ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] ALL YOUNGJAE GOT7 FICTION

    ลำดับตอนที่ #14 : [SF] -น้ำตาจำเลย- [JACKJAE] [3/3]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.09K
      19
      4 เม.ย. 58





    จำเลยรัก - พั้นช์










     

    [SF] -น้ำตาจำเลย- [JACKJAE][3/3]

    [Fiction By Masoo]

     

     

     

     

     

     

    **อ่านเรื่องนี้อย่างละเอียดนะคะ ไม่งั้นจะพลาดช็อทเด็ด และอาจจะงงได้**
     



    **ฟิคชั่นเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการของผู้แต่งหาได้มีส่วนของความเป็นจริงไม่ เนื้อเรื่องมีฉากรุนแรงในบางซีนอารมณ์ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ**

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ไม่ขอคุกเข่าเฝ้าง้องอน
    แม้ใจขาดรอนขอตายดีกว่า

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ร่างเล็กกระโดดลงจากเรือสปีดโบ๊ทส่วนตัว เมื่อคนขับจอดเทียบชายหาดกว้าง ปลายเท้าที่สวมรองเท้าหนังแบนด์หรูไม่สนว่ามันจะแพงมากแค่ไหน กำลังเหยียบย่ำลงบนทรายใต้น้ำทะเลที่สาดซัดเข้าหาฝั่ง สกินนี่ยีนส์สีดำเปียกน้ำทะเลมาจนถึงข้อเข่า หากแต่เจ้าของเรียวขายังคงดึงดันที่จะก้าวให้เท้าก้าวได้ยาวๆ และรีบตรงดิ่งไปยังกระท่อมหลังนั้น กระท่อมที่ดวงตากลมโตจับจ้องมาตลอดตั้งแต่เรือแล่นเข้ามาจนใกล้จะถึงเกาะเกาะนี้......เจ้าของเรือนกายบอบบางไม่รอช้า เมื่อก้าวพ้นน้ำทะเล สองขาออกแรงวิ่งบนหาดทรายมุ่งตรงไปยังกระท่อมหลังนั้นทันที

     

     

     

     

     

     

                ถ้าสิ่งที่ตนสันนิษฐานเป็นความจริง เรื่องทุกอย่างจะได้จบๆกันไปเสียที

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              ก้าวปลายเท้ายาวๆขึ้นบันไดไม่ไผ่ไปบนกระท่อมที่เงียบเชียบ เจ้าตัวรีบร้อนเดินตรงไปยังประตูห้องเพียงประตูเดียวบนกระท่อม และผลักเปิดประตูบานนั้นออก บุคคลที่นอนขดตัวอยู่บนฟูกนอนเก่าๆ และมีผ้าห่มมอซอห่มกายอยู่นั้น ทำให้เขาเบิกตากว้าง อยากจะร่ำไห้ออกมาด้วยความรู้สึกผิด

     

     

     

     

     

     

     

     

                “ยองแจ.....ยองแจ”

     

     

     

     

     

     

             

     

                รีบตรงเข้านั่งทรุดกายข้างๆเรือนร่างบอบบางที่นอนหนาวสั่นอยู่บนฟูกนอน เรียวปากอิ่มเอ่ยชื่อยองแจแผ่วเบา มือนิ่มยกขึ้นแตะแผ่วยังหน้าผากที่ชื้นเหงื่อของยองแจ ก่อนจะรีบผละออกด้วยไอร้อน ผู้มาเยือนหันซ้าย แลขวาอย่างร้อนรน เหมือนเฝ้ามองหาใครอีกคนที่ควรจะอยู่ที่นี่ ยองแจกำลังจับไข้หนัก นอนตัวสั่น ด้วยพิษไข้ ริมฝีปากที่เคยเจื้อยแจ้วซีดเซียว.....ร่างที่ไม่ได้ต่างกันมากนักพยายามจะช้อนร่างของยองแจให้ลุกขึ้นนั่ง แต่กลับทำไม่ได้ดั่งใจนึก พยายามแล้วพยายามเล่าแต่ก็ไม่เป็นผล.....ร่องรอยแดงเป็นจ้ำตามลำคอ และแผ่นอกบางของร่างที่นอนซม ไร้สติเพราะพิษไข้ ทำให้ผู้มาเยือนปวดร้าว

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ทำไมถึงใจร้ายขนาดนี้

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                “แบมแบม!!!

