ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *= รักแสบแสบ แบบฉบับยัยขี้งก =*

    ลำดับตอนที่ #2 : เจอกับ 'เขาคนนั้น'

    • อัปเดตล่าสุด 7 เม.ย. 49


    "เอ่อ ที่นั่งตรงนั้นมีคนนั่งรึป่าวคะ" ฉันพูดกับคนแปลกหน้าใครก็ไม่รู้ แต่เค้าก็หน้าตาคล้ายๆใครนะนึกไม่ออกอ่ะ แต่ในบรรดาเพื่อนฉันก็ไม่มีใครใส่แว่นหนาเตอะขนาดนี้นี่นา

              "มะ..ไม่มีครับ"

              "คุณเข้าไปเรียนในกรุงเทพหรอครับ"

              "ค่ะ" แล้วทำไมเค้าต้องโบกมีอย่างกับลิงอุรังอุตังขนาดนั้นด้วยล่ะ

              "แล้วคุณเรียนที่ไหนหรอครับ"

              "เดอะเบรนด์คะ ไมหรอคะ"

              "แล้ว...แล้วเอ่อเรียนรอบไหนหรอครับ"

              "เสาร์บ่ายอะคะ" หึหึ รอบเดียวกับเราซะด้วย

              "แล้วห้องไหนหรอครับ" ถ้าเรียนห้องเดียวกันก็คงจะดีสินะ

              "ถามไมหรอคะ หรือว่าคุณก็เรียนที่นั่นด้วย"

              "อ๋อ เอ่อ..เอ่อครับ"

              "แล้วเรียนรอบไหนหละคะ"

              "ระ..รอบเดียวกับคุณแหละครับ แล้วคุณเรียนห้องไหนหละ"

              "3/6คะ"

              "จริงหรอครับ บะ..บังเอิญจังเลยนะครับ"

              "หมายความว่าคุณเรียนห้องเดียวกับฉันหรอคะ"

              "ปะ..เปล่าครับ ผมเรียนห้อง3/1ครับ"

              ใครก็ไม่รู้อยู่ดีๆก็เข้ามาคุยด้วย แต่เราเป็นผู้หญิงก็ต้องมนุษย์สัมพันธ์ต้องเริ่ดอยู่แล้วไม่งั้นอนาคตจจะเป็นนางสาวไทย, มีสไทยแลนด์เวิลด์, มีสยูนิเวิร์ส, นางงามจักรวาล นี่ดีนะที่เค้าไม่มีเกณฑ์ความงกน่ะ ไม่งั้นอย่างฉันก็คงเป็นได้แค่นางงามจักรยาน -_-" โอ๊ยมัวแต่เพ้อฝันซะเพลิน ว่าแต่อีตาที่นั่งข้างๆ ฉันเนี่ยหน้าคุ้นๆ แบบว่าคุ้นมากๆอ่ะ แต่ฉันนึกไม่ออก แต่ช่างมันเถอะเดี๋ยวพอถึงกรุงเทพพอลงจากรถก็ไม่ได้เจอหน้าอีตานี่แล้ว

              เฮ้อ..ในที่สุดก็ถึงกรุงเทพซะที เออว่าแต่ยัยบิ๋มฝากซื้ออะไรนะ ฉันนี่นอกจากขี้งกแล้วยังขี้ลืมอีกหรอไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย

              "ตืด...ตืด...ตืด...ตืด"

              "…."

              "..ตืด ฮาโหลว"

              "นี่! เพิ่งตื่นตื่นหรอคะคุณหนูบิ๋ม"

              "แล้วไมอะ นี่เพิ่งกี่โมงเอง แล้วนี่แกอยู่ไหนอะ"

              "ตอนนี้อยู่กรุงเทพ แล้วนี่มันก็ตั้งสิบโมงเกือบสิบเอ็ดโมงแล้วนะ"

              "หรออืมๆ โทรมามีไร"

              "ก็ของที่แกฝากฉันซื้ออะ แกจะให้ฉันซื้อไร"

              "อ๋อฝากซื้อกระเป๋าให้หน่อยน้า.."

