คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : 🍁THANKSGIVING SPECIAL🍗
Thanksgiving Special
How
to cook that dish again?
(Modern Day AU)
“ไก่งวงอยู่ไหนวะ...”
มือเรียวไล่ชี้ดูของในตู้แช่แข็งที่เต็มไปด้วยชิ้นส่วนสัตว์
“โลกิ!!
ไหนอ่ะไก่งวง” หันไปร้องหาคนที่อยู่ห่างไปไม่กี่ชั้นวาง
“ว่าไงนะ?”
โลกิ ลาฟฟี่ซันขมวดคิ้วพลางยื่นหน้าออกมาจากส่วนที่ติดป้ายว่า ไวน์ลดราคา
“ไก่งวง!!”
สคาดิ เธียสซีดอทเทียร์ทำหน้าจนปัญญาขณะที่ชี้ลงไปที่ตู้ข้างกายที่มีแต่ไก่ทั้งตัวแช่แข็ง
“มันมีแต่ไก่ว่ะ
เอาไงดี”
“เฮ้ย
จริงดิ?” ร่างเพรียวขนาดที่ผู้หญิงยังอายของชายหนุ่มรีบเร่งเคลื่อนตัวมาข้างเธอและก้มลงไปเช็คในตู้
“ไม่มีทางอ่ะ”
เขาพึมพำพลางควานลงไปทั่วบริเวณ
“เฮีย!!!
เอาไงดี?” ทั้งสองหันไปหาอีกร่างหนึ่งที่หอบของพะรุงพะรังเดินมาหา
“ไม่มีไก่งวง?
มันต้องมีสิ” สตีฟ โรเจอร์สตรงเข้ามาค้นหาไก่งวงไปพร้อมๆกับเธอและโลกิ
“แล้วถ้ามันไม่มีล่ะเฮีย?”
สคาดิกอดอก
“มันมีอยู่แล้ว”
เสียงทุ้มๆของชายหนุ่มผมทองดังขึ้นด้านหลัง ในมือของเขามีห่อกระดาษสีน้ำตาลอยู่
“ว่าไงนะธอร์?”
ชายหนุ่มผมดำขมวดคิ้ว
ธอร์
โอดินสันเลิกคิ้วแล้วชูห่อกระดาษในมือไปมา
“ก็ตัวสุดท้ายมันอยู่กับฉันไง”
หญิงสาวหนึ่งเดียวของกลุ่มในตอนนี้อดเผยสีหน้าโล่งใจไม่ได้
เธอก้าวขายาวๆไปหาเขาแล้วรับไก่งวงแช่แข็งขนาดพอกินทั้งครอบครัวมาจากชายร่างยักษ์
“ด้วยความยินดี”
เขางึมงำเมื่อเธอเพียงแค่เอาไก่ไปโดยไม่พูดอะไร
สคาดิยักคิ้วและโยนสิ่งที่อยู่ในห่อให้สตีฟที่ทำหน้าที่เป็นคนเข็นรถใส่ของ
“เอาล่ะ...ไก่งวง,
เรียบร้อย...ไธม์กับโรสแมรี่ล่ะ?” โลกิคว้าเช็คลิสต์มาขีดฆ่า
“อยู่นี่แล้ว” ธอร์ว่า
“แป้งกับไข่?”
“เช็ค”
สคาดิหยิบถุงแป้งขึ้นมา
“เนย?”
“เช็ค”
สตีฟกอดอก
“ที่เหลือก็...เช็ค”
โลกิพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“แคด”
ปีเตอร์ ควิลล์ ชายร่างใหญ่ที่เป็นรองเพียงธอร์โยนผ้ากันเปื้อนให้เธอ หญิงสาวยกมือขึ้นรับและคลี่มันออกพร้อมกับผูกสายรัดด้านหลังอย่างชำนาญ
“มันฝรั่งอยู่ที่เธอป่ะแนต?”
