คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : G R A V I T Y : Intro
I’m feeling tired from all the time I spent on you
But I know I’m strong from all the trouble I’ve been through
The story starts where the story falls apart with you
ฉันรู้สึกเหนื่อยเหลือเกินจากช่วงเวลาที่ฉันใช้ไปกับเธอ
แต่ฉันว่าฉันนั้นเข้มแข็งแล้ว จากปัญหามากมายที่ฉันเผชิญมา
เรื่องมันเริ่มต้นขึ้นในขณะที่เรื่องราวนั้นจบลงกับเธอ
…
“นี่..ได้ยินรึเปล่า ที่เขาว่าประธานอีจะสละตำแหน่งน่ะ”
“ได้ยินสิ เห็นว่าจะมีคนมารับช่วงต่อเรียบร้อยเลยล่ะ”
“จริงหรอ!?เอ… ใครกันนะ”
เสียงกระซิบกระซาบของพนักงานหญิงสองคนกำลังคุยกันถึงประเด็นร้อนฉาวที่ตอนนี้กำลังเป็นหัวข้อสงสัยของคนในบริษัทค่ายเพลงยักษ์ใหญ่นี่ดังแว่วขึ้นเข้าหูของชายหนุ่มร่างสูงที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ข้างๆจนคนที่ได้ยินอดไม่ได้ที่จะฟังหล่อนสองคนนี้พูดกันต่อไป
“เห็นเขาบอกต่อกันมาว่า หน้าตานี่อย่างนี้เลยล่ะ” พนักงานหญิงสาวร่างดีพูดขึ้นจนคนแอบฟังสงสัยว่า ‘อย่างนี้’ ในความหมายของหล่อนนี่เป็นอย่างไร ละสายตาจากตัวหนังสือบนหนังสือพิมพ์ที่ไม่ได้ตั้งใจจะอ่านอีกแล้วก่อนจะค่อยๆเหลือบสายตาไปมองมือของพนักงานหญิงคนนั้นที่กำลังยกนิ้วโป้งขึ้นพร้อมกับหน้าตาเหวอหวาของพนักงานคู่เม้าท์อีกคน
แค่นยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคำตอบของความหมายนั้นออกมาในทางที่ดี และนั่นก็ทำให้ ปาร์ค ชานยอล พึ่งมารู้ข้อดีของการฟังคนอื่นนินทาตัวเองก็คราวนี้
“’งืออออ.. เธอพูดแบบนี้ ฉันก็ชักอยากจะรู้แล้วล่ะสิว่าประธานคนใหม่คนนั้นเป็นใคร ” น้ำเสียงตื่นเต้นบวกกับท่าทางของพวกเธอที่กำลังบิดไปมาด้วยความเขินจนตัวแทบพันเป็นเกลียวของพนักงานหญิงสองคนนั้น กำลังเรียกรอยยิ้มของชายหนุ่มขึ้นมาอีกครั้งแต่เขาก็แค่ได้แต่ส่ายหน้าอมยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ไปมาและหันมาให้ความสนใจกับหนังสือพิมพ์ตรงหน้าต่อ…
จนกระทั่งเสียงฝีเท้าที่ดูเร่งรีบของชายคนหนึ่งในชุดสูทสีดำเดินตรงเข้ามาทางนี้ พร้อมด้วยเสียงพูดคุยของสองพนักงานหญิงข้างๆนี่ที่เงียบไป.. ชานยอลเริ่มรู้สึกว่ามันจะเงียบผิดปกติเกินไปแล้วเขาจึงลดแผ่นกระดาษตรงหน้าลง แล้วเขาก็พบใบหน้าที่คุ้นเคยของชายผิวสีแทนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขาที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้า
“อรุณสวัสดิ์.. ประธานคนใหม่”
สิ้นเสียงเอ่ยทักทายพร้อมรอยยิ้มที่ปารกฎขึ้นบนใบหน้าของเพื่อนสนิทที่ตอนนี้มีหน้าทีเป็นผู้ช่วยของเขาในบริษัทนี้ พนักงานสองคนข้างๆก็รีบหันขวับมาทันทีก่อนจะทำตาโตด้วยความตกใจอย่างสุดขีด เมื่อเห็นว่าประธานที่พวกหล่อนสองคนกำลังนั่งคุยกันอย่างเมามันก่อนหน้านี้คือชายหนุ่มร่างสูงที่มัวแต่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์โง่ๆนี่อยู่ข้างพวกเธอนี่เอง
“สวัสดี คุณคิมจงอิน” ชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าจะเข้ามาเป็นประธานคนใหม่ของที่นี่เอ่ยทักทายขึ้นพร้อมกับค่อยๆหยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง และหันมาทางพนักงานหญิงสองคนที่ยังคงนั่งอ้าปากเหวอตาค้างอยู่ ร่างสูงฉีกยิ้มออกมาอีกครั้งก่อนจะ..
