คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : ตอนที่ 12 : ในสวนพฤกษศาสตร์
12
ในสวนพฤกษศาสตร์
"คุณโรซารี่ครับ ตื่นได้แล้ว เช้าแล้วนะครับ~!"
"โอยย.. ยังง่วงอยู่เลย แถมเจ็บแขนไปหมดแล้ว T^T"
โรซารี่ร้องโอดโอยเพื่อให้อเล็กเซใจอ่อนยอมให้นอนต่อ แต่ก็ไม่ได้ผล ร่างเล็กๆแผ่รังสีอำมหิตบ่งบอกว่า 'ถ้าไม่ตื่นมีตาย'
เธอค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงช้าๆ พอจะยกมือปิดปากตอนหาว ความง่วงยังไม่สลัดหายไปความปวดๆที่แขนก็แทรกเข้ามา ทำโรซารี่แทบน้ำตาเล็ด
"โอ๊ย!"
"เป็นอะไรรึเปล่าครับคุณโรซารี่!?" อเล็กเซรีบเข้ามาดูอาการของโรซารี่ทันที
"เจ็บแขนน่ะ เมื่อวานโดนครูไอริณอัดซะน่วมเลย T^T"
หลังจากวันที่ทิวาฟื้น พวกเขาก็ต้องฝึกซ้อมต่อสู้ตลอดทั้ง 3 วันที่ทางโรงเรียนสั่งหยุด แต่ไอริณไม่มีท่าทีจะให้พวกเขาหยุด ไหนจะซ้อมยิงปืน ซ้อมต่อสู้ระยะประชิด ซ้อมฟันดาบฟันเคียว(?) ซ้อมต่อสู้ด้วยมือเปล่าและสนับมือ ซ้อมมวย ซ้อมวิ่ง ซ้อมสะกดรอย ซ้อมแฮคระบบ ซ้อมๆๆๆๆจนพวกเขาแทบจะตายกันไปข้าง ดูท่าพวกเจ้าหญิงคนอื่นๆก็คงจะนอนหมดสภาพเหมือนโรซารี่ด้วย
"คุณโรซารี่เจ้าค้า~ ไปเรียนกันเถอะเจ้าค่ะ!"
"บอกกี่รอบแล้วยะว่าอย่าลงท้ายด้วยคำว่าเจ้าค่ะ!"
"ลื้อก็ด้วยอานาซิสซ่า อย่าลงท้ายด้วยคำว่าย่ะ"
"หึ เชอะ!"
"อย่าสะบัดบ๊อบด้วยจะดีมากน่อ =_=;"
ล่ะมั้ง..?
"ทำไมพวกเธอดูร่าเริงกันจังเนี่ย!?" โรซารี่โคตรแปลกใจกับอาการที่ปกติของเพื่อนๆ
"ก็ได้ยามาทาส่วนที่ปวดน่ะเจ้าค่ะ เลยหายปวดเป็นปลิดทิ้งเลย"
"ผมมียานั่นครับ เดี๋ยวเอามาให้รอแปบนะ" อเล็กเซวิ่งหายเข้ากลีบเมฆไปแล้วโผล่ออกมาจากกลีบเมฆพร้อมยาหลอดสีเขียวๆ
"อันนี้คุ้นๆเหมือนที่ตาดันเต้ให้ฉันทาเลยอ่ะ" นาซิสซ่าทัก
"ยาชนิดเดียวกันน่ะครับ ครูไอริณให้มาใช้เวลาปวดตามเนื้อตามตัว"
"ขอบใจนะอเล็กเซ งั้นพวกเธอช่วยทาให้ฉันหน่อยได้มั้ย?" โรซารี่หันไปถามพวกเพื่อนๆ
นาซิสซ่ากำลังจะอ้าปากตอบแต่ก็มีบางสิ่งมาขัดก่อนเฉย
[นี่พวกเด็กๆ ได้ยินครูกันมั้ย?] เสียงของไอริณดังมาจากเข็มกลัดของทุกคน
"ได้ยินค่ะ มีอะไรเหรอคะ" เป็นนาซิสซ่าที่ตอบกลับไป
[ครูขอ 3 คนมาหาครูหน่อยที่ห้องกียุลจ้ะ สะดวกมั้ย?]
"สะดวกค่ะ!!!" นาซิสซ่ารีบตอบกลับไปทันที
"เสียงหนักแน่นจังนะเธอ -_-;" โรซารี่แซะเล็กๆ
[มาตอนนี้เลยนะจ๊ะ รีบๆล่ะ] พูดจบไอริณก็วางสายไป
"เหมยฮัว ยูริ ไปกับฉัน ส่วนเธอทั้งคู่" นาซิสซ่าชี้ไปที่อเล็กเซกับโรซารี่
"?/?"
"อยู่ทายาให้กันก่อนนะยะ~ ไปล่ะ!" พูดจบนาซิสซ่าก็ลากเหมยฮัวและยูริออกจากห้องไป ทิ้งระเบิดปรมาณูไว้แล้วไม่ยอมรับผิดชอบซะงั้น
"เอ่อ..." อเล็กเซอ้ำอึ้งลนลาน พูดตะกุกตะกักเพราะความเขิน พอจะหันไปดูโรซารี่ก็เห็นเธอยืนอ้ำอึ้งเพราะเขินเช่นกัน
"คุณโรซารี่ครับ"
"..."
"คุณโรซารี่"
"..."
"คุณโรส!!!"
"ห๊ะ!? เอ่อ.. มีอะไรอ่ะอเล็กเซ -///-"
"นี่ครับยา" อเล็กเซยื่นหลอดยาไปให้โรซารี่
"ขอบใจนะ แต่ว่า.."
"?"
"ช่วยทายาที่แขนให้ฉันก่อนได้มั้ยอ่ะ เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง -////-"
"ดะ.. ได้เลยครับ!!"