หญิงสาวผมสีเข้มร้องถามนาตาชา โรมานอฟ
หญิงสาวผมแดงที่อยู่ไม่ไกลนักและกำลังง่วนอยู่กับการผสมแป้งกับเนยเย็นๆ
“อยู่กับโทนี่นู่นน่ะ”
อีกคนหันมาบุ้ยใบ้ไปทางร่างเล็กของโทนี่
สตาร์คที่กำลังจับจองพื้นที่บริเวณโต๊ะด้านหน้าเคาน์เตอร์เพื่อปรุงรสไก่งวง
“โทนส์”
เขาเหลือบมามองเธอแวบหนึ่ง
และยื่นชามบรรจุมันฝรั่งให้โดยที่ยังคงจดจ่ออยู่กับไก่
สคาดิเทมันฝรั่งที่ปอกเปลือกเรียบร้อยลงในหม้อต้มที่เต็มไปด้วยครีมและส่วนผสมอื่นๆ
มือเรียวหมุนปุ่มปรับไฟในเตาเพื่อเร่งไฟให้แรงสุด เมื่อครีมเดือดได้ที่แล้วจึงยกลง
“หูยยย...หอมว่ะ”
ทีชัลล่า อูดาคู เจ้าของสถานที่ผู้กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับผักสดเต็มตะกร้ายื่นหน้าเข้ามาใกล้พลางสูดกลิ่นของครีมเข้าไปเต็มปอด
“เฮ้ย...”
แคดร้องพลางผลักใบหน้าของชายหนุ่มผิวเข้มออกห่างจากถ้วยมันฝรั่งต้ม
“อย่าดิ
เดี๋ยวเชื้อโรคลง”
“อู้ววววว”
เดอะแก๊งที่ต่างกำลังทำอาหารอยู่ส่งเสียงอย่างพร้อมเพรียงกัน
“แรงส์”
แนตห่อปาก
พวกเขารู้จักกันครั้งแรกตอนเกรดเจ็ดเมื่อโลกิถูกปีเตอร์แกล้ง
สคาดิและธอร์ เพื่อนรักของเขาบุกไปต่อยตีกับคนที่แกล้งเขาถึงที่
ทำเอาทุกคนที่พยายามเข้าไปห้าม(สตีฟ, ทีชัลล่า, นาตาชา, โทนี่, วานด้าและปิเอโตร
แฝดจอมเผือก, โรห์ดี้, และบรูซ)ติดร่างแหไปด้วย
ทุกคนในสถานการณ์อันโกลาหลนั้นถูกสั่งกักบริเวณทุกวันตอนเย็นจนถึงหกโมงเป็นเวลาหลายเดือน
ยังไงก็คุ้ม
เมื่อธอร์ต่อยหน้าปีเตอร์จนตาเขียวไปเป็นวัน
และการกักบริเวณนี้เองที่ทำให้พวกเขาสนิทกันมากขึ้นจนถึงขนาดไปค้างบ้านกันและกันเมื่อพ่อแม่ไม่อยู่หรือไปเที่ยวด้วยกันช่วงวันหยุดยาวได้
มิตรภาพนี้ยาวนานจนถึงตอนที่พวกเขาเข้ามหาวิทยาลัย...ซึ่งก็บังเอิญเข้าที่เดียวกันจนได้
“บอกฉันทีว่าวานด้าจะมาช่วยเราทำอาหาร”
โทนี่ขมวดคิ้วและเปิดเตาอบที่อุ่นไว้แล้ว เตรียมจะใส่ไก่งวงทั้งตัวเข้าไปในนั้น
“มาแน่แหละ
แต่น่าจะมากินเฉยๆ เพราะเห็นว่าติดงาน เดี๋ยวจะมากับวิชั่นแฟนเขา...คงจะมาช่วยแจมแค่ปิเอโตรคนเดียว”
แคดใช้ไม้พายบดมันฝรั่งหอมนิ่มผ่านกระชอนเพื่อให้ไม่เหลือส่วนที่เป็นก้อน
“ส่วนโรห์ดส์น่าจะใกล้ถึงละ...นายบอกเขาแล้วใช่ป่ะว่าให้เอาแครนเบอร์รี่ของฟาร์มแม่เขามาด้วย
