ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ KyuMin] Help Me!!! ช่วยด้วย แฟนผมหื่น

    ลำดับตอนที่ #16 : [Fic SJ KyuMin] Help Me!!! ช่วยด้วย แฟนผมหื่น 15

    • อัปเดตล่าสุด 14 มี.ค. 55


    Chapter 15
     
    หลังเลิกเรียน ซองมินไปพบอาจารย์อีทึกตามคำสั่ง ในใจก็กังวลว่าถูกเรียกไปพบด้วยเรื่องอะไร หรือว่าจะถูกดุเพราะฉากสวีทกับคยูฮยอนรึเปล่า
     
    ก๊อก ก๊อก
     
    “ ขออนุญาตครับ ”
    ร่างเล็กเคาะประตูหน้าห้องพักอาจารย์ก่อนจะเปิดเข้าไปเมื่อได้รับอนุญาต
     
    “ นั่งลงสิซองมิน ”
    อีทึกที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วบอก เมื่อซองมินนั่งลงเรียบร้อย อาจารย์คนสวยก็เข้าเรื่องทันที
     
    “ เธอคงรู้ใช่มั๊ยว่าครูเรียกเธอมาพบทำไม ”
     
    “ ฮะ ”
    ซองมินตอบ พอจะรู้อยู่ว่าถูกเรียกพบด้วยเรื่องอะไร
     
    “ เธอทำตัวไม่เหมาะสม และในฐานะที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของเธอ ครูต้องตักเตือนถ้าเธอทำตัวไม่ดี ”
    ซองมินได้แต่นิ่งเงียบ พูดอะไรไม่ออก แววตาตำหนิและไม่พอใจฉายชัดบนดวงตาคู่สวยของอาจารย์ มันทำให้ซองมินอดคิดไม่ได้ว่า อาจารย์อีทึกกำลังโกรธ แต่ซองมินก็ไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้ว่าทำไมอาจารย์ต้องโกรธขนาดนี้ด้วย
     
    “ จะมีแฟน ครูก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ฉากเลิฟซีนหน้าห้องเรียนแบบนั้นมันดูไม่ดีเลยนะ หวังว่าเธอคงเข้าใจที่ครูพูดนะซองมิน ”
     
    “ ฮะ ”
    ซองมินก้มหน้าก้มตาตอบ ในใจก็นึกไปถึงคนหื่นที่ทำให้เค้าต้องโดนดุ คนรักของเค้าสร้างปริศนาหลายอย่างเหลือเกิน หลายเรื่องจนทำให้จิตใจของซองมินสับสน
     
    “ ครูจะถามอะไรบางอย่าง และครูอยากให้เธอตอบตามความเป็นจริง จะได้มั๊ย ”
     
    “ จะถามอะไรเหรอฮะ ”
     
    “ เธอกับคยูฮยอน...ถึงขั้นไหนกันแล้ว มีอะไรกันหรือยัง ”
    คำถามของอาจารย์อีทึกทำให้ซองมินตัวชา ร่างเล็กเงยหน้าสบสายตาใคร่รู้จากอาจารย์คนสวยทันที
     
    “ เอ่อ... ”
    ซองมินได้แต่อ้ำอึ้ง เค้าไม่รู้จริงๆว่าในสถานการณ์แบบนี้ควรพูดความจริงหรือว่าควรจะโกหกดี
     
    “ ถ้าเธอไม่อยากตอบ ครูก็ไม่ว่าอะไร เพราะถึงยังไงมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ ครูมีเรื่องแค่นี้แหล่ะ เธอไปได้แล้ว ”
     
    “ ครับ ”
    ซองมินพยักหน้ารับรู้และบอกลาอาจารย์ก่อนจะเดินออกมา ในใจก็คิดไปต่างๆนานา ในสมองมีแต่คำถามของอาจารย์ ทำไมถึงถามแบบนั้น ทำไมอาจารยถึงอยากรู้...
     
