ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : รุ่นพี่ที่เคยรัก
เมษายนก้มลงมองชายกระโปรงตัวเองแล้วถอนหายใจ ด้ายสีดำหลุดลุ่ยออกมาตามแรงดึงของครูฝ่ายปกครองจอมเฮี้ยบ 'เธอโดนเลาะกระโปรงตอนอายุ 30 อยากจะบ้าตายจริงๆ' ในเวลาปัจจุบันของเธอนั้นใครจะใคร่ใส่กางเกงปิดแค่แก้มก้นเดินออกจากบ้านก็ยังได้ แล้วนี่กระโปรงเลยหัวเข่ามาแค่1นิ้วเป็นเรื่องใหญ่โต
"เมษาแวะที่บ้านเราไหม เดี๋ยวเราซ่อมชายกระโปรงให้ สอยนิดเดียวก็น่าจะได้"
เมษายนก้มลงมองชายกระโปรงตัวเองแล้วถอนหายใจอีกครั้ง สอยกลับไปมันก็สั้นเท่าเดิมนั่นแหล่ะ ซื้อใหม่ให้มันจบๆเรื่องไป
"ไม่เป็นไรหรอกนาเดีย เดี๋ยวซื้อใหม่เลยดีกว่า ครูเสาเขาเลาะกินเนื้อผ้าไปด้วย"
เพื่อนสาวทำสีหน้าเหมือนไม่ได้คิดอะไรมาก ชะเง้อคอมองหารถประจำทางสายที่จะผ่านหน้าบ้าน ก่อนจะเห็นรถยนต์คันใหญ่เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินก่อนเทียบฟุตบาทตรงหน้า กระจกด้านหน้าฝั่งผู้โดยสารลดลง เผยให้เห็นว่าคนขับเป็นชายหนุ่มหน้าตาเกลี้ยงเกลาดูอายุราวๆยี่สิบ และดูจากการถอยเก้าอี้ไปไกลจนเกือบจะนอน ก็บ่งบอกได้ว่า ขาของผู้ชายคนนี้คงจะยาวไม่ใช่น้อย
'หน้าคุ้นๆแฮะ เห้ยนี่มันพี่ตุลาคม รักแรกของเธอนี่นา ตายละ อุตสาห์ย้อนเวลากลับมาได้ วันแรกก็ดันมาเจอเขาสภาพโดนเลาะกระโปรง เมษายนเอ้ย'
"น้องเดียจะกลับบ้านหรือ ขึ้นรถสิเดี๋ยวพี่ไปส่ง"
คนบนรถไม่ได้ปรายตามามองเธอแม้แต่น้อย แต่กลับส่งเสียงนุ่มทุ้มบอกเด็กสาวหน้าลูกครึ่งเพื่อนสนิทเธอแทน นาเดียพยักหน้ายิ้มรับก่อนเปิดประตูด้านฝั่งผู้โดยสารด้านหน้า
"ให้เมษาติดรถไปด้วยนะคะ พี่ตุล"
เด็กหนุ่มทำเพียงพยักหน้ารับ ก่อนเบือนหน้าหนีไปมองถนน 'แหม พอรู้ว่าชอบก็เล่นตัวจริงพ่อคุณ'
เมษายนตีหน้ามึนก้าวขึ้นรถไม่สนใจกับอาการไม่ต้อนรับของชายหนุ่มเจ้าของรถ
"น้องเดียคิดได้หรือยัง ว่าจะเข้าเรียนที่ไหน"
ประโยคเริ่มต้นบทสนทนาของเด็กหนุ่มตรงหน้า ทำให้เธอฉุกคิดขึ้นมาในใจ 'ตายละเมษา นี่เธอต้องเร่งทำคะแนนแล้ว นี่ก็ใกล้จะสอบปลายภาคเทอม2 ชั้น ม.5 แล้ว ผลการเรียนเธอห่วยชนิดที่มหาลัยไหนเห็นเกรดก็คงต้องส่ายหน้าไม่อยากรับ ทำยังไงดีเนี่ย เกรดแย่ต้องลงเอยจบไม่สวยเหมือนเก่าแน่เลย' คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน หัวสมองหมุนเร็วจี๋ ตอนเธออายุ 30 ปี มีอาชีพไหนที่มันทำเงินได้ดีๆบ้างนะ แต่นั่นไม่สำคัญเท่าเธอทำอะไรได้บ้างต่างหาก