ฉันขี้เกียจไปซื้ออีก”
“ถึงไม่บอก
มิสซิสโรห์ดส์ก็ฝากมาอยู่ดีนั่นแหละ”
โทนี่เช็ดมือลงกับผ้าที่เหน็บไว้ข้างเอวด้วยมาดเชฟมากประสบการณ์
(ทั้งๆที่ความจริงเข้าครัวไม่กี่ครั้งในชีวิต)
ทันใดนั้น
จมูกของหญิงสาวก็ได้กลิ่นแปลกๆโชยมาจากในครัวเปิดด้านนอก มือเรียวที่กำลังหย่อนก้อนเนยใส่มันฝรั่งและเทส่วนผสมที่ใช้ต้มมันฝรั่งใส่ในพูเรสีเหลืองครีมเนื้อนุ่มเนียนหยุดชะงักพลางหันขวับไปทางนั้น
เป็นเวลาเดียวกันกับที่ธอร์เดินออกมาจากมุมครัวเปิด
“แคด...”
สคดิไม่รู้ว่าจะทำหน้ายังไงดีเมื่อเห็นกระทะในมือของเพื่อนร่างยักษ์ที่เต็มไปด้วยอะไรบางอย่างซึ่งมีสีดำ
ควันโขมง และส่งกลิ่นที่คล้ายจะบอกว่า...
‘กินแล้วตายนะจ๊ะ’
“นั่น...”
“มันอะไรฟะ?”
ทีชัลล่าทำหน้าเหมือนกับเจอเอเลี่ยนพลางยื่นหน้าเข้ามาแทรกระหว่างบทสนทนา
“ฉัน...แค่พยายามจะทำเกรวี่อ่า...”
ธอร์ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
เหรอ?
จริงดิ?
นั่นมันเกรวี่จริงๆใช่ม้ายยยยยยย?
สคาดิรู้สึกอยากกรีดร้อง
“ฉัน...ให้ฉันทำเองดีกว่านะ”
สตีฟว่า
พลางค่อยๆหยิบเอากระทะควันโขมงที่เต็มไปด้วยเศษซากของสิ่งที่ควรจะเป็นเกรวี่ออกจากมือใหญ่ของเพื่อน
“อือ...”
ธอร์ทำหน้าหมดอาลัยตายอยาก จนชายหนุ่มผู้มีเชื้อแอฟริกันต้องเดินมาตบไหล่
“นายมาช่วยฉันทำน้ำสลัดเหอะ”
“ฮืออออ
ขอบใจนะ” ชายร่างยักษ์ทำหน้าซาบซึ้งแล้วเดินตามเพื่อนออกไปจัดการสลัด
ไม่กี่นาทีต่อมา
แคดก็ต้องหันไปหาสตีฟอีกครั้งเมื่อเขาร้องถาม
“เกรวี่ทำยังไงนะ?”
พระเจ้าช่วยลูกด้วยยยยยยยย
“นายละลายเนยก่อน...”
หญิงสาวผมสีเข้มร้องสั่งขณะวางมือจากมันฝรั่งบดสูตรพิเศษแล้วรีบรุดไปยังเตา
“อ่าฮะ”
ชายผมทองเจ้าของรอยยิ้มที่ทำสาวๆใจละลายใส่เนยลงในกระทะและปล่อยให้มันละลาย
จากนั้น
เธอก็ใส่แป้งข้าวโพดลงไป เมื่อสตีฟคนมันจนเข้ากันแล้ว น้ำซอสที่เหลือจากการหมักไก่งวงก็ถูกเทลงไป
เพิ่มความหอมด้วยโรสแมรี่ และพอสิ่งที่อยู่ในกระทะก้นลึกสำหรับทำซอสเดือดแล้ว
มันก็ข้นขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ว้าว
นี่มัน...สุดยอดไปเลยว่ะแคด”
เขาทำตาเป็นประกายขณะที่สคาดิเทเกรวี่ข้นๆสีน้ำตาลลงในเหยือกซอสสีขาวทำจากเซรามิค
“ชิมป่ะ?”
