ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Laflora Secret ไขปมความรักกับสายลับ 5 สาว

    ลำดับตอนที่ #17 : ตอนที่ 11 : ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกแล้วนะ

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.พ. 64


    TB
     

    11

    ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกแล้วนะ


    ภายในห้องมีแค่กียุลและทิวาเพียงสองคน ส่วนเหล่าแก๊งเจ้าหญิงที่เหลือขอตัวออกไปจากที่ตรงนี้ก่อนเพราะไม่อยากเป็น กขค. ของคู่บางคู่แถวนี้

    กียุลหยุดยืนอยู่ตรงหน้าทิวาที่นั่งบนเตียงคนไข้ด้วยสีหน้าที่ตะลึงกับคนตรงหน้ามากๆ ดวงตาสีน้ำทะเลลึกไล่มองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมสีน้ำตาลเข้มที่ตอนนี้กลายเป็นผมสั้นประคอเพราะใส่วิกปลอมไว้เข้ากับใบหน้ารูปไข่ ทำให้เนียนเป็นผู้ชายไปได้อยู่เปราะนึง สูทโนอาห์สีขาวสะอาดที่ตัดขอบน้ำเงินตัวโคร่งทำให้ปิดบังสัดส่วนที่ผอมบาง กางเกงโนอาห์ขายาวปักขอบทองลายไทยช่วยซ่อนขาซ้ายที่มีผ้าพันแผลพันอยู่ไว้และช่วยปกปิดความเป็นผู้หญิงได้ดีเนื่องจากเสื้อผ้าที่ดูตรงๆทำให้ส่วนเว้าส่วนโค้งถูกซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้า

    "นะ.. น่ารัก -////-"


    ปัง!


    "!?"

    "ว้ายยยย!!"

    "เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ยยย!!??"

    เสียงที่ไม่รู้ที่มาดังขึ้นรอบๆตัวทั้งสอง ทิวาและกียุลรีบอุดหูทันทีที่เสียงมันดังขึ้น มีควันสีเทาฟุ้งไปทั่วพร้อมกับกลิ่นเหม็นไหม้นิดๆ แล้วดูท่าเสียงจะไม่เงียบลงง่ายๆเลยด้วย


    ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!


    มีเศษกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆและเป็นเส้นลอยละลิ่วเต็มห้อง เศษกระดาษบางส่วนร่วงลงกับพื้น บางส่วนก็ตกลงบนตัวทั้งสอง เสียงดังเมื่อกี้สงบแล้ว ทิวาค่อยๆลืมตาขึ้น ก็เห็นเพื่อนๆทั้งแปดคนยืนเรียงรายกันอยู่ข้างหลังกียุลที่ยังอุดหูหลับตาปี๋อยู่ ทิวากำลังจะอ้าปากด่าพวกเพื่อนๆแต่คริสโตเฟอร์ก็ใช้นิ้วชี้มาแตะที่ปากเป็นเชิงบอกให้เงียบ อย่าพูดอะไร ทิวาที่งงๆอยู่ก็รีบปิดปากเงียบทันที ทั้งแปดถืออาวุธในมือเตรียมพร้อมที่จะโจมตีคู่ต่อสู้ อาวุธนั้นก็คือพลุกระดาษไว้สำหรับงานปาร์ตี้ พวกเขาค่อยๆย่องเข้าไปด้านหลังแล้วนำพลุกระดาษจ่อหูกียุล กียุลที่เห็นว่ารอบข้างเงียบก็ค่อยๆลืมตาเอามือที่อุดหูออก จังหวะนี้แหละที่พวกเขารอคอยมานาน!!


    ปัง!!!!!!!!!!


    "ว้ากกกกกกกกกก!!!!!!!" กียุลอุทานออกมาอย่างไม่คงความเป็นเจ้าชายเลยแม้แต่น้อย

    "เซอร์ไพรส์~!!"

    "พวกนาย!!!???" กียุลหันขวับแล้วชี้หน้าพวกเพื่อนๆตัวดี เขาอ้าปากพะงาบๆอยากจะด่าแต่นึกคำด่าไม่ออก

    "อะไรเล่าโอปป้า~ พวกไอก็แค่จะมาเลี้ยงฉลองให้ทิวาเนื่องในโอกาสที่เธอปลอดภัยแล้วเฉยๆเอง" คริสโตเฟอร์ยกมือประสานไว้ที่หัวแล้วพูด

    "ฉลองบ้าอะไรของนาย แก้วหูฉันแทบแตกแล้ว!!!"

    "นานๆทีน่าโอปป้า~"

    "หัก 50 คะแนน" กียุลหยิบสมุดจดคะแนนนักเรียนออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วเขียนอะไรบางอย่างลงไปในนั้น 

    "ว้ากกก!!!! อย่าหักคะแนนไอเลยน้า!!! แค่นี้ก็จะตกแหล่ไม่ตกแหล่แล้วคร้าบบบจะให้ไอทำอะไรก็ด้ายยย T[]T" คริสโตเฟอร์ลงไปอ้อนวอนกียุลแทบกราบเท้า กียุลเหลือบมองหนุ่ม(ที่คาดว่าเป็น)ตัวต้นเรื่องผ่านเลนส์แว่นหนาเตอะอย่างเย็นชา

    "เอ๊ะ?" แสงสีเขียวบนเข็มกลัดของทั้งแปดคนกระพริบขึ้นพร้อมกัน ทุกคนรีบเอามือทาบที่เข็มกลัด สักครู่สัญญาณก็ต่อได้แล้ว

    [พวกเธอหายไปไหนกันห๊ะ!!!!!!!] เสียงโหดของไอริณดังขึ้นที่เข็มกลัดทุกคน แก้วหูแทบแตกรอบที่สอง

    "จึ๋ย..." ทั้ง 8 รู้สึกเสียวสันหลังวูบทันทีที่ได้ยินเสียงไอริณ

    "แม่นี่น่ากลัวแฮะ =_=;"

    "เธอไม่เคยเจอครูไอริณในโหมดนี้เหรอยัยลิง?"

    "เคยเจออยู่ครั้งนึงอะ แต่ฉันเด็กมากๆ ตอนนั้นฉันไปบ้านอาทิตย์แล้วเข้าไปในห้องครัวว่าจะกินข้าว แต่อาทิตย์มันตามมาแล้วทำอะไรสักอย่างนี่แหละแล้วครัวระเบิด แม่เข้าใจผิดก็ว่าฉันใหญ่เลย -3-" 

    "ถ้าฉันเป็นแม่เธอฉันก็คงเข้าใจผิดอย่างนั้นแหละ ฮ่าๆๆ"

    "นี่นายตี๋!!!!!" ทิวาทำท่าจะตีกียุลแต่ก็โดนโรซารี่ขัดไว้ก่อน

    "คลาดสายตาไม่ได้เลยนะพวกเธอ!" โรซารี่จับทิวาแยกออกมาให้ห่างจากกียุล

    "ก็ตาตี๋!!!"

