ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {GOT 7} InnKeeper (MarkBam)

    ลำดับตอนที่ #4 : InnKeeper : Vol.2 100%

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 58


    Vol. 2

     

     

     

    “เป็นอะไรก็ไม่สำคัญแต่นายเรียกฉันว่ามาร์คได้...”

    .

    .

     

     

    .

     

     

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                               

    ย่ำรุ่งของวันใหม่ ฝนที่เคยตกลงมาเป็นบ้าเป็นหลังหยุดลงแล้ว ร่างเล็กนอนคุดคู้อยู่บนเตียงกว้างพลิกตัวไปมาราวกับกำลังฝันร้าย รูปคิ้วสวยขมวดแน่นราวกับผจญปัญหาที่คิดไม่ตก

     

    ไม่นานนักเปลือกตาสีไข่ไก่ก็ลืมขึ้นช้าๆเมื่อถึงเวลาที่ตนควรตื่นเสียที แบมแบมบิดขี้เกียจสองสามครั้ง แสงสว่างส่องผ่านผนังกระจกใสเข้ามาภายในห้อง ปะทะเข้ากับใบหน้าขาวนวลเนียนน่ารัก ภวังค์ความฝันเมื่อคืนตีเข้ามาในหัวเมื่อคนตัวเล็กเริ่มรู้สึกตัว

     

    ชายหนุ่มร่างเล็กกลับคืนสู่โลกแห่งความจริงอีกครั้งหนึ่ง เมื่อแสงอาทิตย์ทิ่มแทงเข้าไปในดวงตากลมโตคู่นั่น หัวสมองก็เริ่มประมวลภาพเหตุการณ์เมื่อวานอย่างรวดเร็ว และแล้วความหวาดผวาเจือปนความสะอิดสะเอียนในรอยยิ้มของชายปริศนาคนนั้นก็วกกลับมา ถึงกับทำให้คนตัวเล็กเย็นวาบไปทั่วร่าง ราวกับถูกน้ำแข็งเย็นจัดสาดซัด

     

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด แบมแบมในตอนนี้พยายามจะคิดว่าทุกอย่างเป็นเพียงความฝันเท่านั้น จริงๆแล้วเขาอาจจะแค่ไม่คุ้นชินกับที่นอนใหม่จนทำให้ฝันร้ายเอง

     

    แต่การคาดเดาต่างๆของร่างบางตอนนี้ต้องถูกเก็บผับไป เมื่อเงยหน้าขึ้นมาดวงตาสีอ่อนต้องสบเข้ากับใบหน้าคมเข้มที่ตนเพิ่งคิดว่าเป็นความฝันเมื่อกี้ จนทำให้คนที่จมอยู่กับความคิดตัวเองถึงกับถอยหลังจนชิดหัวเตียง 

     

    เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?..

     

     

    “อรุณสวัสดิ์ครับ”   ร่างสูงเอ่ยพร้อมกับก้มหัวลงเล็กน้อยเป็นการทักทาย

     

    “..... อ๋อ ครับ ครับสวัสดีตอนเช้านะครับ สวัสดีมากๆ ฮ่าๆๆ”   แบมแบมหัวเราะแห้งๆให้กับคำพูดชวนงงของตน พูดอะไรไปวะเนี่ยไอ้แบมเอ๊ย    คนตัวเล็กแทบจะทึ้งหัวด้วยความไม่เอาไหนของตัวเอง

     

     

    “เมื่อคืนหลับสบายมั้ยครับ” เจ้าบ้านถามต่อทั้งที่ไม่ได้มองคนตัวเล็กบนเตียง สองขาพาร่างสูงมาถึงหน้าต่างบานใหญ่ที่มีผ้าม่านสีทึบปิดไว้ ก่อนที่มือขาวซีดนั่นจะค่อยๆเปิดมันออก ให้คนในห้องได้รับไออุ่นจากดวงอาทิตย์ แม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาจะไม่เคยต้องการมันก็ตาม...

     

     

    “ก็สบายดีครับ... ฝันไม่ค่อยดีนิดหน่อยเท่านั้นเอง..”    คนตัวเล็กตอบเสียงแผ่วกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน และต้องมาคิดมากกับเรื่องความฝันไร้สาระของตน ที่ตอนนี้แบมแบมกำลังคิดว่าเรื่องเมื่อคืนเป็นเพียงฝันเท่านั้น เขาแค่รถเสียแล้วได้คนๆนี้ช่วยเหลือ อาจเป็นเพราะเสียงฟ้าร้องเมื่อคืนทำให้ขาเก็บไปฝันจนน่ากลัวก็ได้

     

     

     

    “หืม.. ฝันหรอครับ”   ร่างสูงยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ทั้งที่ดวงตายังคงแข็งกระด้างดังเดิม แค่แบมแบมเผลอสบเข้าไปนัยน์ดวงตาดวงนั้นเพียงเสี้ยววิก็ต้องหลุบตาลงต่ำ

