ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Marvel || Broken Throne (OC feat. Thorki, Stony, Spideypool, etc.)

    ลำดับตอนที่ #42 : Broken Throne S3 || Ch 1

    • อัปเดตล่าสุด 24 มี.ค. 63


    || B R O K E N T H R O N E ||

    s e a s o n 3

    ----------------------------

    CHAPTER 1

     

     

           ห้องโถงของปราสาทเป็นสีขาว...ขาวสะอาด นั่นคือสิ่งแรกที่เข้ามาในหัวของสคาดิ

     

           และในวินาทีต่อมา เธอก็พบว่ามันไม่เชิงเป็นสีขาวซะทีเดียว

     

           ออกจะเป็น...ฟ้าซีดด้วยซ้ำ

     

           หญิงสาวละสายตาจากเพดานโค้งเป็นโดมสวยๆนั่นแล้วกวาดมันลงมาที่พื้นสีซีดที่ดูทรงแล้วน่าจะทำจากหินอ่อน

     

           เก้าอี้เป็นแถวตั้งอยู่ระหว่างเสาทรงกระบอกสองสามต้น มันนำไปที่ยกพื้นสูงตรงสุดโถงซึ่งเป็นบันไดขั้นสั้นๆขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงลานสีขาวเรียบๆ

     

           และที่ตั้งเด่นอยู่บนนั้นคือบัลลังก์สีเดียวกัน เท้าแขนทั้งสองข้างถูกสลักเป็นรูปมังกร...หนึ่งในสัตว์ในตำนานของเอลฟ์น้ำแข็งที่ว่ากันว่าจะปกป้องกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์

     

           ติดอยู่อย่างเดียว...

     

           ผู้ที่นั่งบนนั้นไม่ใช่เธอ

     

           เทพีแห่งเหมันต์เชิดหน้าขึ้นแล้วย่างก้าวข้ามโถงไปตรงหน้าบันได ทำให้สายตานับสิบคู่ของบรรดาขุนนางจ้องตรงมาที่เธอ

     

           แล้วเธอก็ต้องชะงักเมื่อเห็นหน้าของผู้ที่อยู่บนนั้น

     

     

     





     

     

     

           สคาดิจำช่วงเวลาก่อนที่เธอจะไปอยู่ที่แอสการ์ดได้ลางๆ

     

           แต่เธอจำวันที่ผู้เป็นบิดาแย้มยิ้มกว้างพร้อมกับอุ้มเด็กทารกคนหนึ่งเข้ามาในห้องของเธอได้แม่น

     

           ราชาธยาสซียื่นร่างเล็กในห่อผ้าสีขาวลงในอ้อมแขนของเธอ

     

           สคาดิ นี่คือน้องชายของลูก เขาว่า

     

           เธอยังเห็นสีหน้านิ่งเรียบเดาอารมณ์ของมารดาที่ยากจะพบในห้วงความทรงจำจนทุกวันนี้

     

           ท่านแม่ไม่ได้ท้อง... เธอในวัยไม่กี่ร้อยปีขมวดคิ้ว

           เขามาได้ยังไงคะ?

     

           ท่านพ่อคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ มือใหญ่ลูบหัวเธอด้วยความรัก

     

           ไม่สำคัญว่าแม่ของเขาคือใครหรอกจ้ะ ลูกสัญญาได้ไหมว่าจะรักน้อง?

     

           เขาจะได้เป็นรัชทายาทรึเปล่าคะ?

     

           ไม่จ้ะ ไม่ เขายิ้ม

           ยังไงลูกก็ยังเป็นลูกคนแรกของพ่อ ตามกฎแล้วลูกก็คือรัชทายาทที่ถูกต้อง

     

           ค่ะ เธอสำรวจใบหน้ากลมป้อมของน้องชายตัวน้อยที่กำลังหลับสบาย

           งั้นลูกจะรักเขาค่ะ

     

           เมื่อกลับมาทบทวนฉากวันนั้นอีกที เธอคิดว่าเธอเห็นสันกรามที่ขบกันของท่านแม่

     