    "หยุดทะเลาะกันสักวันได้มั้ย ฉันขอร้องล่ะ แถมกียุลต้องอยู่ดูแลเธออีกหลายวัน ฉันไม่ได้ว่างมานั่งห้ามอย่างนี้หรอกนะ นายด้วยกียุลอย่ากวนประสาททิวาให้มากนัก เดี๋ยวยัยนั่นเอาจริงขึ้นมาถึงขาขาดก็วิ่งไปเตะนายได้นะ -_-" โรซารี่เทศน์ทั้งสองยาวเป็นชุด

    "แล้วพวกเธอไปไหนอะตาตี๋แว่นถึงต้องมาดูแลฉันแทนด้วย" ทิวานั่งกอดอกทำหน้าอย่างเซ็งๆ

    "ก็ครูไอริณเรียกตัวพวกเราไปฝึกซ้อมต่อสู้ในเวลาสามวันนี้น่ะสิ คงไม่ว่างมาดูแลเธอ ขอโทษนะทิวา"

    "แม่นี่... -3- ไม่เป็นไรๆ พวกเธอไปเถอะ เดี๋ยวแม่ฉันระเบิดลงอีกจะแย่เอา บ๊ายบาย" ทิวาโบกมือหยอยๆให้แก๊งเพื่อนแล้วยิ้มแฉ่ง ทั้งๆที่ในใจนั้นอยากอยู่ด้วยกันกับเพื่อนสุดๆ

    "ขอโทษอีกครั้งนะทิวา พวกฉันไปก่อนล่ะ บ๊ายบาย" โรซารี่โบกมือตอบแล้วลากเพื่อนๆออกไปจากห้อง ทำให้ภายในห้องกลับมามีแค่ทิวากียุลสองคนอีกครั้ง 

    "เน่ กียุล" ถึงปากจะเรียกชื่อร่างสูง แต่ว่าสายตาของทิวาไม่ได้มองไปที่เจ้าของชื่อเลย กลับมองไปที่ประตูแทน 

    "มีอะไรเหรอ?"

    "เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่.."

    "..."


    'ลืมไปเลยว่าทิวายังไม่รู้เรื่องนี้'


    "นายช่วยบอกฉันได้มั้ย?"

    "อืม... เรื่องมันยาวน่ะ ไว้ค่อยให้ครูไอริณอธิบายนะ"

    "... ก็ได้"

    "งั้นเธอก็พักผ่อนซะนะ บาดเจ็บอยู่ไม่ใช่รึไงยัยลิง" กียุลยกมือลูบหัวทิวาอย่างเอ็นดู

    "ไม่เอาา ฉันยังไม่อยากนอน!"

    "นอนเถอะนะ ^_^" กียุลอ้อนทิวาโดยการลูบหัวแล้วส่งยิ้มมาให้ 

    "-////-"

    "นะครับ ^_^" 

    "ก็ได้!!! -//////-"


    'เจอแบบนี้ใครไม่ใจอ่อนก็บ้าแล้ว! >///<'


    พอกียุลละมือออกจากหัวทิวา เขาก็ปรับเตียงลงให้นอนได้สะดวก ร่างสูงอุ้มร่างบางขึ้นแล้ววางลงบนเตียงคนไข้ในอิริยาบทนอนอย่างเบามือแล้วห่มผ้าให้ เขาลูบหัวเธออยู่สองสามทีแล้วก้มลงจุมพิตที่หน้าผากของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน

    "ฝันดีนะยัยลิง"

    "-///-"


    'ตาบ้า'


    "ฉันไปก่อนนะ"

    "..."

    หมับ!

    "เอ๊ะ ทิวา?" กียุลหยุดชะงักเพราะแรงดึงที่เสื้อจากด้านหลัง

    "อยู่กับฉันก่อนได้มั้ย" 

    "ได้อยู่แล้วสิ" กียุลหันหลังกลับมาแล้วหยิบเก้าอี้ใกล้ๆตัวมานั่งข้างๆเตียงคนไข้ ทิวาที่เห็นว่าชายหนุ่มไม่ไปไหนแล้วก็นอนลงกับเตียงเหมือนเดิม

    "เมื่อกี้นายจะไปไหนอะ?" ทิวานอนตะแคงข้างมองร่างสูงที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ

    "จะไปทำงานสภาที่ทำค้างไว้น่ะ"

    "เหลือเยอะมั้ย"

    "เยอะสิ"

    "เหรอ.. (._.)"

    "ฉันอยู่เป็นเพื่อนเธอดีกว่า ทำแปบเดียวก็เสร็จแล้วงานนั่นน่ะ"

    "จริงนะ!? แต้งกิ้ววว ><"

    "นี่ยัยลิง" น้ำเสียงที่แปลกไปนิดหน่อยของชายหนุ่มเรียกคนตรงหน้าจนทำให้เธอตอบรับด้วยความสงสัย

    "ว่า??"

    "เล่าให้ฟังหน่อยได้มั้ยว่ามันเกิดอะไรขึ้นตั้งแต่หลังจากที่ฉันขึ้นไปพูดบนเวที" กียุลปิดหนังสือลงแล้ววางไว้หัวเตียง ถอดแว่นหนาเตอะออกแล้วเก็บไว้ในสูทโนอาห์เผยให้เห็นดวงตาที่ฉายแววจริงจังแต่ก็ซ่อนความเป็นห่วงไว้ 

    "ก็.." ทิวานึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อสองวันก่อนแล้วทำการเรียบเรียงในสมองอยู่เป็นนาที 

    "..."

    "นึกออกแล้ว ครูมารีวานให้ฉันกับเพื่อนๆเอาของไปเก็บที่ตึกเรียนน่ะ ตอนนั้นฉันหงุดหงิดมากๆเพราะว่ามันขาดช่วง แต่ก็ช่างเถอะ ระหว่างกลับเจ้านิลก็ร้องแล้ววิ่งเข้าไปในห้องผอ.แล้วตะกุยลิ้นชัก ฉันเลยเปิดดูก็เจอกล่องสีทองน่ะ พอพวกฉันเดินออกมาก็มีคนยิงปืนมาแต่โรซารี่พาหลบก่อนแล้วก็วิ่งหนี แม่ก็วิ่งมาเจอพอดี เห็นแม่บอกว่าพวกมันกำลังไล่ตามหาของอยู่ แล้วของที่มันต้องการคือกล่องที่เจ้านิลไปเจอ พวกมันวิ่งตามมาแล้วจะยิงโรซารี่ฉันเลยกระโดดรับกระสุนแทน เลยโดนไปที่ขา 1 นัด แล้วทีนี้ครูมารีก็มาช่วยแต่ก็เกือบไม่รอด ต้องขอบคุณลูกดอกของนายจริงๆนะเนี่ย แต่ครูมารีก็จะโดนยิงฉันเลยไปรับกระสุนไว้เหมือนกันเลยโดนที่แขนอีก 1 นัด ฉันก็ล้มลงไปเลย ก่อนสลบฉันเห็นครูฌาแนตต์วิ่งมาช่วยในสภาพที่สะบักสะบอมมาก แล้วฉันก็หลับไปเลยน่ะ" ทิวาเล่าเหตุการณ์อย่างยาวเหยียด กียุลก็ตั้งใจฟังโดยไม่ได้พูดแทรกอะไร

    "งั้นขอถามอะไรหน่อยสิ"

    "?"

    "ทำไมเธอถึงไปรับกระสุนแทนโรซารี่กับครูมารีล่ะ"

    "ฉันทำไปก็เพราะปกป้องคนที่ฉันรัก ก็เท่านั้นแหละ ^_^" ทิวายิ้มแฉ่งให้กียุล

    "เป็นฉัน ฉันก็จะทำแบบเธอล่ะนะ ถ้ามันไม่มีทางออกจริงๆ แต่ว่าสัญญากับฉันหน่อยได้มั้ยว่าจะไม่หายไป.." กียุลยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าทิวา

    "อื้ม! นายก็เหมือนกันนะ" ทิวาเอื้อมมือไปเกี่ยวก้อยกับกียุล

    "ฉันสัญญา"

    "ฉันสัญญา"

    "ค่อยอุ่นใจหน่อย เธอนี่ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อยเลยยย" กียุลขยี้หัวทิวาด้วยความมันเขี้ยวสุดๆ

    "โอ้ยยย ผมฉันยุ่งหมดแล้ววว"

    "อ้อใช่ เมื่อกี้ที่เธอเล่าน่ะ ที่บอกว่าขาดช่วง อะไรขาดช่วงเหรอ~?"