ห้องของกียุล
"ทิวายังไม่ตื่นอีกเหรอ?" ไอริณพูดกับกียุลขณะที่เดินเข้าห้อง
"ครับ เมื่อคืนนอนดึกล่ะมั้งครับเลยยังไม่ตื่น"
"ทำอะไรถึงได้นอนดึกล่ะหืม?" ไอริณขยิบตาอย่างเจ้าเล่ห์ให้กียุล
"ทิวาช่วยผมทำงานสภาครับ"
"ช่วยงานเธอดีมั้ยล่ะ?"
"ก็ถือว่าดีครับ ลายมือสวยดีด้วย"
"ฮันน่อวว~"
"ฮันน่อวอะไรล่ะครับ! =///="
'เงียบๆหน่อยสิ(วะ)คะ คนจะหลับจะนอน(โว้ย)!!! =*=' คนที่นอนบยเตียงบ่นในใจพลางข่มตาเพื่อให้ตัวเองได้ผจญภัยในความฝันต่อ
"นี่กี่โมงแล้วเหรอจ๊ะ?"
"เจ็ดโมงสี่สิบหกครับ มีอะไรรึเปล่า?"
"พวกนั้นยังไม่มาเอาเอกสารเลยน่ะจ้ะ แม่นัดไว้ตั้งแต่เจ็ดโมงแล้วนะ" ไอริณกอดอกพลางครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
"รออีกสักหน่อยก็ได้นะครับ"
"งั้นแม่ขอออกไปดูนอกห้องหน่อยนะ" ไอริณลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้อง
ปัง!
พอไอริณเดินออกไปจากห้อง กียุลก็หันมาให้ความสนใจทิวาที่ไม่ยอมตื่น(?)ต่อ
"จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหนเนี่ยยัยลิง -*-" กียุลมองไปที่ใบหน้าเนียนที่กำลัง(แกล้ง)หลับปุ๋ยอยู่แล้วบ่นขึ้นมาลอยๆ ถึงปากจะว่าแต่เขาก็ชอบให้เธอทำตัวแบบนี้นี่แหละ น่ามันเขี้ยวสุดๆ
"ฉันก็ไม่ได้อยากนอนกินบ้านกินเมืองหรอกนะ แต่พอขยับตัวแล้วมันเจ็บแผล!! =*=" ทิวาลืมตาแล้วตะคอกใส่ร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆทันทีจนทำเขาตกใจจนเกือบตกเก้าอี้ ฤทธิ์ของมอร์ฟีนหมดไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แผลที่ถูกยิงทั้งสองจุดก็เริ่มแผ่ความเจ็บปวดมากขึ้นกว่าเดิม ใจนึงก็อยากจะกรีดร้องดังๆเพื่อระบายความเจ็บปวดออกมา แต่ก็เกรงใจคนที่นอนเฝ้าตนอยู่ไม่ห่าง จึงทำได้แค่ข่มตานอนอย่างทรมานจนถึงรุ่งเช้า
"เฮ้ย!? ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?"
"สักพักแล้วล่ะนายตี๋แว่น =*=+" ที่ด่าอย่างนี้ได้เพราะตอนนี้กียุลใส่แว่นหนาเตอะอะไรนั่นของเขาอยู่
"ปากดีนักนะเธอ เจ็บจนน้ำตาคลอเบ้าแล้วไม่ใช่รึไง?" กียุลที่สังเกตเห็นบางอย่างก็ทักขึ้นลอยๆ ทิวาที่ได้ยินอย่างนั้นก็รีบเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตา แต่พอขยับก็ยิ่งเจ็บ น้ำตาก็เลยออกมามากกว่าเดิม
"..."
"ทนหน่อยนะ ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากจะหยิบความเจ็บที่เธอได้รับมาไว้ในตัวฉันแทน รู้สึกเจ็บใจจริงๆนะ ที่เห็นแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้" กียุลลูบหัวให้กำลังใจทิวาอย่างอ่อนโยน มันอบอุ่นมากๆ อบอุ่นจนน้ำตาที่กลั้นไว้เริ่มไหลออกมาเต็มใบหน้าของหญิงสาว
"ฮึก.. ฮึก.."
"เธอต้องหายนะทิวา อดทนอีกนิดนึงนะ" กียุลคอยลูบหัวให้ทิวาเรื่อยๆ ยิ่งทำให้ทิวาร้องไห้หนักขึ้น
"ฮืออออ.."
"ทนหน่อยนะ" กียุลบีบมือทิวาเบาๆเป็นความนัยบอกว่าสู้ๆ
"กียุล.. ฉันเจ็บ.." ทิวาพูดอย่างหมดแรง ดวงตามองไปบนเพดานอย่างเหม่อลอย แต่ความเจ็บที่แผลทั้งสองจุดยังกัดกินร่างกายอยู่เรื่อยๆ
"ทนอีกนิดนะ ถ้าทำอย่างนั้นเธอจะติด มันไม่ดี"
"ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้ว.. ขอร้องเถอะนะ ฉันไม่ติดหรอก"
กียุลถอนหายใจแล้วหยิบมอร์ฟีนมาฉีดให้ทิวา สักพักหลังจากที่ฉีดไปทิวาก็มีสีหน้าที่ดีขึ้น หยุดร้องไห้ฟูมฟาย เริ่มขยับเขยื้อนร่างกายได้โดยที่ไม่เจ็บปวด ความจริงเขาไม่อยากเอามอร์ฟีนมาฉีดให้เธอเลยสักนิด เพราะถ้าใช้ต่อไปเรื่อยๆจะเกิดอาการเสพติด ก็เพราะมันคือสารเสพติดชนิดหนึ่ง เขาสัญญากับตัวเองว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉีดมอร์ฟีนให้เธอ เพราะถ้าเกิดมีครั้งต่อไปคงอันตรายต่อตัวทิวาแน่ๆ
"ดีขึ้นรึยัง?" กียุลถามทิวาขณะที่เขากำลังเก็บเข็มฉีดยา
"เหมือนตัวลอยได้เลยล่ะ ขอบใจนะนายตี๋"
"อืม ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายนะ"
"...ก็ได้" ทิวาเงียบไปสักพักแล้วตอบตกลง
โครก~!