     
     
    “ นายส่งฉันตรงนี้ก็ได้ ”
    ซันนี่บอกทางให้กับคยูฮยอน หลังจากที่ได้พูดคุย เคลียร์เรื่องต่างๆจนเข้าใจแล้ว คยูฮยอนก็มาส่งซันนี่
     
    “ ฉันไปล่ะนะ ”
    ทันทีที่รถจอดสนิท ซันนี่ก็เปิดประตูรถจะก้าวลง แต่ถูกเสียงทุ้มเรียกไว้ก่อน
     
    “ อย่าลืมนะฮะ ข้อตกลงของเรา ห้ามบอกพี่ซองมินเด็ดขาด มิฉะนั้นเรื่องที่พี่ชอบชเวซูยองจะรู้กันทั้งมหา’ลัย ”
     
    “ เออ ฉันรู้แล้วน่า ”
    ซันนี่บ่นและก้าวลงจากรถก่อนจะปิดประตูรถคันงามอย่างแรงเป็นการแก้แค้น
     
    “ ชิ ข้อตกลงบ้าอะไรล่ะ นายบังคับฉันต่างหากล่ะไอ้เด็กปีศาจ ”
    ใช่ ซันนี่โดนบังคับบังคับให้เก็บเรื่องที่คยูฮยอนรู้แผนการณ์ทั้งหมดของซองมินแล้วเป็นความลับ โดยขู่ว่าถ้าเธอบอกซองมิน คยูฮยอนจะเอาเรื่องที่ซันนี่ชอบซูยองไปบอกคนทั้งมหาวิทยาลัย เธอจึงจำใจต้องเก็บความลับนี้ไว้
     
    “ ขอโทษนะซองมินเพื่อนรัก หวังว่านายคงเข้าใจฉันนะ T_T ”
     
       ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
    มือบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แล้วก็ต้องถอนหายใจเมื่อคนที่โทรมาคือเพื่อนรักกระต่ายของเธอนั่นเอง
     
    “ ตายยากจริงๆ ”
    ซันนี่บ่น นึกถึงกระต่าย กระต่ายก็โทรมา เฮ้อ...ไม่อยากจะรับสายเลยจริงๆ
     
    “ เฮ้อ...ทำไมนายต้องโทรมาตอนนี้ด้วยนะ ”
    ในที่สุดซันนี่ก็ตัดสินใจตัดสายทิ้ง คนยิ่งรู้สึกผิดอยู่ ยังจะโทรมาตอกย้ำอีก ใครจะไปกล้ารับล่ะ
     
     
     
    “ หืม? กล้าตัดสายฉันทิ้งเหรอ ยัยเพื่อนบ้า ”
    ฝ่ายซองมินที่โดนตัดสายก็รู้สึกเคือง จะโทรมาชวนไปกินข้าวซะหน่อย จะได้คุยเรื่องคยูฮยอนไปด้วย มาตัดสายกันแบบนี้ได้ยังไง หรือว่าจะมีเรื่องอะไรรึเปล่า เพราะปกติต่อให้ยุ่งแค่ไหน ซันนี่ก็ไม่เคยตัดสายทิ้งแบบนี้ ลองโทรใหม่ก็ได้
     
    “ เฮ้ย ปิดเครื่องเลยเหรอ ”
    ลองโทรใหม่แต่เพื่อนรักกลับปิดเครื่องซะอย่างนั้น ทำให้ซองมินยิ่งหงุดหงิด อีกใจก็นึกเป็นห่วงเพื่อนว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า ในเมื่อโทรหาไม่ติด ไปหาถึงหอพักเลยก็ได้ คิดได้ดังนั้นซองมินก็รีบแต่งตัวแล้วออกไปหาเพื่อนรักทันที
    ซองมินมาดักรอเพื่อนสาวที่หน้าหอพัก รอแล้วรอเล่าซันนี่ก็ไม่กลับมาที่หอซะทีก็เลยโทรหาที่รักเป็นการฆ่าเวลา
     
    “ ฮัลโหล คยูเหรอ ”
    ((ครับ พี่ซองมิน มีอะไรเหรอ))
    ซองมินหยอดเสียงหวานให้แต่คำถามที่สวนกลับมาของคยูฮยอนทำให้ซองมินรู้สึกเคือง
     
