ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Marvel || Broken Throne (OC feat. Thorki, Stony, Spideypool, etc.)

    ลำดับตอนที่ #34 : Short Fic. || A Dragon's Affair (Thorki)→ ᴘᴀʀᴛ 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 338
      26
      18 ส.ค. 62

    Title : A Dragons Affair

    Author : Fengmii

    Pairing : Thorki

    Genre : Short Fiction (2/??)

    Notes : เทพนิยายมักจบลงด้วยเจ้าชายฆ่ามังกรแล้วแต่งงานกับเจ้าหญิง แต่ถ้า...มังกรที่ว่านี่ไม่ใช่สัตว์ร้ายบ้าคลั่งอย่างที่ทุกคนคิดล่ะ?

     

     

     

     

     

     




     






     

           ป่าโยธันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเอาไว้...แต่นั่นก็เฉพาะในตอนกลางวัน

     

           มีเพียงบางครั้งที่เขาได้ยินเสียงต้นไม้ไหวคล้ายกับมีคนอยู่บนนั้น หรือผลไม้ตกลงมาทั้งๆที่ยังไม่สุกได้ที่ราวกับถูกเด็ดดึง

     

           ที่นี่ไม่ได้น่าพรั่นพรึง แค่...แปลกประหลาด

           และมันจะต้องมีคำอธิบายอย่างเป็นเหตุเป็นผลสำหรับเหตุการณ์เหล่านี้แน่ๆ

           นั่นคือสิ่งที่เขาพร่ำบอกตนเองเวลาเจออะไรไม่ชอบมาพากล

     

           ดวงอาทิตย์อยู่เหนือหัวพอดีในตอนที่ธอร์เห็นม้าตัวนั้น

     

           ขนสีน้ำตาลของมันเป็นเงาวับ บ่งบอกถึงสุขภาพและการได้รับการดูแลที่ดีเยี่ยมจนม่น่าจะเป็นม้าป่าธรรมดาทั่วไป

     

           คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ร่างสูงค่อยๆเดินเข้าไปหามัน

     

           ทันทีที่ด่างดวงสีขาวตรงหน้าผากสัตว์ตัวนั้นเด่นชัดเป็นรูปร่างคล้ายดาว ชายหนุ่มก็แน่ใจทันทีว่าเจอเบาะแสสำคัญเกี่ยวกับบุคคลที่ตามหาแล้ว

     

           “นาร์” เขาผิวปาก

     

           มันเอียงคอเล็กน้อย แบบที่มันทำตลอดเวลาเกิดอาการมึน แต่มันก็ค่อยๆย่างเข้ามาใกล้

           “เฮ้”

     

           มีบังเหียนอยู่บนปากของมัน เจ้าชายแห่งแอสการ์ดเอื้อมมือจับสายหนังแล้วกระตุกเบาๆ

     

           นาร์ส่งเสียงร้องเบาๆแล้วใช้สันจมูกดุนมือเขาขณะที่เขาลูบหน้าเจ้าม้า

     

           “ว่าไงไอ้หนู”

     

           ดวงตาสีฟ้าไล่ไปตามสายบังเหียน และพบว่ามันถูกต่อด้วยผ้าเพื่อผูกกับต้นไม้ใกล้ๆ

     

           เธอคงจะให้มันกินหญ้าเขียวสมบูรณ์แถวนี้

     

           ร่างสูงใหญ่หันไปมองรอบๆเพื่อหาดินที่ถูกย่ำเป็นทางและพบกับรอยรองเท้าบู๊ต

     

           เขาจำขนาดเท้าได้

     

           ของซิฟ

     

           ไม่ใช่ว่าเขาอยากจำหรอกนะ

           เมื่อต้นปี เพื่อนสาวลากเขาไปเดินเที่ยวงานเทศกาลในตัวเมืองแอสการ์ดตอนที่เธอเป็นตัวแทนวานาไฮม์มาร่วมอวยพรเนื่องในโอกาสวันปีใหม่ให้กับพ่อแม่เขา เธอบังคับให้เขาต้องช่วยเลือกรองเท้าบู๊ตคู่ใหม่ให้ เนื่องจากเธอใส่คู่เก่าหนีเที่ยวจนมันสึกจากการใช้งานอันหนักหน่วงไปเรียบร้อยแล้ว

