คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Dreaming 03
Dreaming 03
เฮอร์ไมโอนี่
สมิธก้มลงมองจอไอโฟนของตนขณะดูดโกโก้หวานน้อยของเธอเข้าปากอีกอึกใหญ่ๆ
เธอแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ถ้าเธอเห็นแก่ตัวกว่านี้สักนิด
แล้วบอกพี่สาวว่าจะอยู่หอเพื่อทำงานให้เสร็จตอนที่พอร์เทียโทรมาขอให้ช่วยไปทำหน้าที่บาร์เทนเดอร์แทนสักคืน
เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
...ให้ตาย
นี่นางฟ้าแห่งโชคชะตากำลังแกล้งเธออยู่ใช่มั้ยเนี่ย?
นางไม้สาวกัดริมฝีปากล่าง
ใบหน้าหวานดูเคร่งเครียดขึ้น
ไทรทันดีกับเธอก็จริง
แต่ว่าความสัมพันธ์แบบนี้ไม่น่าไปรอดเกินปี
เมื่อเขาเจอคู่นอนคนใหม่
เธอก็จะกลายเป็นอดีต
และใช่
เธอรู้ว่าเขาคือใครหลังจากเห็นดวงตาสีฟ้าบาดใจนั่นและได้ยินเขาบอกว่าเป็นเทพแท้
ไม่มีเทพแท้องค์ไหนที่มีดวงตาสีแบบนั้นอีกแล้วนอกจากบุตรแห่งโพไซดอน
และเธอก็ไม่มีวันลืมดวงตาสีนั้นเด็ดขาด
นิ้วเรียวเลื่อนหน้าจอใส
ปัดผ่านรูปในโปรไฟล์ธีตา-จีของร่างสูงที่นอนข้างกายเธอมาตลอดเมื่อคืน
เธอน่ะรู้จักเขาแน่
แต่เขาน่ะสิ...
แม้แต่หน้าตาเธอคงยังจำไม่ได้เลยมั้งถ้าพ้นวันนี้ไปแล้ว
ดวงตาสีน้ำตาลใสละจากรูปเหล่านั้น(ที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นภาพเขาตอนอยู่ริมทะเล)แล้วกลับมาให้ความสนใจกับไอศกรีมรสมิ้นต์ตรงหน้าแทน
เฮอร์ไมโอนี่เป็นนางไม้ทะเลที่ขี้ร้อนมากๆ
นั่นคือสิ่งหนึ่งซึ่งทุกคนรอบตัวเธอเห็นพ้องต้องกัน
นั่นทำให้แม้ตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่ในมุมที่เย็นที่สุดของร้านกาแฟหน้าคณะศิลปะศาสตร์(ที่ติดแอร์)
มันก็ไม่ต่างอะไรจากการนั่งอยู่กลางแจ้งตอนที่อากาศไม่ร้อนไม่เย็นเกินไป
ร่างบางใช้หลอดเขี่ยแก้วโกโก้ที่ตอนนี้เหลือแต่ก้อนน้ำแข็งเคลือบด้วยคราบสีน้ำตาลบางๆ
ประตูร้านกาแฟเปิดขึ้นอีกครั้ง
ดวงหน้าหวานล้ำเงยขึ้นทันใด
เมื่อเห็นว่าเป็นใครก็มีสีหน้าผ่อนคลายลงหลายส่วน
ร่างโปร่งบางที่มีความสูงไล่เลี่ยกับเธอเดินมานั่งข้างๆ
ส่วนอีกคนที่ตัวเล็กกว่าเยอะเลือกเบาะตรงข้ามเธอ
“ไงเกรนเจอร์หัวฟู”
ผู้นั่งด้านข้างถาม
ดวงตาสีเขียวมองเธออย่างเอ็นดูพลางยกมือขึ้นมาลูบผมลอนสีน้ำตาลเข้มนั้น
“พี่...”
