ลูกโป่งสีฟ้ากับธันวาคม - ลูกโป่งสีฟ้ากับธันวาคม นิยาย ลูกโป่งสีฟ้ากับธันวาคม : Dek-D.com - Writer

    ลูกโป่งสีฟ้ากับธันวาคม

    ความทรงจำของเธอทำให้ฉันไม่อาจคิดที่จะรักเธอได้

    ผู้เข้าชมรวม

    261

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    261

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  24 ม.ค. 50 / 17:24 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ความเดียวดาย

                              เช้าแล้ว  เช้าแล้ว  ..... ความรู้สึกของฉันปลุกให้พบกับแสงอาทิตย์อันอ่อนละมุน หยดน้ำค้างแต่ละหยดเกาะอยู่บนใบแก้วที่เรียงรายเป็นพุ่ม  มันได้รับแสงแดดระยิบระยับเหมือนดังเพชร   บรรดานกและเหล่าแมลงปอ  ต่างก็รีบโผบินต้อนรับเช้าวันใหม่  พร้อมที่จะใช้ชีวิตอยู่ให้สามารถอยู่รอดได้ต่อไป  ฉันก็พร้อมเหมือนกันที่จะต้องทำทุกวันให้ดีที่สุด  เพราะฉันไม่รู้ว่าอาการหอบที่มากขึ้นทุกวันและโรคหัวใจที่แทรกซ้อน  มันจะทำให้ฉันอยู่บนโลกใบนี้ได้นานซักเท่าไร..... ฉันลุกจากเตียงหยิบผ้าขุนหนูที่แสนนุ่มเดินเข้าห้องน้ำไป

                              ฉันอยู่ในชุดที่พร้อมทำงานแล้วแต่ก่อนที่จะไปสิ่งสำคัญที่ต้องทำ  ฉันเอาลูกโป่งสีฟ้าที่ลอยติดเพดานที่ห้องนั่งเล่นมากอด  มันคือสิ่งที่จะเติมกำลังใจและพลัง  เอาล่ะได้เวลาไปทำงานแล้ว

                              ทุกอย่างก็ดำเนินไปด้วยดี แต่เรื่องแปลกใจมันก็เกิดขึ้น ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วฉันได้รับลูกโป่งสีฟ้าทุกวันแล้ววันนี้คงจะแบกความสงสัยไว้ไม่ไหวฉันแอบอยู่ข้างโต๊ะทำงานของเพื่อนเพื่อรอคอยคนที่จะนำลูกโป่งมา  ผู้ชายท่าทางสุภาพนำลูกโป่งสีฟ้าผูกกับเก้าอี้ทำงานของฉัน  ฉันรีบออกจากโต๊ะทำงานคว้าแขนของเขาอย่างรุนแรง  แล้วไปยังบันไดหนีไฟที่นั้นไม่มีใคร ฉันพูดกับชายคนนั้นไม่ค่อยดีนัก  ลูกโป่งสีฟ้าที่เขาซื้อให้ทุกวัน กับลูกโป่งที่ฉันซื้อเองมันแตกต่างกับฉันไม่ต้องการให้เขามาแทนความรู้สึกที่เคยมี

                              คุณไม่ควรนำลูกโป่งนี้มาให้ฉัน  ไม่มีเหตุผลอะไรที่คุณจำเป็นต้องทำแบบนี้

                              ชายคนนั้นได้แต่เงียบพูดว่าขอโทษแล้วจากไป  ฉันคิดดูอีกทีก็ไม่ควรทำอย่างนี้เลย  เขาคงไม่รู้อะไรหรอก  วันนี้กลายเป็นวันที่แย่ไปเลยทั้งวัน

      ลูกโป่งสีฟ้า

                              วันนี้เป็นวันหยุดฉันและภาเพื่อนสนิทที่สุดของฉันนั่งคุยกันอยู่ในบ้าน  ใต้บรรยากาศที่ไม่ค่อยดีนัก  ฝนเริ่มโปรยปรายอย่างเบาบาง  อาจจะมีแนวโน้มกระหน่ำอย่างรุนแรงได้

                              วาเธอไม่คิดจะไม่สนใจคมบ้างหรอ  ภาเริ่มพูดแหย่

                              คมไหนล่ะ

                              คนที่ส่งลูกโป่งให้วาทุกวัน  แม้จะโดนเธอตอกกลับอย่างนั้นก็เถอะ เขาก็ยังไม่เลิกยุ่งกับเธอ

                              เขาเป็นใครก็ไม่รู้และก็ไม่ควรนำลูกโป่งมาให้ฉันด้วย

                              คือ....ฉันรู้จักเขา  เขาเป็นผู้จัดการฝ่ายโฆษณา  หัวหน้างานเราไง วาไม่ค่อยเจอกับเขาหรอก และฉันเป็นคนบอกให้เขาเอาลูกโป่งสีฟ้ามาให้เธอเอง

                              เหตุผลคืออะไรภา

                              วาชอบมันไม่ใช่เหรอ เขามาปรึกษาเรื่องวากับฉันบ่อยๆ เขาแอบชอบเธอมาตั้งแต่ที่วามาสมัครงานแล้ว แต่เขาเห็นเธอมีแฟนแล้วก็เลยจ๋อย จนเขารู้ว่าเธอไม่มีใครเขาเป็นคนดีนะวา ฉันอยากให้แกมีใครสักคน

                              ....ฉันนั่งถอนหายใจแล้วมองเหม่อไปที่ลูกโป่ง

                              บอกให้เข้าใจทีเถอะวา ลูกโป่งสีฟ้ามีอะไรสำคัญมากกับเธองั้นเหรอ

                              มันสำคัญมากๆแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

                    ...ฉันเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ภาฟัง เรื่องมันมีอยู่ว่า