    "อะไร!? ขาดช่วงอะไรไม่มี้!! ไม่มีเล้ยยย!! >0<" ทิวาปฏิเสธเสียงสูง


    [..ที่ตึกเรียนน่ะ ตอนนั้นฉันหงุดหงิดมากๆเพราะว่ามันขาดช่วง..]


    "กรี๊ดดดดด!! นายอัดเสียงไว้เหรอนายตี๋!!??" ทิวาจะเอื้อมมือไปแย่งโทรศัพท์ที่มือกียุลแต่ก็เอื้อมไม่ถึงเพราะกียุลหลบได้

    "อ๊ะๆ หลักฐานคาหนังคาเขาขนาดนี้จะปฏิเสธอะไรอีกล่ะ หืม?" กียุลเก็บโทรศัพท์ไว้ที่กระเป๋ากางเกงแล้วหันมาแค้นคำตอบจากทิวา

    "ก็บอกว่าไม่มีอะไรไง!!"

    "พูดจริง??"

    "ก็ใช่น่ะสิ!! ไม่มีอะไรที่มันขาดช่วงเลย!!"


    [..ที่ตึกเรียนน่ะ ตอนนั้นฉันหงุดหงิดมากๆเพราะว่ามันขาดช่วง..]


    [..ตอนนั้นฉันหงุดหงิดมากๆเพราะว่ามันขาดช่วง..]


    [..ฉันหงุดหงิดมากๆเพราะว่ามันขาดช่วง..]


    [..เพราะว่ามันขาดช่วง..]


    "เปิดย้ำทำไมยะ!!!!! >///<"

    "ให้คนแถวนี้ถามมั้ง?" กียุลกวนประสาทอย่างลอยหน้าลอยตา

    "ก็บอกว่าไม่มีอะไรไง!!"

    "จะบอกไม่บอก?"

    "ไม่บอก!!"

    "แน่ใจนะ?"

    "แน่ใจสิ!! ว้ายยย!!!"

    กียุลหยิบแมลงสาบ(ปลอม)ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นไปตรงหน้าทิวาเพราะรู้ว่าเธอกลัวเลยกะจะแค่แหย่เล่น ทิวาที่เห็นแมลงสาบก็ตกใจพยายามหนี แต่ด้วยความที่เจ็บขาเลยได้แต่ดิ้นอยู่บนเตียง =_=;

    "กรี๊ดดดดดดดดดดด!!!!!"

    "บอกมั้ยย~"

    "ไม่บอกโว้ยย!!! กรี๊ดดดเอามันออกป๊ายยยย!!! ToT"

    "ไม่บอกก็ไม่เอาออกอะ" กียุลยื่นแมลงสาบ(ปลอม)ให้เข้าใกล้หน้าทิวามากขึ้น 

    "เอามันออกไปเถอะะะ ฉันขอร้องงงง ToT"

    "ไม่"

    "น้า เอามันออกไปเถอะ ฮึก T^T"

    "0_0"

    "ฮึก ฮึก.. ฮืออออ ToT" 

    "เฮ้ย!? ทะ..ทิวา หยุดร้องนะ ฉันไม่แกล้งแล้ว" กียุลรีบขว้างแมลงสาบ(ปลอม)ออกไปนอกหน้าต่างแล้วปลอบทิวาที่กำลังร้องไห้ 

    "ฮืออออ ToT"

    "ฉันขอโทษนะทิวา หยุดร้องไห้เถอะนะ"


    'โธ่เว้ย! ไหนสัญญากับตัวเองแล้วไงกียุลว่าจะไม่ทำทิวาร้องไห้ เรามันแย่ที่สุดเลยว่ะ'


    "ฮึก.. ฮึก.. รู้อยู่แก้ใจว่าฉันกลัวมาก แล้วทำไมยังเอามาแกล้งเหมือนเรื่องสนุกได้ล่ะ"

    หมับ!

    กียุลดึงทิวาเข้ามากอดแล้วคอยลูบหัวให้เธอหยุดร้อง ร่างบางซบหน้าลงแล้วสะอื้นบนไหล่ของร่างสูง สูทโนอาห์ชุ่มไปด้วยน้ำตาของหญิงสาว แต่เขาก็ไม่มีท่าทีรังเกียจใดๆเลย แถมยังใช้แขนเสื้อของเขาคอยเช็ดน้ำตาให้โดยไม่กลัวเลอะ กียุลเห็นว่าทิวาเริ่มสะอื้นเบาลงแล้วก็ตัดสินใจพูดออกไป

    "ในฐานะประธานนักเรียนโรงเรียนเจ้าชายโนอาห์คลาสดุ๊ก ผมคิม กียุล ขอกล่าวขอบคุณทางโรงเรียนเจ้าหญิงลาฟลอสำหรับที่พัก การกินอยู่ การเรียนการสอนและทุกๆอย่างที่ได้ช่วยเหลือกับทางเรามากๆครับ ความสัมพันธ์ของทั้งสองโรงเรียนนั้นแน่นแฟ้นกันมานาน และจะแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นในอนาคตครับ...."

    "(;-;  )?" ทิวาเงยหน้ามองกียุลอย่าง งงๆ คราบน้ำตายังเปรอะแถวๆขอบตาเธอ กียุลเห็นอย่างนั้นก็ใช้มือหน้าเช็ดน้ำตาให้ก่อนจะพูดต่อ

    "...ในช่วงระยะเวลาเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ทางลาฟลอร่าได้มอบประสบการณ์และความทรงจำดีๆให้แก่ผม เพื่อนๆผม และทุกคนๆได้จดจำไว้ มีกิจกรรมมากมายที่ได้ทำร่วมกัน นักเรียนโรงเรียนลาฟลอร่าเป็นมิตรมากๆเลยครับ ไปที่ไหนก็ทักตลอด แถมยังชวนกันไปกินข้าว ขอถ่ายรูปตลอด..."

    "อุ๊ปส์ ฮ่าๆๆ นายนี่ก็พูดติดตลกเป็นนะเนี่ย"

    "ก็มีนิดนึงไม่ได้รึไงล่ะยัยลิง"

    "ต่อๆฉันอยากฟังต่อ *-*"

    "โอเคๆ ขอบคุณลาฟลอร่า สถานที่ที่แสนวิเศษ ที่ทำให้ผมได้เจอกับคนๆนึง ที่จะเปลี่ยนชีวิตผมไป.. ตลอดกาล" 

    หลังจากคำว่าตลอดกาล ริมฝีปากของชายหนุ่มก็ประทับลงบนริมฝีปากของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน ทำให้คนถูกจูบตกใจเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ยอมให้อีกฝ่ายจูบต่อไป เมื่อจูบจนพอใจแล้วชายหนุ่มจึงละริมฝีปากออก ใบหน้าของทั้งสองขึ้นสีแดงระเรื่อพอๆกัน แต่คนที่หน้าแดงหนักกว่าก็คงเป็นทิวาที่ถูกจูบโดยไม่ทันตั้งตัว

    ".////."

    "อันนี้ใช่มั้ย ที่เธอบอกว่าขาดช่วงน่ะ"

    "นายรู้ได้ไง .////."

    "ฉันเดาเอา เก่งใช่มั้ยล่ะ?" กียุลพูดแล้วเก๊กท่าหล่อ(?)

    "จ้าๆพ่อคนเก่ง เก่งตาย -_-;"

    "เก่งแล้วรักมั้ยล่ะ?"