หญิงสาวใช้ช้อนเล็กๆปาดซอสขึ้นมาและยื่นให้
ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกหงักและอ้าปากงับช้อนนั้น
“พระเจ้า
อร่อย...อร่อยโคตร”
เธอยักคิ้ว
“จำสูตรไว้ด้วยนะ
เดี๋ยวจะทำกระทะไหม้เหมือนธอร์”
“เฮลโหลชาวโลกกกก”
ปิเอโตร แม็กซิมอฟฉีกยิ้มขณะที่เขาเดินผ่านประตูเข้ามา ผ้าพันคอสีส้ม-น้ำตาลถูกคลายออกเมื่อชายหนุ่มผมสีบลอนด์ซีดถอดรองเท้าที่ชั้นวางรองเท้า
“ไอ้หัวขาววววว”
แคดหัวเราะร่าพลางสวมกอดเขา
“เมนูวันขอบคุณพระเจ้าเรามีอะไรบ้างล่ะเนี่ย?”
เสียงอันคุ้นเคยของเจมส์ โรห์ดส์ หรือที่ทุกคนเรียกว่าโรห์ดี้ดังขึ้นตามหลังร่างสูงของคนที่กำลังกอดอยู่กับหญิงสาวผมสีเข้ม
“โรห์ดี้!!”
โทนี่ร้องทักมาจากในครัว
“เฮ้บิ๊กที
ฮัลโหลโทนส์”
ชายหนุ่มร่างเพรียวชะลูดผิวเข้มทักทายทีชัลล่าที่กำลังโยนแพร์ฝานบางใส่ถ้วยสลัดและหันมาโบกมือให้โทนี่ที่นอนเล่นอยู่บนโซฟา
“เดี๋ยวอีกซักพักหัวแดงกับแฟนมันก็ถึงแล้วล่ะ”
ปิเอโตรว่าพลางวางกระเป๋าเป้ลงบนเก้าอี้โซฟาแถวนั้น
ถึงแม้ว่าวานด้าจะเป็นแฝดกันกับเขา
แต่เธอก็เกิดหลังชายหนุ่มผมซีดอยู่เกือบสิบสองนาที—เป็นเหตุให้เขาชอบแหย่เธอหรือล้อผมสีแดงของเธอที่แตกต่างจากผมของเขาอย่างสิ้นเชิงด้วยฉายา
‘ผมแดง (redhead)’
“ดีเลย
เรากำลังต้องการคนช่วยทำพายอยู่พอดี” สคาดิลากเขาเข้าไปในครัว
ที่ซึ่งโรห์ดี้กำลังล้างแครนเบอร์รี่อยู่
“นายหยิบฟักทองต้มที่ฉันพักไว้ตรงนั้นมาบดผ่านกระชอนนะ”
หญิงสาวสั่งและหยิบแอปเปิ้ลออกมาฝานบางเพื่อทำพายทั้งสามไส้
“ครับเชฟ”
ปิเอโตรฉีกยิ้มล้อเลียนขณะที่ดึงถ้วยออกมา
แอปเปิ้ลที่ฝานบางแล้วถูกแช่ในน้ำร้อนจนนิ่ม
แล้วจึงถูกนำไปคลุกเคล้ากับซินนามอน น้ำผึ้งและส่วนผสมอีกสองสามอย่าง มือเรียวหยิบแป้งพายสำเร็จรูปออกมาคลึงให้บางและกรุลงไปในพิมพ์
เธอเทแอปเปิ้ลใส่ลงไปและคลึงแป้งปิดทับ ท้ายสุด
มีดถูกจรดลงไปบนพายและกรีดเป็นริ้วเพื่อระบายไอน้ำในพายและเพื่อป้องกันไม่ให้พายระเบิด
“บิ๊กที!!