           ในวันที่อาณาจักรของเธอล่มสลาย เด็กชายคนนั้นหายตัวไปและเธอก็คิดว่าเขาตายไปแล้ว

     

           เห็นได้ชัดว่าเธอคิดผิด

     

           บนบัลลังก์น้ำแข็งนั้นคือร่างของเด็กชายคนหนึ่ง ดวงตาสีฟ้าเทาที่คล้ายกับของเธออย่างไม่น่าเชื่อก้มลงมองเธอด้วยความฉงน

     

           เขาไม่เคยรู้จักเธอ และเธอก็ไม่เคยรู้จักเขาจริงๆก่อนที่อาณาจักรจะแตกสลาย

           พวกเขาทั้งคู่คือคนแปลกหน้า...ทั้งที่ไม่ควรจะเป็นแบบนั้น

     

           ลมหายใจของเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่สำรวจใบหน้าของร่างเล็กนั้น

     

           ...ช่างเหมือนคนผู้นั้นเหลือเกิน

     

           ดวงตาของเธออ่อนลงหลายส่วน แต่ก็กลับมาเรียบนิ่งเหมือนเดิมเมื่อได้ยินเสียงผ้าเสียดสีกันข้างบัลลังก์

     

           หญิงงามในชุดยาวสีทองเลื่อมข้างๆเขาเหลือบมองผู้เป็นราชาอีกครั้ง ก่อนจะหันมาหาเธอ

     

           “ว่าธุระของท่านมา” เธอว่า เสียงทรงพลังสะท้อนไปทั่วโถงน้ำแข็ง

     

           สคาดิเอียงคอ มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นบางๆ

     

           ส่วนหญิงผู้นี้ก็ยังไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว

     

           “ข้าอุตส่าห์กลับมาเยี่ยม” ร่างเพรียวเจ้าของดวงตาสีฟ้าเทาโต้ตอบด้วยน้ำเสียงกังวานเรียบเย็น

           “ใจคอจะไม่ทักทายหน่อยเลยรึ อิดุนน์?”

     

           เจ้าของชื่อสะดุ้ง ก่อนจะเขม้นมองเธอด้วยดวงตาสีเทาที่เขียนขอบดำเสียจนเข้มทึบคู่นั้น

     

           “เป็นไปไม่ได้...” สีหน้าของเธอซีดเผือดลงอย่างทันควัน

     

           “เป็นไปได้แล้ว” หญิงสาวที่อยู่ด้านล่างเชิดหน้าขึ้นสูงกว่าเดิม มุมปากบิดโค้งเป็นรอยยิ้ม

     

           “คราวนี้...จะถอนสายบัวให้ข้าได้รึยัง?”

     

           “ข้า...ข-ข้า ท่าน...”

     

           สคาดิเลิกคิ้ว

           “เจ้าหญิงรัชทายาทมาถึง เจ้าก็ควรจะให้เกียรติกันสักหน่อยสิ อย่ามัวแต่ยืนบื้อเหมือนที่เจ้าชอบทำเวลาท่านพ่อข้าไม่ยอมไปห้องเจ้า”

     

           เป็นแค่นางสนมแท้ๆ กล้าเหิมเกริมทำเป็นลืมกฎโบราณที่มีมากว่าหมื่นปีเชียวรึ?

     

           สีหน้าของอิดุนน์ครึ้มลงราวกับว่าเธอเพิ่งเดินขึ้นไปกระชากชุดสีทองนั่นออกมาจากร่าง

     

           แล้วเธอก็ยอบกายลงถอนสายบัวในที่สุด

     

           “องค์หญิงสคาดิ” อดีตสนมในรัชสมัยของราชาธยาสซีเค้นเสียงลอดไรฟันขณะก้มลงมองพื้น

     

           “ตามสบาย” สคาดิพยักหน้าเบาๆ

     

           วันนี้ได้ทุบสนมปลายแถวคนนี้สักทีก็ถือว่ามาไม่เสียเที่ยวแล้ว

     

