ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Laflora Secret ไขปมความรักกับสายลับ 5 สาว

    ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 10 : แฝงตัว

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.พ. 64


    T
    B

    10

    แฝงตัว


    ตอนนี้เวลาประมาณบ่ายสอง หลังจากที่ฟังผลการรักษาของทิวาจากไอริณว่าทิวาปลอดภัยแล้ว ทุกคนดีใจสุดๆ บางคนถอนหายใจอย่างโล่งอก ส่วนกียุลอาสาจะเฝ้าทิวาเพราะถึงจะไม่ได้อยู่ในขั้นอันตรายแล้ว แต่อะไรก็ไม่แน่นอน ไอริณจึงพาพวกเด็กๆมาพักที่ห้องรับรองของโนอาห์ เขาเดินกลับไปที่ห้องพยาบาลแล้วปล่อยให้ที่เหลือไปพัก เมื่อทั้งเก้าคนเดินมาถึงห้องรับรองไอริณก็จัดการอธิบายแผนงานทันที เพื่อไม่ให้เสียเวลามากไปกว่านี้

    "ทางโรงเรียนเจ้าชายโนอาห์จะเริ่มการเรียนการสอนในวันพรุ่งนี้..." ไอริณกำลังอธิบายแผนงานให้ทั้งแปดคนฟัง ในส่วนของทิวาและกียุลนั้น ไอริณจะอธิบายแผนการให้ทั้งสองฟังนอกรอบหลังจากที่คุยกับทั้งแปดเสร็จ

    "ทางองค์กรไม่ทราบว่าของทั้ง 3 ชิ้นที่อยู่บนเรือโนอาห์จะอยู่ที่ลำไหน ส่วนไหนบ้าง ทางเราจึงส่งสายสืบไปประจำเรือต่างๆ ส่วนเรือคลาสดุ๊กนี้ ครูจะให้พวกเธอเป็นสายสืบในเรือนี้นะจ้ะ แล้วก็มีสายลับรุ่นพี่อีก 2 คนมาคอยดูแล"

    "ค่ะ/ครับ"

    "อ้อ เพื่อความปลอดภัยจากการโดนจับได้ พวกเธอต้องไปพักห้องเดียวกับพวกเจ้าชายนะจ้ะ จะได้ช่วยเหลือกันทัน เดี๋ยวทางครูจะปลอมประวัติให้เธอเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน เดี๋ยวขอข้อมูลส่วนตัวพร้อมชื่อที่เธอจะใช้สำหรับการปลอมตัวเป็นผู้ชายด้วยนะจ้ะ" ไอริณเปิดแลปท็อปแล้วพิมพ์ยุกยิกๆลงในนั้น

    "ชื่อโรท เกรย์เลอร์ อายุ 17 ปี สัญชาติอังกฤษ สูง 172 ซม. หนัก 47 กก.ค่ะ" โรซารี่บอก

    "ชื่อฟูจิยูริ ยู เจ้าค่ะ อายุ 17 ปี สัญชาติญี่ปุ่น สูง 165 ซม. หนัก 44 กก.เจ้าค่ะ"

    "ชื่อหยิน เหมยหยางน่อ อายุ 17 ปี สัญชาติจีน สูง 166 ซม. หนัก 45 กก.น่อ"

    "ชื่อครีเอทดีนะจ้ะ ^^;"

    "ชื่อนาร์เซส เลเฟอร์ค่ะ อายุ 17 ปี สัญชาติฝรั่งเศส สูง 169 ซม. หนัก 46 กก.ค่ะ"

    "โอเค น้ำหนักพวกเธอน้อยไปสำหรับผู้ชาย งั้นเดี๋ยวครูลองคำนวณหาค่าน้ำหนักใหม่ให้พวกเธอละกันนะ ต่อไปนี้จะเป็นแผนทั้งหมดนะจ้ะ

    พวกเธอจะต้องเริ่มเรียนกับนักเรียนเจ้าชายโนอาห์ในอีก 3 วัน ระหว่างนั้นพวกเธอต้องฝึกการใช้อาวุธและการป้องกันตัว ส่วนในวันที่เธอเรียน ตอนเย็นหลังเลิกเรียนพวกเธอจะต้องมาฝึกการต่อสู้วันละ 30 นาทีทุกวัน พวกเธอทุกคน รวมทั้งเจ้าชายด้วยนะ ต้องพกอาวุธติดตัวคนละ 1 อย่างเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้น"

    "..."

    "ภายในเรือมีทั้งหมด 8 ชั้น พวกเธอแบ่งงานกันเอาเองนะว่าจะไปสำรวจชั้นไหนยังไงบ้าง ส่วนนี่คือเข็มกลัดไว้สำหรับติดต่อสื่อสารกัน จะได้สะดวกมากขึ้น" ไอริณยื่นเข็มกลัดสัญลักษณ์โนอาห์ให้ทั้งแปดคน 

    "ใช้งานง่ายๆแค่เอามือไปสัมผัสก็สามารถติดต่อหากันได้แล้ว ส่วนเรื่องการเรียนการสอน ทางเราจะทำการเตี๊ยมกับทางโรงเรียนให้ ครูจะให้พวกราชาป็นบัดดี้พวกเธอนะ ประกบคู่กันไปเลย รายละเอียดก็บอกกันเองเน้อ~ ^^"

    "ค่า../ครับ.. -_-;"


    'จะรอดมั้ย(วะ)คะ/ครับ?'


    "ส่วนเรื่องเครื่องแบบ เดี๋ยวตอนเย็นครูจะเอามาให้นะ อยากดัดแปลงแบบไหนก็ทำได้จ้า ที่นี่อนุญาตเหมือนลาฟลอร่านั่นแหละ แต่อย่าลืมนะ 'เราต้องปลอมตัวเป็นผู้ชาย' "

    "ว้าว ดัดแปลงได้ด้วยล่ะน่อ!"

    "นั่นสินะเจ้าคะ เหมยฮัวทำให้ยูริด้วยได้มั้ยเจ้าคะ"

    "ได้เลยน่อ"

    "ยัยหมวยทำให้ฉันด้วยนะยะ"

    "ฉันด้วยสิ"

    "เอ่อ....."


    'ไม่มีใครสนใจฉันเลย =_=;' ไอริณคิด


    "อะแฮ่ม!" ไอริณกระแอมทีนึง ทำให้พวกผู้หญิงหันกลับมาให้ความสนใจคุณครูสายลับต่อ

    "ว่าต่อเลยค่ะ แหะๆ ^^;"

    "ครูจะให้ดูรูปของที่พวกเธอต้องหานะจ้ะ ชิ้นแรกคือพรม" ไอริณเปิดรูปในแลปท็อปแล้วหันหน้าจอไปทางพวกเขา ภาพที่ปรากฏขึ้นมีลักษณะเป็นพรมหนังสัตว์มีลวดลายที่ถูกวาดอย่างสวยงามแต่แปลกประหลาดบนพรมผืนนั้น 

    "พรมผืนนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ The Summer 's Triumph Tapestry หรือ ชัยชนะแห่งฤดูร้อน ถูกขโมยไปจากพิพิธภัณฑ์ในเมืองบรูจส์ ประเทศเบลเยียม บนพรมมีรูปวาดที่มีรูปสิ่งของคล้ายๆUFOปรากฏบนพรมผืนนั้น นักทฤษฎีสมคบคิดก็ให้ความสนใจของมันอย่างไม่ขาดสาย ต่อไปก็ก้อนหินจ้า"