     

     

     

     

     

     

     

              เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อผู้มาเยือนด้วยน้ำเสียงอันดัง เจ้าของกระท่อมตกใจไม่น้อยที่อยู่ๆอีกฝ่ายมาอยู่ที่นี่ สองมือที่ถือกะละมังใส่น้ำอุ่นพร้อมผ้าสะอาดสีขาว ถูกเจ้าตัวโยนทิ้งไปเบื้องหลังอย่างรุนแรงตามอารมณ์โกรธ ก่อนร่างกำยำจะก้าวเดินอาดๆเข้ามาหาเจ้าของชื่อ ด้วยใบหน้าที่ขึงขัง

     

     

     

     

     

                “มาที่นี่ได้อย่างไง? กลับไปซะ!” เอ่ยถามด้วยเสียงอันดัง พร้อมกับชี้ปลายนิ้วไปยังประตูห้อง เป็นการไล่อีกฝ่ายกลายๆ

     

     

     

     

                “แบมต้องถามเฮียมากกว่า ว่าทำไมเฮียถึงอยู่ที่นี่?” แบมแบมลุกขึ้นยืนมาเผชิญหน้ากับพี่ชายของตนเอง โดยไม่กลัวเกรงสายตาคมดุที่กำลังจ้องมองมา

     

     

     

     

     

                “เฮียบอกให้กลับก็ต้องกลับ!!! กลับไป!!!

     

     

     

     

                “แบมไม่กลับ!! ถ้าแบมกลับ ยองแจต้องกลับกับแบมด้วย!” แบมแบมตะโกนเสียงดัง เถียงแข่งกับพี่ชายอย่างไม่ลดละ ดวงตากลมโตแข็งกร้าวไม่ต่างจากผู้เป็นพี่ชาย ยืนสบตาคมดุของพี่ชายนิ่งๆ ใบหน้าอ่อนใสแสดงท่าทีว่าจะไม่ยอมอ่อนข้อให้ผู้เป็นพี่ชายเด็ดขาด!

     

     

     

     

     

                “เฮีย.....เฮียไม่ควรทำแบบนี้ มันผิดนะเฮีย เฮียลักพาตัวเพื่อนของแบมมา ทุกคนเดือดร้อนกันไปหมด โดยเฉพาะคุณป้า แม่ของยองแจใจแทบสลายเฮียรู้ไหม? ที่อยู่ๆลูกชายคนเล็กก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องลอย มันหนึ่งเดือนแล้วนะเฮีย หนึ่งเดือนแล้วที่คุณลุง คุณป้า และพี่มาร์คไม่เป็นอันทำอะไร ถ้าแม่ใหญ่ไม่โทรหาแบมเมื่อวันก่อน และถามถึงเฮีย ว่าทำไมเฮียกลับมาบ้านที่นี่แล้วไม่ติดต่อกลับไปหาแม่ใหญ่เลย แบมก็คงไม่รู้ว่าเฮียแอบบินกลับที่นี่เงียบๆ แบมรู้ทันทีว่าเฮียกำลังทำอะไร เพราะยองแจหายตัวไปพร้อมกลับการกลับมาของเฮีย”

     

     

     

     

                แบมแบมเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือต่อหน้าพี่ชาย ก่อนจะค่อยๆหันหลังกลับไปทรุดกายนั่งข้างๆเพื่อนรักที่ยังนอนซมไม่ได้สติเสียที

     

     

     

     

     

                “เฮียกำลังเข้าใจพี่มาร์คผิด แบมรู้ว่าเฮียต้องคิดมากเรื่องแบม แต่มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะเฮีย”

     

     

     

     

     

                “เข้าใจผิด?!!! เฮียเข้าใจอะไรผิดหรอแบม? มัน!!! ทำให้แบมเจ็บจนแบมคิดสั้นฆ่าตัวตาย มันรู้อะไรบ้าง นอกจากทำหน้าระรื่นเข้าพิธีหมั้นกับคุณหนูตระกูลอื่น” เขาเกลียดขี้หน้ามัน แม้แต่ชื่อยังไม่อยากจะเอ่ยออกมา อยากจะฆ่ามันให้ตายด้วยมือคู่นี้ด้วยซ้ำ!