เฮอร์ไมโอนี่คราง มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มอย่างอ่อนแรง
“อย่าเรียกแบบนั้น”
พอร์เทีย
สมิธยิ้มอบอุ่นแล้วปลดกระเป๋าสะพายใบสวยของตนออกมาวางบนโต๊ะ
“ไหน...เกิดอะไรขึ้น?
บอกข้าซิ”
หญิงสาวสูดหายใจลึก
“เมื่อคืน
เขาไปรอข้าที่บาร์...ดูเหมือนจะรอมานานแล้วก่อนที่ข้าจะมา
พอข้าเข้าเวรได้แป๊บเดียวเขาก็พาข้ากลับไปที่ห้องเขา หลังจากนั้น...”
ปลายเสียงของเธอสั่นพร่า
“หลังจากนั้น
เราก็...” แล้วเธอก็พูดไม่ออกอีกต่อไป
พี่สาวโอบเธอเข้าไปในอ้อมกอด
เฮอร์ไมโอนี่ซบหน้าลงกับบ่าเธอแล้วปล่อยให้น้ำตาสองสามหยดร่วงออกมา
ทันใดนั้น ราวกับกำแพงอารมณ์ต่างๆที่สะกดกลั้นเอาไว้พังทลายลงมา
“ข้าไม่น่าเลย...”
เธอพึมพำ
“ข้า...ข้าผิดต่อพี่
ผิดต่อท่านแม่”
หญิงสาวอีกคนที่ย้อมผมสีเบบี้พิงค์สะดุดตาเอื้อมมือมาจับมือผอมบางของเธอที่กำแน่นอยู่บนโต๊ะ
“ไม่มีใครโทษเจ้าหรอกจ้ะเฮอร์มี่”
เธอพูดด้วยเสียงปลอบโยน
“มันเป็นเหตุสุดวิสัย”
“ไม่...”
เธอปิดปากตนเองด้วยมืออีกข้างหนึ่งพลางส่ายหน้าไปมา พูดซ้ำๆ
“ไม่ๆๆๆ”
“ถ้าข้าไม่เปิดช่องให้
เขาก็คงไม่...”
“เขาคือใคร?”
พอร์เทียขมวดคิ้วถาม
“พี่
ท่านทำอะไรไม่ได้หรอก” เธอตอบเสียงสั่น
“บอกมาเถอะ”
ผู้เป็นพี่สาวคาดคั้น
“พอร์เทีย”
บุคคลที่สามปราม
“เจ้าอย่าเพิ่งกดดันนางเลย”
“แต่ไอโน...”
เฮอร์ไมโอนี่ปาดน้ำตาลวกๆแล้วลุกขึ้นพร้อมกับกระเป๋าใส่เครื่องเรียนของเธอ
“ข้า...ข้าต้องไปแล้ว”
“เฮอร์มี่”
มือเรียวของนางไม้ตาเขียวรั้งเธอเอาไว้
หญิงสาวมองหน้าพี่สาว
“ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม...ข้าอยากให้เจ้ามีความสุข
ไอโนก็อยากให้เจ้ามีความสุข...ท่านแม่ก็คงจะอยากด้วย”
พอร์เทียไล้นิ้วโป้งบนหลังมือเนียนขาวของน้อง
“พวกเรารักเจ้า
และจะอยู่ตรงนี้เสมอเพื่อเจ้าเสมอนะจ๊ะ”
เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลราวลูกกวางเม้มปาก