"0///0"
"หิวแล้วล่ะสิยัยลิง" กียุลถามอย่างกวนประสาท
"ย่ะ!! -////-"
"อยากกินอะไรล่ะ เดี๋ยวฉันทำให้"
"หา!? นายเนี่ยนะทำอาหารเป็น!?"
"พูดมากเดี๋ยวไม่ทำให้ซะเลยนี่! อยากกินอะไรล่ะ!! -*-"
"อืม... ต้มยำกุ้ง ^^"
"ห๊า.." กียุลอึ้งไปนิดๆกับคำตอบของคนตรงหน้า
"ใช่! ^^"
"คนป่วยกินต้มยำกุ้งเนี่ยนะ!?"
"ก็อยากกินอ่ะ ไม่ได้รึไง?"
"ก็ได้ แต่"
"รึว่านายทำไม่เป็นล่ะ?"
"..."
'ก็ใช่น่ะสิ!! ไม่เคยทำด้วย!! =_=;'
"อ่าๆไม่เป็นไร ฉันมีสูตรต้มยำกุ้ง เอาไปทำนะ ฉันหิวละ ^_^" ทิวายิ้มแฉ่งเป็นการกดดันเล็กๆให้กียุล
"ครับๆ" กียุลรับสูตรจากมือทิวาแล้วเดินหายเข้าไปในครัว ทิวานั่งมองแผ่นหลังคนตัวสูงอยู่บนเตียงแล้วหัวเราะอยู่ในใจ ต้มยำกุ้งมันไม่ได้ทำง่ายๆหรอกนะ!
กียุลยืนอ่านสูตรทำต้มยำกุ้งอยู่ครู่หนึ่งแล้วเปิดตู้เย็นดูวัตถุดิบที่มีอยู่ มีทั้งขิงข่าตะไคร้ใบมะกรูด กุ้ง เห็ด พริก หอมแดง มะเขือเทศ ผักชี แถมส่วนเครื่องปรุงก็มีมะนาว น้ำปลา น้ำตาล เรียกได้ว่ามาครบเหมือนจงใจให้ทำชัดๆ
'ไม่มีพริกเผาก็น่าจะน้ำใส งั้นทำต้มยำกุ้งน้ำใสละกัน'
กียุลหยิบวัตถุดิบทั้งหมดออกมาเตรียมไว้ที่โต๊ะแล้วหยิบผ้ากันเปื้อนมาใส่ ใช้แว่นเสยผมขึ้นแล้วคาดไว้บนหัว เผยให้เห็นหน้าผากเนียนที่ไม่มีความเถิกเลย(อิจฉา -.,-) ถกแขนเสื้อทั้งสองขึ้นแล้วหั่นวัตถุดิบต่างๆอย่างตั้งใจ นำหม้อมาตั้งไฟแล้วใส่น้ำลงไป เขากะจะทำกินประมาณ 3 คน ไอริณ ทิวาและตัวเขา แต่ตอนที่กำลังใส่น้ำเขาก็รู้สึกตะหงิดใจบางอย่างจึงใส่ลงไปอีกกลายเป็นหม้อนึงกินได้กันประมาณสิบกว่าคน
ทิวานั่งเล่นเกมไปเรื่อยๆรอเวลาที่เธอจะได้กินต้มยำกุ้งฝีมือกียุล มือปาดหน้าจออย่างเมามันส์จนลืมว่าเมื่อกี้ยังเจ็บแผลอยู่เลย ฤทธิ์มอร์ฟีนนี่มันดีจริมๆ -w- (เด็กๆไม่ควรเอาเป็นแบบอย่างในการใช้มอร์ฟีนนะจ๊ะ)
"โธ่! ได้แค่ 11 chain เอง! อีก 1 chain ก็จะได้ excellent แล้วแท้ๆ!!" ทิวาสบถออกมาอย่างหัวร้อน เธอนั่งมองตัวละครในทีมกำลังต่อสู้กับศัตรูอยู่ เมื่อต่อสู้เสร็จเธอก็ต้องทำหน้าที่ปาดลูกแก้วต่อภายในเวลา 10 วิ
"อ๊ะ! ฟีเวอร์ล่ะ!" ทิวารัวนิ้วกดลูกแก้ว ในช่วงฟีเวอร์เราสามารถทำลายลูกแก้วได้โดยไม่ต้องปาด แค่กดมันก็ถูกทำลายแล้ว แต่ฟีเวอร์ก็มีเวลาจำกัด เลยต้องรีบๆกดหน่อย
เกมดำเนินจนมาถึงด่านสุดท้าย ศัตรูระดับบอส เธอรีบใช้สกิลตัวละครทำลายลูกแก้วให้อัญมณีหล่นลงมาข้างล่าง เพราะมันจะทุ่นแรงเราในการตะลุมบอนกับบอสได้ ใช้สกิลทำลายลูกแก้วผสมกับสกิลฟื้นฟูพลังชีวิตสลับกันไปมาจนชนะ
"เย้!!!!!" ทิวาร้องเย้ลั่นห้องประมาณสามวิแล้วจ้องหน้าจอโทรศัพท์อย่างลุ้นสุดๆว่าจะได้ตัวละครในเกมใหม่ๆมาบ้างมั้ย
"กรี๊ดดดดดดดดดดด!!!!!!"
"เกิดอะไรขึ้นทิวา!?" กียุลรีบพุ่งพรวดมาจากห้องครัวทันทีที่ได้ยินเสียงทิวาร้อง ในมือยังถือเห็ดที่กำลังจะใส่ลงไปในหม้อต้มอยู่เลย
"กะ.. กียุล!"
"อะไร!!??"
"ฉัน.. ฉัน.."
"อะไรล่ะ บอกฉันมาสิทิวา!!"
"ฉันได้เจ้าชายคนใหม่ล่ะ หล่อมากกกก!!!!!! >{}<" ทิวาหันหน้าจอโทรศัพท์ให้กียุลดูแล้วกรี๊ดกร๊าดแทบคลั่ง ได้เจ้าชายคนที่อยากได้มานานเลยเชียวนะ! ต้องมีดีใจเป็นปกติอยู่แล้วนี่
"=____=" ในใจล่ะอยากจะกุมขมับจะแย่ แต่มือก็ดันเลอะพริก อีกมือนึงก็ถือเห็ดอยู่ กียุลก็เลยได้แต่ทำหน้าโคตรเบื่อโลก สีหน้าคงบ่งบอกว่า 'แล้วจะกรี๊ดทำไมฟะ?'
