ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Marvel || Broken Throne (OC feat. Thorki, Stony, Spideypool, etc.)

    ลำดับตอนที่ #49 : Broken Throne S3 || Ch 8

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 63


    || B R O K E N T H R O N E ||

    s e a s o n 3

    ----------------------------

    CHAPTER 8

     

     

           สคาดิกำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนโซฟายาวในห้องตอนที่ชายหนุ่มจากวานาไฮม์เดินเข้ามาพร้อมกับชายอีกคนหนึ่ง

     

           ดวงตาสีฟ้าเทาเบนมามอง

     

           “ลอร์ดการ์แลนด์?”

     

           “องค์หญิง” เขาค้อมกายลงทำความเคารพ แต่ดูเหมือนว่าจะเหลือบตาขึ้นมามองนานกว่าปกติ

     

           เธอกดหัวคิ้วลงเล็กน้อย เกือบจะถามว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วถ้าไม่ใช่เพราะวีดาร์ที่นั่งลงแถวๆขาแล้วห่มท่อนล่างของเธอด้วยผ้าห่ม

     

           หญิงสาวมองหน้าเขางงๆ

     

           นอนท่านี้แล้วกระโปรงมันเลิกขึ้นมาสูงเกินไป เขาหรุบตาลงที่ขาเรียวใต้ผ้าห่มนั้น

     

           หวง?

     

           ใบหน้าหล่อเหลาก้มงุดแล้วเสหลบไปด้านอื่น เธอแอบเห็นใบหูของเขาขึ้นสีแดงจางๆ

     

           น่ารักจริง

     

           มุมปากกดยิ้มบางๆ เธอหันกลับมาหาราชองครักษ์ที่ยังคงยืนอยู่ตรงหน้า

     

           “มีอะไรรึเปล่า?”

     

           “คือ...” การ์แลนด์ลอบมองร่างสูงข้างกายเธอแล้วกล่าวต่อ

           “ลอร์ดฮาล์ฟดันต้องการพบพระองค์พ่ะย่ะค่ะ”

     

           คิ้วเรียวกดขมวดลง

     

           “ฮาล์ฟดัน?”

     

           “พ่ะย่ะค่ะ” เอลฟ์หนุ่มพยักหน้า

           “เห็นเขาบอกว่ามีอะไรบางอย่างที่พระองค์ต้องทราบ”

     

           “อืม” เธอพับหน้ากระดาษหนังสือเพื่อทำเครื่องหมายว่าอ่านค้างไว้ แล้ววางมันลงข้างตัว

           “บอกให้เขารอที่โถงห้องชุดข้า”

     

           “พ่ะย่ะค่ะ” การ์แลนด์ค้อมกายอีกครั้งแล้วหันหลังเดินออกไป

     

           ดวงหน้างดงามหันมามองเจ้าของเรือนผมสีทองสว่างเมื่อประตูปิดลง

     

           “เดี๋ยวมานะ”

     

           “ไปด้วย” เขาลุกขึ้นตามเธอ

     

           “แน่ใจ?” หญิงสาวพับผ้าห่มลงบนแขนแล้วพาดมันกับพนักโซฟา

           “เรื่องที่คุยกันน่ะค่อนข้างน่าเบื่อนะ”

     

           “ไม่เป็นไรหรอก” ชายหนุ่มยิ้ม

           “ข้ารอได้”

     

           “ถ้าว่าอย่างนั้นก็ตามใจ” เธอดึงกระโปรงที่ยาวคลุมเข่าให้ลงมาเท่ากันแล้วเดินออกจากห้องอ่านหนังสือส่วนตัว

     

           เธอมาเป็นผู้สำเร็จราชการแทนน้องได้เกือบๆสามเดือน แล้วก็มอบบัลลังก์คืนให้เบรดิที่ความจริงก็หายดีนานแล้วแต่ก็อยากนอนตื่นสายๆ ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ต่อยาวๆ

     