     

     ไม่ไหว... มองผู้ชายคนนี้ไม่ไหวจริงๆ ไม่กล้ากระทั่งจะสบตา

     

    หัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะส่งผลให้แก้มนวลทั้งสองข้างแดงระเรื่อ คนตัวเล็กเม้มปากแน่นราวกับกำลังสะกดกั้นความรู้สึกบางอย่างที่ตีตื่นขึ้นมาจนจุกอก

     

     

    “ไม่ทราบว่าคุณแบมแบมอยากทานอะไรเป็นมื้อเช้าดีครับ”  ร่างสูงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง แม้น้ำเสียงจะฟังดูไร้ความรู้สึก แต่ใครจะไปรู้ว่ามันทำให้ใครบางคนคิดไปไกลแสนไกล ทั้งที่ตัวคนพูดเองถามไปอย่างไม่คิดอะไรก็ตาม

     

     

    “ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมอาบน้ำเสร็จก็จะไปแล้ว ขอบคุณ คุณ..... เอ่อ ขอโทษนะครับคุณชื่ออะไรหรอครับ”    

     

    “ผมว่า.. ผมเคยบอกคุณไปแล้วนะ..จำไม่ได้หรอครับ”

     

     

    แบมแบมขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัยในคำพูดของชายตรงหน้า เคยบอกแล้วงั้นหรอ? เอ... ตอนไหนกัน  คนตัวเล็กท่าทางคิดหนักเพราะหากลองพูดมาแบบนี้แสดงว่าตนเป็นฝ่ายผิด ที่เผลอลืมชื่อผู้มีพระคุณคนนี้  เสียมารยาทจริงๆเลยนะเราเนี่ย

     

    “ขอโทษจริงๆนะครับ เมื่อคืนผมคงสติแตกมากไปหน่อย เลยไม่ทันฟังในสิ่งที่คุณบอก ถ้าคุณจะกรุณาบอกผมอีกสักครั้งได้ไหมครับ”   แบมแบมเริ่มใจคอไม่ดีเมื่อคนฟังนิ่งไป คนตัวเล็กได้แต่โทษตัวเองที่ทั่งสะเพร่าแถมยังเสียมารยาทสุดๆ

     

    “ไม่เป็นไรครับ.... ถ้าคุณไม่สะดวก..”

     

     

    “มาร์ค”

     

    “ครับ.?..”   สิ่งที่ร่างสูงเอ่ยออกมาถึงกับทำให้คนตัวเล็กต้องถามย้ำอีกครั้ง  ความเงียบและความวังเวงรอบกายแผ่ครอบคลุมไปทั้งคฤหาสน์หลังนี้แม้จะเป็นตอนกลางวันก็ตามที

     

     

     

    “เมื่อกี้คุณบอกว่า...ชื่อ?”  แบมแบมถามย้ำอีกครั้งเพื่อเพิ่มความมั่นใจ แม้จะรู้อยู่แล้วว่าตนไม่ได้หูฝาด

     

     

    “มาร์ค ครับ เรียกผมว่ามาร์ค”  เมื่อจบคำพูดร่างสูงก็ค่อยๆก้าวเข้ามาหาคนตัวเล็กบนเตียงช้าๆ  ร่างน้อยบนเตียงทำได้เพียงปล่อยหยดน้ำเม็ดใสออกมาจากดวงตาคู่สวย แบมแบมเริ่มเห็นเค้าลางชะตาชีวิตในอนาคตของตนแล้ว..

     

     

    ท่ามกลางความเงียบในรุ่งเช้า ไม่มีเสียงใดมารบกวนแม้กระทั่งเสียงลมคลอเคล้าก็หาไม่ ในตอนนี้  คงมีเพียงลมหายใจและเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวของมนุษย์ผู้เดียวในเขตวิญญาณ

     

     

     

     

     

     

    60%

     

    .......................................................................................................................................................................

     

     

    ....กรงขัง...

     

     

    ตั้งแต่เด็กยันโต แบมแบมสาบานได้ว่าเขาไม่เคยกลัวสิ่งใด ไม่ว่าจะอรสพิษ หรือเจ้าป่า เขาก็ไม่หวั่นเกรง ด้วยเพราะตนนั้นเป็นเด็กซน ดื้อเงียบและไม่ยอมฟังใคร

    แต่หากใครได้มาเห็นสภาพเด็กหนุ่มตอนนี้คงไม่มีวันเชื่อสิ่งที่เขาบอกเป็นแน่

     

    ร่างเล็กนั่งกอดเข่าหลบตัวอยู่ในมุมอับแสง ร่างกายผอมบางสั่นเทาไปด้วยความหวาดกลัว ดวงตากลมแดงก่ำเป็นผลเนื่องมาจากการร้องไห้อย่างหนัก แบมแบมเฝ้าบอกตัวเองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่เรื่องจริง แต่หลอกตัวเองได้ไม่นานก็ต้องกลับมาร้องไห้อีก นี่มันเรื่องบ้าชัดๆ โลกนี้มันมีจริงซะที่ไหนกันละ.... ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่

     

    ความบ้าคลั่งภายในจิตใจคนตัวเล็กส่งผลให้ใบเล็บคมกริบจิกเข้ากับแขนตนเองจนเลือดซิบ

     

    ทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ!