     

     

     

     

     

                “พี่มาร์คถูกพ่อของอีกฝ่ายบังคับให้หมั้นเพราะเรื่องธุรกิจ พี่มาร์คไม่ได้อยากหมั้นจริงๆนะเฮีย ส่วนเรื่องที่แบมกรีดข้อมือตัวเอง........แบมหลอกทุกคน และตอนนี้พี่มาร์คก็ถอนหมั้นเรียบร้อยแล้ว พี่มาร์คจัดการเรื่องทุกอย่างลงตัวหมดแล้ว เรื่องที่เฮียรับรู้ว่าพี่มาร์คกับแบมทะเลาะกันจนต้องแยกทางกันไป มันก็แค่ละครฉากหนึ่งเท่านั้น เราทำให้ฝ่ายศัตรูตายใจ แบมถึงต้องหลอกลวงทุกคนในครอบครัว....ยองแจเองก็ไม่เคยรับรู้อะไรเลย คนที่ผิดคือแบมเองไม่ใช่พี่มาร์ค......แบมไม่คิดว่าเรื่องราวจะใหญ่โตขนาดนี้ บ....ฮึก.......แบม.....ฮึก......ฮือ.......บ.......แบม...ขอโทษ....”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                เหมือนมีใครเอาค้อนหนักๆมาทุบที่หัว เจ็บปวดเจียนตาย หากแต่ไม่ตาย อยากจะเดินเข้าไป และใช้ฝ่ามือฟาดลงไปบนซีกแก้มที่เต็มไปด้วนหยาดน้ำตาของน้องชายสุดที่รัก แต่ก็ทำไม่ได้ ทำได้เพียงกำฝ่ามือเข้าหากันแน่น ทั้งรัก และเป็นห่วงมาก แต่สุดท้ายกลับได้รับเพียงความหลอกลวงจากน้องชายที่เขาเฝ้าทะนุถนอม อยากจะเป็นพี่ที่แสนดี ปกป้องดูแลน้องชายได้.....สุดท้ายเขามันก็แค่พี่ชายที่โง่เง่าคนหนึ่งเท่านั้น

     

     

     

     

     

                “แบมรู้มั้ย? ตลอดหนึ่งเดือนที่เฮียจับตัวชเวยองแจมาที่นี่ เฮียเอาแต่ตะคอกคำด่าใส่หน้าอีกฝ่ายว่าโง่........จนมาถึงตอนนี้ คำนั้นมันคงเหมาะสมกับคนอย่าง แจ็คสัน หวัง มากที่สุด”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ดวงตาคมสั่นไหวมองสบดวงตาของน้องชาย ก่อนจะหันไปมองร่างบอบบางที่นอนจับไข้อยู่บนฟูกนอนด้วยสายตาที่ลดความแข็งกระด้างลง หลังจากเอ่ยประโยคจบ ชายหนุ่มก็หันหลังให้กับน้องชาย และใครอีกคนที่อยู่ใช้ชีวิตร่วมกันบนเกาะร้างส่วนตัวนานนับเดือน หัวใจของชายหนุ่มวูบโหวง ขณะก้าวเท้าลงบันไดกระท่อม จนมายืนเผชิญหน้ากับชายหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนรักกัน......

     

     

     

     

    มาร์ค ที่ขับเรือมาถึงหลังแบมแบม รีบร้อนมายังเกาะ หลังจากแบมแบมได้ให้ข้อมูลตนเอาไว้ เขามาทันจนได้เผชิญหน้ากับแจ็คสัน หวัง ทุกอย่างเป็นไปตามที่แบมแบมคาดการณ์เอาไว้ แจ็คสันเป็นคนจับยองแจน้องชายของเขามาจริงๆ มาร์คไม่รอช้าที่จะซัดหมัดพุ่งเข้าใส่ใบหน้ารกรุงรังราวกับโจรป่าของแจ็คสันอย่างแรง จนร่างกำยำของเจ้าของเกาะร้างซวนเซไปเบื้องหลังแต่ไม่ถึงกับล้ม ก่อนใบหน้าหล่อเหลาของมาร์คจะถูกแจ็คสันสวนกลับด้วยหมัดที่แรงไม่แพ้กัน ร่างสูงโปร่งของมาร์คเซไปตามแรงหมัดที่ซัดเข้าที่มุมปากอย่างจัง ตามด้วยฝ่ามือที่ตรงเข้าผลักอกทำให้ร่างของมาร์คล้มลง

     

     

     

     

    ไร้ซึ่งประโยคคำพูดใดๆ ในฐานะลูกผู้ชาย ต่างฝ่ายต่างมีสถานะเป็นพี่ชายด้วยกันทั้งคู่ ความเจ็บปวดของตัวเองนั้น ไม่เท่ากับคนที่เป็นดั่งน้องน้อยถูกใครอื่นทำร้าย และเชื่อว่าทั้งแจ็คสัน และมาร์คจะเข้าใจความรู้สึกนั้นได้ดีกว่าใคร.....ผ่านหมัดที่ใช้แลกกันไปเมื่อสักครู่นี้