    ไอริณกดปิดรูปพรมก่อนจะพิมพ์ยุกยิกๆลงแลปท็อปก่อนที่หน้าจอดับอยู่แวบนึงแล้วปรากฏรูปก้อนหินประมาณ 4-5 ก้อนเรียงรายอยู่ในภาพๆนั้น

    "ก้อนหินพวกนี้มีชื่อว่า Giants balls of Costa Rica เป็นหินกลมมนที่หนักกว่า 16 ตัน ปัจจุบันสูญหายไปมาก ทำให้หลงเหลือเก็บรักษาไว้ได้น้อย ในที่นี้ที่สูญหายเป็นลูกขนาดประมาณลูกเทนนิสจ้ะ อีกชิ้นที่อยู่ในโนอาห์คือเฟืองจ้า~"

    ไอริณทำแบบเดียวกับที่จะเปิดดูรูปเมื่อสองรูปเมื่อกี้ แล้วภาพเฟืองที่พวกเจ้าชายทั้ง 4 ที่คุ้นตาก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขาบนจอแลปท็อป

    "กระผมขอตัวก่อนนะขอรับ" จู่ๆฮอรัสก็ลุกขึ้นพรวดแล้วลากเพื่อนราชาอีก 3 คนออกจากห้องไป ปล่อยให้สาวๆที่เหลือ งงว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร ไอริณจึงเล่าประวัติของเฟืองให้สาวๆฟังต่อ

    ฮอรัสที่ลากเพื่อนๆออกมาจนพ้นจากรัศมีห้องรับรองแล้วหยุดยืนอยู่ตรงเสาต้นหนึ่ง ทั้ง 3 คนยืนงงเป็นไก่ตาแตก สีหน้าบ่งบอกว่าลากฉันออกมาทำไม

    ชายหนุ่มชาวอียิปต์มองหน้าพวกราชาแล้วทำสายตาบ่งบอกประมาณว่า "ถอดเข็มกลัดออกก่อนขอรับ" แล้วแกะเข็มกลัดบนสูทนักเรียนโนอาห์สีขาวแล้วเอามันไปวางในกระถางต้นไม้ที่เสาข้างๆ ที่เหลือเห็นสิ่งที่ฮอรัสทำก็ทำตามน้ำไป

    "เข็มกลัดนั่น นอกจากจะสื่อสารกันได้แล้วก็สามารถดักฟังได้ด้วยนะขอรับ กระผมจึงขออนุญาตเอามันออกสักครู่" ฮอรัสเดินกลับมาที่เดิมแล้วกอดอกพูดกับเพื่อนๆทั้งสาม

    "ข้อนั้นฉันก็พอรู้นะ แต่ว่าลากพวกเราออกมามีอะไรรึเปล่าฮอรัส?" ดันเต้เปิดประเด็นใส่ฮอรัส ปกติเขาเป็นคนนิ่งๆเคร่งขรึม จะเป็นไปได้ยากมากที่เขามีท่าทีลนลานจนถึงขั้นลากพวกเขาออกมาจากห้อง ถึงจะแสดงออกมาให้เห็นน้อยมากก็ตาม

    "กระผมจะขอคำปรึกษาว่า ควรบอกเรื่องเฟืองนั่นให้ครูไอริณรู้ดีมั้ยขอรับ?"

    "ไอว่าบอกๆไปเถอะ เรื่องมันจะได้ง่ายขึ้น ทั้งๆที่ของ 1 ใน 5 มันอยู่ในมือพวกเราแล้วน่ะ" คริสโตเฟอร์พูดตามที่เจ้าตัวคิด

    "ผมว่าอย่าเพิ่งเลยดีกว่าครับ ของสิ่งนั้นพวกเรายังไม่แน่ใจเลยว่ามันจะใช่เฟืองอันนั้นจริงๆรึเปล่า เรายังไม่ได้ตรวจสอบอะไรเลยนะครับ ถ้าสมมติมันไม่ใช่หรือว่ามันเป็นกับดักขึ้นมา มันจะแย่เอา แถมตอนนี้ก็โดนตามล่าอยู่อย่างนี้มันจะวุ่นวาย" ดันเต้ใช้มือจับปลายคางแล้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วแย้งคริสโตเฟอร์กลับไปอย่างใจเย็น

    "เหตุผลของยูก็ถูกนะดันเต้ ก็ตามที่ดันเต้บอกนั่นแหละ"

    "แล้วคุณอเล็กเซล่ะว่าไงขอรับ"

    "ก็เอาตามนั้นแหละ.. แต่ว่าอย่าพูดมากไปล่ะ" สิ้นเสียงที่ฟังดูลึกลับของอเล็กเซ ทุกคนก็เงียบลงโดยไม่ได้นัดหมาย ผ้าคลุมของอเล็กเซขยุกขยิกอยู่ครู่นึง กระสุนปืนสีเงินลอยออกจากปากกระบอกปืนในมืออเล็กเซที่เมื่อกี้กำลังหยิบปืนออกมาจากผ้าคลุม กล้องวงจรปิดที่ซ่อนอยู่มุมอับแตกกระจายแล้วร่วงลงพื้นตามแรงโน้มถ่วงของโลก


    ปัง!


    เพล้ง!


    "!?"

    "พวกคุณก็ระวังตัวด้วยนะฮะ คอยสอดส่องมองให้ทั่ว ผมสังเกตว่ากล้องวงจรปิดตัวนี้ไม่มีสัญลักษณ์ของโนอาห์ ผมเลยเดาว่าน่าจะใช่แน่ๆ" อเล็กเซเก็บปืนลงในผ้าคลุมแล้วเดินไปดูผลงานที่เขาสร้างไว้เมื่อกี้ก่อนจะหยิบเมมโมรี่การ์ดในกล้องวงจรปิดขึ้นมาแล้วเหยียบชิ้นส่วนที่กองอยู่กับพื้นที่เหลืออย่างไม่ใยดี

    "โหด..." ทั้ง 3 ยืนอึ้งกับกิริยาของเพื่อนในผ้าคลุม นานๆเขาจะออกมาในโหมดเลือดเย็น และเมื่อไหร่ที่เขาออกมาในโหมดนี้นั่นหมายความว่าเขาเอาจริงแล้ว


    "พวกเราก็กลับห้องรับรองกันเถอะฮะ เดี๋ยวต้องไปดูแลแฟนของตัวเองอีกน้า~" อเล็กเซหันมายิ้มให้เพื่อนๆแล้วเดินไปหยิบเข็มกลัดที่กระถางก่อนที่จะเดินนำหน้าไป เพื่อนๆวางตัวไม่ถูกเมื่อเจออเล็กเซโหมดดาร์ก เขาเดินตามชายตัวเล็กไปโดยที่ไม่ลืมที่จะหยิบเข็มกลัดมาติดไว้ที่เดิมด้วย

    "วิถีสายลับ ต้องทำลายหลักฐาน" คริสโตเฟอร์พูดขึ้นแล้ววิ่งกลับไปทางที่ตนเดินมาเมื่อกี้ เขารีบกวาดเศษกล้องวงจรปิดแล้วโยนออกนอกหน้าต่างเรือให้ลงทะเลจนหมดแล้ววิ่งกลับไปหาเพื่อนๆที่ห้องรับรอง

    "ทำดีมากขอรับ" ฮอรัสที่ยืนรออยู่หน้าห้องก็ชมเชยเพื่อนจากใจจริง

    "Thanks! เข้าไปกันเถอะ" 


    ปัง!


