คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Intro Heesica
(credit : tumble)
Heechul – Jessica
‘แฟนกำลังนอกใจ ยังไม่รู้ตัวอีก’
แม้จะบอกกับตัวเองไม่เชื่อคำพูดของผู้หวังดี แต่ประสงค์ร้ายกับเธออย่างเซริ แต่เจสสิก้าหญิงสาวเจ้าของเสื้อผ้าแบรนด์ดัง Jessi By Jessica กลับปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคำพูดพวกนั้นยังคอยเข้ามาแวะเวียนในความคิดของเธอตลอดหลายวันที่ผ่านมา
ร่างบางมองแฟนหนุ่มที่นั่งตรงหน้าตนเองอย่างพินิจพิเคราะห์ ผู้ชายทึ่มๆ โนเนม กะโหลกกะลาอย่างอีฮันเซนี่น่ะหรอ จะกล้านอกใจผู้หญิงสวย เริ่ด เพอร์เฟคแบบเธอ แค่คิดก็อยากจะขำออกมาเป็นภาษาสเปนแล้ว เพราะฉะนั้นคำพูดของยัยเซรินั่น เชื่อถือไม่ได้อย่างแน่นอน
“กินข้าวเสร็จแล้ว เราจะไปไหนกันต่อดีฮันเซ” เจสสิก้าแกล้งเอื้อมมือไปดึงเนคไทของแฟนหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ พลางส่งสายตาเซ็กซี่ยั่วยวนไปให้ เท่านั้นเหงื่อของฮันเซก็แตกพลั่ก มือไม้สั่นขึ้นมาอย่างระงับไม่อยู่
“อะ..เอ่อ มะ..ไม่ได้หรอกครับสิก้า นี่มันก็ดึกมากแล้ว คนเราต้องพักผ่อนอย่างน้อยแปดถึงสิบชั่วโมงต่อวันนะครับ ไม่งั้นขอบตาจะดำเหมือนหมีแพนด้า ริ้วรอยก็จะถามหาก่อนวัยอันควรนะ ทานข้าวเสร็จแล้ว ผมไปส่งที่คอนโดนะครับ” นี่ไงล่ะ เชื่อหรือยังว่ายังไงอีฮันเซ ก็ไม่มีวันนอกใจเธอได้หรอก ผู้ชายแบบนี้นอกจากเธอแล้ว ใครจะไปเอา
เที่ยงคืนของวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เจสสิก้าพาตัวเองมายืนอยู่หน้าห้องของฮันเซ บางทีเธอก็แอบสงสัยว่าทำไมผู้ชายที่ไม่มีอะไรเลยอย่างเขาถึงได้อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมที่หรูหราขนาดนี้ แต่ก็เอาเถอะอย่างน้อยมันก็ถือว่าเป็นข้อดีอย่างหนึ่งของเขาก็แล้วกัน
เจสสิก้าเอาคีย์การ์ดที่ได้จากพนักงานต้อนรับด้านล่างเปิดเข้าไปในห้อง วันนี้เธอต้องการจะมาเซอร์ไพรส์เขา เพราะนอกจากจะเป็นวันปีใหม่แล้ว วันที่ 1 มกราคม ยังเป็นวันเกิดของฮันเซอีกด้วย ไฟภายในห้องติดพรึ่บอัตโนมัติเมื่อเธอก้าวเข้าไป ห้องชุดนี้ตกแต่งไว้อย่างหรูหรา ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่อุปกรณ์ตกแต่งเล็กๆน้อยๆต่างก็ดูมีราคา เธอไม่เคยเข้ามาในห้องนี้ อย่างดีก็แค่รออยู่ที่ล๊อบบี้ด้านล่าง จึงไม่เคยรู้ว่ารสนิยมของแฟนหนุ่มจะดีจนน่าประหลาดใจได้ขนาดนี้
“อ๊ะ อื้อ...อื้อ” เจสสิก้าวางเค้กที่เตรียมมาไว้บนเคาน์เตอร์ตรงห้องครัว ก่อนจะเดินตามเสียงประหลาดๆที่ดูท่าทางว่าจะดังมาจากห้องนอนของแฟนหนุ่ม เจสสิก้าลองเอาหูแนบไปกับประตู เสียงนั้นก็ดังขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เธอจึงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะผลักประตูไปเต็มแรง