    "ถามบ้าอะไรเนี่ย!? >///<"

    "ก็ถามดูเผื่อคนแถวนี้จะรักกลับมาบ้าง"

    "โอ้โหถ้าอย่างนี้เวลามีแมวเดินผ่านมานายก็ถามหมดน่ะสิ -////-"

    "ไม่ถามอะ ถามแค่เธอ"

    "พอเลยๆๆ นายไปทำงานเถอะ ฉันอยู่คนเดียวได้ละ" ทิวาดันตัวกียุลเบาๆให้คลายอ้อมกอด

    "ทีตอนแรกรั้งให้ฉันอยู่ แต่ตอนนี้กลับไล่ให้ไป สรุปยังไงของเธอเนี่ย??"

    "ไม่รู้! รู้แค่ว่าฉันเขินนี่นา!! >///<"

    "งั้นฉันไปเอางานมาทำที่นี่ดีกว่า จะได้เฝ้าเธอพร้อมทำงานไปด้วยเลย"

    "ก็ได้ รีบๆมานะ"

    "ยังไงของเธอเนี่ย? -_-;"

    "รีบๆไปได้แล้วน่า!!!"

    "โอเคๆ ว่าแต่เธอทำตัวอย่างนี้ก็.."

    "?"

    "น่ารักดีนะ" กียุลทิ้งระเบิดไว้ในห้องแล้วรีบปิดประตูไปเอางานที่ห้องทำงานโดยไม่สนใจคนที่นั่งช็อคกับแรงระเบิดเมื่อครู่เลยสักนิด ทิวาหน้าแดงแปร๊ดกับคำชมที่(น่าจะ)หลุดออกจากปากของกียุลแล้วทิ้งตัวลงกับเตียงเอาหน้าซุกหมอนระบายความเขินแล้วกรี๊ดในลำคออยู่อย่างนั้น


    'ชอบทำให้เขินอยู่เรื่อยเลย ตาตี๋บ้า!'


    ทางฝั่งของไอริณและพวกเหมยฮัว

    ตอนนี้ไอริณได้ให้พวกเด็กๆทุกคนแยกย้ายกันไปฝึกซ้อมกับอาวุธประจำตัวในสถานที่ที่เธอได้จัดเตรียมไว้ สำหรับคนที่เป็นฝ่ายซัพพอร์ตจะได้ซ้อมยิงปืนร่วมกัน ส่วนคนที่เป็นฝ่ายต่อสู้ก็แยกกันไปซ้อมตามอาวุธที่ตัวเองเลือกไว้ในตอนแรก

    "เอาล่ะจ้ะ สำหรับพวกเธอ ถึงจะเป็นฝ่ายซัพพอร์ตแต่ก็ควรมีทักษะการต่อสู้ไว้หน่อยก็ดีนะ พวกนี้จะเป็นอาวุธประจำตัวอีกอันของพวกเธอจ้ะ" ไอริณแจกปืนให้อเล็กเซ โรซารี่กับนาซิสซ่าคนละกระบอก

    "ครับ/ค่ะ"

    "งั้นเรามาเริ่มยิงกันเลย.."


    ปัง!


    "...มั้ย? เธออย่ารีบสิอเล็กเซ!" ยังพูดไม่ทันจบเสียงปืนก็ดังขึ้นมา ไอริณหันไปดุอเล็กเซที่ยิงปืนไปเมื่อครู่

    "ขอโทษครับ พอดีผมชอบยิงปืนกับคุณพ่ออยู่แล้วน่ะครับก็เลยเผลอไปนิดนึง ^^;" อเล็กเซลดปืนลงแล้วเกาหัวแก้เขิน(?)

    "คราวหน้าคราวหลังก็ควรฟังผู้ใหญ่พูดให้จบก่อนนะจ้ะ แล้วเธอยิงโดนเป้ามั้ย?"

    "โคตะระแม่นเลยค่ะครูไอริณ" โรซารี่มองไปยังเป้ายิงปืนอย่างอึ้งๆ นาซิสซ่าที่ยืนอยู่ข้างๆก็อึ้งไม่แพ้กัน

    ไอริณหันไปมองเป้ายิงปืนตาม รูที่ถูกยิงโดยกระสุนปืนของอเล็กเซทะลุไปตรงวงกลมแดงๆตรงกลางอย่างแม่นยำ ต้องเป็นคนที่มีฝีมือหรือถูกฝึกมาอย่างดีถึงจะทำอย่างนั้นได้ 


    'อเล็กเซสุดยอดไปเลย' โรซารี่อวยอยู่ในใจ


    "เธอเก่งมากๆเลย งั้นครูให้เธอไปซ้อมยิงปืนตรงเล่นนั้นละกันนะ" ไอริณชี้ไปที่เลนยิงปืนเลนนึงที่ห่างจากเลนที่พวกเค้ายืนอยู่ประมาณ 4 เลน

    "ได้เลยครับ!" อเล็กเซรีบวิ่งไปประจำที่แล้วรัวกระสุนใส่เป้าไม่ยั้ง


    ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!


    "โดนตรงกลางหมดทุกนัดเลย" โรซารี่พูดขึ้น

    "ฝีมือโหดจริงๆนะเนี่ย งั้นเรามาเรียนยิงปืนกันบ้างดีกว่านะจ้ะสาวๆ ^^" ไอริณกลับมาให้ความสนใจกับสองสาวต่อ

    "ค่ะ!"

    "ก่อนอื่นเลย เราต้องจัดท่าทางให้ถูก ยืนตัวตรงกับเป้า เท้าแยกพอประมาณ น้ำหนักตัวอยู่ระหว่างกลางของเท้าทั้งสองข้าง ขาเหยียดตึง ล็อกเข่า เอว ไหล่ คอตั้งตรง ตามองที่เป้า" ไอริณยืนในท่ายิงปืนที่ถูกต้องให้ทั้งสองดูและทำตาม

    "จับให้สูงใกล้แนวลำกล้องมากที่สุด เพื่อลดแรงสะท้อนถอยหลัง จับปืนให้กระชับให้แนวลำกล้องอยู่ใกล้แนวแขนมากที่สุด จัดวางนิ้วชี้ให้พอดีกับตำแหน่งที่เหนี่ยวไก ออกแรงบีบหน้าด้ามปืน ส่งแรงผ่านอุ้งมือ แล้วอัดเข้ากับข้อมือ มือที่ไม่ถนัดนำมาประกบ ล็อกข้อมือ"

    ปัง!

    "เริ่มได้แล้ว เห็นมั้ย?" ไอริณชมนาซิสซ่าที่ยิงปืนเมื่อกี้ กระสุนที่ยิงออกไปโดนแถวๆเส้นวงกลมเส้นที่สามนับจากวงกลมตรงกลาง

    "ขอบคุณค่ะ หนูจะพยายามฝึกต่อไปเรื่อยๆนะคะ" นาซิสซ่ากล่าวขอบคุณไอริณแล้วจัดท่าเตรียมยิงปืนต่อ

    กริ๊ก!

    "อ๊ะ กระสุนหมดเหรอ?"

    "พักก่อนก็ได้นะจ้ะนาซิสซ่า" ไอริณตบเบาะเก้าอี้ข้างๆเป็นเชิงให้นาซิสซ่ามานั่ง

    "ก็ได้ค่ะ" นาซิสซ่าวางปืนลงแล้วเดินไปนั่งลงข้างๆไอริณ

    "ดื่มอะไรหน่อยมั้ยฮะคุณนาซิสซ่า?" อเล็กเซที่เดินมากับโรซารี่ถาม

    "ฉันมีน้ำเปล่าแล้วน่ะ ขอบใจมากนะอเล็กเซ"

    "ฮะ!" อเล็กเซตอบรับแล้วนั่งลงข้างๆโรซารี่ที่นั่งข้างไอริณ

    "หนูนาซิสซ่านี่เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ" ไอริณทักนาซิสซ่า

    "เอ๋!? เปลี่ยนไปยังไงเหรอคะ?"

