ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Marvel || Broken Throne (OC feat. Thorki, Stony, Spideypool, etc.)

    ลำดับตอนที่ #3 : Broken Throne || Ch 2

    • อัปเดตล่าสุด 10 มิ.ย. 61


    B
    E
    R
    L
    I
    N
     || B R O K E N T H R O N E ||

    --------------------------------------------

    CHAPTER 2

     

     

     

           ทุกอย่างเริ่มขึ้นเร็วมาก

     

           สคาดิหมายถึง...โคตรเร็ว

           ไม่ทันไร หน่วยชีลด์ก็จับตัวบาร์ตัน--ผู้ซึ่งถูกสะกดจิตโดยพี่ชายของเธอ--โลกิ สำเร็จ

          

           มันจะดีกว่านี้หากทุกคนหยุดโลกิไม่ให้เปิดประตูรูโบ๋บนฟ้าจนกระทั่งไอพวกปลาไหลเหล็กตัวเบ้อเริ่มกะนักรบเขาย้าวยาวพวกนี้ไหลร่วงลงมายังกะหลักการแทนที่ของสารในหนังสือวิชาฟิสิกส์ที่เธอเคยอ่านนั่น!!!

     

           เธอพยายามกระโจนขึ้นไปบนดาดฟ้าของตึกอเวนเจอร์สในตอนที่นายด็อกเตอร์สติเฟื่องชื่ออะไรซักอย่างที่เธอไม่สนใจและไม่ต้องการเก็บรวบรวมเข้ามาในสารบบความทรงจำเปิดประตูมิติบ้าๆนั่นขึ้น

     

           โอ...เค…

     

           นี่มัน...อภิมหามากมายยิ่งกว่าที่สคาดิทำใจไว้

     

           ยานที่มีลักษณะคล้ายปลาตัวเขื่องลอยร่อนลมลงมาจากห้วงมิติอันดำมืด นักรบเหล็กเขาโง้ง(แน่นอนว่ายาวโง้งน้อยกว่าเขาทองคำอันเปล่งประกายที่โลกิภูมิใจ)ในยานย่อยที่ดูเหมือนสกูตเตอร์อวกาศแล่นออกมาราวกับสโลว์โมชั่นจากช่องเล็กๆข้างยาน

     

           ไอพวกกองทัพชิทอรีนี่เหมือนมดชะมัด

          

           และก็เป็นโชคร้ายของพวกมันที่สคาดิเหม็นขี้หน้ามดเข้าไส้

     

           เด็จน้องเล็กแห่งแอสการ์ดรีบเข้าไปเปลี่ยนชุดในตึกก่อนจะคว้าธนูและแล่งใส่ลูกธนูสีขาวสะอาดที่นำติดตัวมาจากแอสการ์ดขึ้นมาสะพายบ่า

     

           ชุดของเธอเป็นเนื้อผ้าที่ทออย่างประณีตด้วยฝีมือของช่างชาวแอสการ์ด(แน่นอนว่าเป็นชุดเดียวกับที่เธอใส่ตอนถูกโยนอัปเปหิลงมาที่นี่) เสื้อสีเทาแขนยาวผ่าแขนด้านหน้าตั้งแต่ข้อศอกลงไป ชายเสื้อยาวถึงข้อพับหลังเข่าทับซ้อนกัน พันเอวด้วยแถบผ้าสีดำสนิท กางเกงสีดำและรองเท้าบู๊ทยาวถึงเข่าสีน้ำตาล เกราะเกล็ดมังกรสีขาวทองแวววับอยู่บนไหล่ทั้งสองข้างแข่งกับจี้สีฟ้าบนอก

     

           ร่างโปร่งกระโดดออกจากตัวตึกลงไปยังสมรภูมิแห่งความเละเทะและวุ่นวายด้านล่าง

     

     

     

     

           สายตาสะดุดเข้ากับความแวววาวของเขาทองคำบนหัวของพี่ชายคนกลางที่ขับยานนำหน้ากองทัพมดสวมเขามาแต่ไกล

     

           ไม่ใช่แค่โลกิที่เธอเห็น...

     

           ลูกธนูสีดำของบาร์ตันที่กำลังพาดอยู่ที่สายก็ดึงความสนใจเธอไปเหมือนกัน

     

           ...เขาเล็งไปที่พี่...