ใครก็ได้ บอกฉันทีว่ายังเหลืออะไรให้ฉันทำบ้าง” ชูรี อูดาคู
น้องสาวคนเดียวของทีชัลล่าแทบจะกระโดดลงจากบันไดมาที่ห้องโถงเมื่อเห็นคนเต็มไปหมด
“ชูรี
เฮ้” แนตโบกมือให้
“ทุกคนนนนน”
โทนี่ร้องมาจากห้องนั่งเล่น
“ปีเตอร์กับเสตรนจ์มาแล้ว”
“พีทตี้!!”
เด็กสาวผิวเข้มโห่ร้อง
“ยังพอมีแป้งข้าวโพดเหลืออยู่น่ะ
ทำคอร์นเบรดสิ” สคาดิแนะนำขณะที่ผสมฟักทองที่บดแล้วกับเครื่องเทศ
“เยี่ยมไปเลย
ขอบคุณค่ะ”
ปีเตอร์
พาร์คเกอร์เข้ามาในครัวพร้อมกับรอยยิ้มน่ารักตามแบบฉบับของตน
เขาช่วยชูรีหยิบแป้งและส่วนผสมอื่นๆแล้วมาจับจองที่ทำขนมแถวๆโต๊ะใกล้แคด
“เดี๋ยวก่อนนะ...บิ๊กที
คอร์นเบรดทำไงอ่ะ?” เธอหันไปถามพี่ชาย
ทีชัลล่านิ่งไปซักพัก
แล้วส่ายหัวดิก
“สตีฟ?”
ส่ายหัว
“โทนี่?”
ส่ายหัวเหมือนกัน
“ชิบละ...”
เด็กสาวหน้าเจื่อน
“พีท...บอกฉันทีว่านายรู้”
เด็กหนุ่มทำหน้ารู้สึกผิดสุดชีวิตพลางส่ายหน้า
“เค้าขอโต๊ดดดดดด”
และท้ายที่สุด...หน้าที่สอนเด็กทำอาหารก็ตกลงที่โลกิ
“พี่ว่าพี่พอรู้วิธีทำอยู่นะ
ย่าเคยสอน” เขาลูบคางตัวเอง
“กี่ปีมาแล้วอ่ะ?”
ปีเตอร์ถามขึ้น
“แน่ใจนะว่าจำได้?”
ชูรีเลิกคิ้ว
“ไม่มีใครเชื่อใจพี่เลยไง๊?”
เจ้าของดวงตาสีเขียวมรกตกุมขมับ ส่วนสคาดิที่กำลังเทฟักทองใส่แป้งพายหลุดขำพรืด
ในที่สุด
คอร์นเบรดฝีมือของทั้งสามก็เสร็จสมบูรณ์พร้อมกับสมูทตี้ฟักทองและเครื่องเทศหอมหวานที่ก็...คงทำไม่ได้ถ้าสคาดิไม่คอยมาคุม
เตาอบส่งเสียงดังติ๊ง
ทำให้แคดหันไปหยิบไก่งวงร้อนๆควันฉุยออกมาวางบนเขียงไม้ หญิงสาวตักมันบดใส่ในถ้วยข้างๆและจัดกะหล่ำดาวอบไว้เป็นเครื่องเคียง
เหยือกเซรามิกสีขาวใส่เกรวี่ถูกวางไว้ข้างๆ
“ไก่งวงเสร็จแล้วนะทุกคน”
เธอตะโกนเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่ทุกคนกำลังนั่งคุยกันอยู่พร้อมแก้วสมูทตี้ในมือของแต่ละคน
“เฮ้สแคดดี้” บรูซ แบนเนอร์โบกมือทักทายน้อยๆ
“บอกกี่ครั้งแล้ว่าอ่านว่า
สคาดิ” เธอแยกเขี้ยว
“งั้นฉันจะจัดโต๊ะนะ
เธอไปเอาไก่มาเหอะ” โลกิวางแก้วสมูทตี้ในมือลงแล้วผุดลุกขึ้นยืนอย่างกระฉับกระเฉง
“ฉันไปด้วย”
สตีเฟ่น สเตรนจ์ผละออกจากโซฟาและเดินตามชายหนุ่มผมดำยาวไป
“อ้าวหมอ
หวัดดีจ้ะ” แคดร้องขึ้นมาคล้ายว่าเพิ่งเห็นคุณหมอรูปร่างสูงโย่งที่กำลังเดินเข้ามาในครัว
“เออ
ทักพรุ่งนี้เลยก็ได้นะ” เขากรอกตา
“โทดที
เพิ่งเห็นจริงๆอ่ะ...ได้ข่าวว่างานยุ่งนี่ ผอ. โรง’บาลไม่ขึ้นเหรอที่พี่หมอหนีมากินข้าวเนี่ย?”
