    "?" ทิวาเงยหน้ามองผมตาปริบๆเหมือนถามว่ามีอะไร

    "เมื่อกี้ที่แขนเธอชนตัวฉัน ฉันขอโทษนะที่ไม่ประคับประคองเธอให้ดี เธอคงเจ็บมากสินะทิวา"

    "ไม่เจ็บหรอกน่า ^^" ทิวาพูดปลอบเพื่อให้ผมสบายใจแล้วยิ้มให้ เป็นยิ้มที่ยังไงก็ดูฝืนชัดๆ

    "ถ้ายกความรู้สึกเจ็บจากตัวเธอทั้งหมดมาให้ฉันได้ฉันก็จะทำนะ เห็นเธอเจ็บปวดแล้วรู้สึกผิดชะมัด"

    "... ไม่ต้องทำอย่างนั้นหรอก! เดี๋ยวนายก็จะเจ็บตัวฟรีเปล่าๆ แค่นายคอยดูแลฉันก็มากเกินพอแล้วล่ะ แล้วก็... ขอบคุณนะ นายตี๋ ^_^" 

    "เธอนี่ก็ดื้อเหมือนกันนะ อ่ะถึงแล้ว"

    ผมค่อยๆวางทิวาลงบนเตียงอย่างเบามือ จัดหมอนหนุนให้ดี ห่มผ้าให้แล้วกะว่าจะไปเคลียร์งานต่อ 


    หมับ!


    ผมรู้สึกเหมือนถูกดึงจากด้านหลัง พอหันไปก็เห็นทิวาเอื้อมมือเล็กๆมาดึงเสื้อข้างหลังผม อยากให้อยู่ต่องั้นสินะ

    "..กียุล.."

    "เข้าใจแล้ว"

    "..เปล่า.."

    "?"

    "..หิว T^T"


    เพล้ง!


    หน้าแตกมั้ยล่ะครับ คนไม่สำคัญก็งี้แหละ T_T

    "อยากกินอะไร" ผมถาม ในใจนี่ผิดหวังนิดๆนะ นึกว่าจะรั้งให้ผมอยู่ต่อ แต่เปล่าเลย ยัยลิงนี่หิว 

    "..อะไรก็ได้ที่นายทำเป็น.." เอ่อ..นี่ประชดหรืออะไรครับทิวา!?

    "คิดจะกวนประสาทกันเหรอยัยลิง -*-"

    "..ไม่ได้กวนประสาทนะ! แค่ไม่รู้ว่าอยากกินอะไร.. นายน่าจะทำอาหารเกาหลีเป็นนี่ ทำให้กินหน่อยสิ *-*" ทิวากระตุกเสื้อผมแล้วส่งสายตาอ้อนวอนมาให้ เอ่อ.. น่ารัก -////-

    "โอเคๆ นอนรออยู่ตรงนี้นะ"

    "โอเค ^^"

    ทิวาปล่อยมือจากเสื้อของผมแล้วมุดเข้าผ้าห่มผืนหนา เห็นแล้วอยากแกล้งชะมัด อืม.. นึกออกละ!

    ผมลูบหัวทิวาสองสามทีแล้วจัดการเอาผมหน้าม้าไปทัดหู ผมค่อยๆโน้มตัวลงไปใกล้ๆทิวาแล้ว...


    จุ้บ!


    จูบหน้าผากยัยลิงเรียบร้อย ^0^

    "0/////0!?" ทิวาสะดุ้งโหยงเมื่อโดนผมจูบที่หน้าผากแบบไม่ทันตั้งตัว แก้มใสๆขึ้นสีระเรื่อน่าหยิกสุดๆ

    "รอสัก 20 นาทีอาหารจะมาเสิร์ฟนะยัยลิง ^^" ผมส่งรอยยิ้มหล่อๆให้ทิวา ซึ่งพอเธอเห็นผมยิ้มให้ก็เกิดอาการเขินเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวแล้วนอนตะแคงหนีหน้าผม 

    "ไปทำอาหารได้แล้วตาบ้า!!! >/////<"

    "โอเคๆ~"

    [End-Giyul]


    หลังจากที่กียุลเดินเข้าครัวไปทำอาหารให้ทิวา เจ้าตัวก็ค่อยๆลุกขึ้นเดินไปหยิบปิ่นปักผมทั้งสองอันที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของกียุล หญิงสาวยืนมองโต๊ะทำงานที่มีกรอบรูปเล็กๆประมาณ 4-5 กรอบและกระถางดอกไม้เล็กๆวางอยู่ เธอคิดไม่ถึงเหมือนกันนะเนี่ยว่ากียุลจะมีมุมปลูกดอกไม้ไว้บนโต๊ะทำงานแบบคนอื่นด้วย 

