ตอนที่ 1 : Ocean 01
Ocean 01
ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มที่นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงพลางเปิดหนังสือเด้งตัวขึ้นทันทีที่ม่านพลังสีฟ้าใสที่กางกั้นเขาจากโลกภายนอกสลายลง ปล่อยให้อีกร่างที่สูงใหญ่พอๆกันเดินเข้ามา
“มีอะไรรึ?” เขาถามออกไป แม้เสียงจะห้วนไปบ้างแต่ก็อ่อนลงจากเมื่อตอนเพิ่งเจอกันใหม่ๆมาก
“ฉันเพิ่งไปประชุมมา ราชินีเงือกกับราชาไบรน์อยากรู้ว่าฉันจะทำไงกับนายต่อไป” ผู้มาใหม่ว่าพลางทิ้งตัวลงนั่งปลายเตียง ผมสีน้ำตาลปนทองยาวระเข่าเมื่อเขาก้มหน้าลงและชำเลืองมาทางอีกคน
ผู้ฟังเอียงคอและปิดอุปกรณ์ไฮเทคที่ดูคล้ายหนังสือลงพลางวางมันไว้ที่โต๊ะข้างกาย
“ประหารสินะ? เริ่มเมื่อไหร่ล่ะ ฉันขออาหารดีๆก่อนตายก็พอ”
ร่างกำยำผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายขยับเล็กน้อย
“ออร์ม ฉันไม่ให้นายตายหรอกน่า”
ออร์ม มาริอุสเลิกคิ้ว
“แล้วจะเอาไงล่ะอาร์เธอร์? นายขังฉันไว้แบบนี้ไม่ได้ตลอดไปหรอกนะ”
“ก็ไม่ได้จะขัง” เจ้าสมุทรคนปัจจุบัน อาร์เธอร์ เคอร์รี่ยักคิ้วเข้มๆที่มีรอยบากเล็กน้อย
“ฉันมีทางออกที่ดีกว่านั้น”
“อ้อ งั้นสิพี่ชาย...ว่ามาซิ” อดีตราชาแห่งแอตแลนติสขยับมานั่งห้อยขาบนเตียงข้างพี่ชายต่างพ่อ
“เห็นนายบอกว่าเกลียดโลกเบื้องบนนักหนา...”
ดวงตาสีฟ้าที่ปกติจะนิ่งๆเบิกกว้าง
ออร์มไม่ใช่คนโง่แบบที่คำใบ้มาอยู่ตรงหน้าแล้วจะแก้ปริศนาไม่ได้
โพไซดอนช่วย
อย่าบอกนะว่า...
“ยินดีด้วยน้องชาย นายได้ตั๋วขาเดียวที่ยังไม่มีกำหนดกลับไปโลกเบื้องบนว่ะ” พี่ชายยิ้มยิงฟันขาว
ณ เวลานี้ แม้แต่มือหนักๆที่ตบลงมาที่บ่าเขาอย่างเน้นๆก็ไม่สามารถทำให้ชายหนุ่มผมสีสว่างรู้สึกตัวได้อีก
ฆ่าฉันเถอะ...
ได้แต่โอดครวญในใจ
“ไม่ต้องห่วงน่า ไม่เกินปีแน่นอน ถือเป็นบทลงโทษที่โอเคกว่าการถูกประหารแล้วกันนะ”
ออร์มผ่อนลมหายใจ ดวงตากลอกไปมาอย่างตระหนก ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา
“...ออกไป”
“ว่าไงนะ?”