ก่อนจะพยักหน้า
“ขอบคุณค่ะ”
เธอเหวี่ยงกระเป๋าเป้ขึ้นบนบ่า
“ไว้มีอะไรข้าจะโทรหา”
“ขอให้นางฟ้าแห่งโชคชะตาอวยพรจ้ะ”
ไอโนทิ้งท้ายพร้อมรอยยิ้ม
แล้วเธอก็เดินออกจากร้าน
สมิธผู้พี่รอจนแน่ใจว่าน้องสาวออกไปแล้วจริงๆ
ก่อนจะหันมาหาเพื่อนสาวร่วมเผ่าพันธุ์
“ในพิเรอุสนี่
เจ้ามีเส้นสายเยอะที่สุดที่ข้ารู้จัก” เธอว่า
“รบกวนเจ้าไปสืบดูให้หน่อยแล้วกัน”
“ไม่ต้องห่วง
พอร์ทส์” เจ้าของผมสีชมพูพาสเทลยิ้ม
“น้องเจ้าก็เหมือนน้องข้า”
“ขอบใจมาก”
ร่างโปร่งลุกขึ้น
“ได้ความคืบหน้าอะไรก็แจ้งข้าด้วยนะ”
“เจ้าจะได้ยลโฉมหน้าไอ้เบื๊อกนั่นภายในหนึ่งเดือนแน่ๆ
สหาย” ไอโนกอดอกแล้วยกขาขึ้นมาไขว้
“อ้อ
แล้วก็ช่วยสั่งลาเต้เย็นเพิ่มวิปครีมให้ข้าแก้วหนึ่งก่อนออกนะ”
“ไม่ต้องห่วง
เดี๋ยวข้าเลี้ยง” คู่สนทนาขยิบตาแล้วหยิบกระเป๋าถือขึ้นมา
“ถือเป็นค่าจ้างสืบข่าว”
ร่างบางของเฮอร์ไมโอนี่ชะงักเมื่อเห็นมอเตอร์ไซค์สีน้ำเงินเข้มอันคุ้นเคยจอดเด่นหราอยู่ตรงลานจอดข้างคณะ
เจ้าของดวงตาสีฟ้าเข้มยืนพิงอยู่ข้างๆมัน
ในมือของเขาคือไอโฟนเครื่องหรูสีเขียวราวกับน้ำทะเล และเขาก็ดูจดจ่อกับมันมากกว่าสภาพแวดล้อมโดยรอบ
เขามาทำอะไรที่คณะเธอ?
เธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่สะดุดไปชั่วขณะหนึ่ง
“เฮอร์มี่!!”
เสียงอันคุ้นเคยทำให้เธอสะดุ้งจากภวังค์แล้วหันไปทางนั้น
“คาล”
หญิงสาวโบกมือทักตอบพลางกระชับสายเป้ในมือแล้วเดินไปอีกทาง
คาลิกซ์
เกรย์สันเป็นหนึ่งในบรรดาเพื่อนสนิทของเธอ เขารู้จักเธอตั้งแต่เข้าปีหนึ่งแรกๆแล้วตั้งแต่นั้น
พวกเขาทั้งสองก็แทบไม่เคยแยกจากกันอีกเลย
ชายหนุ่มบนมอเตอร์ไซค์สีเทาเมทัลลิคส่งยิ้มสว่างไสวให้กับเธอในขณะที่มือบางเอื้อมไปหยิบหมวกกันน็อคมาจากตะกร้าหน้ารถอย่างคุ้นเคย
“วันนี้จะแวะซื้ออะไรกลับไปทำที่หอมั้ย?”
เขาเอี้ยวตัวกลับมาถาม
“ไม่ล่ะ”
เธอส่ายหน้า
“ของยังเต็มอยู่”
“แน่ใจนะ?”
