ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Marvel || Broken Throne (OC feat. Thorki, Stony, Spideypool, etc.)

    ลำดับตอนที่ #25 : Short Fic. || Back to You (Thanela)→ ᴘᴀʀᴛ 3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 373
      15
      21 ก.พ. 62

    Title : Back to You

    Author : FengMii

    Pairing : Thanela Thanos x Hela

    Category : Short Fiction (3/??)

    Notes : ความทรงจำที่มีให้กันยังคงอยู่ในใจของพวกเขาเสมอ [AU]

     

    B a c k  t o  Y o u

    P A R T  3

     

    Whats the point of hiding?

    Everybody knows we got unfinished business

    And Ill regret if I didnt say

    This isnt what it could be

     

     

     

           เด็กสาวเอนกายลงเท้าคางบนโต๊ะในขณะที่อีกมือหนึ่งวางลงข้างๆ นิ้วเรียวรัวไปมาสลับกันช้าๆขณะที่ดวงตาสีฟ้าเทามองไปรอบๆ

     

           “คิดไรอยู่?” วานด้า แม็กซิมอฟฟ์ถาม เธอวางโกโก้เย็นในแก้วลงและสะบัดผมที่ทำสีแดงกุหลาบตรงส่วนปลายไล่จากสีน้ำตาลของผมจริงออก

     

           “หมู่นี้เฮล่าดูแปลกไป” สคาดิพ่นลมหายใจ เสสายตากลับมามองเพื่อนและกำมือเข้าด้วยกัน หยุดการรัวนิ้วของตนเอง

     

           “ยังไงอ่ะ?” ปิเอโตร แม็กซิมอฟ พี่ชายฝาแฝดของเด็กสาวผมแดงเอนตัวเข้ามาร่วมวงสนทนา คิ้วสีเข้มของเขาเลิกขึ้นจนเกือบหายเข้าไปในกลุ่มผมทำสีแพลตตินั่มบลอนด์ที่ปรกลงมาบนหน้าผาก พร้อมฟังเต็มที่

     

           “อี๋” น้องสาวฝาแฝดย่นจมูก ทำหน้าขยะแขยงเนื่องจากในปากของเขานั้นยังคงเต็มไปด้วยอาหารเที่ยงอย่างเบอร์เกอร์

           “เคี้ยวให้หมดก่อนค่อยพูดสิยะ”

     

           “ครับแม่” เขากรอกตา

           “ตกลงไงเหรอ? พี่เธอแปลกไปยังไงอ่ะ?”

     

           “ก็...” นิ้วเรียวของคู่สนทนาชูขึ้นในอากาศและวนไปมาราวกับพยายามจะเลือกคำ

     

           “เฮล่าดู...มีชีวิตชีวามากขึ้น”

     

           ทันใดนั้น ดวงตาของสคาดิก็เบิกกว้าง ร่างเพรียวทิ้งตัวลงมาเพื่อขยับวงให้ต่ำลงและใช้แขนยันตัวไว้ไม่ให้กระแทกโต๊ะกินข้าว ทำเอาเพื่อนๆก้มตามแทบไม่ทัน

           “ฉันนึกออกละ”

     

           “ห่านเอ้ย แคด” ปิเอโตรสบถ

           “นึกว่าเธอจะเป็นลมคว่ำเผละลงไปซะแล้ว...คนอุตส่าห์เป็นห่วง”

     

           “ฉันไม่มีวันคว่ำหน้าลงไปในสปาเก็ตตี้ของฉันหรอกย่ะ” เธอขู่ฟ่อพลางเบะปาก

           “นอกจากจะเปื้อนแล้วยังเสียดายอาหารด้วย”

     

           “คืองี้...” เด็กสาวผมสีเข้มมีสีหน้าจริงจังขึ้นอย่างฉับพลัน

     

           “เมื่อคืน พี่ฉันไปคุยกับธานอสมา”

     

           “คุณพระ” วานด้าเอามือทาบอก

           “ธานอส อลาร์สซันอ่ะนะ?”

     

           “อ่าฮะ”

     

           “เลิกกันไปนานแล้วนี่...” เด็กหนุ่มคนเดียวในกลุ่มเอียงคอและขมวดคิ้ว

           “ไปเรื่องโลกิรึไง?”

