คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Broken Throne || Ch 2
--------------------------------------------
CHAPTER 2
ทุกอย่างเริ่มขึ้นเร็วมาก
สคาดิหมายถึง...โคตรเร็ว
ไม่ทันไร
หน่วยชีลด์ก็จับตัวบาร์ตัน--ผู้ซึ่งถูกสะกดจิตโดยพี่ชายของเธอ--โลกิ สำเร็จ
มันจะดีกว่านี้หากทุกคนหยุดโลกิไม่ให้เปิดประตูรูโบ๋บนฟ้าจนกระทั่งไอพวกปลาไหลเหล็กตัวเบ้อเริ่มกะนักรบเขาย้าวยาวพวกนี้ไหลร่วงลงมายังกะหลักการแทนที่ของสารในหนังสือวิชาฟิสิกส์ที่เธอเคยอ่านนั่น!!!
เธอพยายามกระโจนขึ้นไปบนดาดฟ้าของตึกอเวนเจอร์สในตอนที่นายด็อกเตอร์สติเฟื่องชื่ออะไรซักอย่างที่เธอไม่สนใจและไม่ต้องการเก็บรวบรวมเข้ามาในสารบบความทรงจำเปิดประตูมิติบ้าๆนั่นขึ้น
โอ...เค…
นี่มัน...อภิมหามากมายยิ่งกว่าที่สคาดิทำใจไว้
ยานที่มีลักษณะคล้ายปลาตัวเขื่องลอยร่อนลมลงมาจากห้วงมิติอันดำมืด
นักรบเหล็กเขาโง้ง(แน่นอนว่ายาวโง้งน้อยกว่าเขาทองคำอันเปล่งประกายที่โลกิภูมิใจ)ในยานย่อยที่ดูเหมือนสกูตเตอร์อวกาศแล่นออกมาราวกับสโลว์โมชั่นจากช่องเล็กๆข้างยาน
ไอพวกกองทัพชิทอรีนี่เหมือนมดชะมัด
และก็เป็นโชคร้ายของพวกมันที่สคาดิเหม็นขี้หน้ามดเข้าไส้
‘เด็จน้องเล็กแห่งแอสการ์ดรีบเข้าไปเปลี่ยนชุดในตึกก่อนจะคว้าธนูและแล่งใส่ลูกธนูสีขาวสะอาดที่นำติดตัวมาจากแอสการ์ดขึ้นมาสะพายบ่า
ชุดของเธอเป็นเนื้อผ้าที่ทออย่างประณีตด้วยฝีมือของช่างชาวแอสการ์ด(แน่นอนว่าเป็นชุดเดียวกับที่เธอใส่ตอนถูกโยนอัปเปหิลงมาที่นี่)
เสื้อสีเทาแขนยาวผ่าแขนด้านหน้าตั้งแต่ข้อศอกลงไป ชายเสื้อยาวถึงข้อพับหลังเข่าทับซ้อนกัน
พันเอวด้วยแถบผ้าสีดำสนิท กางเกงสีดำและรองเท้าบู๊ทยาวถึงเข่าสีน้ำตาล เกราะเกล็ดมังกรสีขาวทองแวววับอยู่บนไหล่ทั้งสองข้างแข่งกับจี้สีฟ้าบนอก
ร่างโปร่งกระโดดออกจากตัวตึกลงไปยังสมรภูมิแห่งความเละเทะและวุ่นวายด้านล่าง
สายตาสะดุดเข้ากับความแวววาวของเขาทองคำบนหัวของพี่ชายคนกลางที่ขับยานนำหน้ากองทัพมดสวมเขามาแต่ไกล
ไม่ใช่แค่โลกิที่เธอเห็น...
ลูกธนูสีดำของบาร์ตันที่กำลังพาดอยู่ที่สายก็ดึงความสนใจเธอไปเหมือนกัน
...เขาเล็งไปที่พี่...