                              วาขอขอบคุณกับความหวังดีนะ ทุกเรื่องที่ธันทำให้วามันมีความหมาย แต่วามีแฟนแล้ววาอยากให้ธันเจอคนที่ดีกว่านี้

                              ธันคงทำไม่ได้หรอกวา แต่ธันสัญญาว่าจะไม่เข้าไปยุ่งกับวาอีก ขอแค่ธันได้อยู่ห่างๆก็พอแล้ว ธันพูดพร้อมกับเดินจากไป

                              ....ตั้งแต่วันนั้นฉันไม่เคยเห็นหน้าธันอีกเลย แต่ฉันก็ยังเก็บความรู้สึกดีๆของธันไว้ วันนี้เป็นวันที่ผลสอบออกมา มันแย่ซะจนหมดกำลังใจที่จะทำอะไรต่อไป แล้วสายตาของฉันก็จับจ้องลูกโป่งสีฟ้า มันถูกแต่งเติมใบหน้าให้ยิ้มแย้ม มีข้อความว่า อย่าท้อไปเลยนะวา มันทำให้ฉันชื้นใจขึ้นมาบ้าง แล้วกิต(แฟนในตอนนั้น)ก็เดินเข้ามายื่นดอกกุหลาบสีแดงที่กำลังเบ่งบานให้ฉัน

                    ขอบคุณนะกิตสำหรับดอกไม้และลูกโป่งนี่

                    ....ในเวลานั้นฉันมีความสุขที่ได้อยู่กับกิต ลูกโป่งสีฟ้าที่อยู่หน้าบ้านทุกวันยิ่งทำให้ฉันหน้าบาน     อาจเป็นเพราะฉันไม่เคยมีใครมาใกล้ชิดแบบนี้ ทุกครั้งไม่ว่าฉันจะเสียใจ ดีใจ หรือร้องไห้ไม่มีใครนอกจากกิต ภาพที่เราไปเที่ยวด้วยกัน มองทุกครั้งมันก็อบอุ่นในใจ แต่เวลาที่เราคบกันอาจจะนานเกินไป จนกลายเป็นความเบื่อ พักหลังเวลานัดไปเที่ยวด้วยกัน เขาไม่มาตามนัดมีแต่ลูกโป่งสีฟ้าแทน เขาโทรมาบอกทุกครั้งว่าไม่ว่าง แต่ทุกครั้งที่มีลูกโป่งสีฟ้าฉันจะไม่โกรธเขา เขาเริ่มห่างเหินจนวันหนึ่ง.....เขาก็บอกเลิก

                              เพราะอะไรกิต อะไรที่วาไม่ดี วาก็ทำทุกอย่างแล้วอะไรที่กิตต้องการ บอกวาซิ

                              คุณดีทุกอย่างวา ดีจนเกินไป คนอย่างคุณมันไม่ใช่ แข็งๆ ทื่อๆ อย่างคุณให้ความสุขผมไม่ได้ ผมไม่ต้องการคุณแล้วอย่ายุ่งกับผมอีกมันน่ารำคาญ

                              อยากจะไปจากวาตั้งนานแล้วใช่ไหม แล้วทำไมต้องแกล้งทำดีกับวา เพื่ออะไร

                              ก็เพื่อเอาชนะผู้หญิงอย่างคุณไงทำเป็นใจแข็งพอเอาเข้าจริงคุณก็ไม่ต่างอะไรกับคนทั่วไป ขอบคุณที่ช่วยเหลือผมโดยเฉพาะเรื่องเงิน มันทำให้ผมต้องดีกับคุณ

                              สักวันผลการกระทำมันจะส่งผลถึงคุณเอง

                              .....ครั้งนี้เป็นฉันเองที่เดินออกไป การสูญเสียครั้งนี้มันทำให้ตาสว่าง เมื่อก่อนนี้ฉันคงเหมือนคนโง่ที่คลำทางในความมืดไม่รู้เลยว่าจะหาทางออกได้อย่างไร คงเป็นเพราะรักของฉันที่มากเกินไป น้ำตากลั้นไม่อยู่แล้ว จากคนที่รักที่สุดทำให้ต้องผิดหวัง ไม่เคยเจ็บปวดขนาดนี้เลย ตอนนี้คงไม่ต่างอะไรกับคนที่บ้าคลั่งไร้สติ

                              ....เช้าอีกแล้ว ต้องตื่นมาพบกับอะไรอีกนะ เปลือกตาที่บวมตีงไม่อยากเปิดขึ้นพบความจริงสักเท่าไหร่ ฉันลุกจากเตียงแล้วยืนรับแสงแดดอ่อนๆ แล้วบางสิ่งก็ทำให้อารมณ์เสียแต่เช้า ลูกโป่งสีฟ้าอยู่ที่หน้าประตูบ้านอย่างที่เคยทุกวัน ฉันรีบลงบันไดจากชั้นสอง คว้าลูกโป่งได้แล้วทำลายทันที โอ๊ยฉันรู้สึกเจ็บว่าเหมือนมีใครมาบีบหัวใจ การหายใจของฉันแย่ลง ร่างกายของฉันกระทบกับพื้นอย่างรู้สึกได้ จากนั้นฉันก็ไม่รู้อะไรอีกเลย

