ตอนที่ 3 : ad sanandum. || 03
03
“มีอะไรเหรอนิม?” ร่างสูงเพรียวของหนุ่มหล่อแห่งบ้านเรเวนคลอหันมาถามเมื่อเห็นเธอที่เดินอยู่ดีๆก็หยุดนิ่ง
นิมูเอหรี่ตาลง ก่อนจะบอกกับเพื่อนเบาๆ
“พวกเธอกลับเข้าปราสาทไปก่อนเถอะ”
“เอ๋?” เคย์เลิกคิ้ว
“ไม่ไปด้วยกันหรอกเหรอ?”
ดวงตาสีฟ้าซีดมองเลยไปยังสีหน้างุนงงปนเป็นห่วงของสองแฝดบ้านกริฟฟินดอร์และวีนัส แล้วยิ้ม
“ฉันไม่เป็นไรหรอก...แค่นึกได้ว่ามีเรื่องที่ต้องทำน่ะ ไปเถอะ”
เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์ซีดค่อยๆพยักหน้า
“งั้นเจอกันตอนมื้อเย็นนะ”
“เจอกันนิม”
เธอยกมือขึ้นโบกกลับให้ลอเรียนน้อยๆ
หลังจากยืนมองพวกเขาเลี้ยวเข้าปราสาทจนลับตาไปแล้ว ร่างบางก็หมุนตัวแล้วมุ่งหน้าไปอีกทางทันที
กลุ่มคนในชุดเสื้อคลุมกำลังชุมนุมอยู่ริมทะเลสาบ
เท่าที่เห็น มีคนหนึ่งถูกผลักลงไปกับพื้น
นิมูเอจำใบหน้าของหนึ่งในนั้นได้
ลูซิเลียส เทรมเบลย์
เขาเป็นเด็กฮัฟเฟิลพัฟปีเดียวกับเธอ...และเป็นอันธพาล
เด็กฮัฟเฟิลพัฟกลายมาเป็นอันธพาลอันดับต้นๆของโรงเรียนได้ยังไงน่ะเหรอ?
ก็เห็นๆกันอยู่ว่าเพราะหมวกคัดสรรเลือกส่งไปผิดบ้าน
แย่สุดๆ...
ถึงแม้เธอจะเป็นเลือดบริสุทธิ์และเป็นสลิธีริน แต่เธอก็ไม่ได้ชอบนักหรอกกับการที่เขาเอานามสกุลของเฮลก้า ฮัฟเฟิลพัฟที่เป็นถึงหนึ่งในผู้ก่อตั้งฮอกวอตส์ไปทำให้ภาพลักษณ์เสื่อมเสีย
เธอสูดหายใจลึกแล้วก้าวยาวๆเข้าไปเอามือปัดแขนของเขาที่กำลังจะยกคอเสื้อนักเรียนคนนั้นขึ้น
“อะไรวะ?!!” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มแยกเขี้ยว ทำท่าจะฟาดหมัดใส่ในตอนที่เห็นหน้าเธอชัดๆ
“ท-เทอร์เนอร์”
นิมูเอกอดอก จ้องหน้าเขานิ่งๆ
“ไม่คิดว่าหลังจากโดนทำโทษให้คัดตำราหนาๆสี่เล่มให้เต็มกระดาษยาว150ซม.แล้ว ยังจะมีเวลามาทำตัวอันธพาลใส่ชาวบ้านแบบนี้ด้วยนะ เทรมเบลย์”
อีกฝ่ายหน้าซีดลงไปขั้นหนึ่ง ก่อนจะเชิดคางขึ้น
“มาขวางแบบนี้อยากเจ็บตัวรึไง?”
เด็กสาวเลิกคิ้ว
“นายนั่นแหละ มาขวางแบบนี้อยากเจ็บตัวรึไง?”