คนผมทองเลิกคิ้ว
“เพราะครั้งล่าสุดที่เธอบอกแบบนี้
เคนดราโทรมาบ่นฉันใหญ่เลยว่าทำไมไม่พาเธอแวะซูเปอร์มาร์เก็ต”
“ฉันเช็คแล้ว”
เธอตบแขนเขาเบาๆ
“แฝดนายก็เช็คแล้วว่าไม่มีอะไรขาดเหลือ”
ใช่
หอที่เธอเช่าอยู่เป็นห้องใหญ่ ทำให้เธอต้องมีรูมเมต
ซึ่งรูมเมตคนนั้นก็คือเคนดรา
เกรย์สัน แฝดพี่ของคาลิกซ์นั่นเอง
“งั้นรีบกลับกันเถอะ
ฉันต้องไปทำงานที่หออีก”
“ครับหัวฟู”
ใบหน้าหวานเบนมองไปในทิศที่เขาคนนั้นยืนอยู่
แล้วเธอก็แทบจะทำหมวกตกพื้นเมื่อพบว่าดวงตาสีฟ้าคู่นั้นไม่ได้จ้องอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์อีกแล้ว
ไทรทันกำลังมองเธออยู่
ในวินาทีนั้น
หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น
“เฮ้”
เสียงของชายหนุ่มข้างกายทำให้ตื่นจากภวังค์ หญิงสาวสะดุ้งเบาๆแล้วหันไปหาเขา
“สรุปจะกลับหอมั้ยเกรนเจอร์”
เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้างเล็กน้อยเพียงเสี้ยวอึดใจ
ก่อนจะตอบออกมาในที่สุด
“ก-กลับสิ
ไปๆๆ”
“เธอโอเคมั้ยเนี่ย?
ช่วงนี้เหม่อบ่อยนะ”
“โอเคสิ”
เธอปั้นหน้าแข็งแรงแล้วยิ้ม
“ไปกันเถอะ”
มือบางสวมหมวกกันน็อคลงบนศีรษะ
ขยับมันเล็กน้อยให้พอดีแล้วตวัดขาขึ้นไปนั่งบนมอเตอร์ไซค์
ก่อนที่คาลิกซ์จะแว้นรถออกไปนั้น
ดวงตาสีน้ำตาลเจ้ากรรมก็ดันเหลือบไปมองเจ้าของมอเตอร์ไซค์คันงามสีเข้มนั่นอีกครั้ง
คุณพระช่วย
เขายังมองเธออยู่
ดวงตาสีฟ้าราวกับเอาส่วนที่ฟ้าที่สุดในโลกมารวมกันจ้องตรงเข้ามาในตาเธอคล้ายกับจะทะลุทะลวงไปถึงเบื้องลึกของจิตใจ
นางไม้สาวละสายตากลับมาที่เพื่อนชาย
เอื้อมมือไปเกาะเอวเขาหลวมๆ
ชายหนุ่มผมทองบิดแฮนด์
แล้วเสียงเครื่องก็ดังขึ้นกว่าเดิมอีกสองสามระดับก่อนที่พวกเขาจะออกไปจากบริเวณนั้น
เฮอร์ไมโอนี่ก้มหน้าลงเล็กน้อย
ว่าแต่...คณะรัฐศาสตร์มันอยู่อีกฝั่งของมหา’ลัยเลยไม่ใช่เหรอ?
แล้วไทรทันมาทำอะไรที่นี่?
บุตรแห่งโพไซดอนมองมอเตอร์ไซค์ที่กำลังห่างออกไปเรื่อยๆ
คิ้วเข้มกดลงอย่างไม่สบอารมณ์
เขามารอเธอที่หน้าคณะตั้งแต่เรียนเสร็จ
นับดูรวมๆแล้วก็ประมาณเกือบชั่วโมงเพราะจำได้ว่าเมื่อเช้าเขาเป็นคนมาส่ง
ฉะนั้นเธอจะไม่มีรถกลับหอ
แล้วดูเธอสิ
เมื่อเช้าใครกันที่บอกว่าชายหญิงที่ไม่ใช่พี่น้องไม่ควรแตะตัวกัน
เพิ่งพูดอยู่หยกๆแล้วก็เดินขึ้นมอเตอร์ไซค์ไปกับผู้ชายเนี่ยนะ?
สาวน้อยของเขาคนนี้นี่...
มันน่าจับตีจริงๆ
“ได้ข่าวว่าคณะรัฐศาสตร์อยู่ฝั่งโน้นไม่ใช่รึไง?”