     

           เธอยิงบาร์ตันไม่ลง...เขาเป็นเพื่อนของเธอ

     

           สคาดิตัดสินใจวิ่งออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ มือเรียวร่ายเวทย์ร่นระยะทางและเวทย์ลอยตัวเพื่อช่วยให้ไปถึงตัวโลกิได้เร็วขึ้น

     

           ในวินาทีก่อนที่ธนูจะปักเข้าที่หัวงามๆของพี่ชาย มือขาวซีดก็เอื้อมขึ้นมาคว้าหมับได้ทัน

     

           แน่นอนสคาดิรู้ว่าบาร์ตันมีแผนสำรองแน่นอน ยิ่งเห็นนายตาดีนั่นแอบยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ยิ่งรู้สึกไม่ดี

     

           และในเสี้ยววิก่อนที่หัวธนูจะระเบิดตู้มต้ามใส่เทพแห่งกลลวงนั่นเอง สคาดิก็โดดเข้าคั่นกลางระหว่างลูกธนูและโลกิพอดีเด๊ะ

     

           จากนั้นก็...

           อืม...

           อย่างที่มันควรจะเป็นน่ะนะ...

     

           ทั้งเธอทั้งโลกิปลิวหวือลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่บนดาดฟ้าตึกสตาร์ค

     

           โลกิคงแค่ช้ำเลือดช้ำหนองเล็กน้อยเพราะมีคนคอยกักแรงระเบิดไว้ได้ส่วนหนึ่ง

     

           แต่สคาดิน่ะสิ...

     

           ก็อย่างที่บอกไป เทพตายไม่ได้ แต่เจ็บได้

     

           เธอค่อยๆพลิกตัวขึ้นมาหอบหายใจ ไอออกมาอย่าเจ็บปวด

     

           เอาจริงๆนะ ก็ไม่ได้เลือดตกยางออกหรอก แต่มันร้าวตั้งแต่ชายโครงลงมาถึงเอวเลยทีเดียว

     

           โลกิทำท่าจะเข้ามาพยุงเธอในตอนที่มีใครคนหนึ่งเข้ามาขวาง

     

           ซึ่งใครคนนั้นดันกลายเป็นธอร์ พี่ชายคนโต(แต่สมองไม่โต)ของพวกเธอ

     

           การต่อสู้ระหว่างพี่ชายทั้งสองนั้นเธอไม่อยากดู

     

           เทพีแห่งเหมันต์กาลยันตัวขึ้นมาแล้วกระโดดลงมาจากบนนั้นลงไปร่วมสู้กับกัปตันและนาตาชาที่ถนนหน้าตึก

     

           แท่งน้ำแข็งและเกราะเวทย์สีฟ้าใสอันแล้วอันเล่าถูกเสกขึ้นมาเสียบร่างของชิทอรีที่ต่างดาหน้าเข้ามาใกล้จนร่างของพวกมันกองพะเนินอยู่รอบตัวเธอในเวลาไม่นานนัก

     

           ยิ่งมองหน้าพวกมัน เธอยิ่งรู้สึกขยะแขยง

     

           ภาพในอดีตเมื่อพันกว่าปีที่แล้วฉายซ้ำไปซ้ำมาในหัว

     

           ใบหน้าอันน่าเกลียดของพวกชิทอรีหรือบิลจ์ สไนป์ที่โผล่พรวดออกมาหลังจากที่แทงทหารองครักษ์ผู้ซื่อสัตย์ที่ทำหน้าที่ปกป้องเธอด้วยชีวิตทำให้เธอแทบอยากกรีดร้อง

     

           กลิ่นคาวเลือดของทั้งเขา...ท่านพ่อและท่านแม่ยังคงติดอยู่ในจมูกจนแทบได้กลิ่นอย่างชัดเจนแม้จะผ่านมาแล้วกว่าหนึ่งสหัสวรรษ

     

           เกลียด...

     

           เธอเกลียดพวกมัน...

     

           เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรอยู่ จนกระทั่ง...

     

           “สคาดิ?”

     

           สะดุ้งพรวดสุดตัวด้วยเสียงของแบล็ควิโดว์ ก่อนจะพบว่าตนเองกำลังจะเปลี่ยนให้สภาพรอบข้างกลายเป็นเมืองน้ำแข็ง

     

           “ฉ-ฉันขอโทษจริงๆ...ความทรงจำเก่าๆน่ะ” รีบลดมือลงแล้วคลายพลังทั้งหมด

     

           “เธอโอเคแน่นะ?” สตีฟ โรเจอร์สถามพลางเข้ามาดูอาการ

     

           “สบายมาก” สคาดิฝืนยิ้มตอบ ทั้งที่ในใจนั้นบีบรัดอย่างเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเป็นตั้งแต่วันนั้น

     

           นาตาชามองมาที่เธออย่างห่วงๆ

     

           เธอทำเป็นไม่สนใจ แล้วหันไปโจมตีกองทัพชิทอรีต่อ

     

          

     

     

           นี่มันบ้าชัดๆ...

