คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : Broken Throne S2 || Ch 2
|| B
R O K E N T H R O N E ||
s e a
s o n 2
----------------------------
CHAPTER 2
มือเรียวค่อยๆเอื้อมไปเกาะหน้าต่าง
ดวงตาสีฟ้าจ้องมองออกไป เห็นร่างสูงใหญ่ของพี่ชายที่กำลังคุยกับหญิงสาวชาวมิดการ์ด
สคาดิเม้มปากและมองลงไปบนพื้น
ธอร์เพิ่งพาเจนมาที่แอสการ์ด เขาบอกว่าในตัวของแฟนเขาน่ะมีพลังงานที่เรียกว่าเอเธอร์อยู่
เอเธอร์...สสารของพวกเอลฟ์มืด
“ยังไงวันนี้ก็ต้องมาถึง”
เสียงของฟริกก้าปลุกเธอออกจากห้วงความคิด
“ข้าอุตส่าห์คิดว่าจะไม่เกิดเรื่องขึ้นอีก
ท่านแม่” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน เธอปล่อยมือจากขอบหน้าต่างและหันกลับมาเผชิญหน้ากับเทพมารดร
“ข้าเหนื่อยกับการทนอยู่ในสถานะแบบนั้น
มันเจ็บปวดเกินไป”
ราชินีแห่งแอสการ์ดยิ้มบางๆและแตะไหล่ของเธอ
“เจ้าเติบโตขึ้น สคาดิ
เจ้าไม่ใช่เด็กน้อยในวันวานอีกแล้ว”
เด็กน้อยในวันวานที่ทั้งตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวและเปื้อนเลือด
เธอช้อนสายตาขึ้น
“ข้าปกป้องไม่ได้แม้แต่พี่ชาย...ข้าไม่ได้เติบโตขึ้นเลยท่านแม่
กลับกัน...ข้ายังไม่สามารถทำใจเผชิญหน้าคนของข้าได้เลยด้วยซ้ำ”
ฟริกก้าโอบเธอ
“เจ้าเก่งกาจขึ้น
ความคิดความอ่านเจ้าไม่ได้เป็นแบบเด็กๆอีกแล้ว
สคาดิ...แม่เชื่อว่าเจ้าคู่ควรกับบัลลังก์น้ำแข็ง”
เบนดวงตาไปมองธอร์อีกครั้ง
“อีกไม่นาน พวกเอลฟ์มืดจะมาทวงเอาของพวกมันคืน”
“และเมื่อเวลานั้นมาถึง
ดินแดนเทพได้วายวอดแน่”
“ดินแดนเทพจะต้องปลอดภัย”
เทพีแห่งท้องนภาว่า
สคาดิหรุบตาลง ถอนหายใจ
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”
...ถ้าเอาไอ้สารบ้าบอนั่นออกมาจากตัวของเจนได้ทันน่ะนะ...
หญิงสาวผมสีเข้มตัดสินใจหันหลังเดินออกจากห้องของมารดาโดยที่ไม่ลืมกอดแน่นๆครั้งหนึ่ง
“แม่รักเจ้านะ สคาดิ เจ้าก็รู้”
“ข้ารักท่านเช่นกัน ท่านแม่”
เธอสาวเท้าเดินไปตามพื้นที่ถูกปูด้วยพรม
เลี้ยวไปตามเส้นทางแยกต่างๆและเดินเข้าไปสู่สวนที่ถูกประดับไปด้วยหินอ่อนและน้ำตกจำลอง
กลิ่นดอกไม้หอมเย็นโชยมา เสียงใบไม้เสียดสีดังเป็นจังหวะเมื่อลมเย็นพัดผ่านมา
ร่างเพรียวทรุดลงนั่งใต้ต้นโอ๊คและร่ายเวทย์เรียกหนังสือที่อ่านค้างไว้เมื่อวันก่อนออกมาเปิด
แต่ก่อนที่จะได้ทันอ่านครบหนึ่งหน้า
ความเจ็บจี๊ดก็แทรกเข้ามาในหัวอย่างฉับพลัน
สคาดิทิ้งหนังสือในมือลงและยกมือทั้งสองข้างขึ้นกุมหัว
ข่มกลั้นเสียงกรีดร้องอันปวดร้าว ร่างทั้งร่างพลันอ่อนปวกเปียก
โอนเอนลงซบกับโคนต้นไม้
ดวงตาสีฟ้าเทาเบิกกว้างด้วยความตระหนก ลมหายใจถี่กระชั้นและหนักหน่วง
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ทันใดนั้น ภาพบางอย่างก็แวบเข้ามาในหัว
เด็กชายคนหนึ่งนั่งอยู่ริมน้ำ
ใบหน้าของเขานั้นเลือนรางเหลือเกิน ขาเล็กๆแกว่งไกวอยู่ในแม่น้ำสายนั้นอย่างเพลินใจ
...ใครกัน?