           ยังจำสีหน้าบูดบึ้งของเจ้าน้องชายเมื่อครึ่งเดือนก่อนตอนที่เธอลากเขาออกมาจากกองผ้าห่มแล้วจับแต่งตัวใส่มงกุฎได้ชัดเจน

     

           ขาเรียวก้าวเข้าไปในโถงที่อยู่หลังประตูทางเข้าห้องชุดของเธอ

     

           “ลอร์ดฮาล์ฟดัน” เธอทรุดตัวลงนั่นบนเก้าอี้

     

           “องค์หญิงสคาดิ” ขุนนางที่ยืนรออยู่ในห้องค้อมตัวทำความเคารพ

     

           ฮาล์ฟดันเป็นลอร์ดชั้นสูงคนหนึ่ง เขาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหน่วยข่าวกรองซึ่งจะคอยรายงานความเป็นไปของโลกภายนอกซึ่งแทบจะเรียกได้ว่าไร้ประโยชน์จนกระทั่งสคาดิในฐานะผู้สำเร็จราชการจัดการทุบมันให้เข้าที่ สร้างเครือข่ายเส้นสายต่างๆให้เหนียวแน่นกว่าเดิมและจัดการอัพเดตข่าวสารปัจจุบันจนตามทันเก้าโลกเรียบร้อย

     

           “อืม” เธอพยักหน้ารับเบาๆ

           “ลมอะไรหอบมาที่นี่ล่ะ?”

     

           “กระหม่อมได้ข่าวมา...” เขาเริ่ม สีหน้าดูเคร่งเครียดลงกว่าปกติ

     

           แล้วข่าวสารต่างๆก็พรั่งพรูออกมาราวกับน้ำหลาก แต่สิ่งที่ทำให้เธอสะดุดก็คือเรื่องบางอย่างที่เกิดขึ้นในมิดการ์ด

     

           มายด์สโตน?

    ฮาล์ฟดันดูเกร็งมากขึ้นหลายเท่าตอนพูดถึงหนึ่งในอินฟินิตี้สโตนนั่น...ราวกับเป็นสิ่งที่หากเปล่งชื่อออกมาดังๆแล้วจะเกิดเรื่องร้ายขึ้น

     

           หุ่นเหล็กคิดเองได้ของโทนี่ สตาร์ค และความวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้นในมิดการ์ด

     

           “ท่านว่าไงนะ?” เทพีเหมันต์เลิกคิ้ว

           “อะไรมิดการ์ดนะ?”

     

           ขุนนางตรงหน้ามีท่าทางกระอักกระอ่วน เขาทำท่าเหมือนจะพูดแต่ไม่กล้าพูด เหงื่อกาฬไหลเต็มหน้าจนเธอกรอกตาแล้วยกมือขึ้นโบกไล่เขาออกไป

     

           “เชื่อเขาเลย” ร่างเพรียวพึมพำ ยันกายลุกขึ้นมา

     

           ไม่อยู่แป๊บเดียว งานเข้าอีกแล้วเหรอเนี่ย?

     

           “ข้าคงต้องลงไปหาเพื่อนสักพัก” เธอหันมาประจันหน้ากับวีดาร์

     

           “ฝากเจ้าคอยดูน้องข้าช่วงที่ข้าไม่อยู่ได้มั้ย?”

     

           “จะไปอีกแล้วเหรอ?” เขาเบะปากน้อยๆ อาจดูน่ารำคาญสำหรับบางคนแต่เธอรู้สึกว่ามันน่ารักเหลือเกินจนอดขำพรืดในคอไม่ได้

     

           “คราวนี้ไม่กี่วันหรอก...สัญญาเลย”

     

           เบรดิมีสีหน้าไม่ต่างจากโซลเมตของเธอเท่าไหร่

           กลับกัน เธอกลับหมั่นไส้ท่าทางนั้นจนต้องตบหลังหัวเขาทีหนึ่ง

     