    ฟิ้ว~ว


    ทั้งสี่เปิดประตูเข้าไปก็พบแต่ความว่างเปล่า มีใบไม้ปลิวผ่านหน้าพวกเขาสองสามใบพร้อมกับลมที่มาจากไหนก็ไม่รู้ จู่ๆเข็มกลัดของคริสโตเฟอร์ก็กระพริบสีเขียวสองครั้งแล้วมีเสียงของแฟนสาวชาวญี่ปุ่นที่เขาฟังกี่ทีก็มีความสุขดังขึ้นจากเข็มกลัด

    [คุณคริสได้ยินมั้ยเจ้าคะ?]

    "ได้ยินยูริจัง! ว่าแต่พวกยูอยู่ไหนกันเหรอ?"

    [ครูไอริณพามาที่โรงยิมพิเศษแล้วน่ะเจ้าค่ะ ยูริก็เลยมาบอกทุกๆคนว่าให้ตามมาด้วยนะเจ้าคะ พวกยูริจะรอ]

    "โรงยิมพิเศษ? ที่ห้องพักของพวกไออ่ะนะ? แล้วพวกยูเข้าไปได้ยังไงน่ะ??"

    "นั่นสิครับ ปกติที่นั่นมีแต่พวกผมที่เข้าได้เพราะว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของห้องพักของพวกผม ซึ่งโรงยิมมันอยู่ในห้องรวมของห้องนันทนาการของราชาทั้ง 5 ในห้องนั่งเล่น คนที่เข้าไปได้ก็มีแต่พวกผมนี่ครับ แล้วเข้าไปได้ยังไงอ่ะครับ?" ดันเต้ที่ยืนฟังบทสนทนาข้างๆคริสโตเฟอร์ก็ร่ายคำถามกับคำอธิบายที่ไม่มีใครถามออกมาเป็นชุด


    [ครูไอริณให้คุณกียุลเปิดให้น่ะเจ้าค่ะ ตอนนี้เขาก็ไปเฝ้าคุณทิวาเหมือนเดิมแล้ว]

    "อ่อ..." ง่ายดี =_=;

    "งั้นเดี๋ยวไอจะรีบตามไปนะ See you ยูริจัง!"

    [เจ้าค่ะ] แล้วยูริก็กดวางสายลง

    "งั้นเราก็รีบตามไป.. อ้าว?" คริสโตเฟอร์เงยหน้าขึ้นจากเข็มกลัดแล้วหันไปพูดกับเพื่อนๆ แต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า(อีกแล้ว) เหลือแต่ดันเต้ที่คอยแทะเผือกอยู่ข้างๆ

    "พวกนั้นหายไปไหนกันหมดอ่ะ? =_=;" คริสโตเฟอร์เกาหัวแกรกๆแล้วถามดันเต้อย่าง งงๆ

    "ไปที่โรงยิมพิเศษตั้งแต่ที่คุณยูริบอกว่าพวกเธออยู่ที่นั่นแล้วน่ะ"

    "งั้นเราก็ไปบ้างเถอะ" คริสโตเฟอร์ควงแขนดันเต้แล้วพาเดิน(ลาก)ไปที่โรงยิมพิเศษทันที 

    "หวา!?" แต่คนที่โดนควงแขนตั้งตัวไม่ทันทำให้เกือบเสียหลักล้มลง ถ้าไม่ได้อ้อมแขนอันแข็งแกร่งของคริสโตเฟอร์(?)เขาก็คงล้มหัวคะมำไปแล้ว

    "ไอไม่ทำยูบาดเจ็บหรอก แต่เกาะแขนไอให้แน่นๆล่ะ ดันเต้ ^_^" คริสโตเฟอร์ฉีกยิ้มกว้างสไตล์เขาให้เพื่อนชายที่โดนเขาเดินควงแขนอยู่ข้างๆ ทำให้ดันเต้หน้าแดงขึ้นนิดๆเพราะการกระทำที่คาดไม่ถึงของเขา

    "คร้าบๆ -//-;"


    ห้องพักราชาทั้ง 5


    แกร๊ง!


    ภายในห้องพักมีเสียงเหล็กกระทบกันดังขึ้น ทำให้ทั้งสองที่อยู่หน้าประตูชะงักและเงี่ยหูฟังว่ามันเป็นเสียงอะไร แต่การกระทำมักจะไวกว่าความคิด คริสโตเฟอร์บิดลูกบิดเข้าไปในห้องก็พบแต่ความว่างเปล่า

    ภายในห้องไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆนอกจากจุลินทรีย์ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เสียงเหล็กกระทบกันไม่ได้ดังจากห้องนั่งเล่น แต่มันดังมาจากโรงยิมพิเศษที่อยู่ในห้องนันทนาการอีกที พวกเขาจึงเดินเข้าไปดูว่ามีอะไร ภาพมีดสั้นกระทบกับโซ่ของกระบองสองท่อนปรากฏต่อหน้าพวกเขาทั้งสอง คนที่ต่อสู้กันก็คือยูริและเหมยฮัว ส่วนคนอื่นๆก็หายไปไหนไม่รู้


    ยูริพุ่งตรงไปที่เหมยฮัวแล้วคว้ามีดสั้นที่ซ่อนอยู่ในสูทลาฟลอร่าสีเขียวออกมาแล้วหมายที่จะแทงสาวหมวย เหมยฮัวอ่านการเคลื่อนไหวออกก็รีบเบี่ยงตัวไปด้านข้าง ทำให้รอดจากการโดนเฉือนจากยูริ แต่ยูริยังไม่ปราณี เธอหันตัวกลับมาแล้วมุ่งเป้าไปที่สาวหมวยอีกครั้ง แต่ยูริเคลื่อนไหวเร็วเกินไปทำให้เหมยฮัวหลบไม่ทัน แต่ใช้กระบองสองท่อนที่เคยเกือบทำร้ายทิวาตอนเจอกันครั้งแรกออกมารับมีดไว้ เกิดเสียงเหล็กกระทบกันดังลั่นห้อง ทั้งสองดีดตัวออกจากกันเพื่อกลับไปตั้งหลักใหม่ แต่ในขณะที่ทั้งสองกำลังวิ่งเข้าหากันก็มีเสียงๆนึงดังขึ้นทำให้ทั้งคู่หยุดชะงัก

    "Stop!!!!!!" คริสโตเฟอร์ตะโกนห้ามสาวทั้งสองด้วยใบหน้าซีด ดวงตาของเขาเบิกกว้างสื่อว่าตกใจในสิ่งที่เห็นมาก ดันเต้ที่ยืนข้างๆเขาก็มีใบหน้าที่ซีดไม่แพ้กัน


    เพล้ง!


    "คุณคริส!?/อาคริส!?" สองสาวรีบปล่อยอาวุธของตนลงพื้นทันที ในใจคิดว่าซวยแล้ว ที่ให้ทั้งสองที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่มาเห็นเหตุการณ์พอดี 

    "พวกยูทำอะไรของยูน่ะ!? เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ!!??" คริสโตเฟอร์ตะคอกใส่สองสาวที่ยืนทำตัวไม่ถูก ทั้งสองหันมามองหน้ากันแล้วส่งสายตาเป็นนัยๆว่าแล้วจะแก้ตัวยังไงดี 

         

    แอ๊ด..