           “เท่าที่ข้าจำได้...” เสียงเล็กๆที่แม้จะไม่ทรงพลังแต่ก็ใสกังวานดังขึ้น เรียกความสนใจจากร่างเพรียวให้หันกลับไปมองร่างบนบัลลังก์อีกครั้ง

     

           “ท่านพี่ของข้าถูกพวกชิทอรีสังหารไปแล้วเมื่อหนึ่งพันปีก่อน”

     

           ดวงตาสีฟ้าเทามองไปที่ใบหน้าของเด็กชาย คิ้วเข้มเลิกขึ้นพร้อมกับปากที่บิดลงเล็กน้อย

     

           “ชิทอรีสังหาร?” เธอทวนคำเบาๆ

           “ว้าว นี่เองสินะที่ทำให้พวกเจ้าลบชื่อข้าออกจากประวัติศาสตร์”

     

           เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยตรงปลาย ก่อนที่มันจะกลับมาเรียบนิ่งเหมือนเดิม

     

           สคาดิสูดหายใจลึกแล้วก้าวขึ้นบันได

     

           “เมื่อพันปีก่อน...” เดินขึ้นไปอีกก้าว

     

           “ก่อนที่ข้าจะถูกชิทอรีพวกนั้นจัดการ...เหมือนกับท่านพ่อของข้า” ดวงตาสีฟ้าปรายมามองน้องชายต่างมารดาเล็กน้อย

           “เหมือนกับท่านพ่อของเรา”

     

           ขาเรียวขยับก้าวขึ้นอีกครั้ง

           “โอดินก็มา”

     

           ทั่วทั้งโถงเงียบวังเวง สะท้อนคำพูดทุกพยางค์ของเธอ

     

           “เขานำข้ากลับไปที่แอสการ์ดในฐานะธิดาบุญธรรม” อีกก้าวหนึ่ง

     

           “และเมื่อเร็วๆนี้...” และอีกก้าว

     

           “ข้าได้ข่าวมาว่ามีกลุ่มเอลฟ์น้ำแข็งเหลือรอด” และอีกก้าว

     

           “ข้าเลยตั้งใจจะกลับมาเยี่ยม” ก้าวสุดท้ายพาเธอขึ้นไปบนแท่นขาวที่มีบัลลังก์ตั้งอยู่

     

           ร่างเพรียวหันหลังกลับไปเผชิญหน้ากับเหล่าขุนนาง

           “...และทวงสิทธิของข้า”

     

           “ไม่มีสิทธิอะไรทั้งนั้น” เอลฟ์ตนหนึ่งลุกขึ้นยืน

           “เจ้าเอาอะไรมาพูดว่าเป็นรัชทายาท?”

     

           หญิงสาวแสยะยิ้ม กอดอกแล้วเอียงคอ

     

           “ถ้าข้ามี...แล้วเจ้าจะทำไม?”

     

           มือเรียวเอื้อมลงไปในอกเสื้อของตน แล้วปลดสร้อยคอเส้นบางที่ไม่เคยอยู่ห่างกายออกมา

     

           “ดูสิ่งที่ข้าถือดีๆซิ ท่านลอร์ด” เธอชูมันขึ้น

     

           เสียงฮือฮาดังขึ้น

     

           “นั่นมัน...อะไรกัน?” เขาเสียงสั่น

     

           หญิงสาวเลิกคิ้ว

           “ท่านควรจะรู้ดีนะ”

     

           “ทำไมน่ะเหรอ...” เธอหันไปมองอิดุนน์ที่มีสีหน้าอดกลั้น

     

           “เพราะมันคือสร้อยที่ท่านพ่อของข้าสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษยังไงล่ะ”

     

           ตั้งแต่ที่ได้สร้อยเส้นนี้มาแล้ว เธอก็แทบไม่เคยถอดเลยนอกจากจะจำเป็นจริงๆ ทำให้เวลามีใครเห็นเธอ พวกเขาก็มักจะพบเห็นสร้อยและจี้สีเข้มสวยคล้องอยู่ที่คอของเธอเสมอ

           แม้แต่ในรูปวาดเก้าในสิบส่วนของเธอก็จะมีสร้อยนี้อยู่ด้วย

     

           ทั้งโถงเงียบไปอย่างจนปัญญา

     

           “หากท่านเป็นพี่สาวของข้าแล้วจริงๆ” เด็กชายบนบัลลังก์ว่า ทำให้เธอหันกลับไปมองหน้าเขาชัดๆ

     

           “เช่นนั้น ที่ท่านมาเพราะต้องการบัลลังก์อย่างนั้นหรือ?”