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    แจ็คสันเดินปลายเท้าเปลือยเปล่าอยู่บนหาดทราย ชายหนุ่มเดินหันหลังให้กับกระท่อมหลังที่ตนสร้างมาด้วยมือ ด้วยความรู้สึกที่ต่างออกไปจากวันที่ปลายเท้าของเขาเหยียบที่นี่เป็นครั้งแรก ทุกย่างก้าวบนผืนทรายบนเกาะแห่งนี้ มันเต็มไปด้วยเรื่องราวระหว่างเขา และผู้ที่ตกอยู่ในฐานะจำเลย อย่างชเวยองแจ เขาทำเรื่องร้ายๆกับอีกฝ่ายมากมาย นับตั้งแต่ลักพาตัวมาถึงเกาะนี้ มันทั้งโหดร้าย รุนแรง และป่าเถื่อน เขาไม่เคยรู้สึกผิดภายในใจเลยสักนิด มันล้วนแต่ทำให้เขาสะใจ สาแก่ใจ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเจ็บปวด แต่ยองแจกลับไม่เคยร้องไห้ออกมาเลยสักครั้ง ไม่ว่าเขาจะกลั่นแกล้ง ดุด่า มากขนาดไหน....ขนาดโดนเขาตบจนเลือดกบปาก ยองแจยังทำเพียงแค่มองหน้าเขาด้วยดวงตาแดงกร่ำ แต่ไม่ยอมปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา

     

     

     

     

     

    จนวันที่อีกฝ่ายพยายามหนีเขาไปเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ และมันกำลังจะสำเร็จ หากเขาไม่นึกเอะใจ และไปตามอีกฝ่ายที่ลำธารน้ำตก การกระทำของยองแจดูได้ไม่ยากเลย พฤติกรรมเด็กนั่นอ่านออกง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก ทั้งๆที่ทำตัวเป็นจำเลยแสนเชื่องให้เขาตายใจ แต่สุดท้ายกลับคิดหลบหนี โหยหาอิสรภาพที่เขาปิดกลั้นเอาไว้ เขาทั้งโกรธ ทั้งโมโห จนอยากจะฆ่าจำเลยอ่อนแอนั่นให้ตายคามือ.....จนเขาค้นพบวิธีที่จะลงโทษผู้ที่ตกอยู่ในฐานะจำเลยสมควรจะได้รับ....จำเลยตัวน้อยร้องไห้ราวกับจะขาดใจตาย ภายใต้อ้อมกอดแสนป่าเถื่อนของเขา

     

     

     

     

     

     

     

    นั่น....เป็นการทำร้ายจำเลยครั้งแรก ที่ทำให้เขารู้สึกผิดอยู่เต็มหัวใจ ชเวยองแจตอนนั้นดูน่าสงสาร เหมือนอีกฝ่ายกำลังจะแตกสลายไปในไม่ช้า เขาไม่เคยพบเห็นใครที่ร้องไห้ได้น่าสงสารจับใจเท่าจำเลยของเขา หลังจากคืนนั้น เขาพยายามเอาตัวออกห่างจากอีกฝ่าย ไม่ด่า ว่ากล่าว ไม่ใช่น้ำเสียงอันดังตะหวาดกร้าว ชเวยองแจ ก็คือชเวยองแจ เด็กนั่นใสซื่อ ไร้เดียงสา เสียจนเขาหมดคำพูด หวาดกลัวเขาแค่ไหน แต่ก็ยังคงทำทุกๆอย่างที่เขาเคยบังคับให้อีกฝ่ายทำ

     

     

     

     

     