    "ใช่แล้ว เธอน่ะเปลี่ยนไปนะ เมื่อก่อนขี้โวยวาย ชอบดูถูกคนอื่น หยิ่งยโส แต่ตอนนี้เธอเปิดใจมากขึ้น แถมดูดีขึ้นด้วย" โรซารี่ชม(?)

    "หนูดูอ่อนโยนขึ้นเยอะเลยจ้ะ จากที่เมื่อก่อนใครมีอะไรก็จะพูดกับเค้าแบบห้วนๆ หยิ่งในศักดิ์ศรี ไม่ค่อยยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือใคร แต่จากที่ดูเมื่อกี้ตอนหนูปฏิเสธอเล็กเซ หนูพูดได้อย่างมีมารยาทและดูสง่างามมากๆเลยล่ะจ้ะ ทิวาก็เล่าให้ฟังบ่อยๆเรื่องของหนูอะนะ บอกว่านาซิสซ่าเปลี่ยนไปแบบที่ไม่น่าเปลี่ยนไป แต่ยังไงนาซิสซ่าก็คือนาซิสซ่าคนเดิม เค้าบอกมางี้จ้า"

    "จริงเหรอเนี่ย.. 0///0"

    "จริงสิครับ! ไม่งั้นคุณดันเต้จะหลงรักหัวปักหัวปำเหรอฮะ?" อเล็กเซแอบแซวทางอ้อม

    "จะบ้าเหรอ!! >/////<"

    "แหมๆ มีแฟนแล้วไม่เบานะเนี่ยหนูนาซิสซ่า~"

    "ครูไอริณก็!! >/////<"

    "ฮะๆ ครูไม่แกล้งแล้วก็ได้จ้า เดี๋ยวครูขอตัวไปดูเพื่อนๆเธอซ้อมหน่อยนะ" ไอริณบอกลาทั้งสามแล้วเตรียมลุกขึ้นยืนออกไป

    "อ้อ! แล้วก็จำไว้นะจ้ะ ปืนมันก็เหมือนดาบสองคม ถึงเรามีแต่ใช้ไม่เป็น มันก็ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเราได้ เรามี ใช้เป็นแต่ไม่กล้าใช้ก็เหมือนกัน เวลาฝึกยิง ยิงแม่น แต่พอต้องยิงคนจริงๆกลับไม่กล้า มันก็ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเราเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ถ้าเกิดต้องยิงจริงๆ ให้กล้าเข้าไว้ แล้วยิงไปเลยนะจ้ะ! ห้ามลังเล! ครูไปก่อนน้า บ๊ายบาย~" ไอริณทิ้งคำสอนเล็กๆน้อยๆให้ทั้งสามคนก่อนจะเดินหายไป

    "งั้นเราก็มาฝึกกันต่อเถอะ" โรซารี่ลุกขึ้นแล้วชวนอีกสองคนไปซ้อมยิงปืนต่อ

    "ก็ได้ย่ะ"

    "ได้เลยฮะ"


    'เราต้องกล้าที่จะใช้สินาซิสซ่า ห้ามลังเล ใครบังอาจมาทำร้ายเพื่อนฉัน ฉันจะจัดการมันด้วยปืนกระบอกนี้นี่แหละ!'


    ห้องฝึกกังฟู

    "ไฮ้ย่า!!!!" เสียงของเหมยฮัวดังขึ้นเป็นระยะๆ ดึงความสนใจจากไอริณที่กำลังเดินผ่านห้องที่เหมยฮัวอยู่ให้เข้าไปดู

    แอ๊ด…

    "ไฮ้ย่า!!!!"

    ตู้ม!!!

    "=_=;"

    "อ๊ะ! อาครูไอริณ สวัสดีน่อ!" เหมยฮัวหันมาทักไอริณแล้วกระโดดลอยตัวไปเตะลูกตุ้มหนามเหล็กจนแตกกระจาย

    ตู้ม!!!!!!

    "อ่า..สวัสดีจ้ะ.." ไอริณทักตอบ แล้วเดินไปดูการซ้อมต่อสู้ของเหมยฮัวใกล้ๆ

    เหมยฮัวกระโดดหลบธนูที่ถูกยิงออกมาจากด้านทั้งสี่อย่างคล่องแคล่ว หยิบกระบองสองท่อนที่ติดตัวมาขว้างไปที่คันธนูที่ถูกซ่อนทั้งสี่ทิศ เกิดแรงปะทะกันอย่างรุนแรงจนไอริณต้องปิดหู 

    "เหมยฮัว พักก่อนมั้ย?" ไอริณตะโกนถามเหมยฮัวที่กำลังกระโดดหลบลูกตุ้มกลางอากาศ

    "ก็ดีน่อ! อั๊วกำลังเหนื่อยอยู่พอดี" เหมยฮัวทิ้งตัวลงมาตามแรงโน้มถ่วงแล้วตกลงบนเบาะลม

    "เธอเก่งใช้ได้เลยนะเนี่ย" ไอริณเดินมาหาเหมยฮัวที่นอนแผ่อยู่บนเบาะลมแล้วยื่นน้ำเปล่าให้

    "ขอบคุณน่อ แต่ว่าพี่สาวอั๊วน่ะเก่งกว่าร้อยเท่าเลยล่ะ ฝีมืออั๊วเทียบกับพี่สาวไม่ได้เลย"

    "อย่าดูถูกตัวเองสิจ้ะ คนเราน่ะความสามารถต่างกัน แล้วแต่ว่าเราถนัดอะไรแล้วค้นหาตัวตนเจอมั้ย การที่หนูมีพี่สาวที่เก่งกาจในด้านกังฟูแบบนี้ มันก็เหมือนเป็นแรงผลักดันให้หนูพัฒนาตัวเองให้เหมือนพี่สาวได้ ขอแค่อย่ายอมแพ้ ก่อนคนจะเก่ง ก็เริ่มจากศูนย์ทุกคนแหละจ้ะ ฝึกฝนไปเรื่อยๆแล้วสักวันหนูก็จะเก่งกว่าพี่สาวตัวเองได้นะ เหมยฮัว" ไอริณหันไปยิ้มให้กำลังใจเหมยฮัวที่นอนฟังอยู่อย่างอ่อนโยน

    "..." เหมยฮัวไม่พูดอะไรแล้วพยักหน้าตอบรับ

    หมับ!

    "เล่นกับครูเร็วไปสิบปีนะจ้ะ"

    "ฝีมือเฉียบขาดจริงๆเลยน่อ"

    ในระหว่างที่ไอริณกำลังพูดอยู่ เหมยฮัวก็ค่อยๆเปิดกลไกคันธนูที่อยู่ข้างหลังไอริณให้ยิงธนูออกมา เธอกะจะแค่ทดสอบความว่องไวของครูที่เธอนับถือเฉยๆ ถึงรู้อยู่แล้วว่าจะต้องจับได้ แต่อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงได้ ไม่ลองก็ไม่รู้ 

    ไอริณใช้แขนซ้ายคว้าธนูที่เกือบจะเฉี่ยวหน้าเธอโดยไม่หันไปมองข้างหลังเลยสักนิดแล้ววางมันลงอย่างเบามือ

    "เล่นทีเผลอนี่จ้ะ เจ้าเล่ห์ไม่เบานะเหมยฮัว"

    "มีบ้างอะไรบ้างน่อ อาคุณครูเก่งมากเลยจริงๆ สมกับที่เป็นสายลับอันดับต้นๆของโลกที่องค์กรมืดต่างหวาดกลัว ><"

    "ขอบใจจ้ะ กว่าจะผ่านจุดนั้นมาทำเอาหืดแทบขึ้นคอแน่ะ"

    "เพราะอาคุณครูมีความพยายาม ถึงก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆมาได้ อั๊วจะเป็นแบบอาคุณครูให้ได้เลยน่อ!"

