คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 9 : เกือบเสียเธอไป
9
เกือบเสียเธอไป
เช้าวันต่อมา วันนี้เป็นวันที่นักเรียนเจ้าชายโนอาห์จะต้องกลับไปเรียนบนเรือของเขาเพราะเรือได้ถูกซ่อมจนเสร็จเหมือนเพิ่งถอยมาใหม่ๆ ที่ท่าเรือมีซุ้มกิจกรรมต่างๆให้ทำก่อนที่จะขึ้นเรือ แต่ละซุ้มถูกประดับด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ มีลูกโป่งน้อยใหญ่ประดับไปทั่วท่าเรือ นักเรียนทุกคนที่มาร่วมงานสามารถหยิบลูกโป่งติดไม้ติดมือกลับไปได้ด้วย บรรยากาศเสียงดังคึกคักขัดกับความเหี่ยวเฉาของทิวาสุดๆเมื่อต้องรับรู้ความจริงว่ากียุลและผองเพื่อนราชาจะต้องจากพวกเธอไปแล้ว
"อาทิวา ไปดูซุ้มพวกนั้นมั้ยน่อ มันน่าจะทำให้ลื้อร่าเริงขึ้นได้" เหมยฮัวที่เห็นความผิดปกติของเพื่อนสนิทก็รีบชักชวนไปนู่นไปนี่เผื่อเพื่อนของตนจะรู้สึกดีขึ้นบ้าง
"ไม่ล่ะ พวกเธอไปดูเถอะ ฉันขออยู่คนเดียวสักพัก" ทิวาตอบกลับมาอย่างเหนื่อยๆ
เมื่อคืนเธอไม่มีโอกาสได้คุยกับกียุลเลย เนื่องจากจู่ๆเขาก็ได้คำสั่งจากผอ.ต้องกลับขึ้นเรือไปเคลียร์งานที่ค้างคาให้เสร็จก่อนเรือออกพรุ่งนี้ คืนนั้นทิวาเลยต้องนอนคนเดียว แต่ทั้งสองก็ยังเสียสละเวลามาอยู่ด้วยกันก่อนนอน(นักอ่านคิดไรเปล่า-.,-) นั่งพูดคุยสัพเพเหระ ผลัดกันเล่าเหตุการณ์ที่เจอมาระหว่างที่เจ้าตัวทั้งสองห่างกัน กียุลให้สัญญาว่าจะกลับมาหาบ่อยๆ ถึงจะรับประกันไม่ได้ว่าบ่อยแค่ไหน คืนนั้นกียุลกอดลาทิวาก่อนจะไปเคลียร์งานบนเรือ กอดลาครั้งนี้แปลกกว่าครั้งก่อนๆที่ทั้งสองเคยกอดกัน ความรู้สึกอึดอัดอยากหาที่ระบายออกมา น้ำตาที่อยากหลั่ง ความเศร้าที่มีอยู่เต็มอก ถูกปลดปล่อยออกมาในรูปแบบของอ้อมกอดจากลา ทั้งสองยิ้มให้กันก่อนที่กียุลจะเดินออกไป ภายนอกถึงไม่มีน้ำตาหลั่งไหล แต่ในหัวใจพวกเขาคงร่ำไห้อย่างบ้าคลั่งอยู่แน่ๆ
เช้าต่อมาเธอไม่เจอราชาทั้ง 5 เลย ทั้งๆที่ปกติจะมายืนคุมงานอยู่ตลอดๆ บางทีเธอก็อิจฉาอินทิราผู้เป็นประธานนักเรียนของลาฟลอร่า ที่ได้ทำงานร่วมกันกับกียุล ประธานนักเรียนของโนอาห์มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ทิวาฝันอยากจะไปเป็นประธานนักเรียนกับเค้าบ้าง แต่ว่าแค่ขึ้นมาห้อง A หืดก็แทบจะขึ้นคอ ขออยู่เป็นสามัญชนคนธรรมดาแบบนี้อาจจะดีต่อตัวเธอเองมากกว่า
ทิวานั่งมองบรรยากาศรอบๆที่ตอนนี้นักเรียนคลาสดัตเชสและคลาสดุ๊กมาเดินเล่นกิจกรรมตามซุ้มต่างๆอย่างสนุกสนาน เธอก็อยากจะไปร่วมแจมกับเค้าเหมือนกันถ้าไม่ติดว่าคนที่เธออยากจะพาไปเที่ยวด้วยติดงานอยู่ทำให้มาไม่ได้ ไม่เป็นไร นั่งมองอย่างนี้แหละดีแล้ว เดี๋ยวเมื่อยขา คิดในแง่ดีไว้เพื่อปกปิดความช้ำในใจ TwT
เกือบ 1 เดือนที่ผ่านมามีหลายๆคนที่ตกลงปลงใจเป็นแฟน แถมยังชวนมาเดินด้วยกัน ทำให้สาวไทยของเราอดอิจฉาในใจไม่ได้ แต่ก็เก็บความอิจฉาไว้ในใจ ผิดกับมือทั้งสองข้างกำลังกำแน่นจนมือสั่น
"อ๊ะ?" ทิวารู้สึกมีอะไรสั่นๆที่กระเป๋ากระโปรง ในนั้นเธอใส่โทรศัพท์ไว้ เธอคิดในใจว่าจะมีใครโทรมาในเวลานี้
'ตาตี๋แว่นขี้เก๊ก'
หน้าจอโทรศัพท์ขึ้นชื่อคนที่โทรมา ทิวาดีใจมากแล้วรีบตอบรับปลายสายทันที
"ฮัลโหล นายตี๋!"
[เอ่อ.. ผมอเล็กเซฮะ ไม่ใช่กียุล] เสียงปลายสายไม่ใช่คนที่เธอหวังไว้ ทิวาก็ห่อเหี่ยวลงทันที
"มีอะไรรึเปล่า?"
[คือ กียุลหายไปน่ะครับ ไม่ทราบว่าคุณทิวารู้รึเปล่าว่าเขาไปไหน?]
"ฉันไม่เห็นกียุลมาตั้งแต่เช้าแล้วอะ ขอโทษทีนะ แล้วตานั่นลืมโทรศัพท์ไว้ที่นายเหรอ"
[เปล่าครับ เขามีโทรศัพท์หลายเครื่อง]
"แล้วเบอร์ซ้ำกันได้ไงอ่ะ?"
[เขาก็อปปี้ซิมน่ะครับ เวลาใครจะติดต่อก็โทรโดยตรงเบอร์เดียวเลย พวกผมก็มีเหมือนกัน]
"อ่อ..."
[ถ้าเจอกียุลช่วยบอกเขาว่าตอนเก้าโมงครึ่งมาเจอพวกผมที่หลังเวทีด้วยนะครับ]
"ได้ๆ"
[ขอบคุณครับ โชคดีนะครับคุณทิวา]
"จ้ะ นายก็เหมือนกันนะ"
ทิวากดวางสายแล้วถอนหายใจหนักๆ นี่เขาโดดงานอีกแล้วเหรอ
ทิวานั่งมองบรรยากาศไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมายโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีคนอยู่ข้างหลังเธอ ร่างนั้นค่อยๆเดินเข้าใกล้ทิวามากขึ้น มากขึ้น เขากลบเสียงฝีเท้าไว้เงียบมากๆเรียกว่าตีนแมวเลยก็ยังได้ คนรอบข้างหันมามองเขาบ้างด้วยความสงสัยว่าทำบ้าอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่สนใจสายตาพวกนั้น ใจจดจ่ออยู่กับร่างบางที่นั่งเหม่อลอยอยู่ข้างหน้าเท่านั้น เมื่อเขาเข้าใกล้ทิวาเขาก็ทำการจู่โจมทันที
"ว้ายยย!!"
"ร้องซะเสียงหลงเลยนะยัยลิงกัง ^^"
"ตาบ้า!!!! >/////<"
กียุลจู่โจมหอมแก้มทิวาจากด้านหลังโดยที่ทิวาไม่ได้ทันตั้งตัว เขาหอมแก้มเธอไปฟอดใหญ่ ทิวาที่สัมผัสได้ถึงอะไรอุ่นๆมาโดนแก้มก็รีบเด้งตัวออกแล้วจับแก้มข้างที่โดนหอมไว้ด้วยใบหน้าที่แดงฉ่า
กียุลในเวอร์ชั่นใส่แว่นหนาเตอะยืนยิ้มกระชากไตสาวสวยสาวหล่อสาวเทียมอยู่หลังม้านั่งที่ทิวานั่งอยู่ มือทั้งสองประสานกันไว้ข้างหลังเพื่อซ่อนอะไรบางอย่าง
"มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลยนะ!"
"ก็เซอร์ไพรส์ไง"
"เซอร์ไพรส์อะไร?"