              "เออๆ เดี๋ยวซื้อให้ แค่นี้นะ"

              "อืมบาย..ตูด..ตูด"

              โอ๊ยคุยซะยืดยาวเปลืองตังค์ ดีนะเนี่ยที่ใช้โปรโมชั่นที่ค่าโทรมันถูกๆอะ ไม่ได้การหละต้องรีบเก็บมือถือ เค้ายิ่งบอกกันอยู่ว่าในกรุงเทพมีโจรวิ่งจี้ราวเอามือถือมีกันอยู่เยอะแยะ งั้นมุ่งหน้าขึ้นไปบนเซ็นทรัลก่อนเลยแล้วกันจะได้ไม่เสียเวลา

              พอมาถึงในเซ็นทรัลได้คนเยอะเป็นบ้าเลยก็วันนี้วันเสาร์นี่เนอะก็คงไม่แปลกหรอก นอกจากจะมีงานลดราคาสินค้าหรืออะไรทำนองนั้น หา!ลดราคางั้นหรอ

              ฉันรีบเดินมาที่บริเวณหน้าลิฟต์แก้ว จริงๆ ด้วยมีงานลดราคาเสื้อผ้าอยู่ แต่ขี้เกียจไปอะคนก็เยอะ เสื้อผ้าฉันก็มีอยู่เยอะแล้วด้วย ไม่เห็นจำเป็นต้องไปตามเทรนด์แฟชั่นให้ทันเลย ดีแต่เปลืองสตางค์เปลืองเงินไปเปล่าๆ บางแฟชั่นนะแค่อาทิตย์เดียวก็เลิกบ้าเลิกเห่อกันแล้วอะ ฉันเห็นคนที่ชอบตามแฟชั่นแล้วเสียดายตังค์แทน นี่คุณผู้อ่านคะ และแล้วพิ้งค์คนนี้ก็มีเทคนิคประหยัดๆ มาแนะนำอีกคะ คราวนี้ขอพูดถึงเทคนิคการเลือกเสื้อผ้าไม่ให้ต้องซื้อใหม่บ่อยๆ เรียกง่ายๆ ว่าซื้อแล้วคุ้มที่สุดนั่นแหละ ก็คือว่าซื้อแบบที่ใส่แล้วพอออกงานกับเค้าได้ แต่ไม่ถึงกับต้องเริ่ด เก๋ ไก๋ อะไรอย่างนั้น แล้วถ้าซื้อแบบคลาสสิกได้ยิ่งดีประมาณว่าเอาออกมาใส่เมื่อไหร่คนก็บอกว่าใส่แล้วดูดีนั่นแหละ    แค่นี้ก็ไม่ต้องเปลืองเงินไปซื้อเสื้อผ้าบ่อยๆ แล้ว คุณผู้อ่านสามารถนำไปใช้ได้ทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายนะคะ โม้มากไม่ได้และ ต้องรีบเดินหากระเป๋าให้ยัยบิ๋ม

              โอ๊ยเดินหาเท่าไหร่ก็ยังไม่เจอ ตายและปวดฉิ้งฉ่องจังเลยอะ รีบเข้าห้องน้ำดีกว่า

              อ๊าย! ของฟรีคะ ของฟรี มีพริตตี้สาวนุ่งสั้นมาแจกผ้าอนามัยมาแจกที่หน้าห้องน้ำด้วยอะ ตอนนี้ยังไม่เต็มนี่เก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงก่อนแล้วกัน เฮ่อ~ปลดทุกข์เรียบร้อยแล้วเหลืออีกครึ่งชั่งโมงจะบ่ายต้องรีบหาของให้ยัยบิ๋มแล้ว

              และนี่คือท่าประจำของฉันสำหรับเวลาที่เดินห้าง ท่านี้ก็คือ แต่น แต๊น!!! คือท่าที่เอามือทั้งสองเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง เพราะว่าเวลาเดินดูของจะได้ดูอย่างเดียวไม่ต้องหยิบมาดูเดี๋ยวจะอดไม่ได้ที่จะซื้อของชิ้นนั้น  เอ๊ะ! แล้วคนอื่นเค้าจะคิดว่าฉันเป็นขโมยรึป่าวเนี่ย คงไม่มั๊ง

              อ๊ะยามคนนั้นวิ่งมาทางฉันทำไมอะหรือว่าข้างหลังฉันมีโจรวิ่งราวอยู่ หันไปดูข้างหลังดีกว่า ก็ไม่มีนี่หว่าเห็นมีแต่พวกลูกคุณหนูไฮโซไฮซ้อทั้งหลายเดินเชิดอยู่ อ๊ะยามคนนั้นเดินเข้ามาหาฉันแล้ว

              "คุณ! คุณขโมยของบนห้างหรอ เป็นเด็กเป็นเล็กหัดขโมยตั้งแต่เด็กเลยนะ"

              "เปล่านะคะ ฉันแค่เดินดูของเท่านั้นเอง"