    เรื่องเมื่อคืนเกิดขึ้นเพราะความต้องการของเขา โจรก็คือโจร....เขาคือโจรอย่างที่อีกฝ่ายต่อว่า ในทุกค่ำคืนที่เขาพยายามข่มใจตัวเองไม่ให้ทำร้ายจำเลย ไอ้หน้าโจร ปากคอเลาะร้ายคนนี้ อีกนั่นแหละที่ทำให้จำเลยผู้น่าสงสารเสียน้ำตาอีกครั้ง แต่ใครจะรู้มากไปกว่าตัวเขาเอง ว่าความรู้สึกที่ใช้โอบกอดจำเลยในครั้งนี้มันแตกต่างไปจากครั้งแรก แม้จะไม่มีความอ่อนโยนอยู่ในสัมผัสนั้นเลยก็ตาม เขาไม่ต้องการความรัก แค่ความเกลียดชังมันก็มากเกินพอแล้วที่อีกฝ่ายจะมอบให้กับเขาได้.....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    แจ็คสันกระโดดโยนตัวลงเรือของตัวเองที่แอบจอดเทียบชายหาดอยู่อีกด้านข้างๆเกาะ เขาซ่อนมันให้รอดพ้นสายตาของจำเลย เรือลำที่เขาลักพาจำเลยมายังเกาะแห่งนี้  ชายหนุ่มติดเครื่องยนต์ บังคับพวงมาลัย ให้เรือหมุนวนหันหน้าออกทะเล และเพิ่มความเร็ว ขับเคลื่อนมันให้ออกห่างจากเกาะเกาะนี้ด้วยความรวดเร็ว

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    มือคู่นี้คงทำได้แค่ ทำร้ายให้อีกฝ่ายเจ็บปวด จะอ่อนโยนให้เพียงสักครั้ง ยกน้ำอุ่น พร้อมผ้าขาวสะอาดเพื่อเช็ดตัวจำเลยที่นอนซมเพราะพิษไข้......พระเจ้าก็ยังไม่เปิดทางให้ปีศาจร้ายกลับใจเช่น แจ็คสัน หวัง เลย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                คุณหนูคนเล็ก ลูกชายหัวแก้วหัวแก้วของคุณหญิงชเวยองเอ นั่งเท้าคางสายตาเหม่อมองไปยังวิวหาดทรายขาว และท้องทะเลสวยงาม จากระเบียงชั้นสองของบ้านพักตากอากาศริมทะเลประจำตระกูล พระอาทิตย์ดวงโตกำลังจะลาลับขอบฟ้า และมันทำให้คุณหนูชเวยองแจรู้สึกใจหาย ยองแจรู้ว่าตนไม่ควรรู้สึกหดหู่เมื่อต้องจ้องมองทะเล แต่มันก็ห้ามตัวเองไม่ได้ ยองแจทั้งรัก และเกลียดทะเลในเวลาเดียวกัน นานแค่ไหนแล้วที่ความรู้สึกแบบนี้มาทำให้หัวใจของเขาว้าวุ่น สามเดือน? ครึ่งปี?.......ไม่สิ หนึ่งปี แล้วต่างหาก

     

     

     

     

                คุณมี๊ร้องไห้ไม่หยุด และบอกกับน้องแจ ในวันที่น้องแจลืมตาขึ้นในห้องพิเศษของโรงพยาบาลว่า น้องแจฝันไป มันเป็นเพียงฝันร้ายของน้องแจเท่านั้น ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงเลย เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงความฝัน คุณป๊าส่งยิ้มให้น้องแจ และลูบผมน้องแจอย่างอ่อนโยน คุณป๊าพูดเหมือนกับคุณมี๊ว่าน้องแจป่วย จนฝันร้าย พี่มาร์คก็เช่นกัน พี่มาร์คจุ๊บหน้าผากน้องแจ แล้วพูดกับน้องแจว่า น้องแจได้ตื่นจากฝันร้ายแล้ว น้องแจหันไปมองแบมแบมเพื่อนรัก ที่นั่งกุมมือของน้องแจอยู่อีกข้าง แบมแบมเอาแต่ก้มหน้าร้องไห้กับมือของน้องแจจนมันเปียกน้ำตาไปหมด.....วันนั้นน้องแจเห็นหน้าทุกคนที่น้องแจรัก ยกเว้น......

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ยองแจยกสร้อยที่ทำจากเชือกสีขาวหม่นๆขึ้นมาดู หลังจากละสายตาจากท้องทะเลเบื้องหน้า สร้อยเชือกที่ถักเป็นปม มีเปลือกหอยเล็กๆ และไข่มุกที่มีเพียงเม็ดเดียวบนสร้อย ยองแจจะเชื่อในคำพูดของคนในครอบครัวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาเป็นเพียงความฝัน หากสร้อยเส้นนี้ไม่ได้อยู่บนข้อมือของเขาในวันที่ลืมตาขึ้นมาในห้องพิเศษของโรงพยาบาล....สร้อยเส้นนี้เป็นสิ่งย้ำเตือนความทรงจำยองแจตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ว่าเรื่องราวของเขากับผู้ชายหน้าโจร และเกาะร้างนั้น เป็นเรื่องจริง เป็นความจริง ที่ยองแจไม่สามารถลืมมันไปได้.....ผู้ชายใจร้ายคนนั้นมีตัวตนอยู่จริง

     

     

     

     

     

                เชือกที่ใช้ถักเป็นสร้อย ยองแจจำได้ว่ามันคือเชือกแหที่ผู้ชายคนนั้นนั่งถักอยู่บนแคร่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ในเย็นวันนั้น แต่ยองแจจำไม่ได้ ว่าอีกฝ่ายใส่ให้เขาตอนไหน คงจะเป็นหลังจากคืนนั้น หลังจากที่อีกฝ่าย...................

