ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    〖Young Gods〗 Day Dreaming || Triton

    ลำดับตอนที่ #3 : Dreaming 03

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 73
      5
      27 มี.ค. 63

    Dreaming 03

     

     

           เฮอร์ไมโอนี่ สมิธก้มลงมองจอไอโฟนของตนขณะดูดโกโก้หวานน้อยของเธอเข้าปากอีกอึกใหญ่ๆ

     

           เธอแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง

     

           ถ้าเธอเห็นแก่ตัวกว่านี้สักนิด แล้วบอกพี่สาวว่าจะอยู่หอเพื่อทำงานให้เสร็จตอนที่พอร์เทียโทรมาขอให้ช่วยไปทำหน้าที่บาร์เทนเดอร์แทนสักคืน เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น

     

           ...ให้ตาย นี่นางฟ้าแห่งโชคชะตากำลังแกล้งเธออยู่ใช่มั้ยเนี่ย?

     

           นางไม้สาวกัดริมฝีปากล่าง ใบหน้าหวานดูเคร่งเครียดขึ้น

     

           ไทรทันดีกับเธอก็จริง แต่ว่าความสัมพันธ์แบบนี้ไม่น่าไปรอดเกินปี

     

           เมื่อเขาเจอคู่นอนคนใหม่ เธอก็จะกลายเป็นอดีต

     

           และใช่ เธอรู้ว่าเขาคือใครหลังจากเห็นดวงตาสีฟ้าบาดใจนั่นและได้ยินเขาบอกว่าเป็นเทพแท้

     

           ไม่มีเทพแท้องค์ไหนที่มีดวงตาสีแบบนั้นอีกแล้วนอกจากบุตรแห่งโพไซดอน

     

           และเธอก็ไม่มีวันลืมดวงตาสีนั้นเด็ดขาด

     

           นิ้วเรียวเลื่อนหน้าจอใส ปัดผ่านรูปในโปรไฟล์ธีตา-จีของร่างสูงที่นอนข้างกายเธอมาตลอดเมื่อคืน

     

           เธอน่ะรู้จักเขาแน่

     

           แต่เขาน่ะสิ...

           แม้แต่หน้าตาเธอคงยังจำไม่ได้เลยมั้งถ้าพ้นวันนี้ไปแล้ว

     

           ดวงตาสีน้ำตาลใสละจากรูปเหล่านั้น(ที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นภาพเขาตอนอยู่ริมทะเล)แล้วกลับมาให้ความสนใจกับไอศกรีมรสมิ้นต์ตรงหน้าแทน

     

           เฮอร์ไมโอนี่เป็นนางไม้ทะเลที่ขี้ร้อนมากๆ นั่นคือสิ่งหนึ่งซึ่งทุกคนรอบตัวเธอเห็นพ้องต้องกัน

     

           นั่นทำให้แม้ตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่ในมุมที่เย็นที่สุดของร้านกาแฟหน้าคณะศิลปะศาสตร์(ที่ติดแอร์) มันก็ไม่ต่างอะไรจากการนั่งอยู่กลางแจ้งตอนที่อากาศไม่ร้อนไม่เย็นเกินไป

     

           ร่างบางใช้หลอดเขี่ยแก้วโกโก้ที่ตอนนี้เหลือแต่ก้อนน้ำแข็งเคลือบด้วยคราบสีน้ำตาลบางๆ

     

           ประตูร้านกาแฟเปิดขึ้นอีกครั้ง

     

           ดวงหน้าหวานล้ำเงยขึ้นทันใด เมื่อเห็นว่าเป็นใครก็มีสีหน้าผ่อนคลายลงหลายส่วน

     

           ร่างโปร่งบางที่มีความสูงไล่เลี่ยกับเธอเดินมานั่งข้างๆ ส่วนอีกคนที่ตัวเล็กกว่าเยอะเลือกเบาะตรงข้ามเธอ

     

           “ไงเกรนเจอร์หัวฟู” ผู้นั่งด้านข้างถาม ดวงตาสีเขียวมองเธออย่างเอ็นดูพลางยกมือขึ้นมาลูบผมลอนสีน้ำตาลเข้มนั้น