“เฮ้ยยยยยยยยย / กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด”
เจสสิก้ากรีดร้องอย่างตกใจ ก่อนจะรีบหันหลังให้กับภาพที่เห็น มีผะ..ผู้ชายคร่อมอยู่บนตัวของแฟนเธอ เจสสิก้ายืนปิดตาสงบสติอารมณ์อยู่นาน จนผู้ชายคนนั้นกับแฟนเธอแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย แล้วก็เป็นแฟนเธอนั่นแหละที่ลากเธอที่ยืนขาแข็งอยู่หน้าห้องนอน มานั่งลงบนโซฟาของโซนรับแขก
“ฮะ..ฮีชอล”
เจสสิก้าต้องเบิกตาโพลงมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อเห็นว่าผู้ชายที่อยู่ในห้องกับแฟนเธอเป็นใคร จะมีใครในเกาหลีที่ไม่รู้จักเขา นายแบบหนุ่มที่กำลังมาแรง มีแฟนคลับพอๆกับวงบอยแบนด์และเกิร์ลกรุ๊ปในปัจจุบัน ผู้ชายที่คนในวงการหลายคนลงความเห็นว่าแปลกประหลาด ซึ่งเธอก็แอบเห็นด้วยในใจ แต่ตอนนี้เขาแปลกประหลาดกว่าที่เธอเคยรู้สึกมากกว่าเดิมเยอะ
“ยัยสติไม่ดีคนนี้เป็นใคร อยู่ดีๆถึงได้เข้ามาร้องกรี๊ดๆในห้องของเรา”
“ห้องของเรา นะ..นี่ หมายความว่าพวกนายอยู่ด้วยกันงั้นหรอ” ฉันตวาดออกไปเสียงดัง แต่คนที่สะดุ้งตกใจมีเพียงฮันเซคนเดียวเท่านั้น
“เจสสิก้า คุณใจเย็นๆก่อนนะครับ ผมสามารถอธิบายเรื่องนี้ได้”
“นายจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง” คำถามนั่นไม่ได้ออกมาจากเจสสิก้า แต่มันออกมาจากปากของฮีชอลที่ตอนนี้พอจะเดาเรื่องราวออกแล้ว
“คือผม ผม”
“เป็นอะไรฮ่ะ เกิดเป็นโรคติดอ่างขึ้นมาหรือไง ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ไอ้วิปริต ฉันไม่ต้องการฟังคำอธิบายบ้าบออะไรจากนายอีกแล้ว ไอ้ผู้ชายเฮงซวย คนอย่างนายมันไม่มีอะไรดีเลยด้วยซ้ำ หน้าก็ปลวก นิสัยก็น่าอ้วก กล้าดียังไงมาหลอก ผู้หญิงที่ทั้งสวย รวย เริ่ด แล้วก็เพอร์เฟคอย่างฉัน หยุด ไม่ต้องอ้าปากพูด ขอเตือนเอาไว้เลยนะ อย่าให้ฉันเห็นหน้านายอีก ไม่งั้น ฉันจะเจี๋ยนไอ้สิ่งที่นายไม่ต้องการจะมี แล้วโยนให้เจ้าตูบมันกินซะ กรี๊ดดด”
หลังจากระบายจบ เจสสิก้าก็กระแทกเท้าเดินไปหยิบเค้กที่ตนเองเตรียมไว้ ก่อนจะปาใส่หน้าเจ้าของวันเกิดไปอย่างเต็มรัก
“นี่ เค้กวันเกิดของนาย กินให้อร่อยนะ ไอ้ผู้ชายเฮงซวย”
ผ่านไปเกือบสองอาทิตย์หลังจากที่เธอจับได้ว่าอีฮันเซนอกใจ ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น มีคนแวะเวียนเข้ามาถามเธอกันมากมายว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า จนเธออยากจะหายตัวไปให้รู้แล้วรู้รอด รู้ถึงไหนอายถึงไหน คนอย่างเจสสิก้าถูกแฟนนอกใจไปหาผู้ชายคนอื่น
