ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ข้าวผัด
ณ ห้องคหกรรม - โรงเรียนมัธยม St.Sj
“ สวัสดีนักเรียนทุกคน วันนี้เราจะมาเรียนทำอาหารกัน เริ่มจากอาหารอย่างง่าย ก็คือข้าวผัดนั่นเอง วัตถุดิบที่เราต้องใช้ก็มีเนื้อสัตว์ หอมใหญ่และ...บลาๆ ”
เสียงเจื้อยแจ้วจากชายร่างเล็กที่ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่หน้าชั้นเรียนท่ามกลางหมู่นักเรียนชายหญิง อาจารย์คิมฮีชอล อาจารย์ประจำวิชาคหกรรม มือบางหยิบจับอุปกรณ์ต่างๆอย่างคล่องแคล่ว
“ แต่ก่อนอื่น ครูจะให้พวกเธอจับคู่กันทำอาหาร ทั้งสองคนต้องช่วยกันทำ อาหารให้เสร็จก่อนหมดคาบแล้วเอามาส่งครู และเพื่อป้องกันพวกเธอทะเลาะกัน เดี๋ยวครูจะจับฉลากให้เลยแล้วกันนะ ”
จบคำ เสียงโวยของเหล่านักเรียนก็ดังขึ้นอย่างไม่พอใจ โตแล้วนะ ควรจะต้องเลือกบัดดี้เองสิ
“ โช๊ะ!!!! ”
เสียงปังตออันเขื่องในมืออาจารย์ฮีชอลที่อยู่ดีๆก็ย้ายที่ไปปักเด่อยู่กลางเขียงผู้เคราะห์ร้ายดังขึ้น เสียงโวยวายเมื่อครู่เงียบกริบลงทันตา
“ มีใครมีปัญหาอะไรอีกมั๊ย ” ตาคมกวาดมองหน้านักเรียนที่ยืนตาปริบๆ กลืนน้ำลายดังเอื้อก พลางส่ายหน้ากันจนคอแทบหลุด ถ้ามีปัญหาแล้วตูจะโดนสับมั๊ยเนี่ย
“ งั้นครูจะประกาศว่าใครคู่กับใคร ลีดงเฮกับคิมเรียวอุค ลีฮยอกแจกับชเวซีวอน โจวคยูฮยอนกับลีซองมิน และ......บลา ๆ ”
“ ทำไมฉันต้องไปคู่กับนายนั่นด้วยอ่ะไม่ยุติธรรมเลย ” เสียงหวานบ่นงึมงำอย่างขัดใจที่ตนต้องไปจับคู่กับคนที่เกลียด ลีซองมิน ทำไมนายถึงซวยแบบนี้หนอ
“ เอาน่าซองมิน คิดซะว่าช่วยคน นายก็รู้ว่านายโจวคยูฮยอนน่ะเก่งก็แต่บาสฯนั่นแหล่ะแต่เรื่องอื่นไม่ได้เรื่องสักอย่าง ถือว่าทำบุญทำทานไปแล้วกันนะ ”
ดงเฮแสดงความคิดเห็นพลางตบบ่าปลอบเพื่อน ใครๆก็รู้ว่าโจวคยูฮยอนกับลีซองมินไม่กินเส้นกันขนาดหนัก คนนึงก็มั่นใจในความมาดแมนเกินร้อยของตัวเอง คนนึงก็ไม่ยอมให้ใครดูถูก อยู่ใกล้กันทีไร กัดกันยังกะหมา
“ หืม...อย่างนายนั่นน่ะเหรอ ฉันว่าคงทำบุญไม่ขึ้นอ่ะด๊อง ” ซองมินตอบ สายตาจับจ้องไปทางคนร่างสูงที่ตอนนี้เหมือนจะเริ่มรู้ตัวว่าโดนนินทา
“ อะไรลีซองมิน มองหน้าฉันอย่างนั้นมันหมายความว่าไงฮะ ” ร่างสูงสาวเท้ามาใกล้ รัศมีความหล่อแผ่กระจาย แต่มันใช้ไม่ได้ผลกับกลุ่มของซองมิน
“ ร้อนตัว ” ซองมินเอ่ยลอยหน้าลอยตา อาการแบบนี้มันทำให้คยูฮยอนอยากบีบคอเล็กๆนั่นซะจริง
“ เออ อย่าให้รู้ละกันว่านินทาอะไรฉัน พ่อจะฆ่าหมกส้วมยกแก็งค์เลยคอยดู ” ดวงตาคมกวาดมองใบหน้าหวานทั้งสี่ทิ้งท้ายก่อนเดินจากไป
“ กลัวตายล่ะ ” ซองมินแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ร่างสูงที่เดินห่างออกไป แล้วหันมาคุยกับเพื่อนๆต่อ
“ วันนี้พวกนายไปทำงานกันหรือเปล่า ” หันไปถามเรียวอุคและดงเฮ