     

           “พี่...” เฮอร์ไมโอนี่คราง มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มอย่างอ่อนแรง

           “อย่าเรียกแบบนั้น”

     

           พอร์เทีย สมิธยิ้มอบอุ่นแล้วปลดกระเป๋าสะพายใบสวยของตนออกมาวางบนโต๊ะ

     

           “ไหน...เกิดอะไรขึ้น? บอกข้าซิ”

     

           หญิงสาวสูดหายใจลึก

           “เมื่อคืน เขาไปรอข้าที่บาร์...ดูเหมือนจะรอมานานแล้วก่อนที่ข้าจะมา พอข้าเข้าเวรได้แป๊บเดียวเขาก็พาข้ากลับไปที่ห้องเขา หลังจากนั้น...”

     

           ปลายเสียงของเธอสั่นพร่า

     

           “หลังจากนั้น เราก็...” แล้วเธอก็พูดไม่ออกอีกต่อไป

     

           พี่สาวโอบเธอเข้าไปในอ้อมกอด เฮอร์ไมโอนี่ซบหน้าลงกับบ่าเธอแล้วปล่อยให้น้ำตาสองสามหยดร่วงออกมา

     

           ทันใดนั้น ราวกับกำแพงอารมณ์ต่างๆที่สะกดกลั้นเอาไว้พังทลายลงมา

     

           “ข้าไม่น่าเลย...” เธอพึมพำ

           “ข้า...ข้าผิดต่อพี่ ผิดต่อท่านแม่”

     

           หญิงสาวอีกคนที่ย้อมผมสีเบบี้พิงค์สะดุดตาเอื้อมมือมาจับมือผอมบางของเธอที่กำแน่นอยู่บนโต๊ะ

     

           “ไม่มีใครโทษเจ้าหรอกจ้ะเฮอร์มี่” เธอพูดด้วยเสียงปลอบโยน

           “มันเป็นเหตุสุดวิสัย”

     

           “ไม่...” เธอปิดปากตนเองด้วยมืออีกข้างหนึ่งพลางส่ายหน้าไปมา พูดซ้ำๆ

           “ไม่ๆๆๆ”

     

           “ถ้าข้าไม่เปิดช่องให้ เขาก็คงไม่...”

     

           “เขาคือใคร?” พอร์เทียขมวดคิ้วถาม

     

           “พี่ ท่านทำอะไรไม่ได้หรอก” เธอตอบเสียงสั่น

     

           “บอกมาเถอะ” ผู้เป็นพี่สาวคาดคั้น

     

           “พอร์เทีย” บุคคลที่สามปราม

           “เจ้าอย่าเพิ่งกดดันนางเลย”

     

           “แต่ไอโน...”

     

           เฮอร์ไมโอนี่ปาดน้ำตาลวกๆแล้วลุกขึ้นพร้อมกับกระเป๋าใส่เครื่องเรียนของเธอ

     

           “ข้า...ข้าต้องไปแล้ว”

     

           “เฮอร์มี่” มือเรียวของนางไม้ตาเขียวรั้งเธอเอาไว้

     

           หญิงสาวมองหน้าพี่สาว

     

           “ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม...ข้าอยากให้เจ้ามีความสุข ไอโนก็อยากให้เจ้ามีความสุข...ท่านแม่ก็คงจะอยากด้วย” พอร์เทียไล้นิ้วโป้งบนหลังมือเนียนขาวของน้อง

     

           “พวกเรารักเจ้า และจะอยู่ตรงนี้เสมอเพื่อเจ้าเสมอนะจ๊ะ”

     

           เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลราวลูกกวางเม้มปาก ก่อนจะพยักหน้า

     

           “ขอบคุณค่ะ” เธอเหวี่ยงกระเป๋าเป้ขึ้นบนบ่า

           “ไว้มีอะไรข้าจะโทรหา”

     

           “ขอให้นางฟ้าแห่งโชคชะตาอวยพรจ้ะ” ไอโนทิ้งท้ายพร้อมรอยยิ้ม

     

           แล้วเธอก็เดินออกจากร้าน

     

