ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ย้อนเวลากลับไปรัก

    ลำดับตอนที่ #7 : ไม่คิด ไม่คิด ไม่คิด

    • อัปเดตล่าสุด 5 มิ.ย. 61


    "เมษา เธอช่วยมาเดินขบวนได้ไหม" 
    เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งที่ดูท่าทางว่าจะรวบรวมความกล้าอยู่นานก่อนจะเดินมาขอความช่วยเหลือจากเธอ เมษายนขมวดคิ้วเล็กน้อย เดินขบวนหรือสงสัยคนท้ายขบวนขาด ศีรษะเล็กผงกหัวหงึกหงักเป็นทำนองว่าได้ เด็กสาวคนนั้นยิ้มกว้างราวกับดีใจหนักหนา

    "ขอบใจมากนะเมษา ถ้าอย่างนั้นเย็นพรุ่งนี้ว่างไหม จะได้ไปวัดตัวตัดชุดกัน"
    คราวนี้คิ้วเรียวเริ่มขมวดเข้าหากัน 

    "เดี๋ยวนะ ต้องตัดชุด คนเดินท้ายขบวนต้องมีชุดพิเศษด้วยหรือ"
    เพื่อนสาวร่วมห้องทำหน้าประหลาดๆ ก่อนจะยอมเผยว่าแท้จริงแล้ว เธอต้องเดินหน้าขบวนไม่ใช่ท้ายขบวน และชุดที่ต้องใส่ก็คือชุด ราชินีอียิปต์ เนื่องจากว่าคอนเซปใหญ่ของกีฬาสีปีนี้คือ ยุคสมัยโรมัน ในส่วนของสีที่เธออยู่ เป็นอาณาจักรอียิปต์ ซึ่งอาณาจักรนี้จะขาด พระนางคลีโอพัตราไปได้อย่างไร แต่อะไรทำให้พวกนี้ดลใจมาเลือกเธอเป็นตัวเด่นกันละ เธอเคยทำอะไรแบบนี้ที่ไหนกัน 

    "ฉันไม่เคยซ้อมเลย แล้วฉันจะไปเดินได้ยังไง มันจะถึงวันงานอยู่แล้วนะ เธอไม่ได้เลือกตัวแทนมาตั้งนานแล้วหรอกหรือ"

    เรื่องนี้ดูน่าสงสัย จะเป็นไปได้อย่างไรที่ตำแหน่งสำคัญแบบนี้จะหลุดมาอยู่ในมือเธอ เด็กสาวทั้งหลายที่มีส่วนร่วมมาตั้งแต่ต้นจะยอมได้อย่างไร ใครๆก็อยากมีบทบาทเป็นที่น่าจดจำในวันแบบนี้กันทั้งนั้น เพื่อนร่วมชั้นทำท่าหันซ้ายหันขวา ก่อนจะป้องมือกระซิบข้างหูว่า มือวางอันดับหนี่งเกิด ท้องและแพ้ท้องอย่างหนักขึ้นมา จึงมีอันต้องพักการเรียน และชุดที่ต้องใส่ก็ค่อนข้างเปิดเผยเนื้อตัว จึงทำให้เด็กสาวเรียบร้อยไม่กล้าเสนอตัว ถึงแม้ว่าจะอยากเด่นก็ตาม และทุกคนลงความเห็นให้ลองมาทาบทามเธอ เมษายนจึงเข้าใจ หลายคนคงมีภาพจำว่าเธอเป็นเด็กสาวใจกล้า