              "อย่ามาทำไก๋เลยหนู โกหกผู้ใหญ่มันไม่ใช่เรื่องดีเลยนะ"

              "ฉันไม่ได้ขโมยอะไรทั้งนั้นนะ ไม่เชื่อก็คนตัวเลยซิ"

              "ก็ได้ ถ้าคนเจอนะจะจับส่งเข้าสถานพินิจเลย"

              "อ๊ะ จะแต๊ะอั๋งหรอ เห็นอย่างงี้หนูก็เลือกคนนะ"

              "เปล่าใครจะไปแต๊ะอั๋งเด็กกะโปโลอย่างเธอกันเหล่า ถ้างั้นเธอก็ล้วงกระเป๋ากางเกงออกมาให้ดูสิ"

              "ได้" โมโหแล้วนะ! ถึงฉันจะขี้งกแค่ไหน แล้วก็เค็มเพียงใด ฉันก็ไม่มีวันที่จะไปขโมยของคนอื่นหรอกนะ

              แล้วฉันก็ล้วงกระเป๋ากางเกงซ้ายก่อน ก็มีแค่โทรศัพท์มือถือ

              ต่อไปก็เอาของจากกระเป๋ากางเกงขวาออกมา ก็มีแค่กระเป๋าสตางค์และก็ผ้าอนามัย ฮะ! ผ้าอนามัยหรอ ลืมไปเลยก็อันที่ได้จากยัยพริตตี้นุ่งสั้นยืนแจกไง

              "ว่าแล้วว่าต้องขโมยของ"

              "จะบ้าหรือไง คนอะไรจะไปขโมยผ้าอนามัยกันเล่า"

              "ก็คนอย่างหนูไงหละ" นี่ดีนะที่ยังเก็บอารมณ์อยู่ ไม่งั้นได้เห็นหมาเทศบาลโดนตัดตอนอีกตัวบนห้างแน่

              "อ๊าย ฉันบอกว่าไม่ได้ขโมยก็ไม่ได้ขโมยสิ เดี๋ยวฉันเดินไปลากตัวพริตตี้นุ่งสั้นคนนั้นมาบอกก็ได้"

              แล้วฉันก็เดินนำนายยามหน้าบื้อคนนั้นมาหน้าห้องน้ำหญิง อ๊ะหายไหนอะ พริตตี้คนนั้นหายไปแล้ว

              "ไหนหละ พริตตี้ของหนู "

              "แต่...แต่เมื่อกี้ยังอยู่เลยอะ ไม่เชื่อลองถามประชาสัมพันธ์หน้าห้างได้เลยนะ"

              "อ๋อเมื่อกี้เห็นเหมือนกันคะ เค้ายังมาถามเลยนะคะว่า มายืนแจกหน้าห้องน้ำได้รึป่าว"

              "เห็นมะ คนอะไรจะมาขโมยผ้าอนามัยกันเล่า"

              พออกมาจากห้างได้ฉันก็ต้องวิ่งร้อยเมตรหญิงมาที่เดอะเบรนด์ อ๊ะไม่ได้ๆ ต้อเข้าห้องน้ำไปหวีผมก่อนหัวฟูอย่างกับสิงโตเลย เดี๋ยวคนเค้าจะตกใจนึกว่าหลุดมาจากเขาดิน

              พอเรียนเสร็จฉันก็นั่งรถเมล์มาลงที่สายใต้  อ๊ะนั่นใช่นายคนที่เจอบนรถทัวร์เมื่อเช้าป่ะเนี่ย

              "หวัดดีครับคุณเอ่อ.." นายนั่นเริ่มทักฉันก่อน

              "พิ้งค์คะ ฉันชื่อพิ้งค์ แล้วคุณหละคะ" ดูไปดูมานายนี่ก็เป็นคนที่น่าค้นหาเหมือนกันแฮะ

              "ผมชื่อปะ เอ้ย! แป๊กครับ" แล้วทำไมนายนั่นถึงต้องพูดติดๆ ขัดๆ ด้วยนะ

              "หรอคะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ แล้วแป๊กซื้อตั๋วรถยังคะ?"

              "ยังเลยครับ เราไปซื้อด้วยกันเลยมั๊ยครับ"

              "คะ"

              แล้วฉันก็ขึ้นมาบนรถกับปั๊ม เราได้ที่นั่งคู่กันด้วยล่ะ แล้วทำไมฉันถึงต้องยินดียินร้ายกับอีเรื่องแค่นี้ด้วยนะ ไม่เข้าใจตัวเองเล้ย ~_~

              "เอ่อพิ้งค์ครับ คุณเล่น MSN ปะครับ?"