           สมิธผู้พี่รอจนแน่ใจว่าน้องสาวออกไปแล้วจริงๆ ก่อนจะหันมาหาเพื่อนสาวร่วมเผ่าพันธุ์

     

           “ในพิเรอุสนี่ เจ้ามีเส้นสายเยอะที่สุดที่ข้ารู้จัก” เธอว่า

           “รบกวนเจ้าไปสืบดูให้หน่อยแล้วกัน”

     

           “ไม่ต้องห่วง พอร์ทส์” เจ้าของผมสีชมพูพาสเทลยิ้ม

     

           “น้องเจ้าก็เหมือนน้องข้า”

     

           “ขอบใจมาก” ร่างโปร่งลุกขึ้น

           “ได้ความคืบหน้าอะไรก็แจ้งข้าด้วยนะ”

     

           “เจ้าจะได้ยลโฉมหน้าไอ้เบื๊อกนั่นภายในหนึ่งเดือนแน่ๆ สหาย” ไอโนกอดอกแล้วยกขาขึ้นมาไขว้

           “อ้อ แล้วก็ช่วยสั่งลาเต้เย็นเพิ่มวิปครีมให้ข้าแก้วหนึ่งก่อนออกนะ”

     

           “ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวข้าเลี้ยง” คู่สนทนาขยิบตาแล้วหยิบกระเป๋าถือขึ้นมา

           “ถือเป็นค่าจ้างสืบข่าว”

     

     

     





     

     

     

           ร่างบางของเฮอร์ไมโอนี่ชะงักเมื่อเห็นมอเตอร์ไซค์สีน้ำเงินเข้มอันคุ้นเคยจอดเด่นหราอยู่ตรงลานจอดข้างคณะ

     

           เจ้าของดวงตาสีฟ้าเข้มยืนพิงอยู่ข้างๆมัน ในมือของเขาคือไอโฟนเครื่องหรูสีเขียวราวกับน้ำทะเล และเขาก็ดูจดจ่อกับมันมากกว่าสภาพแวดล้อมโดยรอบ

     

           เขามาทำอะไรที่คณะเธอ?

     

           เธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่สะดุดไปชั่วขณะหนึ่ง

     

           “เฮอร์มี่!!” เสียงอันคุ้นเคยทำให้เธอสะดุ้งจากภวังค์แล้วหันไปทางนั้น

     

           “คาล” หญิงสาวโบกมือทักตอบพลางกระชับสายเป้ในมือแล้วเดินไปอีกทาง

     

           คาลิกซ์ เกรย์สันเป็นหนึ่งในบรรดาเพื่อนสนิทของเธอ เขารู้จักเธอตั้งแต่เข้าปีหนึ่งแรกๆแล้วตั้งแต่นั้น พวกเขาทั้งสองก็แทบไม่เคยแยกจากกันอีกเลย

     

           ชายหนุ่มบนมอเตอร์ไซค์สีเทาเมทัลลิคส่งยิ้มสว่างไสวให้กับเธอในขณะที่มือบางเอื้อมไปหยิบหมวกกันน็อคมาจากตะกร้าหน้ารถอย่างคุ้นเคย

     

           “วันนี้จะแวะซื้ออะไรกลับไปทำที่หอมั้ย?” เขาเอี้ยวตัวกลับมาถาม

     

           “ไม่ล่ะ” เธอส่ายหน้า

           “ของยังเต็มอยู่”

     

           “แน่ใจนะ?” คนผมทองเลิกคิ้ว

     

           “เพราะครั้งล่าสุดที่เธอบอกแบบนี้ เคนดราโทรมาบ่นฉันใหญ่เลยว่าทำไมไม่พาเธอแวะซูเปอร์มาร์เก็ต”

     

           “ฉันเช็คแล้ว” เธอตบแขนเขาเบาๆ

           “แฝดนายก็เช็คแล้วว่าไม่มีอะไรขาดเหลือ”

     

           ใช่ หอที่เธอเช่าอยู่เป็นห้องใหญ่ ทำให้เธอต้องมีรูมเมต

           ซึ่งรูมเมตคนนั้นก็คือเคนดรา เกรย์สัน แฝดพี่ของคาลิกซ์นั่นเอง

     