เธอยิงบาร์ตันไม่ลง...เขาเป็นเพื่อนของเธอ
สคาดิตัดสินใจวิ่งออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
มือเรียวร่ายเวทย์ร่นระยะทางและเวทย์ลอยตัวเพื่อช่วยให้ไปถึงตัวโลกิได้เร็วขึ้น
ในวินาทีก่อนที่ธนูจะปักเข้าที่หัวงามๆของพี่ชาย
มือขาวซีดก็เอื้อมขึ้นมาคว้าหมับได้ทัน
แน่นอนสคาดิรู้ว่าบาร์ตันมีแผนสำรองแน่นอน
ยิ่งเห็นนายตาดีนั่นแอบยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ยิ่งรู้สึกไม่ดี
และในเสี้ยววิก่อนที่หัวธนูจะระเบิดตู้มต้ามใส่เทพแห่งกลลวงนั่นเอง
สคาดิก็โดดเข้าคั่นกลางระหว่างลูกธนูและโลกิพอดีเด๊ะ
จากนั้นก็...
อืม...
อย่างที่มันควรจะเป็นน่ะนะ...
ทั้งเธอทั้งโลกิปลิวหวือลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่บนดาดฟ้าตึกสตาร์ค
โลกิคงแค่ช้ำเลือดช้ำหนองเล็กน้อยเพราะมีคนคอยกักแรงระเบิดไว้ได้ส่วนหนึ่ง
แต่สคาดิน่ะสิ...
ก็อย่างที่บอกไป
เทพตายไม่ได้ แต่เจ็บได้
เธอค่อยๆพลิกตัวขึ้นมาหอบหายใจ
ไอออกมาอย่าเจ็บปวด
เอาจริงๆนะ
ก็ไม่ได้เลือดตกยางออกหรอก แต่มันร้าวตั้งแต่ชายโครงลงมาถึงเอวเลยทีเดียว
โลกิทำท่าจะเข้ามาพยุงเธอในตอนที่มีใครคนหนึ่งเข้ามาขวาง
ซึ่งใครคนนั้นดันกลายเป็นธอร์
พี่ชายคนโต(แต่สมองไม่โต)ของพวกเธอ
การต่อสู้ระหว่างพี่ชายทั้งสองนั้นเธอไม่อยากดู
เทพีแห่งเหมันต์กาลยันตัวขึ้นมาแล้วกระโดดลงมาจากบนนั้นลงไปร่วมสู้กับกัปตันและนาตาชาที่ถนนหน้าตึก
แท่งน้ำแข็งและเกราะเวทย์สีฟ้าใสอันแล้วอันเล่าถูกเสกขึ้นมาเสียบร่างของชิทอรีที่ต่างดาหน้าเข้ามาใกล้จนร่างของพวกมันกองพะเนินอยู่รอบตัวเธอในเวลาไม่นานนัก
ยิ่งมองหน้าพวกมัน
เธอยิ่งรู้สึกขยะแขยง
ภาพในอดีตเมื่อพันกว่าปีที่แล้วฉายซ้ำไปซ้ำมาในหัว
ใบหน้าอันน่าเกลียดของพวกชิทอรีหรือบิลจ์
สไนป์ที่โผล่พรวดออกมาหลังจากที่แทงทหารองครักษ์ผู้ซื่อสัตย์ที่ทำหน้าที่ปกป้องเธอด้วยชีวิตทำให้เธอแทบอยากกรีดร้อง
กลิ่นคาวเลือดของทั้งเขา...ท่านพ่อและท่านแม่ยังคงติดอยู่ในจมูกจนแทบได้กลิ่นอย่างชัดเจนแม้จะผ่านมาแล้วกว่าหนึ่งสหัสวรรษ
เกลียด...
เธอเกลียดพวกมัน...
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรอยู่
จนกระทั่ง...
“สคาดิ?”
สะดุ้งพรวดสุดตัวด้วยเสียงของแบล็ควิโดว์
ก่อนจะพบว่าตนเองกำลังจะเปลี่ยนให้สภาพรอบข้างกลายเป็นเมืองน้ำแข็ง
“ฉ-ฉันขอโทษจริงๆ...ความทรงจำเก่าๆน่ะ”
รีบลดมือลงแล้วคลายพลังทั้งหมด
“เธอโอเคแน่นะ?”