ความเงียบแบบผิดปกติของเมษายนทำให้ตุลาคมต้องแอบเหลือบตามองกระจกมองหลัง หน้าอ่อนวัยของเด็กสาวดูหงุดหงิด คิ้วเรียวขมวดพันกันบ่งบอกถึงความระดับความคิดมากในสมอง ปกติที่เขาเจอเธอ เด็กสาวคนนี้มักมีท่าทีแก่แดด พยายามทำตัวกร้านโลก และแสดงออกว่าชอบเขาอย่างโจ่งแจ้ง ทั้งคำพูดและการกระทำ ครั้งสุดท้ายที่เจอกันเธอรุกตามเขาไปถึงบ้านเพื่อเอาของขวัญวันเกิดไปให้ ท่าทางก้าวร้าวของเธอเล่นเอาแม่เขาแอบหวั่น แววตาไม่ไว้ใจยังคงมองเด็กสาวที่เบาะหลังอย่างจับผิด
"ขอบคุณนะคะที่มาส่ง"
นาเดียเด็กสาวลูกครึ่งยกมือไหว้หนุ่มรุ่นพี่ ในขณะที่เมษายนเด็กไทยแท้เต็มร้อย ทำเพียงเปิดประตูก้าวลงจากรถเงียบๆไม่ได้เอ่ยอะไร สายตาเหมือนตกอยู่ในพวังค์อะไรบางอย่าง ตุลาคมกดปุ่มเลื่อนกระจกรถขึ้นก่อนจะออกรถ ขับเลยลึกเข้าไปด้านในหมู่บ้าน
"เมษา เธอแน่ใจนะว่าไม่อยากให้เราสอยกระโปรงให้"
เมษายนยังคงไม่ตอบ เรื่องที่ยังไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรทำเอาเธอไม่มีสติคิดเรื่องอื่น
"นาเดีย ฉันถนัดทำอะไรเป็นพิเศษไหม"
อยู่ดีดีเพื่อนสาวก็เอ่ยปากถามขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
"เรื่องถนัดสมัยเด็กๆของเธอหรือ ก็กินไงเมษา แต่ว่าถ้านอกนั้นเธอชอบอ่านหนังสือ ชอบแฟชั่น ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอยังชอบอยู่ไหม"
ปลายประโยคเสียงแผ่วลงลงน้อยแสดงความไม่แน่ใจ เพราะก็ห่างหายกับเพื่อนคนนี้ไปเกือบ 2 ปี เธอจึงไม่แน่ใจว่าเพื่อนจะยังชื่นชอบอะไรเดิมๆหรือไม่
"ชอบหนังสือ ชอบแฟชั่น งั้นหรือ"
ดวงตากลมโตพลันเบิกกว้าง ในตอนนั้นอาชีพ บล๊อกเกอร์ รีวิวนี่นั่น ทำเงินได้มาก แถมได้กินดี เที่ยวดี แต่งตัวสวยๆ อีกต่างหาก ที่สำคัญเทรนด์เกาหลีกำลังมาแรง ถ้าเธอเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ละ ตอนที่ยังไม่มีใครสนใจเท่าไร สะสมประสบการณ์และฐานแฟนคลับไว้ ถึงเวลานั้นเธอก็กลายเป็นผู้บุกเบิกไปแล้ว เมษายนยิ้มกว้าง อยากจะตะโกนให้ลั่นซอย ย้อนเวลากลับมานี่มันดีจริงๆเลย
"แม่หนูกลับมาแล้ว"
เสียงกุกกักในครัว เป็นสัญญาณบอกว่าแม่กำลังทำอาหารมือเย็นไว้สำหรับเธอและพี่ชาย อาหารฝีมือแม่อร่อยที่สุดแล้ว ร่างเล็กสาวเข้าไปในครัวท่าทางกระดี๊ดระด๊า อาหารส่งกลิ่นหอมฟุ้ง
"กลับมาแล้วหรือ"
แม่ส่งเสียงถามโดยที่ไม่ได้หันกลับมามอง
"กลับมาแล้ว เอ่อ แม่ หนูขอเงินซื้อกระโปรงใหม่ได้ไหม"