     

           “ใช่ เธอบอกว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยน่ะ” ทำท่าทางเหมือนกับนักสืบ เธอยกมือขึ้นมากุมคาง

     

           “เมื่อคืนเธอกลับบ้านดึก คงคิดว่าฉันกับธอร์นอนไปแล้วทั้งๆที่ความจริงเรากำลังนั่งๆนอนๆเตรียมเปิดทีวีดูกันอยู่...น่าจะเป็นเขานั่นแหละที่มาส่ง ฉันได้ยินเสียงมอไซค์อยู่”

     

           “แล้วก็ไม่อยากจะให้มโนไปไกลหรอกนะวานด้า” สคาดิป้องปาก

           “แต่เฮล่าหน้าแดงด้วยล่ะ”

     

           คู่สนทนาเด้งตัวออกไปปิดปากและกรีดร้องอย่างไร้เสียง

     

           สมัยที่พี่เธอยังคบกับธานอส วานด้านี่แหละนักชงนักขยี้ตัวยง เธอบอกว่าเคมีของทั้งคู่เข้ากันมาก และเมื่อทั้งสองคนนี้เลิกกันเพราะคอเรลล่า เดธ ก็เป็นวานด้าอีกที่เกือบจะบุกไปดักตบรุ่นพี่สาวระหว่างทางกลับบ้านซะแล้วหากเธอกับปิเอโตรไม่ยื้อไว้

     

           “ใจเย็นๆ น้อง ใจเย็นๆไว้ก่อน” เด็กหนุ่มผมแพลตตินั่มตบบ่าน้องสาวเป็นการเรียกสติ

     

           “พระเจ้า ฉันอยากเต้นรูดเสาซะเดี๋ยวนี้เลย” เธอหอบ

     

           สคาดิมองบนและตักสปาเก็ตตี้ครีมเห็ดของตนเข้าปากอีกคำ

           “ถ่านไฟเก่า”

     

           “โอ้” แฝดชายเลิกคิ้วและมองไปที่ประตูโรงอาหาร

     

           “พี่เธอนี่อายุยืนนะเนี่ย พูดถึงก็มาพอดี”

     

           เด็กสาวผมสีเข้มขมวดคิ้วมองร่างสูงโปร่งของพี่สาวที่เดินเข้ามาอย่างสง่างามราวกับนางแบบในรันเวย์ รองเท้าบู๊ทสั้นกึ่งส้นตึกของเธอกระทบพื้นทางเดินเป็นจังหวะ เส้นผมสีดำสนิทปลิวตามการลงเท้า ดวงตาสีฟ้าเฉื่อยชาตามปกติจ้องมองไปทางโต๊ะหนึ่งทางซ้ายของพวกเธออย่าง...มุ่งมั่น?

     

           เดี๋ยวนะ...นั่นมันโต๊ะของคอเรลล่า เดธไม่ใช่เหรอ?

     

           “เฮล่าคิดบ้าอะไรอยู่น่ะ?” เด็กหนุ่มชะเง้อคอมอง

     

           คนหนึ่งก็สายนักเลง พวกเยอะ ฮ็อตพอควร และเดาความคิดไม่เคยออก

           อีกคนหนึ่งก็สายหัวขบถ ปากว่ามือถึง มีชื่อเสียงในทางด้านร้ายมากกว่าดี

           ถ้ารถไฟสองคันชนกันล่ะก็...

     

           สคาดิรีบผุดลุกขึ้น วางส้อมลงในทันใดและกำลังจะถลันไปหาพี่แล้วถ้าไม่ใช่เพราะร่างสูงที่ผลักประตูเปิดออกตามมาติดๆนั้นแตะไหล่ห้ามเธอไว้ก่อน

     

           “เดี๋ยวฉันจัดการเอง”

     

           “...ธานอส?”

     

           “เออ ฉันไงจะใครล่ะ” เด็กหนุ่มผู้ไฮไลท์ผมด้วยสีม่วงเลิกคิ้ว

           “พอดีมีเรื่องต้องคุยกับเดธด้วย”

     

           เด็กสาวผมสีเข้มถอนหายใจและยึดแขนเขาไว้ก่อนที่จะได้ไปถึงโต๊ะของแฟนเก่า

     

           “?” ดวงตาสีทองประหลาดมองมาอย่างงุนงง

     

           สคาดิเม้มปาก

           “ถ้าเรื่องนี้ไปจบที่ห้องปกครองนะ...”

