คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : 🎄CHRISTMAS SPECIAL☃️
CHRISTMAS SPECIAL
Once Upon a December
ธันวาคมเป็นเดือนที่ดี
นั่นคือสิ่งหนึ่งที่โลกิ
ลาฟฟี่ซัน ชายหนุ่มตัวบางเจ้าของร้านขนมหวานรับรู้มาตลอดตั้งแต่ปีแรกที่เปิดร้าน
ก็นะ...เมื่ออากาศเย็นลง
ของกินที่อุ่นๆอย่างขนมปังอบใหม่ๆหรือช็อกโกแลตร้อนลอยมาร์ชเมลโล่ขาวนุ่มชิ้นโตสักชิ้นสองชิ้นก็เป็นที่ต้องการขึ้นมาอย่างมาก
ยิ่งเมื่อใกล้ถึงวันคริสต์มาสแล้ว
คุกกี้น้ำตาลที่ถูกตกแต่งด้วยรอยัลไอซิ่งหลากสีที่เข้ากับเทศกาลก็ยิ่งขายดี
“กลับแล้วนะคะ”
เสียงพนักงานคนสุดท้ายในคืนนี้--เรเน่ ดังขึ้นที่ประตู
หญิงสาวเชื้อเอเชียที่ตัวเล็กนิดเดียวในสายตาของชาวอังกฤษอย่างเขายกกระเป๋าเป้แบรนด์อเนลโล่ขึ้นสะพาย
“เมอร์รี่คริสต์มาสนะครับ”
เขายิ้ม
“อ่า...แล้วบอสจะกลับเมื่อไหร่เหรอคะ?”
เธอถามขณะที่แตะมือลงบนประตูกระจก
“เดี๋ยวก็กลับแล้วล่ะครับ
ขอบคุณมากที่เป็นห่วง” โลกิตอบและปิดสมุดบัญชีในมือ
ไม่ได้อยากจะโม้นะ
แต่ว่ารายได้ปลายปีนี้เนี่ยเป็นกอบเป็นกำขนาดที่ว่ายอดเงินรวมตอนนี้สามารถซื้อรถเบนซ์แจกพนักงานได้คนละคันแล้ว
แถมยังเหลือเงินให้เขาละครอบครัวใช้อย่างสบายๆไปอีกนาน
“เจอกันนะคะ”
เรเน่ยิ้มจนเห็นฟันอย่างสดใส
“ครับ
กลับดีๆนะ”
“ค่าบอส”
เธอผลักประตูออกและหายไปกับผู้คนที่เดินอยู่ตามฟุตบาทข้างถนนในลอนดอน
ชายหนุ่มถอนหายใจ
ยืนขึ้นและแก้สายผ้ากันเปื้อนก่อนจะพับมันลงและเก็บเข้าไปในล็อกเกอร์ที่เรียงรายเอาไว้เพื่อใช้เก็บอุปกรณ์ของพนักงานแต่ละคน
มือเรียวยาวสีซีดดึงยางมัดผมออกจากหางม้าสีปีกกาและเสยมันเพื่อให้เป็นระเบียบมากขึ้น
จากนั้นจึงเก็บเครื่องคิดเงินและเอกสารทั้งหมดลงในลิ้นชักและบิดกุญแจล็อก
ร่างสูงโปร่งหยิบเสื้อโค้ตสีเข้มขึ้นมาใส่และพันผ้าพันคอสีเขียวสลับดำนุ่มๆรอบคอเพื่อเพิ่มความอบอุ่น
จากนั้นจึงเดินไปที่หน้าร้านเพื่อปิดไฟ
ดวงตาสีมรกตสวยเหลือบมองทั่วร้านเป็นครั้งสุดท้าย
แล้วจึงปิดสวิตช์ไฟและออกจากร้านไป
เขาล้วงมือลงไปในกระเป๋าเสื้อโค้ตของตนเองและเดินไปเรื่อยๆ
หันซ้ายขวา จ้องมองผู้คนที่กำลังมีความสุขกับการเดินเล่นในช่วงคริสต์มาสเงียบๆ
...ดีจังเลยนะ...