สตีฟ โรเจอร์สถามพลางเข้ามาดูอาการ
“สบายมาก”
สคาดิฝืนยิ้มตอบ ทั้งที่ในใจนั้นบีบรัดอย่างเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเป็นตั้งแต่วันนั้น
นาตาชามองมาที่เธออย่างห่วงๆ
เธอทำเป็นไม่สนใจ
แล้วหันไปโจมตีกองทัพชิทอรีต่อ
นี่มันบ้าชัดๆ...
สคาดิได้ยินโทนี่พูดถึงขีปนาวุธที่รัฐบาลอนุมัติให้มีการปล่อยมาที่นิวยอร์ค
นั่นทำให้เธอชะงักขณะกำลังจะกะซวกชิทอรีตัวหนึ่ง
ทันทีที่มันเห็นเธอเสียจังหวะ
สิ่งมีชีวิตน่าเกลียดตัวนั้นจึงต่อยซีกหน้าซ้ายของเธอเข้าไปเต็มๆ
ทำเอาร่างเพรียวเซถลาไปซบกับกระโปรงรถข้างๆ
เอื้อมมือไปปาดมุมปากแล้วพบว่าของเหลวสีแดงสดไหลซึมออกมาเล็กน้อย
“บ้าเอ๊ย!!” กัดฟันกรอดแล้วหันกลับไปตะบันหน้าชิทอรีตัวเดิม
ทว่าเมื่อเสียจังหวะการโจมตี
ก็แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการเปิดช่องโหว่ให้พวกมันอย่างสมบูรณ์
รู้สึกได้ถึงคมมีดในตอนที่ไอ้หุ่นเหล็กเวรตะไลลอบกัดอีกตัวหนึ่งเสียบดาบทะลุท้อง
สคาดิก้มลงมองดูปลายอาวุธมีคมสีเข้มที่ย้อมไปด้วยเลือดของตนเอง
หูได้ยินเสียงจิ๊กๆน่ารำคาญของมันและเสียงร้องของธอร์
ไวเท่าความคิด
เธอถองศอกกลับไปที่ชิทอรีตัวนั้น ดึงตัวเองออกมาจากคมดาบแล้วก็หมุนปลายดาบกลับไปแทงเจ้าของของมัน
ธอร์เข้ามาประคองทันทีที่เห็นว่าเธอกำลังจะร่วงลงไปพับกับพื้น
รัฐบาลบัดซบ...
สคาดิแทบจะกุมขมับ
ติดที่เธอเพิ่งมีรูในท้องทำให้ทำได้ไม่ถนัดนัก
ทุกอย่างกำลังจะเรียบร้อย
พวกรัฐบาลบ้าบออะไรนั่นคิดบ้าอะไรอยู่ฟะ!!!!
ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนาขอให้สตาร์คจัดการขีปนาวุธเสร็จไวๆเถอะ
เธอคงยันกองทัพชิทอรีโดยที่ยังมีเลือดไหลออกมายังกะก๊อกแตกแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแน่ๆ
ธอร์ถูกเฉดหัวขึ้นไปที่ยอดตึกสูงเพื่อตัดกำลังอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุด
ขณะที่เธอ,นาตาชา,คลินท์และสตีฟยังคงอัดแหลกต่อไป
ส่วนฮัลค์...ได้ข่าวว่าเขาขึ้นไปจับโลกิฟาดจนหมดสภาพ
นับถือเลยล่ะ
เธอไม่เคยเห็นพี่ชายคนกลางหมดภาพลักษณ์มากขนาดนี้มาก่อน ครั้งสุดท้ายที่เขาหมดสภาพจริงๆ...คือแบบ
หมดลูกเล่น หมดแผนจริงๆตอนอายุประมาณเก้าขวบ
นึกถึงตรงนี้ก็เค้นเสียงหัวเราะออกมาหน่อยหนึ่ง
ส่งผลให้ต้องงอตัวกลับลงไปกุมท้องตัวเองอีกรอบ
อยากเห็นจัง...แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อถึงตอนนั้น...เธอจะยังมีสติอยู่ไหม
สคาดิเสกแท่งน้ำแข็งขึ้นมาเสียบชิทอรีอีกสองสามตัวจนกลายเป็นบาร์บีคิวดิ้นได้
นาตาชาถูกกัปตันอเมริกาส่งขึ้นไปกับยานเหล็กของพวกมันแล้ว...