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                “น้องแจลูก......” เสียงอ่อนหวานของคุณมี๊ทำให้ยองแจสะดุ้งหลุดจากภวังค์ ใบหน้าหวานใสรีบหันหลังมายิ้มรับตามเสียงเรียก

     

     

     

     

                “ปาร์ตี้ซีฟู๊ดริมชายหาดสุดโปรดของน้องแจจะเริ่มแล้วนะ รีบลงไปทานกันเถอะจ่ะ” คุณมี๊ยื่นมือเรียวเล็กมาเบื้องหน้า  ยองแจยิ้มกว้างก่อนจะวางมือลงกับฝ่ามือของมารดา

     

     

     

     

     

                “น้องแจขอโทษที่ไม่ได้ลงไปช่วยทุกคนเตรียมของ น้องแจมัวแต่นั่งมองทะเลเพลินไปหน่อยน่ะครับคุณมี๊ น้องแจขอโทษจริงๆนะครับ” เสียงหวานใสเอ่ยขอโทษเจื้อยแจ้ว คุณมี๊ไม่ได้ว่าอะไรลูกชายสุดที่รัก เธอทำเพียงส่ายศีรษะไปมาน้อยๆ เธอรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงนี้มากกว่าใคร น้องแจดูเปลี่ยนไปมากนับตั้งแต่กลับมาวันนั้น ทำอะไรได้ด้วยตัวเองมากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร ในเรื่องราวร้ายๆนั้น ได้สอนอะไรหลายๆอย่างให้กับลูกชายของเธอ.....เธอไม่อยากได้อะไรคืนกลับมาเลย นอกเสียจากรอยยิ้มแสนสดใสที่ลูกชายเคยมีในอดีต

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              น้องแจ.....หนูช่วยส่งยิ้มให้กับมี๊ ด้วยรอยยิ้มที่ไม่ได้ฝืนความรู้สึกของหนูได้มั้ย? อย่าพยายามฝืนยิ้มให้กับครอบครัว ยิ้มที่บอกกับทุกคนว่ายังเป็นน้องแจคนเดิม ทั้งๆที่ในใจของลูก กำลังกรีดร้อง และร่ำไห้อย่างหนัก.....ทั้งมี๊ คุณป๊า พี่มาร์ค แบมแบม และทุกๆคน กันลูกออกจากความเป็นจริงอันโหดร้าย แต่เหมือนมันจะไม่ได้ช่วยอะไรลูกเลย ลูกยังจดจำ.....และเฝ้าคำนึงถึง.....มี๊ควรทำอย่างไรดียองแจลูกรัก

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                เสียงหัวเราะ ร่าเริงของทุกคนในครอบครัวไม่ได้เข้ามาอยู่ในโสตการรับรู้ของยองแจเลย ทั้งสองครอบครัวใหญ่พูดคุยเรื่องงานแต่งงานของพี่มาร์คกับแบมแบมที่จะเกิดขึ้นภายในอาทิตย์หน้ากันอย่างสนุกสนาน....ยกเว้นเขา แม้แบมแบมที่นั่งอยู่ข้างกันจะชวนพูดคุย แต่เขาแทบไม่ได้หันไปมองหน้าแบมแบมเลย สายตาเขาเอาแต่จับจ้องผู้ชายคนหนึ่งที่มีผมเผ้ารุงรัง แต่งตัวแบบชาวเล ที่ยืนย่างซีฟู๊ดอยู่หน้าเตาไฟ ห่างไกลออกไปจากโต๊ะนั่งรับประทานอาหารตัวยาว จะด้วยความมืดของท้องฟ้า หรืออะไรก็แล้วแต่ ยองแจไม่สามารถล่ะสายตาไปจากชายผู้นั้นได้เลย......เขาเหมือน........เหมือนผู้ชายคนนั้นมาก ทั้งทรงผม และหุ่น แม้จะมองเห็นใบหน้าไกลๆนั้นไม่ชัด.....แต่มันเหมือนกันจนมากเกินไป