โลกิเดินขึ้นไปบนรถเมล์ประจำทางพร้อมกับกระเป๋าเป้คู่ใจและทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ว่าง
โทรศัพท์สั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกง
ชายหนุ่มรีบหยิบมันขึ้นมา
เมื่อเห็นชื่อที่เด่นหราบนหน้าจอ
เขาก็ขมวดคิ้วน้อยๆและปัดขึ้นไปด้านบนเพื่อรับสาย
“ฮัลโหลครับ”
[โลกิ
พี่อยู่ไหนแล้วเหรอ?] เสียงของน้องสาวตัวดีดังขึ้นมาตามสาย
“อยู่บนรถเมล์ละ
อีกประมาณสิบห้านาทีก็คงถึงบ้าน”
[โอเค
เจอกันนะ]
สายวางไปแล้ว
อะไรของมันกันวะ?
เร็วเกินไปละ
แล้ว...เมื่อกี้
ยัยน้องตะโกนคำว่าเร่งมือหน่อยแว่วๆก่อนจะวางสายไปใช่มั้ย?
ช่างมันเถอะ
เขานั่งเงียบๆมองทิวทัศน์โดยรอบจนกระทั่งรถค่อยๆหยุดลง
โลกิจ่ายเงินค่ารถเมล์และเดินลงมา
สองเท้าในผ้าใบสีดำ-ขาวขยับบนพื้นปูนซีเมนต์
พาให้เจ้าของร่างไปหยุดอยู่ตรงหน้าแฟลตแห่งหนึ่ง
มือเรียวถูกยื่นออกมาจากภายในเสื้อโค้ตและขยับรั้วออกเพื่อให้ตนสามารถลอดเข้าไปภายในได้
ไฟเปิดอยู่
ปกติน้องเขามักจะกลับมาค่ำมืดนี่นา
ชะเง้อมองและขมวดคิ้ว
โลกิค่อยๆแตะมือลงกับลูกบิดประตูและเปิดมันเข้าไป เผยให้เห็นแสงไฟสีอ่อนภายใน
ใครเอาของมาแต่งบ้านจนเป็นธีมคริสต์มาสเนี่ย?
ร่างโปร่งสูงของเขาเคลื่อนตัวไปที่บันได
มือบางวางกระเป๋าไว้บนโซฟาผ้าและแก้ผ้าพันคอมาคล้องไว้รอบบ่าแทน
เสื้อโค้ตถูกถอดออกมาวางพาดพนักพิงโซฟา
ชายหนุ่มไล้มือไปกับราวบันไดไม้ที่ถูกพันด้วยเครื่องประดับแนวกิ่งสนขณะเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง
บนพื้นที่ปูพรมเรียบร้อยแล้วนั้น
เขาเห็นมวยหลวมๆสีน้ำตาลเข้มโผล่ออกมาจากโซฟาที่หันหลังอยู่
เท้าคู่หนึ่งวางไขว้โผล่ออกมาจากด้านบนสุดของพนักโซฟา
“...สคาดิ?”
เจ้าของเท้าเด้งตัวขึ้นมา
“โอ้
เฮ้”
สคาดิ
โอดินสัน น้องสาวของเขา
โอเค
เขารู้
เขานามสกุลลาฟฟี่ซัน
ตอนยังเด็กอยู่
โลกิถูกอุปถัมภ์โดยครอบครัวโอดินสันที่เป็นเพื่อนกับพ่อของเขาหลังจากที่พ่อเสีย
หลังจากที่บรรลุนิติภาวะ
ชายหนุ่มก็ทำเรื่องเปลี่ยนนามสกุลกลับ
พื้นเพของโอดินสันเป็นชาวอเมริกัน
แต่ทำไมถึงมาอยู่ที่ลอนดอน?