    "มันโป๊ขนาดนั้นเลยหรือ"
    เมษายนถาม เท่าที่เธอจำได้ไม่เห็นจะเคยมีกีฬาสีปีไหน มีคนแต่งตัวชุดวับแวมขนาดนั้นเสียหน่อย เด็กสาวหยิบภาพถ่ายชุดต้นแบบมาให้ดู เมษายนจึงได้ถึงบางอ้อ ช่วงบนเป็นซีทรูสีทอง ซับในเป็นเสื้อครอบตัวสั้นสีดำเว้าช่วงอกมองดูคล้ายเสื้อยกทรง ส่วนท่อนล่างก็เอวต่ำโชว์สะดือ เดินดิ้นปักยาวกรุยกรายผ่าสูงถึงโคนขาอ่อน เครื่องประดับสีทองคล้ายแผงคอขนาดใหญ่ เข้ากันกันเครื่องหัวสีทองที่ดูท่าทางจะหนักไม่น้อย จะว่าโป๊ก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่มันก็วับแวมเกินกว่าเด็กเรียนวัย 17 จะกล้าใส่จริงๆนั่นแหล่ะ 'แต่ป้า 30 แล้วจ้ะ เดี๋ยวป้าเสียสละใส่ให้นะหนูนะ' 

    "ได้ เดี๋ยวฉันใส่ให้ได้ แต่ฉันไม่เคยซ้อมเลยมันจะทันหรือ"
    เด็กสาวยิ้มกว้างราวกับทำภารกิจสำเร็จ รีบละล่ำละลักบอก

    "เธอไม่ได้เดินกับพวกเรา เพราะจะมีคนแบกเสลี่ยงให้เธอนั่ง เธอต้องซ้อมแค่ตอนเดินลงมาจากเสลี่ยงแล้วพูดปลุกใจสองสามประโยคแค่นั้นเลย"
    เมษายนทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ให้เธอพูดจาปลุกใจในชุดแบบนั้นน่ะหรือ เออให้มันได้แบบนี้สิ แต่เอาซักหน่อยก็ได้ ไหนๆก็ได้ย้อนวัยกลับมาในวัยนี้ทั้งที การเดินขบวนพาเหรดงานกีฬาสี แล้วยังเป็นตัวเด่น ใครก็อยากเป็นทั้งนั้นแหล่ะ

    "เป็นก็เป็น"
    เมษายนพยักเอ่ยปากตกลง

    หลังจากที่แม่รู้ว่าเธอจะได้เดินขบวนพาเหรดในชุดบางเบา แม่ก็มีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถามว่าอยากให้ลูกสาวเดินขบวนในตำแหน่งสำคัญไหมก็อยาก แต่เดินในชุดแบบนั้นก็แอบทำใจลำบากเล็กน้อย เมษายนเป็นคนที่จัดได้ว่าหุ่นดีคนหนึ่ง ร่างบางสูง 167 เซนติเมตร อกเอวสะโพกถึงแม้ได้ใหญ่มากมาย แต่ก็ถือว่ามีไม่น้อย ถ้าใส่ชุดรัดรูปขึ้นมาเธอรู้ดีว่าลูกสาวจะทำให้ผู้ชายไม่น้อยมองตามเหลียวหลังได้แน่นอน ปรานีปรายสายตาไปมองลูกชายที่นั่งอยู่หัวโต๊ะอาหาร สิงหาคมทำตาเขียวสายหัวไม่เห็นด้วย ในส่วนของลูกสาวดวงตากลมโตมีแววอยากสนุกกับเรื่องนี้ คนเป็นแม่ถึงกับถอนหายใจ

    "ชุดมันบางแค่ไหนละ ใส่มิดชิดกว่านี้ไม่ได้หรือ"
    ผู้เป็นแม่เอ่ยปากในที่สุด ชุดจริงก็ยังไม่เห็น แต่ฟังจากที่ลูกสาวเล่ามันก็น่าจะวับแวมชวนให้ห่วง

    "ทำไมต้องไปใส่ชุดแบบนั้นเดินโชว์ชาวบ้านเขาด้วย แกไปเป็นนักกีฬาไหม เดี๋ยวพี่ไปฝากไอ้เอกให้ แล้วถ้าแกไม่กล้าบอกเพื่อนเดี๋ยวพี่ไปบอกให้"
    สิงหาคมเอ่ยปากท้วงทันทีที่แม่เปิดโอกาส เรื่องอะไรเขาจะให้น้องสาวตัวเองไปใส่ชุดแบบนั้นเดินโชว์คนอื่น มองมาจากปากซอยก็รู้ว่าน้องเขาสวย ถึงเขาจะไม่เคยชมให้กำลังใจแต่น้องเขาเป็นคนสวย แถมหุ่นก็ดีอีกด้วย ขนาดยังไม่ได้ใส่ชุดล่อใครยังโดนฉุด ไม่เอาละขี้เกียจตามรับตามส่ง 

