ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] ALL YOUNGJAE GOT7 FICTION

    ลำดับตอนที่ #3 : [SF] Jingle Bell [JackJae]

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.พ. 58





    J I N G L E   B E L L  R O C K





     

     

     

    Couple: Jackson x Youngjae

    Rate: PG

    - By RinChovy -

     







































     



     

                เจ้าของร่างสมส่วนที่แม้ว่าจะไม่สูงโปร่งเท่าไหร่ แต่ก็เท่ตามแบบฉบับชายในฝันของใครหลายคนนั่งมองไปยังนอกกระจกบานใหญ่ ท้าวคางมองผู้คนที่เดินไปเดินมาผ่านร้านกาแฟร้านประจำของเขาแล้วก็ถอนหายใจจนคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงสงสัย

     

     

                ตั้งแต่เขามานั่งอ่านหนังสือเป็นเพื่อน ก็เห็นหวังแจ็คสันถอนหายใจหลายรอบแล้วนะ....

     

     

                โกโก้ร้อนแก้วที่สองถูกยกขึ้นมาในระดับริมฝีปาก ก่อนที่เจ้าของมันจะได้ลิ้มรสก็ต้องเป็นอันขมวดคิ้วเมื่อหันกลับมาเจอสายตาสงสัยของเด็กในปกครองที่มองเขาตาปริบๆ ทำหน้าเครียดใส่ไปก่อนหนึ่งทีแล้วค่อยทำตาโตแบบที่แจ็คสันขอลงความเห็นว่ามันตลกสิ้นดีเพราะเจ้าเด็กนี้ดันตาเล็กซะขนาดนี้ มือหนาปล่อยจากแก้วเครื่องดื่มแล้วแตะๆลงบนหน้าตัวเองเหมือนเช็คความเรียบร้อย

     

     

    “มองแบบนี้... บนหน้าหล่อๆของฉันมีอะไรติดเหรอ?”

     

     

                คนที่พึ่งดูดไอซ์อเมริกาโน่ของตัวเองเข้าปากแทบจะสำลักในความหลงตัวเองของอีกฝ่าย ไอแค่กๆจนแจ็คสันต้องรีบหากระดาษทิชชู่มายื่นให้อย่างรวดเร็ว

     

     

                “ยองแจไหวไหมเนี่ย? นี้ฉันพูดอะไรผิดไปเหรอ”

     

     

    หนุ่มรุ่นน้องโบกมือหยอยๆเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร แต่ไอซะจนหน้าแดงก่ำจนคนอายุมากกว่าหัวเราะเบาๆในลำคอกับภาพตรงหน้า

     

               

                “หลงตัวเอง ... แค่กๆ นี้เรียกผมมานั่งอ่านหนังสือกับดูพี่ถอนหายใจไง? ตกลงเป็นไรอีกเนี่ย”

     

     

    ขมวดคิ้วก่อนจะตีมืออีกคนป๊าบๆเพราะจากที่จะช่วยยื่นทิชชู่มาเช็ดกลับกลายเป็นเอามันมาแกล้งๆแหย่ๆแถวๆปากกับจมูกเขาเนี่ยน่ะสิ

     

     

                เดี๋ยวชเวยองแจกัดนิ้วขาดเลยหนิ -_-

     

     

                “ก็เรียกมากินเป็นเพื่อน... พี่เฮิร์ทอ่ะ พี่พึ่งถูกสาวบอกเลิก ฮือออออ”

     

     

    หวังแจ็คสันทำท่าทางประกอบคำพูดตัวเองด้วยการเอามือกุมหน้าอกแล้วก็ทำหน้าเศร้าสุดชีวิตจนคนเป็นน้องต้องถอนหายใจออกมาดังๆแล้วปาทิชชู่ที่ตัวเองใช้ไปเมื่อครู่ปาใส่หน้า “อี๋ยองแจ!