           “รีบไปรีบกลับนะ” เขาเกาะเข้าที่ชายแขนเสื้อสีเทาของเธอหลังจากที่เธอแต่งตัวพร้อมลุยเสร็จและกำลังจะลงไปหาเพื่อนๆชาวมนุษย์

     

           “เออ” เธอขยี้กลุ่มผมสีทองนั้น แล้วหันไปหาวีดาร์ที่โอบเอวเธอหลวมๆ

     

           เขากอดเธออย่างนุ่มนวลพลางผลักหน้าผากของราชาแห่งอาณาจักรน้ำแข็งออกไปเนียนๆ

     

           “พี่เขย!” เจ้าตัวกุมหน้าผาก โอดครวญเบาๆ

     

           ระหว่างที่วีดาร์อยู่ที่นี่ เขาและน้องเธอสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วตามประสาผู้ชายจนตอนนี้ เบรดิเรียกเขาติดปากไปแล้วว่าพี่ชายไม่ก็พี่เขย

     

           ใครสั่งใครสอนให้เรียกชื่ออย่างหลังน่ะเหรอ? ก็เจ้าของดวงตาสีฟ้าใสนั่นแหละ

     

           “อยู่กับเขาสองสามวันนี้ อย่าดื้ออย่าซนล่ะ” เธอตบกระหม่อมเขาปุๆ

           “ซ้อมดาบให้ตรงเวลาด้วย”

     

           “ไม่ต้องห่วงน่า” ร่างสูงกระตุกยิ้มมุมปาก

           “มีข้าอยู่ทั้งคน”

     

           สคาดิหัวเราะในลำคอ ยอมให้เขากดจมูกโด่งๆลงที่ขมับก่อนจะผละออก

     

    มือเรียวตวัดออกไป สร้างประตูมิติสีฟ้าใสขึ้นในอากาศ

     

    เนื่องจากพลังเวทย์ของเธอใช้เดินทางไปได้ไกลสุดแค่ถึงโลกที่อยู่ใกล้ๆกันเท่านั้น และมิดการ์ดก็อยู่ไกลกว่าแอสการ์ดและไนดาเวลเลียร์

     

    ...คงต้องไปขอใช้บริการตาแก่ไฮม์ดัลนั่นอีกแล้ว

     

           ดวงตาสีฟ้าเทาหันไปมองธนูบนโต๊ะยาว ดวงตามีประกายบางอย่างพาดผ่าน

     

           “กลับสู่วันเก่าๆ” เธอฮัมเพลง คว้ามันขึ้นมาถือ

     

           ประตูมิติสีฟ้าใสวาบขึ้นมา แล้วเธอก็ก้าวหายเข้าไปในนั้น

     

     

     



     

     

     

     



           โอดินแปลกๆไป

     

           สคาดิรู้สึกได้ทันทีที่ก้าวเข้าไปในท้องพระโรงสีทองนั่น

     

           เธอมองเทพบิดรขึ้นลงหลายรอบ และพบว่าตนเองไม่ได้วิตกจริตไปเอง

     

           เขาแปลกไปจริงๆ

     

           แปลกตั้งแต่ท่านั่ง

     

           เธอตัดสินใจแอบดูเงียบๆหลังเสาต้นใหญ่ตอนที่เขาประชุมขุนนาง

     

           หญิงสาวหรี่ตา เห็นว่าเขากำลังเยินยอลูกชายคนหนึ่งอยู่กลางโถง

     

           ที่น่าแปลกใจคือมันไม่ใช่ธอร์ โอรสแสนรักของเทพบิดร

           และเทพบิดรไม่เคยเยินยอลูกคนไหนนอกจากธอร์

     

           เธอแทบแคะหูฟังใหม่อีกรอบเมื่อได้ยินเขากล่าวชื่อโลกิออกมาตั้งหลายครั้ง

     

           ตอนนี้สีหน้าเธอคงจะมึนงงราวถูกค้อนทุบ และจิตใจก็คงจะสับสนมึนงงไม่ต่างกัน

     