           “งั้นรีบกลับกันเถอะ ฉันต้องไปทำงานที่หออีก”

     

           “ครับหัวฟู”

     

           ใบหน้าหวานเบนมองไปในทิศที่เขาคนนั้นยืนอยู่ แล้วเธอก็แทบจะทำหมวกตกพื้นเมื่อพบว่าดวงตาสีฟ้าคู่นั้นไม่ได้จ้องอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์อีกแล้ว

     

           ไทรทันกำลังมองเธออยู่

     

           ในวินาทีนั้น หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น

     

           “เฮ้” เสียงของชายหนุ่มข้างกายทำให้ตื่นจากภวังค์ หญิงสาวสะดุ้งเบาๆแล้วหันไปหาเขา

     

           “สรุปจะกลับหอมั้ยเกรนเจอร์”

     

           เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้างเล็กน้อยเพียงเสี้ยวอึดใจ ก่อนจะตอบออกมาในที่สุด

     

           “ก-กลับสิ ไปๆๆ”

     

           “เธอโอเคมั้ยเนี่ย? ช่วงนี้เหม่อบ่อยนะ”

     

           “โอเคสิ” เธอปั้นหน้าแข็งแรงแล้วยิ้ม

           “ไปกันเถอะ”

     

           มือบางสวมหมวกกันน็อคลงบนศีรษะ ขยับมันเล็กน้อยให้พอดีแล้วตวัดขาขึ้นไปนั่งบนมอเตอร์ไซค์

     

           ก่อนที่คาลิกซ์จะแว้นรถออกไปนั้น ดวงตาสีน้ำตาลเจ้ากรรมก็ดันเหลือบไปมองเจ้าของมอเตอร์ไซค์คันงามสีเข้มนั่นอีกครั้ง

     

           คุณพระช่วย

     

           เขายังมองเธออยู่

     

           ดวงตาสีฟ้าราวกับเอาส่วนที่ฟ้าที่สุดในโลกมารวมกันจ้องตรงเข้ามาในตาเธอคล้ายกับจะทะลุทะลวงไปถึงเบื้องลึกของจิตใจ

     

           นางไม้สาวละสายตากลับมาที่เพื่อนชาย เอื้อมมือไปเกาะเอวเขาหลวมๆ

     

           ชายหนุ่มผมทองบิดแฮนด์ แล้วเสียงเครื่องก็ดังขึ้นกว่าเดิมอีกสองสามระดับก่อนที่พวกเขาจะออกไปจากบริเวณนั้น

     

           เฮอร์ไมโอนี่ก้มหน้าลงเล็กน้อย

           ว่าแต่...คณะรัฐศาสตร์มันอยู่อีกฝั่งของมหา’ลัยเลยไม่ใช่เหรอ?

     

           แล้วไทรทันมาทำอะไรที่นี่?

     

     

     

     

     

     

     

     

     

           บุตรแห่งโพไซดอนมองมอเตอร์ไซค์ที่กำลังห่างออกไปเรื่อยๆ

     

           คิ้วเข้มกดลงอย่างไม่สบอารมณ์

     

           เขามารอเธอที่หน้าคณะตั้งแต่เรียนเสร็จ นับดูรวมๆแล้วก็ประมาณเกือบชั่วโมงเพราะจำได้ว่าเมื่อเช้าเขาเป็นคนมาส่ง ฉะนั้นเธอจะไม่มีรถกลับหอ

     

           แล้วดูเธอสิ

     

           เมื่อเช้าใครกันที่บอกว่าชายหญิงที่ไม่ใช่พี่น้องไม่ควรแตะตัวกัน

     

           เพิ่งพูดอยู่หยกๆแล้วก็เดินขึ้นมอเตอร์ไซค์ไปกับผู้ชายเนี่ยนะ?

     

           สาวน้อยของเขาคนนี้นี่...