กียุลใช้มือข้างนึงจับแว่นแล้วทัดมันไว้บนหัว ส่วนมืออีกข้างก็ค่อยๆเลื่อนออกจากข้างหลังช้าๆ เผยให้เห็นช่อดอกไม้ช็อคโกแลตที่มีเป็นสิบดอกอยู่ในมือของเขา เขายื่นดอกไม้ช็อคโกแลตนั้นให้ทิวา เธอรับมันด้วยท่าทางตะกุกตะกักเพราะความเขินก่อนจะกระชับมันในมือแน่น กียุลหัวเราะเบาๆให้กับความเปิ่นของหญิงสาวท่าทางแบบนี้เป็นแบบที่เขาชอบในตัวทิวามากๆ พอเห็นก็ยิ่งหลงรักหัวปักหัวปำ
"ขอบคุณนะนายตี๋ เอ่อ.. นายทำเองป่ะ? -///-"
"ก็ของมันแน่อยู่แล้ว ทำตั้งนานเชียวนะ แถมใส่หัวใจกับความรักลงไปเต็มๆด้วย"
"โอ้โห เสี่ยวได้อีก มีเสี่ยวกว่านี้มั้ยคะท่านประธาน"
"เสี่ยวกว่านี้ก็คงเป็นเสียวแล้วล่ะครับ สนใจมั้ยเอ่ย? :)" กียุลยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ทิวา ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ทิวาเรื่อยๆ
"เห็นตรงนั้นมั้ย??" ทิวาชี้ไปทางหอคอยลาฟลอร่าที่เป็นจุดศูนย์กลางของเกาะ
"เห็น เห็นความรักกับอนาคตของเราเต็มไปหมด"
"ไปเล่นตรงนู้นนะ"
เพล้ง!
"ยัยลิงกัง!!!" กียุลที่โดนเล่นเข้าแล้วตวาดใส่ทิวาด้วยหน้าที่แดงเพราะความอับอาย ไม่ได้อายเพราะคนที่เขาชอบไล่ไปเล่นตรงนู้นนะ แต่อายเพราะหน้าแตกที่คนข้างๆไม่รับมุกด้วย เสียงคล้ายๆจานตกแตกนั่นก็เสียงหน้าแตกของกียุลนั่นเอง
ทิวาหัวเราะร่ากับความหน้าแตกยับเยินของประธานนักเรียนหนุ่ม ก่อนจะวิ่งหนีการไล่จับของเขา กียุลวิ่งไล่จับทิวาด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดและอับอายเพราะหน้าแตก ทิวาที่วิ่งนำอยู่ไม่ห่างก็หันมาแลบลิ้นใส่ก่อนจะวิ่งลิ่วไปที่ซุ้มของกินซุ้มหนึ่ง พอกียุลเห็นท่าทางแบบนั้นก็อดหมั่นไส้ไม่ได้
'อยากจะจับมาทำโทษให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!!'
เขาวิ่งตามมาติดๆแต่ทิวาก็คลาดสายตาเขาไปจนได้ ภายในซุ้มเล็กๆแต่กลับกว้างขวางกว่าที่เห็นจากภายนอก นักเรียนหญิงชายคลาสเดียวกับเขาเดินกันขวักไขว่ เขาเดินตามหาทิวาเพราะวิ่งไม่ได้ เพราะเดินไม่มองทางทำให้กียุลชนกับนักเรียนโนอาห์คนนึง
ผลัก!
"ขอโทษครับ!" ด้วยสัญชาตญาณทำให้กียุลกล่าวขอโทษออกมาทันทีที่ไหล่ทั้งคู่ชนกัน นักเรียนโนอาห์เงยหน้าขึ้นมามองหน้ากียุลอยู่แวบนึงก็ก้มหน้าลงแล้วรีบเดินหายเข้าฝูงชนไป
"ขอโทษครับ.."
ถึงจะเงยหน้าแค่แวบเดียวแต่กียุลก็ได้สบตากับนักเรียนโนอาห์คนเมื่อกี้ ดวงตาสีม่วงอะเมทิสต์มันช่างคุ้นเคยสำหรับเขาเหลือเกิน เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแต่ก็นึกไม่ออกสักที เหมือนมีอะไรมาขัดไว้ เขาส่ายหัวสองสามทีก่อนจะเดินตามหายัยลิงตัวแสบต่อ
นักเรียนโนอาห์คนที่เดินชนกับกียุลหันหลังมามองหนุ่มแดนกิมจิที่ตอนนี้กำลังเดินหาบางอย่างอย่างกระสับกระส่าย ดวงตาสีม่วงคู่สวยมองไปทางเขาด้วยสายตาที่มีความแปลกใจและความคำนึงคิดถึง ก่อนจะสวมหมวกปีกกว้างสีขาวขอบน้ำเงินเพื่อปกผิดใบหน้าแล้วเดินออกมาจากซุ้มนั้น
ทิวาที่วิ่งเข้ามาในซุ้มก็ชะลอความเร็วลง ในใจคิดว่ากียุลต้องหาเขาไม่เจอแน่ๆถ้าเข้าซุ้มนี้มา เพราะเป็นซุ้มที่คนเข้ามากที่สุด และซึ่งเธอก็คิดถูก กียุลได้ตามมาในซุ้มแล้วแต่หาตัวทิวาไม่เจอ ทิวาที่ตอนนี้สนใจของรอบกายมากกว่าชายหนุ่มแดนกิมจิก็รีบพุ่งเข้าหาของกินอย่างทันที ทุกอย่างในนี้ฟรีหมด ไม่ว่าจะอาหารคาวหวานผลไม้ของกินเล่นแม้กระทั่งน้ำเปล่า(มันก็ฟรีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ) คนที่เดินเยอะขึ้นแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการกินของทิวา เธอเดินไปกินไปเรื่อยๆจนเจอกับกลุ่มคนกลุ่มนึงที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี
"อ้าวเหมยหยง กะทิ กับแก๊งทริปเปิลโฟร์มาทำอะไรแถวนี้เหรอ? งั่มๆ" พวกนักเรียนรุ่นน้องที่ทิวาเคยเจอเมื่อตอนแข่งฮันนี่แรลลี่ที่ทิวาและเพื่อนๆอยู่คลาสพริ้นเซส ส่วนพวกเธออยู่คลาสเฟิร์สเลดี้ ณ จุดๆนี้พวกเธอได้เลื่อนคลาสมาเป็นคลาสพริ้นเซสปี 6 หรือประถม 6 นั่นเอง
"อ้าวพี่ทิวา ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยน้า มาหาเจ๊น่ะพี่ทิวา พอดีหนูนัดกับเจ๊ไว้ตรงนี้" เหมยหยงที่หันไปตามเสียงเรียกของทิวาก็หันมาทักทายตามประสาคนรู้จักกัน
"ก็ว่า เพราะงานนี้นักเรียนคลาสอื่นเขาไม่รู้กัน งั่มๆ"
"ช่วยกินให้เสร็จก่อนพูดได้มั้ยฮะยัยป้า" กะทิแหย่ทิวาตามประสาเด็กที่แก่นแก้วชอบก่อกวนคนอื่นเป็นธรรมดา ทิวาที่โดนแหย่กลับมาก็รีบกลืนอาหารลงคอทันทีแล้วอ้าปากด่ากะทิเป็นชุดข้อหามากล่าวหาเธอว่าเป็นป้า
"พี่ทิวายังเหมือนเดิมเลยนะคะ" เด็กสาวหัวชมพูแก๊งเดียวกับพวกทริปเปิลโฟร์ทักทิวาขึ้น
"ยังไงเหรอ?"
"ก็ยังร่าเริงเหมือนเดิม แถมยังกินเยอะเหมือนเดิมด้วย"
ฉึก!