    "มุ่งมั่นอย่างนี้สิถึงจะเป็นเหมยฮัว ยังไงก็ปรึกษาครูได้ตลอดเลยนะจ้ะ งั้นครูขอตัวไปดูทางฝั่งเจ้าชายก่อนนะ" ไอริณลุกขึ้นโบกมือลาเหมยฮัวแล้วเดินออกจากห้องฝึกกังฟูไป เหมยฮัวโค้งคำนับเป็นการบอกลาแล้วเดินไปส่งไอริณที่ประตูห้อง

    "เซี่ยเซี่ยน่อ อาคุณครูไอริณ"


    ไอริณเดินออกมาจากห้องฝึกกังฟูโดยไม่ได้สังเกตอะไรเลยว่ามีคนแอบซุ่มมองอยู่ ดวงตาภายใต้แว่นกลมมองไปยังแผ่นหลังของไอริณอย่างครุ่นคิด เพราะว่าเมื่อกี้เขาได้ยินอะไรบางอย่างที่อาจจะเป็นความลับเล็ดลอดออกมาจากภายในห้องนั้น


    '..สมกับที่เป็นสายลับอันดับต้นๆของโลกที่องค์กรมืดต่างหวาดกลัว'


    "..." เขาลุกขึ้นจากที่ซ่อนตัวแล้วมุ่งหน้าไปยังที่ๆเขาต้องการไป ใบหน้าที่ตีหน้าเคร่งขรึม จริงจังเหมือนไม่มีอะไรที่ต้องคิดมาก แต่ภายในใจกลับมีคำถามตีวนกันอย่างสับสนไปหมด 


    'ตกลงคุณเป็นใครกันนะ แม่'


    ห้องฝึกซ้อมอาวุธมีคม

    แกร๊ง!

    ภายในห้องมีเสียงเหล็กกระทบกันดังขึ้นไม่ขาดสาย ตอนนี้ฮอรัส ดันเต้และยูริกำลังโจมตีใส่หมาป่าหุ่นยนต์ที่ตอนนี้สภาพก็จะพังแหล่ไม่พังแหล่ ทั้งดาบ เคียวเกี่ยวข้าวและมีดสั้นถูกฟาดลงไปที่ตัว

    หมาป่าหุ่นยนต์พร้อมๆกันทำให้หมาป่าหุ่นยนต์ช็อตและเกิดแรงปะทะพร้อมเสียงดังก้องไปทั่วห้อง


    ตู้ม!!!!!!


    'มาอีหรอบเดิมกับเหมยฮัวเลยแฮะ =_=;' ไอริณนึกในใจแล้วปาดเหงื่อ


    หลังจากที่เสียงระเบิดเงียบไป ควันที่ออกมาจากหมาป่าหุ่นยนต์ฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง ปรากฏภาพของคนทั้งสามคนลุกขึ้นแล้วเดินมาทางที่ไอริณยืนอยู่พร้อมกัน น่าแปลกที่โดนแรงระเบิดปะทะอย่างจัง แต่กลับไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลยสักคน รอยถลอกขีดข่วนก็ไม่มีสักรอย

    "สวัสดีเจ้าค่ะครูไอริณ ^^" ยูริที่เดินมาถึงคนแรกทักไอริณ

    "สวัสดีครับ/สวัสดีขอรับ" ดันเต้กับฮอรัสทักไอริณพร้อมกัน

    "สวัสดีจ้ะ การฝึกซ้อมเป็นยังไงบ้างเอ่ย?"

    "ก็พอได้เจ้าค่ะ แต่ยังไม่ชินเวลาจะต้องแทงใครสักคนจริงๆ ทำใจอยู่นานเลยเจ้าค่ะ"

    "ผมชอบเคียวเกี่ยวข้าวมากๆเลยครับ มันโค้งงอแถมยังคมสุดๆ เวลาเหวี่ยงไปฟันท่อนอะไรก็ขาดสองท่อนอย่างง่ายดายสุดๆ ถ้าต้องฟันศัตรูผมคงฟันแหลกเลยล่ะครับ ฮ่าๆๆ" ดันเต้พูดติดตลกแต่เนื้อหาที่พูดมันช่างน่ากลัวจนทำให้ทั้งสามกลืนน้ำลายดังเอื๊อก


    'โหดจังเลยเจ้าค่ะ =_=;'


    'ซาดิสม์สุดๆลูกศิษย์ฉัน =_=;'


    'ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตล่ะขอรับงานนี้ =0=;'


    "เอ๋? ทำไมทุกคนทำหน้าอย่างนั้นล่ะครับ? ('w'  )"

    "มะ.. ไม่มีอะไรจ้ะ" ไอริณรีบปฏิเสธทันควัน

    "แค่เหนื่อยๆน่ะเจ้าค่า แหะๆ ^^;"

    "ปวดแขนนิดหน่อยนะขอรับเลยทำหน้าแบบนั้น ^^;"


    'ทำหน้ากลัวเอ็งนั่นแหละว้อยย!!!!' ทั้งสามตะโกนในใจอย่างพร้อมเพรียง..


    "แล้วฮอรัสเป็นยังไงบ้างล่ะจ้ะ" ไอริณวกกลับมาเข้าเรื่องเดิมก่อนจะประสาทเสียกับดันเต้ไปมากกว่านี้

    "กระผมยังเห็นจุดบอดของตัวเองน่ะขอรับ เวลาฟาดดาบไปที่คู่ต่อสู้ยังช้าไป แถมกำลังแขนยังไม่ค่อยจะมี ตั้งรับแต่ละครั้งทำระบมแขนไปหมดเลยขอรับ แต่กระผมจะฝึกฝนให้มากกว่านี้นะขอรับ"

    "โอเคเลยจ้ะ ดีมากเลยที่เห็นจุดบอดของตัวเองแบบนี้ ยังไงครูก็ขอลองฝึกกับพวกเธอหน่อย.."

    แกร๊ง!

    "นะ" 

    "ว้า~ พลาดแล้วเจ้าค่า"

    ไอริณหยิบดาบที่อยู่ใกล้ๆตัวมารับมีดสั้นของยูริได้ทันเวลา มีดสั้นเกือบจะเข้าไปปักในเอวของไอริณ แต่โชคดีที่เธอเบี่ยงตัวรับทัน ดันเต้และฮอรัสตกใจกับการโจมตีที่เล่นทีเผลอของยูริจนต้องกระโดดหลบไม่ให้โดนลูกหลงไปด้วย

    "เล่นทีเผลออีกแล้วนะจ้ะ มาเจอกันตรงๆหน่อยมั้ย?" ไอริณถอยหลังไปตั้งหลักแล้วกระชับดาบในมือแน่น

    "มาเลยเจ้าค่ะ" ยูริหยิบมีดสั้นสองอันออกมาจากสูทลาฟลอร่าแล้วตั้งท่าเตรียมโจมตี

    ทั้งสองวิ่งเข้าหากัน ไอริณฟาดวงดาบไปที่ยูริโดยไม่ลังเล แต่เธอก็พลาดท่าให้ลูกศิษย์ตัวเอง ยูริที่อ่านเกมออกก็เบี่ยงตัวไปทางตรงข้ามกับที่ไอริณฟาดวงดาบแล้วใช้มีดฟันไปที่แขนขวาของไอริณจนมีเลือดสีแดงฉานไหลออกมา ไอริณที่เห็นว่าสถานการณ์เริ่มจะแย่ก็หมายจะใช้ดาบโจมตีไปอีกครั้ง ยูริที่เห็นว่าคู่ต่อสู้ของตนยังเล่นเกมเดิมก็ใช้วิธีการเดิมนั่นก็คือเบี่ยงตัวไปทางตรงข้ามแล้วฟันเสีย 

    "ขอโทษด้วยนะจ้ะ"

    "เอ๊ะ?"