      ความทรงจำกับโรงพยาบาล

                              ฉันลืมตาอีกครั้งสิ่งที่ฉันเจอ ห้องสี่เหลี่ยมสีขาวและสายน้ำเกลือที่ฉันคุ้นเคยเป็นประจำฉันไม่ได้สงสัยว่าที่นี่เป็นที่ไหน แต่ใครที่พาฉันมาต่างหากและที่สำคัญลูกโป่งสีฟ้าลอยติดเพดานอยู่ตรงหน้าฉัน มือที่ไร้เรี่ยวแรงพยายามหยิบลูกโป่งลงมา ลูกโป่งยิ้มให้ปรากฏข้อความว่าหายเร็วๆนะ ฉันเริ่มบทร้องไห้อีกครั้ง ฉันลืมกิตไม่ได้กลับมาได้ไหม......ฉันอยู่ที่นี่สามวัน มันอาจจะดูน่าเบื่อ แต่ว่ามันก็ดีออก ลูกโป่งสีฟ้าถูกส่งถึงฉันทุกเช้าพร้อมกับของเยี่ยม ฉันเหมือนถูกมนต์สะกดให้หลับเต็มๆทั้งสามวัน

                              วันที่ออกจากโรงพยาบาล  ฉันรีบไปหากิต ในความคิดแบบเข้าข้างตัวเองว่าเขาคงอยากคืนดีกับฉัน แต่มันก็ไม่ใช่ เขาอยู่กับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ความสงสัยมันทำให้ฉันเดินเข้าไป

                              ถามอะไรหน่อยได้ไหม

                              มาทำไมอีกล่ะวา เรามันจบไปแล้ว

                              วาไม่ได้มาขอคืนดี แค่อยากรู้ว่าทำไมต้องส่งลูกโป่งมาให้วาอีก

                              ลูกโป่งอะไร  กิตไมใช่คนปัญญาอ่อนขนาดนั้น คุณเข้าใจผิดตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่ผมที่เอามันมาให้คุณ  ผมก็เออออไปเท่านั้นเอง ขอตัวนะผมไมว่างคุยกับคนอย่างคุณ

                              ....ฉันอึ้งอยู่พักใหญ่ไม่ใช่ที่กิตพูดอย่างไร้เยื่อใย แต่ใครกันที่ทำแบบนี้ ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นใจ เมื่อฉันไม่เหลืออะไร เมื่อถึงบ้านฉันนอนบนโซฟาหลับทั้งน้ำตาหวังว่าพรุ่งนี้คงจะลืม

      การกลับมา

                    และแล้วฉันก็รู้ว่าเขาเป็นใคร  ธันนั้นเองมันแปลกมากๆทั้งที่ฉันก็ลืมธันไปแล้ว แต่ธันกลับไม่เคยลืมฉันเลย  เราพบกันที่หน้าบ้านพร้อมกับความจริงที่พึ่งเปิดเผย และที่หน้าอายที่สุด  ฉันโผกอดธันอย่างลืมตัว

                              ธัน...วาเหงา  วาเหนื่อย  ช่วยวาทีได้ไหม  คำพูดของฉันพร้อมน้ำตา

                              โธ่  เด็กขี้แง  ไปอาบน้ำซิ เดี๋ยวจะพาไปเปิดหู เปิดตา  มัวแต่หมกตัวอย่างนี้มันจะได้อะไร ธันได้ก้มหน้าลงมาใกล้ฉัน จริงไหม

                              ....ฉันหยุดร้องไห้มันรู้สึกเหมือนว่าธันพยายามแสดงให้รู้ว่า  เขาไม่ได้ผูกพันในตัวฉัน  ไม่ได้รักแค่หวังดี  แต่มันกลับกลบเกลื่อนไม่ได้กับฉัน  แต่วันนี้ขอมีธันสักวัน.........

                              ไม่น่าเชื่อธันพาฉันมาจตุจักร

                              เป็นอะไรวา  ทำเป็นงงไปได้  อย่าบอกนะว่าไม่เคยมาที่นี่

                              บ้าแล้วทำไมจะไม่เคยมา  บ้านวาอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่เอง  ครั้งแรกกับพ่อตอนสิบขวบและครั้งที่สองกับธัน

                              ฮะ ฮะ ฮะธันหัวเราะ

                              หัวเราะทำไม  หยุดนะ  สองครั้งก็ถือว่ามาจริงไหม

                              ตกลง  เคยมาก็เคยมา  นี่ขนาดบ้านวาอยู่ใกล้แค่นี้นะมาตั้งสองครั้ง  ธันบ้านไกลกว่าวามาที่นี่ทุกวันเลย  แล้วธันก็ซื้อ ธันชะงักเมื่อรู้ว่าตนเองจะพูดอะไรออกมา

                              ธันซื้อลูกโป่งสีฟ้าให้วาทุกวันใช่ไหม  งั้นวันนี้วาขอพิเศษ กว่าหนึ่งลูกได้ไหม

                              ได้ซิ  แต่ธันอยากถามว่า วาชอบมันบ้างไหม

                              ชอบซิ ชอบยิ่งกว่าดอกกุหลาบอีกฉันใส่อารมณ์กับคำว่าดอกกุหลาบมันหมายถึงกิต

                              งั้นเดินให้ทั่วก่อนแล้วค่อยมาซื้อนะ

                              .....ธันพาฉันเดินรอบจตุจักร  โอ้โหเหนื่อยจริงๆไม่รู้ว่าที่เที่ยวใกล้ๆบ้านจะมีความสุขได้เหมือนกัน  แล้วฉันก็หลุดปากพูดอะไรไปอีกแล้ว

                              อบอุ่นจังที่ได้อยู่ใกล้ๆธัน

                              มันไม่อบอุ่นแล้วแหละวา มันอบจนร้อนแล้วต่างหาก  ดูซิวาเหงื่อเต็มหน้าเลยธันพูดพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อของฉัน  ฉันสบตาธันแล้วเขาก็หยุดเช็ด  ก้มหน้าลง

                              เออ...ขอโทษฉันไม่อยากให้ธันรู้สึกอย่างนี้  การห้ามตัวเองไม่ให้รักใครมันยาก  ฉันจับมือที่กำผ้าเช็ดหน้าของเขา