     

     

     

     

     

     

                ยองแจทนเก็บความสงสัยไว้ไม่ได้อีกต่อไป ร่างเล็กจึงลุกขึ้นยืนพรวดพราด ทำให้บทสนทนาบนโต๊ะอาหารเงียบลงทันที จนเมื่อแบมแบมจับเข้าที่มือเล็กๆของยองแจ จึงทำให้ยองแจได้สติ เผยยิ้มอย่างสำนึกผิด ยองแจเอ่ยแก้ตัวกับทุกคนว่าตัวเองปวดท้อง และขอตัวก่อนก่อน....ไม่มีใครเอ่ยรั้ง ทั้งโต๊ะอาหารมีแต่เพียงเสียงถอนหายใจอย่างพร้อมเพียงของทุกๆคน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ยองแจเดินอ้อมบ้านพักออกมาอีกฝั่ง พยายามเดินตามหาผู้ชายคนนั้น ที่พอเขาหันไปมองที่เตาย่างอีกทีก็หายตัวไปไหนแล้วไม่รู้ เดินหาจนรอบบ้าน หรือแม้แต่ชายหาดอีกฝั่งก็ยังหาไม่เจอ แอบหลังต้นไม้แล้วมองย้อนกลับไปที่โต๊ะอาหารริมทะเล ก็ยังไม่มี.....หรือบางทีเขาอาจจะคิดมากไปเองก็ได้...อย่างนั้นใช่มั้ย?.....ยองแจตัดใจที่จะตามหา และเดินกลับมายังโต๊ะอาหารริมทะเลอีกครั้ง หากแต่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเขาที่พี่มาร์คเคยนั่งกลับกลายเป็นผู้ชายอีกคนที่เขาไม่รู้จัก ยองแจทิ้งตัวลงนั่งยังที่ของตัวเองพลางหันหน้าไปมา มองคนนั้นที คนนี้ที เหมือนขอคำอธิบาย จนมาจบลงที่แบมแบมเพื่อนรัก

     

     

     

     

     

     

                “พี่ชายของแบมเอง” แบมแบมกระซิบบอกเพื่อน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                “ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการครับ น้องยองแจ.......พี่ แจ็คสัน หวัง”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ใบหน้าหล่อเหลาเกลี้ยงเกลาที่ไม่คุ้นเคย หากแต่น้ำเสียงทุ้ม และรอยยิ้มมุมปากที่อีกฝ่ายมอบให้ นั้นช่างเคยคุ้นเสียจนทำให้ยองแจรู้สึกขนลุก เลือดในกายสูบฉีดอย่างหนัก ทำให้หัวใจเต้นระรัวจนแทบเป็นลม อีกทั้งฝ่ามือใหญ่ที่ยื่นตรงมาเบื้องหน้าเพื่อทำความรู้จัก มันยิ่งทำให้ร่างกายของยองแจสั่นเทาจนแทบจะควบคุมไม่อยู่ ดวงตาคมคู่นั้นเอาแต่จับจ้องตรึงดวงตาสั่นไหวของยองแจเอาไว้ อย่างไม่คาดสายตา อยากจะหลบเลี่ยงสายตาน่ากลัวนั้นมากแค่ไหน แต่ก็ทำไม่เคยได้.....จวบจนสัมผัสแผ่วเบาที่ฝ่ามือได้เรียกสติของตนกลับมาอีกครั้ง ยองแจรีบหลุบสายตาลงต่ำในทันที.....เฝ้าบอกกับตัวเองว่าไม่ใช่....ต้องไม่ใช่

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ไม่ใช่ผู้ชายหน้าโจรคนนั้น

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              สร้อยข้อมือเหมือนกัน ที่อยู่บนข้อมือของทั้งคู่ แสดงความชัดเจนมากพอ จนไม่ต้องอธิบายอะไรอีกแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    *เพี๊ยะ!!!*

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เสียงฝ่ามือกระทบซีกแก้มดังลั่นไปทั่วทั้งชายหาดบ้านพักตากอากาศ ทุกคนบนโต๊ะอาหารริมทะเลนิ่งค้าง ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ยองแจร้องไห้ออกมาอย่างหนัก แล้วฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าของแจ็คสันอย่างแรง ก่อนร่างเล็กจะวิ่งหนีหายไปกับความมืดบนหาดทราย แจ็คสันไม่รอช้า หรือตะลึงนิ่งค้างเฉกเช่นคนอื่น ชายหนุ่มรีบวิ่งตามร่างเล็กๆของยองแจไปในทันที