เหมือนเหล็กแหลมทิ่มกลางใจ คำพูดที่ไร้เดียงสานั่นทำทิวาชะงักและสะอึก
'คำพูดของน้องก็ยังแรงไม่เปลี่ยนไปเลยจ้ะ TwT'
ทิวายืนคุยกับเด็กๆทั้งห้าอย่างสนุกสนาน มีด่าไปด่ามาระหว่างกะทิกับทิวาเป็นระยะๆ ถึงจะโตแล้วแต่นิสัยเด็กๆก็ไม่เคยหายไป พวกกะทิเล่าให้ฟังว่าพวกตนก็อยู่ห้อง E เหมือนเดิม เจอครูมารี กีมาร์ผู้ที่ดุและเจ้าระเบียบที่สุดในโรงเรียนมาเป็นครูประจำชั้น แถมโดนหมายหัวไว้เรียบร้อย แต่ละวันก็โดนบ่นไม่เว้นวันให้พักหู ทิวาได้ยินก็อดนึกถึงอดีตไม่ได้ เธอเล่าให้ฟังว่าเธอก็เจอแบบพวกกะทิเหมือนกันแถมโดนหมายหัวตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเพราะไม่ได้เอาเครื่องเรือนมาสอบและทำลายห้องนักเรียนคนอื่นๆไปเกือบ 20 ห้อง แต่ก็เพราะเหตุการณ์นั้นทำให้เธอเจอเพื่อนสนิทที่ดีที่สุดตั้ง 4 คน แต่ก็ต้องขอบคุณครูมารีที่เปลี่ยนจากลิงแก่นเซี้ยวมาเป็นกุลสตรีได้ขนาดนี้ ฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ ทิวาบอกอยากให้พวกเธอเชื่อฟังสิ่งที่ครูมารีสั่งสอน
ถึงท่านจะดุจะเจ้าระเบียบมากแค่ไหน แต่ที่ทำอย่างนั้นก็เพราะหวังดีอยากให้ลูกศิษย์ได้มีอนาคตที่ดี แล้วก็อย่าลืมตอบแทนบุญคุณท่านด้วย
เด็กสาวทั้ง 5 ฟังแล้วพยักหน้าตามเป็นเชิงรับรู้ว่าพวกเธอจะทำตามที่ทิวาบอกมา ก็เขาโดนอบรมโดยครูมารีมาก่อนก็ต้องรู้อะไรมาก่อนอยู่แล้ว
"เจ๊เหมยฮัวมานู่นแล้ว!" เหมยหยงที่เห็นพี่สาวไม่แท้ของตัวเองเดินมาก็รีบทักให้ที่เหลือหันไปมอง
พอเหมยฮัวเห็นเหมยหยงที่โบกมือรออยู่ก็รีบเดินมาทางนี้โดยลากเพื่อนสาวอีก 3 คนตามหลังมาด้วย
"อาทิวา ลื้ออยากเข้ามาในซุ้มแล้วเหรอน่อ?" เหมยฮัวแหย่ทิวาทันทีเมื่อเห็นว่าหญิงสาวที่เมื่อเช้ามันโคตรซึมปฏิเสธไม่ไปไหนกลับมาปรากฏตัวอยู่ในซุ้มในสีหน้าร่าเริงนี้ได้ไงฟะ?
"ก็หนีตาตี๋มาอ่ะดิ ถ้าฉันเจอตัวเขาฉันเละไม่มีชิ้นดีแน่ๆ"
"กียุลเหรอ เธอไปทำอะไรให้เขาโกรธล่ะ?" โรซารี่ถาม
"ก็ฉันไปกวนบาทานายนั่นน่ะ ทำเขาหน้าแตกตอนเล่นมุกด้วย ถ้าเขาจับได้ฉันโดนฆ่าแน่ๆ"
"ไม่น่าเชื่อนะยะว่าประธานนักเรียนของโนอาห์จะหน้าแตกเป็นกับเขาด้วย" นาซิสซ่านำพัดขึ้นมาปิดปากแล้วพูด
"อยากเห็นคุณกียุลหน้าแตกจังเลยเจ้าค่ะ คงตลกน่าดู" ยูริเสริม
"...อยากเห็นมั้ยล่ะ...?" จู่ๆก็มีเสียงทุ้มต่ำที่ฟังแล้วพร้อมฆ่าคนอื่นได้ทุกเวลาดังขึ้นข้างหลังพวกสาวๆ
"!!!!" พวกเธอหันขวับไปดูเจ้าของน้ำเสียงด้วยความตกใจ ก็พบว่าคนพูดก็คือกียุลที่ยืนอยู่ด้านหลังมาไม่นาน
"มะ.. ไม่มีใครอยากเห็นเล้ยยย เน้อ~พวกเธอ ^^;" ทิวารีบแก้ตัวน้ำขุ่นๆ
"ชะ.. ช่ายแล้ว~" สาวๆตามน้ำแล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
"เน้อ~กะทิ"
"..."
"กะทิ?" พอทิวาหันไปก็ไม่พบร่างห้าสาวรุ่นน้องอยู่ข้างๆแล้ว
จะเรียกว่าเสียงดังข้างหลังพวกสาวๆทั้ง 5 ก็ได้ เพราะพวกรุ่นน้องรีบวิ่งหนีไปตั้งแต่เห็นกียุลเดินมาด้วยรังสีอำมหิตแล้ว
'พวกเด็กบ้าไม่อยู่ซวยด้วยกันเลย! T^T' ห้าสาวคิดในใจเป็นเสียงเดียวกัน
"...ว่าไงล่ะ...?" กียุลคิ้วกระตุกอย่างหงุดหงิดสุดๆแล้วเดินมาหยุดอยู่ข้างๆทิวา
"กลัวแล้วจ้าาา เค้าขอโต้ดดดด ToT" ทิวารีบวิ่งหนีกียุลอีกรอบ แต่คราวนี้อย่าคิดว่าจะรอด กียุลรีบคว้าไหล่ทิวาทันทีเหมือนสัมผัสได้
หมับ!
"ไม่ต้องหนีไปไหนทั้งนั้น" เสียงกียุลน่ากลัวเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเมื่อเห็นสาวไทยกำลังจะวิ่งหนีเขาพร้อมปล่อยรังสีอำมหิตใส่ห้าสาวอีกครั้ง
"แง้! ช่วยลูกช้างด้วย!! ToT"
"งะ.. งั้นพวกเราไปก่อนนะ บ๊ายบาย!" โรซารี่ที่ได้สติก็รีบบอกลาแล้วหันหลังเดินหนีพร้อมสามสาวที่เหลือที่พร้อมใจกันหันหลัง
"...ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น..." กียุลข่มเสียงให้ดูน่ากลัวขึ้นกว่าเดิม เสียงที่เยือกเย็นและจริงจังสุดๆทำให้ทั้งสี่สาวก้าวขาแทบไม่ออก
'ชิบหายแล้ว!! ToT'
"...หันมา..."
พลังของเสียงกียุลทำให้สี่สาวหันขวับมาในทันที
"มะ.. มีอะไรเหรอจ๊ะกียุล~" นาซิสซ่าหน่วยกล้าตายทักกียุลเสียงหวาน
"อ่ะ เอาไป" กียุลยื่นของบางอย่างให้สี่สาวแต่ยังคงใบหน้าที่จริงจังและอำมหิตไว้ ทั้งสี่รับของมาอย่างกล้ากลัวๆ พอเขารับมันมาก็รู้ว่ามันคือ 'ปืนพกพา' ที่อยู่ในรูปของปากกามาร์กเกอร์
"เอามาให้ทำไมอ่ะน่อ?" เหมยฮัวเอ่ยถามอย่างงุนงงหลังจากได้รับของมา
"จำเรื่องนั้นไม่ได้เหรอ ตอนวิชาพละเมื่อวันศุกร์น่ะ"
"อ่อ.. แต่ว่าถ้าทำเป็นไม่รู้ก็ไม่เป็นไรนี่น่อ"
"ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ แถมครูไอริณยังมาบอกว่าเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว"
"อ่อ.." 5 สาว
"ติดไว้กับตัวให้ตลอดล่ะ พวกเธอ"
"โอเค/โอเคน่อ/โอเคย่ะ/โอเคเจ้าค่ะ"
"แล้วฉันอ่ะ?" ทิวาท้วงขึ้นหลังจากที่ยืนฟังมานาน
"เดี๋ยวก็ได้" กียุลหันไปยีหัวทิวาเล่น ดูไม่เหมือนกับกียุลที่ดูจริงจังอำมหิตเมื่อกี้เลย เขาละมือจากผมทิวาแล้วหันไปคุยกับสี่สาวต่อ "เดี๋ยวฉันต้องไปแล้ว ไปก่อนนะ แล้วก็ขอตัวยัยนี่ด้วย" กียุลจับข้อมือทิวาแล้วหันหลังเดินออกจากซุ้มไป หญิงสาวที่โดนจูงมือก็งงนิดๆแต่ก็เดินตามแต่โดยดี แต่ไม่วายกียุลหันมายิ้มให้เพื่อนๆทั้งสี่ที่อยู่ข้างหลังอย่างหล่อกระชากไส้สุดๆ
"-//////-" หน้าแดงเรียงกันเป็นแถว
หลังจากที่ทั้ง 2 เดินออกจากซุ้มไป สี่สาวก็รวมหัวกันสะกดรอยตามทิวากับกียุลไป จะเรียกว่าต่อมเผือกทำงานก็ว่าได้ -.,-
"นายจะลากฉันไปไหนอ่ะ" ทิวาที่โดนกียุลลากก็ทักขึ้น
"ฉันเห็นนะ ที่เธอทำหน้าเศร้าวันนี้น่ะ" กียุลลากทิวาต่อไปแต่ก็หันหลังมามองหญิงสาวแล้วยิ้มให้อย่างเอ็นดู "เดี๋ยวฉันมาเที่ยวงานด้วย ฉันรู้ว่าเธออยากไปเที่ยวกับฉัน ฉันก็รู้สึกอย่างนั้นนะยัยลิง ^^"
"-/////- บ้า.."