    หญิงสาวยืนมองกรอบรูปแต่ละรูปไปเรื่อยๆ รูปแรกสุดเป็นรูปที่ถ่ายรวมกับพวกราชาทั้ง 5 ยืนกอดคอกันอย่างสนุกสนาน แต่ดูบรรยากาศรอบๆเหมือนอยู่ในงานอะไรสักอย่าง แถมยังใส่ชุดนักเรียนเต็มยศและเป็นทางการสุดๆ รูปที่สองเป็นรูปกียุลตอนเด็กๆ ใส่ชุดอนุบาลเกาหลียืนจูงมือกับคุณแม่ของเขา หน้าบึ้งตึงสมกับเป็นกียุลจริงๆ รูปที่สามเป็นรูปที่กียุลยืนถ่ายรูปกับทิวาและเจ้าหญิงมิเอเล่หลังจากจบการแข่งขันฮันนี่แรลลี่ จะว่าไปก็ไม่ได้เจอมิเอเล่มานานแล้วนะ รูปที่สี่เป็นรูปที่ เอ่อ.. กียุลน่าจะโดนรับน้องแน่ๆถึงมีสีไปขีดเขียนบนหน้าซะจัดเต็มอย่างนั้น 

    "-////- ตาตี๋แว่นนี่นะ บ้าที่สุดเลย" ทิวาบ่นกับกรอบรูปกรอปสุดท้ายอย่างเขินๆแล้วยืนมองเอกสารบนโต๊ะทำงานต่อ

    ส่วนรูปสุดท้าย เป็นรูปที่ถูกถ่ายเมื่อตอนงานลีลาศเมื่อคลาสพริ้นเซสและคลาสพริ้นซ์ ภาพของคนสองคนที่กำลังเต้นรำตามจังหวะดนตรีอย่างสวยงาม ดวงตาทั้งสองประสานกัน ชุดไทยที่หญิงสาวสวมใส่ช่วยดึงดูดเอกลักษณ์ของเจ้าตัวออกมาได้ดี ชุดสูทสีน้ำตาลเข้มของชายหนุ่มตัดกับดอกกุหลาบสีขาวที่ปักอยู่บนอกซ้ายก็เหมาะกับเขามากๆเหมือนกัน งานนั้นก็ผ่านมานานมากๆแล้ว แต่ยังรู้สึกเหมือนเพิ่งผ่านไปไม่กี่วันเอง สัมผัสอุ่นๆที่มือในตอนเต้นรำยังคาอยู่ 


    'อยากกลับไปเต้นรำกับตาตี๋อีกจัง...'


    ดวงตาสีทับทิมยังคงไล่มองเอกสารบนโต๊ะทำงานไปเรื่อยๆจนไปสะดุดตากับกองเอกสารกองหนึ่ง

    "หนังสือแจ้งเรื่องการเลื่อนลำดับคลาสของนักเรียนคลาสดุ๊กปี 3 ปีการศึกษา 20xx.." 


    'จะว่าไปตากียุลก็อยู่ปี 3 แล้วแฮะ ใกล้ขึ้นคลาสคิงแล้วน่ะสิ'


    ทิวาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมายืนมองโต๊ะทำงานของกียุลนานแล้วจึงรีบเดินกลับไปที่เตียงนอนอย่างช้าๆแล้วจัดการนอนห่มผ้าตามเดิมเป๊ะๆกันไม่ให้กียุลถามว่าลุกไปไหนมา

    ระหว่างที่นอนรออาหารฝีมือกียุล ทิวาก็หยิบปิ่นปักผมที่ดันเต้เจอเมื่อวานขึ้นมาดู รูปลักษณ์ภายนอกนั้นเหมือนปิ่นปักผมของทิวาเกือบทุกประการ ยกเว้นเสียแต่ว่ามีรอยขีดข่วนมากกว่า แถมมีตัวอักษรขนาดเล็กแปลกๆสลักอยู่บนแท่งปิ่นปักผม ทิวาจับปิ่นหมุนซ้ายหมุนขวาจนมือจะพันกัน หญิงสาวรู้สึกคุ้นๆกับปิ่นปักผมอันนี้มากราวกับตัวเองเคยใช้มาก่อน 