     

           ธอร์สูดหายใจลึกแล้วผละจากนาร์ ตบคอมันเบาๆก่อนจะเดินตามรอยเท้านั้นไป

     

           เสียงรองเท้าย่ำใบไม้แห้งดังแกรกกรากจนเขารู้สึกรำคาญ

     

           แต่ในที่สุด มันก็หยุดลงเมื่อเขาเดินมาถึงถ้ำแห่งหนึ่ง

           ถ้ำขนาดใหญ่

     

           ซิฟเข้าไปในนั้น

     

           ชายหนุ่มกระชับด้ามดาบที่แขวนอยู่ข้างเอวแล้วเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาสีฟ้าเจิดจ้าทอประกายเรียบเย็น

     

           เป็นไงเป็นกันล่ะวะ

     

     

           ขาภายใต้รองเท้าบู๊ตหนังหุ้มแข้งขยับเคลื่อนร่างตรงไป

     

           พื้นผิวที่เหยียบลงไปมืดครึ้มลงทุกที จนกระทั่งไม่เหลือใบไม้แห้งอยู่ตามทัศนียภาพรอบตัวอีกแล้ว แม้แต่แสงก็สลัวลงเยอะ

     

           อดใจหายไม่ได้

     

           ...ถ้าเกิดเขาไม่ได้กลับออกไปอีกล่ะ?

     

           ไม่

     

           ไม่ได้

     

           เขาต้องรอด

     

           มือที่สั่นน้อยๆกำเข้าหากัน บีบกันแน่นจนมันนิ่ง

     

           รู้ตัวอีกที เขาก็เดินมาถึงจุดที่น่าจะเป็นส่วนโถงกลางของถ้ำแล้ว รูใหญ่บนเพดานมีแสงสาดส่องลงมาทำให้เขาเห็นรอบด้านมากขึ้น

     

           เสียงคำรามเบาๆของตัวอะไรบางอย่างที่ดังกังวานไปทั่วโถงเรียกความสนใจจากธอร์ได้เป็นอย่างดี ดวงตาสีฟ้าเข้มหันไปทางต้นเสียง...ซึ่งก็คือทางหินแคบๆที่อยู่ระหว่างหลืบหินอีกด้านหนึ่งของถ้ำ

     

           คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน มือใหญ่เอื้อมไปแตะด้ามดาบขณะค่อยๆสาวเท้าไปในนั้น

     

           ร่างใหญ่โตของสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งนอนขดอยู่บนพื้นในโถงสุดทางเดิน ในอ้อมแขนคือกองทองคำแวววาว เกล็ดดำมะเมื่อมราวกับนิลน้ำงามกระทบแสงเทียนขณะขยับขึ้นลง บ่งบอกถึงสัญญาณชีพของเจ้าของ

     

           มังกร

     

           เจ้าชายหนุ่มผงะ ขาเจ้ากรรมก้าวถอยหลังไปเหยียบเอากิ่งไม้แห้งหักดังกร๊อบ

     

           เปลือกตามันขยับแล้วเลิกขึ้น เผยนัยน์ตาสีเขียวมรกต

     

           ฉิบแล้วไง

     

           เสียงโลหะเสียดสีกันดังกังวานเมื่อเขาชักดาบออกจากฝัก สิ่งมีชีวิตมโหฬารนั้นยกหัวขึ้นแล้วอ้าปากส่งเสียงขู่แฟ่ใส่เขา เขี้ยวสีขาวคมกริบยาวพอๆกับแขนเด็ก

     

           ปากของธอร์สั่น เขาพยายามควบคุมมือไม้ให้นิ่งขณะที่มันสูดหายใจเข้าลึกๆ เตรียมจะพ่นไฟออกมาย่างสดเขา

     

           แต่ก่อนที่เขาจะได้เรียกวิญญาณบ้าดีเดือดมาสิงร่างแล้วกระโดดเข้าไปสับมังกรให้เละด้วยดาบเล่มเดียวนั้น ร่างเพรียวสูงที่คุ้นเคยก็กระโจนออกมาจากที่ไหนสักแห่งแล้วกดเขาลงไปกับพื้น

     