           ไม่ใช่แล้ว

     

           ตั้งแต่ที่เหยียบแอสการ์ดมา ทุกอย่างมีกลิ่นอายบางอย่างที่แปลกออกไป

     

           และถ้าจำไม่ผิด ข้างหน้าวังคือรูปปั้นของใครบางคนที่กำลังสร้าง

     

           เท่าที่จำรูปร่างได้ มันไม่ใช่พี่ชายคนโตแน่ๆ

     

           เธอย่นจมูก มองร่างของโอดินที่เพิ่งโบกไล่เทพองค์อื่นออกไปแล้วเดินลงจากบัลลังก์

     

           “ท่านพ่อ” ร่างเพรียวก้าวออกไปขวาง

     

           อีกฝ่ายสะดุ้งสุดตัว

     

           อืม...ไม่ใช่ละ

     

           เทพบิดรไม่เคยสะดุ้งเวลาเธอเรียกท่านพ่อ

     

           ไวเท่าความคิด สคาดิคว้าแขนเขาแล้วพาพ่อบุญธรรมหายตัวไปโผล่ที่ห้องทันที

     

           “สคาดิ” เขาโผเข้าเกาะโต๊ะ หายใจหอบหนักๆ

     

           โอดินไม่เคยหอบหายใจหนักตอนหายตัว

     

           “ท่านเป็นใครกันแน่?”

     

           ดวงตาข้างเดียวนั้นหันมามองเธอ เต็มไปด้วยความสับสน...แต่ถ้ามองให้ดีๆจะพบว่ามันแฝงไปด้วยความตื่นกลัวบางอย่าง

     

           “ข้า?” เขาทำเสียงให้ราบเรียบปกติที่สุด

           “ข้าก็คือข้า สคาดิ”

     

           “ท่านไม่ใช่ท่าน” หญิงสาวกรอกตา ก้าวเข้าประชิด

     

           “เลิกเล่นกล แล้วเอาหน้าที่แท้จริงขึ้นมาให้ข้าดูเป็นขวัญตาหน่อยเถอะ”

     

           “ข้าไม่รู้เจ้าพูดอะไร”

     

           ยังจะทำเป็นไขสือ

     

           สคาดิถอนหายใจ แล้วยกมือขึ้น

     

           กระแสเวทย์สีฟ้าหมุนวนไปตามนิ้ว แล้วลิ่มน้ำแข็งนับร้อยก็ปรากฎขึ้นกลางอากาศ มุ่งตรงไปที่โอดิน...ซึ่งเธอแน่ใจแล้วว่าเป็นตัวปลอม

     

           เขาร้องลั่นขณะที่เธอใช้เวทย์ตรึงร่างไว้กลางอากาศไม่ให้ขยับไปไหน

     

           “มันคงจะทำใจยากหน่อยนะถ้าศพตัวเองมีรูพรุนเต็มไปหมด”

     

           เหลืออีกแค่ไม่กี่เซน แท่งน้ำแข็งเหล่านั้นจะเสียบเข้าไปในร่างของเขาแล้วตอนที่เขาตะโกนออกมา

     

           “ยอมแล้วๆ!” แสงสีเขียวสว่างวาบ ใบหน้าชราของโอดินถูกแทนที่ด้วยโครงหน้าที่หนุ่มกว่า ดวงตาสีเขียวทั้งสองข้างจ้องมาที่เธอขณะที่ร่างกายส่วนอื่นๆเริ่มกลับมาเป็นของคนที่คุ้นเคย

     

           สคาดิมองหน้าเขา แล้วถอนหายใจ มือเรียวปล่อยลงข้างกายทำให้ร่างของชายคนนั้นหล่นตุ้บลงบนพื้นปูพรมพร้อมกับห่าน้ำแข็ง

     

           “ท่านนี่มันตายยากตายเย็นจริงๆสินะ โลกิ”

     