                              อยากกินไอศครีมจัง  ไปกันนะ

                              ธันมาส่งฉันที่บ้านตอนหกโมงเย็น

                              ขอบใจนะธันที่พาไปเที่ยว  สำหรบลูกโป่ง  และเจ้าธันน้อยตัวนี้ด้วย

                              วาตั้งชื่อหมาว่าธันน้อยเลยหรอ

                              ก็มันน่ารักเหมือนธันนิ่

                              ตกลงธันน้อยก็ได้ งั้นวันนั้นกลับบ้านก่อนนะ

                              โชคดีนะธันธันหันหลังแล้วเดินออกจากประตูไป

                              ธันฉันเรียกอีกครั้ง

                              มีอะไรวาฉันเดินเข้าไปใกล้ๆธัน

                              ธันสัญญากับวาได้ไหม  ว่าธันจะไม่หายไปจากชีวิตของวา

                              ธันสัญญาว่าจะไม่หายไปจากชีวิตของวาแน่ๆ แต่ตอนนี้ธันต้องกลับบ้านก่อน  ถ้าตกรถเมล์เที่ยวสุดท้าย  เดี๋ยววาจะต้องเลี้ยงข้าวและต้องให้ธันนอนที่นี่นะ

                              ขอบใจนะ  กลับบ้านดีๆล่ะ  ถ้าไม่ทันรถเมล์เที่ยวสุดท้าย วาจะให้
      ธันนอนกับเจ้าธันน้อยตัวนี้แหละ
      ธันยิ้มแล้วเดินจากไป

                              .......มันอาจดูเหมือนเห็นแก่ตัวที่รั้งธันไว้  มันอาจทำหันยิ่งทรมานกับความรู้สึกหักห้ามใจ  ฉันขอโทษที่ไม่อาจคิดกับเธอได้มากกว่าเพื่อน

      ความผูกพันธ์

                              จากวันนั้นฉันกับธันก็ติดต่อกันเรื่อยมา  ธันทำให้ฉันกำจัดกิตออกไปจากชีวิตของฉันได้  เขาพาฉันไปสมัครงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง  มันดีกว่าที่ทำงานเก่าของฉัน  เขาเปลี่ยนมุมมองใหม่กับผักสีเขียว  ว่ามันไม่ได้เหม็นเขียว  มันอร่อยน่ากิน และบำรุงหัวใจ  เขาเปลี่ยนคนที่ซ้ำซาก  จมปลักกับความหลัง  ให้กระฉับกระแฉง  แข็งแรง และสกใสกว่าเดิม  แต่ฉันฉุดรั้งให้เขาอยู่กับฉันนานไปแล้ว  เขาควรที่จะพบกับความรักจริงๆเสียที

                              วันนี้เป็นวันหยุด  ฉันกับธันนัดกันไปทะเลในวันนี้

                              ธันเล่นบานาน่าโบ้ทกันนะ

                              ไม่หรอวาไปเล่นเถอะธันจะรอ

                              ธันเป็นอะไรหรือเปล่า

                              เปล่า

                              แล้วทำไมล่ะ

                              ธันว่ายน้ำไม่เป็นธันกลัว

                              ฮะ ฮะ ฮะฉันหัวเราะ

                              พอเถอะวา

                              มันก็เหมือนที่ธันหัวเราะวาที่จตุจักรนั่นแหละ  ไม่ต้องกลัววาไม่ปล่อยหันจมน้ำหรอก ฉันพยายามให้ธันไปเล่นด้วยกัน

                              วาเอาจริงเหรอ

                              ออกเรือเลยค่ะฉันบอกคนขับเรือลาก

                              .......เมื่อไปถึงกลางน้ำเขาก็ปล่อยฉันกับวาลง

                              เขาจะกลับมารับเราไหมวาธันเริ่มหน้าซีด

                              ต้องกลับเข้าฝั่งเองต่างหาก  วาไปก่อนนะ ฉันแกล้งธัน  เราทั้งสองใส่เสื้อชูชีพ  เขาคงไม่เป็นอะไรหรอก  ฉันว่ายน้ำออกจากเขาไปไม่เท่าไหร่  ก็หันกลับไปมองธัน  ธันหมดสติแต่ยังลอยตัวอยู่ได้ด้วยเสื้อชูชีพ  ฉันรีบกลับไปหาเขา  และเรือลากก็กลับมารับ  ฉันพาเขากลับขึ้นฝั่ง  พยายามทำให้เขาฟื้น  ธันลืมตาพร้อมกับสีหน้าอันซีดเผือก  โชคดีที่เขาไม่เป็นอะไร

                              ......เราไปทานข้าวกันในตอนบ่าย  แล้วมานั่งที่ชายทะเลอีกครั้ง  เวลานี้คงเหมาะที่ฉันควรจะพูดแล้วล่ะ

                              ธัน...วารู้นะว่าธันพยายามแสดงความมั่นคงต่อวา  ลูกโป่งลูกแรกทำให้วาชื้นใจ  ลูกโป่งที่โรงพยาบาลทำให้วาอบอุ่น  ลูกโป่งที่มีทุกครั้งเวลากิตผิดนัดทำให้วาเหมือนมีเพื่อน  ลูกโป่งที่อยู่หน้าบ้านทุกวัน  ทำให้วารู้สึกไม่โดยทอดทิ้ง  รักที่ธันมีให้วามันรู้สึกได้  แต่วาอยากให้ธันพบกับผู้หญิงที่เขารักธัน  ที่ดีกว่าวา  วาอยากให้ธันมีความรักที่สมหวัง

