คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : My Boss :: note01
(note 01)
[Minseok Part]
“มินซอก..” เสียงพี่อี้ฟานดังขึ้นเมื่อผมเริ่มหันหลังกำลังจะเข้าบ้าน ผมหยุดและหันกลับไปหาพี่เขาที่กำลังลดกระจกลง “.. ไว้วันหลังเราไปเดินเล่นด้วยกันอีกนะ” พี่อี้ฟานยิ้ม
ผมเดินเข้าไปใกล้พี่เขาก่อนจะฉีกยิ้มกว้างตอบ “ครับ พี่น่ะขับรถดีๆนะ”
“อื้อ อย่านอนดึกนะเรา พรุ่งนี้พี่จะพาไปยื่นใบสมัครงาน” ผมพยักหน้ารับหงึกๆอย่างว่าง่าย “ดี งั้นเจอกันหน้าบริษัทนะ”
“รับทราบครับผม! ฮ่าๆ ..อะไรเนี่ย” จู่ๆมือใหญ่ของพี่เขาก็ยื่นออกมาจากตัวรถและวางลงบนหัวผมแล้วยีมัน
เกาคางด้วยมั้ย นี่ไม่ใช่หมาสักหน่อยอ่ะ
ก่อนพี่อี้ฟานจะขับรถออกไปและกระจกรถก็กำลังเลื่อนขึ้น พี่เขาก็พูดเบาๆซึ่งผมก็ได้ยินไม่ชัดนักแต่ก็พอจะอ่านปากออกได้ว่า ‘ห้าม-สาย’ อะไรอ่ะเห็นผมเป็นเด็กรึไง สั่งตลอดเลยเนี่ย
“เห้ออ นอกจากพี่ลู่หานแล้วยังจะมีคนที่ทำให้พี่มินซอกของผมยิ้มได้อยู่อีกหรอเนี่ย”
คิม จงอิน
ผมหุบยิ้มลงทันทีก่อนจะหันขวับไปทางรั้วประตูบ้านบานใหญ่ก็พบไอเด็กดำกำลังยืนกอดอกพิงรั้วอยู่ในชุดนอนเสื้อกล้ามขาว กางเกงวอร์ม ของมันแบบสบายๆตามสไตล์คุณชายคิมเขาล่ะครับนะ ยุงเยิงนี่ไม่ต้องไปกลัวมันกัดหรอกถือว่าบริจาคเลือด แต่นี่ไม่ใช่ประเด็น
ประเด็นคือมันกำลังพูดชื่อต้องห้ามออกมาทั้งๆที่ผมพึ่งเจอไปเมื่อกี้นี้สดๆร้อนๆ
“หยุดพูดแล้วเข้าบ้านเถอะ ตอนนี้ฉันต้องการล้างตาด่วนๆ” พูดจบผมก็กระฟัดกระเฟียดเดินเข้าบ้านอย่างเร็วโดยไม่ลืมเขย่งเขกหัวน้องมันที่ยังคงยืนเก๊กอยู่ที่เดิม ด้วยความหมั่นไส้และตอนนี้เริ่มโมโหละไม่ใช่เรื่องลู่หานนะ รายนั้นเลยคำว่าโมโหสำหรับผมแล้ว แต่ที่โมโหนี่คือ
จงอิน มันสูงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกันเนี่ย จำได้ว่าตอนนั้นมันยังสูงแค่จมูกผมอยู่เลยอ่ะ
“เป็นไรอีกเนี่ย” เสียงน้องมันถามขึ้นมาจากด้านหลังผม พร้อมกับเสียงเดินลากเท้าที่กำลังทำผมให้เริ่มรู้สึกรำคาญ “ทำหน้าอย่างกับเห็นพี่ลู่หาน”
แจ็คพอต
ไม่ตอบอะไรครับตอนนี้หลอดบรรจุความโกรธกำลังจะแตกแล้วครับ รีบสับขาเดินเข้าบ้านอย่างเดียวแล้วตอนนี้ โอ้ยย แล้วเหงื่อผมทำไมมันถึงออกผุดๆแบบนี้ล่ะครับ หือ?
หายใจเข้า พุธ หายใจออก โธ ..สิคิม มินซอก
อย่างนั้นแหละ อืม.. ทำใจให้ร่ม ไม่ต้องนึกถึงหน้าไอผู้จีนคนนั้นแล้ว
กลับมาก็ช่างหัวเขาสิ ต่างคนต่างอยู่โอเค จบ
“จบๆ ต่างคนต่างอยู่สิ”
“เห้ย พี่เป็นไรเนี่ย” ผมเดินเข้าไปในบ้านโดยไม่ฟงไม่ฟังมันแล้วเสียงไอน้องคิม จงอินเนี่ย เข้ามาก็เดินตรงไปยังห้องนั่งเล่นทันทีเดินมาถึงก็จัดการทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่มตัวโปรด ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกและออกยาวๆเพื่อข่มอารมณ์โกรธที่มันกำลังเดือดอยู่ตอนนี้
เพราะไอหมอนั่นคนเดียวที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้!!!!!