ดังนั้นในคืนวันศุกร์สุดสัปดาห์เช่นนี้เธอเลยกะจะชวนเพื่อนๆมาแดนซ์ให้ลืมเรื่องราวน่าปวดหัวไปให้หมด แต่เพื่อนของเธอกลับไม่มีใครว่างเลยสักคน เธอเลยต้องออกมานั่งอารมณ์บูดๆ สั่งวิสกี้หนักๆมาดื่มให้ลืมเรื่องบ้าๆนั่นเพียงคนเดียว
“เป็นอะไรฮะ ยัยชะนีอิมพอร์ต ผู้ชายไม่ตกถึงท้องหรือไงถึงได้ทำหน้าอย่างกับคนท้องผูกแบบนี้” คิมฮีชอลเอ่ยกระซิบเธอจากด้านหลัง ก่อนจะพาตัวเองมานั่งเก้าอี้ข้างๆเธอ
“ใครจะทำหน้าระรื่นเหมือนอิ่มผู้ชายมาเป็นสามชาติอย่างนายล่ะ”
“แหม ยังแค้นเรื่องที่ใช้สามีร่วมกับฉันอยู่หรือยังไง จะบอกให้นะหมอนั่นน่ะ ฉันโละทิ้งไปแล้ว เธอจะไปตามเก็บอีกก็ได้นะ ไม่ว่ากัน”
“อ๊ายยย อย่ามาพูดจาหยาบคายกับฉันนะยะ ฉันไม่มีทางกินของเหลือเดนของใครอย่างแน่นอน สวย รวย เริ่ดแบบฉัน หาดีกว่าไอ้บ้านั่นอีกสักกี่สิบเท่าก็ได้”
“อือ ฉันก็ว่าอย่างนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้หญิงอย่างเธอจะไปคว้าเอาหมอนั่นได้”
“ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าตุ๊ดไฮคลาสอย่างนายจะไปฟีเจอร์ริ่งกับผู้ชายพรรคนั้น พูดแล้วขนลุก ฮึ่ยย”
เมื่อแอลกอฮอลล์เข้าไปอยู่ในตัว การสนทนาก็เหมือนจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เรื่องที่ถูกหยิบยกมาพูดคุยก็ไม่พ้นเรื่องของผู้ชายอีกคน พอเริ่มมึนๆ ฮีชอลก็ชวนเจสสิก้าไปดื่มต่อที่คอนโดของเขา เพราะรู้สึกมีเรื่องที่จะคุยกันอีกไม่รู้จบ เจสสิก้าเองก็ตอบตกลงง่ายๆ ไม่รู้ว่าจะด้วยเพราะเมา หรือเพราะรู้ว่าเขาไม่มีทางทำอะไรผู้หญิงอย่างเธอ แต่เธอก็ไม่เสียเวลาหาเหตุผลให้ปวดสมอง อย่างคืนเหงาคืนนี้เธอก็มีคนอยู่ข้างๆล่ะนะ
นั่งดื่มกันอยู่ที่คอนโดของฮีชอลได้สักพัก เจสสิก้าก็ระเบิดเสียงร้องไห้ออกมา จนเจ้าของห้องถึงกับตกใจ
“เธอร้องไห้ทำมายย เสียจายหรืองายที่โดนมานทิ้ง” เสียงถามเริ่มอ้อแอ้เต็มที ตอนนี้ทั้งฮีชอลและเจสสิก้า เมาจนแทบจะไม่มีสติอยู่แล้ว
“ช้านม่ายด้ายเสียจาย แต่ช้านเสียหน้า เข้าจายป่ะ เสียหน้ามาก มานควรจะเป็นช้านเซ่ะ ที่บอกเลิกมาน ม่ายช่ายห้ายมานมาสวมเขาห้ายช้านแบบเน้ มานคิดว่าช้านเป็นควายหรืองายห่ะ”
“ช่างหัวมานสิว่ามานจะคิดยางงาย ที่แน่ๆมานเสียผู้หญิงดีๆอย่างเราสองโคนปาย มานต่างหากที่เป็นควาย”
“นายเป็นผู้หญิงตั้งแต่เมื่อหร่าย ตัดหรือยางห่ะไอ้นั่นน่ะ ไหนดูเซ่ะ”
“เฮ้ย ยัยบ้า ยัยโรคจิต ยัยชะนีอิมพอร์ต”