     

           ธานอสกรอกตา

           “นี่ฉันใคร? ธานอส อลาร์สสันนะ”

     

           เด็กสาวเบะปาก

           “เออ ขอให้เป็นอย่างที่คุยไว้เหอะ”

     

           เขาทำหน้าทำตาน่าหมั่นไส้ใส่และเดินออกไป ตามหลังเฮล่าและหยุดลงที่ข้างโต๊ะของเดธ

     

           “ปล่อยไปอย่างงี้จะดีเหรอ?” วานด้าเลิกคิ้วถามอย่างเป็นห่วง

           “ฉันล่ะกลัวเฮลส์ถูกยัยนั่นแหย่จนลงไม้ลงมือซะจริง”

     

           “ธานอสเอาอยู่อยู่แล้วล่ะ” ปิเอโตรดูดโค้กในแก้วจนหมดและเรอ

           “ไม่งั้นจะเป็นธานอส อลาร์สซันเหรอ?”

     

           “อี๋ หยะแหยง” เด็กสาวผมน้ำตาล(ที่ไปทำสีแดงมา)ทำหน้าเหม็นเขียวอย่างรุนแรง

     

           ซึ่งพี่ชายก็ตอบด้วยการยิ้มยิงฟันและพาดแขนลงบนไหล่ของเธอ

     

           “ขอแค่ไม่ใหญ่โตเอิกเกริกนักเป็นพอ” ดวงตาสีฟ้าหรี่ลงมองการสนทนาระหว่างกลุ่มนั้น

     

           “เรานั่งเงียบๆเหมือนไม่มีตัวตนอย่างนี้ต่อไปเหอะ ยังไงคาบหน้าครูฮิกกินส์ก็ลาคลอดอยู่แล้ว” วานด้าเสนอ ยื่นแขนออกมาวางรองเป็นหมอนและทุ่มซีกหน้าลงบนนั้น ดวงตาสีน้ำตาลยังคงจับจ้องอยู่ที่ปฏิสัมพันธ์ของธานอสและเฮล่า

     

           “เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เธอพูดถูก” ปิเอโตรเอียงหัวลงวางบนแขน เลียนแบบท่าทางของน้องสาว

     

           “โอ๊ย” เขาสบถเมื่อมือขาวๆของเธอประเคนเข้าที่หลังหัวพร้อมกับสายตาทิ่มแทงที่หากเป็นมีด เขาคงถูกถีบลงบนพื้นและแทงจนพรุนไปแล้ว

     

           “พี่น่ะดีทุกอย่างเลยนะ” เธอกระตุกปาก

           “เสียอย่างเดียว ปากหมา”

     

           “วานด้า!!”

     

           “เงียบเหอะน่า” สองแฝดรีบหุบปากเมื่อเพื่อนสาวแหวเบาๆและส่งสายตาประมาณว่าถ้าไม่หยุด จบไม่สวยแน่มาให้

           “จะส่องมั้ย พี่ฉันน่ะ?”

     

           เพื่อนข้าโหดแท้



     

     

           “เธอหมายความว่ายังไง?” เด็กสาวหน้าคมเอียงคอน้อยๆและสบตากับเธอ

     

           “อย่ามาทำไขสือ เดธ” เฮล่ากอดอก

           “น้องฉันมาเกี่ยวอะไรกับการทำให้ฉันเจ็บ? ฮะ?”

     

           “การทำให้เธอเจ็บ?” คอเรลล่ายู่หน้า

     

           “พระเจ้า ไปได้ยินมาจากไหนเนี่ย?”

     

           “แฟนเธอ” เสียงทุ้มของธานอสดังขึ้นจากด้านหลัง

     

           เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ฟะเนี่ย?

     

           “แหม ธานอส” เด็กสาวผมสั้นยิ้มหวาน

           “คิดถึงฉันเหรอ?”