    แต่พวกเธอก็ยังโชคดี ประตูที่เชื่อมต่อกับโรงยิมพิเศษ(อีกที)ถูกเปิดออกมาอย่างมีมารยาทโดยไอริณและเพื่อนๆที่เหลือของพวกเขาก็เดินตามออกมาก่อนจะปรบมือให้


    แปะ แปะ แปะ


    "นี่หมายความว่ายังไงครับ?" ดันเต้ที่โคตรจะไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปเร็วก็ถามไอริณทันที 

    "มันเป็นการทดสอบการใช้อาวุธที่คิดว่าตัวเองถนัดน่ะจ้ะ" ไอริณอธิบาย 

    "งั้นแสดงว่าเมื่อกี้.." 

    "ใช่แล้วฮะ! ก็แค่ทดสอบเฉยๆ ไม่มีใครตั้งใจทำร้ายใครอยู่แล้วฮะ~" อเล็กเซอธิบายเสริมจากไอริณ

    "แล้วทำไมพวกยูไม่บอกไอล่ะยูริจัง! เหมยฮัว! -*-" คริสโตเฟอร์แผ่รังสีอำมหิตใส่สองสาว

    "ก็มันไม่รู้จะพูดยังไงนี่เจ้าคะ ^^;"

    "ใช่แล้วน่อ ถ้าอธิบายไปไม่เข้าหูก็ต้องอธิบายยาว.."

    "เลยให้ครูไอริณอธิบายแทนน่ะเจ้าค่ะ/น่อ" ทั้งสองประสานเสียงกัน

    "โอเค การทดสอบใช้อาวุธทั้งคู่ผ่านนะจ้ะ คู่ต่อไป คริสกับดันเต้ละกัน" ไอริณจดบางอย่างลงบนกระดาษที่ถือมาแล้วชี้ปลายปากกาไปที่คู่หูคริสเต้

    "ทดสอบอะไรเหรอครับ!?"

    "ก็ทดสอบว่าเธอคู่ควรกับอาวุธอันไหนไง ถ้าเราใช้อาวุธที่เราถนัดก็มีชัยไปกว่าครึ่งนะ เชิญเลือกอาวุธได้เลยจ้า" ไอริณผายมือไปที่ผ้าม่านสีแดง ผ้าม่านนั้นค่อยๆเลื่อนขึ้นอย่างช้าๆ ด้านหลังผ้าม่านมีโต๊ะที่มีอาวุธหลากชนิดเรียงรายนับร้อยอัน แต่ละอย่างดูอันตรายสุดๆ

    คริสโตเฟอร์เลือกสนับมือ เขาบอกว่าเวลากัปตัน C.L.O.C.K. ต่อสู้มักจะใช้มือเปล่า มันคูลดี ดันเต้เลือกเคียวเกี่ยวข้าวส่งตรงจากประเทศไทย ด้วยรูปร่างที่โค้งงอแต่มีความคมที่เฉียบขาด ทำให้องค์กรโลกนับว่ามันเป็นอาวุธ(?)ด้วย แต่ดันเต้เข้าใจผิดว่าเป็นอาวุธจากนอกโลกจึงเลือกใช้อาวุธนี้ 

    เพื่อความปลอดภัยของคนดู ไอริณก็สั่งให้ทุกคนเข้าไปสังเกตการณ์ที่อีกห้องนึง แล้วปล่อยให้คริสโตเฟอร์กับดันเต้ทดสอบการใช้อาวุธตามลำพัง


    … 


    วันต่อมา


    ทางด้านทิวา

    ภายในห้องพักฟื้นคนไข้ มีร่างบางของหญิงสาวนอนหลับใหลอยู่ ตามร่างกายมีผ้าพันแผลปิดตามรอยแผลที่เธอได้มาตอนวิ่งหนีกลุ่มคนร้าย สายน้ำเกลือและสายอื่นๆพันกันระโยงระยางเต็มไปหมด ผ่านมาวันนึงแล้วแต่เธอก็ไม่มีวี่แววที่จะฟื้นขึ้นมาเลย ชายหนุ่มใส่แว่นหนาเตอะละสายตาจากหนังสือเล่มหนาในมือขึ้นมามองหญิงสาวที่นอนพักฟื้นอยู่เป็นระยะๆ เขามองดวงตาคู่สวยที่ตอนนี้กำลังหลับตาพริ้มอยู่แล้วยิ้มให้เธอ 

    "หลับสบายเชียวนะยัยลิง" เขาหยิบปอยผมที่ตกลงมาปรกหน้าของหญิงสาวไปทัดหูของเธอแล้วกลับมาอ่านหนังสือต่อ 

    ครึ่งชั่วโมงผ่านไปก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นอีกตามเคย ความเป็นห่วงและกังวลภายในใจกียุลเริ่มก่อตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หนังสือในมือเขาเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วอยู่หน้าไหน ตอนนี้ก็ยังค้างอยู่หน้านั้น เขาไม่ได้อ่านมันสักนิด แต่ในใจกำลังนึกโทษตัวเองว่าปกป้องคนๆนั้นไม่ได้ อยากจะหยิบบาดแผลกับความเจ็บปวดมาไว้ที่ตัวเขามากๆแต่ก็ทำไม่ได้ 


    แอ๊ด..


    เสียงเปิดประตูดึงกียุลออกมาจากห้วงความคิด คนที่เป็นคนเยี่ยมไข้คนใหม่ของทิวาก็คือไอริณนั่นเอง

    "สวัสดีครับ" กียุลวางหนังสือไว้ที่หัวเตียงแล้วยืนก้มหัวให้ไอริณตามมารยาท

    "สวัสดีจ้ะ เป็นไงบ้างเหรอ?"

    "ยังไม่ฟื้นเลยครับ"

    "ครูหมายถึงเธอหรอกกียุล ไม่ไหวก็อย่าฝืนนะ" ไอริณใช้ปลายปากกาที่ถือติดมือมาชี้ไปที่กียุล

    "เอ่อ.. ผมไม่เป็นไรครับ แค่เป็นห่วงเธอ ก็เท่านั้น.." 