เมษายนรวบรวมความกล้าเอ่ยปากขอแม่ซื้อกระโปรงใหม่ ทันทีที่ลูกสาวตัวดีเอ่ยจบประโยค แม่ที่ยืนถือตะหลิวอยู่ก็หันหน้ามาด้วยสีหน้าถมึงทึง
"อีกแล้วหรือ เฉพาะเทอมนี้แกซื้อกระโปรงใหม่กี่ตัวแล้ว เมษา ทำไมเป็นเด็กแบบนี้ แกคิดว่าเงินมันหาง่ายหรือไง"
เมษายนรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปกอดเอวแม่ยื้อไม่ให้แม่ฟาดเธอด้วยตะหลิว
"ครั้งสุดท้ายแล้วแม่ คราวนี้เดี๋ยวหนูซื้อเผื่อโตปีหน้าด้วยเลย"
หญิงสาวทำเสียงออดอ้อน
"ได้ฉันให้แกซื้อใหม่ก็ได้ แต่ให้ซื้อแค่ 2 ตัว แกต้องซักใส่ให้ทันเอาเองนะ"
แม่ยอมใจอ่อนกับท่าทางแปลกๆของเธอ ร้อยวันพันปีมีที่ไหน ที่จะมากอดแขนกอดขาแบบนี้
"แม่ขอเงินหน่อยสิ เดี๋ยวหนูออกไปซื้อที่ตลาดตอนนี้เลย น่าจะยังทัน"
แม่หันมาฝากตะหลิวก่อนเดินขึ้นห้องไป หญิงสาวกำเงิน 220ที่เป็นแบงค์ยี่สิบบาทยับๆ 12 ใบไว้ในมือ ทำไมเมื่อก่อนเธอถึงไม่เคยสังเกตเลยนะ ว่าแม่หาเงินมาใช้จ่ายในบ้านอย่างไร ความรู้สึกผิดเอ่อล้นในใจพาให้หัวตาร้อนผ่าว ระหว่างทางที่เดินไปตลาดผ่านบ้านเพื่อนบ้านหลายคน เธอรับรู้ได้ว่าสายตาที่มองมาต่างแสดงอาการรังเกียจ สมัยนั้นเธอเลวร้ายจนใครๆก็เบือนหน้าหนีจริงๆ และนี่คือผลที่เธอต้องรับผลที่กระทำ
"อุ้ย แมว"
ร่างบางพุ่งตรงเข้าหาสัตว์หน้าขนเพียงชนิดเดียวที่ชอบ เจ้าตัวกลมขนสีส้มมีปลอกคอหนังถักสีน้ำตาลเข้มร้อยอยู่ ท่าทีดูขี้เล่นเป็นแมวที่เป็นมิตรกับคนอื่นไปทั่ว ก่อนที่เสียงหนึ่งจะทำเจ้าก้อนขนส้มเธอตกใจวิ่งหนีไป 'หมาที่ไหนมาเห่าตอนนี้เนี่ย เกือบได้จับแล้วเชียว'
ร่างเล็กลุกขึ้นยืนมองหาสุนัขตัวต้นเหตุ ก่อนจะเห็นว่าใครเป็นคนจูง พี่ตุลพ่อหนุ่มเนื้อหอมรักแรกของเธอนี่เอง ดวงตากลมโตจ้องมองเด็กหนุ่มร่างสูงนิ่งนาน ค้นหาความรู้สึกในใจว่าเธอรู้สึกอะไรกับเด็กผู้ชายตรงหน้าหรือไม่ เพราะอะไรในวัย 30 เธอถึงได้ฝังใจกับผู้ชายคนนี้นักหนา ตาจ้องตากันอยู่พักใหญ่ เมษายนก็สรุปได้ว่า เธอไม่รู้สึกอะไรกับชายตรงหน้าแม้แต่น้อย เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะว่าตอนนี้เธอไม่ใช่เมษายน ที่อายุ 17 ปี คนนั้นแล้วน่ะสิ จะมารู้สึกอะไรกับผู้ชายที่อายุน้อยกว่าตัวเองเกือบ 10 ปี
"พาหมามาเดินเล่นหรือ"
เด็กสาวตรงหน้าเอ่ยทักทายก่อน ด้วยประโยคสั้นห้วน ไร้วี่แววของเด็กผู้หญิงที่เมื่อก่อนวิ่งตามเขาจนน่ารำคาญ เด็กหนุ่มในวัย 20 ปีไม่ได้เอ่ยตอบรับคำทักทายนั้น ทำเพียงดึงสุนัขของตัวเองไม่ให้วิ่งตามแมวตัวนั้นไป ก่อนหันหน้าเดินเลี่ยงไปอีกทาง