                              ธันเข้าใจวา  ธันเป็นเพื่อนวา เพื่อนจะเข้ามาทุกเมื่อที่ทุกข์ใจ  การที่ธันจะมีใครคงต้องใช้เวลา  ธันคงไม่ใช่คนที่วารัก  แต่ธันเชื่อว่าคนอย่างวาต้องได้พบกับคนที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตของวาแน่ๆ

                              ขอบใจธัน  วาจะไม่ลืมธันเลย

                              ธันก็สัญญาว่าจะไม่ลืมวาเหมือนกัน  วาจะไปดูของฝากไม่ใช่เหรอ  ไปซิธันพยายามกลบเกลื่อนความรู้สึก  มันฟ้องว่าเขาเสียใจ

      การสิ้นสุด

                              ฉันเดินข้างเขาแอบมองสายตาที่ไม่สดใสเหมือนเก่า  ไม่นานเขาคงทำใจได้เหมือนฉัน  ฉันเห็นตุ๊กตาสาวและหนุ่มสองตัวเป็นชาวเกาะยืนคู่กัน  แต่งตัวด้วยเชือกกระสอบ และประดับด้วยดอกกล้วยไม้ปลอม

                              ธันดูนั่นสิ น่ารักจัง ฉันวิ่งข้ามถนนไปดูตุ๊กตา

                              อย่าวา ธันผลักฉันให้พ้นจากรถเก๋งที่ขับมาด้วยความเร็ว  ฉันล้มลงแล้วหันไปดูธัน เขานอนอยู่บนพื้นถนนกับกองเลือด  ฉันวิ่งไปหาเขา และเขาก็บอกประโยคสุดท้ายว่า

                              ธันรักวานะ  ขอให้ธันได้พบกับคนที่เติมเต็มเร็วนะ

                              ถ้าธันรักวาจริงก็ต้องอยู่กับวาไม่ใช่แบบนี้

                              ........ธันยิ้มด้วยความสุขเปลือกตาของเขาหลับลง มือที่กุมฉันไว้กระทบลงกับพื้นถนนแล้วน้ำในตาของฉันก็ไหลล้นออกมาหมือนทะเลที่บ้าคลั่ง

                              ....ไม่มีอีกแล้วลูกโป่งสีฟ้า  หากย้อนเวลาไปได้  ฉันจะไม่พูดเรื่องนี้  ไม่แกล้งและทำตัวแย่ๆในวันนั้น มันเพราะฉันที่ทำให้เขาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ  วาขอโทษนะธัน ฉันร้องไห้อย่างฟูมฟาย  จากวันนั้นฉันไม่เคยมีความสุขอีกเลย  แต่ต้องเข็มแข็งฉันไม่อยากทำให้ธันผิดหวัง  ทุกๆวันนี้ลูกโป่งสีฟ้าเป็นกำลังใจให้ฉัน  และเป็นตัวแทนธันฉันต้องซื้อมันด้วยตนเอง

                              เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้แหละภาฉันพูดกับถาเมื่อเล่าเรื่องทั้งหมดจบ

                              เหตุผลที่วาไม่อยากให้คมเอาลูกโป่งสีฟ้ามาให้ก็เพราะมันดูเหมือนคมจะมาแทนที่ธันใช่ไหม

                              อือ

                              วาอย่าร้องไห้  วาเป็นอะไร

                              .........ฉันเจ็บหัวใจอย่างรุนแรง  หายใจไม่ออกแล้วก็หมดสติอีกคร้ง

      ความจริง

                              ฉันลืมตาอีกครั้งเจอกับห้องเดิมๆ สายน้ำเกลือเดิมๆอีกแล้ว  โอ๊ยปวดหัวจัง นั่นลูกโป่งสีฟ้าอีกแล้ว  ฉันไม่สนใจอะไรอีกแล้ว  ฉันดึงมันลงมากอด  ฉันคิดถึงธัน  เสียงประตูเปิดขึ้นฉันนึกว่าธัน

                              วาแกเป็นอย่างไรบ้าง  ดีนะที่คมภาหยุดคำพูดที่หลุดออกมา

                              ต้องเป็นธันซิภาไม่ใช่คม ธันพาฉันมาที่นี่ใช่ไหม

                              พอทีเถอะวา ธันตายไปแล้ว เขาไม่กลับมาแล้ว คมเป็นคนที่พาเธอมาที่นี่  แลฃะเขาก็สั่งให้ฉันห้ามบอกเธอ  กลับสู่ความจริงซะทีวาฉันปล่อยลูกโป่งที่กอดไว้ให้ติดเพดานเหมือนเดิม

                              ขอบใจนะภาที่เตือนสติฉัน

                              วานอนพักผ่อนวะ หายไวๆนะ จะได้กลับไปกินไอศกรีมที่แกชอบและต้องไปซื้อที่จตุจักรด้วย

                              แหมรู้ใจฉันจริงๆเลยนะ  ภามีธุระอะไรหรือเปล่าไปทำเถอะฉันอยู่คนเดียวได้

                              จริงเหรอฉันไม่ค่อยไว้ใจแกเลย

                              น่า ฉันโตปานนี้แล้ว

                              ถ้างั้นไปก่อนนะ  แล้วจะมาใหม่

                              ...........ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลสองคืน   ลูกโป่งของคมเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งลูก  ฉันปล่อยให้มันอยู่ที่เดิม  ทำเหมือนมองไม่เห็นมัน  หมอเข้ามาคุยกับฉันก่อนที่แนจะกลับบ้าน

                              คุณวาครับ โรคหัวใจและอาการหอบของคุณก่อนหน้านี้มันอาการดีขึ้นมาก  แต่ตอนนี้กลับแย่ลง  คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่า  ปรึกษาหมอได้นะครับ  รักษาสุขภาพด้วยโรคหัวใจถ้าปล่อยให้แย่มันจะรักษายากครับ

