วันจันทร์ - วันจันทร์ นิยาย วันจันทร์ : Dek-D.com - Writer

    วันจันทร์

    มันเป็นเรื่องเกือบจริงที่เกิดขึ้นกับตัวของผมเอง ...

    ผู้เข้าชมรวม

    3,053

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    3.05K

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  หักมุม
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  15 มิ.ย. 55 / 14:03 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     เขียนอะไรดีหว่า นึกไม่ออก ปกติแล้วเขาทำอะไรกันหรอที่ "ข้อมูลเบื้องต้น" เนี่ย ไม่เข้าใจ - -*
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       เฮ้ยติง ตื่นได้แล้ว !!! “  เสียงเพื่อนรูมเมทผมปลุกผมในเช้าของวันจันทร์

      ครับ ผมชื่อ ติงลี่ แต่เพื่อนผมชอบเรียกผมว่า ลี่ เพราะมันสั้นกว่า  ผมเป็นเด็กมหาลัยธรรมดาคนหนึ่ง  ที่ไม่สะดุดตาของใครๆ  และต้องตื่นแต่เช้าไปเรียนเหมือนคนอื่นเขา

      ในขณะที่ผมงัวเงียขี้ตาอยู่นั้น เพื่อนเมทผมก็ดูรีบร้อนเป็นพิเศษและออกจากห้องไปโดยที่ผมได้แต่นั่งมองอย่างงงๆ  ผมนั่งหาวพร้องกับบิดขี้เกียจอยู่บนเตียงอย่างสบายอารมณ์ก่อนจะหันไปดูนาฬิกาบนโต๊ะข้างๆ

      อืม 8 โมงเช้าแล้วหรอเนี่ย”  ผมพูดขึ้นมาอย่างใจเย็นก่อนจะเริ่มรู้สึกตัว  “เฮ้ย!!! สายแล้วนี่หว่า”  ผมตาสว่างขึ้นทันทีและรีบอาบน้ำแต่งตัวไปเรียน  สายๆๆๆๆๆ  ผมได้แต่บ่นออกมาในใจอย่างรีบร้อน  เมื่อมาถึงอาคารเรียนผมวิ่งสุดแรงเพื่อให้ไปถึงห้องเรียนให้ทันเช็คชื่อ  แต่ขณะที่ผมวิ่งอยู่นั้นผมก็ได้ไปชนกับใครบางคนเข้าทำให้เราล้มทั้งคู่

      โอ้ย...  ขอโทษนะครับ  คือผมกำลังรีบน่ะครับ”  ผมกะพูดแค่นั้นแล้วจากไปเพราะผมสายเอามากๆแล้ว

      มะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเดินไม่ระวังเอง  ขอโทษนะคะ”  ทันใดนั้นเอง  ความคิดที่จะจากไปของผมก็ต้องหยุดชะงักลง  เมื่อได้ยินเสียงหวานๆของอีกฝ่ายที่ล้มอยู่เช่นกัน  ให้ตายสิ  ผมชนเข้ากับนางฟ้าหรือนี่  ผมรู้สึกประหม่าขึ้นมาเล็กน้อยถึงปานกลางและหัวใจที่เริ่มเต้นผิดปรกติไปจากเดิม  มันทำให้ผมต้องก้มหน้าเพื่อลดความประหม่านั้น  ผมเหลือบไปเห็นเอกสารต่างๆของเธอที่ลอยปลิวและกระจัดกระจายเต็มพื้น  ผมได้แต่เงียบและเริ่มเก็บเอกสารพวกนั้นอย่างช้าๆ  แม้ว่าผมจะสายมากแล้วก็ตาม  แต่จะให้ทำยังไงล่ะ  ผมก็มีส่วนผิดที่ไปชนเธอจนเอกสารกระจาย  และอีกฝ่ายก็เป็นสาวที่น่ารักซะขนาดนั้น  โอกาสจะพบสาวในฝันแบบนี้ไม่ได้มีกันบ่อยๆหรอกนะ

      เอ่อ คุณกำลังรีบไม่ใช่หรอคะ เดี๋ยวฉันเก็บเองก็ได้”  เธอพูดขึ้นพร้อมกับค่อยๆเก็บเอกสารเหล่านั้นเช่นกัน

