คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : เราจะลองคบกันดูไหม
ความรู้สึกเขินอายแบบนี้มันคืออะไร เมษายนนั่งสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆอยู่บนเตียงเดี่ยวหลังเล็กของตัวเอง
เท่าที่เธอจำได้นั้นเธอไม่เคยมีความรู้สึกทำนองนี้มาก่อน เธอไม่เคยรู้สึกอายหรืออยากใกล้ชิดผู้ชายคนไหนแบบนี้
เท่าที่เธอจำได้เธอชอบตุลาคมมาก
แต่ในขณะเดียวกันตุลาคมก็เกลียดเธอมากเช่นกัน และสิ่งที่เธอทำเพื่อเอาชนะเขาก็ไม่ใช่วิธีที่คนปกติใช้กัน
เธอตามรังควาญเขาในรูปแบบของเด็กสาวที่หมกมุ่นมากเกินไป
ดังนั้นถึงแม้เธอจะมีโอกาสใกล้ชิดเขาเพราะอะไรก็ตาม
แต่ก็ไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน เขาเองก็ไม่เคยมีท่าทีอยากเข้ามาใกล้เธอแบบนี้
ไม่ต้องถามเรื่องที่เขาจะมาหาถึงบ้านเพียงเพราะเธอไม่ยอมรับโทรศัพท์เลย นี่ถ้าเป็นเธอเมื่อสิบกว่าปีก่อนเบอร์มือถือเขาเลขสักตัวก็คงไม่ได้เห็น
เสียงประตูรั้วหน้าบ้านดังขึ้น เขาคงกลับไปแล้ว
คนร่างบางเดินไปชะเง้อคอมองที่ริมหน้าต่าง
ก่อนจะพบว่าคนร่างสูงเงยหน้ามองหน้าต่างห้องของตัวเองอยู่
ใบหน้าเนียนใสผลุบเข้าหายไปในห้องทันทีที่รู้ตัวว่าถูกจับได้ว่าแอบมอง
“บ้าจริง มายืนมองหน้าต่างห้องคนอื่นเขาทำไมเนี่ย”
เมษายนทำปากขมุบขมิบหน้าจอโทรศัพท์เรืองแสงขึ้นมา
เมษายนปรายตาไปมองเล็กน้อย ริมฝีปากยกขึ้นยิ้มโดยไม่รู้ตัวกับข้อความ ‘ฝันดี
พรุ่งนี้เดี๋ยวพี่ไปรับ’ สั้นๆสมกับคนประหยัดคำพูดแบบตุลาคม
เมษายนรู้สึกคนยิบๆในใจกับการกระทำของหนุ่มรุ่นพี่ ตัดสินใจพิมพ์ข้อความตอบกลับไป ‘นี่พี่ตุลาจีบเมษาหรือเปล่าคะ’
กดส่งไปแล้วก็อยากจะดึงข้อความนั้นกลับเหลือเกิน เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงจนเธอเกือบถอดใจในคำตอบของเขา
มือเรียวเอื้อมไปปิดโคมไฟที่หัวเตียงก่อนล้มตัวลงนอน ‘นี่เธอทำอะไรลงไปเนี่ย’
เสียงข้อความเรียกเข้าทำให้เธอดีดตัวเองขึ้นราวกับร่างกายติดสปริง
‘ออกมาหน้าบ้านได้ไหม’
ทันทีที่อ่านข้อความจบเมษายนก็กระโดดลงจากเตียงวิ่งไปที่หน้าต่าง
เขายืนอยู่หน้าบ้านจริงๆด้วย เอาไงดีลงไปดีไหม สี่ทุ่มครึ่งที่บ้านเธอปิดไฟนอนแล้ว
ถ้าลงไปตอนนี้จะดูอ่อยเกินไปไหม แล้วถ้าไม่ลงไปเขาจะโกรธหรือเปล่า ‘เห้ย
บ้าน่ะเมษาอ่อยอะไร เขาโกรธแล้วจะยังไง ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับเธอเลย
เธอเป็นคนไปถามเขา เธอก็ต้องกล้าฟังคำตอบเขาเหมือนกัน’ มือเล็กพยายามบิดลูกบิดให้เบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้ก่อนจะจรดปลายเท้าผ่านหน้าห้องพี่ชายไป
ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าบ้านยังคงใส่ชุดเดิมกับเมื่อตอนหัวค่ำ
คนร่างสูงยืนย่ำเท้าอยู่กับที่เอามือล้วงกระเป๋า ดูกังวลไม่มั่นใจเหมือนที่เคย
“ต้องเดินมาปฏิเสธถึงบ้านเลยหรือคะ จริงๆส่งข้อความมาบอกก็ได้นะคะ”
เมษายนเป็นคนชิงพูดก่อน ไม่รู้ล่ะ เปิดก่อนได้เปรียบ
หญิงสาวทำสีหน้าเหมือนรู้ว่าชายหนุ่มจะมาพูดเรื่องอะไร
“เมษา เราจะลองคบกันดูได้ไหม”
ประโยคสั้นๆแต่อานุภาพทำลายล้างสูง ก่อให้เกิดความเงียบกะทันหันระหว่างคนสองคน
เมษายนยืนอ้าปากค้าง นี่ชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นรักแรกที่เธอฝังอกฝังใจว่าเขาเกลียดเธอเข้าไส้
ตอนนี้กลับมาพูดจาขอโอกาสเธอ ทำเอาเธอทำตัวไม่ถูก มือไม้ดูเกะกะเก้งก้าง
ใบหน้าเรียวเล็กขึ้นสีแดงระเรื่อ แล้วถ้าหากว่าเมษายนเขินหนักแล้ว ตุลาคมก็เขินหนักกว่า
หลังจากรวบรวมความกล้าอยู่ครึ่งชั่วโมงเพื่อเดินมาพูดความในใจ
เขาก็กลายร่างกลายเป็นเสาไฟฟ้า ยืนนิ่งไปแล้ว
“นี่พี่ตุลาเขินเมษาอยู่หรือเปล่าคะ”
หลังจากตั้งสติได้ เมษายนก็เอ่ยปากแซวหนุ่มรุ่นน้อง ที่ใบหน้าคล้ามคมแดงจนเกือบจะดำ แลดูตลกจนเธออดหัวเราะไม่ได้
“นี่ขำมากไหมเนี่ย”
ชายหนุ่มถือตัวว่าเป็นรุ่นพี่ ที่ตอนแรกก็เขินสาวเจ้า แต่ตอนนี้ชักจะมีอารมณ์เคืองแทน มีอย่างที่ไหนเป็นสาวเป็นแส้ มีชายหนุ่มมาขอคบดันทำเหมือนเป็นเรื่องตลก
เมษายนพอรู้ว่าเขาเขินจนเริ่มจะโกรธก็พยายามหยุดยิ้ม
“ก็หน้าพี่ตุลาตลกจริงๆนี่คะ”
ตุลาคมก็พาลหน้าบึ้งไปกันใหญ่
ร่างสูงหันหลังเดินกลับทันทีเมื่อคนตัวเล็กยังไม่หยุดหัวเราะ
เมษายนเห็นร่างสูงงอนเดินหนีไปก็ยิ่งขำแต่ก็ยอมเปิดประตูบ้านเดินตามออกไปง้อ
“สรุปอยากได้คำตอบไหมคะ อุตสาห์เดินมาถาม”
ประโยคคำถามของเมษายนหยุดเท้าของตุลาคมไว้ได้ ถึงแม้เขาจะไม่ได้หันหลังกลับไปดูว่าเธออยู่ใกล้เขาแค่ไหน
แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าเธอกำลังยืนอยู่ด้านหลังเขาแน่นอน
เมษายนแกล้งสาวเท้าเข้าไปใกล้ เขย่งเท้ายื่นใบหน้าไปพูดกระซิบที่หลังใบหู
“ว่าไงคะ จะให้ตอบไหม”
เสียงกระซิบข้างหูทำให้เด็กหนุ่มหันหลังกลับมาทันที เมษายนผงะไปเล็กน้อยไม่คิดว่าเขาจะหันมาโดยไม่ทันตั้งตัวแบบนี้