                              ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ

                              ........ฉันได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วมีความสุขที่สุด  แต่โทรเท่าไหร่ภาก็ไม่ยอมรับสาย แล้วใครจะพาฉันกลับบ้าน คงต้องกลับคนเดียวงั้นหรอ  ทันใดเสียงประตูก็ดังขึ้น นั่นคือคม

                              คือ  ภาให้ผมมารับคุณเขาติดธุระ  ไม่ว่าง เขาพูดท่าทางกวนอารมณ์

                              ไม่เป็นไรค่ะกลับเองได้

                              อย่าทำเป็นเก่งนักเลย ตามไปเอากระเป๋าที่รถผมแล้วกัน เขาพูดพลางหยิบกระเป๋าของฉันออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว มากเกินไปแล้ว  ฉันรีบตามไปที่จอดรถแล้วก็หาเขาไม่เจอ

                              นี่ๆทางนี้ อย่าช้าซิผมมธุระ ตาตัวแสบ มันทำให้เหนื่อยใช่เล่นเลยในตอนนี้แนนั่งข้างฟุตบาท แล้วมันก็เริ่มหอบขึ้นเรื่อยๆ

                              เป็นอะไรไปล่ะคนอวดเก่ง เขาเดินมาอุ้มร่างที่ไม่มีเรี่ยวแรงขึ้นรถแล้วฉันก็หลับไป  ตื่นอีกทีบนโซฟา  กลิ่นข้าวต้มที่หอมยั่วใจพัดผ่านจมูกฉัน

                              ตื่นแล้วหรอ  กินข้าวต้มซะจะได้หายเร็วๆช่างไม่อ่อนโยนกับผู้หญิงซะเลย

                              ขอบคุณ

                              ผมให้คุณหยุดงานอีกสามวัน

                              งานเก่ายังค้างอยู่ แล้วฉันก็หยุดมาหลายวันแล้ว

                              นี่คือคำสั่งคุณต้องหยุดงาน สามวัน พรุ่งนี้ผมจะมารับเอางานมาให้ทำผมไปแล้วนะ

                              เดี๋ยวซิ เขาหายไปอย่างรวดเร็ว คนอะไรพูดเองเออหมด ดีแต่ออกคำสั่งนี่ถือว่าเป็นหัวหน้านะไม่งั้นไม่ยอม ฉันหยิบข้าวต้มมาทาน อร่อยจังเลย  เสร็จแล้วฉันก็เข้าไปในครัว  แล้วก็ได้รู้ว่า เบื้องหลังความอร่อยก็เป็นอย่างนี้นี่เอง  ข้าวของกระจัดกระจาย  เศษผักเต็มพื้น หม้อข้าวต้มที่ยังไม่ได้ล้าง  นึกว่าจะเนี๊ยบซักแค่ไหน

      สิ่งเริ่มต้น

                              แปดโมงเช้าพอดี  ฉันแต่งตัวทำงาน  รอเขาอยู่ที่บ้าน แล้วไม่นานนักเขาก็จอดรถที่ตรงหน้าฉัน  เขาเปิดประตูรถแล้วแล้วชะโงกหน้าออกมา ขบอกให้ขึ้นรถ ฉันไม่ไว้ใจเขาเท่าไร

      ในกระเป๋าของฉันมีสเปรย์พริกไทย เครื่องช็อต  และมีด  ต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อน  ฉันมองดูชุดที่เขาใส่  ไม่ใช่ชุดทำงาน  แต่เป็นเสื้อเชิร์ตแขนสั้นไม่ติดกระดุม ข้างในเป็นเสื้อคอกลม  กางเกงขาสั้น ถุงท้าวสีขาว รองเท้าผ้าใบสีดำ  แต่ฉันเสื้อเชิร์ตแขนยาวติดกระดุม  กระโปรงสีฟ่าจีบรอบ  รองเท้าส้นสูง  และกระเป๋าทำงาน

                              คุณจะพาฉันไปไหน

                              อย่าทำหน้าเครียด  เดี๋ยวถึงก็รู้เอง

                              นี่มันนอกตัวเมืองแล้วนะ   

                              คุณเอาเสื้อผ้ามากี่ชุด

                    ก็เอามาชุดที่ใส่นี่แหละ

                              เราต้องค้างคืนกันที่นั่น

                              ไม่ไปไม่ได้เหรอ

                              นี่มนก็ไกลจากกรุงเทพแล้วนะ  ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก แค่อยากให้คุณเปิดสมองบ้าง

                              .......ดูเหมือนจะซึ่งกับคำพูดของเขา แต่ฉันก็ยังหวั่นๆ นี่ถือว่าไม่ใช่งานก็จะไม่ยอมมา

                              แล้วงานของฉันล่ะฉันตัดสินใจอยู่นานกว่าจะถามเพราะฉันเริ่มลังเลตอนนี้มันไกลมากๆจากบ้านที่รักของฉัน