เสียงยานคางของใครบางคนดังขึ้น
ร่างโปร่งที่มีส่วนสูงมากกว่าเขาอยู่ค่อนข้างเยอะเดินเข้ามาหาพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่ล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง
เทพหนุ่มกรอกตา
ไอ้นี่...
กวนตีนไม่เปลี่ยนจริงๆ
“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า”
อีกฝ่ายเบิกตาสีเขียวอ่อนที่ได้รับการขนานนามจากสาวหลายต่อหลายคนว่าชวนฝัน
แล้วกระตุกยิ้มมุมปาก
“แหม
ญาติที่รัก” เขามีสีหน้าเรียบนิ่ง...อย่างที่เป็นทุกที
“เรื่องของเจ้า...”
หลังมือใหญ่ตบลงที่แขนของเขา ทำให้บุตรแห่งโพไซดอนย่นหัวคิ้ว
ชายหนุ่มตาเขียวใช้นิ้วโป้งของมือข้างเดียวกันนั้นชี้ลงที่อกตัวเอง
“...ก็คือเรื่องของข้า”
“ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เจ้ารับเป็นสายคอยดูแลข้าให้ท่านแม่ข้า
โบรีอัส?”
โบรีอัสเสตาไปทางอื่น
ในสายตาของคนทั่วไปมันอาจดูครุ่นคิดเคร่งเครียด
แต่สำหรับเขา มันคือการหยอกล้ออย่างหนึ่ง
“ก็...ไม่รู้สิ”
“อย่ายุ่งแล้วกัน”
เขาสะบัดเสียงห้วนใส่ญาติอีกคนของเขา
ชายหนุ่มทั้งสองยืนอยู่ข้างกัน
บังเกิดความเงียบแทรกระหว่างพวกเขาครู่หนึ่ง
“ว่าแต่...”ดวงตาสีฟ้าจัดเหลือบมองเทพข้างกาย
“เจ้ามาทำอะไรที่พิเรอุส?”
โบรีอัสปรายตามองกลับอย่างนิ่งสงบ
“ได้ข่าวว่ามาเรียนต่อ
ก็เลยมาดูเจ้าสักหน่อย” เขาตอบ เสตากลับไปมองทัศนียภาพด้านหน้าเหมือนเดิม
“เป็นห่วง...กลัวว่าเจ้าจะเรียนไม่ไหวจนสมองระเบิดตายไปซะก่อน”
“เกือบจะดีแล้วเชียว
ไอ้หนุ่มลมหนาว” เขาส่ายหน้า
ในใจอบอุ่นขึ้นเล็กน้อยจนมุมปากอดไม่ได้ที่จะบิดโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ
“สาวน้อยตาหวานเมื่อกี้...”
เทพลมหนาวเอียงคอถาม
“คู่ควงเจ้าเหรอ?”
เขาถอนหายใจยาว
“จะอธิบายยังไงให้มันง่ายดีล่ะ...”
“เอาเป็นว่า
ข้าอยากหาคู่นอนเลยให้ดีเอ็นมันช่วยดูให้”
“สาวเอวบางร่างน้อย?”
คิ้วสีน้ำตาลเข้มของโบรีอัสเลิกขึ้น
“ไม่ใช่เสป็คเจ้าเลยนะ”
“นั่นแหละ”
เทพส่งสารแห่งท้องทะเลทำเสียงจิ๊จ๊ะ
“แต่ก็น่ารักดี
ข้าชอบ”
“ไดโอนีซัสก็เก่งเรื่องจับคู่อยู่นะเนี่ย”
คู่สนทนากอดอก พยักหน้าช้าๆ
“เปล่า
เขาแนะนำอีกคนมา...ข้าพาเข้าห้องผิดคน” ปลายเสียงเบาหวิว
“นั่นน้องสาวนาง”
“อ๋อ...”