     

           “ฉันมาเพราะโลกิ” เด็กหนุ่มล้วงกระเป๋า

     

           ดวงตาสีดำสนิทของคอเรลล่าเป็นประกายในแบบที่แม้แต่เฮล่าเห็นยังขนลุก

     

           “มาเพราะเขา หรือมาเพราะ...” เธอลากเสียงยาว กวาดตามาทางข้างๆร่างสูง

     

           “เลิกแถแล้วตอบฉันมา” เสียงของเด็กหนุ่มผมม่วงเข้มขึ้นจนเธอตกใจ ดวงตาสีฟ้าหันกลับไปมองเขาและพบว่าใบหน้าหล่อเหลาร้ายกาจนั้นมืดครึ้มลง ดวงตาสีทองวาวโรจน์เล็กน้อยจนเหมือนกับสิงโตอารมณ์เสีย

     

           “ว้า” คู่สนทนาทำปากยื่น

           “ไม่สนุกเลย”

     

           เด็กสาวผมบ๊อบหันมาหาเธอ

     

           “ใช่ ฉันทำเอง”

     

           เฮล่าขมวดคิ้ว ถ่ายน้ำหนักลงบนขาข้างหนึ่ง

           “เพื่อ?”

     

           คอเรลล่าบดมุมปากไปด้านหนึ่งและยักไหล่

     

           “ถามน้องเธอสิ”

     

           น้อง?

     

           ดวงตาสีฟ้าหันขวับไปหาน้องสาวที่กำลังพยายามฟังบทสนทนาอยู่เงียบๆ

     

           “แคด?”

     

           “ไม่ใช่คนนั้น” เดธเสยผมสั้นๆของตนและดูดสมูทตี้จากในแก้วอีกอึกใหญ่

     

           เมื่อได้รับสายตาคาดคั้นจากทั้งคนผมดำและคนผมม่วง ดวงตาสีน้ำตาลจึงกรอกไปมาเป็นเลขแปด

           “โลกิ”

     

           “ห๊ะ?”

           “ห๊ะ?”

     

           ธานอสและเธอประสานเสียงไปพร้อมๆกัน

     

           “พูดใหม่ซิเดธ”

     

           เด็กสาวหน้าคมมองมาที่พวกเธอนิ่งๆและอธิบาย

     

           “โลกิเป็นคนส่งโน้ตมาให้ฉันเองว่าให้ส่งคนไปผลักเขาลงน้ำ...แลกกับเลคเชอร์ชีวะของปี 12 ที่เขาจะเขียนมาให้”

     

           “แล้วเธอก็ตกลงเนี่ยนะ?!!!” ธานอสแทบจะโห่ร้องก้องโรงอาหาร มือแกร่งยกขึ้นมายีผมสีบลอนด์ไฮไลท์ม่วงของตนเองอย่างหัวเสีย

     

           “ก็ฉันอยากสอบชีวะผ่าน” เธอถลึงตา

     

           “พระเจ้า คอเรลล่า นี่เธอไม่รู้รึไงว่าโลกิน่ะอ่อนแอซะยิ่งกว่านกหัดบินที่เปียกฝนอีก” เด็กหนุ่มเดินไปมาอย่างกระฟัดกระเฟียด

     

           “รู้สิยะ” แฟนเก่าว่า

           “ฉันถามเขาแล้ว เขาบอกว่าไม่เป็นไร...ถ้าเขาห้ามฉันก็ไม่ทำหรอก เห็นอย่างนี้ฉันใจนักเลงนะ”

     

           มือเรียวยกขึ้นกุมขมับ เฮล่าถอนหายใจหนักๆ

     

           “ถ้าครูใหญ่รู้เรื่องนี้ล่ะ?”

     

           “ก็...ฉันสั่งจอห์นไปแบบปากเปล่า ไม่มีการบันทึกเสียง ไม่มีข้อความลายลักษณ์อักษรให้สาวความถึง” เด็กสาวผมสั้นบิดริมฝีปากอิ่มและยักไหล่

           “เอาผิดฉันไม่ได้หรอก ฉันไม่ยอมรับซะอย่าง”

     

           “เธอนี่มัน...” เด็กหนุ่มส่ายหน้าเบาๆ

     

           “ก็คนมันเจ๋ง” เธอยิ้ม

     

           “งั้นฉันไปเรียนต่อก่อนนะ” ร่างบางในเสื้อคอเต่าแขนสั้นสีน้ำตาลเห็นเรียวแขนลุกขึ้นจากโต๊ะ สมุนที่นั่งสังเกตการณ์อยู่รอบๆลุกตาม

     

           “แล้วก็...” ดวงตาสีน้ำตาลหยีลงเมื่อเธอโปรยยิ้มและโน้มตัวเข้าไปใกล้แฟนเก่า

     

           ประโยคต่อมานั้นเบาจนเฮล่าฟังไม่ออก

     

           ธานอสยังคงมีสีหน้าที่นิ่งเหมือนเดิม แต่ดวงตาสีทองของเขามีประกายยิ้มพาดผ่าน

     

           และในวินาทีนั้น เธอก็อดรู้สึกไม่ชอบไม่ได้

     

           ตกลงความสัมพันธ์ของพวกเขาคืออะไรกันแน่?