    "ฮ้าว~ว" ทิวาใช้มือป้องปากขณะหาว หัวถึงหมอนแต่ละครั้งก็ง่วงตลอด ทิวาวางปิ่นปักผมทั้งสองอันไว้บนหัวเตียง ซุกตัวลงผ้าห่มแล้วหลับตาลง

    "ยัยลิง เฮ้! ยัยลิงกัง ตื่นได้แล้ว!" เสียงที่ทิวาคุ้นเคยดังเข้าโสตประสาทของหญิงสาวปลุกให้เธอตื่นได้เป็นอย่างดี

    "มีอะไรนายตี๋?" ทิวาขยี้ตาสองสามทีแล้วถามคนตรงหน้า

    "ไหนเธอบอกหิวไง ฉันก็ไปทำข้าวมาให้เธอกิน นี่ฉันทำนานขนาดนั้นเลยเหรอ??"

    ทิวาหันไปมองนาฬิกาแขวนผนังก็พบว่าเธอหลับไปแค่ 15 นาที

    "ก็ไม่นาน แต่ฉันง่วง"

    "งั้นกินข้าวก่อนแล้วค่อยนอนนะยัยลิง" กียุลวางชามข้าวลงบนโต๊ะข้างเตียงแล้วหยิบเก้าอี้ใกล้ๆตัวมาวางแล้วนั่งลง

    "ทำอะไรน่ะ??"

    "ก็ให้เธอกินข้าวไง"

    "ก็ใช่ อันนั้นฉันรู้ แต่ทำไมไม่เอาชามข้าวมาให้ฉันล่ะ? -0-" 

    "เธอเจ็บแขนอยู่ไม่ใช่รึไง เดี๋ยวฉัน'ป้อน'เอง" กียุลตักข้าวขึ้นมาพอดีคำแล้วเป่าให้หายร้อน

    "เฮ้ย!? 0////0" จู่ๆกียุลก็เอาช้อนมาจ่อปาก ทำหญิงสาวหน้าขึ้นสีแทบจะทันที

    "กินสิ กิน" ร่างสูงเห็นว่าร่างบางไม่ยอมกินข้าวสักทีก็ยิ่งจ่อช้อนข้าวให้ใกล้ปากมากขึ้น จนร่างบางยอมอ้าปากกินข้าว

    ทิวาเคี้ยวข้าวแก้มตุ่ยอยู่สักแปบนึงแล้วกลืนลงไป กียุลที่นั่งมองแก้มสีแดงๆขยับไปมาก็เกิดอาการมันเขี้ยว ใช้นิ้วเรียวจิ้มไปที่แก้มของหญิงสาวสองสามที 

    "อย่ามาจิ้มแก้มฉันสินายตี๋!! >0<" ทิวาสะบัดหน้าหนีแล้วจ้องกียุลเขม็ง

    "จิ้มไม่ได้รึไง แก้มออกจะนุ่มขนาดนี้"

    "ตาบ้า!! กินข้าวต่อได้แล้ว!!!"

    "โอเคๆกินข้าวต่อก็ได้ ว่าแต่.."

    "อะไร?"

    "เมื่อกี้ยังบ่นหมดแรงอยู่ไม่ใช่เหรอ แถมยังอ้อนฉันให้กอดและให้อุ้มมาส่งที่เตียงด้วย ทำไมตอนนี้กลับมีแรงแล้วล่ะทิวา?? ^^"

    "กะ..ก็ฉันหมดแรงจริงๆนี่!! แถมหิวด้วย!!! รีบๆป้อนเลยย่ะ!!!! >/////<"

    "ฮ่าๆๆ ป้อนแล้วๆ"

    "คำสุดท้ายแล้ว" กียุลป้อนข้าวทิวาเสร็จก็เดินไปเก็บจานในครัว ส่วนทิวาก็นั่งเคี้ยวข้าวตุ้ยๆอยู่บนเตียงนอน ไม่ถึงนาทีกียุลก็เดินออกมาพร้อมถาดที่ใส่แก้วน้ำ 2 ใบและชามข้าวอีก 1 ชาม

    "ฉันขอไปเคลียร์เอกสารก่อนนะ ส่วนเธอก็นั่งพักสัก 30 นาทีแล้วค่อยนอน เดี๋ยวเป็นกรดไหลย้อนขึ้นมาจะลำบาก ระหว่างนี้ก็เปิดทีวีดูได้ อ่ะนี่น้ำของเธอ" กียุลยื่นน้ำให้ทิวาแล้วเดินไปเคลียร์เอกสารที่โต๊ะทำงานของตน

    "มีอะไรให้ฉันช่วยมั้ย..?" 