           ชายหนุ่มกลิ้งหลุนๆไปตามพื้น ซิฟกำมือข้างที่ถือดาบของเขาไว้แน่น เมื่อทั้งคู่หยุดเธอก็รีบใช้น้ำหนักตัวทั้งหมดทุ่มไปที่เขาไม่ให้ลุกขึ้นมาได้ ข้อมือที่ถูกเธอกำไว้กดแนบกับหินจนเขาต้องปล่อยอาวุธ

     

           “อย่า!” เธอร้องบอกมังกรที่ตอนนี้กำลังลุกขึ้นมา

           “คนนี้มาดี”

     

           “ซิฟ” ธอร์ไอแห้งๆ

     

           “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย?”

     

           ดวงตาสีน้ำตาลของเจ้าหญิงมองเขา

     

           “สัญญาก่อนสิว่าเจ้าจะไม่แทงข้าทิ้งหลังรู้เรื่องทั้งหมด”

     

           เขาถอนหายใจ

           “เออ”

     

     

     

     










     

     

     

           “เอาจริงดิ?” ร่างสูงแทบจะกรีดร้อง

     

           “เจ้าเสี่ยงตายมาถึงกลางป่าโยธัน...แค่เพราะรู้สึกว่าติดหนี้บุญคุณไอ้ตัวนั้นเนี่ยนะ?”

     

           “แล้วจะให้ข้าทำไง?” ซิฟกรอกตา

     

           “เขาให้ที่นอนข้า หาอาหารให้ข้าตอนที่ข้าไม่มีใครแล้ว เห็นเขาบาดเจ็บ ข้าก็ต้องช่วยกลับบ้างสิ”

     

           “แต่เจ้าก็ต้องดูตัวเองด้วย” ธอร์กอดอก

     

           “บอกข้าแต่แรกก็สิ้นเรื่อง นี่อะไร หอบน้ำตานกฟีนิกซ์เข้าป่าคนเดียวตอนมืดๆ เจ้ารู้มั้ยไอ้ขวดนั่นน่ะจะเอาไปประมูลเอาบ้านเอาเมืองก็ยังได้!”

     

           “ก็เขาเป็นแผล” ซิฟโต้

           “แผลมังกรมีแค่น้ำตานกฟีนิกซ์ที่จะช่วยสมานได้”

     

           “มันเป็นแผลอะไรนะ?”

     

           “ถูกมังกรต่างถิ่นตะปบ”

     

           เขาทำปากเป็นรูปตัวโอ

           “อ้อ งั้นก็เรื่องภายในแวดวงมังกร ไม่ใช่กงการของมนุษย์ที่จะเข้าไปยุ่ง...กลับกัน” ว่าแล้วก็คว้าข้อมือสหายลากไปที่ทางออก

     

           “บ้ารึไงธอร์” หญิงสาวสะบัดมือออก

     

           “ข้าไม่ปล่อยให้เขานอนซมเป็นผักเพราะแผลที่เรามีทางรักษาหรอกนะ”

     

           ประกายตามุ่งมั่นของเธอทำให้เขาถอนใจ

     

           “...ก็ได้”

           “จะให้ข้าช่วยอะไรดีล่ะ?”

     

           เท่านั้นแหละ ซิฟก็ยิ้มกว้างทันที

     

           นี่เขาเอาตัวเองมาเจออะไรวะเนี่ย?

     

           เธอให้เขาไปทำแผลให้กับมังกรดำตัวนั้น ส่วนเจ้าตัวก็แจ้นไปหาอาหารนอกถ้ำ

     

           ดูแฮปปี้ที่มีคนช่วยเนอะ

     

           ดวงตาสีฟ้าทอประกายระแวดระวังขณะที่เขาก้มลงสำรวจลำตัวของมัน รอยกรงเล็บยาวลึกกรีดชัดอยู่บนลำตัว

     

           แผลยังไม่สมานดี

     

           “นี่แกบาดเจ็บมากี่วันแล้วเนี่ย?”