     

     

    “อย่ามาเว่อร์ หน้าอย่างพี่ไม่เฮิร์ทหนักหนาอะไรหรอก โดนบอกเลิกมากี่รอบแล้วถามจริง ไม่เห็นจะคบใครนานได้เกินสองเดือนซักคน”

     

     

    ยองแจว่าพลางส่ายหัว มันเป็นความจริงตั้งแต่ที่เขารู้จักกับคนตรงหน้า แจ็คสันเป็นคนที่มีสเน่ห์เหลือร้ายแบบแปลกๆซึ่งเขาว่าสาวๆก็คงจะชอบผู้ชายอารมณ์ประมาณนี้ หน้าตาก็หล่อใช้ได้ การศึกษาก็ดี ฐานะทางบ้านก็ค่อนข้างรวยแถมมีดีกรีที่เป็นถึงนักกีฬาฟันดาบของมหาวิทยาลัยอีก ถึงตัวจะเตี้ยไปหน่อยนะ มันก็ดูโอเคเมื่อเทียบกับสาวๆเวลาพวกเธอไม่ดันใส่ส้นสูง มีอย่างเดียวที่เป็นข้อเสียของคนตรงหน้า ก็คงจะเป็นคบใครได้ไม่เกินเวลาที่เขาพูดไปนั้นแหล่ะ

     

     

    แล้วคนรับกรรมที่ต้องโดนโทรเรียกออกมานั่งฟังเรื่องไร้สาระของแจ็คสันก็ดันต้องเป็นชเวยองแจ แบบชเวยองแจโอนลี่ด้วยนะ ก็เคยแอบคิดว่าพี่มันไม่มีเพื่อนคบรึไงทำไมต้องเป็นเค้า ตั้งแต่ปี1ยันนี้เขาปี3แล้ว นี้ไม่รู้จะเรียกว่าความซวยหรืออะไรเพราะก็เป็นแค่น้องรหัสของเพื่อนสนิทพี่มันเท่านั้น แต่ต้องมารับรู้ทุกอย่างมากกว่าน้องรหัสตัวจริงของพี่มันซะอีก

     

     

    ยองแจอยากจะบ้าตาย

     

     

                “แต่คนนี้ฉันคิดจะจริงจังนะเว้ย” เสียงทุ้มดึงความสนใจจากความคิดให้ยองแจกลับไปสนใจอีกครั้ง และประโยคที่ได้ยินก็ทำเอาเด็กตาเล็กกรอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย พยายามเบนความสนใจจากคนที่ทำหน้าตาเป็นลูกหมาหงอยจอมปลอมแล้วหันไปสั่งชีสเค้กมาอีกชิ้นก่อนจะเอ่ยตอบ

     

     

                “ก็พูดงี้ทุกคน เฮ้อ ถามจริงเถอะนะหวังแจ็คสัน ... พี่ไม่คิดจะแบบว่า จริงจังกับใครซักคนไปนานๆบ้างรึยังไงกัน” คนอายุน้อยกว่าเลิกคิ้วแล้วเอนตัวพิงโซฟาตัวเล็กที่นั่งอยู่มองคนฝั่งตรงข้ามที่กลับมาทำท่าทางสบายๆหลังจากที่ฟังเขาพูดจบ แจ็คสันยักไหล่แล้วทำหน้าครุ่นคิด

     

     

                “ก็อยากจะจริงจัง แต่ไม่รู้ว่ะ มันไม่ใช่ซักคน”

     

     

                ยองแจพยักหน้าหงึกหงักแบบคนเข้าใจก่อนจะหันไปรับจานเค้กที่เขาสั่งไปแล้วตักเข้าปาก ไร้บทสนทนาใดๆอย่างเมื่อหลายนาทีก่อน แต่แจ็คสันที่แอบยิ้มเมื่อเห็นว่าเจ้าเด็กตรงหน้ากำลังจ้วงกินแบบไม่สนใจโลก นอกจากหนังสือวรรณกรรมก็มีแค่ของกินนี้แหล่ะมั้งที่จะล่อยองแจได้ดีที่สุด

     

     