หญิงสาวผมเข้มฉีกยิ้ม
สตีเฟ่นหรือพี่หมอเสตรนจ์เป็นรุ่นพี่คนหนึ่งที่มหา’ลัย
เขาได้ถูกจับรวมเข้าแก๊งเมื่อจับพลัดจับผลูได้มาเจอกับกลุ่มของเธอที่กำลังนั่งติวหนังสือกันอย่างเงียบๆ(?)และพบว่าโทนี่ที่พอรู้จักกันนั้นอยู่ด้วย
ตั้งแต่นั้นมา พี่หมอจึงรับหน้าที่ติววิชาชีวะให้กับพวกเธอไปโดยปริยาย
โดยคนที่สนิทกับเขาที่สุดน่ะเหรอ?
สคาดิไง
เมื่อเธอเข้าเรียนวิชาสัตวศาสตร์เพื่อเป็นสัตวแพทย์
วิชาชีววิทยาจึงสำคัญอย่างมาก
นั่นทำให้ช่วงเรียนมหา’ลัย
เธอมักแวะไปคุยกับพี่หมอหลังเรียนเสร็จที่ตึกคณะแพทย์ฯที่อยู่ไม่ไกลนักจากตึกคณะสัตวศาสตร์ทุกเย็นเพื่อขอให้เขาช่วยสรุปบทเรียนให้
ที่จบมาเนี่ย
ได้พี่หมอสตีเฟ่นช่วยล้วนๆ//กราบพี่หมอ
“ผอ.
ไม่ว่า’ไรหรอก และถ้าฉันจะมาใครก็ห้ามไม่ได้อยู่แล้ว” ชายหนุ่มผมน้ำตาลยักไหล่
นั่นล่ะพี่หมอ
อินดี้สุดขีด
“เฮ้ย
นั่นพายแครนเบอร์รี่ใช่ป่ะ?” เสตรนจ์ชะโงกหน้าเข้าไปดูถาดพายอบใหม่ที่เรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ
“อือฮึ”
หญิงสาวกอดอก
“แม่โรห์ดี้ฝากมาอ่ะ...อย่าแม้แต่จะคิดเชียวนะหมอ
รอกินข้าวเสร็จก่อน” เธอพูดต่อราวกับคาดเดาได้
พี่หมอชอบกินแครนเบอร์รี่มาก
ถ้าให้เขาจัดการพายไปก่อน เย็นนี้คงไม่มีพายแครนเบอร์รี่เหลือให้คนอื่นกิน
“เกลียดแกว่ะแคด”
ชายหนุ่มร่างสูงขึงตาใส่แล้วเดินตามโลกิเข้าไปหยิบช้อนส้อมและจาน
วานด้าและวิชั่น
แฟนหนุ่มของเธอมาถึงในตอนที่ทุกคนประจำที่เตรียมสวาปามรียบร้อยแล้ว
“ฮายหัวแดง”
ปิเอโตรสวมกอดน้องสาวฝาแฝด
“เฮ้”
หญิงสาวยิ้มพลางกอดตอบ
“วิสสสส
ไงเพื่อน” โทนี่ไฮไฟว์กับชายหนุ่มข้างวานด้า
“ไงโทนส์”
วิชั่น แมคจาร์วิสตบไหล่เพื่อนเบาๆและดึงเก้าอี้ออกให้แฟนสาวและตัวเองนั่งลง
“เอาล่ะ...”