              "อ๋อเล่นคะ"

              "ผะ...ผมขอเมลล์คุณได้ปะครับ ผมอยากรู้จักคุณมากขึ้นน่ะครับ"

              >.<อายแล้วน้า จู่ๆ มาขอเมลล์กันอย่างงี้ แต่ฉันก็มีความรู้สึกว่าอยากรู้จักนายนี่เหมือนกันนะ

              แล้วเราก็แลกเมลล์กัน หวังว่าคืนนี้นายจะออนเลยนะ

              พอฉันกลับมาถึงบ้าน ฉันก็รีบมาเปิดคอมพ์เลย ไม่สนใจอย่างอื่นแล้ว>0<

              พอ Sign in เข้าไปได้ก็มีเมลล์ใหม่addเมลล์ฉันมา ฉันรีบเปิดบทสนทนากับนายแป๊กทันทีเลย

              "หวัดดีคะ แป๊กรึป่าวคะ"

              รอไม่ถึงนาทีแป๊กก็ตอบกลับมาแล้ว><"

              "หวัดดีครับ ผมแป๊กเอง"

              "คะนี่พิ้งค์เองนะคะ จำได้รึป่าวคะ?"

              "จำได้สิครับ" อ๊ายเค้าจำฉันได้ด้วย เออแต่มันก็คงไม่แปลกหรอกเนอะ เพราะว่าเราเพิ่งห่างกันแค่ไม่ถึงชั่วโมง

              "เอ่อ..วันนี้เรียนเป็นไงบ้างคะ"

              "ก็ดีครับ อาจารย์สอนสนุกดี"

              "…"

              "พิ้งค์ออนทุกวันเลยป่ะ?"

              "แล้วแป๊กหละคะ" ถ้านายนั่นออนทุกวัน ฉันจะออนทุกวันเลย ฉันรู้สึกจะชอบเค้าเข้าแล้วสิ ไม่หรอกๆ จะบ้าหรอแค่เจอกันวันเดียวเอง จะชอบเค้าเลยได้ไง เป้ฯผู้หญิงต้องเล่นตัวนิดๆ ถึงจะดี

              "ครับ ทุกวันเลย ถ้าพิ้งค์ออนนะครับ"

              "ค่ะ แต่เราออนแค่บางวันนะ เพราะว่าการบ้านเยอะอ่ะ" เริ่มเข้าแผนการเล่นตัวเลยหละนะ

              "ว้าแย่จัง แต่ผมอยากคุยกับพิ้งค์ทุกวันเลยนะ"

              ///></// อายแล้วนะ

              "แล้ว...แป๊กเรียนที่นี่นานรึยังคะ"

              "ที่เดอะเบรนด์หรอ"

              "คะ ใช่แล้ว"

              "ก็นานพอสมควรแล้วนะครับ"

              "หรอคะ ทำไมฉันไม่เคยเห็นเลยหละคะ"

              "อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ"

              เหลือบไปเห็นนาฬิกานี่มันเกือบสีทุ่มแล้วนี่นา ฉันคุยกับแป๊กนานขนาดนั้นเลยหรอ รีบขึ้นนอนดีกว่าเดี๋ยวกลายเป็นหมีแพนด้าไม่สวยอีก ฮิฮิ ออกแนวรักสวยรักงามอะคะ

              "แป๊กคะ พิ้งค์ต้องขึ้นนอนแล้วนะคะ บ๊ายบายนะคะ แล้วเจอกันใหม่คะ"

              "ครับ เช่นกัน ฝันดีนะครับ"

              "ค่ะ^^"

              พอฉันขึ้นมาที่ห้องนอน แต่ฉันก็ยังไม่นอนหรอกนะ ก็มันยังไม่ง่วงนี่นา เปิดโทรทัศน์ดูหนังดีกว่า ดีออกนะฉันว่า ไม่ต้องเช่า ไม่ต้องซื้อ ดูที่โทรทัศน์ฟรีๆ เสียแต่ตรงที่โฆษณาเยอะไปหน่อยอะ หนังบางเรื่องชั่วโมงกว่าๆ ก็จบแล้ว แต่พอมาดูที่โทรทัศน์เริ่มตอนสี่ทุ่ม เที่ยงคืนยังไม่จบเลย เออ! รู้แล้วว่ามันเปลืองตรงไหน เปลืองค่าไฟไง งั้นเอาหนังสือที่ซื้อตอนลดราคามาอ่านดีกว่า^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×