    “ ถ้าไม่มีอะไรโทรหาไม่ได้ใช่มั๊ย ”
    น้ำสียงบ่งบอกว่าน้อยใจจนปลายสายต้องรีบง้อ
     
    ((ไม่ใช่อย่างนั้นฮะ อย่าเพิ่งงอนสิ))
     
    “ ไม่ต้องเลย ถ้าไม่อยากคุยก็ไม่ต้องคุย แค่นี้นะ ”
    กดตัดสายอย่างอารมณ์เสีย ไม่ได้ดังใจทั้งเพื่อนทั้งแฟนเลย ฮึ่ย
     
    “ ว่าแต่ยัยซันนี่ไปไหนเนี่ย ป่านนี้แล้วยังไม่กลับหออีก ”
    ซองมินบ่นพลางยกนาฬิกาขึ้นดู ในใจก็นึกเป็นห่วงเพื่อนเพราะนี่ก็เย็นมากแล้ว แต่เพื่อนตัวดียังไม่กลับมาซักที โทรไปก็ไม่ติด
     
    “ ไปไหนของเค้านะ ”
    พึมพำด้วยความเป็นห่วง พลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ตั้งใจว่าจะโทรหาอีกรอบถ้ายังไม่ติดก็จะลองโทรถามเพื่อนในคณะของซันนี่ แต่ยังไม่ทันจะได้กดโทรออก ร่างของคนที่รออยู่ก็ปรากฏให้เห็น
     
    “ อะแฮ่ม ”
    ซองมินแกล้งกระแอมดังๆให้คนที่ก้มหน้าก้มตาเดินอยู่รู้สึกตัว
     
    “ ซองมิน!! ”
     
    “ ทำไมไม่รับสายฉัน แถมยังปิดเครื่องอีก มันหมายความว่าไงฮะยัยกระรอก ”
    ซองมินใส่เป็นชุด ถึงแม้จะแปลกใจกับท่าทางตกใจของซันนี่ตอนที่เห็นเค้า สัญชาติญานบอกเค้าว่า ต้องมีบางอย่างผิดปกติอย่างแน่นอน
     
    “ เอ่อ.... ”
    อยากมุดลงดิน คือความรู้สึกของซันนี่ในตอนนี้ เธอคิดไว้แล้วว่าซองมินต้องโกรธแน่ที่เธอปิดเครื่องใส่แบบนั้น แต่ไม่คิดว่าซองมินจะบุกมาหาถึงหอแบบนี้ ยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเลย
     
    “ ว่าไง ตอบมาให้ดีๆนะ ”
    กระต่ายน้อยที่ตอนนี้แปลงร่างเป็นยักษ์ ตีหน้าดุใส่เพื่อนที่ยืนอึ้ง
     
    “ เอ่อ...อ๋อ ก็แบบว่าแบตมันจะหมดอ่ะ แล้วมันก็ดับไปเลย ฉันไม่ได้ปิดเครื่องหนีนายนะ เชื่อฉันสิ ”
    ท่าทางลุกลี้ลุกลนแปลกๆของซันนี่ทำให้ซองมินหรี่ตาลงอย่างจับผิด
     
    “ เหรอ แล้วทำไมเธอต้องหน้าซีดด้วย แถมเหงื่อแตกอีกต่างหาก มีพิรุธนะเนี่ย ”
     
    “ พ..พิรุธอะไร ไม่มี๊” 
    ซันนี่กลืนน้ำลายกับสายตาจับผิดที่จับจ้องมา ให้ตายเถอะ วันนี้ต้องรับมือกับเจ้าเด็กแสบคยูฮยอนมาทั้งวัน ตอนเย็นยังต้องมารับมือกับซองมินอีกเหรอ เกิดเป็นลีซุนคยูนี่มันน่าสงสารชะมัด
     
    “ เอาเถอะ ว่าแต่เธอไปไหนมา กลับเย็นแบบนี้มันอันตรายนะ ”
    น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยของซองมินทำให้ซันนี่รู้สึกจุกขึ้นมา ไม่อยากจะโกหกเลยจริงๆ อยากจะสารภาพแต่ก็ทำไม่ได้
     
    “ ฉันไปทำรายงานที่ห้องสมุดน่ะ ว่าแต่นายเถอะ มาหาฉันถึงนี่ มีอะไรรึเปล่า ”
     