ทีชัลล่าประสานมือเข้าด้วยกัน
“เรามาเริ่มกันเถอะ...ดูเหมือนว่าพีทกับชูรีจะทนหิวไม่ไหวแล้วเนี่ย”
“บายทุกคน”
สคาดิกอดเพื่อนในแก๊งขณะที่ทุกคนมาส่งเธอที่หน้าประตูบ้านของทีชัลล่า
เธอมีงานที่โรงพยาบาลสัตว์พรุ่งนี้
เคสนี้เป็นสุนัขที่มาพักอดน้ำอดข้าวครบหนึ่งคืนเรียบร้อย รอเพียงให้เธอไปผ่าตัดทำหมันให้มันเท่านั้น
“ฉันจะต้องคิดถึงเธอแน่แคด”
นาตาชาว่าด้วยดวงตาสีฟ้าเศร้าๆ
“มา
กอดแบบกลุ่ม” หญิงสาวผมเข้มกางแขนออก
ทุกคนโผเข้ามาหาและโอบแขนรอบกันและกัน
ธอร์แทรกเข้ามาด้านในสุด ตามด้วยพี่หมอ, ปีเตอร์ ควิลล์, และโลกิ
ให้ตายเถอะ
เธอเกลียดการกอดแบบหมีรัดของพวกเขาที่สุด
สคาดิเลื่อนตัวขึ้นนั่งบนเบาะรถแท็กซี่ที่เพิ่งโบกมา
ดวงตาสีฟ้าเทาหันไปมองชูรีและพีทตี้ที่โบกมือหย็อยๆอยู่หน้าประตู
รอยยิ้มบางๆจุดขึ้นบนใบหน้าอ่อนเยาว์ของเธอขณะที่นึกถึงตอนที่โทนี่กล่าวสุนทรพจน์ด้วยสำนวนแย่ๆแต่ซึ้งใช่ย่อยและเปิดขวดไวน์
ฉากหวานชวนเลี่ยนของวานด้ากับวิชั่น
ความเด๋อของพีทที่เข้าใจว่าเบียร์คือโค้กละลายด้วยน้ำเปล่า
รวมถึงตอนที่สตีฟและธอร์โห่ร้องราวกับเชียร์บอลตอนดูหนังเน็ตฟลิกซ์
เธอก็จะคิดถึงพวกเขาเหมือนกัน
ไม่ใช่ทุกเดือนหรอกนะที่เราจะได้มาอยู่กันพร้อมหน้าแบบนี้
เฮ้อ...
นี่มันเป็นวันขอบคุณพระเจ้าที่เพอร์เฟ็คต์จนน่าหมั่นไส้เลยล่ะ
TALK
WITH FM
Happy thanksgiving day
นะคะทุกคนนนน
ในฐานะที่ไรต์เป็นคริสเตียน
ที่...เอ่อ...ถึงแม้จะไม่มีวันขอบคุณพระเจ้าของครอบครัว แต่ก็ยังพอรู้จักว่ากิจกรรมนี้คืออะไร
ขอให้พระเจ้าของไรต์อวยพระพรให้ทุกคนมีความสุขและมีความอุดมสมบูรณ์ในชีวิตนะคะ
ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน ชีวิตรัก และสุขภาพค่ะ
ด้วยรัก,
ถุงกาวและไก่งวงอบใหม่
เฟิงมี่ค่ะ>3<
ความคิดเห็น