     

     

     

     

    “ยองแจ! ยองแจอย่างวิ่งแบบนั้น มันอันตราย.....ยองแจ!!”  แจ็คสันร้องเรียก ขณะวิ่งตามไล่หลังอีกฝ่าย ก่อนฝ่ามือจะเอื้อมคว้าข้อศอกของยองแจเอาไว้ได้ พอได้เผชิญหน้ากันใกล้ๆอีกครั้ง ยองแจก็ฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าหล่อเหลาของแจ็คสันอีกครั้ง ด้วยแรงที่ไม่ได้ลดลงเลย

     

     

     

     

    “ไอ้คนบ้า! ไอ้โจรบ้า!.....ฮึก......ไอ้โรคจิต!” คุณหนูยองแจตะโกนด่าใส่หน้าแจ็คสันอย่างไม่ลืมหู ลืมตา ด่าไป ร้องไห้ไป มือเล็กก็ตีอก ชกตัวแจ็คสันรัวๆ อย่างไม่รู้จักพอ แจ็คสันเองก็ไม่คิดจะจับห้ามมือเล็กๆนั่น เขาเอาแต่ยิ้ม ยิ้ม แล้วก็ยิ้ม

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “คุณหนูคงจะลืมสัญญาระหว่างเราไปแล้ว ว่าถ้าคุณหนูตบ.....ไอ้หน้าโจรคนนี้จะจูบ!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                “ไอ้!!!---------------------------- กลีบปากถูกประกบจูบปิดกลั้นน้ำเสียงด่าทอที่คุณหนูกำลังจะพ่นออกมาชุดใหญ่ จูบที่ได้รับ ไม่มีความรุนแรงแผงอยู่เลย มันเต็มไปด้วยความอ่อนโยน กลายเป็นจูบที่โหยหากันและกันมากขึ้น มากยิ่งขึ้นไปอีก.....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

               

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                คุณมี๊....โตขึ้นน้องแจอยากมีความรักกับนายหัวหฤทธิ์ น้องแจอยากสร้างบ้านอยู่บนเกาะร้าง น้องแจรักทะเลมากๆเลย......คุณมี๊ว่าน้องแจจะได้เจอนายหัวหฤทธิ์ของน้องแจมั้ยครับ? เรารักกันได้ใช่มั้ยครับคุณมี๊?

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                “ความฝันน้องแจเป็นจริงแล้วนะลูก” คุณมี๊ยืนใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดหางตาที่มีน้ำตาซึมลงมา ขณะจ้องมองร่างเล็กๆของลูกรักที่อยู่ในอ้อมกอดของนายหัวหฤทิธิ์ เอ้ย! แจ็คสัน........จากระเบียงบ้านพักตากอากาศ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เชิญคุณลงทัณฑ์บัญชา
    จนสมอุราจนสาแก่ใจ

     

     

               

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    -The end-

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                Masoo Talk: กว่าจะจบ ฮอล........... คือนี่เป็นฟิคสนองนี๊ดตัวมาซูเองแท้ๆเลยค่ะ ไม่คิดว่าจะยาวมาสามตอนจบขนาดนี้ ความฝันได้กลายเป็นจริงแล้ว อยากแต่งแนวนี้มาตลอด สุดท้ายก็สำเร็จจงได้ /ร้องไห้หนักมาก แจ็คแจที่รัก ขอบคุณมากจริงๆนะ แล้วก็ขอโทษด้วยนะคะ ถ้าตอนจบไม่ถูกใจใคร แต่มันถูกใจคนแต่งอ่ะ กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    เป็นฟิคดราม่าป่ะเนี่ย? ให้เรทไม่ถูกเลอ ถถถ เป็นฟิคน้ำเน่าแบบ ไม่มีเหตุผลอะไรเลยค่ะ ตามใจล้วนๆ อยากจะให้เป็นแบบไหนก็เป็นแบบนั้น เหมือนเอาละครไทยหลายๆเรื่องมายำรวมกัน กรี๊ด!! ไม่พูดมากล่ะค่ะ ตอนจบแล้ว เก็บไว้พูดเรื่องใหม่บ้าง ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ ขอบคุณที่อ่านฟิคเรื่องนี้ แล้วเจอกันเรื่องใหม่นะคะ /ยิ้มอ่อน





     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×