    "ไม่เป็นไรหรอก เธอนอนพักเถอะ" กียุลหันมาพูดกับทิวาแล้วเดินไปที่โต๊ะทำงาน

    "แต่ฉันอยากช่--"


    Kimi no koto ka suki dakara ~ boku wa itsumo koko ni iruyo ~


    "ใครมันเปลี่ยนเสียงเรียกเข้าฉันเนี่ย! -*-" กียุลกระแทกถาดลงโต๊ะดังปึ้งแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู


    'คริสเปลี่ยนแน่ๆ - -;' ทิวานึกในใจ


    "ยอโบเซโย!"

    [ฮาย~ เสียงเรียกเข้าใหม่เป็นไงบ้างโอปป้า~] เสียงคริสโตเฟอร์ทักทายเพื่อนชาวเกาหลีอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ก็ง่ายๆไม่รู้ชะตาตัวเองว่าถ้าเขากลับมาต้องโดนกียุลฆ่าแน่ๆ

    "F**k that Sh** What the heck did you do with my phone bu**sh**!!" เซนเซอร์รัวๆ

    "กียุลพูดไม่เพราะ!"

    "ก็แค่ล้อเล่นเอง แต่เสียงเรียกเข้าไม่ล้อเล่นเว้ย! -*-"

    [I'm sorry my oppa ไอจะโทรมาบอกว่ากล้องวงจรปิดหน้าสวนพฤกษศาสตร์ซ่อมเสร็จแล้วน่ะ]

    "โอปป้าบ้านนายสิ! ว่าแต่ทำไมช่างไม่โทรมาหาฉันเองล่ะ?"

    [I don't know ยูลองเปิดดูละกัน ครูเข้าห้องละ แค่นี้นะโอปป้า bye!] แล้วคริสโตเฟอร์ก็วางสายไป

    "คริส! เฮ้ย! คริส!!!" กียุลจิ๊ปากอย่างไม่พอใจแล้ววางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ


    ปัง!


    อย่างเบามือ...(?)

    "เอ่อ.. กียุล? นายโอเคมั้ย?"

    "ฉันโอเค มั้ง"

    "ทำไมนายไม่พอใจที่คริสเปลี่ยนเสียงเรีกเข้าล่ะ?"

    "ก็.. เสียงเรียกเข้าผู้หญิงซะขนาดนั้น ฉันกลัวว่าเธอจะมองฉันเป็น เอ่อ.. ช่างเถอะ!" กียุลกระแทกเสียงใส่ทิวาแล้วเดินไปทำงานที่โต๊ะอย่างหัวเสีย

    หญิงสาวไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องหงุดหงิดขนาดนั้นด้วย ก็แค่เปลี่ยนเสียงเรียกเข้าไม่ใช่รึไง ทีทิวายังเคยใช้เสียงเรียกเข้าแบบร็อคเมทัลเลย หรือว่ากียุลจะกลัวว่าทิวาคิดว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายกันนะ อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ -w- 

    "ทิวา" กียุลเรียกทิวาทั้งๆที่มือยังเขียนเอกสารอยู่

    "ว่า?"

    "ถ้าจะเอาปิ่นปักผม บอกฉันก็ได้ฉันจะได้หยิบให้"

    "อ่า.. โอเคๆ มีอะไรอีกป่ะ?"


    'นึกว่าจะด่าเรื่องที่ลุกขึ้นโดยพลการซะอีก - -;'


    "แล้วเธอคิดยังไงกับปิ่นปักผมทั้งสองอันนั้นล่ะ?"

    ทิวานั่งงงกับคำถามของกียุลอยู่ครู่นึง เธอหยิบปิ่นทั้งสองอันมาเปรียบเทียบกัน หมุนซ้ายหมุนขวาหลายรอบ 

    "ตอนเด็กๆ ฉันเคยทำปิ่นปักผมหายตอนไปเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์กับพ่อแม่ หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอจนช่วงนั้นฉันไม่ยอมผูกผมเลย แล้วแม่ก็ได้ปิ่นปักผมอันใหม่อันปัจจุบันมาให้ฉันก่อนที่จะเข้าลาฟลอร่านี่แหละ"

    "งั้นเธอจะบอกว่า?"