"แล้วชอบมั้ยล่ะ?"
"เลิกถามอะไรแบบนี้เถอะนายตี๋ (-////- )"
"เขินรึไง?"
"เออ! (-//////- )"
"โอเคๆ งั้นรีบไปเที่ยวกันเถอะ อีก 30 นาทีฉันต้องขึ้นไปพูดบนเวที"
"งั้นฉันขอพานายเที่ยวได้มั้ยอะ?"
"ได้สิ"
ทิวาได้พากียุลไปที่ซุ้มถ่ายรูป ภายในซุ้มจะมีส่วนต่างๆที่ถูกจัดเป็นพื้นหลังไว้ถ่ายรูปโดยเฉพาะ มีตู้ถ่ายรูปคุริพุระ มีสวนดอกไม้กับสวนดอกหญ้าไว้ให้ถ่ายรูป สามารถเลือกถ่ายรูปจากกล้องฟิล์ม กล้องโพราลอยด์หรือกล้องถ่ายรูปปกติก็ได้ แต่ละรูปจะถูกถ่ายโดยนักเรียนที่มีความสามารถด้านถ่ายภาพจากชมรมช่างภาพ ไม่ต้องห่วงว่ารูปจะออกมาไม่สวย
ทั้งสองเลือกที่จะถ่ายรูปที่ตู้คุริพุระ โดยกียุลให้เหตุผลว่า 'สถานที่พวกนั้นน่ะ เดี๋ยวค่อยถ่ายก็ได้ อีกไม่นานก็ได้ถ่ายแล้ว' แค่นั้นแต่ทำให้ทิวาเขินจนหน้าแดงสุดๆ เขาพูดโดยมีความหมายนัยๆว่า ยังไงก็ได้ถ่าย'พรีเวดดิ้ง'อยู่แล้ว เดี๋ยวค่อยถ่ายก็ได้
"นี่ๆนายตี๋ ยิ้มหน่อยสิ"
"ฉันถ่ายอย่างนี้ของฉันอย่างนี้ดีกว่า" กียุลเป็นคนประเภทไม่ค่อยชอบถ่ายรูปสักเท่าไหร่ เวลาเจอกล้องก็มักจะหลบ หรือถ้าหลบไม่ได้ก็จะตีหน้านิ่งใส่กล้อง แต่ภาพที่ออกมากลับดูหล่อมากๆซะงั้น
"ยิ้มเถอะนะ 1 2 3!"
'แชะ'
"ถ่ายอีกสัก 50 รูปมะ?"
"เห้ย! เยอะไปมั้ยยัยลิ-!"
'แชะ'
"ฮ่าๆๆๆ หน้านายตลกชะมัดเลยอ่ะ" ทิวาขำกร๊ากออกมา ภาพที่ถ่ายเมื่อกี้ ทิวากำลังชูสองนิ้วแล้วฉีกยิ้มให้กล้อง ส่วนกียุลก็กำลังอ้าปากว่าหญิงสาวอยู่
"หนอย..."
ปึด!
เส้นเลือดปูดขึ้นบนหัวกียุล ถ้าเป็นในการ์ตูนก็คงมีสัญลักษณ์คล้ายๆรูปตัว x ขึ้นมา ภาพเมื่อกี้มันทำลายภาพพจน์คนหล่อ(?)ของกียุลอย่างมากเพราะในภาพกำลังอ้าปากกว้าง
'อย่างนี้ต้องเอาคืน!!'
กียุลคว้าชัตเตอร์ในมือทิวามา ทำให้ทิวาไม่ทันตั้งตัวอ้าปากด่าคนตัวสูง โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าอีกฝ่ายกำลังกดชัตเตอร์รัวๆอยู่ ทิวาพยายามแย่งชัตเตอร์จากมือกียุล เธอต้องการจะได้มันคืน แต่อย่าคิดว่าเขาจะให้ง่ายๆ
ภายในตู้สี่เหลี่ยมแคบๆมีทิวาที่กำลังแย่งชัตเตอร์อย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนกียุลก็หลบการแย่งชัตเตอร์ของทิวาอย่างเกือบตายเหมือนกัน เสียงมันควรจะดังออกไปข้างนอกแต่มันดันเป็นตู้เก็บเสียงนี่สิ ทำให้ไม่มีใครเอะใจอะไรเลยว่ามีคนจะตบ(?)กันในตู้
กียุลกดชัตเตอร์เป็นจังหวะไปเรื่อยๆ ภาพที่ถูกถ่ายออกมามีความเป็นธรรมชาติสุดๆ แต่ละภาพกียุลจะยิ้มให้ทิวาตลอด ส่วนทิวาก็ยื่นมือสองข้างต้องการจะแย่งชัตเตอร์จากมือ ทำให้กียุลต้องยกมือสูงขึ้นเหนือหัว ถ้านำภาพมาเรียงต่อกันจะเหมือนกับว่ากำลังเคลื่อนไหวอยู่ ภาพเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามการเคลื่อนไหวของทั้งสอง
"เหลืออีก 3 รูปสินะ.." กียุลพึมพำขึ้นมาลอยๆแล้วยกยิ้มมุมปาก เขามีแผนการบางอย่างในหัวทันทีที่เห็นว่าถ่ายไป 47 ภาพแล้ว เขาอยากได้ภาพที่สวยที่สุดด้วยฝีมือของเขา โดยที่องค์ประกอบของภาพก็ต้องลงตัว คิดได้อย่างนั้นเขาจึงคว้าเอวของหญิงสาวเข้ามาใกล้ ทำให้ตัวเธอนั้นตกใจมาก ใบหน้าแสดงถึงความตกใจขั้นสุดและขึ้นสีแดงระเรื่อ
'แชะ'
"แสบนักนะยัยลิงกัง" กียุลค่อยๆเลื่อนใบหน้าของตนให้ใกล้ใบหน้าของทิวามากขึ้นเรื่อยๆ ทิวาหันซ้ายหันขวาพยายามหาทางหนี ไม่ยอมให้ร่างสูงได้ฉวยโอกาส
"เอาหน้าออกป๊าย!!! >0<"
"ภาพสุดท้ายแล้วสินะ"
จุ้บ!
'แชะ'
"0//////0"
":)"
กียุลขโมยจูบทิวาอย่างว่องไว ช่วงที่ริมฝีปากของทั้งสองแตะกันเป็นจังหวะเดียวกับที่กียุลกดชัตเตอร์พอดี ภาพสุดท้ายที่ถ่ายออกมา เป็นภาพที่ทั้งสองจูบกันพอดี ไม่มีมุมกล้องใดๆเสริม ทิวายืนนิ่ง อ้าปากค้างเพราะช็อคกับเหตุการณ์เมื่อกี้ที่เธอโดนขโมยจูบอีกแล้ว กียุลยืนมองทิวาด้วยใบหน้าที่โคตรยิ้มแย้มรอภาพปริ้นออกมา
"รูปได้แล้ว อ่ะนี่ของเธอ" กียุลยื่นรูปที่ไม่มีฉากจูบให้ทิวาที่ตอนนี้ยังคงช็อคไม่หาย
"ยัยลิง!!!"
"ห๊ะ!? อ่ะ.. ขอบคุณๆ"
"เป็นอะไรของเธอ ช็อคเหรอ?"
"ก็นายนั่นแหละที่ทำให้ฉันเป็นแบบนั้นอ้ะ!!"
ทิวาเดินออกจากตู้พุริคุระโดยไม่สนใจคนข้างหลังที่วิ่งตามมา
"ทิวา!! ฉันขอโทษ!!" กียุลตะโกนไล่หลังทิวา ทำให้เท้าของหญิงสาวที่กำลังก้าวเดินอยู่หยุดลง กียุลเห็นว่าทิวาหยุดเดินก็รีบวิ่งไปหาทันที
"ทิวา ฉัน.."
"ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นแหละ" ทิวาหันหลังมองคนตัวสูง แล้วระบายยิ้มให้อย่างไม่โกรธเคืองเรื่องเมื่อกี้ "ฉันไม่โกรธอะไรหรอก ก็แค่.. เขินน่ะ"
"ทิวา.."
"ไปกันเถอะ เหลืออีก 17 นาทีเองนะ"
"โอเค ^^"
"มีคนโทรมา รอแปบนะ" กียุลที่สัมผัสได้ถึงโทรศัพท์ที่สั่นในกระเป๋ากางเกงก็ขอตัวทิวาออกไปคุยธุระ
"ฮัลโหล"
[ยูหายไปไหนเนี่ย! อีก 2 นาทียูจะต้องขึ้นเวทีไปเปิดพิธีแล้วนะ!]