    เมื่อกี้ไอริณก็แค่'หลอก'ยูริว่าจะใช้วิธีการเดิมเมื่อคู่ต่อสู้ติดกับไอริณก็รีบเบี่ยงตัวไปด้านหลังของยูริแล้วถีบเข้าที่หลังเธออย่างจัง ทำให้ยูริกระเด็นไปโดนลูกหลงทั้งสองที่ยืนดูอยู่ไกลๆ ทั้งสองเลยกลายเป็นเบาะรับให้ยูริซะงั้น

    "โอ๊ย.. เจ็บๆๆๆ" ยูริลุกขึ้นนั่งแล้วจับหลังตัวเอง สีหน้าแสดงถึงความเจ็บปวดจนไอริณรู้สึกผิดมากๆ

    "ขอโทษนะยูริ เป็นอะไรรึเปล่า?" ไอริณพยุงยูริให้ยืนขึ้น

    "ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ แต่แขนของครูไอริณมัน.." ยูริมองไปที่แขนขวาของไอริณ รอยแผลถูกฟันที่เธอสร้างไว้ ถึงจะเป็นแค่การซ้อม ยังไงเธอก็รู้สึกผิดมากๆ

    "สบาย~ แปบเดียวก็หายจ้ะ หนักกว่านี้ยังเคยโดนมาแล้วเลย"

    "ขอโทษนะเจ้าคะ!!" ยูริโค้งตัวขอโทษไอริณ

    "..." ไอริณอึ้งไปนิดๆกับการกระทำของลูกศิษย์เธอ ไอริณยิ้มให้ยูริแล้วลูบหัวเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร "ระวังเงยขึ้นมาแล้วจะปวดหลังนะ"

    "โอ๊ย!!!!"

    "เฮ้อ ไม่ทันขาดคำ" 

    "งั้นเดี๋ยวกระผมจะพายูริไปห้องพยาบาลนะขอรับ" ฮอรัสรีบมาพยุงยูริที่กำลังล้มลงไป

    "ฝากด้วยนะจ้ะ เอาล่ะดันเต้!"

    "คะ..คร้าบ!!"

    "มาเริ่มกันเลยมั้ย?" ไอริณตวัดดาบออกมา

    "มาเลยครับ!!!" ดันเต้หยิบเคียวเกี่ยวข้าวที่วางอยู่บนโต๊ะ

    ดันเต้วิ่งตรงไปทางไอริณที่ยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ดันเต้แสยะยิ้มในใจก่อนจะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น เขายกเคียวขึ้นแล้วลงแรงฟาดมันไปที่กลางลำตัวของไอริณ แต่ก็พลาดท่าเพราะไอริณถอยหลังหลบ ทำให้ดันเต้เสียหลักเซ เปิดโอกาสให้ไอริณได้ถีบเข้าที่แผ่นหลังเขาเต็มๆ

    ตู้ม!!!

    "เธอต้องฝึกไหวพริบให้ไวกว่านี้นะจ้ะ ไม่มีคู่ต่อสู้คนไหนยืนนิ่งๆให้อีกฝ่ายโจมตีหรอก" ไอริณเดินมาพยุงดันเต้ที่ล้มกองกับพื้นให้ลุกขึ้นยืน

    "ครูไอริณนี่สุดยอดจริงๆเลยนะครับ วันหลังฝึกให้ผมบ้างสิครับ" ดันเต้ค่อยๆลุกขึ้นยืน เขาหน้าหยีนิดๆเพราะรู้สึกเจ็บที่หลัง แต่ก็ทนได้

    "ขอโทษนะจ้ะ ไหวรึเปล่า ไปห้องพยาบาลมั้ย?"

    "ไม่เป็นไรครับ แค่พักแปบเดียวเดี๋ยวก็หาย"

    "งั้นเธอเอายาไปทาแก้ปวดหน่อยเถอะนะ จะได้ไม่เจ็บมาก" ไอริณหยิบหลอดยาสีเขียวๆให้ดันเต้

    "ขอบคุณครับ งั้นผมขอตัวกลับห้องก่อนนะครับ เริ่มปวดหลังแล้ว T^T"

    "Hey!!! อ่าว Hello Miss Airin ฮอรัสกับยูริไปไหนแล้วล่ะดันเต้?" แขกรับเชิญคนใหม่ที่มีนามว่าคริสโตเฟอร์โผล่พรวดเข้ามาแล้วยิงคำถามใส่ดันเต้ทันที

    "ไปห้องพยาบาลน่ะ มีอะไรรึเปล่าคริส?"

    "จะมาอวดสนับมือใหม่น่ะ จงดูซะ!!!!!" คริสโตเฟอร์แอ๊กท่ากัปตัน C.L.O.C.K. แล้วโชว์สนับมืออันใหม่ให้ไอริณกับดันเต้ดู สนับมือสีแดงสดที่ดูจะเหมือนปกติแต่ติดตรงที่ว่าปลายของสนับมือทั้งสองข้างมีตัวตุ๊กตารูปมดที่ดูคลับคล้ายคลับคลามาสคอตของชมรมมดน้อยอาสาที่ถูกยึดด้วยสปริงยื่นออกมาเด้งดึ๋งๆข้างละสองตัว เอ่อ.. 


    'What the ??? =_=;' ดันเต้อุทานในใจ

    'เอ่อ.............. =0=;' ไอริณถึงกับอึ้งกับความแฟบูลัส(?)ของสนับมือ


    "It's cool right!!!! พวกยูนี่ตาถึงกันจริงๆ" คริสโตเฟอร์ชกอากาศสองสามทีแล้วเก๊กท่ากัปตัน C.L.O.C.K. ต่อ ทำให้ตุ๊กตามดน้อยเด้งไปเด้งมาอย่างน่ารัก

    "ครูพูดไม่ออกเลยจ้ะ... ^^;"

    "แถมสนับมือนี้มีออฟชั่นพิเศษด้วยนะ!!!" คริสโตเฟอร์แกะตัวตุ๊กตามดน้อยออกทั้งสี่ตัวแล้วปาไปที่จุดๆนึงของห้อง เกิดระเบิดควันออกมามากมายจนทั้งสองยกเว้นคริสแทบสำลักควัน

    ตู้ม!!!!!

    "แค่ก แค่ก" ดันเต้ไอไม่หยุดเพราะสำลักควันที่เยอะเกินไป เขารีบวิ่งออกมาอยู่ในที่โล่งๆก่อนที่จะสำลักควันตายเพราะเพื่อนตัวแสบ คริสโตเฟอร์วิ่งตามออกมาติดๆส่วนไอริณก็เดินออกมาอย่างสบาย เพราะใส่หน้ากากกันแก๊สที่ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหนอยู่

    "ความจริงถ้าถูกใช้งานจริงๆจะบรรจุแก๊สน้ำตา แก๊สยาสลบ ควันปลอมกับระเบิดจริงไว้อย่างละ 1 ลูกเลยนะดันเต้!" คริสโตเฟอร์ยังไม่หยุดโม้เรื่องสนับมือใหม่ของตน

    "เรื่องสนับมือเอาไว้ก่อนได้มั้ย ตอนนี้ฉันจะตายอยู่แล้ว!! ToT" ตอนนี้สภาพดันเต้ไม่สู้ดีเอามากๆ จมูกแดง น้ำหูน้ำตาไหล ไอตลอดเวลา คริสโตเฟอร์เพิ่งสังเกตเห็นสภาพเพื่อนของตนก็รีบบึ่งพาไปห้องพยาบาลทันที

    "ไอขอพาดันเต้ไปห้องพยาบาลก่อนนะครับครูไอริณ!"