     

           น่าแปลกที่ดวงตาสีมรกตของมันมองมาที่เขาเหมือนเข้าใจภาษามนุษย์ รูม่านตาเรียวยาวแคบลงเล็กน้อยราวกับไม่พอใจที่เขาถาม แขนใหญ่โตขยับออกจากตัว ส่งผลให้ธอร์สะดุ้งสุดตัว

     

           ทว่ามังกรไม่ได้ตะปบเขาตามที่คาดคิด กลับกัน มันค่อยๆกรีดเล็บคมๆลงบนพื้นอย่างใจเย็น สร้างเป็นรอยตัวอักษรในดิน

     

           5

     

           “โอเค...” เขาสูดหายใจ

     

           ห้าวัน มังกรตัวนี้อึดเป็นบ้า

     

           “งั้นข้าจะทำแผลให้นะ”

     

           มือใหญ่สั่นน้อยๆขณะใช้เศษผ้าที่ซิฟเตรียมไว้ให้ชุบน้ำในอ่างแล้วเช็ดตามเกล็ดของมันที่มีเศษดินเปื้อนประปราย รอยเลือดสีแดงอ่อนจางปรากฎขึ้นบ้างเมื่อเขาเช็ดผ่านแผลของมัน

     

           เจ้าชายหนุ่มเลียริมฝีปากเร็วๆรอบหนึ่งเพื่อระงับความกดดันจากการที่ดวงตาของมันจับจ้องทุกการกระทำ เขาวางอ่างลง แล้วหยิบขวดน้ำตานกฟีนิกซ์ออกมาแล้วเปิดมันออก

     

           แม้ขวดนั้นจะมีขนาดเล็ก แต่กลิ่นของต้นสนอันเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของน้ำตาวิเศษชนิดนี้ก็ฟุ้งไปทั่ว

     

           ธอร์หยดมันลงไปบนปากแผล

     

           ทันทีที่ยาสมานแผลชั้นเยี่ยมแตะเนื้อสีแดงด้านในชั้นผิวหนัง มันก็ส่งเสียงฉ่า ไอควันสีขาวลอยออกมาเล็กน้อย เขาสัมผัสได้ถึงการเกร็งกล้ามเนื้อด้วยความเจ็บปวดของมังกร เสียงคำรามของมันถูกกักไว้ในลำคอขณะที่กรงเล็บจิกลงพื้น

     

           นั่นทำให้เขานึกถึงตอนที่ไปได้เรื่องต่อยกับเพื่อนร่วมโรงเรียนจนเสด็จแม่ต้องมานั่งป้ายยาประคบน้ำแข็งให้กับตาที่บวมช้ำและปากที่แตกของเขา

     

           เจ้านี่คงจะเจ็บกว่ามาก แผลของมันลึกเอาการ

     

           ดวงตาสีฟ้าเข้มมีประกายอ่อนโยนพาดผ่านโดยที่ไม่รู้ตัว

     

           “ชู่ววว” เขาปลอบ

           “เย็นไว้เจ้าหนู”

     

           มันคำรามอย่างไม่สบอารมณ์เบาๆ สายตาที่มองมานั้นขุ่นเขียวพอควร

     

           โอ...เค

           ดูเหมือนว่ามันจะไม่ถูกชะตากับคำว่าเจ้าหนูอย่างแรง

     

           ดวงตาสีเขียวมองเขานิ่งครู่หนึ่ง ก่อนจะกรีดเล็บลงเขียนบนพื้นอีกครั้ง ลายมือของมันประณีตเป็นระเบียบกว่าที่ธอร์คาดไว้

     

           โลกิ

     

           ชายหนุ่มทำปากเป็นรูปตัวโออย่างเข้าใจ ก่อนจะหันกลับไปมองเจ้าของชื่อ

     

           “ข้าธอร์ เจ้าชายแห่งแอสการ์ด ยินดีที่ได้รู้จักนะ...โลกิ”

     

     

     

     

     







     

    TALK WITH FM

    กลับมาแล้วววว หายไปนานเลยเชียว 5555 คิดถึงเรากันมั้ยยยย

    ตั้งแต่เปิดเทอมจนสอบกลางภาคผ่านไป ไรท์ก็ไม่ว่างมาอัพให้เลยจนช่วงนี้นี่แหละค่ะ

    ไม่โกรธกันเนาะ

    ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกเม้นต์ ทุกยอดวิวนะคะ

    เจอกันตอนหน้าเน้อ

    ด้วยรักและถุงกาว

    เฟิงมีค่ะ>3<

           
    Z Y C L O N
       
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×