                              ผมลืมหยิบมา

                              คุณพูดแบบนี้เหรอ  จอดรถฉันจะลง

                              ก็ได้ถึงที่ที่ผมจะพาคุณมาแล้ว

                              ..........ฉันเปิดประตูรถแล้วลงมา  ที่นี่คือเชียงใหม่ และอยุ่บนที่ที่สูงที่สุดของประเทศไทยและที่นี่คือยอดเขาอินทนนท์  ฉันตัดสินใจเดินออกห่างจากเขา และวิ่งไปให้ไกลที่สุดพร้อมกับกระเป๋าทำงาน  สิ่งที่ฉันคิด  ต้องเดินลงจากภูเขาแล้วไปตลาด  ตอนนี้เขาเหมือนตัวอันตรายหากได้อยู่ห่างๆเขาคงจะดี  แต่ระยะทางก็ไกล ฉันเริ่มท้อ  เหนื่อยจนหมดแรง  ใกล้มืดเข้าไปทุกที  และฉันก็พบกับกิ่งไม้วางอยู่ข้างหน้า มันไม่น่าปลอดภัย  และดูเหมือนไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่กิ่งไม้จะขวางทางอยู่ ชายฉกรรจ์ สองคน ออกจากพุ่มไม้สายตาจับจ้องมาที่ฉัน  มือที่ถือมีดอันคมกริบพร้อมที่จะจ้วงแทงตลอดเวลา  และวิ่งเท่านั้นเป็นทางที่ดีที่สุด  รองเท้าส้นสูงที่ฉันเคยสวมใส่ถูกถอดออก  ฉันถือมันไว้ในมือ  ชายทั้งสองคนวิ่งตามฉัน  ฉันชนกับอะไรก็ไม่รู้แล้วสิ่งนั้นก็ลากฉันไปแอบที่พุ่มไม้  ด้วยความตกใจ  ฉันเอารองเท้าฟาดเข้ากับบางอย่างอย่างรุนแรงบางสิ่งที่ว่ารู้สึกว่าเหมือนจะเป็นคน  เขาคนนั้นเอามือปิดปากฉันและกอดฉันไว้ให้อยู่นิ่งๆ  ชายฉกรรจ์หาไม่เจอ  แล้วก็กลับไปอย่างงุดหงิด  แล้วเขาคนนั้นก็ป็นคม  หน้าของเขามีรอยฟกช่ำจากรองเท้าของฉันอย่างเห็นได้ชัด

                              ฉันขอโทษ เป็นอย่างไรบ้าง

                              ไม่เป็นไร ผมว่าควรไปหาที่พักกันก่อนคมเยือกเย็นมากจนแนกลัวแต่ก็เดินตามเขาไปอย่างว่านอนสอนง่าย......แล้วเมื่อถึงโรงแรม

                              กิฟวิ่งโฮเทลสวัสดีค่ะพนักงานโรงแรมกล่าวต้อนรับ

                              ครับผมต้องการสองห้อง

                              ขอโทษจริงๆค่ะ ทางโรงแรมเหลือเพียงห้องเดียงค่ะ

                              ตกลงครับฉันมองหน้าเขาด้วยความตกใจ  เขายังคุยกับพนักงานดรงแรมอยู่เสร็จแล้วก็หันกับมาคุยกับฉันด้วยท่าทางทะเล้นไม่เหมือนก่อนหน้านั้น

                              ไปกันเถอะ  ห้อง 206

                    เดี๋ยวเราต้องนอนห้องเดียวกันงั้นหรอ

                              คุณยื่นข้อเสนอให้ผมเองนะขณะนั้นเขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉัน

                    ไม่ใช่

                              ผมเข้าใจ เดี๋ยวผมจะไปเช่าอีกโรงแรมหนึ่งผมคงไม่กล้านอนห้องเดียวกับคุฯหรอกเดี๋ยวไม่มีชีวิตกลับกรุงเทพ

                              แล้วรอยช้ำล่ะขอฉันดูหน่อยฉันเอื้อมมือไปจับหน้าของเขา  เขาจับมือของฉัน

                              อย่าเลยมันเจ็บ  ผมจัดการเองได้ ผมไปก่อนนะขณะพูดเขาก็ยังไม่ปล่อยมือเขาเดินหันหลังจากห้องไป แล้วก็ยังไม่ปล่อยมือทำให้ฉันต้องเดินตามไป

                              นี่คุณขอมือฉันด้วย

                              ขอโทษผมลืม เขายิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วก็เดินไปทำให้ฉันอมยิ้ม

                              ........ฉันปิดประตูห้อง  ส่องกระจกดูตัวเอง เนื้อตัวมอมแมม ผมที่ยุ่งเหยิงและกลิ่นเหงื่อฉันอยากอาบน้ำ แต่ก็ไม่มีเสื้อผ้า  ฉันก็ไม่รู้จะทำอย่างไง เลยนั่งดูโทรทัศน์  2 ชั่วโมงตัดสินใจว่า จะนอนด้วยผ้าขุนหนูของโรงแรม  ทันใดเสียงประตูก็ดังขึ้น

                              คุณวาคะ คุณคมฝากเสื้อผ้ามาให้ค่ะ

                              ขอบคุณค่ะ

                              ........ถึงเขาจะพูดจาไม่อ่อนโยนเท่าไร แต่เขาก็มีจิตใจที่ดี ข้อความบอกว่า ผมซื้อเสื้อผ้ามาให้คุณ และชุดชั้นในพนักงานโรงแรมเป็นคนดูให้อย่าคิดอะไรมากนอนหลับฝันดี  เขาไม่ใช่คนที่ร้ายอย่างที่คิดเลย

      ความห่วงใย

                              วันนี้ฉันตื่นแต่เช้า  แต่งตัวเสร็จก็เลยเกิดความคิดที่จะออกไปสำรวจบริเวณรอบๆนี้ ฉันเดินไปเจอตลาด ซื้อของที่นั่น แล้วก็ทานข้าวที่นั่น ฉันสนใจรถนำเที่ยว ก็เลยไปจริงๆ ได้พบได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเจอ ของฝากก็สวยๆยั่วใจเหลือเกิน ฉันซื้อตุ๊กตาชาวเขาที่หน้าตากำลังบูดเบี้ยวไปฝากคม เอาไปขอบคุณและขอโทษกับรอยช้ำบนหน้าของเขาด้วย  วันนี้ทั้งสนุกและมีความสุข ฉันกลับถึงโรงแรมประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง  ขณะที่ฉันเดินยิ้มหน้าบานเข้าโรงแรมพนักงานโรงแรมเรียกฉัน