เป็นที่รู้กันเฉพาะในกลุ่มว่าดงเฮและเรียวอุคทำงานอยู่ที่ ‘เฮเว่นคลับ’ โฮสต์คลับที่ค่าเข้าแพงลิ่ว เรียกได้ว่าเป็นคลับหรูหราที่เข้าได้เฉพาะคนรวยเท่านั้น อีกทั้งกฏของโฮสต์ที่นี่ก็ไม่เหมือนที่อื่น คือห้ามไปต่อกับลูกค้าไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น แต่ก็ยังมีคนที่เต็มใจเข้ามาใช้บริการ ดงเฮเป็นนักร้องประจำคลับนี้ เสียงที่นุ่มนวลช่วยละลายความเครียดได้อย่างดี จึงทำให้ดงเฮมีลูกค้าประจำมากมาย ประเภทไม่ได้นั่งคุยขอแค่ได้ฟังเสียงก็มีความสุขแล้ว ส่วนเรียวอุคก็ถือเป็นตัวยืนหลักของคลับนี้ ถึงจะเครียดมามากขนาดไหน แค่เห็นรอยยิ้มของเรียวอุคก็หายเครียดไปหมด แต่มันน่าตื่นเต้นตรงที่ว่าโฮสต์ทุกคนต้องเป็นผู้หญิง พูดง่ายๆก็คือ ทั้งดงเฮและเรียวอุคต้องแต่งเป็นผู้หญิงนั่นเอง แต่ก็นะ หน้าหวานๆ ตัวบางๆแบบนั้น ถึงไม่แต่งก็มีคนทักว่าเป็นผู้หญิงออกบ่อยไป
“ ไปสิ ทำไม นายเปลี่ยนใจจะมาทำงานกับพวกฉันแล้วเหรอ ” เรียวอุคเอ่ยปากถามขึ้นมาบ้าง คำถามนั้นทำให้ซองมินส่ายหัวทันที นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรียวอุคชวนซองมินกับฮยอกแจไปทำงานที่คลับ ก็แหม ซองมินน่ะน่ารักจะตาย ส่วนฮยอกแจก็สวยใช่ย่อย นี่ถ้าจับมาแต่งเป็นผู้หญิงคงสวยน่าดู
“ ฉันจะไป ถ้าฮยอกแจยอมไปด้วย ” ซองมินตอบ เหลือบไปมองฮยอกแจที่ถลึงตามาทางตัวเองแล้วหัวเราะคิกคัก ถ้าลีฮยอกแจ คนที่ขึ้นชื่อว่าหน้าหวานสุดๆ รูปร่างบอบบางสุดๆ นิสัยก็อันธพาลสุดๆแต่งตัวเป็นผู้หญิง มันจะเป็นไงหนอ... แค่คิดก็ตลกแล้ว
“ จะบ้าเหรอซองมิน หน้าแบบฉันเนี่ยนะจะเป็นโฮสต์ สงสารลูกค้าเหอะ ” ฮยอกแจว่าแล้วหยิกแก้มกลมๆของเพื่อนร่างอวบอย่างหมั่นเขี้ยว ทว่าอยู่ก็มีรังสีอะไรบางอย่างที่ชวนขนหัวลุก พลุ่งพล่านขึ้นที่ด้านหลังซองมิน
“ แต่ตอนนี้ฉันว่าเราเลิกคุยเรื่องนี้แล้วรีบทำไปข้าวผัดให้เสร็จดีกว่านะ ” ฮยอกแจตัดบท ดูดิ อาจารย์ฮีชอลมองมาทางนี้ตั้งนานแล้ว ขืนยังเม้าท์ต่อได้โดนมะเหงกแน่ ทั้งสี่จึงรีบแยกย้ายกันโดยด่วนชนิดที่ว่าสปีดเร็วกว่านรก
“ มัวแต่ทำบ้าอะไรอยู่ ฉันเตรียมอาหารจะเสร็จแล้วนะ ” พอเดินมาถึงก็โดนกระแนะกระแหนทันที ปากหมาแบบนี้จะมีใครซะอีกล่ะ โจวคยูฮยอนเจ้าเดิม
“ ก็มาแล้วนี่ไง อย่าพูดมากน่า ” คนร่างเล็กว่ากลับทันที ทำเอาคยูฮยอนเดือด
“ นี่เธอว่าฉันพูดมากเหรอ ” คยูฮยอนชี้หน้าร่างเล็กอย่างโมโห แต่คนอย่างลีซองมินกลัวซะที่ไหน มือบางปัดมือนั้นออกอย่างแรง
“ ก็ว่านายน่ะสิ อยู่กันสองคน ถ้าไม่ว่านายแล้วจะว่าใคร แล้วอีกอย่าง อย่าเรียกฉันว่าเธอ เพราะฉันไม่ใช่ผู้หญิง ” ซองมินถลึงตาใส่ เรื่องอะไรมาเรียกว่าเธอ ออกจะแมนเต็มร้อยขนาดนี้ นายนี่มันตาบอดหรือตาถั่วกันแน่วะ(ฉันว่ากี้มันตาดีสุดๆเลยต่างหาก :ไรท์เตอร์)