ภาพเปลี่ยนไป ไหววูบราวกับแอ่งน้ำที่ถูกเด็กแตะเล่น
เมื่อเธอรู้ตัวอีกที
ก็เห็นมือของใครบางคนกระแทกเข้าที่หลังของเด็กคนนั้น
ร่างเล็กๆของเขาปลิวหวือ
ล้มคว่ำลงไปในแม่น้ำที่แลดูดำมืดอย่างฉับพลัน
สคาดิรู้สึกราวกับว่าตนตกลงไปในน้ำซะเองแทนเด็กชาย
ภาพเปลี่ยนไปอีกครั้ง
หญิงสาวพบว่าตนเองกำลังดำดิ่งลงไปในแม่น้ำพร้อมกับร่างของเด็กคนนั้น
ผมสีทองของเขาสยายไปตามกระแสน้ำ
มือไขว่คว้าไปด้านบนที่ยังคงมีแสงริบหรี่
แล้วทั้งหมดก็ดับวูบ
สคาดิกะพริบตาสองสามทีและพบว่าตนเองยังคงคู้ตัวอยู่ตรงโคนต้นไม้
ลมเย็นๆยังคงไล้ไปบนผิวของเธอ ทำให้เหงื่อที่ผุดซึมออกมาจากไรผมเริ่มแห้ง
นั่นมันอะไรกัน?
เธอขมวดคิ้วและยันตัวขึ้น
ร่ายเวทย์ให้หนังสือกลับไปอยู่ที่ห้องและเปลี่ยนชุดให้ดูทะมัดทะแมงยิ่งขึ้น
มีเรื่องต้องไปสอบถามกับคนคนหนึ่ง
ร่างเพรียวตัดสินใจดีดนิ้วร่ายเวทย์ย้ายตนเองออกจากแอสการ์ด
นานแล้วสินะ ที่เธอไม่ได้ไปแกร่วแถวนั้น
...ไนดาเวลเลียร์...
มือแกร่งชะงักอย่างทันทีทันใดจากการเช็ดดาบของตน
ภาพบางอย่างแวบเข้ามาในหัวพร้อมกับความปวดจี๊ดจนต้องกัดฟันและคำรามในลำคอ
ดีที่คนอื่นกลับกันไปหมดแล้ว
เด็กหญิงตัวน้อยกำลังยืนอยู่ในโถงที่เต็มไปด้วยเลือด
ผมสีน้ำตาลที่คงจะถูกทำเป็นเปียสวยหลุดลุ่ย
ปรกลงมาพาดผ่านดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าของเธอค่อนข้างเลือนลางจนเขาเห็นแต่แววตากับริมฝีปาก
ร่างเล็กกรีดร้องเมื่อมีอะไรบางอย่างกระโดดเข้ามาในบริเวณนั้น
มือที่เปรอะเลือดแห้งกรังกำตุ๊กตาในมือแน่นและหันหลังออกวิ่งไป
...ใครกัน?