    "อืม มันเหมือนอันที่ฉันทำหายตอนเด็กๆเลย"

    "ทำหายที่ไหนจำได้รึเปล่า?"

    "อ่า... นึกแปบ"

    "..."

    "..."

    "พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร น่าจะใช่นะ ที่ไทยนั่นแหละ"

    "โอเค" กียุลเปิดแลปท็อปแล้วเสิร์ชหาอะไรบางอย่าง นิ้วทั้งสิบรัวแป้นพิมพ์จนมองตามแทบไม่ทัน 

    "ทำอะไรอ่ะกียุล?"

    "ฉันลองแฮกเข้าระบบของพิพิธภัณฑ์น่ะ เวลาของหายทางพิพิธภัณฑ์จะขึ้นบนระบบไว้จนกว่าจะมีเจ้าของมารับของไป"

    "มีงี้ด้วยเหรอ -0-"

    "มีไม่มีไม่รู้ รู้แต่ว่าฉันเจอก็แล้วกัน" กียุลกด Enter หนึ่งครั้งแล้วหันหน้าจอมาทางทิวา หน้าจอปรากฎรูปปิ่นเล็กๆสีทองและรายละเอียดวันที่หาย


    'วันที่หาย 20 ก.ค. 19xx เวลา 13.47

    วันที่ส่งคืน 20 ก.ค. 19xx เวลา 13.58'


    "ทำไมวันที่หายและวันที่ส่งคืนให้กับเจ้าของมันเป็นวันเดียวกันเลยล่ะ? แถมห่างกันแค่ไม่นานด้วย ทั้งๆที่ฉันไม่ได้คืนเนี่ยนะ??" ทิวาอุทานออกมาอย่างไม่เข้าใจสุดๆ จะว่าระบบมันกากก็ไม่น่าจะใช่เพราะถ้ากากจริงกียุลคงแฮกได้ตั้งแต่วิแรกแล้ว(เว่อร์ไป)

    "แปลกดีแฮะ" กียุลกำลังเอื้อมมือไปพิมพ์อะไรสักอย่างต่อแต่อยู่ดีๆหน้าจอก็ขึ้นสีฟ้า ข้อมูลทุกอย่างหายไปในพริบตา

    "เฮ้ย!!!"

    "หายไปไหนอ้ะ!!??"

    "โธ่เว้ย!!!! เกิดอะไรขึ้นวะ!!!!!" กียุลหัวเสียจนแทบจะทุบแลปท็อปทิ้ง เขาทำทุกวิถีทางทั้งกด Esc, Alt + F4, Ctrl c + Ctrl v, Shift + Enter, Ctrl A, Double click และอีกสารพัดปุ่มลัด ก็ยังปรากฏหน้าจอฟ้าเหมือนเดิม


    'ไปหมดแล้วสมงสมอง =_=;;'

    "พอเถอะกียุล! ไว้เดี๋ยวให้อเล็กเซมาแก้ให้ก็ได้!"

    "โธ่เว้ย!!! เว้ยๆๆๆๆๆ!!!!!!" กียุลระบายโทสะลงแลปท็อปจนคีย์บอร์ดแป้นพิมพ์บางตัวเริ่มกระเด็นหลุดออกมาใส่หน้าทิวา..

    "ถ้าจะกระเด็นไกลขนาดนั้นอ่ะนะ... = =*"


    'ต้องทำยังไงกียุลถึงจะหยุดอาละวาดล่ะเนี่ย!? คิดสิคิด ทิวาคิดสิ!'


    "กียุล!! ขอร้องล่ะหยุดเถอะ!!!"

    "โธ่เว้ยยยยยย!!!!"

    "ถ้านายยังไม่หยุดฉันจะสั่งห้ามคุยและแตะต้องตัวฉันเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์! แต่ถ้านายหยุดล่ะก็ ฉันจะอนุญาตให้นาย เอ่อ.. แล้วแต่นายเลย!!!!" ทิวาตะโกนห้ามกียุล สิ่งที่เธอพูดออกไปเธอแค่ล้อเล่นเท่านั้นแหละ เผื่อว่าเขาจะหยุดอาละวาด 

    "เธอ...พูดจริงนะ!" กียุลหันขวับมาทางทิวาด้วยสายตาที่ยังมีความหัวเสียและมีความคาดหวังอยู่ 

    "เอ่อ.............." เอ่อยาวเลยทีนี้

    "จริงๆใช่มั้ย!"