     

           สคาดิได้ยินโทนี่พูดถึงขีปนาวุธที่รัฐบาลอนุมัติให้มีการปล่อยมาที่นิวยอร์ค นั่นทำให้เธอชะงักขณะกำลังจะกะซวกชิทอรีตัวหนึ่ง

     

           ทันทีที่มันเห็นเธอเสียจังหวะ สิ่งมีชีวิตน่าเกลียดตัวนั้นจึงต่อยซีกหน้าซ้ายของเธอเข้าไปเต็มๆ ทำเอาร่างเพรียวเซถลาไปซบกับกระโปรงรถข้างๆ

     

           เอื้อมมือไปปาดมุมปากแล้วพบว่าของเหลวสีแดงสดไหลซึมออกมาเล็กน้อย

     

           “บ้าเอ๊ย!!” กัดฟันกรอดแล้วหันกลับไปตะบันหน้าชิทอรีตัวเดิม

     

           ทว่าเมื่อเสียจังหวะการโจมตี ก็แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการเปิดช่องโหว่ให้พวกมันอย่างสมบูรณ์

     

           รู้สึกได้ถึงคมมีดในตอนที่ไอ้หุ่นเหล็กเวรตะไลลอบกัดอีกตัวหนึ่งเสียบดาบทะลุท้อง สคาดิก้มลงมองดูปลายอาวุธมีคมสีเข้มที่ย้อมไปด้วยเลือดของตนเอง

     

           หูได้ยินเสียงจิ๊กๆน่ารำคาญของมันและเสียงร้องของธอร์

     

           ไวเท่าความคิด เธอถองศอกกลับไปที่ชิทอรีตัวนั้น ดึงตัวเองออกมาจากคมดาบแล้วก็หมุนปลายดาบกลับไปแทงเจ้าของของมัน

     

           ธอร์เข้ามาประคองทันทีที่เห็นว่าเธอกำลังจะร่วงลงไปพับกับพื้น

     

           รัฐบาลบัดซบ...

     

           สคาดิแทบจะกุมขมับ ติดที่เธอเพิ่งมีรูในท้องทำให้ทำได้ไม่ถนัดนัก

     

           ทุกอย่างกำลังจะเรียบร้อย พวกรัฐบาลบ้าบออะไรนั่นคิดบ้าอะไรอยู่ฟะ!!!!

     

           ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนาขอให้สตาร์คจัดการขีปนาวุธเสร็จไวๆเถอะ เธอคงยันกองทัพชิทอรีโดยที่ยังมีเลือดไหลออกมายังกะก๊อกแตกแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแน่ๆ

     

           ธอร์ถูกเฉดหัวขึ้นไปที่ยอดตึกสูงเพื่อตัดกำลังอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุด ขณะที่เธอ,นาตาชา,คลินท์และสตีฟยังคงอัดแหลกต่อไป

     

           ส่วนฮัลค์...ได้ข่าวว่าเขาขึ้นไปจับโลกิฟาดจนหมดสภาพ

     

           นับถือเลยล่ะ เธอไม่เคยเห็นพี่ชายคนกลางหมดภาพลักษณ์มากขนาดนี้มาก่อน ครั้งสุดท้ายที่เขาหมดสภาพจริงๆ...คือแบบ หมดลูกเล่น หมดแผนจริงๆตอนอายุประมาณเก้าขวบ

     

           นึกถึงตรงนี้ก็เค้นเสียงหัวเราะออกมาหน่อยหนึ่ง ส่งผลให้ต้องงอตัวกลับลงไปกุมท้องตัวเองอีกรอบ

     

           อยากเห็นจัง...แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อถึงตอนนั้น...เธอจะยังมีสติอยู่ไหม

     

           สคาดิเสกแท่งน้ำแข็งขึ้นมาเสียบชิทอรีอีกสองสามตัวจนกลายเป็นบาร์บีคิวดิ้นได้

     

           นาตาชาถูกกัปตันอเมริกาส่งขึ้นไปกับยานเหล็กของพวกมันแล้ว...