"ยัยบ๊องเอ๊ย.." เขาส่ายหัวสองสามทีแล้วเดินกลับห้องครัวไป ปล่อยให้ทิวากรี๊ดใส่โทรศัพท์อยู่อย่างนั้น
เสียงกรี๊ดเงียบลงเพราะทิวาหิวสุดๆ คงไม่มีแรงมากรี๊ดอะไรอีกในตอนนี้ นั่งทนหิวไปได้สักพักกียุลก็ยกถ้วยสีขาวที่ใส่ต้มยำกุ้งพร้อมกับข้าวสวยเดินมาหาทิวาแล้ววางลงที่ข้างๆ กลิ่นหอมๆของสมุนไพรในต้มยำ ควันอุ่นๆที่ลอยขึ้นมาจากข้าวสวย ชวนให้เสียงโครกครากในท้องดังขึ้นมากกว่าเดิม
"โห~ น่าอร่อยจังน่ออ *0*"
"นั่นสิเจ้าคะ~ ยูริยิ่งหิวๆอยู่ด้วย"
"ทำอาหารไทยก็เก่งดีนะยะกียุล"
"เฮ้ย!?/เฮ้ย!?" การปรากฏตัวอย่างไม่ทันตั้งตัวของนาซิสซ่า ยูริ และเหมยฮัวทำให้ทั้งสองตกใจมาก ตอนแรกหัวใจนี่หล่นลงไปตาตุ่ม ในใจก็คิดอยู่ว่าโผล่มาได้ไงฟะ? อยู่ในห้องกันสองคนดีๆมาจากไหนอีกไม่รู้ตั้งสามคน ดีแล้วที่ยังเป็นเพื่อนๆของเขา ไม่ใช่ผี -_-;
"โผล่มาจากไหนกันเนี่ยพวกเธอ?" ทิวาทักผู้มาใหม่ทั้งสามที่จ้องจะกินต้มยำกุ้ง
"มาทางประตูนั่นแหละย่ะ แม่เธอให้พวกฉันเข้ามารอในห้องก่อน ว่าแต่ขอร่วมวงกินข้าวด้วยได้มั้ยยะ ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย" นาซิสซ่านั่งลงบนโซฟาข้างเตียงอย่างสง่างาม
"ยูริกับคุณเหมยฮัวด้วยได้มั้ยเจ้าคะ ^^"
"ได้สิ มากินด้วยกัน" กียุลตอบตกลงแล้วตักข้าวใส่จานให้ทั้งสามคน
"ขอบคุณนะยะ" นาซิสซ่ารับจานข้าวจากกียุลแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว
"ขอบคุณเจ้าค่ะ/เซี่ยเซี่ยน่อ" ทั้งสองรับจานข้าวแล้วเดินไปนั่งกับนาซิสซ่า
"แล้วของฉันอ่ะ" ทิวาท้วงขึ้นเพราะเห็นว่ากียุลตักข้าวใส่จานอีกแค่จานเดียวแล้วปิดฝาหม้อหุงข้าวลง นี่จะแกล้งเธออีกแล้วใช้มั้ยเนี่ย
กียุลมองทิวาอย่างนิ่งๆแล้วเดินเข้าไปในครัว ได้ยินเสียงตึงตังเบาๆสักแปบนึงกียุลก็เดินออกมาพร้อมกับถ้วยเล็กๆที่ใส่ต้มยำกุ้งไว้แล้วกลับมานั่งลงข้างๆทิวา เขาตักน้ำซุปราดข้าว แกะกุ้งแล้วตักขึ้นมาจ่อที่ปากทิวา ทิวายัง งงๆกับการกระทำของเขาเลยไม่ได้เปิดปาก
"ฉันจะป้อนเธอเอง" กียุลพูดแล้วจ่อช้อนเข้าไปใกล้ๆปากทิวา
"อะ" พออ้าปากปุ๊บก็โดนยัดข้าวเข้าปากทันที ทิวาเคี้ยวข้าวอยู่สักพักแล้วกลืนลงคอ
'อร่อยมาก ไม่คิดว่าจะทำได้อร่อยขนาดนี้นะเนี่ย'
"เป็นไงบ้าง?" กียุลที่เห็นว่าทิวาเงียบไปสักพักก็ถามขึ้น ในใจก็นึกว่าสำลักข้าวไปแล้ว
"อร่อยนะ อร่อยมาก ><"
"แน่นอน ทำตามสูตรที่เธอให้มาเลย แต่ก็ปรุงเพิ่มนิดนึง"
แชะ
"ฉันคิดถึงอาหารไทยเลยอะ วันหลังทำให้อีกได้มั้ย?"
"ถ้าฉันว่างอะนะ เพราะนี่ก็ยากเอาการเลยล่ะ"
"แต้งกิ้ววว"
"อะแฮ่ม!" เสียงบางคนกระแอมดังขึ้น ดึงความสนใจให้ทั้งสองหันไปมองที่ต้นเสียง ก็พบว่าเป็นนาซิสซ่าที่กระแอมเมื่อกี้
"เปล่าๆไม่มีอะไร ฉันสำลักเพราะเผ็ดน่ะ" นาซิสซ่ารีบพูดปัดๆแล้วควานหาน้ำดื่มแก้เผ็ด เหงื่อเริ่มออกตามใบหน้าเพราะร้อน
"ลืมไปว่าเธอกินเผ็ดไม่ได้ ขอโทษนะนาซิสซ่า" กียุลหยิบขวดน้ำแล้วรีบลุกเอาไปให้นาซิสซ่า เธอรับมาแล้วกระดกเป็นว่าเล่น
"นาซิสซ่าเป็นไงบ้าง!?" ทิวารีบลุกขึ้นไปหานาซิสซ่าที่กำลังไออยู่
"แค่ก แค่ก ไม่เป็นไรย่ะ ฉันไม่ชินน่ะแต่อร่อยดีนะกียุล"
"ขอบคุณนะ"
"เฮ้อ~ โล่งอก" ทิวาถอนหายใจ
"แล้วขาคุณทิวาไม่เป็นอะไรเหรอเจ้าคะ?"
