เช้าวันนี้อากาศอึมครึมมัวซัวด้วยเมฆหมอก ฉันมองไปทางทิศตะวันตก มองไม่เห็นดอยสวย ๆ เหมือนในช่วงปลายฝนต้นหนาวหรือช่วงฤดูหนาวเลย อากาศก็ไม่สดใสเพราะเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูร้อน อากาศร้อนจัง ฉันถามแม่ว่าตอนแม่เด็ก ๆ ท้องฟ้าแจ่มใสมองเห็นดอยชัดเจนไหม แม่บอกว่าตอนแม่เด็ก ๆ เมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้ว แม่มองเห็นดอยชัดเจนมาก ไม่มีคอนโดสูง ๆ หลาย ๆ คอนโดมาบังดอยเหมือนในตอนนี้ แม่เห็นดอยและเห็นวัดบนยอดดอยได้ชัดเจน ตอนแม่เด็ก ๆ ใกล้หมู่บ้าน มีถนนสร้างขึ้นดอยเสร็จใหม่ ๆ เป็นถนนสวยที่สุดของจังหวัดในตอนนั้น คนในหมู่บ้านตื่นเต้นมาก ไปดูไฟฟ้าที่ถนนตอนกลางคืนสวยมาก ทุกคนตื่นเต้นกันมาก แม่บอกว่าเด็ก ๆ สมัยนี้คงไม่เข้าใจว่าไปดูไฟฟ้าที่ถนนแล้วมันสวยอย่างไร คงต้องคุยกับคนวัยเดียวกันเท่านั้นที่จะเข้าใจ แต่ฉันเข้าใจนะฉันนึกจินตนาการภาพตามที่แม่เล่าเหมือนกับฉันอาศัยอยู่ในสมัยนั้นด้วย ช่วงใกล้สงกรานต์เด็ก ๆ ในหมู่บ้านก็กระโดดลงน้ำที่เรียกว่าน้ำห้วย น้ำห้วยก็คือลำธารที่ไหลมาจากน้ำตกจากบนดอย น้ำใส ไหลเย็น ๆ แต่ตอนนี้กลายเป็นคูน้ำบางช่วงน้ำก็เหม็นเน่าไปแล้ว วันหยุดเสาร์อาทิตย์หรือช่วงปิดเทอมเด็ก ๆ ในหมู่บ้านจะปั่นจักรยานเล่นกันบริเวณพื้นที่กว้าง ๆ ที่เคยเป็นทุ่งนาที่ชาวบ้านพากันเลิกทำนาแล้วขายที่ดินให้เศรษฐีไปแล้ว ชาวบ้านก็เหลือแต่ที่ดินที่เป็นบ้านของตัวเองเท่านั้น แต่พื้นที่ก็ดูกว้างกว่าตอนนี้ เดี๋ยวนี้ในหมู่บ้านที่ฉันอยู่มีแต่หอพัก คอนโด และบ้านที่มีพื้นที่บริเวณไม่กว้างมากนัก มีผู้คนอาศัยอยู่มากมาย รถราก็มาก แม่เล่าให้ฉันฟังอีกว่าสมัยก่อนเด็ก ๆ เล่นกันสนุกถึงแม้เราจะอยู่อำเภอเมืองแต่ก็เหมือนบ้านนอก เด็ก ๆ จะเล่นของเล่นที่หาได้จากวัสดุธรรมชาติในท้องถิ่น ไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีอินเทอร์เน็ท เด็ก ๆ ก็เล่นกันอย่างนุกสนาน ไม่มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ และรถก็ไม่ติดเหมือนทุกวันนี้ เวลาแม่นั่งรถเมล์กลับจากโรงเรียนมาบ้านจะผ่านต้นฉำฉาหลาย ๆ ต้นข้างทาง ยิ่งเป็นช่วงฤดูหนาวอากาศจะเย็นมาก แม่นั่งรถเมล์ไปโรงเรียนทุกวัน จนมาวันหนึ่งแม่ก็เห็นรถคันใหญ่ ๆ มาตัด โค่นต้นฉำฉาไปจนบริเวณนั้นจากที่เคยมีต้นฉำฉามากมายหลายต้นกลายเป็นพื้นที่โล่ง ๆ แล้วก็มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ขึ้นมาแทนที่แล้วจากนั้นเวลาแม่นั่งรถเมล์ผ่านบริเวณนั้นอากาศก็ไม่เย็นสบายเหมือนเดิมอีกเลย ฉันแอบอิจฉาแม่เล็ก ๆ ว่าตอนที่แม่อายุเท่าฉันแต่แม่ได้อยู่ในอำเภอเมืองที่ยังมีธรรมชาติสวยงาม ได้ปั่นจักรยานในที่กว้าง ๆ โล่ง ๆ และไม่ค่อยมีอันตรายจากรถรา หรือโจรผู้ร้าย ส่วนฉันสิไปปั่นจักรยานก็ต้องระวังรถ เพราะในหมู่บ้านมีรถขับไปมาบางคันก็ขับไวมาก ไปปั่นจักรยานไม่คุ้มกับอุบัติเหตุที่จะตามมาเลย ยิ่งตอนนี้อากาศก็เริ่มมัวซัว ไหนจะควันรถ ไหนจะหมอกควันจากการเผาป่าอีก คนที่เป็นหอบหืดอาการก็แย่ไปอีก คนที่ไม่เคยเป็นก็จะเป็นคราวนี้แหละ มองไปทางทิศตะวันตกก็มีแต่ตึกคอนโดสูง ๆ บังดอย ยังไม่พอมีหมอกควันเต็มไปหมด แล้วนี่ถ้าอีกสามสิบกว่าปีข้างหน้าจะเป็นยังไงต่อไปนะ ในหมู่บ้านของฉันจะเป็นอย่างไร เด็ก ๆวัยเท่าฉันจะเล่นอะไรกัน จะปั่นจักรยานกันอีกไหม หมู่่บ้านเราจะเป็นยังไง คนในหมู่บ้านจะอยู่อย่างไรกันนะ วันวานก็คงไม่อาจหวนคืน จะมีใครคิดเหมือนฉันกับแม่ไหมที่เสียดายสิ่งดี ๆ ในอดีตที่กำลังจะหายไปกับกาลเวลา วันวานไม่อาจหวนคืน
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น