     

     

     

           กว่าจะรู้ตัวอีกที เธอก็พาตัวเองออกมาจากโรงอาหารแล้ว

     

           เด็กสาวถอนหายใจและกำลังจะเดินกลับไปที่ห้องในขณะที่มือแกร่งของใครบางคนคว้าหมับเข้าที่ต้นแขนของเธอ

     

           “เฮลส์ เป็นอะไรรึเปล่า?”

     

           “ไม่...ฉันโอเค แดน ขอบใจ” แดเนียล รามิเรซ หนุ่มฮอตคนหนึ่งของโรงเรียน...และแน่นอนว่าเคยเดตกับเธอ แต่พวกเขาไม่เคยไปกันได้ไกลกว่าเพื่อน

     

           “เธอดูไม่โอเลย เมื่อกี้ตาเธอเหมือนจะฆ่าใครได้” ดวงตาของเขาสำรวจรอบตัวเธอ

           “ไปทำไรมา ฉันรอเธอที่ม้านั่งหลังโรงเรียนนานมาก น้ำที่ฉันซื้อมาจิบรอเธอหมดไปเป็นแกลลอนแล้วมั้ง”

     

           เฮล่าเม้มปาก

           “...ธานอสน่ะ”

     

           “ไอ้เบื๊อกนั่นมายุ่งไรกับเธออีกเนี่ย?” เด็กหนุ่มผมสีฮาเซลทำหน้าอารมณ์เสีย

           “คนที่ทำให้พวกเธอเลิกกันก็เขานี่”

     

           “รู้เรื่องโลกิมั้ย?” ขบริมฝีปากล่างอย่างชั่งใจและถามออกไป

     

           “แหงสิ สายฉันเยอะจะตาย...นี่ถ้าพ่อไม่ห้ามไว้แม่คงบึ่งรถไปดูอาการเขาแล้วก็เอาซุปไปฝากแล้ว”

     

           ตั้งแต่เกรดเก้าซึ่งเป็นครั้งแรกที่พวกเขารู้จักกัน เฮล่าก็ได้พบปะกับครอบครัวรามิเรซหลายครั้ง มารดาของเขาเอ็นดูโลกิมากราวกับเป็นลูกแท้ๆอีกคนหนึ่ง ในขณะที่บิดาเชื้อสายโปรตุเกสของเขารักพวกเธอทุกคนเท่าๆกันจนเหมือนมีลูกสี่คน

     

           มันช่วยได้มากสำหรับครอบครัวที่พ่อแม่แทบไม่อยู่บ้านของเธอ

     

           “ตอนแรกฉันคิดว่าธานอสทำ น้องฉันกำเศษเสื้อของเขาไว้แน่นตอนที่ฉันไปเจอ”

     

           “...แล้ว?” แดเนียลขมวดคิ้ว

           “ไงต่อ?”

     

           “เขาบอกไม่รู้ แต่ระหว่างทางกลับไปโรงรถเราเจอคอร์ตั้นกับลูกไล่คนหนึ่งกำลังพี้ยากันอยู่”

     

           “ก็เลยไปแจมด้วย?”

     

           เด็กสาวตบหัวคนตัวสูงกว่าป้าบใหญ่

           “บ้าสิ ฉันเป็นคนดี”

     

           “เชื่อตายล่ะ” เขาเบะปาก

     

           “คอร์ตั้นพ่นข้อมูลที่ฉันต้องการออกมาพอดี มันบอกว่าแฟนมันเป็นคนบอกให้มันไปล่อโลกิมาที่สระน้ำและผลักเขาลงไป”

     

           “คอเรลล่า เดธ?” เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งย่นจมูก

           “ยัยนั่นมายุ่งกับเธอ? ฉันจะไปคุยกับเธอให้รู้เรื่อง”

     

           “ไม่” มือเรียวยื้อแขนของเพื่อนชายไว้

           “ฟังฉันก่อน”

     

           “มีอะไรที่ฉันควรรู้อีก?” เขาเหวี่ยงแขนขึ้นมากอดอก

     