"ไม่หรอกๆ กินยากันไว้แล้วน่ะ"
"งั้นพวกอากียุลไปกินข้าวเถอะน่อ พวกอั๊วก็จะรีบกินเดี๋ยวเข้าเรียนสาย"
"โอเค งั้นค่อยๆกินนะนาซิสซ่า" กียุลตบไหล่นาซิสซ่าเบาๆแล้วส่งยิ้มให้
"อะ อืม -//-"
"เขินไรยัยกิ้งก่า! -*-"
" 'หึง' เหรอน่อ?"
"เปล่าซักหน่อย -_-" ทิวาตีหน้าซื่อแล้วเดินกลับไปนั่งเล่นเกมที่เตียง
"ตามไปง้อเร็วน่อ ชิ่วๆ -3-" เหมยฮัวสะบัดมือไล่กียุล
"ไหงงั้นล่ะ? เธอทำทิวางอนเองนะเหมยฮัว" กียุลคัดค้าน
"อาทิวาไม่เคยงอนพวกอั๊วหรอก อาการแบบนี้มันเป็นอย่างอื่น ไม่ใช่งอนหรอกน่อ"
"ดูยังไงก็งอนชัดๆ"
"ไม่ใช่หรอกเจ้าค่ะ พวกยูริอยู่ด้วยกันมานานจะรู้นิสัยคุณทิวาเจ้าค่ะ"
"ยัยลิงคงจะ 'เขิน' ล่ะมั้ง?" สิ้นสุดคำพูดนาซิสซ่า หัวสมองกียุลก็เหมือนมีหลอดไฟสว่างปิ๊งขึ้นมา นี่น่ะเหรอ อาการเขินของทิวา
"งั้นฉันไปก่อนละกัน พวกเธอก็รีบๆกินนะ เข้าเรียนตอน 8.30 น่ะ"
"โอเค" ทั้งสามพูดพร้อมกันแล้วกินข้าวต่อจนหมด
…
"ขอบคุณสำหรับอาหารเช้านะเจ้าคะ ไว้วันหลังยูริจะทำให้คุณกียุลบ้างเจ้าค่ะ" ยูริโน้มตัวลงพอเป็นมารยาท
"ถึงจะเผ็ดไปหน่อยแต่ก็อร่อยมากๆ ขอบคุณนะยะ" นาซิสซ่าก็ยังคงกระดกน้ำแก้เผ็ดรัวๆอยู่
"อาหารไทยนี่อร่อยจริงๆเลยน่อ วันหลังทำให้อั๊วกินบ้างอีกนะอากียุล" เหมยฮัวดูอิ่มเอมกับอาหารมื้อเช้ามาก ทั้งสามรู้สึกทั้งอิ่มกายและอิ่มใจ ก็แหงสิ มีหนุ่มหล่อมาทำอาหารเช้าให้(?) ก็ต้องมีอาการฟินบ้างสิ
"ได้เลย โชคดีนะ" กียุลอวยพรให้ทั้งสามแล้วโบกมือลา ทิวาไม่ได้มาส่งที่หน้าห้องด้วยเพราะถ้าเดินมากกว่านี้แผลอาจจะทำให้เจ็บยิ่งกว่าเดิม คำอวยพรของกียุลฟังดูแปลกๆแต่ก็เหมาะกับสถานการณ์ของพวกเขาในตอนนี้เป็นอย่างดี การที่พวกเจ้าหญิงปลอมตัวเข้ามาในโรงเรียนเจ้าชายย่อมไม่ปลอดภัยอยู่แล้ว เสี่ยงต่อการโดนจับได้ง่ายๆ แถมต้องมาตามสืบหาคนร้ายกับองค์กรรัฐบาลโลกแล้วก็ต้องคอยหลบหนีพวกก่อการร้ายด้วยแล้ว พวกเขาคงต้องการคำอวยพรอยู่คำเดียวคือคำว่า ขอให้โชคดี
ทั้งสามเดินตามแผนที่ที่กียุลให้มา ตอนนี้เวลาประมาณแปดโมงสิบหก มีนักเรียนเจ้าชายโนอาห์เดินกันขวักไขว่เพื่อจะเข้าห้องเรียนของตน ท่าทางการเดินของพวกเธอก็ต้องกลมกลืนกับพวกผู้ชายเพื่อไม่ให้คนอื่นสงสัย มันลำบากมากๆแต่ก็ต้องทำ
นักเรียนที่นี่เป็นมิตรกันดีเกินคาด เวลาพวกเขาเดินผ่านพวกเธอก็จะส่งยิ้มให้ตลอดเหมือนเป็นคำทักทายว่า อรุณสวัสดิ์ อะไรประมาณนี้ บางคนที่ร่าเริงหน่อยก็โบกมือทักทั้งๆที่ไม่รู้จัก ดูเหมือนจะบ้าแต่มันก็น่ารักมากๆ ไม่มีใครเดินผ่านแล้วเมินใส่สักคน ก็น่าจะถือว่าเป็นมารยาทสังคมอย่างหนึ่งล่ะนะ
ทั้งสามเดินมาถึงห้องๆหนึ่งที่มีป้ายสีทองสลักด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษติดอยู่หน้าห้องว่า 'Duke’s Classroom 3A' นี่น่าจะเป็นห้องเรียนของพวกเธอนี่แหละ
"3A คืออะไรเหรอน่อ?" เหมยฮัวยืนมองป้ายอย่าง งงๆ
"อืม.. ในประวัติส่วนตัวเราเขียนว่าอยู่คลาสดุ๊กห้อง A ปี 3 น่ะ น่าจะเป็นห้องเรียนของพวกเด็กห้อง A ปี 3 ล่ะนะ" นาซิสซ่าอ่านใบประวัติของตัวเองแล้วตอบคำถามเหมยฮัว โดยเวลาพูดก็ตัดคำว่า 'ย่ะ' ออกแล้งทำเสียงให้ทุ้มลงอีกนิดนึง
"ตั้งชื่อได้แปลกดีนะน่อ"
"งั้นพวกเราเข้าไปกันเลยดีมั้ยฮะ?" ยูริพูด ไม่มีคำว่าเจ้าค่ะลงท้ายมันดูพูดไม่ถนัดแปลกๆ เดี๋ยวสักพักก็คงชินไปเองแหละ
"ไปกันเลยน่อ!" เหมยฮัวเอื้อมมือไปเปิดประตูแต่มันก็ถูกเปิดออกก่อนเพียงเสี้ยววินาทีเดียวด้วยมือของนักเรียนคนหนึ่ง
"อ้าว!? คุณเหมยฮั- หยาง!?" ฮอรัสเปิดประตูมาเจอเหมยฮัวแบบไม่ทันตั้งตัวแต่ก็ยังเล่นตามแผนได้อย่างสมบูรณ์แบบ
"อะ.. อ้าว! อาฮอรัส หวัดดีน่อๆ"
"สวัสดีขอรับ คุณยู คุณนาร์เซส ^^" ฮอรัสหันมาทักทายยูริกับนาซิสซ่า
"สวัสดีฮะ!/สวัสดี"
'กระดากปากแปลกๆชอบกล T^T' ทั้งสองคิดในใจ
"แล้วอาฮอรัสจะไปไหนเหรอน่อ?"