วงแขนแกร่งโอบหมับรอบเอวบางจากทางด้านหลัง
ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดบริเวณหลังหู ผมสีทองบางส่วนปรกมาที่บ่าของเขา
นี่ไงคำตอบ
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ”
ธอร์ โอดินสันยิ้มกว้าง
เมื่อเขาและธอร์ขึ้นไฮสคูลปีสิบสอง
ทั้งคู่เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น
ความผูกพันที่มีเริ่มแปรเปลี่ยน
จากสถานะพี่น้องกลายเป็นอย่างอื่นที่ล้ำลึกกว่านั้น
กว่าเขาจะรู้ตัวอีกที
โลกิก็ตกหลุมรักธอร์เสียแล้ว
และดูเหมือนสวรรค์จะเป็นใจ
เมื่อพี่บุญธรรมเองก็มีใจให้เช่นกัน
แม้แต่สคาดิ,
แม่และพี่สาวคนโตก็สนับสนุน
คงมีแต่เพียงโอดินที่ไม่ยอมรับเมื่อพวกเขาทั้งคู่ประกาศคบกันอย่างเป็นทางการหลังเรียนจบ
เขาจำได้ดีว่าใบหน้าของบิดาบุญธรรมนั้นแดงก่ำและบิดเบี้ยวด้วยโทสะ
ชายวัยกลางคนถึงกับไล่ตะเพิดพวกเขาออกไปจากบ้านด้วยเสียงตวาดและมือที่ตบลงกับโต๊ะเสียงดัง
แม่พยายามจะทำให้เขาใจเย็นลง
แต่เขาไม่ฟัง
ในเมื่อโอดินไม่อยากให้เขาอยู่
โลกิก็ไม่อยู่ให้รกหูรกตาหรอก
วันต่อมา
ชายหนุ่มเก็บข้าวของออกจากบ้านพร้อมกับธอร์
ทั้งคู่มาลงหลักปักฐานที่ลอนดอน
บ้านเกิดของเขาซึ่งพอมีเงินเหลืออยู่ในบัญชีของเขาและบัญชีของพ่อ(แท้ๆ)ของเขา เมื่อรวมกันแล้วก็สามารถซื้อที่แฟลทและร้านเบเกอรี่เก่าๆได้ร้านหนึ่ง
เขาตัดสินใจทำธุรกิจร้านขนมและคอฟฟี่ชอปในขณะที่ธอร์รับงานเป็นช่างภาพอิสระ
ก็ในเมื่อร้านของโลกิเพียงลำพังก็สามารถหารายได้เป็นกอบเป็นกำได้แล้ว
จะรวยเกินไปก็ใช่ที พี่ชายผมทองจึงทำงานเบาๆให้พอมีรายได้เสริมซักเล็กน้อยก็พอ
ประมาณสี่ปีต่อมาหลังจากที่สคาดิเรียนจบ
เธอก็หอบข้าวหอบของตามมาอาศัยด้วยโดยสมัครงานเป็นบรรณารักษ์ห้องสมุดประชาชนของลอนดอน
พี่น้องที่บ้านมากระจุกรวมตัวกันอยู่ที่อังกฤษที่เดียว
จะขาดก็แต่...
“คิดอะไรอยู่?”
ธอร์ถาม ค่อยๆคลายอ้อมกอดออกและเดินมาด้านหน้าเขา
“ก็...”
เขากัดปาก
“ถ้ามาอยู่กันครบสี่คน...ก็คงดีเนอะ”
พี่สาวคนเดียวของพวกเขา
คิดถึงจัง
เธอเป็นคนเดียวในสี่ลูกบ้านโอดินสันที่จะอยู่ที่อเมริกาต่อไป
อาจเพราะเธอโตสุด
ทำให้ตัดสินใจแบกภาระทั้งหมดที่โอดินตระเตรียมไว้ให้แทนพวกเขา
เธอเสียสละที่สุดแล้ว
สคาดิหยุดมือที่กำลังง่วนอยู่กับการพิมพ์อะไรบางอย่างในไอโฟนและหันดวงตาสีฟ้าเทาใสแจ๋วมาหาพวกเขา
เมื่อกี้...เธอกับพี่ชายสบตากันรึเปล่านะ?