     

           มันน่าจับตีจริงๆ

     

           “ได้ข่าวว่าคณะรัฐศาสตร์อยู่ฝั่งโน้นไม่ใช่รึไง?” เสียงยานคางของใครบางคนดังขึ้น ร่างโปร่งที่มีส่วนสูงมากกว่าเขาอยู่ค่อนข้างเยอะเดินเข้ามาหาพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่ล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง

     

           เทพหนุ่มกรอกตา

     

           ไอ้นี่...

           กวนตีนไม่เปลี่ยนจริงๆ

     

           “ไม่ใช่เรื่องของเจ้า”

     

           อีกฝ่ายเบิกตาสีเขียวอ่อนที่ได้รับการขนานนามจากสาวหลายต่อหลายคนว่าชวนฝัน แล้วกระตุกยิ้มมุมปาก

     

           “แหม ญาติที่รัก” เขามีสีหน้าเรียบนิ่ง...อย่างที่เป็นทุกที

     

           “เรื่องของเจ้า...” หลังมือใหญ่ตบลงที่แขนของเขา ทำให้บุตรแห่งโพไซดอนย่นหัวคิ้ว

     

           ชายหนุ่มตาเขียวใช้นิ้วโป้งของมือข้างเดียวกันนั้นชี้ลงที่อกตัวเอง

     

           “...ก็คือเรื่องของข้า”

     

           “ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เจ้ารับเป็นสายคอยดูแลข้าให้ท่านแม่ข้า โบรีอัส?”

     

           โบรีอัสเสตาไปทางอื่น

           ในสายตาของคนทั่วไปมันอาจดูครุ่นคิดเคร่งเครียด แต่สำหรับเขา มันคือการหยอกล้ออย่างหนึ่ง

     

           “ก็...ไม่รู้สิ”

     

           “อย่ายุ่งแล้วกัน” เขาสะบัดเสียงห้วนใส่ญาติอีกคนของเขา

     

           ชายหนุ่มทั้งสองยืนอยู่ข้างกัน บังเกิดความเงียบแทรกระหว่างพวกเขาครู่หนึ่ง

     

           “ว่าแต่...”ดวงตาสีฟ้าจัดเหลือบมองเทพข้างกาย

           “เจ้ามาทำอะไรที่พิเรอุส?”

     

           โบรีอัสปรายตามองกลับอย่างนิ่งสงบ

     

           “ได้ข่าวว่ามาเรียนต่อ ก็เลยมาดูเจ้าสักหน่อย” เขาตอบ เสตากลับไปมองทัศนียภาพด้านหน้าเหมือนเดิม

           “เป็นห่วง...กลัวว่าเจ้าจะเรียนไม่ไหวจนสมองระเบิดตายไปซะก่อน”

     

           “เกือบจะดีแล้วเชียว ไอ้หนุ่มลมหนาว” เขาส่ายหน้า ในใจอบอุ่นขึ้นเล็กน้อยจนมุมปากอดไม่ได้ที่จะบิดโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ

     

           “สาวน้อยตาหวานเมื่อกี้...” เทพลมหนาวเอียงคอถาม

           “คู่ควงเจ้าเหรอ?”

     

           เขาถอนหายใจยาว

           “จะอธิบายยังไงให้มันง่ายดีล่ะ...”

     

           “เอาเป็นว่า ข้าอยากหาคู่นอนเลยให้ดีเอ็นมันช่วยดูให้”

     

           “สาวเอวบางร่างน้อย?” คิ้วสีน้ำตาลเข้มของโบรีอัสเลิกขึ้น

           “ไม่ใช่เสป็คเจ้าเลยนะ”

     

           “นั่นแหละ” เทพส่งสารแห่งท้องทะเลทำเสียงจิ๊จ๊ะ

           “แต่ก็น่ารักดี ข้าชอบ”

     

           “ไดโอนีซัสก็เก่งเรื่องจับคู่อยู่นะเนี่ย” คู่สนทนากอดอก พยักหน้าช้าๆ

     

           “เปล่า เขาแนะนำอีกคนมา...ข้าพาเข้าห้องผิดคน” ปลายเสียงเบาหวิว

           “นั่นน้องสาวนาง”

     

           “อ๋อ...” สีหน้าของคนตัวสูงปรี๊ดยังนิ่งอยู่ แต่ทันใดนั้นก็เบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อหูเมื่อซึมซับข้อมูลทั้งหมดเข้าไปในสมองเรียบร้อย

           “เฮ้ย ว่าไงนะ?!!”