"ก็จะไปตามหาพวกคุณนั่นแหละขอรับ มันเลทมา 15 นาทีแล้ว" พอได้ยินฮอรัสพูดอย่างนั้น ทั้งสามก็มองนาฬิกาที่ข้อมือตัวเองก็พบว่าตอนนี้เวลา 8.45 แล้ว
"ขอโทษนะ พอดีพวกเราเดินหาห้องกันไม่เจอน่ะ" นาซิสซ่าขอโทษ ลืมคิดไปเลยว่าที่นี่การรักษาเวลาเป็นสิ่งสำคัญมากๆ
"ขอโทษน่อ!/ขอโทษฮะ!" ยูริกับเหมยฮัวขอโทษตาม
"พวกคุณไม่ผิดหรอกขอรับ พวกกระผมต่างหากที่ต้องขอโทษที่ไม่ได้ไปรับพวกคุณ"
"แล้วที่เหลือล่ะน่อ?"
"เดี๋ยวก็ออกมาแล้วขอรับ วันนี้คาบแรกคาบสองเรียนhistoryแต่ว่าคุณครูติดธุระมาเข้าคาบไม่ได้ เลยให้งานไว้น่ะขอรับ"
"งานอะไรเหรอ?"
"งานกลุ่ม 10 คนน่ะขอรับ สืบค้นข้อมูลจากสถานที่จริงตามหัวข้อที่ได้รับมาแล้วทำเป็นโปรเจ็คต์"
"แล้วตอนนี้พวกเรากำลังไปสวนพฤกษศาสตร์ไงล่ะยูคุง!" คริสโตเฟอร์โผล่มาจากด้านหลังฮอรัสแล้วทักยูริ
"อ้าว!? คุณคริส สะ..สวัสดีฮะ!"
'เกือบหลุดเจ้าค่ะไปแล้วมั้ยล่ะเจ้าคะคุณคริส! T_T'
"เดี๋ยวนะ? สวนพฤกษศาสตร์??" นาซิสซ่าทวนคำอีกรอบ
"ใช่แล้วขอรับ พวกเราได้หัวข้อการทำงานมานั่นก็คือ 'ประวัติศาสตร์ของดอกไม้' "
"โห.. หัวข้อถือว่ากว้างมากเลยนะ"
"ใช่มั้ยล่ะครับ! ผมถึงคิดว่าถ้ามีคุณนาร์เซสอยู่กลุ่มเราต้องไปได้สวยแน่ๆ!!" ดันเต้วาร์ปมาอยู่ข้างหลังนาซิสซ่าแล้วจับไหล่ทำให้เจ้าตัวตกใจจนเผลอหยิบพัดมาฟาดหน้าชายหนุ่มไปเต็มๆ
เพี๊ยะ!!!
"แอ้ก!!!"
"ใครใช้ให้มาด้านหลังแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียงล่ะตาดันเต้!!!" นาซิสซ่าเก็บพัดลงกระเป๋าเสื้อแล้วสะบัดบ็อบใส่ดันเต้ที่นอนกองอยู่กับพื้นด้วยฝีมือเธอเมื่อกี้
"อูย.. เจ็บๆๆๆ" ดันเต้ค่อยๆดันตัวลุกขึ้นนั่งแล้วจับแก้มข้างที่เขาเพิ่งโดนตบด้วยพัดเมื่อกี้ "คุณนาร์เซสใจร้ายอ่ะ T^T"
"หึ!" นาซิสซ่าหัวเราะในลำคอ "แล้วอเล็กเซกับโรซารี่ล่ะฮอรัส?"