    "แต่ว่าหนูก็อยากลองทำดูนะแม่ ปีหน้าหนูก็ไม่ได้มีโอกาสทำแบบนี้ซักหน่อย พอม.6 ก็ต้องเตรียมเข้ามหาลัยอย่างเดียวแล้ว" 
    เมษายนมีท่าทีอยากจะเข้าร่วมกิจกรรมนี้ ส่วนสิงหาคมก็ดูอยากจะกันน้องสาวออกจากเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัด คนเป็นแม่ได้แต่มองซ้ายมองขวาแล้วชั่งใจ ระหว่างที่คิดเสียงกริ่งหน้าบ้านเตือนว่ามีคนมาหาก็หยุดการหาข้อสรุปไว้เท่านั้น เมษายนทำท่าจะลุกออกไปดูเนื่องจากว่าตนเองลุกง่ายและอยู่ใกล้ประตูที่สุด แต่พี่ชายขวางไว้ก่อนด้วยเหตุผลว่ามืดแล้ว พอพี่ชายลุกไปเปิดประตูแม่ก็ลุกเดินตามไป หญิงสาวหันซ้ายหันขวาไปเห็นโทรศัพท์มือถือ จึงหยิบขึ้นมากดดูฆ่าเวลาแล้วก็พบว่า มีข้อความส่งมาทั้งหมด 3 ข้อความ และเรียกเข้า 1 สาย โดยทั้งหมดมาจากคนเดียวกัน ความถี่ห่างกันครั้งละ 45 นาที นาย ตุลาคม !!!

    'วันนี้เลิกเย็นหรือเปล่า'
    'กลับบ้านกับใคร'
    'ถึงบ้านหรือยัง'

    ทันทึที่อ่านข้อความทั้งหมด เมษายนก็ลุกพรวดพราดวิ่งไปที่หน้าบ้านทันที แขกร่างสูงผู้มาเยือนอยู่ในชุดลำลองเสื้อยืดสีขาวกางเกงวอร์มขายาว ส่งสายตาไปหาหนึ่งในเจ้าของบ้านที่โผล่มาคนสุดท้าย ดวงตาดำสนิทกวาดไปทั่วร่างก่อนจะหยุดที่โทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กที่เจ้าของกำไว้ 
    ปรานีชักชวนเด็กหนุ่มเข้าบ้าน ส่วนสิงหาคมก็เดินนำหน้าเข้าไปแล้ว เหลือเพียงเมษายนอยู่รั้งท้าย แล้วยังไม่ได้ทักทายแขก 

    "สวัสดีค่ะ"
    หญิงสาวทำเพียงก้มหัวเล็กน้อยเอ่ยคำทักทาย ก่อนหันหลังให้ ยังไม่ทันได้ก้าวขาเสียงทุ้มของคนด้านหลังก็ดังขึ้นเสียก่อน 

    "ทำไมไม่ตอบข้อความ แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์"
    ถึงน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่ก็ฟังออกว่ามีความขุ่นเล็กน้อย ขาสั้นกว่าก้าวฉับๆตอบโดยไม่ได้มองหน้าว่า ตนลืมเปิดเสียงโทรศัพท์ 