                คนถูกมองเงยหน้าขึ้นแล้วตักชีสเค้กออกเป็นขนาดพอดีคำแล้วยื่นไปจ่อปากคนอายุมากกว่า แล้วแจ็คสันก็กินมันเข้าไปโดยไม่ปฏิเสธ ยองแจมองเล็กน้อยแล้วก็ตักป้อนอีกคำ “แค่นี้พอ เดี๋ยวก็มาบ่นว่าเบิร์นยาก ผมจะหูชาอีก”

     

     

                เจ้าของร่างสมส่วนหัวเราะแล้วเปลี่ยนอิริยาบถกลับมานั่งท้าวคางมองคนตรงหน้าอย่างจริงจังจนกระทั่งยองแจกินหมด แก้มอูมๆ ปากเรียวเล็กน้อยพร้อมกับดวงตาเรียวเล็กนั้นทำให้ยองแจที่ไม่ยิ้มนั้นดูพร้อมเหวี่ยงทุกเวลา แต่เขากลับมองว่ามันน่ารักแล้วก็น่ามอง ยิ่งผมสีน้ำเงินเข้มที่เจ้าตัวพึ่งไปทำมายิ่งทำให้น้องรหัสเพื่อนดูหน้าเด็กขึ้นเป็นกอง

     

     

                ยิ่งมองแล้วมันยิ่ง ....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                “ถ้าได้อย่างนายซักคนมาเป็นแฟน ฉันก็พร้อมจะจริงจังไปทั้งชีวิตอยู่หรอก”

     

     

     

             

     

     

     

     

     

              “สนใจลองมาคบกันดูปะล่ะยองแจ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                เคร้ง ...

     

     

                ชิบหาย – หวังแจ็คสันดันเผลอหลุดปากสิ่งที่กำลังคิดอยู่ในหัวออกไปเสียงดังจนยองแจปล่อยช้อนเค้กหลุดออกจากมือ ใบหน้าเหวอพอๆกับที่เขาก็รู้สึกว่าตัวเองก็ทำหน้าตกใจเช่นกัน แล้วทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อยองแจรีบหันไปหยิบหนังสือเข้ากระเป๋าแล้วลุกขึ้นเต็มความสูง

     

     

                “ปากแบบนี้ก็จ่ายทั้งหมดให้ด้วยแล้วกัน ไปแล้วมีสอบพรุ่งนี้ จะไปอ่านหนังสือ”

     

     

                เสียงนุ่มเอ่ยบอกเขาก่อนที่เจ้าตัวจะรีบเดินจ้ำออกไปโดยไม่รอฟังอะไรต่อทั้งนั้น แจ็คสันที่ยังคงงงกับความเร็วแสงของยองแจหันไปมองคู่กรณีที่เดินออกไปนอกร้านแล้วผ่านทางกระจกใส ก่อนจะหัวเราะกับความปากไวของตัวเอง แต่ดีนะที่เขาดันตาไวเห็นแก้มอูมนั้นขึ้นสีระเรื่อได้ทันพอดี

     

               

                “ปรกติฉันก็จ่ายอยู่แล้วไหมเจ้าเด็กต๊องเอ๊ย”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    JINGLE BELL ☃

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ชเวยองแจหัวใจโคตรจะเต้นแรงเหมือนกระดิ่งที่โดนสั่น คือมันไม่ใช่สั่นแบบกรุ้งกริ้งพอให้มีเสียงนะ แต่มันสั่นแบบเหมือนโดนเขย่าด้วยแรงหลายล้านริกเตอร์จนวัดไม่ได้หลังจากที่ได้ยินประโยคแบบนั้นจากไอ้รุ่นพี่คนสนิท

     

               

                เรื่องอะไรมาใช้ให้พูดแบบนั้นกับเขาวะ! ヽ(`Д´)ノ

     

     

    .           คนตัวเล็กทิ้งตัวลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานทันทีที่รีบสปีดมาให้ถึงหอพัก นั่งสงบสติตัวเองอยู่นานกับเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้น คือถ้าเป็นคนอื่นโดนล้อโดนแกล้งแบบนี้มันก็โอเคอยู่หรอก แต่เขาไม่โอเคเลยซักนิดเพราะถ้าขืนอยู่ต่อไปเขาต้องเผลอแสดงอาการอะไรออกไปให้ไอ้พี่มันเห็นแน่ๆ