"ถ้าเป็นคุณโรทล่ะก็กำลังเก็บของออกมาน่ะขอรับ" ฮอรัสชะโงกหน้าเข้าไปในห้องเรียนแล้วหันมาตอบคำถามของนาซิสซ่า
"อ่อ รอสองคนนั้นแล้วค่อยไปละกัน ฉันล่ะอยากเห็นสวนพฤกษศาสตร์ของที่นี่จริงๆ"
"รับรองยูจะตกใจเลยล่ะ! เพราะว่ามันสวยมากๆ ไม่ได้โม้นะ!!" คริสโตเฟอร์พูดอย่างหนักแน่น
"จ้าๆ =_=;"
"อ๊ะ! คุณอเล็กเซกับคุณโรทออกมาแล้วฮะ" ยูริชี้ไปทางข้างหลังฮอรัส ก็เห็นอเล็กเซกับโรซารี่เดินถือสัมภาระพะรุงพะรังมาทางพวกเธอ
"สวัสดีครับทุกคน! อ่ะนี่กระเป๋าของคริสนะ" อเล็กเซทักทายพวกเขาเป็นปกติแล้วยื่นกระเป๋าสะพายสีแดงให้คริสโตเฟอร์
"Thanks! Alexei เก็บของมาหมดแล้วใช่มั้ย?" คริสโตเฟอร์รับกระเป๋าจากอเล็กเซแล้วตรวจดูความเรียบร้อย
"เก็บมาหมดแล้วฮะ ส่วนนี่ของดันเต้นะ" อเล็กเซยื่นกระเป๋าสีทองให้ดันเต้ที่ยืนหน้ามุ่ยอยู่ข้างๆคริสโตเฟอร์
"สีกระเป๋าสะท้อนแสบตามากเลยนะ =_=" นาซิสซ่าแขวะดันเต้ เธอล่ะไม่เข้าใจรสนิยมเขาเลยจริงๆ
"ผมก็ไม่ค่อยชอบกระเป๋าสีแบบนี้แหละครับ แต่ใส่มาเผื่อมี'คนสวย'แถวนี้ถามน่ะ ^^" ดันเต้ยิ้มระรื่นใส่นาซิสซ่า ทำเอาเจ้าตัวเขินจนด่าออกมาไม่เป็นคำเลย
"นาย.!! ///_///"
"โอ๊ยมดกันน่อ"
ตบมุกได้ดีเยี่ยมจริงๆเหมยฮัว…
"พวกเธอมาช้ากันจริงๆนะ นี่ฮอรัส กระเป๋าของนายน่ะ" โรซารี่ทักเพื่อนๆเจ้าชาย(?)ของเธอแล้วยื่นกระเป๋าหนังสีเขียวเข้มดูหรูให้ฮอรัส
"ขอบคุณขอรับ"
"อาโรซารี่หายปวดยังน่อ?" เหมยฮัวที่เห็นว่าโรซารี่ปกติดีก็เอ่ยถามขึ้น
"ได้ยาของอเล็กเซช่วยไว้น่ะ ต้องขอบคุณพวกเธอด้วยนะ"
"ไม่เป็นไรน่อ แค่หายปวดก็พอแล้วแหละ ฮ่าๆ"
"งั้นพวกเราไปกันเลยมั้ยขอรับ?" ฮอรัสพูดแล้วจับมือเหมยฮัวแน่น
หมับ!
"เอ๊ะ!? 0///0"
"ไปกันเลย!!"
"เดี๋ยวก่อนสิน่ออออออ!!!!"
สวนพฤกษศาสตร์
เมื่อก้าวเข้ามาในอาณาเขตของสวนพฤกษศาสตร์ เหล่าผีเสื้อก็พร้อมใจกันกระพือปีกบินว่อนไปทั่วสวน เนื่องจากเป็นสวนในเรือและสวนในร่ม ที่นี่จึงเป็นสวนเรือนกระจกแทนที่จะเปิดโล่งกว้างแบบลาฟลอร่า มีมุมโต๊ะหินอ่อนสีชมพูนวลและสีขาวมุกให้ได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ เหล่าต้นไม้และดอกไม้ต่างเติบโตได้ดีเยี่ยมแม้จะเป็นเรือนกระจก มีลมอ่อนๆพัดอยู่ตลอด ทำให้เห็นใบไม้สั่นไหวตามแรงลม มีกลิ่นหอมของดอกไม้ลอยมาแตะจมูกทุกเมื่อที่เดินไปแต่ละก้าว
ตอนนี้เป็นเวลาเรียน ภายในสวนจึงมีแต่พวกของเหมยฮัวและฮอรัสอยู่กัน 8 คนเท่านั้น คนดูแลสวนคนอื่นๆก็ไม่อยู่เพราะที่นี่จะเริ่มงานกันประมาณสิบโมง ทำให้พวกเจ้าหญิงสามารถทำตัวได้สบายๆโดยไม่ต้องระแวงหน้าระแวงหลัง
"เฮ้อ~ สบายตัวจังเลยเจ้าค่ะ~" ยูริวิ่งเข้ามาคนแรกแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วปล่อยออกมา กลิ่นของดอกไม้ทำให้ผ่อนคลายได้จริงๆเลยน้า
"นั่นสินะยะ อยู่ข้างนอกต้องปลอมตัวแบบนั้นเกร็งเป็นบ้าเลย แต่ก็ต้องทำล่ะนะ" นาซิสซ่าเดินมายืนข้างๆยูริแล้วสูดลมหายใจตาม
"อยู่ที่นี่พวกคุณสามารถปล่อยตัวได้ตามสบายเลยนะครับ ไว้ออกไปข้างนอกค่อยเก๊กใหม่" อเล็กเซพูด
"ก็จริงของนายล่ะนะ งั้นเรามาเริ่มแบ่งงานกันเถอะ" โรซารี่หยิบสมุดขึ้นมาแล้วเขียนอะไรบางอย่างลงในนั้น "อืม..หัวข้อถือว่ากว้างมากๆเลยนะ ใครมีข้อเสนอดีๆแนะนำบ้าง?"
"กระผมขอเสนอ 'ต้นกำเนิดและที่มาของดอกไม้' ขอรับ"
"เป็นหัวข้อเปิดได้เลยนะ ใครมีอะไรจะเสนออีกมั้ย?" โรซารี่จดหัวข้อของฮอรัสลงสมุด
"ฉันขอเสนอ 'ภาษาของดอกไม้' ย่ะ" นาซิสซ่ากางพัดแล้วบังปากตามสไตล์ของเธอ
"ใช้ได้เลยนี่นาซิสซ่า คนอื่นล่ะ?"
" 'ดอกไม้กับเหตุการณ์สำคัญ' ครับ" ดันเต้ตอบ
"ยังไงเอ่ยดันเต้?"
"อย่างเช่นราชวงศ์ของอังกฤษ 2 ราชวงศ์รวมตัวกันเกิดดอกกุหลาบสีขาวแดงเป็นดอกไม้ประจำราชวงศ์น่ะครับ หรือไม่ก็ดอกไม้สัญลักษณ์ของวันสำคัญต่างๆ"
"ความคิดใช้ได้นี่นา มีคนอื่นอีกมั้ย?"