    “ ไม่มีอะไรหรอก ฉันโทรหาเธอไม่ติดก็เลยเป็นห่วง ”
    ซองมินตอบตามความเป็นจริง เพราะนอกจากจะรู้สึกเคืองนิดๆ แต่ยังรู้สึกเป็นห่งอีกด้วย เพื่อนรักของเค้าไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน จะไม่ให้คิดมากได้ยังไง
     
    ซันนี่อึ้ง ความรู้สึกซาบซึ้งและความรู้สึกผิดตีขึ้นมาทันที รู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตาแต่ก็รีบกระพริบตาและเล่นละครกลบเกลื่อน
    “ ขอบใจนะ แต่นายคิดว่าจะมีใครกล้าทำอะไรฉันรึไง ออกจะสวยถึงบึกบึนขนาดนี้ ฮ่าๆๆ ”
     
    “ ฮ่าๆๆๆ ”
    ซองมินหัวเราะแต่ใจไม่ได้หัวเราะตามไปด้วยเลย ทำไมจะมองไม่เห็นน้ำใสๆที่คลอที่หน่วยตาของเพื่อน ทำไมจะไม่รู้ว่าเสียงเล็กที่กำลังหัวเราะอยู่นี้มันฝืนแค่ไหน
     
    “ งั้นฉันกลับก่อนแล้วกัน เธอรีบเข้าไปได้แล้ว ”
    ซองมินตัดบท ไม่อยากจะซักถามอะไรตอนนี้ เพราะดูจากสภาพของซันนี่แล้วคงไม่พร้อมจะบอกอะไรเค้าแน่
     
    “ อื้ม ขอบใจที่เป็นห่วงฉันนะ กลับดีๆล่ะ ”
     
    “ บ้ายบาย ”
    ซองมินโบกมือลาแล้วเดินจากไป ซันนี่ถอนหายใจอย่างโล่งอก รู้สึกขอบคุณที่ซองมินรีบกลับโดยที่ไม่ถามอะไร พอร่างของเพื่อนลับสายตา เธอจึงกลับเข้าหอตัวเองอย่างเหนื่อยอ่อน เฮ้อ วันนี้รีบนอนดีกว่า หวังว่าตื่นขึ้นมาคงจะมีอะไรดีขึ้นนะ...
     
    ฝ่ายซองมิน สองขาก้าวเดินแต่ในใจก็คิดอะไรต่างๆนานา ย้อนคิดถึงเรื่องที่ได้เจอวันนี้ ทั้งเรื่องที่อาจารย์อีทึกพูด ทั้งเรื่องความผิดปกติของเพื่อน มันเกิดอะไรขึ้นนะ เดินไปเรื่อยๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
     
    “ หึ ”
    ซองมินพ่นเสียงออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ คุณแฟนสุดที่รักนั่นเอง
     
    “ ไม่อยากคุยไม่ใช่เหรอไง ”
    ((โธ่ อย่าพูดอย่างนี้สิครับ ผมขอโทษ))
    คยูฮยอนรีบง้อ ฟังจากเสียงแล้ว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากระต่ายน้อยของเค้ากำลังงอนอย่างหนัก
     
    “ แล้วมีอะไรไม่ทราบ ”
    ซองมินกลั้นหัวเราะและทำเสียงขรึมใส่ ตอนแรกก็งอนจริงๆนั่นแหล่ะ แต่พอได้ยินเสียงหงอยๆของคยูฮยอนแล้วก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมา
    ((พี่ซองมินอ่า ผมขอโทษ))
     
    “ ว่าไง มีอะไรล่ะ ”
    เกือบจะหลุดขำแล้วเชียว อิอิ เสียงคยูฮยอนน่ารักจริงๆ
     
    ((เราไปกินข้าวกันมั๊ยฮะ เดี๋ยวผมจะไปรับพี่ที่หอ))
     
    “ ก็ได้ รอแป๊บนึงนะ ฉันกำลังจะกลับหอ เอาเป็นว่า อีกสิบนาทีเจอกันนะ ”
     
    ((โอเคฮะ))
    คยูฮยอนวางสายแล้วยิ้มร่า รู้สึกว่าวันนี้หมาป่าจะร่าเริงเป็นพิเศษ ทำไมน่ะเหรอ ก็วันนี้ได้รู้น่ะสิว่าพี่ซองมินรักเค้ามากแค่ไหน ถึงได้ระแวงแบบนั้น เค้าจะตอบแทนความรักกลับไปให้ถึงใจเลย คอยดู หึหึ
     
    TBC.