เช้าวันใหม่เจสสิก้าลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง พร้อมกับความรู้สึกหนักๆเหมือนมีอะไรมาทับอยู่ที่เอวและขาของเธอ เจสสิก้าลืมตาตื่นพลางมองไปรอบๆห้องด้วยความรู้สึกคับคลายคับคลาว่าเคยมา แต่มันไม่ใช่ห้องของเธอ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด” เจสสิก้าแผดเสียงยิ่งกว่าสิบแปดหลอดของเธอทันทีที่ได้เห็นคนที่นอนอยู่ข้างๆ ฮีชอลลืมตาตื่นขึ้นมาดวยความรู้สึกงงงวยที่อยู่ดีๆก็มีเสียงผู้หญิงรบกวนการนอนตั้งแต่เช้า ก่อนจะนึกได้ว่าอะไรเป็นอะไร ดวงตาของฮีชอลจึงเบิกโพล่งขึ้นมา
“เฮ้ยย ธะ..เธอเข้ามาทำอะไรในห้องฉัน”
“ฉันสิต้องถามนายว่า นายทำอะไรฉัน”
“ฉันไปทำอะไรเธอเล่า เธอก็รู้ไม่ใช่หรือไงว่าฉันไม่นิยมแบบเธอน่ะ”
“ไม่นิยมแบบฉัน แล้วนายมานอนกอดนอนก่ายฉันทำไม แล้ว..แล้วตอนนี้ ฉันก็ไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้นด้วย นายทำอะไรฉัน ฮืออออออออออ”
ฮีชอลถึงกับยกมือกุมขยับ ต้องยอมรับว่าเขาจำเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้เลยจริงๆ เหตุการณ์ล่าสุดเท่าที่พอจะนึกออก ก็คือเขานั่งดื่มอยู่กับเจสสิก้าที่ผับแห่งหนึ่ง แล้วสุดท้ายทำไมมาจบตรงที่เตียงนอนในคอนโดเขาได้นะ
“อย่าเพิ่งโวยวายสิ คนเราถ้ามีอะไรกันมันก็น่าจะมีความรู้สึกแปลกๆอยู่บ้างใช่ไหม เธอรู้สึกแปลกๆหรือเปล่า”
“อะไรล่ะที่นายว่ามันแปลก ฉันไม่เคยมีอะไรกับใครฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่ามันต้องขนาดไหนถึงจะแปลก แล้วนายล่ะ นายช่ำชองเรื่องพวกนี้ นายรู้สึกแปลกไหม”
“ฉันช่ำชองเรื่องพวกนี้กับผู้หญิงซะที่ไหนเล่า โอ้ย ฉันอยากจะบ้า นึกซิๆ คิมฮีชอล เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น”
“ฮืออออออ ชีวิตฉัน แม้แต่ผู้ชายที่ฉันเคยคบมาอย่างดีก็ได้แค่จูบ แล้วทำไม ทำไมฉันถึงต้องมาเสียตัวให้ตุ๊ดแบบนายด้วย ฮือออออออออ”
ฮีชอลมองเจสสิก้าด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย ยิ่งเจสสิก้าแผดเสียงร้องดังขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งคิดอะไรไม่ออกมากขึ้นเท่านั้น สักพักพอร้องจนเหนื่อยเจสสิก้าก็เอาผ้าห่มพันตัวแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป
“อ้วกก..อะ.อ้วกกกก”
ฮีชอลรีบวิ่งตามเข้าไปในห้องน้ำทันทีที่ได้ยินเสียงอาเจียนของเจสสิก้า ตอนที่เข้าไปเห็น เจสสิก้านั่งหมดสภาพหัวพิงอ่างอาบน้ำ ช่างน่าอนาถไม่สมเป็นคนที่บอกว่าตัวเองสวย เริ่ด เพอร์เฟคตลอดเวลา ก่อนจะเบิกตาโพลงอีกรอบเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้
“นะ..นี่มันเปิดปุ๊ป ติดปั๊ปเลยหรอ”
“นายหมายความว่ายังไง” เจสสิก้าพยายามถามฮีชอลด้วยความยากลำบาก
“ฉันว่าเราต้องแต่งงานกันให้ด่วนที่สุดแล้วแหละ”
“พูดบ้าอะไรของนาย”
“ฉันคิดว่าเธอท้อง!”
ความคิดเห็น