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันน้อยๆ
ร่างเพรียวเดินเข้าไปในร้านเหล้าที่คลาคล่ำไปด้วยร่างหลายร่าง
เธอเท้าแขนลงกับเคาน์เตอร์และโน้มกายลงไปหาคนที่อยู่หลังมัน
“ข้ามาขอพบเทสเซเมียร์”
ผู้ฟังเงยหน้าขึ้นมา
“เทสเซเมียร์ยังไม่พร้อมพบใคร
รอมาใหม่ในอีกสองชั่วโมงแล้วกันนะไอ้หนู”
เมาแน่ๆ
หน้าอกเธอก็มี ดูยังไงเป็นผู้ชายฟะ?
สคาดิกรอกตา โยนถุงผ้าเก่าๆให้เขา
ดวงตาเซื่องซึมสีน้ำตาลเบิกกว้างทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในนั้น
“ข้ามาขอพบเทสเซเมียร์”
หญิงสาวเอ่ยย้ำอีกครั้ง
ไม่กี่นาทีต่อมา
เธอก็ถูกนำไปที่ห้องห้องหนึ่ง ผ้าม่านและม่านที่ทำจากโซ่เหล็กปิดกั้นห้องจากโลกภายนอก
“ได้ข่าวว่าท่านลัดคิวคนอื่น?”
เสียงนุ่มนวลแต่ลึกลับดังขึ้นจากมุมหนึ่งของห้อง
ร่างเพรียวยักไหล่
“กระเป๋าหนักก็เงี้ย”
“มีธุระอะไร?”
หญิงสาวผิวซีดลุกขึ้นยืนและเดินมาหาเธอ
สคาดิเชิดหน้าขึ้นและทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้
โน้มตัวมาข้างหน้า เท้าคางลงกับมือบนโต๊ะ
“เจ้าเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องของเผ่าพันธุ์และครอบครัวของข้าในตอนนี้
เทสเซเมียร์”
เทสเซเมียร์โคลงหัวไปมา
ส่งเสียงอืมในลำคอและเดินมานั่งด้านตรงข้ามเธอ
“เมื่อไม่นานมานี้
ข้าเห็นภาพแปลกๆ...เหมือนกับข้าได้เข้าไปอยู่ในหัวคนอื่น
หรือ...หรือได้จ้องมองความทรงจำของคนๆนั้นผ่านมุมมองของข้าเอง”
ผู้ฟังลมหายใจสะดุด
“ท่านเห็นภาพมากี่ครั้ง?”
ดวงตาสีฟ้าเทาหรี่ลงอย่างจับผิด
“วันนี้เป็นครั้งแรก”
“บอกข้าที มันเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี?”
หญิงงามประจำบาร์ยันกายขึ้นและเดินไปหยิบภาชนะใส่สุรากลิ่นหอมอ่อนๆกับแก้วสองใบมาวางลงตรงหน้าสคาดิ
“เคยได้ยินคำว่าโซลเมตมั้ย?”
มือขาวซีดที่ประดับไปด้วยลวดลายสีดำอ่อนช้อยจากสนับแขนและสร้อยร้อยหลังมือถูกยื่นออกมาจับเหยือกเหล้าและรินมันลงในแก้วของเธอ
นิ้วเรียวของหญิงสาวผมสีเข้มเคาะกับโต๊ะเป็นจังหวะเบาๆ
ดวงตาคมปลาบช้อนขึ้นจ้องเจ้าของมือคู่นั้น
“เล่าให้ข้าฟังอีกซิ”
ร่างบางที่อยู่ใต้ชุดแพรบางเบาจนเห็นส่วนโค้งเว้าอย่างชัดเจนหัวเราะเสียงนุ่มนวล
“แน่ใจนะว่าอยากฟัง?...”