“เอ่อ...โลกิ
ทำไมพี่ไม่เข้าไปเปลี่ยนเสื้อในห้องซะก่อนล่ะ กลับมาเหนื่อยๆคงจะเหงื่อเต็มตัวแล้ว”
กำลังจะอ้าปากท้วงเบาๆว่าวันนี้อากาศเย็น
ไม่มีเหงื่อหรอกในตอนที่มือใหญ่สากๆของธอร์รุนหลังเขา
“ไปเร็ว”
อ่า...ไปก็ไป
ร่างบางเดินเข้าในห้องนอนที่ตกแต่งโทนสีดำเขียวของตน
มือเรียวปลดเสื้อฮู้ดกันหนาวลายสก็อตสีเขียวอ่อนออกและกำลังจะถอดเสื้อยืดด้านในสุดในตอนที่สายตาสะดุดกับอะไรบางอย่าง
สิ่งแปลกปลอมนั่นอยู่ในผ้าห่มหนาๆที่นูนขึ้นเป็นโปงบนเตียงสี่เสา
คิ้วเรียวสีดำขมวดน้อยๆและเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ขอบเตียงมากขึ้น
เห็นส่วนที่น่าจะเป็นไหล่โผล่ออกมาจากผ้า
สคาดิไม่น่าจะพาคู่นอนมานะ
ส่วนธอร์...ถ้าพามาก็อย่าหวังว่าเขาจะยอมให้อยู่
แขกเหรอ?
ห้องนอนด้านล่างก็มีนี่
ใคร?
ร่างนั้นส่งเสียงงึมงำคล้ายบ่นอะไรบางอย่างและพลิกตัวมาทางเขา
ใบหน้าที่พ้นออกจากกองผ้าห่มทำให้โลกิผงะ
“อือ...”
ดวงตาสีฟ้าค่อยๆลืมขึ้น
“อ้าว
ไง...ฮ้าววว...ไงบ้างน้องชาย”
ชายหนุ่มผมดำสูดหายใจสั่นๆ
“เฮล่า”
หลังจากที่เขาออกจากบ้าน
เฮล่าซึ่งเป็นลูกคนโตรับช่วงต่อธุรกิจส่วนตัวจากบิดา
ชีวิตของเธอจะเป็นนักธุรกิจไฟแรงแสนร่ำรวยหรือหญิงสาวที่ถูกพ่อกดดันอยู่ตลอดเวลา
โลกิก็ไม่แน่ใจ
แต่เธอปลีกตัวมาที่ลอนดอนได้
แค่นี้เขาก็ดีใจแล้ว
“เป็นไงบ้าง?”
พี่สาวคนโตวัยย่างสามสิบดึงเสื้อครอปทอปไหมพรมลงมาทับผิวสีขาวราวกระเบื้องที่ปกปิดไว้แล้วชั้นหนึ่งด้วยบราหลังจากที่เปลี่ยนชุดสูททางการหนักๆออก
สอบถามได้ความว่าเนื่องจากความเหนื่อยจากการอยู่บนเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสมาจากอิสตันบูล
และมาต่อการคมนาคมอื่นๆเพื่อลากสังขารตัวเองให้มาถึงแฟลทน้องชายที่เพิ่งเคยมาครั้งแรก
ทำให้เฮล่าหมดสภาพและทิ้งตัวลงบนเตียงแรกที่เธอหาได้
ซึ่งก็เผอิ๊ญ...เผอิญเป็นเตียงของเขา
พี่บอกว่าเข้าใจว่าตรงนั้นเป็นห้องนอนแขก
จังหวะจะพอดีเกินไปมั้ยเนี่ย?