    "ทิวานี่โชคดีจริงๆเลยน้า มีคนที่รักคอยดูแลอยู่ไม่ห่างอย่างนี้"


    ‘ประโยคนี้เหมือนที่ครูห้องพยาบาลพูดเลย’


    "ไม่หรอกครับ แค่อยากให้มั่นใจว่าทิวาปลอดภัยจริงๆ"

    "ตอนนี้คงปลอดภัยแล้วแหละจ้ะ เรามาดูความคืบหน้าของทางฝั่งนั้นกันบ้างดีกว่านะ" ไอริณกวักมือเรียกกียุลให้มานั่งตรงโซฟาข้างๆเตียงคนไข้แล้วรายงายผลการทดสอบอาวุธให้กียุลฟัง

    "ผลของฝั่งเจ้าชาย อเล็กเซ อาวุธประจำตัวคือยาและสารเคมี อเล็กเซสามารถผสมยาชนิดต่างๆให้เป็นยาพิษร้ายแรงได้หลายรูปแบบ ยาเสริมกำลังกายและทักษะที่เป็นประโยชน์เช่นช่่วยให้เคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น และผลิตยาเพื่อรักษาได้ด้วย เหมาะที่จะเป็นฝ่ายสนับสนุนมากกว่า อาวุธประจำตัวคริสโตเฟอร์คือสนับมือ  ดูท่าทางเขาถนัดเรื่องชกต่อยมากกว่าจะใช้ปืนนะจ้ะ"

    "ครับ สนับมือ ดูเหมาะกับมันดี.. =_=;"

    "ต่อไป อาวุธประจำตัวดันเต้คือเคียวเกี่ยวข้าว ดูเหมือนเขาจะเข้าใจผิดว่าเป็นของจากนอกโลกแน่ๆเลย ครูแค่เอามาวางไว้เล่นๆขำๆไม่คิดว่าจะโดนเลือกไปจริงๆ แต่ว่าเขาดูเหมาะกับเคียวมากๆเลย ลักษณะใบมีดที่โค้งงอและใบมีดที่แหลมคมสามารถฟันลำตัวของคู่ต่อสู้ให้ขาดเป็นสองท่อนได้สบายๆ"

    "เอื๊อก..(เสียงกลืนน้ำลาย)"


    'มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว(โว้ย)ครับ! =__=;'


    "คนสุดท้ายของฝั่งเจ้าชาย อาวุธประจำตัวฮอรัสคือดาบยาว ด้วยความว่องไวและทักษะที่เป็นเลิศในการใช้ดาบ ทำให้ฮอรัสได้ดาบไปจ้า~" 


              แปะๆๆๆ


    ไอริณยิ้มปริ่มแล้วปรบมืออย่างภาคภูมิใจดั่งแฟนคลับที่รู้ว่าศิลปินที่ตัวเองชอบได้รับรางวัล

    "ส่วนฝั่งเจ้าหญิงนะจ้ะ โรซารี่และนาซิสซ่าเป็นฝ่ายสนับสนุน อาวุธประจำตัวของโรซารี่คือแว่นที่บรรจุลูกดอกยาพิษไว้ที่ขาแว่น เห็นเจ้าตัวบอกว่าถนัดสาย stealth มากกว่าโจมตีซึ่งหน้า กับแลปท็อปที่อยู่ในรูปร่างของกระเป๋าสตางค์ สำหรับการเก็บข้อมูล การแฮคระบบและอื่นๆ พกพาได้ ส่วนเวลาใช้ก็มีกลไกทำให้มันมีขนาดปกติเท่านี้ได้" ไอริณยกแลปท็อปของตนแล้วหันไปให้กียุลดูประหนึ่งพรีเซนเตอร์แลปท็อป

    "คล้ายๆอาวุธสมัยสงครามเย็นเลยนะครับ" 

    "ใช่แล้วจ้ะ เราทำการดัดแปลงมันขึ้นมาน่ะ ส่วนนาซิสซ่าจะมีคลังอาวุธที่มีอาวุธสำรองเผื่อไว้สำหรับทุกๆคนที่ถูกจัดเก็บในพัดจ้ะ แต่ถึงเป็นฝ่ายสนับสนุนแต่สกิลการต่อสู้ก็ถือว่าใช้ได้นะ คล้ายๆกับการเปลี่ยนตัวเวลาเล่นเกมนั่นแหละจ้ะ อาวุธประจำตัวของยูริคือมีดสั้นที่ยูริพกอยู่ประจำ ส่วนเหมยฮัวคือกระบองสองท่อนที่เจ้าตัวพกติดตัวอยู่บ่อยๆเหมือนกันจ้า"

    "แล้วพวกเธอจะไหวเหรอครับ ผมกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อพวกเธอเข้า"

    "อย่าดูถูกความสามารถของผู้หญิงสิจ้ะกียุล" ไอริณพูดแล้วหันมาขยิบตาให้กียุลอย่างขี้เล่น

    "ผมไม่ได้ดูถูกครับ แค่ไม่อยากให้พวกเขาต้องมาเจออะไรที่เสี่ยงตายแบบนี้.." กียุลก้มหน้าลงอย่างเศร้าๆ ภาพที่ครูฌาแนตต์อุ้มทิวามาในสภาพที่ไม่สู้ดีโผล่เข้ามาให้หัวเขา เหมือนต้องการตอกย้ำมันอยู่อย่างนั้น นึกถึงกี่ทีเขาก็รู้สึกผิด

    "..." ไอริณมองกียุลนิ่งๆแล้วพับหน้าจอแลปท็อปลง 

    "ความจริงน่ะ.. ครูก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อะไรแบบนี้หรอก เมื่อกี้ก่อนมาที่ห้องนี้ครูก็มีปากเสียงนิดหน่อยกับพวกเพื่อนๆเธอมาด้วย ให้ตายพวกเขาก็ยืนยันที่จะช่วยครูตามหาของและคนร้ายให้ได้"

    "..."

    "ครูหาเหตุผลร้อยแปดมาบอกพวกเขา มาขู่ให้พวกเขากลัวแล้วล้มเลิกความคิด แต่ยิ่งขู่เหมือนจะยิ่งยืนยันหนักกว่าเดิม ความจริงพวกเธอแค่ปลอมตัวแล้วใช้ชีวิตปกติบนเรือก็ไม่น่าจะมีใครจับได้แล้วแท้ๆ แต่ก็อย่างที่ว่าแหละน้า ถึงจะเป็นอะไรที่เสี่ยงตายแค่ไหน แต่แค่ได้ช่วยเหลือคนที่พวกเขาอยากช่วย ก็มักจะยื่นมือไปช่วยตลอด สมกับเป็นพวกเธอจริงๆเลยนะ" ไอริณยิ้มบางๆให้กับร่างบางที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงคนไข้ พลางนึกเหตุการณ์วุ่นๆที่มีลูกสาวและเพื่อนๆของเธอมีส่วนร่วมตลอด ทั้งการแข่งฮันนี่แรลลี่ การท้าแข่งกับแก๊งฟักทอง การช่วยเหลืองานชมรมต่างๆ ทุกๆอย่างต่างจบไปด้วยดี ถึงจะมีติดขัดและวุ่นวายตามสไตล์พวกเธอ นี่สินะถึงจะเป็นทิวาและเพื่อนๆของเขา เป็นคนที่นึกถึงคนอื่นก่อนเสมอเลยจริงๆ

    "..."

    "เอาเหตุผลอยากกลับลาฟลอร่าเร็วๆมาอ้างก็เลยมาช่วยตามหาอีกแรง จริงๆก็แค่อยากช่วยเฉยๆนั่นแหละ ฮะๆ" ไอริณใช้ปลายแขนเสื้อปาดน้ำตาอย่างลวกๆ เพราะไม่อยากให้คนที่นั่งข้างๆเห็นว่าเธอร้องไห้ แต่ก็อย่างว่า กียุลก็ยังเห็นมันอยู่ดี

    "แม่ครับ..." กียุลเรียกไอริณด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง

    "ตอนที่เห็นบาดแผลตามตัวทิวาน่ะ เธอรู้มั้ยว่าตอนนั้นเหมือนหัวใจจะแตกสลาย คนที่แม่รักมากที่สุดในชีวิตล้มลงด้วยกระสุนปืนที่สกปรกของพวกนั้น.. แม่อยากจะฆ่ามันตั้งแต่ตรงนั้น แต่เหมือนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ถ้าตอนนั้นแม่เลือกที่จะทิ้งกล่องนั่น ทิวาก็คงไม่เป็นขนาดนี้.."