"ไม่ต้องแสดงท่าทางรำคาญกันขนาดนั้นหรอกน่ะ อยู่หมู่บ้านเดียวกัน เรียนโรงเรียนเดียวกัน ขึ้นรถนักเรียนรับ-ส่งคันเดียวกันมาก่อน เจอหน้ากันก็ทักทายให้กันหน่อยจะเป็นไรไปพี่ตุลา"
ขายาวหยุดชะงักกับน้ำเสียงเรียบเรื่อยของเมษายน คำว่าพี่ตุลดูชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะจบประโยค ก่อนหน้านี้เธอยังเรียกเขาว่าพี่ตุลคะพี่ตุลขาอยู่เลย นี่จะมาไม้ไหนอีกเนี่ย มุกใหม่งั้นหรือ นัยน์ตายาวรีของเด็กหนุ่มหรี่ลงประเมินคนตรงหน้า แต่ยังไม่ทันที่จะพูดอะไร เมษายนก็เดินจากไปแล้ว เดินไปโดยไม่หันกลับมามองเขาด้วย วันนี้เห็นทีพระอาทิตย์จะตกด้านตะวันออก
อากาศในเดือนธันวาคม เมื่อ10ปีที่แล้วในแถบยานชานเมือง ยังมีกลิ่นอายของฤดูหนาวที่ไม่สามารถหาได้ในช่วงเวลาก่อนที่เธอจะย้อนกลับมา ร่างบางเดินทอดน่องสอดส่ายสายตามองไปรอบๆตัวกับบรรยากาศเดิมๆที่หายไปนาน ถุงกระโปรงนักเรียนตัวใหม่ ที่มีความยาวเลยเข่าไปถึงครึ่งน่องสร้างความประหลาดใจให้กับร้านค้าประจำ 'ไม่ชอบสั้นๆแล้วหรือเมษา' หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ ในใจพลางคิด 220 บาทนี้ เธอจะใช้ยันจนม.6ไปเลย ให้มันรู้ไปว่าเธอจะสูงขึ้นภายในปีเดียวมากกว่า 6 เซนติเมตร ฤดูหนาวแบบนี้ฟ้ามืดเร็ว ขาเรียวในกระโปรงนักเรียนความเหนือเข่า รีบก้าวเท้าเพื่อกลับบ้าน เธอไม่ชอบบรรยากาศโพล้เพล้แบบนี้ ยิ่งพอมองเห็นกลุ่มวัยรุ่นที่ยืนอออยู่บริเวณป้ายรถเมลก็ยิ่งรีบเร่งฝีเท้า ก่อนจะพบว่าเธอถูกใครบ้างคนคว้าข้อมือไว้ได้
"ดูสิว่านี่ใคร เมษายน แม่สาวสุดฮอตของเราไงล่ะ"
เสียงวัยรุ่นผู้ชายที่เป็นคนคว้าข้อมือเธอไว้เอ่ยปากทักทาย หญิงสาวหันไปมองใบหน้าที่มันเยิ้ม เต็มไปด้วยสิวและหลุมสิว หนวดเคราวัยรุ่นที่โกนไม่เกลี้ยง แล้วไหนจะฟันที่ทั้งเหลืองทั้งเป็นคราบ บวกกลิ่นลมหายใจที่อวลไปด้วยกลิ่นบุหรี่ ทำให้หญิงสาวเผลอเบ้หน้าออกมา
"ทำไมทำหน้าแบบนี้กับพี่โจ้ละเมษา เรานัดกันไว้เมษาก็ไม่มา พี่เลยต้องดักรอที่หน้าหมู่บ้านเนี่ย"
นอกจากหน้าตาจะไม่ผ่านแล้ว คำพูดจีบสาวก็ยิ่งขุดหลุมฝังตัวเองไปกันใหญ่
"เอ่อ นายปล่อยแขนฉันก่อนไหม ฉันเพิ่งตกลงมาจากอัฒจันทร์ ฉันเจ็บ"