           “เดธบอกว่าเป็นโลกิเองที่ส่งโน้ตมาบอกเธอให้ผลักเขาลงน้ำแลกกับเลคเชอร์ชีวะ”

     

           “คนสติดีเขาไม่ทำงั้นกันหรอก” คนตัวสูงเอียงคอ

           “ไม่ได้จะว่าน้องเธอนะ”

     

           “แต่มันฟังดูเป็นโลกิมากเลยนะ ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องทำตัวเองแบบนี้ เขาไม่เคยเรียกร้องความสนใจหรือจิตตกขนาดอยากฆ่าตัวตายเลย...”

     

           “แต่ทำไมเธอถึงทำหน้าบูดแบบนั้น?”

     

           “ก็...” เฮล่าเกิดอาการติดอ่างเฉียบพลัน

     

           “ก็...ก่อนออกมา เดธกระซิบอะไรบางอย่างกับธานอส ฉันฟังไม่ทัน เขาก็คงไม่ยอมบอก ฉันก็เลยอารมณ์เสียนิดหน่อยน่ะ”

     

           “นั่นเป็นข้อแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นเลย สาวน้อย” แดเนียลเลิกคิ้ว

     

           “เธอหึง”

     

           “หึงบ้าอะไร?”

     

           “เธอหึงธานอสกับคอเรลล่า”

     

           “ก็เมื่อวานเรายังจูบกันอยู่เลย วันนี้เขากลับมาทำตัวลับๆล่อๆกับแฟนเก่า...”

     

           ดวงตาสีเข้มเบิกกว้าง เด็กหนุ่มทำท่าอยากจะกรีดร้องจนเธอต้องเอื้อมมือไปปิดปากเขา

     

           “คุณพระคุณเจ้า!!!!” เขาพูดเสียงแหลมปรี๊ด

           “พวกเธอ...พวกเธอจูบกัน!!!!

     

           “เออ” ใบหน้าเห่อร้อน เด็กสาวผมดำพยักหน้า

     

           “ถ่านไฟเก่าก็งี้ พอติดอีกทีก็ร้อนแรง” แดเนียลล้อ

     

           “แต่...”

     

           “แต่อะไรจ๊ะสาวน้อย?”

     

           “ถ้าเขาไม่ได้อยากจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมล่ะ? ถ้า...ถ้าฉันคิดไปเองคนเดียวล่ะ?” ดวงตาสีฟ้าหม่นลง

     

           ริมฝีปากอิ่มได้รูปของเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

     

           “ลองถามเขารึยังล่ะ?”

     

           เมื่อเห็นเพื่อนสาวเงียบไป เด็กหนุ่มเชื้อสาวโปรตุเกสก็ถอนหายใจยาวและเอื้อมมือมาตบปุๆบนหัวของเธอ

     

           ดูมัน...

     

           ตบไม่พอ โยกไปมาด้วย

     

           “อย่ามัวแต่กลัวจนไม่ได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองสิ เฮล่า”

     

           พวกเขาสบตากัน เด็กหนุ่มผมฮาเซลคลี่ยิ้มอบอุ่นอีกครั้ง

     

           “ถ้ามันจบไม่สวยเหมือนครั้งที่แล้วล่ะ?”

     

           “ถ้ามันจบไม่สวย...” เขาลากเสียง

           “ฉันก็จะอยู่ข้างเธอเอง”

     

           ร่างเพรียวโผเข้ากอดเพื่อนสนิท

     

           ดีจริงๆที่เธอมีเพื่อนดีอย่างแดเนียล











     

    TALK WITH FM

    ในที่สุดเราก็ได้ฤกษ์ลงพาร์ทสามมมม วะฮ่าๆๆๆๆ

    เนื่องจากในอีกสองอาทิตย์หน้าไรท์จะสอบ ฉะนั้น ไรท์อาจจะหายต๋อมโดยที่ไม่ได้อัพนิยายนะคะ

    เอาใจช่วยเราอ่านหนังสือด้วยน้าาาาา

    ฟิคนี้อาจจะจบในพาร์ทหน้าหรืออีกสองพาร์ทหน้านะคะ

    เจอกันตอนหน้าเด้อออ

    ด้วยรักและถุงกาว

    เฟิงมี่ค่ะ>3<

         
    Z y c l o n
       
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×