    "..."

    "เป็นความผิดของแม่แท้ๆเลย ที่ทำให้ทิวาเป็นอย่างนี้ ฮึก" ไอริณเริ่มปล่อยโฮออกมาอย่างไม่ห่วงต่อภาพลักษณ์ตัวเอง สองมือคอยปาดน้ำใสๆไม่ให้ไหลมากไปกว่าเดิมจนปลายแขนเสื้อชุ่มไปด้วยน้ำตา

    "แม่ไม่ผิดหรอกครับ!" กียุลยืนขึ้น เขามองไปที่ไอริณแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น "คนที่ผิดคือคนที่ทำร้ายทิวา! ใครก็ตามที่ทำร้ายทิวามันจะต้องตายด้วยน้ำมือผมเท่านั้น!!"

    "กียุล.."

    "ผมไม่ต้องการให้ทิวาบาดเจ็บ! ผมไม่ต้องการให้เพื่อนพ้องบาดเจ็บ ผมยอมโดนยิง ผมยอมโดนทำร้ายแทนทิวาได้ แค่ขอไม่ให้เธอได้มีบาดแผลก็พอ!!" กียุลกำมือแน่นจนสั่น ตอนนี้ดวงตามีแต่ความโกรธแค้นเต็มเปี่ยม 

    "เธอนี่เหมือนทิวาจริงๆเลยนะ" ไอริณลุกขึ้นยืนแล้วหันไปพูดกับกียุลด้วยรอยยิ้ม

    "ครับ..?"

    "เป็นคนที่เอาใจใส่คนอื่น รักเพื่อนพ้อง ปกป้องคนที่รัก เหมือนกันเลยจริงๆน้า"

    "..." กียุลเงียบไปสักพักแล้วค่อยๆคลี่ยิ้มให้ไอริณ

    "แม่ขอกอดกียุลหน่อยได้มั้ย"

    "ครับ!?" กียุลตกใจสุดๆกับคำขอของไอริณที่ดูกะทันหันมากๆ

    "^^"

    "ดะ.. ได้ครับ" กียุลตอบรับแล้วเกาแก้มอย่างเขินๆ


              ฟึบ!


    ไอริณคว้าตัวกียุลเข้ามากอดอย่างทะนุถนอม สองแขนของเธอสวมกอดเด็กหนุ่มอย่างแนบแน่น มือข้างนึงของไอริณยกขึ้นลูบหัวกียุลอย่างเอ็นดู ทิวาชอบเล่าให้กียุลฟังบ่อยๆว่าถ้ามีโอกาสอีกอยากจะเข้าไปกอดไอริณให้หายคิดถึง เธอชอบอ้อมกอดของผู้เป็นแม่มากๆ ตอนแรกเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าจะชอบขนาดนั้นไปทำไม แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าอ้อมกอดของไอริณนั้นอบอุ่นมากๆ ความรักถูกถ่ายทอดมาให้คนในอ้อมกอด มือเรียวที่ลูบหัวก็รู้สึกดีมากๆจนไม่อยากให้ละมือออกไปเลย ถูกกอดอีกพันล้านครั้งก็ไม่มีเบื่อเลย

    "เธอก็เหมือนลูกอีกคนของแม่นะกียุล" ไอริณคลายอ้อมกอดแล้วมองกียุลด้วยสายตาที่อ่อนโยน

    "ฝากดูแลทิวาด้วยนะจ้ะ ^^"

    "ครับ!" 

    "ครูขอตัวไปจัดการงานต่อก่อนนะจ้ะ" ไอริณหยิบแลปท็อปขึ้นก่อนจะโบกมือลากียุลแล้วเดินออกจากห้องไป

    กียุลก้มหัวให้ไอริณแล้วกลับไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงคนไข้ เขาเอื้อมมือไปจับแขนหญิงสาวที่นอนอยู่อย่างเป็นห่วง แต่ว่า

    "...อย่า..จับ.." เสียงเหนื่อยหอบเอ่ยออกมาจากปากทิวา กียุลรีบชักมือกลับทันทีด้วยความตกใจ

    "ทิวา!?"

    "...ฉันเจ็บ..แขนกับขา..เหลือเกิน.. อ้ากกกก!!!!" ทิวากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดที่แผล น้ำตาไหลลงมาไม่ขาดสาย มือทั้งสองจิกเตียงคนไข้เพื่อระงับตัวเองแทบผ้าปูที่นอนขาด

    "ทิวา! ทิวา!! แข็งใจก่อนนะ!! หมอครับ!!! หมอ!!!!"


         ...


    หลังจากที่กียุลเรียกหมอมาเพื่อดูอาการของทิวา หมอจึงนำมอร์ฟีนมาฉีดให้ทิวาทันที ไม่กี่วินาทีต่อมาทิวาก็สงบลง ไม่กรีดร้อง ดูเคลิบเคลิ้มแต่ยังพูดคุยได้อยู่ปกติ หมอบอกว่าหลังจากที่ฟื้น คนไข้จะรู้สึกเจ็บปวด ปวดแสบปวดร้อน ปวดจนทรมาน ต้องใช้มอร์ฟีนที่มีสรรพคุณช่วยระงับความเจ็บปวดฉีดเข้าไป หมอและพยาบาลขอตัวกลับเพราะว่าต้องการให้คนไข้ได้พักผ่อน กียุลกล่าวขอบคุณทีมแพทย์แล้วรีบไปดูอาการของหญิงสาวทันที

    "ทิวา หายเจ็บยัง!?"

    "อา~ กียุล สบายม้ากกก~"

    "ล่องลอยแล้วยัยลิง ดึงสติกลับมา!"


              เพี๊ยะ!


    "โอ้ย!!! ดีดหน้าผากฉันทำไมตาตี๋บ้า!"

    "ก็ดึงสติกลับมาไง ตอนนี้สติกลับมายัง?"

    "มาแล้วๆๆ ตาตี๋ใจร้ายที่สุด T^T"

    "มาแล้วก็ดี ฉันไม่อยากมานั่งเฝ้าลิงที่เป็นบ้าเพราะมอร์ฟีนหรอกนะ ฮ่าๆ"

    "นายตี๋ปาก.."


              โครก~!


    "เสีย!!!"

    "หืม?"

    กียุลยกคิ้วข้างนึงขึ้น เหมือนเขาจะได้ยินเสียงคล้ายๆฟ้าร้องแถวนี้นะ หรือว่า?

    "เธอหิวเหรอ?"

    "เฮ้อ ไอ้เจ้าท้องบ้านี่"

    "เสียงท้องร้องของเธอนี่มันเหมือนฟ้าร้องฟ้าผ่าจริงๆ"

    "ปากเสียอีกแล้วนะ!!"

    "เงียบไปเถอะน่ายัยลิง!"