     

               

                แค่อยู่ด้วยกันทุกวันชเวยองแจก็แทบจะเก็บความรู้สึกต่อไปไม่ไหวอยู่แล้ว

     

     

                ... ความรู้สึกที่ว่าเขาชอบไอ้พี่นั้นน่ะ

     

               

                ถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้หายปั่นป่วนก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินเสียงข้อความจากโปรแกรมแชทอย่างคาทกดังขึ้น มือเรียวเลื่อนไปหยิบมาสไลด์ปลดล็อคอย่างเร็วคิดว่าคงเป็นแบมแบมเพื่อนสนิทน้องรหัสไอ้พี่ตัวปัญหาส่งมาบอกเวลานัดติวหนังสือ เพราะยองแจเป็นพวกที่ชอบตั้งค่าให้แจ้งเตือนไม่บอกชื่อคนส่งเพื่อความระทึกในการเปิดอ่าน

     

                แต่ปรากฏว่ามันดันเป็นคนที่ยังวนเวียนอยู่ในหัวยองแจอยู่ตอนนี้ต่างหากล่ะ!

     

     

     

    jacksonwang852jy : ตั้งใจติวหนังสือนะเว้ย ของกินแขวนไว้หน้าห้อง

    jacksonwang852jy : ฝากให้แบมแบมด้วย เจอกัน

     

     

                แล้วเจ้าของห้องก็รีบพุ่งไปที่ประตูแล้วเปิดมันออกอย่างรวดเร็ว ถุงของกินที่ว่าถูกแขวนเอาไว้ที่กลอนประตูเป็นจังหวะที่หางตาเขาเห็นประตูลิฟต์ที่เคลื่อนปิดพอดี หัวใจที่เต้นปรกติของยองแจกลับมาเต้นรัวอีกครั้งก่อนเจ้าตัวจะสูดหายใจเข้าลึกๆ

     

                ตึ้ง!

     

                ยองแจก้มมองโปรแกรมแชทที่เขายังไม่ได้ปิดออกจากหน้าจอสนทนาของแจ็คสันแล้วเบิกตากว้าง

     

     

     

     

    jacksonwang852jy : ที่พูดที่คาเฟ่น่ะ เก็บไปพิจารณาด้วยนะเว้ยยองแจ J

     

     

     

     

               

                โอ้ยยยยยยยยยยยยยย พิจารณาบ้าบออะไรเล่า ไอ้บ้าหวังแจ็คสันนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                JINGLE BELL ☃

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                เพราะทั้งอาทิตย์ยองแจพยายามเบนความสนใจเรื่องไร้สาระบางเรื่องให้ออกไปจากหัวเพื่อเตรียมพร้อมกับข้อสอบเก็บคะแนนมหาโหดที่ยากยิ่งกว่ามิดเทอมจนแทบไม่มีเวลาได้ออกไปเจอใครเลยนอกจากเพื่อนร่วมชะตาชีวิตอย่างแบมแบม

     

               

                แต่เจ้ากรรมนายเวรของเขาอย่างหวังแจ็คสันก็เหมือนจะรู้ทันไปซะหมดเพราะทุกเย็นก็จะอาสามาจอดรถรอรับด้วยความเคยชิน ก็ไม่รู้ว่าโปรเจคที่ทำมันง่ายหรือเพราะโยนให้พี่มาร์คพี่รหัสของเขาทำรึเปล่าถึงมีเวลาว่างขนาดนี้

     

     