     

           เธอถีบตัวขึ้นไปบนอากาศ ทะยานตามไปติดๆ

     

          

     

           หลังจากทนกุมท้องฟังดอกเตอร์สติเฟื่องที่เพิ่งกลับมามีความคิดเป็นผู้เป็นคนนั่นพล่ามอยู่หลายวิ(แลกกับเลือดหลายลิตรของเธอ) เด็จน้องเล็กแห่งแอสการ์ดก็สรุปได้ว่า...

     

           คทาของโลกิอาจเป็นตัวปิดประตูมิติสยองขวัญได้

     

           และมันอยู่ตรงระเบียงตึก...ที่ๆเธอกับพี่หล่นตุ้บลงมานี่แหละ...

     

           มือเรียวขยับเบาๆ เรียกแท่งอาวุธสีทองให้เข้ามาอยู่ในมือแล้วส่งให้แบล็ควิโดว์ที่เพิ่งฟังเลคเชอร์จบพอดี

     

           “จัดการซะ” เธอว่า

     

           ร่างโปร่งยันตัวกับขอบดาดฟ้าขณะที่ไอรอนแมนแบกมิสไซล์สีขาวที่พวกรัฐบาลเฮงซวยให้ปล่อยหายวับเข้าไปในมิติดำมืดนั่น

     

           ก้มลงมองพื้น เห็นรอยเลือดที่หยดติ๋งเป็นทางยาว

     

           เงยหน้าขึ้นหอบหายใจ...

     

           จะรอดมั้ยวะเนี่ย?

     

           ทัศนียภาพเริ่มพร่ามัว ร่างกายไม่ตอบสนอง ระบบทางเดินหายใจเริ่มติดขัด สคาดิถ่มเลือดข้นคาวออกจากลำคอแล้วหันไปหานาตาชาที่มองอยู่แล้วด้วยความเป็นห่วง

     

           “ไม่ต้องห่วงน่า...ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก” หวังว่านะ...

     

           แว่วเสียงกัปตันอเมริกาสั่งให้สาวผมแดงจัดการปิดประตูมิติซะ

     

           สตาร์ค...โทนี่ล่ะ? สคาดิพยายามจะท้วง แต่ตอนนี้สิ่งที่ออกจากปากกลับเป็นเสียงขลุกขลักของเลือด

     

           ...คงต้องปล่อยให้เทพีแห่งโชคชะตาตัดสินแล้วล่ะ...

     

           เร็วเข้าสิไอรอนแมน...

     

           เอาชนะโชคชะตาให้ได้

     

           นายทำมันมาตลอดนี่...ตั้งแต่ที่รอดตายจากระเบิดนั่น

     

           สู้เขา โทนี่...สู้เขา

     

           ทันทีที่ปลายคทาแตะกับเทสเซอแรคท์ก็บังเกิดแสงสว่างวาบพุ่งขึ้นไปที่ปากทางของประตูมิติ ขอบเมฆฟุ้งๆสีขาวโดยรอบค่อยๆบีบตัวลง

     

           และในเวลาก่อนที่มันจะปิดสนิทนั่นเอง ก็มีวัตถุอย่างหนึ่งตกลงมาพอดี

     

           สคาดิฉีกยิ้มกว้าง ได้ยินเสียงสบถว่าโทนี่อึดโคตรจากสตีฟ

     

           เสียงของนาตาชากรีดร้องเรียกชื่อเธอ แต่เหมือนอยู่ไกลเหลือเกิน

     

           จากนั้น...ทุกๆอย่างก็ดับวูบลง

     

     


     


    แปะอิมเมจชุดเด็จน้องเล็กค่าาา ไรท์วาดเอง ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ 55555+


    TALK WITH FM

    ตอนใหม่มาเสิร์ฟแล้วจ้า เร่เข้ามาๆ ถุ้ย!!! ไม่ใช่ละ

    Broken Throne หรือต่อไปนี้ที่เราจะเรียกชื่อย่อว่า BT ใกล้จบภาคหนึ่งแล้วนะคะ

    เพราะอย่างที่บอกไปว่า BT จะอยู่ในช่วงของ the Avengers ภาคแรกนาจา

    ท้ายสุดนี้ก็ขอขอบคุณทั้งเมนต์ทั้งเฟบนะคะ

    ด้วยรักและถุงกาว

    เฟิงมี่ค่ะ >3<

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×