     

           สคาดินิ่งไปครู่หนึ่ง

     

           “จริงๆก็...ไม่หรอก น้องชาย”

     

           เธอเชิดหน้าขึ้นอีกครั้ง

           “ข้าแค่อยากมาดูเฉยๆว่าตกลงใครกันแน่ที่ถูกจับลัดคิวข้าขึ้นไปนั่งบนนั้น...แล้วก็อยากรู้ด้วยว่าพวกเจ้าเป็นอย่างไรกันบ้าง”

     

           ความจริงก็ยอมรับแหละ ว่าตอนแรกตั้งใจจะเดินดุ่มๆเข้ามาจับใครก็ตามที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ขาวๆนั่นเขวี้ยงลงพื้น, หยิบมงกุฎมาสวมให้ตัวเองแล้วประกาศเอาหน้าด้านๆเลยว่าเธอคือใคร มาทำอะไร และตอนนี้เป็นราชินีของอาณาจักรน้ำแข็งแล้ว

           แต่พอเห็นหน้าน้องก็...ตัดใจทำไม่ลง

     

           ไม่รู้ว่าเพราะส่วนหนึ่งในใจลึกๆคิดถึงน้องชายร่วมบิดาที่ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไงมาตลอดพันกว่าปี หรือว่าเห็นว่าเขาหน้าเหมือนธยาสซี บิดาของทั้งเขาและเธอเลยใจอ่อน

     

           ร่างเพรียวหรุบตาลงก่อนจะเหลือบมองมังกรคู่บนบัลลังก์นั่น

     

           ...ช่างมันเถอะ ไม่เอาแล้วก็ได้

     

           ตอนนี้เธอมีทั้งน้องชาย ทั้งประชาชน

           มันควรจะพอแล้ว...

     

           ดวงตาสีฟ้าของเขามองเข้ามาในตาของเธอ

     

           “เช่นนั้น อาณาจักรเราก็ขอต้อนรับท่านกลับมา”

     

           หญิงสาวมองใบหน้าที่เหมือนบิดาราวเคาะพิมพ์ของผู้เป็นน้องชาย แล้วยิ้มบางๆ

     

           “ขอบใจสำหรับการต้อนรับ เบรดิ”

     

     

     

     




     

     





     

    TALK WITH FM

    กลับมาแล้วค่าาาาา

    ช่วงนี้พยายามอยู่บ้านไม่ออกไปไหน เลยมีเวลาปั่นมากกว่าเดิม(ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดี(?) ถถถถถถถ)

    รีดเดอร์ทุกคนระวังตัว รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ

    เราจะต้องผ่านมันไปด้วยกันค่ะ

    ตอนนี้คนไทยต้องช่วยกันแล้วนะคะ อย่าเพิ่งสร้างดราม่า อย่าเพิ่งเหน็บแนมด่าทอกัน ช่วยกันสู้ก่อนค่ะ เมื่อไหร่สงบแล้วค่อยรบกันเองต่อ(555555//ขำค้าง)

    น้องชายสคาดิโผล่แล้วนะคะ ความจริงไม่ได้อยากจะให้ชื่อเหมือนกันเลย แต่ว่าไปนั่งอ่านปกรณัมนอร์สเกี่ยวกับเด็จน้องเล็กแล้วพบชื่อนี้ที่ฟังดูใช้ได้ที่สุดแล้ว แล้วก็มีความเกี่ยวข้องบางส่วนกับสคาดิ เลยเอามาใส่ค่ะ

    เจอกันตอนหน้าเน้อ

    ด้วยรัก,กุงกาวและหน้ากากอนามัย

    เฟิงมี่ค่ะ>3<

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×