                ยองแจที่พยายามจะหาข้ออ้างนู่นนี้เพื่อหลบหลีกไม่อยากคุยด้วยเลยจำเป็นต้องพยายามทำตัวให้ปรกติเหมือนเดิมทุกประการ แต่คนที่ดูท่าทางจะสติเบลอไปแล้วคือหวังแจ็คสันต่างหาก จากที่พาไปกินข้าวไปเดินห้างเป็นเพื่อนมันเริ่มไม่เหมือนเดิม จะมีเหมือนเดิมบ้างที่แค่ที่ยังตีกันอยู่ตลอดในแทบทุกเรื่อง มีหลายครั้งที่ยองแจเห็นว่าไอ้พี่บ้านี้มันแอบมองเขาแล้วอมยิ้มกรุ้มกริ้มเหมือนมันตอนมองสาว ที่พีคสุดก็ดูจะเป็นตอนที่มันจับมือเขาตลอดเวลาเดินไปไหนมาไหนเนี่ยแหล่ะ

     

               

                หวังแจ็คสันทำแบบนี้นี่โคตรจะทำร้ายหัวใจชเวยองแจเลยนะครับ!

     

     

             

              “ถามจริง ไม่แปลกๆเหรอมาจับมือผมเดินไปไหนมาไหนเนี่ย ... แล้วเหนื่อยปะ เข็นรถมือเดียว”

     

     

    จู่ๆก็เอ่ยถามสิ่งที่อยากรู้มาตลอดหลังจากที่แจ็คสันลากเขามาเดินซุxเปอร์มาร์เก็ตแถวหอพัก โดยที่เจ้าตัวอ้างว่าของใช้หมดเลยอยากได้คนมาช่วยเลือก – โอเคก็พอเข้าใจ ทุกเรื่องของหวังแจ็คสันนี้ต้องมียองแจเกี่ยวอยู่แล้ว แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมต้องจับมือไว้ตลอดแล้วเข็นรถเข็นด้วยมือข้างเดียวแบบนั้นด้วย

     

               

                “ก็ไม่หนิ”

     

     

                “มีแผนอะไรมาแกล้งผมอีก”

     

     

                “มองโลกในแง่ร้ายเกินไปแล้ว ... ยี่ห้อไหน นี้หรือนี้?” ไม่ได้ตอบคำถามยองแจเลยซักนิดทั้งยังชี้ให้อีกคนเลือกแชมพูให้ คนอายุน้อยกว่าถอนหายใจแล้วชี้ไปแบบส่งๆแต่พี่บ้ามันก็ดันหยิบขวดที่เขาไม่เลือกโยนลงรถเข็น ยองแจมองตามแล้วทำหน้าหงิกใส่

     

               

                “แล้วถามเพื่อ”

     

     

                “จะได้รู้ว่านายใช้อะไรแล้วพี่จะได้ไม่ใช้ไง เพราะคนหล่อต้องแตกต่าง” คนฟังถึงกับกรอกตาไปมาก่อนจะถอนหายใจเฮอะใส่ ทำยังไงคนตัวเล็กกว่าก็ไม่มีทางรู้เจตนาที่แท้จริงของรุ่นพี่หรอกว่าทั้งหมดมันเป็นเพราะอะไร ยองแจยืนมองร่างสมส่วนที่เดินนำหน้าเขาไปแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากมือเขา อดไม่ได้ที่จะลอบยิ้มออกมาเล็กน้อย

     

     

    บางทีก็แอบคิดไปว่าให้มันเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆก็คงจะดีกว่าที่เขาจะแย้งอะไรให้มันมากความ – เถอะนา ขอเก็บเกี่ยวความสุขตรงนี้อีกนิดก่อนที่พี่มันจะหาสาวคนใหม่คบได้ก็แล้วกัน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    JINGLE BELL ☃

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                มันผ่านมาสองเดือนกว่าแล้วที่แจ็คสันคิดว่าความสัมพันธ์ของเขาและน้องรหัสเพื่อนก้าวหน้าไปในทิศทางที่มันดูดี ถึงมันจะเป็นอะไรที่ไม่มีชื่อเรียกหรือเขาอาจจะคิดไปเองแต่มันก็ทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก – มันตั้งนานแล้วที่เขาพยายามเข้าใกล้เจ้าเด็กหน้าเหวี่ยงน้องรหัสของเพื่อนสนิทจนกระทั่งมันแทบจะโอนย้ายยองแจมาให้เป็นน้องรหัสของเขาแทน และกว่าจะได้รับความเชื่อใจไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยจากเจ้าเด็กนี้ ที่ยังควงสาวเล่นไปไหนมาไหนด้วยก็แค่อยากจะมีเรื่องมาชวนเล่าให้ยองแจฟัง