เธอถีบตัวขึ้นไปบนอากาศ
ทะยานตามไปติดๆ
หลังจากทนกุมท้องฟังดอกเตอร์สติเฟื่องที่เพิ่งกลับมามีความคิดเป็นผู้เป็นคนนั่นพล่ามอยู่หลายวิ(แลกกับเลือดหลายลิตรของเธอ)
‘เด็จน้องเล็กแห่งแอสการ์ดก็สรุปได้ว่า...
คทาของโลกิอาจเป็นตัวปิดประตูมิติสยองขวัญได้
และมันอยู่ตรงระเบียงตึก...ที่ๆเธอกับพี่หล่นตุ้บลงมานี่แหละ...
มือเรียวขยับเบาๆ
เรียกแท่งอาวุธสีทองให้เข้ามาอยู่ในมือแล้วส่งให้แบล็ควิโดว์ที่เพิ่งฟังเลคเชอร์จบพอดี
“จัดการซะ”
เธอว่า
ร่างโปร่งยันตัวกับขอบดาดฟ้าขณะที่ไอรอนแมนแบกมิสไซล์สีขาวที่พวกรัฐบาลเฮงซวยให้ปล่อยหายวับเข้าไปในมิติดำมืดนั่น
ก้มลงมองพื้น
เห็นรอยเลือดที่หยดติ๋งเป็นทางยาว
เงยหน้าขึ้นหอบหายใจ...
จะรอดมั้ยวะเนี่ย?
ทัศนียภาพเริ่มพร่ามัว
ร่างกายไม่ตอบสนอง ระบบทางเดินหายใจเริ่มติดขัด สคาดิถ่มเลือดข้นคาวออกจากลำคอแล้วหันไปหานาตาชาที่มองอยู่แล้วด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ต้องห่วงน่า...ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก”
หวังว่านะ...
แว่วเสียงกัปตันอเมริกาสั่งให้สาวผมแดงจัดการปิดประตูมิติซะ
สตาร์ค...โทนี่ล่ะ?
สคาดิพยายามจะท้วง แต่ตอนนี้สิ่งที่ออกจากปากกลับเป็นเสียงขลุกขลักของเลือด
...คงต้องปล่อยให้เทพีแห่งโชคชะตาตัดสินแล้วล่ะ...
เร็วเข้าสิไอรอนแมน...
เอาชนะโชคชะตาให้ได้
นายทำมันมาตลอดนี่...ตั้งแต่ที่รอดตายจากระเบิดนั่น
สู้เขา
โทนี่...สู้เขา
ทันทีที่ปลายคทาแตะกับเทสเซอแรคท์ก็บังเกิดแสงสว่างวาบพุ่งขึ้นไปที่ปากทางของประตูมิติ
ขอบเมฆฟุ้งๆสีขาวโดยรอบค่อยๆบีบตัวลง
และในเวลาก่อนที่มันจะปิดสนิทนั่นเอง
ก็มีวัตถุอย่างหนึ่งตกลงมาพอดี
สคาดิฉีกยิ้มกว้าง
ได้ยินเสียงสบถว่าโทนี่อึดโคตรจากสตีฟ
เสียงของนาตาชากรีดร้องเรียกชื่อเธอ
แต่เหมือนอยู่ไกลเหลือเกิน
จากนั้น...ทุกๆอย่างก็ดับวูบลง
แปะอิมเมจชุดเด็จน้องเล็กค่าาา ไรท์วาดเอง ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ 55555+
TALK WITH FM
ตอนใหม่มาเสิร์ฟแล้วจ้า
เร่เข้ามาๆ ถุ้ย!!!
ไม่ใช่ละ
Broken Throne หรือต่อไปนี้ที่เราจะเรียกชื่อย่อว่า BT ใกล้จบภาคหนึ่งแล้วนะคะ
เพราะอย่างที่บอกไปว่า
BT จะอยู่ในช่วงของ the Avengers ภาคแรกนาจา
ท้ายสุดนี้ก็ขอขอบคุณทั้งเมนต์ทั้งเฟบนะคะ
ด้วยรักและถุงกาว
เฟิงมี่ค่ะ
>3<
ความคิดเห็น