"ผมครับ 'ดอกไม้ประจำชาติ' " อเล็กเซยกมือตอบ
"ว้าว! ฉันลืมหัวข้อนี้ไปได้ยังไงเนี่ย ขอบคุณนะอเล็กเซ! ^^" โรซารี่ดีดนิ้วดังเป๊าะแล้วหันไปขอบคุณหนุ่มตัวเล็กข้างๆตน ทำเอาเจ้าตัวหน้าแดงแปร๊ด
"มะ..ไม่เป็นไรครับ!! ///-///"
"คนอื่นมีอีกรึเปล่า?"
ทุกคนยกเว้นโรซารี่ส่ายหัว
"งั้นเอาแค่นี้ก่อนละกัน เดี๋ยวแยกย้ายกันไปหาข้อมูลตามหัวข้อนะ เหมยฮัวฮอรัส 'ต้นกำเนิดและที่มาของดอกไม้' นาซิสซ่าดันเต้ 'ภาษาดอกไม้' ยูริคริสโตเฟอร์ 'ดอกไม้กับเหตุการณ์สำคัญ' ส่วนฉันกับอเล็กเซเป็น 'ดอกไม้ประจำชาติ' นะ อ้อ! ฉันอยากให้พวกเธอถ่ายรูปดอกไม้แต่ละพันธุ์ที่ตัวเองหาข้อมูลไว้ด้วยนะ ฉันคิดว่าเราถ่ายภาพนั้นมาใช้จริงๆน่าจะดีกว่า เอาล่ะแยกย้ายได้!"
"โอเค!!"
ทางด้านนาซิสซ่า-ดันเต้
"เดี๋ยวนายจัดการถ่ายรูปให้หมดเลยนะยะ ค่อยมาหาความหมายของดอกไม้ทีหลัง" นาซิสซ่ายื่นกล้องให้ดันเต้แล้วสั่ง
"แล้วคุณนาซิสซ่าจะไปไหนเหรอครับ?"
"ฉันก็ไปกับนายนั่นแหละย่ะ แต่ถ้าหาข้อมูลไปถ่ายรูปไปพร้อมๆกันมันจะช้า ให้นายถ่ายให้เสร็จๆก่อนแล้วมารวบรวมทีเดียวน่าจะเร็วกว่าไงยะ!"
"ขอโทษครับ แต่ว่าเดินใกล้ๆกันหน่อยนะครับ"
"ทำไมยะ?"
"เดี๋ยวที่รักของผมเกิดหลงทางขึ้นมาน่ะสิครับ ผมเป็นห่วงนะ ^^"
"ไม่หลงหรอกย่ะ!! -///-"
ดันเต้เริ่มลงมือถ่ายรูปดอกไม้ไปทีละดอก นาซิสซ่าก็คอยจดว่าถ่ายดอกอะไรไปแล้วบ้าง ทั้งสองคนเดินถ่ายรูปมาเรื่อยๆจนถ่ายได้เกินครึ่งของสวนนี้แล้ว ดันเต้เลยเสนอว่าพักกันก่อนดีกว่า แล้วค่อยถ่ายที่เหลือต่อให้เสร็จ ซึ่งนาซิสซ่าก็ไม่มีปัญหาอะไร ดันเต้เลยพานาซิสซ่ามานั่งพักอยู่ใต้ต้นพิกุลต้นใหญ่
ดันเต้นั่งดูรูปที่ตนถ่ายไปเรื่อยๆ โดยไม่ให้คนที่นั่งข้างๆรู้ตัวว่าตนนั่งดูรูปของเธออยู่ ตลอดเวลาที่เขาถ่ายรูปดอกไม้ เขามักจะแอบถ่ายช่วงจังหวะที่นาซิสซ่าเผลอตลอด ท่วงท่าที่เป็นธรรมชาติไม่มีมาดคุณหนูแบบนั้น เขาชอบที่จะเก็บไว้ดูคนเดียวสุดๆ
"ได้เวลาแล้วดันเต้" นาซิสซ่าลุกขึ้นแล้วปัดกางเกงให้สะอาด
"ครับๆ แปบนึงน้าา" ดันเต้บิดขี้เกียจสองสามทีแล้วลุกขึ้นตามนาซิสซ่า ช่วงจังหวะที่จะก้าวเดินก็มีแสงบางอย่างกระทบกับดวงตาของเขา
"เอ๊ะ?"
"มีอะไรยะตาดันเต้?"
"แปบนะครับ เหมือนผมจะเห็นบางอย่าง" ดันเต้ก้มลงไปหา'บางอย่าง'ตรงที่เขานั่งเมื่อกี้ ข้างๆมีพุ่มดอกไม้อยู่ เขารู้สึกว่าแสงวาบนั่นน่าจะมาจากตรงนั้น เมื่อเปิดพุ่มไม้ออกก็เห็นปิ่นปักผมทำจากทองที่มีความยาวแค่ครึ่งนึงจากความยาวปิ่นปกติที่เป็นแท่งทองทู่ๆ ส่วนหัวเป็นรูปปีกนก มีโซ่ทองเล็กๆสองเส้นห้อยลงมาพร้อมโกเมนเม็กเล็กห้อยอยู่ตรงปลายโซ่หล่นอยู่ในพุ่มไม้ เขาจึงหยิบมันขึ้นมาเก็บไว้
"ผมว่าผมคุ้นเจ้าสิ่งนี้มากๆเลยนะครับ" ดันเต้แบมือออกเผยให้เห็นปิ่นปักผมสีทองบนมือของเขา
"อะไรเหรอดันเต้? เอ๊ะ!?"
"คุณพอจะคุ้นไม่ครับคุณแนส?"
"นายเจอมันที่ไหน!?"
"ตรงนั้นครับ" ดันเต้ชี้ไปทางพุ่มไม้ที่เขาเจอปิ่นปักผม ทำให้ทั้งสองหัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มแทบจะทันที
"ใต้ต้นทิวา!!??/ใต้ต้นทิวา!!??"
ความคิดเห็น