บอกทีว่ายัยน้องสาวไม่ได้วางแผนจะเซอร์ไพรส์เขาด้วยการหลอกพี่คนโตว่าห้องเขาเป็นห้องแขก
“ก็ดี
ผมไม่ได้ขัดสนอะไร” ชายหนุ่มโคลงหัวไปมา
คิ้วสีเข้มที่ถอดแบบกันมาเปี๊ยบทั้งๆที่ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันของหญิงสาวเลิกขึ้น
“ดีแล้วนี่”
“แล้ว...”
เขาแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากที่แห้งผากของตนเอง
“พ่อรู้มั้ยว่าพี่มานี่?”
เธอชะงักไป
“ช่างหัวเขา
เขาไม่มีสิทธิ์ห้ามฉันไม่ให้มาเจอน้องๆฉัน”
“อู้ววว”
สคาดิห่อปาก
“นั่นเข้าข่ายท้าทายอำนาจมืดใช่ป่ะ?”
ดวงตาสีฟ้าเขียวของพี่คนโตกลอกไปมา
“ไปเล่นกับทอมมี่ไป๊”
น้องเล็กทำหน้าเบื่อๆแล้วหันไปผิวปาก
สุนัขพันธุ์โดเบอร์แมนสีเข้มวิ่งฉิวออกมาจากช่องประตูและกระโจนใส่เธอจนเจ้าของผมมวยหลวมๆร้องเสียงหลงแล้วล้มลงไปบนพื้น
“ทอมมี่
ไม่”
ทอมมี่
สุนัขที่สคาดิบังเอิญเก็บได้หน้าห้องสมุดเมื่อปีก่อนในวันที่พายุเข้าเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
งดงามและแข็งแรงจนแทบไม่เหลือภาพลูกหมาตัวน้อยที่เปียกปอนและสั่นเทาที่อยู่ในกล่องกระดาษข้างเสาไฟฟ้าอยู่เลย
จะมีก็แต่ความกลัวเสียงฟ้าร้องและซึมกะทือตอนฝนตกเท่านั้น
“เฮ้ไอ้หนู”
เขาลูบหัวมัน เจ้าหมากระดิกหางอย่างรัวเร็วจนสะโพกส่ายไปมาดูน่าขัน
ดวงตาสีน้ำตาลใสแจ๋วราวลูกแก้วเต็มไปด้วยความรักและเชื่อฟัง
นอกจากมันแล้ว
โลกิยังเลี้ยงแมวลายสีส้มชื่อคริสซี่ไว้ดวย ติดที่มันเป็นแมวอ้วนที่ขี้เกียจมาก
จึงมีหน้าที่หลักๆเพียงแค่เป็นหมอนข้างให้กับทอมมี่เท่านั้น
เฉพาะช่วงเวลาที่มันเกิดคึกอยากขยันขึ้นมาเท่านั้นมันถึงจะออกมาจากตะกร้าและมาพันแข้งพันขาเขา
คืนนั้น
สคาดิทำซันเดย์โรสต์และเกรวี่หอมๆ พร้อมด้วยเอ๊กน๊อกและคุกกี้ที่เอาไว้จุ่มทานคู่กัน
ทีวีจอใหญ่ถูกเปิด
ธอร์ที่แรงเยอะที่สุดในบรรดาพี่น้องลากโต๊ะเตี้ยมาวางไว้บริเวณพรมหน้าโทรทัศน์
โลกิที่ถือจานและช้อนส้อมเดินตามมาวางพวกมันลง
“คริสต์มาสโครนิเคิลส์”
น้องสาวว่า ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา
“ออกใหม่ตั้งแต่เดือนสองเดือนที่แล้ว”
“โอเค”
ชายหนุ่มผมทองจัดการเปิดภาพยนตร์เน็ตฟลิกซ์ที่เธอเสนอแล้วจึงนั่งลงข้างแฟนหนุ่ม