     

    ก็เขามันพวกชวนคุยไม่ค่อยยเก่งนี้หว่า เนี่ยนะแจ็คสันน่ะแอบวางแผนหลายเรื่องเงียบๆมานานแล้วแหล่ะ – ช่วยไม่ได้ เรื่องนี้มันเป็นความลับของเขาคนเดียวแหล่ะที่สนใจยองแจตั้งแต่แรกเห็น

     

               

                แต่ตอนแรกที่ว่าจะเข้าไปหาเด็กนั้นที่หอ กลับต้องมาติดแหง็กอยู่หน้าคณะเพราะเขาโดนแบมแบมเรียกมาอยู่เป็นเพื่อนก่อนมาร์คจะมารับหลังจากที่ลงมาจากตึกแล้วเห็นเจ้าน้องรหัสตัวเล็กนั่งอ่านวรรณกรรมอยู่คนเดียว คือก็เหมาะกับการเป็นเพื่อนของชเวยองแจอยู่หรอกถ้าจะเป็นแบบนี้ แต่จะว่าไปก็เป็นโอกาสที่ดีที่เขาจะได้ขอคำแนะนำหลังจากที่คิดไตร่ตรองมาดีแล้วว่าควรจะทำอะไรให้เป็นรูปร่างซักทีกับเรื่องของยองแจ

     

               

                “พี่ว่าจะขอคบคนๆนึงว่ะ”

     

     

                “ใครอีกแล้วอ่ะ สาวคณะไหน หน้าตาเป็นไง แบมรู้จักไหม – เออ ว่าแต่มาถามแบมทำไมเนี่ย ไม่ไปถามไอ้ยองแจมันอ่ะ แล้วนี้จะไปขอเขาคบไม่กลัวไอ้ยองแจมันเสียใจเหรอ”

     

     

                “เสียใจ? เสียใจทำไม ก็จะไปขอคบมันเนี่ย”

     

     

                “หืม? อ้าวนี้ก็นึกว่าคบกันไปแล้วนะ เลยบอกให้ไปบอกมันก่อนไง”

     

     

                “จะบ้าเหรอจะไปคบตอนไหนวะ นี้ยังไม่มั่นใจเลยว่ายองแจจะชอบพี่ไหม”

     

     

                แบมแบมขมวดคิ้วทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบ

     

     

                “เอ๊า? -_- เดี๋ยวนะ ... นี้พี่ไม่รู้หรือแกล้งโง่ครับเนี่ย ทำไมไม่เก่งสู้พี่มาร์คของแบมบ้าง” น้องเทคสุดที่รักของหวังแจ็คสันเอ่ยพร้อมกับเงยหน้าจากหนังสือมามองด้วยแววตางงงวย มือเล็กฉวยหยิบแก้วโกโก้ของอีกคนมาดูดเข้าปากแล้ววางลงท่ามกลางสายตาอาฆาตของเขา และแน่นอน มันไม่สะท้านหรอกไอ้หนูเนี่ย

     

     

                เฮ้ยนี้ถ้าไม่ติดว่าเป็นน้องเทคพี่เตะปลิวนะครับแบมแบม ถถถถถถถถ

     

     

                “จะให้พี่รู้เรื่องไรละเออ โว๊ะ”

     

     

                “ท่าจะไม่รู้จริงๆ ... เอาๆ บอกให้ก็ได้ ก็มันชอบพี่อยู่แล้วไงล่ะ ไม่งั้นมันไม่ทนยอมให้พี่โทรหาตลอด ลากไปไหนมาไหนแบบนี้หรอก เออแล้วแบบมันก็ชอบพี่มากไง แต่คือเป็นคนดีเว่อร์อ่ะ มันเคยบอกแบมว่า เนี่ยมันชอบพี่แบบไม่หวังผลหรอก เพราะมันอยากเห็นพี่มีความสุข ได้อยู่ด้วยก็ดีใจแล้ว แบบเนี่ยอ่ะ เคปะ?-_- คนไรหน้าตาดีซะเปล่า โง่จริง มาเป็นพี่รหัสผมได้ไงหลายปี จนจะจบอยู่แล้วแต่ไม่รู้เรื่องไรเล๊ยยยยยย”