ตุลาคมก้มลงมองคนตัวเล็กที่ยังใจสู้สบตาไม่ถอยหนีเมื่อเขาหันกลับมา ใบหน้าเรียวเล็กล้อมกรอบด้วยผมดำตรงความยาวเคลียไหล่
แพขนตาหนารับกับคิ้วเรียวบนใบหน้า
ริมฝีปากอิ่มอมยิ้มท้าทาย
ใบหน้าใสไร้เครื่องสำอางเหมือนเพื่อนสาวที่คณะ คนตัวเล็กกว่าในชุดนอนลายทางยังยื่นนิ่งไม่ขยับทำหน้าทะเล้นใส่
คนตัวโตกว่าก็ยิ่งรู้สึกหมั่นเขี้ยว โดยไม่ทันได้ห้ามตัวเอง มือใหญ่ก็ยื่นออกไปคว้าไหล่บาง
ย่อตัวลงไปในระดับเดียวกันเพื่อจ้องตา
“อยากเล่นเกมจ้องตาหรือ”
เมษายนยังคงอมยิ้มในหน้า ยังไงเกมนี้เธอก็ชนะ เด็กหนุ่มอย่างเขาจะมาชนะคนอายุวัย
สามสิบอย่างเธอไปได้อย่างไร แต่เธอไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองไม่เคยมีประสบการณ์ความรักจริงๆสักครั้ง
ดังนั้นเรื่องนี้เธอไม่ได้เป็นต่อเขาแม้แต่น้อย
พอโดนจ้องนานๆเข้าเธอก็เริ่มรู้สึกเก้อเขิน
ดวงตากลมโตเริ่มลุกลิกมองซ้ายบ้างขวาบ้าง ชายหนุ่มตรงหน้าหัวเราะกับท่าทีของคนที่เก่งแต่ปาก
“ดึกแล้วเมษาไปนอนดีกว่าค่ะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”
คนตัวเล็กทำปากยื่นขอตัวเข้าบ้านเมื่อเห็นว่าตัวเองสู้ไม่ได้
ตุลาคมยกมือขยี้เส้นผมนุ่มสลวยเบาๆ ไม่ได้บีบคั้นเอาคำตอบเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ามีท่าทีเขินอาย
ถ้าเมื่อเดือนที่แล้วมีใครถามว่าเขาคิดอย่างไรกับเด็กรุ่นน้องตรงหน้าคนนี้ เขาคงตอบตามตรงว่าเขาเฉยๆ
ติดจะไม่ชอบเท่าไร แต่ถ้ามาถามเขาตอนนี้ เขาตอบได้เลยว่าเด็กสาวรุ่นน้องที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะคนนี้มีพื้นที่ในใจเขาไม่น้อย
จนทำให้คนที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะไม่มีแฟนจนกว่าจะเรียนจบต้องใจร้อนมาขอจองเด็กสาวคนนี้ไว้ก่อน
ด้วยกลัวว่าคนอื่นจะได้ใจของคนตรงหน้าไป
“เข้าบ้านเถอะ ดึกแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ไปรับ แล้วเราน่ะก็รับโทรศัพท์พี่ด้วย”
เมษายนรีบหันหลังกลับเข้าบ้านทันที ที่เขายอมปล่อยมือจากศีรษะเล็ก
คนสองคนตกอยู่ในห้วงเวลาดีดี จนลืมสังเกตสิ่งรอบตัว เมษายนลืมมองว่าห้องพี่ชายยังเปิดไฟสลัว
และมีเงาหนึ่งยืนมองลงมาจากริมหน้าต่าง ส่วนตุลาคมก็ลืมสังเกตุว่ามีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ถัดบ้านของสาวที่หมายตาห่างออกไป
ความคิดเห็น