"เห้ย! ลืมสนิทเลย เดี๋ยวฉันตามไป"
[แล้วนี่ยูอยู่ที่ไหน---]
"กียุล! อเล็กเซโทรมาหาแน่ะ!" เสียงใสๆของหญิงสาวดังขึ้น ทิวาวิ่งมาแล้วยื่นโทรศัพท์ให้กียุล ทำให้ปลายสายได้ยินเสียงทิวาชัดเจน
[ไปเดทกันก็ไม่บอกไอ ไอจะได้ให้ฮอรัสขึ้นแทนนะโอปป้า -w-]
"จะบ้าเหรอ!! ไม่ได้เดทโว้ย!!"
[ไปเที่ยวสองต่อสองไม่เรียกว่าเดทแล้วเรียกว่าอะไรเหรอฮะ~] เสียงอเล็กเซดังขึ้นจากโทรศัพท์ของทิวาที่เปิดสปีกเกอร์โฟนไว้
"เงียบไปเลยนะ! เดี๋ยวฉันไปแล้ว!! นี่กะจะโทรมากดดันฉันใช่มั้ยเนี่ย!?" กียุลตวาดใส่โทรศัพท์ทั้งสองเครื่อง
[เยส~/ฮะ~]
"มีความพร้อมเพรียงกันดีเนอะ" ทิวายิ้มแห้งๆ
[อีก 1 นาที 25 วิ จับเวลา!]
'วางสาย'
"ทิวา เราต้องไปแล้ว!"
"ไปไหน!?"
"มาเถอะ!"
กียุลจับมือทิวาแล้วติดสปีดที่เท้าวิ่ง4x100ไปที่เวที ทิวาที่โดนอานิสงส์การกระชากจากแรงกิริยากียุล(?)ทำให้เธอโดนลากตามทางไปเหมือนวิ่งหนีเสือชีต้าร์
"วิ่งช้าๆหน่อยได้มั้ยตาตี๋!!!"
"แฮ่ก แฮ่ก" ทั้งสองยืนหอบอยู่หลังเวที เขามาถึงที่นี่ภายในเวลาแค่ 55 วินาทีเท่านั้น
"ทำเวลาได้ดีมากเลยขอรับ" ฮอรัสเดินถือสคริปมาให้กียุลที่ยืนหอบอยู่ข้างหลังเวที
"ใช่เวลาเล่นมุกมั้ยฮะ! ขอบคุณฮอรัส" กียุลรับแผ่นสคริปมาแล้วบอกขอบคุณ
"ขอรับ" ฮอรัสยิ้มบางๆแล้วเดินไปเตรียมงานข้างหลังต่อ
"นี่ทิวา" กียุลทักทิวา มือข้างนึงกำลังติดไมค์ อีกมือก็ถือสคริปเตรียมไว้
"มีอะไรเหรอ?"
"เก็บนี่ไว้กับตัวตลอดนะ" กียุลยื่น'ลูกดอกยาสลบ'ให้ทิวาประมาณ 5 ดอก
"ให้ฉันทำไมเหรอ?"
"ฉันมีลางสังหรณ์แปลกๆว่าจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้นน่ะ ลูกดอกนี่แค่ปาไปให้โดนเป้าหมายก็พอ แต่ว่าต้องแม่นนะ โดนจุดไหนก็ได้ตามร่างกาย จะทำให้หลับไปประมาณ 2 ชั่วโมง ฉันให้อเล็กเซทำไว้ 5 ดอก อยากให้เธอเก็บไว้ ถ้ามีอะไรให้ใช้มันเลยนะ"
"อืม จะพยายามปาให้โดนนะ ฮ่าๆ"
"เอาให้สลบไปเลย เอ้อ ติดนี่ไว้ด้วยนะ" กียุลติดสติ๊กเกอร์รูปดาวสีดำเล็กๆไว้ที่หางตาข้างซ้ายของทิวา ถ้าดูผ่านๆจะเหมือนกับการเอาอายไลเนอร์มาวาดไว้
"สิ่งนี้เปรียบเสมือนกล้องวงจรปิด มันจะบันทึกภาพจากมุมมองของเธอตลอดเวลา ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็สามารถเชื่อมต่อดูกับแลปท็อปของฉันได้"
"ขอบคุณนะ แต่ว่าไปเอาของพวกนี้มาจากไหนอ่ะ?"
"คุณไอริณให้มาน่ะ"
"แล้วแม่ไม่ให้ฉันด้วยตัวเองเนี่ยนะ!? -3-"
"อันนี้ฉันไม่รู้นะ ได้เวลาแล้วไปก่อนนะ"
"โอเค อย่าพูดอะไรบ้าๆออกไปล่ะตาตี๋"
"ฉันไม่เปิ่นเหมือนเธอหรอกยัยลิงกัง"
กียุลยีหัวทิวาสองสามทีแล้วหันหลังเตรียมจะเดินขึ้นเวที สาวไทยยืนมองแผ่นหลังของหนุ่มเกาหลีอยู่ห่างๆ อยากจะเข้าไปกอด อยากจะเข้าไปจับมือ อยากจะเข้าไปบอกลาเขาอีกครั้ง แผ่นหลังนั้นหยุดยืนอยู่ครู่หนึ่งเหมือนกับเพิ่งนึกอะไรออก เขาหันหน้ากลับมาแล้ววิ่งมากอดหญิงสาวราวกับไม่อยากจากเธอไปไหน เธอไม่ได้ขัดขืนอะไรแล้วกอดเขาตอบ ทั้งสองกระชับกอดกันอย่างแนบแน่นอยู่สักพักแล้วจึงคลายกอดออก เป็นอ้อมกอดที่พวกเขาไม่อยากคลายออกเลยสักนิด แต่จำใจต้องผละออกไปเพราะหน้าที่ข้างหน้า
กียุลระบายยิ้มให้ทิวาก่อนจะเดินขึ้นเวทีไปจริงๆ ทิวายิ้มกลับไปให้กียุลแล้วคอยให้กำลังใจอยู่ข้างล่าง ดวงตาสีทับทิมเริ่มไหว น้ำใสๆเริ่มเอ่อล้นขอบตา แต่เธอสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะไม่ร้องไห้อีก ทิวาซับน้ำตาด้วยแขนเสื้อที่ข้อมือ กระพริบตาสองสามทีให้น้ำตาจางหายไปแล้วยืนฟังเสียงของกียุลที่กำลังยืนพูดอยู่บนเวที
"สวัสดีครับทุกท่าน ในฐานะประธานนักเรียนโรงเรียนเจ้าชายโนอาห์คลาสดุ๊ก ผมคิม กียุล ขอกล่าวขอบคุณทางโรงเรียนเจ้าหญิงลาฟลอสำหรับที่พำนัก การกินอยู่ การเรียนการสอนและทุกๆอย่างที่ได้ช่วยเหลือกับทางเรามากๆครับ ความสัมพันธ์ของทั้งสองโรงเรียนนั้นแน่นแฟ้นกันมานาน และจะแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นในอนาคตครับ ...."
กียุลพูดตามสคริปไปเรื่อยๆ ทิวาใจจดใจจ่อยืนฟังโดยไม่รู้ว่าพวกเพื่อนๆที่สะกดรอยตามเธอทั้งสี่ยืนอยู่ข้างหลังมาสักพักแล้ว
"อาทิวา"
"..."
"อาทิวา"
"..."
"อาทิวา!!!"
"ห๊ะ!? อะไรเนี่ยเหมยฮัว!!!" ทิวารีบอุดหูอัตโนมัติเพราะเพื่อนสาวชาวจีนตะโกนเรียกชื่อเธอข้างหูอย่างดัง
"ก็อั๊วเรียกตั้งหลายรอบแล้วลื้อไม่ยอมหันมานี่ ยืนเหม่ออะไรอยู่น่อ?"
"ไม่ได้เหม่อ! ฉันแค่.."
"แค่อะไรยะ?" นาซิสซ่ากดดัน
"แค่.."
"แค่อะไรเหรอเจ้าคะ?" ยูริกดดันตาม
"ก็.."
"เลดี้ทั้งห้าคะ" เสียงปริศนาเรียกพวกเธอดังขึ้นจากข้างหลังทำให้พวกเธอทั้งหมดสะดุ้งไปตามๆกัน
"มีอะไรเหรอค้า~" หน่วยกล้าตายเบอร์ 2 ทิวาหันหลังไปหาเจ้าของเสียงก็พบว่าเขาก็คือ "ครูมารี!?"
"ครูมารี!?" อีกสี่คนหันขวับกลับมาทันทีที่ได้ยินชื่อคุณครูที่พวกเธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี
"ใช่แล้วค่ะเลดี้"
"สวัสดีค่ะ/เจ้าค่ะ/น่อ"
"สวัสดีจ้ะ แล้วพวกเธอมาทำอะไรแถวนี้เหรอคะ?"