     

     

    แบมแบมรัวใส่คนตรงหน้าด้วยประโยคยาวๆเหมือนแร็พLTEจนอดคิดไม่ได้ว่านี้สกิลภาษาเกาหลีเด็กไทยไปไกลขนาดนี้แล้วรึอย่างไร แล้วพอพูดเสร็จก็ก้มลงไปอ่านหนังสือต่อ แต่มือเล็กกลับยังไม่ปล่อยจากแก้วน้ำของคนอายุมากกว่าเลย แจ็คสันชะงักกับความจริงที่ออกมาจากปากน้องรหัส – ความจริงที่ว่ายองแจชอบเขาทำให้หัวใจที่กำลังสับสนมันพองโตขึ้นมาอย่างประหลาด

     

     

                “อ้าวแล้วนี้จะไปไหนเนี่ย” ร่างสมส่วนที่ยืนขึ้นเต็มความสูงยักคิ้วให้น้องรหัสสองสามทีแล้วรีบออกวิ่งตรงไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่ไม่ไกลปล่อยให้แบมแบมขมวดคิ้วมองตามแล้วถอนหายใจ หลังจากที่ย้ายตัวเองมาอยู่บนเบาะคนขับ แจ็คสันก็หยิบโทรศัพท์เปิดโปรแกรมแชทแล้วพิมพ์ข้อความลงไปเป็นประโยคสั้นๆได้ใจความในกล่องแชทของชเวยองแจ

     

     

     

     

                jacksonwang852jy : อยากกินเค้ก ไปกินเป็นเพื่อนหน่อย คาเฟ่เดิมนะ

    jacksonwang852jy : ใส่เสื้อหนาๆนะ เป็นห่วง J

     

     

    cwycyjcyj : เลี้ยงใช่ไหม

    cwycyjcyj : เออๆ จะใส่ไปซักสามชั้นเลย

     

     

     

                หวังแจ็คสันยิ้มกับข้อความที่ตอบกลับมาก่อนจะรีบบึ่งรถออกไปยังร้านกาแฟร้านประจำทันที

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    JINGLE BELL ☃

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                “ตกลงเรียกมานั่งดูพี่ถอนหายใจอีกแล้ว?”

     

     

                ยองแจหรอกตาไปมาแล้วทำหน้าเบื่อโลกพลางหยิบแก้วอเมริกาโน่ร้อนของตัวเองขึ้นดื่ม นี้เขาโดนเรียกมานั่งมองพี่มันถอนหายใจรอบที่ร้อยอีกครั้ง แล้วนี้หนังสือที่พกมาก็จะจบเล่มอยู่แล้ว ถ้าพี่มันไม่ยอมเปิดปากพูดกับเขาอีกซัก5นาที บอกได้เลยว่าชเวยองแจจะลุกขึ้นกลับหอทันที

     

               

                แล้วก็ยังเงียบอยู่อย่างนั้นจนยองแจกระชับเสื้อโค้ทที่ใส่มาให้แน่นยิ่งขึ้น เพราะนี้เข้าช่วงฤดูหนาวแล้ว คนที่เป็นภูมิแพ้แบบเขาเนี่ยต้องดูแลตัวเองดีๆก่อนจะไม่สบาย ถึงร้านจะเปิดฮีตเตอร์แต่อุณหภูมิที่แทบติดลบแบบนี้ก็ยังทะลุกระจกกั้นและความอุ่นเข้ามาได้อยู่ดี

     

     

    “ไม่พูดใช่ไหม กลับละนะ” ทำท่าจะลุกไปจริงๆถ้าไม่ติดที่ว่าแจ็คสันยื่นมือมาคว้าข้อมือเขาเอาไว้ก่อน ยองแจยอมนั่งลงดีๆแล้วเลิกคิ้วรอฟังสิ่งที่อีกคนกำลังจะพูด “เดี๋ยวสิกำลังรออยู่ อ่านหนังสือไปก่อนขอเวลาอีก 3 นาที”

     

     

    “รออะไร?”