           “ยินดีที่ได้เจออีกครั้ง น้องข้า” เทพแห่งคำลวงฮึดฮัดพลางลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ปัดเนื้อปัดตัวแล้วตวัดสายตาค้อนเธอ

           “ขอบคุณสำหรับการทักทายอันแสนอบอุ่นนี่นะ”

     

           “ด้วยความยินดี” เธอกอดอก

           “และข้าพร้อมจะทำอีกทีถ้าท่านแกล้งตายเป็นครั้งที่สาม”

     

           “ว้าว จะตั้งตารอดูเลยล่ะ”

     

           หญิงสาวส่ายหน้าเอือมๆแล้วเดินเข้าไปในห้องด้านใน ย่นจมูกเมื่อกลิ่นของอะไรบางอย่างที่อวลขึ้นมา

     

           ร่างเพรียวทรุดตัวลงบนโซฟายาว

     

           “ข้าเพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้เจ้าแอบเก่ง” ร่างสูงโปร่งที่คุ้นเคยเดินมานั่งเคียงข้าง

           “หายหัวไปตั้งหลายเดือนไม่กลับบ้านกลับช่อง”

     

           “ข้าก็เพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้ท่านชอบก๊งเหล้า” เธอเลิกคิ้ว ย่นปากแล้วยกขวดเหล้าที่ว่างเปล่าใบหนึ่งขึ้นมาจากห้าใบที่เรียงกันอยู่

           “ย้อมใจที่ธอร์ยังอยู่กับนางมนุษย์นั่นรึไง?”

     

           เสียงหัวเราะของเขากังวานขณะที่ปัดเส้นผมสีปีกกาที่ยาวขึ้นเป็นกองออกจากบ่า

     

           “ข้าเองก็คิดถึงเจ้า สคาดิ”

     

          

           ดวงตาสีฟ้าเทาเป็นประกายรอยยิ้มขณะที่สบกับคู่สีเขียวมรกตของคู่สนทนา

     

           “แล้วเป็นยังไงบ้างล่ะ?” เขาถาม

     

           “เป็นยังไงคืออะไร?”

     

           “ไปบ้านเก่า ได้อะไรมาเล่าให้พี่ชายฟังมั้ย?”

     

           “ก็...มีหลายเรื่องอยากเม้าท์อ่ะนะ” เธอบิดปาก

           “แต่พอดีว่าติดธุระในมิดการ์ด”

     

           “ก็เลยจะมาใช้ไบฟรอสต์?”

     

           “อือฮึ”

     

           “งั้นก็รีบไปเถอะ” ชายหนุ่มผมดำลุกขึ้นยืน

           “เดี๋ยวจะไม่ทันเอา”

     

           เธอมองหน้าพี่ชายคนรองครู่หนึ่ง แล้วกอดเขาแน่น

     

           เขาตบมือลงกับหลังของเธอแล้วกอดตอบ

     

           โลกิยังไม่ตายจริงๆด้วย

     

           “ว่าแต่...” เธอดันตัวเขาออก

           “ถ้าท่านอยู่นี่...แล้วโอดินล่ะ?”

     

           สีหน้าของเทพแห่งคำลวงค่อยๆเจื่อนลง

     

           ...เฮ้อ...

     

           “ท่านเอาเขาไปโยนทิ้งไว้ที่ไหนล่ะเนี่ย?”

     

           “ก็...” เขาเกาท้ายทอยเบาๆ

           “ที่ไหนสักแห่งในมิดการ์ดนั่นล่ะ?”

     

           “แล้วไฮม์ดัล?”

     

           “ข้าไล่เขาออก”

     

           ง่ายๆอย่างนี้ก็ได้เหรอ(วะ)?