      ไม่เป็นไรหรอกครับ  ผมก็ไม่ได้รีบขนาดนั้น”  เมื่อผมพูดจบเธอก็มองมาที่ผมแล้วมอบรอยยิ้มเล็กๆจากใบหน้าที่เย้ายวนชวนมองของเธอ    ถึงไปตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้วล่ะผมคิดในใจ  ทันในนั้นเองเหตุการไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้งอย่าบังเอิญ  เมื่อผมและเธอเอื้อมมือไปเก็บกระดาษแผ่นสุดท้ายนั่นเอง  มือของเราทั้งคู่ก็ได้สัมผัสกันอย่างไม่ได้นัดหมาย  เพียงเสี้ยววินาทีนั้นผมรู้สึกถึงความอบอุ่นและน่าทะนุถนอมจากมือของเธอ  มันทำให้หัวใจของผมเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะกว่าเดิม  เธอรีบชักมือของเธอกลับอย่างรวดเร็วและเบนหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความเขินและแก้มของเธอเริ่มมีสีแดงอมชมพูระเรื่อลอยขึ้นมา  ผมคิดว่าหน้าของผมในตอนนั้นก็คงจะแดงกล่ำเช่นกัน  เราทั้งสองต่างรีบลุกขึ้นและประหม่ากันมากขึ้น  ผมส่งกระดาษแผ่นนั้นที่ถืออยู่ในมือให้กับเธอ  เธอรีบรับมันไปอย่างรีบร้อนและกล่าวขอบคุณก่อนที่เธอจะรีบเดินจากผมไป  ผมได้แต่ยืนอมยิ้มด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและความดีใจ  ผมหันไปมองดูเธอเดินจากไปอย่าช้าๆจนลับไปจากสายตา  แต่แล้วผมก็ต้องรู้สึกผิดหวังอย่างมากอีกครั้ง  เพราะผมดันลืมถามชื่อของเธอ 

      โถ่เอ้ย  ไอ้โง่  อุส่าเจอคนถูกใจแล้วแท้ๆ  ทำไมไม่ทำความรู้จักกับเขา...  เฮ้อ....”  หลังจากนั้นผมก็ได้แต่ถอนหายใจให้กับความประหม่าของผมที่มีในตอนนั้น  ...  จากนี้ต่อไปจะได้เจอกันอีกไหมเนี่ย  ถ้าได้เจอกันจะทำต้วยังไงดีล่ะ  แล้วเธอคนนั้นมีแฟนแล้วหรือยังเนี่ย  โหยน่ารักขนาดนั้นคงจะมีแล้วล่ะมั้ง  แต่ถ้าไม่มีก็ดีล่ะจะได้จีบซะเลย  แต่หน้าอย่างเราเนี่ยนะจะไปจีบเธอ  คงจะผิดหวังอีกตามเคยสินะเรา  ...  ผมได้แต่คิดดังๆอยู่ในหัวสมองของผมวนไปเวียนมาอยู่หลายรอบ  ในวันนั้นมันทำให้ผมรู้สึกมีความสุขที่ได้พบก็ใครสักคนที่เราคิดว่าใช่ถึงในหัวมันจะแย้งว่าอาจไม่ได้เจอกันคนๆนั้นอีกก็ตาม  แต่ในตอนนั้นมันทำให้ผมได้รู้สึกถึงคำว่ารักแรกพบเลยก็ว่าได้  แต่จะยังไงผมก็ต้องขอบคุณเพื่อนผมที่ปลุกผมซะสายและทำให้ได้เจอกับเธอ  ...  โคลกกกกก  เสียงท้องของผมดังขึ้นกลางวิชาเลขที่ผมกำลังเรียนอยู่  ผมได้แต่ยิ้มอย่างเขินๆเมื่อเพื่อนในห้องของผมต่างพากันหันมามองและส่งเสียงหัวเราะกันยกใหญ่กับเสียงนั้น   มันทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าลืมกินมื้อเช้า  ถึงอิ่มอกอิ่มใจแค่ไหนแต่ท้องมันไม่ได้อิ่มด้วยสินะผมคิด 

      หลังจากหมดคาบเรียนแล้ว  ผมก็ไปกินข้าวคนเดียวในร้านอาหารประจำนอกมหาลัยตามปรกติ  แต่วันนี้เหมือนจะไม่ใช่วันปรกติสำหรับผมซะแล้ว  ในขณะที่ผมกำลังตักข้าวคำแรกเข้าปากนั้น  ก็มีเสียงของผู้หญิงที่รู้สึกคุ้นเคยดังขึ้น

      ขอนั่งด้วยคนได้ไหมคะ  คือ  โต๊ะมันเต็มหมดแล้วอ่ะค่ะ”  ผมเงิยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงทั้งๆที่ปากยังอ้าเหวอ อยู่  ใช่!!!  ผมได้เจอกับเธอคนนั้นอีกครั้ง  ผมรีบหุบปากของตัวเองที่เหวออยู่และวางช้อนลง  เธอหัวเราะเบาๆที่เห็นผม   เหวอ  เอ่อ  ได้ครับ”  เธอยิ้มให้ผมอีกครั้งก่อนกล่าวคำว่าขอบคุณ  ผมดีใจที่ได้เจอกับเธออีกครั้ง  แต่นั่นมันก็ทำให้ผมประหม่าไม่น้อยเช่นกัน  ในระหว่างที่ผมกำลังนึกคำพูดว่าจะคุยอะไรกับเธอดี  เธอก็กลับเป็นคนเริ่มบทสนทนาซะเอง