    โต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความอึดอัดของเด็กวัยรุ่น 3 คน โดยที่ผู้ใหญ่เพียงหนึ่งเดียวไม่รู้เรื่องด้วย 
    เมษายนทำเป็นตักอาหารให้แม่ ชวนพี่ชายคุย โดยข้ามแขกที่มาเยือน ส่วนสิงหาคมก็พยายามชวนแขกที่มาเยือนคุย แต่ในส่วนของตุลาคมแขกผู้มาเยือนนั้นถึงแม้จะตอบคำถามของสิงหาคม แต่ดวงตาก็ไม่ได้คลาดไปจากเมษายน 'น่าอึดอัดจริงเชียว คนอะไรทำให้คนอื่นเขาอึดอัดไปทั่ว' เมษายนรู้สึกอึดอัดจากสายตาคาดโทษของอีกฝ่าย จนเริ่มรู้สึกว่าไม่รู้ว่าตัวเองจะวางมือไม้ไว้ตรงไหน 'มองไปทางอื่นบ้างสิโว้ย' 

    "รีบกลับหรือเปล่าจ้ะ ตุลา เดี๋ยวน้าฝากเอาทับทิมกรอบไปให้ที่บ้าน ไปนั่งคอยสักเดี๋ยวนะ"
    ปรานีกุลีกุจอเดินไปเตรียมขนมฝากไปให้ทางบ้านเด็กหนุ่ม ส่วนสิงหาคมก็ขอตัวขึ้นไปเอาหัวข้อรายงานที่ไม่เข้าใจมาสอบถามรุ่นพี่ เมษายนทำท่าจะขอตัวขึ้นห้อง หันซ้ายหันขวายังไม่ทันได้เอ่ยปากขอตัวก็โดนหนุ่มรุ่นพี่ดักคอไว้ก่อน

    "ขอดูโทรศัพท์หน่อยสิ"
    เมษายนทำท่าอ้ำอึ้ง ในมือถือโทรศัพท์ไว้ยังไม่ได้ยื่นให้ตามคำขอ สายตาที่มองมาทำให้เธอรู้สึกวางไม้วางมือไม่ถูกชอบกล บ้าจริงเด็กคนนี้ไม่ควรทำให้เธอรู้สึกแบบนี้ได้นะ หญิงสาวสูดลมหายใจ วางสีหน้านิ่ง 'นายจะพูดเรื่องที่ฉันปิดเสียงโทรศัพท์สินะ' พอตั้งสติได้ก็หยิบมือถือยื่นมาตรงหน้ากดปุ่มตั้งค่าเพื่อเปิดเสียงต่อหน้าเด็กหนุ่มรุ่นพี่ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อคนตัวสูงเอื้อมมือใหญ่มาจับมือถือที่อยู่ในมือเธอเพื่อกดปุ่มเปิดเสียง กลายเป็นว่าเขากำลังจับมือเธอที่ถือมือถืออยู่ ใบหน้าคมก้มลงมาใกล้พูดอยู่เหนือศีรษะ 

    "เปิดเสียงเบาแค่นี้ พี่โทรมาจะไปได้ยินอะไร"

    เสียงพูดเบาๆเหนือศีรษะทำให้หญิงสาวหน้าร้อนซับสีเลือดลามไปถึงใบหู และมีหรือว่าปฏิกริยานี่คนตัวสูงกว่าจะมองไม่เห็น เสียงหัวเราะในลำคอไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกอายเท่ากับคำถามจากเขา

    "หน้าแดงแบบนี้ นี่อายพี่หรือ"
    คนตัวเล็กกว่าสะบัดหน้าแหงนคอ ถลึงตามองหนุ่มรุ่นพี่ 

    "อายอะไรล่ะ ใครจะอายคนอายุน้อยกว่าเป็นสิบปีกัน"
    ชายหนุ่มตรงหน้ามีสีหน้าไม่เข้าใจกับคำว่าอายุน้อยกว่า 10 ปี  แต่เมษายนไม่รอให้ตั้งคำถามอะไร เธอก็วิ่งหนีขึ้นบ้านไปแล้วทิ้งให้ตุลาคมยืนอมยิ้มพอใจในท่าทางของสาวรุ่นน้องอยู่กลางห้องรับแขกปล่อยให้ปรานีสงสัยมายืนยิ้มมองจิ้งจกอะไรที่เพดานบ้านน้ากันหนอตุลา 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×