“ออกไปจากห้องฉันก่อน อาร์เธอร์”
“อ้าว...ทำไมอ่ะ? อยากคิดเหรอ? ไม่เป็นไร ฉันนั่งเฉยๆก็ได้น่า--”
“บอกให้ออกไปไงวะ!!!” ร่างสูงลูกขึ้นพลางคำราม
และแล้ว เจ้าสมุทรผู้ยิ่งใหญ่ก็ถูกน้องชายตัวเองโยนออกมาจากห้องขัง ม่านพลังสีฟ้าผุดขึ้นกางกั้นทั้งสองอีกครั้ง
คนผมซีดทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงแบบไม่ออมแรงพลางยกมือหนาขึ้นลูบหน้า ถอนหายใจด้วยความเครียด
อาร์เธอร์ที่กำลังงงถูกราชินีแอตแลนน่าผู้เป็นแม่ประคองออกไปจากบริเวณพลางกระซิบ
“รอน้องเขาอารมณ์เย็นก่อนนะลูก เดี๋ยวแม่คุยให้เอง”
ร่างบึกบึนของเขาค่อยๆถอยออกมาจากห้องขัง หางตาเห็นร่างของน้องชายโผเข้าไปในอ้อมแขนของมารดา
ไอเด็กติดแม่เอ๊ย
“เป็นไงบ้าง?” เยเมร่าหรือที่ชอบเรียกกันว่าเมร่าถามเมื่อเขาเดินมาถึงโถงบัลลังก์
“ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ออร์มช็อกไปเลย แม่ฉันกำลังคุยให้อยู่” ชายหนุ่มผมยาวส่ายหน้าเบาๆ
“หวังว่าเขาจะยอมนะ” เจ้าหญิงแห่งเซเบลขมวดคิ้ว
“ไม่งั้นทางไบรน์กับพวกเงือกไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่”
“ฉันจะไม่ยอมให้เขาตายแน่นอน เมร่า” ร่างใหญ่นั่งลงบนบัลลังก์และเล่นตรีศูลของตน
ผ่านไปครู่ใหญ่ แอตแลนน่าก็ปรากฏตัวขึ้นในโถง ราชินีที่เป็นผู้ให้กำเนิดกษัตริย์ถึงสององค์ว่ายมาเขาอย่างนุ่มนวล
“เขาพร้อมจะคุยแล้ว”
ราชินี, เขาและเมร่าเข้าไปในห้องขังของออร์มอีกครั้ง
แม่หันมาพยักหน้าเบาๆเป็นสัญญาณให้เข้าไปคุยกับน้องชายอีกครั้ง
หญิงสาวผมแดงกอดอก จ้องมองคนรักที่เดินผ่านม่านพลังเข้าไปในห้องขังของอดีตคู่หมั้น
“พร้อมคุยรึยังเนี่ย?” ผู้เป็นพี่ชายลากเก้าอี้แถวนั้นมานั่ง
“อืม” มาริอุสครางรับในลำคอ เม้มปากเป็นเส้นตรง
“เราจะไปกันเมื่อไหร่?”
ดวงตาสีทองของเจ้าสมุทรเป็นประกายขณะที่มุมปากของเขาโค้งเป็นรอยยิ้ม
“พรุ่งนี้เลย”
มันเป็นตอนเช้า และโทมัส เคอร์รี่ก็กำลังเดินไปที่ท่าเหมือนที่ทำมาตลอดยี่สิบปี
แม้ว่าแอตแลนน่าจะกลับมาหาเขาแล้ว แต่เธอก็มีงานรออยู่ที่แอตแลนติสและอยู่นานไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจปลีกตัวมาจากหน้าที่ประมาณสองสามครั้งต่อเดือน ครั้งละสามวัน
และเธอก็ไม่ได้บอกด้วว่าจะมาวันไหนบ้าง
นั่นทำให้โทมัสทำตามกิจวัตรที่กลายเป็นนิสัยส่นตัวไปแล้ว ซึ่งก็คือการเดินไปที่ท่าเรือหน้าประภาคารทุกเช้าต่อไป
และวันนี้ แม้หญิงผู้เป็นที่รักจะไม่มา แต่ท้องทะเลก็ได้ส่งอีกคนหนึ่งที่เขารักไม่แพ้เธอกลับมาแทน
ชายวัยกลางคนชะงักไป แล้วทันใดนั้น บุตรชายคนเดียวของเขาก็รี่เข้ามากอดเขาแน่น
“ไงฮะพ่อ” เสียงทุ้มของอาร์เธอร์กล่าวขึ้นเบาๆ ด้านหลังเขาคือหญิงสาวผมแดงที่ใส่ชุดสีเขียวที่ดูยังไงก็เป็นชาวแอตแลนติส และชายหนุ่มอีกคนที่มีผมสีบลอนด์ซีดซึ่งสวมใส่ชุดที่ทำให้เขานึกถึงแอตแลนน่าตอนเจอกันใหม่ๆ
“อาร์เธอร์ ไงลูก...นี่เพื่อนชาวแอตแลนติสของลูกเหรอเนี่ย?”
หญิงสาวร่างสูงยิ้ม
“ฉันเมร่าค่ะ ส่วนนี่ออร์ม เขาเป็น อ่า...”