     

           “เป็นครั้งแรกในรอบหลายพันปีที่หน้าเจ้าหลุดขนาดนี้ ญาติข้า” เขาหัวเราะในลำคอ

     

           “เจ้าบอกข้าทีว่าข้าฟังไม่ผิด” โบรีอัสอ้าปากค้าง

     

           “ไทรทัน เดอะ เพลย์บอยพาผู้หญิงเข้าห้องผิดคน?”

     

           เทพส่งสารแห่งท้องทะเลหลับตาลงอย่างอดกลั้น

           “...เออ”

     

           “โดนพวกมอยเร*เล่นเข้าแล้วไงเจ้าเอ๋ย” เทพผมน้ำตาลเข้มกลั้นยิ้มขบขัน

     

           “ถ้าเจ้ายิ้มอีกที โบรีอัส ข้าสาบานด้วยแตรสังข์ของข้า...”

     

           “จ้ะๆ ไม่ยิ้มแล้ว” คนตาเขียวปรับสีหน้ากลับมานิ่งเรียบเหมือนปกติ

     

           “งั้นข้าไปก่อนแล้วกัน” เขาล้วงมือข้างหนึ่งลงไปในกระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม อีกข้างจับบ่าญาติชาย

           “โชคดี...แล้วก็ มีอะไรก็โทรหาเราได้นะ พวกเทพรุ่นเยาว์ก็คิดถึงเจ้ามากเหมือนกันแต่มาเยี่ยมไม่ได้เพราะติดงาน”

     

           “เข้าใจแล้ว” ไทรทันยิ้มบางๆ

           “ฝากคำอวยพรถึงพวกเขาด้วย”

     

           หนึ่งในสี่วายุเทพยิ้มมุมปาก ตบบ่ากว้างสองสามทีแล้วเดินจากไปอย่างสบายใจ

     

           ชายหนุ่มผมดำก้มลงมองพื้น พ่นลมหายใจเบาๆ

     

           สุดท้าย...ถ่อมาถึงนี่ก็เพื่อดูแม่สาวน้อยของเขาไปกับชายอื่นแค่นั้นเอง

     

           ช่างมันเถอะ

           ...ครั้งนี้คงต้องปล่อยไปก่อน

     

           เอาไว้ครั้งหน้าจะมาดักรอถึงหน้าห้องเรียนเลย

     



    *มอยเร - (หรือนางฟ้าแห่งโชคชะตา) เทพแห่งโชคชะตาตามความเชื่อของชาวกรีกโบราณ เป็นธิดาของซุสกับเทพีธีมิส ทำหน้าที่กำหนดชะตาของสิ่งมีชีวิต มีทั้งหมดสามองค์ คือโคลโธ(ปั่นด้าย-สร้างชีวิต) ลาเคซิส(ฟั่นด้าย-ทำให้ชีวิตเติบโตแข็งแรง) และอะโทรพอส(ตัดด้าย-จบชีวิตของเจ้าของด้าย)








     

    TALK WITH FM

    ปฏิบัติการรุกจีบของชายใหญ่จะเริ่มแล้วววว

    เราได้ทำการเปิดตัวพี่ลมหนาวโบรีอัสอย่างยื่งใหญ่แล้วนะคะ 555

    ถ้ามีอารมณ์ ก็คงจะทำคลังฟิครวมวันช็อตแก๊งเทพรุ่นเยาว์แหละค่ะ

    ช่วงนี้รักษาสุขภาพด้วยนะคะทุกคน เป็นห่วงมากๆเลย(ข้าวยากหมากแพง ลำบากหน่อยนะคะ สู้ๆ)

    เราจะผ่านมันไปด้วยกันค่ะ

    เจอกันตอนหน้าเน้อ

    ด้วยรักและแตรสังข์

    เฟิงมี่ค่ะ>3<

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×