ดวงตาสีฟ้าซีดเย็นเยียบลง
“อย่าลืมนะ...ว่าฉันเป็นใคร” เธอเดาะลิ้น
“กับการที่จะทำให้ตระกูลเทรมเบลย์เสียหน้าจนมาลากนายกลับบ้านแทบไม่ทันน่ะ ง่ายนิดเดียว”
“ฉันไม่รู้เธอพูดเรื่องอะไร เทอร์เนอร์”
“อ๋อเหรอ?” เด็กสาวยกยิ้ม
“เอ...จริงรึเปล่าน้า ที่ว่านายน่ะเคยแอบเข้าหอหญิงของฮัฟเฟิลพัฟ?”
“พูดบ้าอะไร!!” ลูซิเลียสขึ้นเสียง
“เธอไม่รู้อะไร อย่ามาพูดดีกว่า”
“แหม...” นิ้วเรียวเคาะลงกับแขนตนเอง
“ฉันน่ะ ไม่รู้อะไรจริงๆแหละ...”
“แต่คำพูดของคนไม่รู้อะไรกับคนที่รู้อะไรมันก็มีความน่าเชื่อถือพอๆกันไม่ใช่เหรอ สำหรับคนฟังน่ะ?”
คู่สนทนาขบกรามแน่น ก่อนจะตัดสินใจถอยออกไปจากเธอและเด็กนักเรียนคนนั้นอีกก้าว
“ต้องการอะไร?”
นิมูเอหันไปมองใบหน้าของผู้ถูกกระทำ แล้วกดคิ้วลง
...นั่นมันเอคเบิร์นไม่ใช่เหรอ?
แทบจะยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้วแต่ข่มมันได้ทัน เด็กสาวถอนหายใจ
“หมอนี่ของฉัน...ห้ามแตะต้อง”
“เข้าใจนะ?”
เด็กหนุ่มอันธพาลมองหน้าเธอสลับกับร่างสูงบางนั้นสองสามที ก่อนจะพยักหน้า
“แค่นี้ใช่มั้ย?”
“อืม...แค่นี้แหละ” เธอสะบัดหัวพยักเพยิดไปที่อาคารหินสีเทาด้านหลังพวกเขา
“ไปได้แล้ว”
ลูซิเลียสฮึดฮัดอยู่สองสามที แล้วจึงสะบัดเสื้อคลุมไปด้านหลังพลางหมุนตัวเดินกลับปราสาท
“พวกเรากลับ!!”
เธอมองภาพนั้น และตัดสินใจพูดเสียงดังตาม
“อ้อ แล้วก็นะ เทรมเบลย์”
ร่างเพรียวที่ภายใต้น่าจะเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเขาหยุดกึก แล้วเบือนหน้ากลับมาเล็กน้อยพร้อมส่งสายตาเชือดเฉือนให้ราวกับจะพูดว่า
มีอะไรก็รีบๆบอก ฉันจะไปหาคนมาอาละวาดแก้เบื่อต่อ
นิมูเอรู้สึกได้ถึงรอยยิ้มร้ายกาจที่คืบคลานขึ้นไปบนใบหน้าของเธอขณะที่ต่อประโยคจนจบ
“วีนัสน่าจะอยู่ที่ระเบียงแถวห้องสมุดนะ...อย่าไปทำเธอตกใจล่ะ”
ลูซิเลียสเบิกตากว้าง ตกตะลึงไปชั่ววินาทีก่อนจะขบกรามแน่นแล้วสะบัดหน้ากลับ
ไอ้อันธพาลเอ๊ย...
เธอเห็นหรอกว่าหน้าเขาแดงตอนที่ประมวลผลเรื่องวีนัสเสร็จ
ก็หวังว่าจะสมหวังแล้วหายจากอาการอันธพาลนี่สักทีนะ เทรมเบลย์
แอบชอบเขามาตั้งแต่ปีห้าจนแอบปีนหอหญิงไปดูเขาหลับเลยไม่ใช่รึไง?
นิมูเอก้มลงมองหญ้าเขียวแถวรองเท้าของเธอ อมยิ้มเงียบๆ
ในที่สุด เธอก็หุบยิ้มลงแล้วหันกลับมาหาร่างสูงด้านหลังที่กำลังยืนก้มหน้าคล้ายเด็กที่ทำผิดแล้วรอโดนลงโทษ
“เพิ่งมาไม่กี่วันก็มีเรื่องแล้วเหรอ เดรซเบียน?”