“ หึ ชอบเข้าครัว วันๆเอาแต่เรียน เล่นกีฬาก็ไม่เป็นสักอย่าง ผู้ชายแท้ๆที่ไหนเขาเป็นแบบนี้กัน นี่มันตุ๊ดชัดๆ งั้นจะแปลกอะไรที่ฉันจะใช้สรรพนามว่าเธอ ก็เธอมันประเภทตัวเป็นชายแต่ใจเป็นหญิง พวกเธอทั้งหมดนั่นแหล่ะ ” คำว่า‘พวกเธอทั้งหมด’ทำให้ซองมินควันออกหู หนอย...ว่าเค้าคนเดียวไม่พอ ยังมาลามปามถึงเพื่อนๆของเค้าอีก แบบนี้ยอมไม่ได้แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงๆหนึ่งก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน
“ มีอะไรหรือเปล่าซองมิน ” ฮยอกแจนั่นเอง เค้ามองอยู่ตั้งแต่ซองมินเดินกลับไปหาคยูฮยอน ดูจากสีหน้าท่าทางแล้ว นายโจวคยูฮยอนคงกวนประสาทอะไรเพื่อนเค้าแน่นอน ซองมินถึงทำหน้าเหมือนจะฆ่าคนแบบนั้น เห็นท่าจะไม่ดี ลีฮยอกแจคนนี้ต้องเข้าไปเจ๋อ เอ๊ย! เข้าไปดูซะหน่อย
“ ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ทำอะไรหรอกน่า เผอิญฉันไม่ชอบรังแกพวกผู้หญิง ” โอ้โห ! จี๊ดเลย จี๊ดขึ้นสมองเลยครับพี่น้อง แบบนี้ลีฮยอกแจยอมไม่ได้
“ แหม สุภาพบุรุษจัง แบบนี้ต้องให้รางวัล มาใกล้ๆนี่สิ ” ฮยอกแจกระดิกนิ้วเรียกยิกๆ ท่าทางเจ้าเล่ห์ชอบกล คยูฮยอนมองอย่างไม่ไว้ใจ
“ เธอจะทำไม? ”
“ ก็ฉันจะได้เอาไนกี้คู่งามของฉันไปประทับบนหน้านายได้ถนัดๆไง ” ว่าแล้วก็เตรียมกระโดดถีบคนปากดี แต่เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นซะก่อน
“ เอาล่ะ เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง ใครยังไม่เสร็จก็รีบๆลงมือ อย่ามัวแต่คุยเล่นกันอยู่ ” อาจารย์ฮีชอลนั่นเอง ประโยคที่พูดเหมือนจะว่าสามคนกำลังยืนอู้อยู่ ฮยอกแจจึงเดินกลับไปแต่ไม่วายหันมาเขวี้ยงค้อนให้คยูฮยอน ส่วนคนที่โดนค้อนก็ใช่จะยอม ทำหน้ากวนประสาทใส่ซะงั้น
ซองมินกับคยูฮยอนเริ่มลงมือทำข้าวผัด คนร่างเล็กทำโน่นทำนี่อย่างเชี่ยวชาญ ตรงกันข้ามกับอีกคนที่เงอะงะ ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนมองตาปริบๆ แล้วจะไม่ให้หาว่าเป็นตุ๊ดได้ไง คล่องแคล่วกว่าพวกผู้หญิงซะอีก จะว่าไปนายนี่ก็หน้าหวานเหมือนผู้หญิงจริงๆนั่นแหล่ะ ถึงจะชอบใส่แว่นหนาเตอะแต่ก็บดบังเค้าโครงหน้าแบบสตรีไม่มิดอยู่ดี จมูกโด่งเชิดรั้น ปากก็บางนิดเดียวแถมยังเป็นสีชมพูสดอีกต่างหาก คยูฮยอนลอบเลียริมฝีปากตัวเองอย่าลืมตัว
“ นี่ หยิบหอมใหญ่ให้หน่อยสิ ” อยู่ๆคนถูกแอบมองอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมา ทำเอาคนแอบมองทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ทำหน้าปุเลี่ยนๆ ซองมินมองคนตรงหน้าที่ยังยืนนิ่งอยู่อย่างขัดใจ
“ เอ้า ยืนบื้ออยู่ได้ ฉันบอกให้หยิบหอมใหญ่มาไง ” โห นั่นปากเหรอนั่น ความคิดที่อยู่ในใจเมื่อครู่สลายหายวับ ชิ คนอุตส่าห์ชม แล้วทำไมเราจะไปชมนายนั่นด้วยวะ เพี้ยนไปแล้วแหงๆ