    "รีบๆไปให้ไวเลยจ้ะ -_-;"

    คริสโตเฟอร์ลากดันเต้ไปห้องพยาบาลด้วยความเร็วที่เสือยังวิ่งตามไม่ทัน ไอริณถอดหน้ากากกันแก๊สออกแล้วยืนยิ้มให้ทั้งสองคนนั้น 


    'นานแค่ไหนแล้วนะ ที่ไม่ได้เห็นภาพที่วุ่นวายแต่มีความสุขแบบนี้'


    ห้องสภานักเรียน

    "นายจะให้ฉันนั่งวีลแชร์มาทำไมเนี่ย!!!!" ทิวาตะโกนถามกียุลทันทีที่ตัวเธอและกียุลเข้ามาในรัศมีของห้องสภานักเรียน

    "ช่วยดูขาของตัวเองเถอะแล้วค่อยถามนะยัยลิง" กียุลตอบอย่างกวนประสาท ทิวาไม่โต้ตอบกลับเพราะที่เขาพูดมันคือเรื่องจริง ตอนนี้เธอยังเดินไม่ได้ ต้องใช้ไม้ค้ำช่วยไม่ก็วีลแชร์เท่านั้น

    "..." ทิวาได้แต่ทำหน้าจ๋อยๆ เพราะว่าตนไม่ได้อยากนั่งวีลแชร์เลยสักนิด แต่จำเป็นต้องนั่ง

    "วันหลังฉันไม่ใช้วีลแชร์แล้ว จะไปนั่งตรงโซฟานั่นมั้ย?" 

    "ไม่ล่ะ ฉันจะช่วยนายทำงาน"

    "โอเค งั้นฉันขออุ้มเธอไปนั่งที่เก้าอี้ละกันนะ"

    "อืม"

    กียุลช้อนตัวทิวาขึ้นแล้วเดินไปที่เก้าอี้กำมะหยี่ตรงโต๊ะทำงานของเขา ทิวากอดคอกียุลหลวมๆกันตัวเองตกจากอ้อมแขน ร่างสูงรู้สึกชอบใจที่ร่างบางโอบคอเขา แต่ก็ไม่แสดงออกทางสีหน้าให้เธอรู้

    "นายยิ้มทำไมน่ะ? - -"

    มั้ง..?

    "เปล่า!!" กียุลรีบปฏิเสธอย่างโคตรมีพิรุธ เขาค่อยๆวางทิวาลงบนเก้าอี้อย่างทะนุถนอมแล้วก็อ้อมไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

    "แล้วพาฉันมาที่นี่ทำไมอ่ะนายตี๋?"

    "ก็ทำงานที่นี่สะดวกกว่า แถมยังมีห้องน้ำห้องครัวห้องนอนของฉันด้วย ฉันคิดว่าที่นี่น่าจะโอเคกว่า"

    "อ้าว นี่ห้องนายเหรอ?"

    "ก็ไม่เชิง"

    "อ่อ.. แล้วฉันช่วยอะไรได้บ้างอ่ะ?"

    "ตอนนี้เธอยังเขียนไม่ได้ งั้นคอยตรวจสอบความถูกต้องให้หน่อยละกัน"

    "นายรู้ได้ไงว่าฉันถนัดมือขวา?"

    "คนที่ใส่ใจก็อย่างนี้แหละ ^^" กียุลเงยหน้าจากกองเอกสารแล้วยิ้มให้ทิวาแล้วก้มหน้าทำงานต่อ

    "-////-"

    "อ่ะใบนึง ตรวจเสร็จแล้วก็วางไว้ในตะกร้าเลยนะ" กียุลยื่นใบเอกสารให้ทิวาแล้วก้มหน้าทำงานต่อ

    "โอเคๆ อืม... ลายมือนายก็สวยใช้ได้เลยนะเนี่ย"

    "คนมันเพอร์เฟกต์ก็เพอร์เฟกต์ยันลายมือนั่นแหละ"

    "โอ้โห พูดมาได้.. งั้นดูนี่!" ทิวาหยิบกระดาษเปล่ากับปากกามาเขียนเป็นภาษาไทยว่า 'ตาตี๋แว่นขี้เก๊ก' อย่างง๊อกๆแง่งๆ เสร็จแล้วก็ยื่นให้กียุลดู

    "โห.. ลายมือสวยมากๆ ขนาดแขนยังใช้งานไม่ค่อยจะได้นะเนี่ย"

    "ขอบคุณ"

    "ว่าแต่คำนี้อ่านว่าอะไร?" กียุลเงยหน้ามองทิวาอย่างต้องการทำตอบ

    "ตาตี๋แว่นขี้เก๊ก"

    "แล้วทำไมต้องเขียนคำนี้ด้วยล่ะ?"

    "คิดไม่ออกอ่ะ เลยใช้คำที่พูดบ่อยๆมาเขียนแทน"

    "คิดถึงฉันล่ะสิ"

    "คิดถึงก็บ้าละ เพิ่งบอกว่าเอาคำที่พูดบ่อยๆมาเขียน"

    "แต่ฉันคิดถึงนะ"

    "ห๊ะ?"

    "ล้อเล่น ฮ่าๆๆๆ"

    "นึกว่าพูดจริง ก็เพราะว่าฉันก็คิดแบบนายเหมือนกัน~"

    "-////-"

    "เถียงไม่ออกล่ะสิ!"

    "ทำงานต่อเถอะ ไม่งั้นฉันไม่ให้กินข้าวเย็นนะยัยลิงกัง"

    "นายตี๋ใจร้าย!!!"


    3 ชั่วโมงผ่านไป

    "โอยยยยย เหนื่อยยยยย" ทิวาวางเอกสารใบสุดท้ายลงบนตะกร้าแล้วทิ้งตัวลงกับเก้าอี้อย่างอ่อนเพลีย

    "เป็นไงล่ะความทรหดของสภานักเรียน"

    "นายทนมันมาได้ไงตั้งหลายปี งานโคตรเยอะเลย!"

    "มันเป็นหน้าที่นี่ ฉันหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก ยิ่งถูกเลือกมาอย่างนี้ยิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "ฉันล่ะนับถือนายในด้านนี้จริงๆ เป็นฉันคงไมเกรนกินตายตั้งนานแล้วล่ะ"

    "ปกติฉันทำคนเดียวตั้ง 6-7 ชั่วโมง พอเธอมาช่วยมันเสร็จเร็วขึ้นเยอะเลย ขอบคุณนะยัยลิง"

    "ช่วยเรียกให้มันปกติหน่อยได้มั้ยยะ! -*-"

    "ขอบคุณครับทิวา =_=;"

    "ค่อยฟังลื่นหูหน่อย~" ทิวาไถลไปกับเก้าอี้กำมะหยี่นุ่มนิ่ม

    "..."

    "..."

    "..."

    "เน่" หญิงสาวเอ่ยขึ้นท่ามกลางควาบเงียบ

    "?"

    "ไม่ดีใจเหรอ?"

    "ดีใจอะไรล่ะยัยลิง?"

    "ก็.. ตอนนี้น่ะ เราได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกแล้วนะ"

    "ดีใจสิ ดีใจมากๆ ดีใจที่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง"


    'บางทีเราก็ไม่ต้องการอะไรมาก'


    'ขอแค่มีคนที่คอยทะเลาะไร้สาระกับเรา'


    'คนที่อยู่ด้วยแล้วก็มีความสุขก็พอ'


    'เมื่อไหร่เธอจะรักฉันสักทีนะ ยัยลิง'




    _____________________________________________________________________
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×