“พี่มินซอก” ผมหันไปตามเสียงเรียก
“นี่พี่คงจะไม่ได้ไปเจอ.. ใช่มั้ย?”
ɷ
[Luhan Part]
“ท่านประธานครับ ขออณุญาตครับ”
“เข้ามาครับ”
สิ้นเสียงผมแน่นอนว่าคนที่ได้ยินก็ค่อยๆเปิดประตูห้องทำงานผมเข้ามาก่อนจะโค้งหัวให้ผมทีหนึ่งและเดินเข้ามาใกล้โต๊ะทำงานว่างๆของผม พร้อมกับเอกสารเยอะแยะตาแป๊ะในมือ
“นั่งสิ” คนตรงหน้าผมพยักหน้ารับแล้วค่อยๆดึงเก้าอี้ข้างตัวออกมาก่อนจะนั่งลงอย่างสำรวม
นี่สิ ปาร์ค ชานยอล ที่เขาว่ากันว่าใครได้เป็นเลขาแล้วจะรู้สึกเจียมตัวขึ้นมาทันทีเวลาอยู่ต่อหน้า ยกตัวอย่างผมนี่แหละคนนึง
คือ ถึงผมจะเป็นประธานบริษัทแต่ก็เชื่อเถอะอยู่บ้านเฉยๆก็นั่งเล่นเกมส์แทงบอลเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขานั่นแหละ พิธีรีตองไรมากมายโลกนี้มันจะดัจจริตมากเกินไปแล้วซาร่า
“ทำตัวสบายๆเถอะ” (นี่บอกตัวเอง)
“ขอบคุณครับ แต่ผมควรจะแนะนำตัวอย่างป็นทางการสักนิดนึง ผมชื่อ--”
“อ่าๆ ไม่ต้องหรอกครับ” ผมรีบยืนขึ้นและกดไหล่คนตรงหน้าที่กำลังจะลุกขึ้นให้นั่งลง ชานยอลดูจะงงๆนิดหน่อยที่ผมไปขัดพิธีเขาอ่ะนะแต่ก็ยอมนั่งลงแต่โดยดี
“ปาร์ค ชานยอล ใช่ไหม” ผมถาม
“ครับ ท่านประธาน” เขาโค้งหัวให้อีกรอบก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาจัดแว่นที่กำลังร่นลงไปให้ขึ้นมา
เชี่ยย ขนาดจัดแว่นยังดูดีเลยอ่ะซ้าดดดด
“ผม ลู่หาน ประธานคนใหม่ของที่นี่จะย้ายมาประจำที่นี่แทนอา”
“ครับ ท่านประธาน” ชานยอลตอบเสียงแข็ง
“หวังว่าเราจะทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุขนะ”
“ครับ ท่านประธาน”
“ชานยอล นายเองก็ทำตัวสบายๆนะ”
“ครับ ท่านประธาน”
ร้องไห้ได้ไหมตอบ
ɷ
20 : 00 น.
เงยมองดูนาฬิกาบนฝาผนังบนห้องทำงานอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจอย่างหนักออกมาและจำใจอ่านรายงานเอกสารที่เลขาคนใหม่นำมาให้
“เอกสารที่ท่านประธานกำลังอ่านอยู่คือรายได้ของบริษัทลูลู่โฟนตั้งแต่ปี xxx-xxx ครับ”
ผมพยักหน้า พลิกหน้ากระดาษไปมาโดยมีชานยอลคอยแนะนำและอธิบายรายได้และการผลิต การพัฒการของบริษัทนี้
“รายได้ของเราดีขึ้นมากตั้งแต่ออกสินค้ารุ่นใหม่ แต่ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า ทำให้พนักงานของเราเริ่มขาดแคลนไปมากในหลายแผนก” เขาหยุดให้ผมคิดตาม
“แล้วคุณคิดยังไง” ผมถามทั้งๆที่สายตายังจับจ้องเอกสารในมือ
“เราควรจะรับสมัครพนักงานเพิ่มครับ ท่านประธานล่ะครับ”
“ตามนั้นแหละ อะไรที่ทำแล้วดีต่อบริษัทก็ทำไปเถอะ”
“ครับ”
ผมเงยหน้าขึ้นมาฉีกยิ้มก่อนจะปิดเอกสารในมือแล้วตั้งไว้บนโต๊ะที่ในตอนแรกว่างเปล่าแต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยเอกสาร
เลขาของผมก้มมองนาฬิกาข้อมือ “ท่านประธานครับตอนนี้เป็นเวลาดึกมาแล้ว จะกลับเลยไหมครับ จากที่ผมคำนวณเวลาถ้าคุณไม่รีบกลับตอนนี้คุณจะนอนเลทกว่าเวลาปกติถึงสามสิบนาที ซึ่งนั่นจะทำให้ท่านประธานได้รับการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอนะครับ”
แค่พูดว่ากูควรรีบๆกลับบ้านไปนอนแค่นั้นไม่ได้ใช่มั้ย ต้องมาแบบวิชาการให้กูอึ้งแดกตลอดเลยใช่มั้ย ได้ปาร์ค ชานยอล ได้ สักวันกูจะแร็ปภาษาพ่อขุนให้ฟัง คอยดูนะ เดี๋ยวรู้เลยชานยอลเดี๋ยวรู้
ระหว่างทางที่ผมกับชานยอลกำลังจะเดินไปที่ประไปที่ประตู ซึ่งมันต้องผ่านเคาท์เตอร์ ประชาสัมพันธ์และผ่านบอร์ดบุคลากรของบริษัท และคุณรู้อะไรมั้ย นี่พึ่งจะได้สังเกตุบอร์ดนั้นดีๆว่ะครับ
“นี่มันไอหน้าหล่อที่อยู่กับมินซอกเมื่อตอนเย็นนี่” ผมหยุดยืนอยู่หน้าบอร์ด
“มีอะไรรึเปล่าครับ?”