เฮล่าหยิบมีดขึ้นมาเฉือนเนื้ออบบางส่วนในจานโยนใส่ในชามข้าวของทอมมี่ที่รีบวิ่งหน้าตั้งมากินมันอย่างตะกละตะกลาม
“หมาเห็นแก่กิน”
เธอย่นจมูก
พวกเขานั่งดูภาพยนตร์ด้วยกันจนเสร็จ
จากนั้นจึงต่อด้วยซีรีย์ดังของช่องเอชบีโออย่างเกม ออฟ โธรนส์ ซีซั่นเจ็ด
ไม่ทันไร
สคาดิที่อาบน้ำแปรงฟันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ผล็อยหลับคาทีวีไป
ส่วนพี่สาวผมดำนั้นไม่ต้องพูดถึง เธอขอตัวไปนอนหลังจากตอนที่สามจบลง
ธอร์กับโลกิลุกขึ้นและห่มผ้าให้น้องสาว
ทอมมี่ที่อยู่ล่างโซฟากระโดดขึ้นมานอนซบตัวของเจ้านายเมื่อเห็นว่าคนลุกไปแล้วอย่างประจบประแจงโดยยังไม่ทันสังเกตว่าเธอนั้นกำลังหลับอยู่และไม่เห็นการกระทำของมันเลย
ชายหนุ่มร่างใหญ่ปิดทีวีและเดินขึ้นไปด้านบนพร้อมกับกุมมือขาวของคนรักไปด้วย
ทันทีที่ปิดประตูห้องนอน
เขาก็ดึงร่างบางเข้ามาจูบ
ลิ้นร้อนรุกล้ำเข้าไปในโพรงปากอ่อนนุ่มของคนผมดำ
มือหนารั้งเอวสอบลงไปทาบทับร่างของตนบนเตียง
“อือ...น้องกับเฮล่านอนอยู่ข้างล่าง”
โลกิหอบหายใจหลังจากที่ริมฝีปากของทั้งคู่ผละออกจากกัน
“ไม่ต้องห่วงน่า
เขาไม่ได้ยินกันหรอก” อดีตพี่ชายบุญธรรมกระซิบเสียงกระเส่า
นิ้วสากสอดเข้าไปดึงเสื้อฮู้ดของเขาออก
“น่า...พรุ่งนี้ก็คริสต์มาสแล้ว
ขอหน่อยไม่ได้เหรอ”
โคมไฟหัวเตียงส่องแสงสลัวมากพอที่จะทำให้เขาได้เห็นใบหน้าของโลกิขึ้นสีแดง
“พูดอะไรไม่อายปาก”
ธอร์กระตุกยิ้ม
“แล้วตกลงได้มั้ยอ่ะ?”
“ไม่
จูบกับกอดพอ” ปฏิเสธแบบไม่หยุดคิดด้วยซ้ำ
ดวงตาสีฟ้าเปล่งประกายอย่างออดอ้อน
พยายามโน้มน้าวใจของสุดที่รัก
โลกิเลิกคิ้ว
ดวงตาสีมรกตบ่งบอกว่ายังไงก็ไม่ยอม
ในที่สุด
เขาก็จนใจ ได้แต่ดึงร่างเปลือยท่อนบนของแฟนมากอดไว้แนบอกพลางทาบริมฝีปากลงไปอีกครั้ง
“เมอร์รี่คริสต์มาสนะครับ”
เขากระซิบ
คอยดูนะ
ปีใหม่นี้เขาจะทบต้นทบดอกคนในอ้อมแขนให้ลุกไปไหนไม่ได้เลย...คอยดู!!
TALK WITH FM
เมอร์รี่คริสต์มาสจ้าาาา
ขอให้ทุกคนมีความสุขในช่วงวันหยุดนี้นะคะ
ปอลิง.
ลองไปดูนะคะ หนังเรื่องคริสต์มาส โครนิเคิลส์ของเน็ตฟลิกซ์
สนุกมากกกกกกอไก่ล้านตัว
แนะนำดูซับไทยนะคะ
ได้อรรถรส(เพราะไรต์ดูหนังฝรั่งแบบมีซับอย่างเดียว
แทบไม่เคยได้ดูแบบพากย์ไทยเลยค่ะ ฮา)
ด้วยรักและถุงกาว
เฟิงมี่ค่ะ
ความคิดเห็น