     

           เธอแทบยกมือขึ้นกุมหัว ก่อนจะถอนหายใจยาวๆ

           “โอเค หมดคำถาม”

     

           “เดินทางดีๆล่ะ สคาดิ” เสียงเขาไล่หลังเธอมาตอนออกจากห้อง

           “ฝากตบกบาลธอร์แทนข้าด้วย”

     

           “ภาวนาไว้เถอะว่าพอเขากลับมาจะไม่รู้ว่าเป็นท่าน ไม่อย่างนั้นงานหนักแน่ๆ” หญิงสาวโต้กลับ ได้ยินเสียงหัวเราะของเขาลอยมาตามลม

     

           ให้ตายเถอะ

     

           หลอกกันไปหลอกกันมา หลอกกันเก่งนัก เธอล่ะเบื่อจริงๆ

     

           หญิงสาวเดินไปที่ทางเข้าไบฟรอสต์ ปรายตามองทหารคนหนึ่งที่ทำหน้าที่แทนไฮม์ดัลอยู่

     

           หน่วยก้านก็ใช้ไม่ได้ ท่าทางก็ไม่กระฉับกระเฉงคล่องแคล่ว

     

           โลกิคิดบ้าออะไรอยู่ถึงเอาเจ้าหนุ่มหัวล้านนี่มาทำงาน?

     

           เธอได้แต่พ่นลมหายใจออกจากจมูกแล้วเดินไปอยู่ตรงตำแหน่งที่ใช้วาร์ป

     

           แสงสีรุ้งแสบตาวาบลงมารอบกาย

     

           เทพีแห่งเหมันต์หลับตาลง หมุนธนูในมือไปมาเบาๆ

     

     

     

     

     

     

           ไอ้ทหารนั่นมันเทียบไฮม์ดัลไม่ติดจริงๆนั่นแหละ

     

           แม้แต่สคาดิที่เหม็นขี้หน้าตาแก่นั่นยังเห็นด้วย

     

           เธอขยับแขนไปมาเพื่อคลายความปวดเมื่อยจากการถูกกระแทกเข้ากับพื้นปูน

     

           ขนาดเทพตาบอดนั่นยังไม่เคยมือหนักกับเธอถึงขั้นนี้เลยแม้ว่าเธอจะทั้งแซะทั้งเหน็บเขาสารพัดสารพัน

     

           หญิงสาวกวาดตามองไปรอบตัว

     

           อย่างน้อยก็อยู่ในตรอกที่ไม่มีคน ไม่งั้นคงได้เสียชื่อหมดแน่ๆ

     

           ร่างเพรียวยันตัวขึ้นมา กุมเอวเล็กน้อย

           โอย เคล็ดแล้วมั้งเนี่ย

     

           ดวงตาสีฟ้าเทาเสยขึ้น มองเห็นยอดตึกสตาร์คในนิวยอร์คยามกลางคืนอยู่ไม่ไกล

     

           หวังว่าจะไม่ได้พลาดอะไรไปมากหรอกนะ

     

           สคาดิสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วร่ายเวทย์อีกครั้ง

     

     

     





     Except, I DID know lol and I called it instantly in the new Thor ...

    Sassy Loki GIF - Find & Share on GIPHY





    TALK WITH FM

    ตอนหน้าได้บู๊แล้วนะทุกคนนนนนนนนนนนน

    เด็จน้องเล็กได้เจอพี่กิแล้ว (ในที่สุด)

    ขนาดน้องยังรู้เลยว่าโอดินนั่งแปลกๆไป ตอนท้ายธอร์ภาค 2 โอดินก็นั่งเอนๆนะ อิพี่ไม่รู้ตัวเลยรึไง 5555

    เผลอแป๊บเดียวก็ผ่านมา 2 ปีแล้วนะคะเนี่ย หลังจากวันแรกที่เราได้ลงนิยายเรื่องนี้

    เวลาไม่คอยใครจริงๆ

    เดี๋ยวจะมีตอนพิเศษเนื่องในโอกาสครบรอบนี้นะคะ รออ่านกันด้วยเน้ออ

    ด้วยรักและถุงกาว

    เฟิงมี่ค่ะ>3<

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×