เจ้าตัวเหลือบขึ้นมามองเธอด้วยดวงตาสีเข้มคู่นั้น แล้วก้มงุดลงไปอีก
“ไปทำอีท่าไหนเทรมเบลย์ถึงได้พาพวกมารุมนายเนี่ย?”
เอคเบิร์นห่อไหล่ ยิ่งดูตัวลีบเล็กไปอีก
อะไรมันจะขี้กลัวขนาดนี้พ่อคุณ
เด็กสาวปัดปอยผมสีน้ำตาลเข้มออกจากดวงตา แล้วพูดด้วยเสียงที่ชัดถ้อยชัดคำกว่าเดิม
“ฉันถาม ทำไมไม่ตอบ?”
ร่างบางก้าวเข้าไป แตะไหล่เขากะจะดึงมันขึ้นมา
แต่ทันใดนั้น เด็กหนุ่มก็ทำสิ่งที่เธอคาดไม่ถึง
เขาสะดุ้งโหยง มือยกขึ้นป้องหัวพลางทรุดลงไปคุดคู้อยู่ตรงโคนต้นไม้
นิมูเอชะงักค้างในตอนที่เห็นรอยอะไรบางอย่างบนผิวสีซีดราวกับนมจืดเย็นๆซึ่งโผล่ออกมาจากแขนเสื้อ
นั่นมัน...
เธอค่อยๆนั่งลงข้างเขา
“เฮ้ เดรซเบียน...ใจเย็นๆ” มือเรียวเอื้อมออกไป ดึงข้อมือของเขามาหาตัวช้าๆ สังเกตลมหายใจที่ติดขัดนั้นเงียบๆ
“หายใจลึกๆ”
เอคเบิร์นสูดหายใจยาว แล้วร่างกายที่เกร็งของเขาก็ค่อยๆสงบลง
“...นะ”
นิมูเอเลิกคิ้ว ก้มลงไปใกล้ๆ
“ไงนะ?”
“ขอโทษนะ” เด็กหนุ่มพูดเสียงเบาหวิว ขยับร่างขึ้นมานั่งให้สบายขึ้น
เธอยิ้มบางๆ
“ไม่เป็นไร หมอนั่นน่ะชอบทำตัวน่าหมั่นไส้แถมกร่างไปทั่วแบบนั้นเป็นปกติอยู่แล้ว”
“แล้วเธอจะไม่เดือดร้อนเหรอ?”
“อย่างเทรมเบลย์น่ะนะ?” เด็กสาวเอนหลังพิงกับต้นไม้ กระตุกหัวคิ้ว
“ถ้ากล้าพอก็ลองดู”
ความเงียบโรยตัวลงระหว่างทั้งสอง
ดวงตาสีฟ้าซีดเหลือบมองแขนเสื้อของคนข้างๆ แล้วถามขึ้น
“นั่นน่ะ...แผลเป็นใช่มั้ย?”
เอคเบิร์นก้มลงมอง สีหน้าซีดเผือดลงเมื่อเห็นว่ารอยเหล่านั้นเปิดเผยออกมาสู่สายตาคนอื่นก่อนจะรีบร้อนดึงเสื้อคลุมลงมาปิดมันจนมิด
“อืม...” เขาอ้อมแอ้มตอบ
เด็กสาวโคลงหัวเป็นเชิงรับรู้ มือเรียวแตะแขนเขาแล้วดึงมาหาช้าๆเหมือนกับตอนที่เขาทรุดลงไปบนพื้น
“ดูหน่อยนะ”
เขาเพียงแค่เบือนใบหน้าหล่อเหลาอมทุกข์นั้นไปอีกทางแล้วยอมให้เธอเลิกแขนเสื้อขึ้นอีกครั้ง
นิมูเอไล้นิ้วไปบนผิวสีขาวซีดราวกับน้ำนมที่ถูกทำให้มีตำหนิด้วยเส้นแผลเป็นคล้ำเหล่านั้น หัวใจอ่อนยวบขณะรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะท้านภายใต้มือ
“...พวกเขาตีนายเหรอ?” เธอถามเบาๆ
“ที่อิลเวอร์มอร์นีน่ะ?”