     

    ยิ่งนึกถึงน้ำตาก็พาลไหลออกมาไม่ขาดสาย ไม่มีเสียงสะอึกสะเอื้อนลอดออกมาจากริมฝีปากอิ่มอีก  มีเพียง หยาดน้ำตาที่ไหลออกมาท่วมท้น เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านมา
    ..

     

     

     

    ร่างสูงก็ค่อยๆก้าวเข้ามาหาคนตัวเล็กบนเตียงช้าๆ  ร่างน้อยบนเตียงทำได้เพียงปล่อยหยดน้ำเม็ดใสออกมาจากดวงตาคู่สวย แบมแบมเริ่มเห็นเค้าลางชะตาชีวิตในอนาคตของตนแล้ว..


     

    พึ่บ! เสียงคล้ายปีกที่สยายออกทำให้คนตัวเล็กที่อยู่บนเตียงหน้าซีด ภาพที่เห็นคือปีกสีดำที่งอกขึ้นมาจากกลางหลังของชายตรงหน้า ค่อยๆขยายใหญ่ราวกับปีกของยมทูต ใบหน้าหล่อคมเข้มก้มต่ำ ราวกับสกดพลังบางอย่างที่กำลังปะทุออกมา  แต่เพียงไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น ร่างกายใหญ่โตได้ทาบทับลงมาจนกายทั้งสองชิดกัน

     

    ดวงตาสีแดงฉานสบเข้ากับดวงตากลมโตที่เคล้าไปด้วยหยาดน้ำใส ใบหน้าซีดขาวไร้เลือดประดับไปด้วยรอยยิ้มอันน่าสยดสยอง ความตระหนกที่แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดของคนตัวเล็กใต้ร่างไม่ได้ทำให้มาร์คเห็นใจเลยแม้แต่น้อย

    เสียงหอบหายใจและเหงื่อชื้นที่ฝ่ามือของร่างบางตอนนี้บ่งบอกได้ถึงความกลัวได้เป็นอย่างดี   แบมแบมหลับตาปี๋ ไม่กล้าเผชิญหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่อยากเชื่อว่าตนเห็นสิ่งที่... ไม่ใช่มนุษย์  กว่าจะรู้ต้วความเจ็บปวดบริเวณลำคอก็แล่นแปร๊บจนทำให้ร่างเล็กนิ่วหน้า แบมแบมกัดปากตัวเองแน่น ไม่กล้าส่งเสียงร้อง ไม่กล้าแม้เพียงขยับตัว

     

    ความยินยอมพร้อมใจที่เกิดขึ้นในชั่ววินาทีนั้นทำให้คนตัวเล็กแปลกใจในอาการของตน ทำไมไม่ยอมขัดขืน? ทำไมถึงไม่ร้องโวยวาย ความรู้สึกยินดีซะเหลือเกินนี่มันอะไรกัน..

     

    คิดได้เท่านั้นก็ต้องหลับตาลง ซึมซับทุกความรู้สึกที่ส่งผ่าน หลังความเจ็บปวดที่ตามมาเพิ่มเป็นทวีคูณ

    ก่อนภาพด้านจะพร้าเลือน ... และดับไป

     ............


     

     

    เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องเป็นครั้งสุดท้ายของวัน ร่างเล็กที่ฟื้นคืนนิทราสีมืดนั่งกอดเข่าร่ำไห้ ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ความเจ็บปวดที่สื่อผ่านออกมาจากแววตา ความกลัวที่ปิดไม่มิด มันชั่งทรมาน...

     

    ทรมานเหลือเกิน..

     

       

     

     





     

    ...................................................

     

     

     

    ขอโทษษษษษษษษษษษ มาช้ามากเลยใช่มั้ยยย TOT

    ขอโทษที่สุดในโลก เดี๋ยวตอนหน้าเร็วกว่านี้แน่นอน

     

    ....

     

    ตอนหน้าเจอกันรัวๆ
     

    ลงครบแล้วนาาา ถ้าสนุกคอมเม้นไว้ด้วยยนาาา หนึ่งคอมเม้นต่อหนึ่งกำลังใจจจ >< อย่าใจร้ายกับไรท์เบยยT^T

    ชอบบอกต่อ จะพยายามแต่งให้ดีที่สุดนะคะ

    { Winter Dark Theme }
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×