“ อ่ะ อันนี้ใช่มั๊ย? ” ยื่นจานใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยหัวหอมสีขาว มือบางรับมาแล้วทำท่าจะเทลงไปทั้งจานมือหนารีบคว้ามือบางไว้ทันที
“ เฮ้ย จะใส่หมดนั่นเลยเหรอ ” ซองมินจ้องมือหนาที่ทาบทับมือตัวเอง ดูเหมือนเจ้าของมือจะรู้ตัว รีบชักมือกลับทันที
“ ใส่นิดเดียวก็พอ ”
“ ทำไมอ่ะ ” ซองมินถามอย่างสงสัย ใส่นิดเดียวมันจะไปอร่อยได้ยังไงกัน
“ ก็...คือ...เอ่อ... ” ดวงตากลมใสจับจ้องมาที่เขาอย่างไม่เข้าใจ เล่นเอาคยูฮยอนพูดไม่ออกเลยทีเดียว ขืนบอกไปว่าไม่ชอบกินหัวหอมล่ะก็เสียฟอร์มแย่เลย เอาไงดี เอาไงดี
“ ก็... อ๊ะ!! ” ทันใดนั้นมือหนาก็แย่งเอาจานหัวหอมมาจากร่างบาง ก่อนจะปล่อยมืออย่างจงใจ
“ เพล้ง!! ”
จานใบโตที่บรรจุหัวหอมจนเต็มร่วงลงบนพื้น ทำให้หัวหอมชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจายเลอะเทอะทั่วพื้น
จานใบโตที่บรรจุหัวหอมจนเต็มร่วงลงบนพื้น ทำให้หัวหอมชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจายเลอะเทอะทั่วพื้น
“ โอ๊ะ! โทษที พอดีว่ามันหลุดมือน่ะ ” คยูฮยอนแกล้งตกใจ มือหนายกทาบบนอกของตัวเองอย่างเสแสร้ง
“ เฮ้ย นายนี่มัน...แล้วจะเอาอะไรใส่ล่ะทีนี้ ” ซองมินโวยใส่คนซุ่มซ่าม จะหมดเวลาแล้วด้วย โธ่!คะแนนครั้งนี้ต้องหดหายแน่เลย
“ เอาน่า...ไม่มีก็ไม่ต้องใส่ แค่นี้เอง รีบๆทำสิ จะหมดเวลาแล้วนะ มา เดี๋ยวฉันช่วย ” ว่าแล้วคนร่างหนาก็รีบหยิบตะหลิวทำข้าวผัดหวังกลบเกลื่อนความผิด ซองมินมองอย่างโมโหแต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ทำหน้าบูด แต่หารู้ไม่ว่าคยูฮยอนตัวร้ายกำลังกระหยิ่มยิ้มย่อง งานนี้ยิงนัดเดียวได้นกสองตัวจริงๆ ได้แกล้งลีซองมิน
และที่สำคัญ ไม่ต้องกินหัวหอมด้วย ยะฮู้!...
........................................................................................................................................................
จบไปหนึ่งตอน หุหุ อาจมาลงช้านิดนึงนะคะ เน็ตที่บ้านช่วงนี้อืดได้อีก รีดเดอร์ทุกคนรักษาสุขภาพด้วยนะจ๊ะ เจอกันตอนหน้าจ้า บะบาย
ปล. เม้นท์วันละนิด จิตแจ่มใส ^^
และที่สำคัญ ไม่ต้องกินหัวหอมด้วย ยะฮู้!...
........................................................................................................................................................
จบไปหนึ่งตอน หุหุ อาจมาลงช้านิดนึงนะคะ เน็ตที่บ้านช่วงนี้อืดได้อีก รีดเดอร์ทุกคนรักษาสุขภาพด้วยนะจ๊ะ เจอกันตอนหน้าจ้า บะบาย
ปล. เม้นท์วันละนิด จิตแจ่มใส ^^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น