"กียุลพาหนูมาที่นี่น่ะค่ะ" ทิวาตอบ
"กียุล? ไหนบอกไม่อยากเจอ'เขาคนนั้น'ไงคะเลดี้ทิวา"
"เอ่อ.. แค่บังเอิญน่ะค่ะ ^^;"
"เหรอออ~" สี่สาวประสานเสียงแซว
"( -*-)"
"( '3';)~" สี่สาวเช่นเคย
"คือครูมีเรื่องวานจะขอให้ช่วยหน่อยน่ะค่ะ"
ตึกเรียนคลาสดัตเชส ชั้น 1
"เฮ้อ~ โดนใช้งานแบบนี้อีกแล้วแฮะ" ทิวาบ่นหน้าบึ้งก่อนจะเดินกลับไปที่ท่าเรือพร้อมกับเพื่อนๆ
"ครูเขาแค่วานให้เอาของมาเก็บเฉยๆไม่ต้องบ่นหรอกน่า ช่วยเหลือนิดๆหน่อยๆถือว่าตอบแทนท่านไง" โรซารี่บอกทิวา
"ก็มันขาดช่วงนี่นา~"
"อดฟังแฟนตัวเองขึ้นไปพูดมันเลยขาดช่วงสินะยะ"
"แฟนบ้าอะไรล่ะ!! ฉันยังไม่ได้ตกลงคบกันสักหน่อย!!"
"จ้าๆ แต่ท่าทางเวลาอยู่ด้วยกันมันเหมือนคนรักมากเลยนะยะ"
"จริงเหรอ? 0///0"
"จริงเจ้าค่ะ เวลาเดินไปไหนมาไหนมักจะจูงมือกันตลอดเลย มียีหัวเล่นด้วย ยูริเห็นนะเจ้าคะ"
"พอเถอะ พอเลยๆๆ หยุดพูด ฉันเขิน -///-"
"ไม่เห็นต้องเขินอะไรเลยน่อ แค่เปิดเผยก็พอ"
"แล้วพวกเธอเปิดเผยกันแล้วรึไง?" ทิวาถามเพื่อนทั้งสี่กลับไปด้วยความหงุดหงิดเล็กๆ พวกเธอมองหน้ากันแล้วหันมาตอบทิวาเป็นเสียงเดียวว่า
"ก็คบกันแล้วไง~ ^^"
"ห๊ะ!!??"
"หูตึงรึไงยะยัยลิง -*-"
"ก็พวกเธอไม่เห็นบอกฉันเลยอ่ะ!"
"ก็บอกไปแล้วไง" โรซารี่เสริม
"เมี้ยว~ เมี้ยว~" เสียงของเจ้านิลที่นอนอยู่บนหัวทิวาร้องขึ้นเมื่อทั้ง 5 เดินผ่านหน้าห้องผอ.
"เจ้านิลมีอะไรเหรอ ปกติไม่เห็นจะร้องอะไรนี่เวลาเดินผ่านห้องพักครูแบบนี้อ่ะ?" ทิวาที่สังเกตถึงความปกติของแมวเจ้าหล่อนทักขึ้น เจ้านิลกระโดดเข้าห้องผอ.ไป "เฮ้ เจ้านิลหยุดนะ!"
"คุณทิวาเจ้าคะ พวกเราก็ตามไปดูกันเถอะเจ้าค่ะ" ยูริพูดขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ
"เคๆ พวกเธอก็มากับฉันด้วยละกัน"
"โฮะ โฮะ โฮะ พูดอย่างกับกลัวอะไรแน่ะยัยลิง!"
"มะ.. ไม่ได้กลัวสักหน่อยยัยกิ้งก่า!!!"
"แหม~ แต่เสียงสั่นเชียวนะยัยลิง"
"อึก..!"
"พอกันได้แล้วทั้งสองคนน่ะ จะเข้าไปมั้ย เจ้านิลหายไปนานแล้วนะ" โรซารี่เข้ามาห้ามปรามทั้งสองคนไม่ให้ทะเลากันไปมากกว่านี้อีก
"เข้าก็เข้า แบร่!" ทิวาหันไปแลบลิ้นให้นาซิสซ่า
"แบร่!" นาซิสซ่าแลบลิ้นตอบ
"ยังไม่หยุดกันอีกนะน่อ เฮ้อ~" เหมยฮัวถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินตามเข้าไปในห้องผอ.
"มีอะไรรึเปล่าเจ้านิล?" ทิวาเดินเข้าไปใกล้ๆโต๊ะผอ.ที่ตอนนี้เจ้านิลกำลังเดินวนอยู่บนโต๊ะแล้วข่วนลิ้นชักเหมือนต้องการจะบอกทิวาว่า เปิดมันออกหน่อย
"ลองไปเปิดดูหน่อยสิน่อ" เหมยฮัวที่เหมือนจะเข้าใจเจ้านิลบอกกับทิวา
"ก็ได้ๆ"
…
"ฮัลโหลค่ะครูไอริณ"
[ครูมารีคะ! แย่แล้วค่ะ พวกมันกำลังเคลื่อนไหว!!]
"อะไรนะคะ!? แล้วตอนนี้พวกมันกำลังมุ่งหน้าไปที่ไหนเหรอคะ!?"
[ตึกเรียนคลาสดัตเชสชั้น 1 ค่ะ มีใครอยู่ที่นั่นมั้ยคะ?]
"มีค่ะ.. ฉันเพิ่งให้พวกเลดี้ทิวานำของไปเก็บที่นั่นเมื่อกี้.."
[ซวยแล้ว! งั้นฉันจะรีบส่งคนไปจับกุมพวกคนร้ายนะคะ ฝากครูมารีกันเด็กไม่ให้ออกไปจากท่าเรือด้วยนะคะ ดูท่าพวกมันจะรอโอกาสที่ไม่มีใครอยู่ที่ตึกเรียนมาค้นหาของค่ะ!]
"ได้เลยค่ะ ครูไอริณรีบไปดูทางนั้นเถอะค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ดิฉันพลาด.."
[คุณครูไม่ผิดหรอกค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะ]
'วางสาย'
'ขอให้พวกเธอไม่เป็นอะไรด้วยเถอะ'
"เอ.. กล่องอะไรนะ?" ทิวาหยิบกล่องสีทองขนาดพอดีมือขึ้นมาดู เจ้านิลเห็นว่าทิวาหยิบมันขึ้นมาก็กระโดดขึ้นหัวแล้วร้องเมี้ยวเมี้ยว
"เหมือนตอนนั้น*เลยน่อ แต่ขนาดกล่องมันเล็กกว่า" *(ลาฟลอร่า ภาคแรก เล่ม 2 ปริศนาแฟชั่นชุดประจำชาติอังกฤษ)
"เดี๋ยวลองกลับไปเปิดที่หอดีกว่า ไปเถอะทุกคน" ทิวากวักมือให้เพื่อนๆเดินตามแล้วถือกล่องติดมือไป
สาวๆทั้ง 5 เดินไปเรื่อยๆไปที่ท่าเรืออย่างสบายอกสบายใจโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีสิ่งผิดปกติตามห้องเรียนในชั้น 1 ทุกห้อง แต่โรซารี่กลับมีประสาทที่ว่องไวรีบกดหัวเพื่อนให้ก้มต่ำลงทันทีที่รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงลั่นไกปืน
"ทุกคนก้ม!!!"
ปัง!
"เกิดอะไรขึ้นน่ะเจ้าคะ!!!" พวกเธอหันไปทางที่กระสุนปืนถูกยิงมา ด้านหลังพวกเธอมีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 5 คนที่คาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายยืนถือปืนเตรียมยิงพวกเธออยู่ พอพวกเธอรู้ตัวก็รีบวิ่งหนีทันทีโดยที่มีเหมยฮัวที่เก่งกังฟูและโรซารี่ที่ไหวพริบไวและประสาทสัมผัมดีเยี่ยมคอยป้องกันหลัง
"กล่องสีทองนั่น! ไปเอามันมา!!" กลุ่มคนร้ายวิ่งไล่ตามมาติดๆ ด้วยพละกำลังและความเร็วของผู้ชายทำให้เริ่มวิ่งใกล้ถึงตัวพวกเธอแล้ว แต่สวรรค์ก็ยังเข้าข้าง มีหญิงสาวในยูนิฟอร์มขององค์กรรัฐบาลโลกโผล่ออกมาจากซอกของตึกแล้วคอยป้องกันพวกเธอจากข้างหลัง
"แม่!!!" ทิวาตะโกนอย่างดีใจที่ได้เจอหน้าผู้เป็นแม่อีกครั้ง แต่สถานการณ์ตรงหน้ามันบ่จอยเลยจริงๆ
"ดีจ้าทิวา แต่ว่าตอนนี้เราต้องวิ่งหนีก่อนนะ!" ไอริณวิ่งขึ้นไปข้างหน้าที่นาซิสซ่าวิ่งนำอยู่ "ข้างหน้าจะมีสะพานข้ามสามารถขึ้นเรือโนอาห์ได้ทันทีที่ไม่มีใครเห็น ให้พวกเธอรีบไปที่นั่นซะ!"