สีหน้าของคนตัวสูงปรี๊ดยังนิ่งอยู่
แต่ทันใดนั้นก็เบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อหูเมื่อซึมซับข้อมูลทั้งหมดเข้าไปในสมองเรียบร้อย
“เฮ้ย
ว่าไงนะ?!!”
“เป็นครั้งแรกในรอบหลายพันปีที่หน้าเจ้าหลุดขนาดนี้
ญาติข้า” เขาหัวเราะในลำคอ
“เจ้าบอกข้าทีว่าข้าฟังไม่ผิด”
โบรีอัสอ้าปากค้าง
“ไทรทัน
เดอะ เพลย์บอยพาผู้หญิงเข้าห้องผิดคน?”
เทพส่งสารแห่งท้องทะเลหลับตาลงอย่างอดกลั้น
“...เออ”
“โดนพวกมอยเร*เล่นเข้าแล้วไงเจ้าเอ๋ย”
เทพผมน้ำตาลเข้มกลั้นยิ้มขบขัน
“ถ้าเจ้ายิ้มอีกที
โบรีอัส ข้าสาบานด้วยแตรสังข์ของข้า...”
“จ้ะๆ
ไม่ยิ้มแล้ว” คนตาเขียวปรับสีหน้ากลับมานิ่งเรียบเหมือนปกติ
“งั้นข้าไปก่อนแล้วกัน”
เขาล้วงมือข้างหนึ่งลงไปในกระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม อีกข้างจับบ่าญาติชาย
“โชคดี...แล้วก็
มีอะไรก็โทรหาเราได้นะ
พวกเทพรุ่นเยาว์ก็คิดถึงเจ้ามากเหมือนกันแต่มาเยี่ยมไม่ได้เพราะติดงาน”
“เข้าใจแล้ว”
ไทรทันยิ้มบางๆ
“ฝากคำอวยพรถึงพวกเขาด้วย”
หนึ่งในสี่วายุเทพยิ้มมุมปาก
ตบบ่ากว้างสองสามทีแล้วเดินจากไปอย่างสบายใจ
ชายหนุ่มผมดำก้มลงมองพื้น
พ่นลมหายใจเบาๆ
สุดท้าย...ถ่อมาถึงนี่ก็เพื่อดูแม่สาวน้อยของเขาไปกับชายอื่นแค่นั้นเอง
ช่างมันเถอะ
...ครั้งนี้คงต้องปล่อยไปก่อน
เอาไว้ครั้งหน้าจะมาดักรอถึงหน้าห้องเรียนเลย
*มอยเร - (หรือนางฟ้าแห่งโชคชะตา) เทพแห่งโชคชะตาตามความเชื่อของชาวกรีกโบราณ เป็นธิดาของซุสกับเทพีธีมิส ทำหน้าที่กำหนดชะตาของสิ่งมีชีวิต มีทั้งหมดสามองค์ คือโคลโธ(ปั่นด้าย-สร้างชีวิต) ลาเคซิส(ฟั่นด้าย-ทำให้ชีวิตเติบโตแข็งแรง) และอะโทรพอส(ตัดด้าย-จบชีวิตของเจ้าของด้าย)
TALK WITH FM
ปฏิบัติการรุกจีบของชายใหญ่จะเริ่มแล้วววว
เราได้ทำการเปิดตัวพี่ลมหนาวโบรีอัสอย่างยื่งใหญ่แล้วนะคะ
555
ถ้ามีอารมณ์
ก็คงจะทำคลังฟิครวมวันช็อตแก๊งเทพรุ่นเยาว์แหละค่ะ
ช่วงนี้รักษาสุขภาพด้วยนะคะทุกคน
เป็นห่วงมากๆเลย(ข้าวยากหมากแพง ลำบากหน่อยนะคะ สู้ๆ)
เราจะผ่านมันไปด้วยกันค่ะ
เจอกันตอนหน้าเน้อ
ด้วยรักและแตรสังข์
เฟิงมี่ค่ะ>3<
ความคิดเห็น