              5 นาทีผ่านไป

    "เอ้านี่ กินซะ" กียุลวางถ้วยข้าวต้มที่ไปเวฟมาเมื่อสักครู่บนโต๊ะกินข้าวคนไข้ให้ทิวาได้ทานแก้หิว 

    "ขอบคุณนะ" ทิวาหยิบช้อนขึ้นมาแล้วตักข้าวต้ม ไม่ได้ตักขึ้นมากิน แต่ด้วยฤทธิ์ของมอร์ฟีน(?)ทิวากลับโยนข้าวต้มในช้อนใส่กียุลแล้วขำกร๊ากอย่างสะใจ

    "ทำบ้าอะไรของเธอเนี่ยยัยลิงงงง!!!!"

    "ฮ่าๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ"

    "พอเลย! ฉันทำเองดีกว่า!" กียุลคว้าช้อนจากมือทิวาแล้วหยิบถ้วยข้ามต้มมาวางไว้บนตักของตน เผื่อถ้าเกิดทิวาหยิบถ้วยแล้วสาดใส่เขาแล้วจะแย่เอา

    "หิวแล้ววว อยากกินข้าววว"

    "อ่ะนี่ๆ อ้าปากสิ ฉันป้อน" กียุลตักข้าวต้มแล้วยื่นไปที่ปากทิวาให้เธอกิน

    "อ้ำ~" ทิวาเคี้ยวข้าวตุ้ยๆแล้วกลืนลงคออย่างรวดเร็ว

    "อ่ะนี่"

    "อ้ำ~ อร่อย!"

    "อร่อยก็กินอีก กินซะ"


              ปัง!


    "อากียุล ชุดใหม่พวกอั๊วเป็นไงมั่งเท่เปล่า~! >0<" เหมยฮัววิ่งพรวดเข้ามาในห้องคนไข้ ตามมาด้วยพวกเพื่อนๆที่เหลือ ตอนนี้พวกเจ้าหญิงปลอมตัวกันเรียบร้อยแล้ว

    "ดีจ้า~" ทิวาที่นั่งอยู่บนเตียงหันมาโบกมือทักทายเพื่อนๆตัวแสบทั้งสี่คน

    "อาทิวาฟื้นแล้วเหรอน่อ!!?" เหมยฮัวรีบวิ่งมากอดเพื่อนสาวทันทีที่รู้ว่าเธอฟื้นแล้ว

    "เอ๋? ทิวาฟื้นแล้วเหรอ!?" โรซารี่ที่เดินตามมาติดๆรีบเดินมาหาทิวา

    "คุณทิวาเจ้าค้าาา ฮือออ T^T" ยูริวิ่งเข้าไปกอดทิวาแล้วปล่อยโฮออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

    "ยัยลิงฟื้นแล้วเหรอ? เฮ้อ ดีจัง" นาซิสซ่าที่มาคนสุดท้ายในกลุ่มเจ้าหญิงถอนหายใจอย่างโล่งอก     

    "วันนี้ยัยกิ้งก่ามาแปลก - -+"

    "ฉันก็ปกติของฉันทุกวันอยู่แล้วย่ะ! โฮะ โฮะ โฮะ"

    "แล้วพวกเจ้าชายล่ะ?" ทิวาถาม

    "คุยธุระกับครูไอริณน่ะ เห็นบอกว่าเรื่องปลอมข้อมูลของพวกเรานี่แหละ" โรซารี่ตอบ

    "อ๋อ~ ว่าแต่ใส่ชุดนี้ทำไมเหรอ?"

    "ครูไอริณบอกว่าพวกเราต้องปลอมตัวเพราะต้องอยู่ในเรือลำนี้จนกว่าทางองค์กรจะจับตัวคนร้ายได้น่ะ"

    "ปลอมเป็นผู้ชายเนี่ยนะ?"

         "ใช่แล้วน่อ อากียุล อาทิวา ชุดใหม่อั๊วเป็นไงบ้าง" เหมยฮัวหมุนรอบตัวเองให้ทิวากับกียุลได้เห็นดีเทลชุดชัดๆ ผมของเหมยฮัวถูกปล่อยมวยลงมาแล้วผูกรวบด้วยริบบิ้นสีขาวพันไปหลายๆรอบ

    "มันจะเนียนเหรอพวกเธอ?" ทิวาเอ่ยถาม เจ้าตัวคิดว่าเป็นความคิดที่ค่อน้างบ้าเพราะไม่มีทางที่ผู้หญิงจะปลอมตัวเป็นผู้ชายแล้วไม่โดนจับได้หรอก

    "ไม่เนียนก็ต้องเนียนน่อจุดนี้ เราทำอะไรกันไม่ได้แล้ว"

    "ปักกุ๊นทองรอบๆขอบเสื้อ สวยดีนะเหมยฮัว แถมตัดกางเกงเป็นกางเกงห้าส่วนด้วย สมกับเป็นเธอจริงๆ" กียุลพูด

    "ขอบใจน่ออากียุล ว่าแต่ลื้อล่ะว่าไง?"

    "เหมยฮัวดูๆแล้วก็เหมือนผู้ชายที่ร่างกายอ้อนแอ้นแต่เก่งกังฟูล่ะนะ -0-"

    "หมายความว่าไงอาทิวา!?"

    "ล้อเล่นจ้า ชุดเธอดูทะมัดทะแมงเหมาะกับการที่จะต้องต่อสู้น่ะ ฮ่าๆๆ"

    "อั๊วก็นึกว่าพูดจริง อ้อ! อั๊วจะทำชุดให้ลื้อด้วยนะ อยากได้แบบไหนเหรอ?"

    "อยากได้กางเกงขาสั้นแบบมิเอเล่น่ะ แต่ขอปักขอบเป็นกุ๊นทองลายไทยน้า เสื้อก็เสื้อแขนยาวปักขอบเหมือนกัน"

    "อั๊วว่าขาสั้นมันจะโชว์ขาไปนะ เพราะขาลื้อก็ดูแล้วยังไงก็เป็นผู้หญิงแน่ๆ อั๊วว่าขายาวปลอดภัยกว่า"

    "งั้นเอาตามที่เธอบอกก็ได้ เพราะคิดดูแล้วก็จริงอย่างที่เธอบอก แต่อย่าลืมปักลายไทยนิดนึงด้วยนะ"

    "ได้เลยน่อ! เดี๋ยวอั๊วมา" ว่าจบเหมยฮัวก็รีบวิ่งออกจากห้องไป

    "เหมยฮัวนี่กระตือรือร้นดีนะ ไม่เหมือนยัยลิงแถวนี้" กียุลทำเป็นอ่านหนังสือแต่ปากก็กัดทิวาไม่หยุด

    "นายว่าใครยะตาตี๋!!"

    "เปล๊า~"

    "แง่ง..!!"