    ..............................................................................................................................

      สวัสดีค่ะรีดเดอร์ทุกท่าน ขอโทษอย่างสูงเลยค่ะที่หายไปนาน(มากกกก) อย่าพึ่งโกรธกันเลยนะคะ ที่หายไปนานขนาดนี้ไรท์เตอร์มีเหตุผลจำเป็นค่ะ ไม่ได้หนีไปไหนนะคะ แล้วก็ยังไม่ตายด้วยค่ะ ฮ่าๆๆ 
      เรื่องของเรื่องก็คือ ไรท์เตอร์ได้เลื่อนตำแหน่งงานค่ะ ฟังดูดีใช่มั๊ยคะ แต่มันไม่ใช่เลยค่ะ เพราะตำแหน่งที่สูงขึ้นก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่มากขึ้น ผลก็คือ ไรท์เตอร์โดนย้ายไซท์งานค่ะ เป็นการย้ายชั่วคราวที่รู้สึกว่ายาวนานมากก เพราะไซท์งานที่ถูกย้ายไป ทุรกันดารมากค่ะ!!! ไม่อยากจะใช้คำนี้เลย แต่มันกันดารจริงๆ ทั้งไซท์มีคอมฯเก่าๆรุ่นพระเจ้าเหาให้ใช้เครื่องเดียว เรื่องอินเตอร์เน็ต ไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ ไม่มีอย่างแน่นอน สัญญานโทรศัพท์ยังหายากเลยค่ะ ไรท์เตอร์ไปอยู่ที่นั่นสองเดือน(ที่หายไป) กลับมารู้สึกเหมือนบ้านนอกเข้ากรุงเลยค่ะ ตื่นเต้นและดีใจมากที่จะได้กลับบ้าน ได้หยุดแค่สามวันเอง แล้วก็ต้องกลับไปที่ไซท์ต่อ ไม่รู้จะได้กลับมาอีกทีเมื่อไหร่ กลับมาถึงบ้านปุ๊บก็เปิดคอมอย่างแมรกเลยค่ะ อัพฟิคโดยด่วน คิดถึงรีดเดอร์ คิดถึงฟิคมากๆๆค่ะ รีดเดอร์คิดถึงไรท์เตอร์มั๊ยคะ 
      อ้อ! เรื่องขอเอ็นซี ขอได้ตลอดนะคะ ไรท์เตอร์ให้น้องสาวเป็นคนจัดการส่งให้ค่ะ อาจจะช้านิดนึงเพราะน้องสาวไรท์เตอร์เป็นพวกโลว์เทคค่ะ กว่าจะเปิดหน้าเว็บเพจได้นี่ก็ต้องอธิบายกันจนปากเปียกปากแฉะ ไม่ว่ากันนะคะ
      สุดท้าย ไรท์เตอร์ขออวยพรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ให้รีดเดอร์ทุกคนจงมีแต่ความสุขความเจริญ คิดหวังสิ่งใดขอให้สมปรารถนา ร่ำรวยเงินทอง อย่าได้มีโรคภัยไข้เจ็บ ไปเที่ยวไหนก็ขอให้เดินทางอย่างปลอดภัยนะคะ 
      ปล.อีกนิด กราบขอบพระคุณพี่เปีย numoney นะคะ สำหรับคำอวยพรและกำลังใจที่ส่งมาทางข้อความลับ น้องไรท์เตอร์คนนี้ขอส่งกลับคำอวยพรทุกอย่าง ส่งกลับไปสู่พี่เปียค่ะ ให้แฮปปี้มีความสุขทุกเรื่องเลยนะคะ สุขภาพแข็งแรงด้วย ขอบคุณมากค่ะ ^_^   
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×