หญิงสาวไม่ตอบคำถามที่เด็กหนุ่มวัยรุ่นถาม แต่กลับเลี่ยงประเด็นแทน โจ้เด็กหนุ่มช่างกลยอมปล่อยแขนเล็ก เพราะรู้มาว่าเธอตกลงมาจากอัฒจันทร์จริงๆ แต่จะให้ปล่อยเธอกลับบ้านไปโดยที่ไม่ได้จับแขนโอบไหล่ก็ดูจะเสียเชิงไม่น้อย แขนขาเก้งก้างเอื้อมมาโอบบ่าเล็กดึงเข้าหาตัว ใบหน้ามันแพล่บก้มลงมาใกล้ซอกคอ เรียกเสียงฮือฮาจากเด็กวัยรุ่นในกลุ่ม เมษายนพยายามเบี่ยงหน้าขืนตัวเองออก แต่ก็ดูเหมือนว่าแรงโอบของเด็กหนุ่มวัยรุ่นจะมีมากกว่าที่เธอคิด 'โธ่เว้ย ต่อยซะเลยดีไหมเนี่ย' ระหว่างที่กำลังคิดหาทางเอาตัวรอดก็มีเสียงเห่าของสุนัขดังขึ้น เรียกให้ทุกคนหันไปมอง หญิงสาวสบโอกาสจึงเบี่ยงตัวเองออกจากวงแขนของพี่โจ้ ที่เมื่อก่อนนั้นเธอก็ชื่นชอบเขาอยู่หรอก ร่างเล็กกระโดดเหย่งออกจากวงไปยืนอยู่ข้างสุนัขโกลเดนรีทรีฟเวอร์ตัวใหญ่ ส่งสายตาทำนองขอความช่วยเหลือจากเด็กหนุ่มร่างสูง และก็ดูเหมือนว่าเขาจะรับรู้สัญญาณขอความช่วยเหลือ
"พี่มีของจะฝากให้สิงหา ไปเอาที่บ้านด้วย"
พูดจบก็หันหลังจูงสุนัขตัวโตเดินออกจากวง เมษายนมองหน้าเด็กหนุ่มช่างกลที่ชื่อโจ้ แล้วหันไปมองเด็กหนุ่มอีกคนที่เดินไปแล้ว ใครจะเลือกคนหน้าสิวกลิ่นตัวเหม็นบุหรี่ แทนหนุ่มหน้าใส รูปร่างดี ขายาว นิสัยก็ดี เรียนก็เก่ง ฐานะทางบ้านก็ดีละ แถมในอนาคตก็จะประสบความสำเร็จเสียด้วย เมื่อก่อนเธออาจจะประชดรักแรกด้วยการเลือกจะยืนอยู่ในดงเด็กพวกนี้ แต่ตอนนี้ขาเรียวก้าวตามรุ่นพี่ไปติดๆ โดยที่กลุ่มเด็กวัยรุ่นไม่ทันได้ตั้งตัว
'ขอพึ่งหน่อยแล้วกัน' เมษายนคิดในใจในขณะที่สาวเท้าตามเด็กหนุ่มร่างสูง โดยไม่รู้ว่ารุ่นพี่ที่เดินนำหน้าแอบยิ้มมุมปากอย่างพอใจ เมื่อเห็นว่าเด็กสาวเดินตามหลังตนมา ไม่อย่างนั้นตนคงได้เสียหน้าต่อหน้าเด็กนักเรียนนักเลงพวกนั้นแน่ๆ
"เดินให้มันเร็วๆหน่อย ค่ำๆมืดๆมาเดินคนเดียว สิงหาไม่ว่าหรือไง"
คนตรงหน้าไม่วายหันมาบ่นอย่างอดไม่ได้ เป็นน้องเป็นนุ่งจะจับกักบริเวณให้เข็ด เมษายนทำเพียงยักไหล่ มองคนตรงหน้าด้วยสายตาเบื่อหน่าย 'โถทำเป็นมาทำท่าทางเป็นผู้ใหญ่ นายมันก็แค่เด็กยี่สิบเท่านั้นล่ะ' ใจคิดแต่ปากกับมือ ก็ยกมือไหว้ขอบคุณไป ไม่อยากให้ใครว่าเอาได้ว่าไม่มีคนอบรม คนตัวสูงมองร่างเล็กที่เดินเลี้ยวเข้าซอยบ้านตัวเอง พลางชั่งใจว่าจะเดินไปส่งถึงหน้าบ้านเลยดีหรือไม่ หนุ่มรุ่นพี่ถอนหายใจก่อนเดินสาวเท้าตามไป โดยให้เหตุผลกับตัวเองว่า
"มันมืดแล้ว เดี๋ยวเดินไปส่ง"
เมษายนปรายตามองรุ่นพี่ไม่ได้พูดอะไรอีก พอถึงบ้านตัวเองก็เดินเข้าไปโดยไม่ได้เอ่ยลาอีก หนุ่มวัยรุ่นร่างสูงมองคนตัวเล็กที่หายลับตาเข้าบ้านไป แล้วได้แต่ถามตัวเอง 'มาทำอะไรตรงนี้วะเนี่ย'
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น