    'ชิ-หายแล้ว!! ToT!'


    "งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วน-"

    "เดี๋ยว!! ฉันแค่พูดเล่น!!!"

    "พูดจริงพูดเล่นฉันไม่รู้ รู้แต่เธอพูด!!"

    "เดี๋ยวๆๆ อย่าน้าาาาาาาา!!!!! >////////<"


    1 อาทิตย์ต่อมา (มีความวาร์ปเร็วมาก)

    ห้องสภานักเรียน

    "สรุปคือหาข้อมูลอะไรไม่ได้เลยสินะครับ" อเล็กเซนั่งถอนหายใจหน้าคอมพิวเตอร์จอใหญ่ของตน

    "น่าแปลกจริงๆที่กล้องวงจรปิดไม่มีเบาะแสอะไรเลยแม้แต่น้อย ไม่มีใครที่น่าสงสัยเลยสักคน แถมภาพในกล้องก็มีแต่นักเรียนของเราด้วย" ดันเต้เปิดกล้องวงจรปิดดูแทบจะทุกตัวประมาณ 30 กว่ารอบแต่ก็ต้องถอดใจ

    "แล้ววันนั้นกระผมได้ยินเสียงโครมครามจากห้องของกียุล มีอะไรรึเปล่าขอรับ?"

    จู่ๆฮอรัสก็เปิดประเด็นน่าสนใจขึ้น ดึงดูดให้เพื่อนๆราชาที่เหลือหันมามองหน้ากียุลอย่างเค้นเอาคำตอบ ตอนนี้ในห้องสภาก็มีแค่พวกราชาทั้ง 5 เท่านั้น ส่วนพวกผู้หญิงตอนนี้อยู่กับไอริณ

    "ก็ไม่มีอะไร้"

    "เสียงสูงขอรับ -*-"

    "ก็ไม่มีอะไหร่"

    "ต่ำไปนะโอปป้า"

    "ก็ไม่มีอะไรจริงๆ"

    "พูดจริงนะขอรับ??"

    "จริงๆ!"

    "ถ้ากียุลพูดอย่างนี้กระผมจะเชื่อก็ได้ขอรับ แต่กระผมจะไปถามคุณทิวาอีกทีเพื่อความมั่นใจ"

    "เชิญถามยัยนั่นเลย มันไม่มีอะไรจริงๆ" กียุลเบ้ปากใส่ฮอรัสแล้วก้มลงทำงานต่อเพื่อปกปิดความลับ


    'นึกถึงวันนั้นแล้วเขินชะมัด -/////-'


    "กียุล" อเล็กเซเดินมานั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามโต๊ะทำงานกียุล

    "มีอะไรเหรออเล็กเซ? ถ้าเป็นเรื่องนั้นฉันบอกไปแล้วนะว่าไม่มีอะไรจริงๆ"

    "ไม่ใช่เรื่องนั้นครับ คือว่าตอนนี้มันไม่มีอะไรคืบหน้าเลย เบาะแสก็ไม่มีอะไรเพิ่มเติมสักอย่าง พวกเราจะทำยังไงดีฮะ" อเล็กเซยื่นใบข้อมูลมาให้กียุล ชายหนุ่มรับมันมาไล่อ่านดูประมาณสองรอบก็พอนึกอะไรบางอย่างออก

    "กำหนดการเลื่อนคลาสอีก 1 เดือนกับ 1 อาทิตย์ เราเพิ่งสำรวจกันแค่ชั้น 3 ชั้น 4 กับสวนพฤกษศาสตร์ วันนี้พวกนายไปพักผ่อนก่อนเถอะ แล้วพรุ่งนี้เดินสำรวจให้ทั่วเรือกัน"

    "เอาจริงเหรอฮะกียุล เรือนี่ใหญ่มากต้องสำรวจกันเป็นเดือนๆเลยนะครับ" 

    "ใครบอกให้พวกเราสำรวจกันเองแค่ 10 คนล่ะ"

    "หมายความว่า??"


    "ใช่แล้ว เราจะให้ทุกคนมาช่วยกันค้นหาเบาะแสในเรือนี่แหละ!"



    ________________________________________________________________________________________


    ฝากกด favorite คอมเม้นท์ให้กำลังใจนักเขียนด้วยนะคะ นักอ่านทุกท่านสามารถมาพูดคุยกันได้ที่คอมเม้นท์เลยนะคะ ขอบคุณมากค่า ヾ(〃^∇^)ノ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×