“ออร์มเป็นลูกชายอีกคนของแม่น่ะครับ” ลูกชายต่อประโยคด้วยสีหน้าระมัดระวัง
น่าแปลกที่นอกจากโทมัสจะไม่ช็อกแล้ว เขายังยิ้มกว้างพร้อมกับโอบบ่าชายหนุ่มผมซีดคนนั้นอย่างสนิทสนม
“ออร์มเองเหรอเนี่ย แอตแลนน่าพูดถึงเธอไว้เยอะมาก เพิ่งได้มาเจอตัวเป็นๆวันนี้นี่แหละ...เค้าบอกว่าเธอเป็นเด็กดี”
ออร์มยิ้มรับบางๆ
ถึงแม้จะค่อนข้างตกใจที่ชาวบกคนนี้ดูไม่กลัวเขาเลย แต่ก็ยอมรับว่ารู้สึกดีเมื่อมีคนชม
อาร์เธอร์ขยับมาใกล้และกล่าวกับเขาเมื่อทั้งสี่เดินกลับเข้าไปในสิ่งที่ชาวบกเรียกกันว่าประภาคาร
“ยินดีต้อนรับสู่โลกเบื้องบน”
เย็นวันนั้น ออร์มทำสิ่งที่เรียกว่าอาบน้ำและสระผม เขายืมเสื้อบางส่วนของพี่ชายมาใส่แล้วตัดสินใจออกไปเดินเล่นซักหน่อย
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว มาถึงโลกของชาวบก ถ้าไม่ยอมทำตามที่ชาวบกทำก็คงแปลกเต็มที
“ไปเดินเล่นเหรอ?” เมร่าที่นั่งดูสิ่งประดิษฐ์ของชาวบกที่เรียกว่าโทรทัศน์ถามขึ้น
“ฉันดูเหมือนคนจะไปอาบน้ำรึไง?” เขาเลิกคิ้ว
หญิงสาวผมแดงกรอกตา
“นายต้องใส่นี่” สร้อยเชือกที่มีจี้รูปสมอถูกส่งมาให้
ออร์มคิดว่านั่นคือเครื่องติดตามและกดพลังเขาไม่ให้ไปซ่าข้างนอก...
ใช่...ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ
ตาสวยๆของเมร่าบอกเขาแบบนั้น
“ทำไมต้องใส่ด้วย?”
อดีตคู่หมั้นของเขายักคิ้ว
“นายเป็นนักโทษกักบริเวณนะ อย่าลืมสิ”
“ไม่เอาน่าเมร่า...”
ดวงตาสีเขียวถลึงใส่เขา
“จะใส่เองดีๆหรือจะให้ฉันกับอาร์เธอร์ใส่ให้”
ในที่สุด ออร์มก็ต้องออกมาโดยใส่สร้อยบ้าๆนั่น โดยมีพี่ชายตัวโตกับสาวผมแดงคอยเดินประกบ
“นี่ไม่ไว้ใจกันเลยรึไงเนี่ย?”
“จะพานายเที่ยวต่างหาก...นายยังไม่รู้ว่าชาวบกเขาอยู่กันยังไง” อาร์เธอร์ว่ายิ้มๆ
“เธอล่ะ?” หันไปทางเมร่าที่เดินขนาบข้าง
“ฉันเดินเล่น อยากสำรวจที่นี่ด้วย”
ณ จุดนี้ อดีตราชาแห่งแอตแลนติสอยากจะตะโกนดังๆเหลือเกิน
พี่ชายพาเขาไปที่สถานที่แห่งหนึ่งที่บอกว่าขายเครื่องดื่มที่เรียกว่าสุรา(พับ...ผับ...อะไรซักอย่างเนี่ยแหละ)
“เบียร์สอง น้ำส้มหนึ่ง” เขาพูดและพาทั้งสองไปนั่งตรงเก้าอี้สูง
“ทำไมฉันได้น้ำส้มล่ะ?” เมร่าโวย
“ถ้าเธอเมาแล้วมันจะแย่เอา”
ของเหลวบางอย่างสีเหมือนอำพันที่น่าจะเป็นสิ่งที่ชาวบกเรียกว่าเบียร์ถูกดันมาทางพวกเขา
กลิ่นมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“ลองหน่อยสิน้องชาย” อาร์เธอร์หยิบแก้วขึ้นมาและดื่มมันพลางส่งสายตามาเป็นเชิง‘ซักหน่อยไหม?’
ชายหนุ่มผมซีดกลั้นใจกระดกเบียร์เข้าปากอึกใหญ่
ในวินาทีต่อมา เขาก็พบว่าตนเองกำลังสำลักและไอค่อกแค่กผสมไปกับเสียงหัวเราะของเจ้าสมุทรคนปัจจุบัน
รสชาติแย่ซะไม่มี
“ไม่กินแล้ว ไม่เห็นจะอร่อยเลย”
อาร์เธอร์หัวเราะร่วน
“ตอนกินครั้งแรกก็พูดกันอย่างเงี้ย”
“เดี๋ยวนายก็ติดใจ”
ไม่ ออร์มไม่มีทางติดใจไอของเหลวบ้าบอนี่แน่ๆ
เขาเชื่อว่าแบบนั้นนะ...
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เกลียดอย่างไหนได้อย่างนั้น----