“อะไรนะ?” ดวงตาสีนิลนั้นหันขวับกลับมา
“เปล่า ไม่ใช่พวกเขาหรอก...จะตีฉันได้ยังไงกัน” ปลายเสียงนั้นแผ่วลงๆเรื่อยๆ
เธอมองแผลเหล่านั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย
“นาย...โดนมากี่ปีแล้ว?”
เขานิ่งไปครู่หนึ่ง
“...ไม่รู้สิ” ใบหน้านั้นดูหม่นเศร้าลงไปอีก
“ตั้งแต่จำความได้ฉันก็อยู่กับอะไรแบบนี้แล้ว...คุณแม่บุญธรรมของฉันเป็นคนเจ้าระเบียบน่ะ”
“เจ้าระเบียบกับโหดร้ายมันคนละอย่างกันนะ” เด็กสาวมุ่นหัวคิ้ว
“เข็มขัดงั้นเหรอ?”
ร่างสูงบางพยักหน้ารับ
“เมอร์ลินช่วย...” เธอถอนหายใจ
“นายเลยตกใจตอนฉันจับใช่มั้ย?”
“ก็ส่วนหนึ่ง” เขาเม้มปาก
“มันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันนึกถึงตอนที่คุณแม่ทำโทษฉันน่ะ”
นิมูเอมองหน้าเขา แล้วม้วนแขนเสื้อเชิ้ตสีขาวพร้อมกับเสื้อคลุมสีดำลงมาปิด
“ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำตัวน่ากลัวใส่นาย”
เขาชะงัก ราวกับว่าเพิ่งได้ยินคำขอโทษเป็นครั้งแรกหลังจากหลายปี
“นายควรจะรู้ไว้ว่าฮอกวอตส์น่ะ เป็นบ้านและที่หลบภัยของพวกเราหลายๆคน” มือเรียวเอื้อมออกมา แตะที่เส้นผมสีปีกกาซึ่งปรกอยู่เหนือคิ้วเข้มคู่นั้นแผ่วเบา
“ฉะนั้น...ให้มันเป็นที่หลบภัยของนายอีกคนเถอะนะ”
เอคเบิร์นตัวแข็งค้างขณะที่เธอค่อยๆลูบหัวเขา เด็กหนุ่มก้มหน้าลงซ่อนสีหน้าไว้ใต้กลุ่มผม
“ขอบ...คุณนะ” เสียงนั้นสั่นตรงปลาย และแผ่ว...แต่เธอกลับได้ยินมันชัดราวกับก้องกังวานอยู่ในหัวใจ
“ขอบคุณ...”
นิมูเอยิ้ม
ดูๆไป...เด็กอเมริกันคนนี้ก็น่าสนใจดีนะ
TALK WITH FM
กลับมาแล้วแหละทุกโค๊นนนนนนนนน
ทายซิ ตกลงเอคเบิร์นคือใคร?
เฉลยตอนหน้าเน้อออ
ไรท์เปิดเทอมแล้ว กว่าจะมีโอกาสมาอัพอีกทีคงนานเลยแหละ ต้องขอโทษล่วงหน้าด้วยนะคะ
เจอกันเมื่อเราเจอกัน(?)ค่ะ 5555
ด้วยรักและผมทรงกะลาครอบ
เฟิงมี่ค่ะ>3<
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

10 ความคิดเห็น
-
#10 _mmeeww_ (จากตอนที่ 3)วันที่ 23 ธันวาคม 2563 / 10:22มาต่อเร็วๆนะค้าาา สนุกมากเรยยย#101
-
#10-1 เฟิงมี่/ดาวเหนือ(จากตอนที่ 3)30 ธันวาคม 2563 / 20:32ขอบคุณค่าาาา รอเราก่อนน้าาาาาาา#10-1
-
-
#9 158295456 (จากตอนที่ 3)วันที่ 23 สิงหาคม 2563 / 00:29มีความสุขอะมากๆเลย#90