"น่อ!/เจ้าค่ะ!/ค่ะ!"
ทั้งสามยกเว้นโรซารี่และทิวาตอบรับ ไอริณจึงชะลอความเร็วลงมาวิ่งปิดท้ายอีกครั้ง ทิวาที่เริ่มล้าจากการวิ่งหนีก็เริ่มวิ่งช้าลงแล้วหายใจถี่ขึ้นเรื่อยๆ
"ทิวา!! รีบวิ่งเร็ว!!" โรซารี่รีบดึงมือให้ทิวาวิ่งหนี
"พวกเธอรีบวิ่งไปให้เร็วที่สุด!! ข้างหลังครูจะดูเอง!!"
"หนอย.. พวกแก!!! กลับมานะ!!!!!" เสียงของชายฉกรรจ์ตะโกนไล่พร้อมกับพวกของเขาอีก 4 คน
กริ๊ก!
'เสียงมันลั่นไกปืนนี่!' ทิวานึกในใจ
"พูดดีๆไม่ฟัง ตอนเจอไอ้นี่หน่อยแล้ว!!!"
ปัง!
"โรซารี่หลบไป!!!!"
ผลัก!
ทิวาผลักโรซารี่ให้กระเด็นไปทางที่พวกยูริกับครูไอริณวิ่งหนี
"ทิวา!!!"
กระสุนปืนที่พวกมันยิงมาที่ตอนแรกเล็งเป้าไปที่โรซารี่ แต่ตอนนี้กระสุนได้เฉียดที่ขาข้างซ้ายของทิวา
"โอ้ย!!!!!!"
"ทิวา!!!!" โรซารี่รีบวิ่งกลับมาหาทิวาที่โดนลูกหลงกระสุน
"โรซารี่! วิ่งหนีไป!!"
"ไม่.. ฉันทิ้งเธอไม่ได้!"
"ฉันบอกให้ไปไง!!!!!!!"
"ทิวา!!" ครูไอริณกำลังวิ่งมาหาทิวาให้เร็วที่สุด
"แม่!!! เอาของไป!!! วิ่งหนีไป!!!!!! วิ่งไปสิ!!!!!!!!!!" ทิวาตะโกนสุดเสียงแล้วปากล่องสีทองไปให้ไอริณ ทั้งสองได้แต่อ้ำอึ้งแต่ก็ยอมวิ่งไป
"หนูหวังว่าแม่จะรู้นะคะว่าต้องทำยังไงต่อ.."
"รอแม่ก่อนนะทิวา!!" ไอริณวิ่งจากทิวาไปทั้งน้ำตา ในใจเธออยากจะฉุดทิวาให้ลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งต่อใจจะขาด แต่ว่ากล่องสีทองที่อยู่ในมือเธอ คือสิ่งที่พวกมันต้องการ ในตอนนี้เราต้องหนี มันต้องมีสักวิธีที่สามารถช่วยทิวาและจับคนร้ายได้ในเวลาเดียวกันสิ ใช่! เธอต้องทำตามสิ่งที่สายลับทำกันเวลาเกิดเรื่องแบบนี้!
ไอริณกดหูฟังแล้วพูดพึมพำใส่หูฟังอยู่สองสามประโยคแล้ววิ่งต้อนให้พวกสาวๆทั้ง 4 ขึ้นเรือ
'หวังว่าจะมาช่วยลูกฉันทันนะ..'
"นั่นไง พวกมันหนึ่งคน!!!" กลุ่มชายฉกรรจ์กำลังวิ่งมาทางนี้ ไม่นะ ทิวาพยายามที่จะลุกขึ้นวิ่งหนีแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเจ็บแผลมาก
"โอ้ย!!" น้ำตาใสๆไหลอาบแก้ม ทิวาจนปัญญาหนี ได้แต่รอหายนะอยู่ตรงหน้า
"ไปจับตัวมันมา!!!!!" ชายฉกรรจ์คนหนึ่งตะโกนสั่งชายอีกคนที่คาดว่าเป็นลูกน้องของเขาให้ไปจับตัวทิวา
'ไม่.. ไม่นะ ฉันยังไม่อยากตาย'
"ใคร.. ใครก็ได้.." เสียงแหบพร่าไปหมดแล้ว น้ำตายิ่งไหลมากขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับระยะห่างตัวทิวาถึงชายฉกรรจ์นั้นน้อยลงเต็มที
"กี... กียุล... กียุลช่วยฉันด้วย!!!!!!"
ปัง!
เสียงปืนดังจากข้างหลังทิวา หญิงสาวที่หลับตาปี๋ค่อยๆลืมตาขึ้นมาก็พบว่าคนที่เป็นคนยิงกระสุนเมื่อกี้ก็คือ ครูมารี กีมาร์
"เอ๊ะ!? ครู.."
"สวัสดีอีกครั้งค่ะเลดี้ทิวา แต่ว่าตอนนี้ไม่มีเวลาคุยด้วยสิ ไว้หลังไมค์นะคะ" ครูมารีหันมายิ้มให้ทิวาแวบนึงแล้วจดจ่อกับกลุ่มคนร้ายข้างหน้าต่อ
"ร่วง 1 เหลือ 4" ครูมารีนับผลงานตัวเองแล้วลั่นไกปืนอีกครั้ง ก่อนจะกราดกระสุนใส่พวกมันที่เหลือ แต่พวกมันก็หลบวิถีกระสุนได้หมดทุกนัด!
"สมกับเป็นคนร้ายระดับโลกจริงๆนะคะเนี่ย.. กระสุนหมดซะแล้ว"
"ครูมารี ใช้นี่ค่ะ!" ทิวายื่นลูกดอก 4 ลูกให้ครูมารี ไม่รอช้ารีบยัดลูกดอกลูกแรกลงในกระบอกปืนแล้วยิงใส่หนึ่งในนั้น ทำให้พวกมันคนหนึ่งหลับทันที
'อีกดอกหนึ่งหายไปไหนอ้ะ!?'
"ร่วง 2 เหลือ 3"
"หนอยพวกแก!!!!"
ปัง!
"ไป 3 เหลือ 2"
"ชักจะมากไปแล้วนะเว้ย!!!!!!!"
ปัง!
"หาย 4 มีแค่ 1 สินะคะ"
"ตายซะเถอะ!!!!!!"
ปัง!
"เอ๊ะ?"
"หึ!"
ครูมารีอุทานขึ้น กระสุนเมื่อกี้มันหลบได้ แถมตอนนี้ก็ไม่เหลือกระสุนแล้ว ชายฉกรรจ์คนนั้นวิ่งมาแล้วเล็งปืนไปที่ครูมารีหมายจะเก็บเธอ
"ก่อนจะฆ่าครูฉัน ข้ามศพฉันไปก่อนเถอะ!!"
ฉึก!
ปัง!
วินาทีเดียวกับที่ชายฉกรรจ์ยิงปืน ทิวาผลักครูมารีให้กระเด็นออกแล้วใช้แขนข้างขวารับกระสุนเต็มๆ ส่วนลูกดอกลูกสุดท้ายที่ค้นเจอในกระเป๋ากระโปรงก็โดนทิวาแทงไปที่แขนข้างขวาของชายฉกรรจ์พอดี ยาสลบทำงานทันทีทำให้เขาหลับไป 2 ชั่วโมง ทิวาที่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวก็ล้มลงตามแรงโน้มถ่วง โชคดีที่ครูฌาแนตต์โผล่มารับทัน
"ทำไมมาช้าล่ะคะครูฌาแนตต์!" ครูมารีตวาดใส่ครูฌาแนตต์ทันที
"ขอโทษฮ่ะ แต่พอดีอีกทางนึงก็มีคนร้ายเหมือนกันเลยเสียเวลาไปนิดหน่อย แต่รีบไปเถอะฮ่ะตอนนี้เลดี้ทิวาหายใจรวยรินมาก คนพวกนี้เดี๋ยวทางองค์กรก็มารวบตัวไปฮ่ะ!" ครูฌาแนตต์รวบตัวทิวาขึ้นแล้ววิ่งขึ้นเรือไปทางเดียวกับที่ไอริณวิ่งไปเมื่อครู่โดยมีครูมารีวิ่งประกบหลังตามมาติดๆ
"พวกเธอปลอดภัยใช่มั้ย!?" กียุลโพล่งถามสาวๆออกไปทันทีที่พวกเธอเข้าเรือมา ไม่มีใครรู้เรื่องที่มีคนนอกขึ้นเรือนอกจากราชาทั้ง 5 และพวกผู้ใหญ่
"พวกฉันน่ะปลอดภัย แต่.."