“สวัสดีพวกคุณด้วยนะ และขอบคุณสำหรับคำชมดีๆ”
- - - - - - - - - - - - - - - -
“ไม่ได้! ไม่ได้เด็ดขาด ฉันขอห้ามให้นายหยุดความคิดบ้าๆนั่นซะเพื่อน” จงอินที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้เบาะหนังหน้าโต๊ะทำงานที่มีป้ายชื่อใหม่เอี่ยมของประธานคนใหม่ที่พึ่งจะได้แต่งตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อครู่นี้โพล่งดังขึ้น พลางมองไปทางเพื่อนร่างสูงที่กำลังยืนมองวิวยามสายของโซลอย่างเหม่อลอย พลางนึกในใจว่าดูวิวตอนนี้มันจะเห็นอะไรอีกนอกจาความวุ่นวายตามท้องถนน
“ฉันคิดว่าตอนนี้ฉันใหญ่ที่สุดซะอีก” ชานยอลหันกลับมามองหน้าจงอินด้วยสีหน้าเรียบเฉยและคิ้วที่เลิกขึ้นข้างนึงนั่น จงอินกำลังโดนด่าทางอ้อมจากไอเพื่อนตัวสูงนั่นหรือ ทำไมมันแสบหน้าแปลกๆ
ถอนหายใจออกมาหนักๆเฮือกใหญ่ก่อนจะข่มอารมณ์ตัวเองไม่ให้สติเตลิดไปมากกว่านี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้องมานั่งทำสงครามทางประสาทกับปาร์คชานยอล มันหลายครั้งมากแล้วที่เพื่อนเขาคนนี้เกิดอาการติสแตกชอบทำตัวบ้าอำนาจเอาแต่ใจเหมือนเด็กๆทั้งๆที่เวลาพูดหรือออกความคิดเห็นอะไรมันจะมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่กว่าคนอื่นเขาเสมอ..
“โอเค ได้ชานยอลได้ถ้านายจะเล่นยศกันแบบนี้” จงอินเว้นระยะพร้อมกับยืดอกพิงกับพนักข้างหลัง “งั้นนายลองบอกเหตุผลที่ฉันควรจะเห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ของนายหน่อยสิ ในฐานะที่ฉันเป็นเลขานายน่ะ บอกมาให้ชื่นใจหน่อยสิ”
“…” ปาร์ค ชานยอลนิ่งเงียบไปเหมือนกำลังพยายามใช้ความคิด เอาสิ คิม จงอินคนนี้ก็อยากจะลองหยั่งเชิงกับไอเพื่อนคนนี้บ้าง เขาอยากรู้นักว่ามันจะเอาเหตุผลไหนมากล่อมให้เขา ตกลงดึงตัววงที่เคยดังมากเมื่อสี่ปีก่อนอย่างวง ‘Northstar’ มาปั้นใหม่ทั้งๆที่ตอนนี้พวกนั้นกำลังตกกระป๋องกันทั้งวง…
“ว่าไงล่ะ มีเหตุผลอะไรที่เห็นสมควรไหมครับท่านประธาน”
ชายหนุ่มที่ได้ยินหลับตาลงก่อนจะผ่อนลมหายใจที่เต็มไปด้วยความกังวลออกมา เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังทำให้ถ่านไฟมันกับมาลุกโชนอีกครั้ง ซึ่งมันก็เป็นเพราะความเจ็บปวดที่เขาสะสมมาตั้งแต่ตอนที่.. ตอนที่คนใจร้ายคนนั้นออกไปจากชีวิตเขาไงล่ะ..
สองมือหนาที่เคยปล่อยไว้ข้างลำตัวค่อยๆกำแน่นขึ้นจนเส้นเลือดเขียวปูดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเมื่อนึกถึงช่วงเวลาตอนนั้น ใบหน้าของเขากำลังร้อนผาวและสั่นเครือไปพร้อมๆกันด้วยอารมณ์โทสะ แต่ใจนึงก็อยากจะทำเรื่องที่เขาตั้งใจไว้ให้สำเร็จ เขาอดทนก้าวมาถึงขั้นนี้แล้วเขาก็ต้องทำให้มันจบ เพราะฉะนั้นไม่ว่าเรื่องทุกอย่างมันจะจบลงแบบไหน ปาร์ค ชานยอลคนนี้ก็เป็นคนเลือกเอง
“...ฉันอยากจะเจอคุณ ‘บยอน แบคฮยอน’ อีกซักครั้ง”
- - - - - - - - - - - - - - - -
Talk
สวัสดีจ้า มาเปิดเรื่องใหม่อีกแล้ว
ลงอินโทรก่อนสั้นๆเนอะ
ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยแล้วกันนะคะ
อาจจะงงๆหน่อยๆ แต่ก็จะพยายามให้เข้าใจมากขึ้นะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาให้ความสนใจเรื่องนี้น้า
ความคิดเห็น