“ถ้าท่านให้ข้าเล่าเรื่องนี้จนจบ
ท่านอาจเสียใจที่ร้องขอข้าเช่นนั้น”
เทพีแห่งเหมันต์ขมวดคิ้ว
“เล่ามา”
เทสเซเมียร์ยิ้ม
“หากท่านกล่าวเช่นนั้น รัชทายาทของข้า”
“อย่าได้เรียกข้าเช่นนั้น” เธอขัด
“ข้าไม่ใช่รัชทายาท”
“มันเป็นสิทธิ์ของท่านโดยกำเนิด” เอลฟ์สาวเตือน
สคาดิส่ายหัวอย่างดื้อแพ่งและยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ
เมื่อเห็นว่าทำยังไงหญิงสาวก็จะไม่ยอมพูดเรื่องนี้อีก
เทสเซเมียร์จึงถอนหายใจยาว
“โซลเมตคือคู่ชีวิตของเจ้า จักรวาลได้เลือกไว้แล้วตั้งแต่วินาทีที่พวกเจ้าเกิดมา
เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง...พวกเจ้าจะสามารถถ่ายทอดความทรงจำให้แก่กันและกันได้”
“จุดๆหนึ่ง...จุดๆไหนกันแน่?”
ประสานมือเข้าด้วยกันและถาม
“เมื่อชะตาของพวกเจ้ากำลังจะโคจรมาพบกัน”
ดวงตาสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำหรุบลงขณะที่ประคองแก้วน้ำเมาขึ้นมา
“โซลเมตของท่านอยู่ใกล้แล้ว สคาดิ พวกท่านกำลังจะได้พบกัน
มีเพียงพวกนอร์นเท่านั้นที่รู้ว่าความสัมพันธ์ของพวกท่านทั้งสองจะจบลงแบบไหน”
“หมายความว่า?” เธอเลิกคิ้ว
เทสเซเมียร์เอนกายลงพิงขอบโต๊ะ
“การเป็นโซลเมตคือการผูกจิตเข้าหากัน
เมื่อพวกท่านเจอกัน การผูกจิตนี้จะสมบูรณ์...ท่านจะเห็นสิ่งที่เขาเห็น
เขาจะเห็นสิ่งที่ท่านเห็น...ท่านรู้สึกอะไร เขาจะรู้สึกด้วย ท่านปีติ เขายินดี เขาเจ็บปวด
ท่านรวดร้าว จิตพวกท่านจะกลายเป็นหนึ่งเดียวในวินาทีที่พวกท่านยอมรับสถานะโซลเมตของกันและกัน”
“และผลร้าย...หากท่านรักเขา แต่เขาไม่ได้รักท่าน
ท่านจะไม่อาจเลิกรักเขาได้ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรกับผู้ที่เขารัก ท่านจะเห็น
ท่านจะเจ็บปวด
แต่ท่านจะไม่สามารถตัดสัมพันธ์นี้ได้นอกจากใช้ความตาย...หรือใช้วิธีอื่นที่ทำให้ท่านมีสภาพไม่ต่างจากคนตายทั้งเป็น”
สคาดินิ่งไป
โซลเมต...
เด็กผมทองคนนั้น...สินะ
“ท่านควรไปได้แล้ว” เทสเซเมียร์เตือน
“ข้าต้องเตรียมตัวรับแขก”
หญิงสาวโคลงหัวและวางแก้วลง
“เหล้าอร่อย”
แล้วเธอก็ดีดนิ้ว หายตัวออกไปจากห้องในบาร์
TALK WITH FM
ฮาโหลลลลล
เมื่อวานนี้ไรท์ป่วย
ไม่ได้ไปโรงเรียน เลยปั่นตอนใหม่มาให้อ่านทันค่ะ
อากาศเปลี่ยนแปลงก็งี้แหละเนาะ
ขอขอบคุณสำหรับทุก แรงสนับสนุนนะคะ
ด้วยรักและถุงกาว
เฟิงมี่ค่ะ>3<
ความคิดเห็น