                              คุณวาคะ  คุณหายไปไหนมา คุณคมหาคุณทั้งวัน ตอนนี้รออยู่บนห้องค่ะพนักงานโรงแรมพูดกับฉัน ดูเหมือนเขา สนิทกับคมมาก

                              ค่ะๆ   ขอบคุณค่ะ ฉันรู้สึกแปลกๆ

                              ........ฉันเปิดประตูพร้อมกับคม  คมดึงฉันเข้าห้องแล้วปิดประตูอย่างแรง มือของเขาจับบนไหล่ทั้ง 2 ข้าง ของฉัน

                              คุณไปไหนมา  ทำไมถึงไม่บอกผมก่อน  รู้บ้างไหมว่าผมเป็นห่วง

                              ขอโทษฉันไม่ได้ตั้งใจ คุณไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลย

                              ขอโทษเจ็บหรือเปล่า

                    เปล่า  ฉันซื้อของมาฝากคุณด้วยคมทำหน้าบึ้งๆ

                              ……เมื่อเขาได้รับของจากฉัน  รอยยิ้มที่สดใส  ไม่แฝงเลศนัยก็เกิดขึ้น ฉันไม่เคยเห็นรอยยิ้มของเขาเลย  แล้วจู่ๆเสียงท้องร้องเหมือนฟ้าคำรามก็เกิดขึ้น  ทำให้เขายิ่งหน้าแดงด้วยความอาย  คงเป็นเพราะเสียงหัวเราะของฉันด้วย

                              รอตรงนี้นะ  เดี๋ยวหาอะไรให้ทาน

                              …….เมื่อทานอาหารเสร็จ   ฉันไปล้างจานในครัว  เขานั่งดูทีวีฉันรู้สึกดีกับเขาและฉันก็พยายามทำตัวดีๆ  กับเขา   เมื่อออกมาจากครัว  เขาหลับอยู่บนโซฟา  ร่างที่สูงใหญ่  มือที่เรียว  และใบหน้ายามหลับ ช่างดูอ่อนโยน    ฉันหยิบผ้าห่มมาห่มให้เขา   แล้วต่อไปก็ตาฉันนอนบ้าง

      คนเติมเต็ม

                    ฉันกับเขาอยู่ที่เชียงใหม่อาทิตย์หนึ่ง แล้วก็กลับมา ไม่รู้ว่าความรักก่อตัวขึ้นเมื่อไหร่ แต่ถ้าเป็นแบบนี้ธันคงจะเสียใจแน่ๆฉันจึงขอหยุดไว้แค่นี้ ไม่คิดว่าฉันจะตกอยู่ในสภาพเดียวกับธันที่ต้องห้ามใจตัวเอง

                              ทุกวันนี้คมมาส่งและรับฉันไปทำงาน เขาหมั้นเทคแคร์และเอาใจใส่ฉันอย่างอบอุ่น ทุกๆวันที่ฉันจะกลับบ้าน  แน่นอนฉันจะซื้อลูกโป่งสีฟ้าซักใบกลับไปด้วย มันทำให้บ้างครั้งมองดูคมน้อยใจ ฉันเองที่ชอบปฏิเสธนัดของเขา ช่วงหลังเขาไม่มาหาฉันเลย แล้วก็ไม่มาทำงานด้วย ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไม

                              วันนี้ฉันต้องกลับบ้านเอง ยังคงซื้อลูกโป่งเหมือนเคยแต่กลับหลุดมือของฉันไป ฉันเงยหน้ามองมันที่ลอยไปบนท้องฟ้า ธันมองฉันพร้อมกับพูดว่า

                              วารู้ไหมว่าเจอคนที่ใช่แล้ว อย่าปฏิเสธความรักอีกเลย ธันก็รอให้วามีวันนี้ ถ้าวันนี้วาปฏิเสธเขาก็จะต้องเสียใจ เชื่อมั่นในตัวเองเถอะ ขอให้วามีความสุขนะ ลาก่อน

                              ฉันรีบซื้อลูกโป่งทั้งหมดจากพ่อค้า แล้วขับรถไปหาคมทันที ระหว่างทางไปทะเล

                              ผมไม่มีทางแทนคมได้เลยใช่ไหม

                              เดี๋ยวคมก็รู้เมื่อไปถึงทะเล

                              เมื่อถึงทะเลฉันหยิบลูกโป่งในรถพร้อมกับวิ่งไปที่ทะเล คมก็วิ่งตามไป

                              วาขอบคุณมากนะ กับทุกๆอย่าง ขอบคุณในความรัก ขอบคุณที่ช่วยให้พบคนที่เติมเต็ม ขอบคุณกับความสุข และขอโทษที่เคยรั้งธันไว้  วาไม่มีวันลืมธันแน่วาปล่อยลูกโป่ง

                              คมรู้ไหมว่าคมเป็นคนที่เติมเต็ม เติมทุกๆสิ่งๆให้กับชีวิตวา วาขอโทษที่เคยทำตัวปฏิเสธคม ไม่ใช่ว่าวาไม่ได้รักคม อาจเป็นเพราะบางอย่าง แต่วันนี้วาพร้อมแล้ว วารักคมนะ

                    คนที่เติมเต็มคนนี้ จะรักวาคนเดียวตลอดไป

                              …..เรามองลูกโป่งที่ลอยไปบนฟ้าจนสุดสายตา แล้วตอนนี้มันทำให้กลายเป็นคำว่า เรา และเราจะยังคงดำเนินการเติมเต็มตลอดไป        

                             

       

       

       



       

       

                             

       

       

                             

       

       

       

       

       

       

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×