    "หยุดทะเลาะกันเลยทั้งสองคน!" โรซารี่รีบแยกทิวาก่อนที่จะเข้าไปงับหัวกียุล

    "เมื่อก่อนเป็นยังไง ตอนนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นเลยนะเจ้าคะ ^^"

    "แถมยังดูสนิทกันมากขึ้นด้วยนะยะ~"

    "อะไรเล่า!! สนิทมากขึ้นอะไร เธอพูดอะไรน่ะยัยกิ้งก่า!! 0///0"

    "ปฏิเสธทันควันอย่างนั้นระวังคนข้างๆจะเสียใจนะยะ โฮะ โฮะ โฮะ"

    "-////-" กียุลนั่งเอาหนังสือปิดหน้า ไม่พูดอะไรแต่หน้าแดงสุดๆ

    "พอเถอะ มาสนใจชุดพวกเธอต่อดีกว่า! -///-" ทิวาเปลี่ยนเรื่องแบบปัดๆ

    "จ้าๆ~" โรซารี่แซว

    ทิวากอดอกแล้วไล่มองไปที่เพื่อนสาวทั้ง 3 ตั้งแต่หัวจรดเท้า ปลอมเป็นผู้ชายก็ไม่เลว -^-

    "ดูไปดูมา เธอนี่เหมือนพวกชาวยุโรปสมัยก่อนนิดๆเลยนะยัยกิ้งก่า" ชุดนักเรียนที่นาซิสซ่าดัดแปลงจะไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมาก เพิ่มระบายที่ปลายแขนเสื้อแล้วทำแขนเสื้อให้กว้างขึ้น ผูกริบบิ้นแทนผูกไทด์ คลายลอนม้วน ยืดผมตรงแล้วรวบต่ำด้วยริบบิ้นสีม่วงอ่อนให้ความรู้สึกเป็นสุภาพบุรุษชนชั้นสูงยุคกลาง 

    "แน่นอนอยู่แล้ว โฮะ~โฮะ~โฮะ~"

    "ยูริพอแต่งชายแล้วน่ารักเหมือนอเล็กเซเลยอะ ><"

    "โธ่คุณทิวา อย่าเปรียบเทียบอย่างนั้นสิเจ้าคะ! คุณอเล็กเซเขาเป็นผู้ชายนะเจ้าคะส่วนยูริเป็นผู้หญิงมันไม่เหมือนกันหรอกเจ้าค่า >0<;" ชุดนักเรียนที่ยูริใส่จะไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมาก เธอใส่ชุดที่ใหญ่กว่าตัวเองนิดนึงเพื่อที่จะซ่อนรูปร่างที่เหมือนผู้หญิง ใส่วิกผมสั้นตามแบบผู้ชาย

    "ฮ่าๆๆ โรซารี่นี่ถ้าไม่รู้ว่าเป็นผู้หญิงก็ดูไม่ออกเลยนะ"

    "ขอบใจนะทิวา จะบอกว่าฉันเหมือนผู้ชายสินะ - -+"

    โรซารี่จะเป็นชุดนักเรียนแบบปกติไม่ดัดแปลงมาก เสื้อเชิ้ตข้างในจะเป็นแขนสั้นแทนที่จะเป็นแขนยาว สูทข้างนอกจะคล้ายๆกับเสื้อกาวน์ ผมถูกซอยให้สั้นลงอีกเล็กน้อย

    "ดูแปลกตาไปเลยแฮะ"

    "ฝีมือปลอมตัวของพวกเธอก็ใช้ได้เลยนะ" กียุลใช้มือยันคางแล้วมองไปที่ทั้งสาม

    "ขอบคุณ.."

    "แต่ว่า"

    "?"

    "เสียงหวานขนาดนี้คนอื่นก็รู้หมดสิ ท่าทางการเดินการพูดคุยมันผู้หญิงชัดๆ แถมหน้าใสๆเนียนๆแบบนี้ก็โดนสงสัยกันหมดน่ะสิ -*-"

    "แล้วพวกเราต้องทำยังไงล่ะกียุล!?" โรซารี่ถาม

    "ไม่รู้สิ แต่ว่าพยายามพูดกับคนอื่นให้น้อยๆ แล้วก็เกาะติดพวกคริสไว้ เวลามีอะไรจะได้ช่วยเหลือทัน ที่นี่พวกเธอยังไม่คุ้นชิน มันอันตราย"     

    "..." สามสาวพยักหน้าตกลง


              โครก~


    "กียุลฉันหิววว T^T" 

    "เฮ้ยลืม! อ่ะๆอ้าปากนะ" กียุลรีบตักข้าวต้มขึ้นมาป้อนทิวา

    สามสาวมองหน้ากันแล้วยิ้มให้กับคู่กัดสองคนนั้น ดูๆไปแล้วก็น่ารักดีล่ะนะ


         ...


    "อ้า~ อิ่มแล้ว~" ทิวากลืนข้าวต้มคำสุดท้ายลงกระเพาะแล้วลูบท้องเบาๆ

    "เป็นกุลสตรีหน่อยสิยัยลิง!"

    "ค่าๆ คุณพ่อ บู่ว -3-" ทิวาประชดกียุลด้วยการนั่งพับเพียบไทยแลนด์


    ฟึบ!


    "ไง? เรียบร้อยยัง??"

    "เฮ้อ" กียุลกุมขมับ ยัยลิงของเขาโคตรกวนประสาทเลยจริงๆ

    "อาทิวา! อั๊วทำชุดลื้อเสร็จแล้วน่อ! ลองหน่อยมั้ย??" เหมยฮัววิ่งพรวดเข้ามาพร้อมกับชุดนักเรียนโนอาห์ในมือ

    "ลองสิๆ เหมยฮัวขอบใจน้าา ><"

    "ด้วยความยินดีน่อ!"

    "นายน่ะออกไปเลย! :P" ทิวาสะบัดมือเป็นเชิงไล่กียุลให้ออกไปนอกห้อง

    "ก็กำลังจะออกไปอยู่แล้ว -_-" กียุลหยิบหนังสือตรงหัวเตียงแล้วเดินออกไปรออยู่นอกห้อง


         ...


    "กียุล เสร็จแล้ว!" โรซารี่ตะโกนบอกกียุลที่รออยู่นอกห้อง

    "อืม"


    แอ๊ด..


    "เป็นไงมั่ง? ^_^" ทิวาที่นั่งอยู่บนเตียงคนไข้ยิ้มยิงฟันให้กียุล

    "นะ.."

    "^_^?"

    "นะ.. น่ารัก -/////-"


              ปัง!


    "!?"



    ________________________________________________________________________
         
         สวัสดีกันอีกครั้งค่า ตอนนี้พวกเจ้าหญิงก็ปลอมตัวกันแล้วค่ะ 

         ช่วงนี้เน็ตคอมมีปัญหาอีกแล้วค่ะ เลยต้องมาอัพในโทรศัพท์ ถ้ามันอ่านยากหรือตัวอักษรมันเล็กก็บอกได้นะคะ เวลาคอมหายดีแล้วจะแก้ให้ค่ะ


         มีภาพแถมให้ด้วยนะคะ ><




         เราวาดภาพนี้จะไม่ค่อยเหมือนผู้ชายเท่าไหร่นะคะ เพราะตั้งใจวาดให้มันออกมาเป็น 'หญิงแต่งชาย' ค่ะ รูปร่างเลยดูอ้อนแอ้น วาดอย่างนี้มันดูมีความเป็นจริง(?)สุแล้วค่ะ5555

         *Ps. ณ ปัจจุบันเราแก้ให้เครื่องแบบของทิวาเป็นกางเกงขายาวนะคะ เพื่อความสมจริงขึ้นมาอีกหน่อย + เราคิดว่าถ้าเป็นขาสั้นมันจะดูผู้หญิงเกินไป ถ้าใครชอบสไตล์แบบไหนคอมเม้นท์พูดคุยกันได้นะคะ


         ฝากกดfav คอมเม้นท์ให้กำลังใจนักเขียนสักคนละคอมเม้นท์เพื่อที่จะได้มีแรงฮึดแต่งนิยายต่อนะคะ~

     บ๊ายบายค่า


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×