“ไอ้หน้าหล่อนั่นใคร”
“?”
“หมายถึง ไอคนนั้นอ่ะ” เห็นมันยืนขมวดคิ้วงงๆอยู่ ผมก็เลยเดินเข้าไปใกล้บอร์ดแล้วใช้นิ้วชี้ไปที่รูปของไอหน้าหล่อในสูทสีดำ นั่นขนาดรูปถ่ายมันนะ คือออร่าความหล่อนี่โครตพุ่งอ่ะ
“อ๋อ คุณอู๋ อี้ฟาน เขาเป็นCEOน่ะครับ”
น่านนน CEO บริษัทกูเป็นแฟนใหม่ของแฟนเก่าประธานบริษัท
“พรุ่งนี้ท่านประธานก็จะได้เจอเขาในงานประชุมแล้วล่ะครับ”
น่ารักจังเลย พรุ่งนี้จะได้เจอกันแล้ววว
ɷ
[Minseok Part]
“เห้ยพี่”
“อะไร” ผมขานส่งๆไปให้น้องชายที่กำลังนั่งดำอยู่บนเตียงนอนในห้องผม ขณะที่กำลังนั่งพิมพ์เอกสารสมัครงานของตัวเองเพื่อไปยื่นในวันพรุ่งนี้
“พี่ว่ามันแฟนตาซีไปป่าววะ”
“แฟนตาซีไรแกอีกอ่ะ”
“เรื่องพี่ลู่หานอ่ะ”
“….” ผมชะงักมือที่กำลังรัวแป้นพิมพ์ลง ก่อนจะหมุนเก้าอี้ไปทางจงอินที่กำลังนั่งจ้องมาทางผม “เราสัญญากันแล้วว่าจะไม่พูดถึงเขาอีกนะจงอินน้องรักส์” ผมเอื้อมแขนไปหยิบแก้วกาแฟบนโต๊ะมาจิบ
“พี่มินซอก พี่ลองนึกดูดิเกาหลีแม่งตั้งกว้าง แต่ดันพาคนสองคนที่ไม่ได้เจอกันตั้งสองปีมาเจอกันจนได้นี่นะ บังเอิญไปป่าว”
น้องมันก็พูดถูก แต่
“แล้วไงอ่ะ”
“โหยยพี่!” แล้วมันก็ขว้างหมอนมาทางผม อ่าวเห้ย!นี่ถือกาแฟอยู่นะ ร้อนนะเว่ยเห้ย
“ย่าห์ ถ้ากาแฟฉันหกทำไงเนี่ย” ผมก้มหยิบหมอนที่ลงไปตกอยู่ที่พื้นขึ้นมาปากลับใส่มัน
“พี่ไม่คิดว่ามัน เอ่อ..เป็นพรหมลิคงลิขิตไรงี้บ้างหรอ”
“….” ผมไม่ตอบ และหมุนเกาอี้กลับมาทางหน้าจอเดิมที่พิมพ์งานค้างไว้ ก่อนจะรัวนิ้วลงบนแป้นพิมพ์อีกครั้ง “กลับห้องไปได้แล้ว ฉันจะทำงาน”
“พี่มินซอกแม่ง”
“หุบปากแล้วไปกินนมนอนเถอะ จะได้ขาวๆ” หลังจากนั้นเสียงหมุนลูกบิดก็ดังขึ้น แสดงว่าจงอินมันยอมแพ้แล้วจริงๆ แต่ก่อนจะออกจากห้องมันก็ยังโผล่หน้ามาถามคำถามสุดท้าย
“บริษัทที่พี่จะไปสมัครน่ะ บริษัทไรนะ?”
“บริษัท…”
“…ลูลู่โฟน อะไรซักอย่างนี่แหละ..”
T A L K I E
เย่ะ ได้ฤกษ์กลับมาอัพละ
และจะมาอัพเรื่อยๆ เพราะความขี้เกียจออสโมซิสไปกับน้ำเรียบร้อยแล้ว555
ความคิดเห็น