"แต่อะไร แล้วทิวาล่ะ!?" พอทุกคนได้ยินเสียงคำถามจากกียุลก็เงียบกริบ จะบอกเขาไปยังไงว่าทิวาโดนยิง ตอนนี้ยังเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้ กียุลเห็นทุกคนนิ่งเงียบก็พอเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ร่างสูงกำมือแน่นจนม่วง มีรอยเล็บจิกอยู่ที่มือเขา เขาโกรธพวกคนร้ายที่ทำร้ายทิวาจนตัวสั่น ขายาวๆก้าวออกเพื่อจะไปตามหาหญิงสาวที่ตนรัก แต่ก็ถูกไอริณห้ามไว้ก่อน
"ใจเย็นๆก่อนนะกียุล ครูเชื่อว่าทิวาต้องปลอดภัย!"
"แล้วครูรับประกันได้มั้ยล่ะครับว่าทิวาจะปลอดภัยน่ะ!!" กียุลหันมาตะคอกใส่ไอริณจนทุกคนตั้งตัวไม่ถูก น้ำเสียงเกรี้ยวโกรธของกียุลดังขึ้นทั่วดาดฟ้าเรือ ดวงตาสีน้ำเงินจ้องมองสะพานข้ามอย่างเหม่อลอยแต่มีความแค้นแฝงอยู่
"ครูไม่..."
"ผมไม่อยากเสียทิวาไป เข้าใจมั้ยครับ!? ผมไม่อยากเสียเธอไป!!!!" กียุลตะโกนลั่นเรือ แก๊งราชาทั้ง 4 ที่ได้ยินเสียงเพื่อนของตนก็รีบวิ่งออกมาดู พวกเขาต่างตะลึงกับภาพตรงหน้าที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน ใบหน้าหล่อเหลาชุ่มไปด้วยน้ำตาใสๆที่ไหลอาบแก้มของกียุล ผู้ไม่เคยร้องไห้ให้ใคร บัดนี้ เขาได้ร้องไห้ให้หญิงสาวที่ตนรักที่คิดว่ากำลังจะเสียเธอไป เขาภาวนาในใจให้เธอรอด ขอให้เธอยังมีชีวิตอยู่
ความจริงเขาเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่เสียงยิงปืนนัดแรกแล้ว สติ๊กเกอร์ดาวสีดำมีความสามารถเหมือนกล้อง และเหมือนที่ดักฟังได้ในอันเดียวกัน เขามองเหตุการณ์ทั้งหมดผ่านแว่นอันหนาเตอะที่คอยใส่ปิดบังใบหน้า เขาอยากจะวิ่งลงเรือไปเตะหน้าไอ้ผู้ชายที่มันทำให้ทิวาต้องเจ็บตัวเหลือเกิน อยากจะลงไปรับกระสุนแทนเธอทั้งหมด แต่ก็ลงไม่ได้ มันช่างเจ็บใจที่สุด!
"ทุกคน!! ช่วยด้วยฮ่ะ!!!" เสียงครูฌาแนตต์ดังขึ้นที่ปลายสะพานข้าม ดึงดูดให้ทุกคนหันไปทางเขา ครูฌาแนตต์วิ่งข้ามสะพานมากับตัวของทิวาที่ทั้งแขนและขาท่วมไปด้วยเลือดตามด้วยครูมารีที่วิ่งมาติดๆ พอทั้งสามขึ้นเรือปุ๊บ ฮอรัสก็สั่งให้เรือเคลื่อนตัวออกทันที
กียุลรีบวิ่งไปดูทิวาด้วยความเป็นห่วง ในใจเขาส่วนนึงดีใจสุดๆที่เธอยังไม่ตาย แต่อีกส่วนนึงเริ่มใจหายเมื่อทิวาหายใจรวยรินมาก
ไอริณรีบหาผ้ามาห้ามเลือดทิวาที่แผลทั้งสองจุด กียุลรีบอุ้มทิวาแล้วตรงไปที่ห้องพยาบาลทันที ถึงจะรอดแต่ในกรณีนี้ก็ถือว่าสาหัสอยู่ ที่เหลือวิ่งตามมาที่ห้องพยาบาล ทิวาถูกส่งตัวเข้าห้องไอซียู ต้องรอผลการรักษา กียุลจึงสั่งให้ทุกคนไปตรวจร่างกายหาบาดแผล ผลออกมาว่าทั้งสี่สาวไม่มีใครบาดเจ็บอะไร มีแต่โรซารี่และครูมารีที่มีรอยถลอกจากการโดนผลักหลบกระสุน ครูฌาแนตต์มีรอยถลอกและรอยฟกช้ำทั่วตัวเนื่องจากไปต่อสู้กับอีกฝั่งก่อนจะมาที่นี่ ส่วนไอริณไม่เป็นอะไร เธอบอกมาว่าเป็นประเภททนถึกเลยไม่เป็นอะไร
แต่คนที่น่าเป็นห่วงที่สุดคงเป็นทิวา ผ่านไป 2 ชั่วโมงแล้ว หมอก็ยังไม่ออกมาสักที
ไอริณที่หายไปสักพักเดินกลับมาพร้อมกับแลปท็อปในมือ เธอนั่งลงอยู่ข้างๆเด็กๆแล้วเรียกให้ทุกคนไปรวมกัน
"ก่อนอื่น ครูมีข่าวดีกับข่าวร้ายมาบอกพวกเธอ"
"เอาข่าวดีก่อนครับ!" คริสโตเฟอร์ที่ไม่มีบทมานานแสนนานเป็นคนพูดขึ้น คนอื่นไม่ได้ว่าอะไรแต่ก็พยักหน้าให้ไอริณ
"ข่าวดีก็คือ ทิวาปลอดภัยแล้ว สามารถเยี่ยมได้พรุ่งนี้จ้ะ"
"จริงเหรอคะ/จริงเหรอครับ!?" เด็กๆถามออกมาด้วยความดีใจสุดๆ
"จริงจ้ะ"
"แล้วข่าวร้ายอ่ะครับ?" ดันเต้ถาม
"คือว่า พวกเธอน่ะ" ไอริณพักช่วงแปบนึงแล้วชี้ไปทางสี่สาว "คงกลับลาฟลอร่าไม่ได้สักพักใหญ่ๆจนกว่าจะจับคนร้ายได้เลยล่ะ เพราะถ้าขืนกลับไปตอนนี้พวกเธอโดนไล่ล่าจากพวกที่ซ่อนตัวอยู่ในลาฟลอร่าแน่ๆ บนนี้ครูตรวจสอบนักเรียนแล้วไม่มีใครแฝงมา 100%"
"แล้วมีวิธีที่เราจะกลับลาฟลอร่าได้เร็วๆมั้ยคะ?" โรซารี่ยัง งงๆ กับคำตอบ
"มีจ้ะ ถ้าทางองค์กรจับคนร้ายได้ครบเมื่อไหร่เธอก็จะได้กลับเมื่อนั้น"
"ถ้างั้นพวกหนูจะช่วยกันตามจับคนร้ายด้วยค่ะ!"
"ตะ.. แต่ว่ามันเสี่ยงนะจ้ะ"
"พวกอั๊วจะตามจับคนร้ายพร้อมกับหาของให้ได้น่อ! เป็นการที่แก้แค้นที่มาทำให้เพื่อนอั๊วต้องเจ็บตัว" เหมยฮัวหักนิ้วดังกร๊อบจนหลายคนเสียวสันหลังวาบ
"ผมจะช่วยด้วยครับ" กียุลเสนอตัวขึ้นอย่างเนิบๆแต่ใบหน้ามีแต่ความจริงจัง
"มันอันตรายนะจ้ะ"
"ผมไม่สนหรอกครับว่ามันอันตรายหรือไม่ แต่ถ้าพวกมันมาทำให้ทิวาและเพื่อนผมต้องเจ็บตัวปางตายเพราะมันล่ะก็..
ผมไม่ปล่อยไว้แน่!!!!!"
________________________________________________________________________________________
สวัสดีค่า! นักอ่านที่เคารพรักทุกท่าน ห่างหายกันไปตั้งอาทิตย์นึงต้องขอโทษด้วยค่ะ TwT ก่อนอื่นต้องขอบคุณสำหรับจำนวนแฟนคลับที่จู่ๆพุ่งขึ้นอย่างมาก ขอบคุณมากนะคะ เรามีกำลังใจที่จะแต่งเรื่องนี้ต่อไป ต้องขอบคุณแรงสนับสนุนจากนักอ่านทุกๆคนด้วยค่า ข่าวดีก็คือคอมเราซ่อมเสร็จแล้ว!! สามารถอัพนิยายในคอมได้แล้วค่ะ
ตอนหน้าจะเป็นยังไงก็ฝากติดตามต่อไปด้วยนะคะ กด favorite คอมเม้นท์พูดคุยได้ค่ะ ขอบคุณมากค่า~
ความคิดเห็น