      เธอชื่ออะไรหรอ”  เธอพูดด้วยน้ำเสียงใสๆอย่างเป็นกันเอง 

      เอ่อ เราชื่อติงลี่  แล้วเธอล่ะ”  ผมตอบเธออย่างตะกุกตะกักและเขินเล็กน้อย  แทนที่ผมจะต้องเป็นคนถามก่อนและเธอต้องเป็นฝ่ายเขินสิมันถึงจะถูก  ผมคิดอยู่ในใจ

      เราชื่อเมลนะ  ยินดีที่ได้รู้จัก”  ไม่นานหลังจากนั้นเราก็เริ่มคุยกันอย่างเป็นกันเองมากขึ้น  และเริ่มที่จะสนิทกันมากขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับว่ารู้จักกันมานานแสนนาน  หลังจากที่เราทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว  ผมก็ได้ชวนเธอไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะเพื่อย่อยอาหาร  เธอดูร่าเริงกว่าที่เราอยู่ในร้านอย่างเห็นได้ชัดและนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกอิ่มเอมใจมาก  เราสองคนยังคุยกันอย่างเป็นปรกติจนเมื่อตะวันเริ่มที่จะคล้อยต่ำลงและดูเหมือนจะเริ่มลาลับขอบฟ้า  แสงอาทิตย์สาดส่อง ในยามเย็นเริ่มกลายเป็นสีส้มอ่อนนวลน่าหลงใหล  และสายลมที่พัดเข้าประทะตัวอย่างแผ่วเบาชวนให้ผ่อนคลาย  ในเวลานั้นราวกับว่าเราทั้งสองได้เข้าไปอยู่ในฉากของหนังรักโรแมนติกที่ถูกจัดขึ้นอย่างเป็นพิเศษให้กันเราสอง  ผมมองดูเธอที่กำลังส่งยิ้มมาให้ผม  ในตาของเธอช่างเป็นประกายระยับจับใจ  แก้มเธอนั้นนวลระเรื่อชมพูอดสีส้มของแสงตะวัน  และริมฝีปากอันอวบอิ่ม  มันทำให้ผมเหมือนจะละลาย  ผมเดินเข้าไปยืนข้างๆกับเธอที่กำลังมองพระอาทิตย์ตก

      นี่  เธอเชื่อเรื่องรักแรกพบหรือเปล่า”  เธอถามผมด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

      เชื่อสิ”  ผมตอบ  เธอหันมามองที่ผม  ผมยิ้มให้เธอและพูดว่า

       “เพราะมันทำให้เราได้พบกับเธอไง”  เธอยิ้มให้ผมและเริ่มหน้าแดงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด  จากนั้นเธอก็เริ่มเดินห่างออกไปจากผมเล็กน้อย  และหันมาพูดว่า  “เราก็เชื่อนะ”  เราทั้งสองยิ้มให้กันเลยกันอย่างมีความสุข   ผมเริ่มออกเดินให้ทันเธอ  แต่  ไม่นานต่อจากนั้นความมืดก็เข้าปกทุกที่อย่างรวดเร็ว  มันมืดซะจนไม่สามารถมองเห็นแม้แต่ตัวของผมเอง  ผมตะโกนเรียกเธออย่างสุดเสียงด้วยความเป็นห่วง  หัวใจผมเริ่มกระวนกระวายและเต้นอย่างรุนแรง  ผมหลับตาเพื่อตั้งสติ  แต่แล้วผมก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็นเมื่อผมได้ลืมตาขึ้นมา  ทุกอย่างกลับสว่างสดใสราวกับตอนเช้าตรู่

      ตื่นแล้วหรอ  เมื่อกี้นายเป็นอะไรหรือเปล่า  ตะโกนซะดังลั่นเชียว  ตกใจหมด  อ่อ  วันนี้วันจันทร์นะนายมีเรียนเช้า”  เสียงเพื่อนรูมเมทผมดังขึ้น

                    ผมลุกขึ้นนั่งบนที่นอนและมองไปรอบๆพลางถอนหายใจและหัวเราะให้กับความฝันที่ผ่านพ้นไป  เช้านี้อากาศสดใส มีลมพัดเย็นพัดมาเป็นช่วงๆ แสงแดดอ่อนๆไม่แรงมากทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากกว่าร้อน  ผมยังมีเวลาเดินเล่นอีกเยอะกว่าจะถึงชั่วโมงเรียน  แต่ในขณะที่ผมกำลังเดินเล่นเพลินๆอยู่นั้น 
                     
      โอ๊ย!!!  ขอโทดค่ะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      "^o^"

      (แจ้งลบ)

      หักมุมสุดๆ >//// ... อ่านเพิ่มเติม

      หักมุมสุดๆ >////   อ่านน้อยลง

      amywiriyamami | 8 ก.พ. 55

      • 0

      • 0

      คำนิยมล่าสุด

      "^o^"

      (แจ้งลบ)

      หักมุมสุดๆ >//// ... อ่านเพิ่มเติม

      หักมุมสุดๆ >////   อ่านน้อยลง

      amywiriyamami | 8 ก.พ. 55

      • 0

      • 0

      ความคิดเห็น

      ×