     

     

    แล้วพี่มันก็เงียบไปอีก – โอเคโอเค ชเวยองแจจะรอตามก็ได้ ตัดสินใจหยิบหนังสือนิยายที่คั่นบทสุดท้ายเอาไว้ขึ้นอ่านเงียบๆพร้อมจับเวลาในใจไปด้วย

     

               

    “ยองแจ”

     

     

    “อะไร?”

     

     

    “ยองแจ...”

     

     

    “อะไร?”

     

     

    “ชเวยองแจ”

     

     

    “เรียกทำไมเนี่ย?!” แล้วก็โวยวายขึ้นมองหน้าคนที่บอกให้เขาอ่านหนังสือรอ หวังแจ็คสันยิ้มกว้างใส่คนตรงหน้าแล้วหันออกไปมองนอกกระจกของร้านกาแฟ “มองดูข้างนอกดิ” ยองแจที่กำลังหงุดหงิดถอนหายใจก่อนจะเบนสายตามองตามอีกคนบอก

     

     

    หิมะแรกของฤดูหนาวกำลังโปรยปรายลงมาท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่และเสียงอื้ออึงของคนในร้านที่กำลังตื่นเต้นกับมันนั้นทำให้หัวใจของเขาเต้นรัวเหมือนกระดิ่งที่โดนสั่นอีกครั้ง พักหลังมันโดนสั่นมากขึ้นกว่าเดิมแต่ทุกครั้งไม่เท่าครั้งนี้

     

     

    สายตาของคนทั้งคู่ยังคงมองออกไปด้านนอกหน้าตา ไม่ได้หันมาสบตากัน มีเพียงความอบอุ่นที่มือที่โดนกอบกุมเมื่อไหร่ไม่รู้ที่ทำให้ยองแจรู้ว่าอีกฝ่ายยังคงให้ความสนใจกับเขา

     

     

    ก่อนที่เสียงทุ้มนุ่มเป็นเอกลักษณ์ของหวังแจ็คสันจะแทรกผ่านทุกเสียงในร้าน ราวกับจงใจให้เขาได้ยินเพียงแค่คนเดียว

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “นายน่ะ – เห็นหิมะแรกไหม”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     










     

     

    JINGLE BELL ☃







     

    ทุกคนรู้จักความหมายของประโยคสุดท้ายไหมคะ

    มีบางคนที่รู้แล้ว แล้วก็อาจจะมีบางคนไม่รู้

    คือว่า มันเป็นเรื่องโรแมนติกเล็กๆน้อยๆของคนเกาหลีค่ะ #ประเทศอื่นใช้ไหมไม่รู้รู้แค่ที่เกาหลีใช้ 55555

    ถ้าเกิดคุณกับคนที่คุณชอบเนี่ยได้ดูหิมะแรกด้วยกัน

    แล้วเขาเกิดถามคุณว่า “เห็นหิมะแรกนั้นไหม” = “คบกับฉันไหม”

    ประมาณนั้นแหล่ะค่ะ ถ้าคุณตอบว่าเห็น ก็แสดงว่าตกลง ถ้าไม่เห็นก็คือปฏิเสธ ถถถถถถ

    ทุกคนคงเดาได้เนอะว่ายองแจจะตอบว่าไง

     

    มันป่วงๆหน่อยด้วยความรีบและฟินจากไอจีค่ะ ฟฟฟฟฟฟ

    ฝากบทความนี้ด้วยนะคะ แล้วก็ฝากฟิคทุกเรื่องของไรท์กับพี่สาวทั้งสองคนด้วย

    รักค่ะชุ้บ

     

    #ทอร์คยาวไปไหมน่ะ ...

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×