ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [๋GOT7] JUST YOU {markbam}

    ลำดับตอนที่ #5 : JUST YOU : 04 100%

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 57






    JUST YOU

     

    04





     








    ผมอยู่ที่ไหนเนี่ย...

     

     

    บริเวณรอบตัวผมมีแต่ความมืดโอบอุ้มอยู่ มองไปทางไหนก็หาแสงสว่างข้างกายไม่เจอ

     

    กลิ่นอายเย็นเยียบเฉียดผ่านหน้าผมไปมาอย่างนึกสนุก

     

     

     

    ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน..

     


     

     

    ช่วยแบมด้วย พี่แจ็คสันช่วยด้วยย

     

    เสียงใสที่คุ้นเคยดังขึ้นในโสตประสาทของผมอย่างชัดเจน



    แบมแบม! นายไม่ได้เป็นอะไรใช่มั้ย

     

     

     

    แบม แบมอยู่ไหน

     

    .........

     

    แบมม ตอบพี่หน่อยได้มั้ย อย่าเงียบนี้

     

    ความเงียบทำให้ผมเริ่มกังวล กลัวว่าคนตัวเล็กจะเป็นอะไรไป

    ผมเริ่มคลำทางอย่างสะเปะสะปะไม่รู้เหนือรู้ใต้


    รู้แค่ว่าในใจผมตอนนี้เต้นไม่เป็นระส่ำ

     

     

    ผมกลัว...

     

     

     
     

    กลัวจะต้องเสียแบมแบมไป....

     




     

    ทุกย่างก้าวของผมเต็มไปด้วยความสั่นเทา  ปีศาจ ซาตานกี่พันกี่ร้อยตนไม่แม้แต่จะทำให้ให้ดวงตาผมสั่นไหว

     

    แต่เพียงแค่เด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนเดียวกลับทำให้ตัวผมแทบคลั่งตาย ตั้งแต่รู้ว่าหายตัวไป

     

     

    แบมแบมนายทำอะไรกับใจของฉันกันแน่นะ

     

     

     

     

    กึก!!

     

    ในความมืดผมกลับสัมผัสอะไรบางอย่างใต้ฝ่าเท้าได้อย่างชัดเจน ลางสังหรณ์ร้ายกระซิบบอกผมเบาๆ

    ว่าอะไรรอผมอยู่ข้างหน้า

     

    เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นตามหน้าผากของทั้งที่อากาศในนี้เย็นยะเยือก ผมค่อยๆก้มมองที่พื้นตรงที่ยืนอยู่ช้าๆ

     

    ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้บรรยากาศรอบตัวผมมืดสนิทมองไม่เห็นแม้แต่มือตัวเอง 


    แต่ตอนนี้ผมกลับเห็นร่างที่นอนจมกองเลือดข้างหน้าผมได้อย่างชัดเจน



     

    แบมแบม!!’

     

    ……………………………………………..





















    !!!!!!!!!!!!!!!!!

     

     

    ผมลืมตาโพลงขึ้นในความมืดเสียงหายใจหอบหนักราวกับเพิ่งวิ่งมาราธอนมา


    เหงื่อกาฬแตกผล่านทั้งที่อยู่ในห้องแอร์เย็นเฉียบ

     

     

     

    ฝันงั้นหรอ...


     

     

     

    เขาเนี่ยนะจะฝัน?

     

    ถ้าเป็นคนปกติก็คงจะไม่แปลกอะไร แต่กับผมที่เป็นยมทูต... มันไม่ใช่ความฝัน

     

     

     

     

     

    มันคือลางบอกเหตุสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่างหาก

     

     

     
     

    ผมพยุงตัวเองให้อยู่ในท่านั่ง เอนหัวซบกับขอบเตียงเบาๆ มันนานแค่ไหนแล้วนะ



    ที่ผมไม่ได้นอนกอดเจ้าตัวเล็ก
    แสนซนของผม นับตั้งแต่วันที่ผมเจอกับมาร์ค ต้วนนั่นก็มันก็ตั้งแต่เดือนที่แล้ว

     

     

     
     

     

    คิดถึงเป็นบ้าเลย...

     

     
     

     

     

    ตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาไม่มีวันไหนเลยที่ผมจะไม่คิดหาทางช่วยแบมแบม



    แต่ลำพังแค่ตัวผมไม่สามารถ
    เข้าเขตแดนของเหล่าซาตานได้เลย

     
     

    แบมมันจะรู้มั้ยว่าผมเป็นห่วงมันแค่ไหน ทุกครั้งที่หลับบตาลงภาพเดิมๆซ้ำๆก็กลับมา ทุกๆลมหายใจเข้าออก

     
     

    ของผมไม่มีซักครั้งที่จะคิดถึงมัน ทั้งเป็นห่วงทั้งโหยหา

     

     

     

    ผมไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าตัวเองจะรักน้องมันได้ถึงขนาดนี้....

     

     

     

    คิดแล้วก็ตลกตัวเองชะมัด เป็นเพราะวันนั้นวันที่ผมมายังโลกมนุษย์ครั้งแรก

     
     

    ความสามารถพิเศษของเหล่ายมทูตอย่างพวกผมคงหนีไม่พ้นการเห็นชะตาชีวิตของเหล่ามนุษย์

     
     

    เห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของพวกเขา แต่พวกเราไม่ได้รับอนุญาติให้ใช้ความสามรถนั้นในโลกนี้

     
     

    ผมสามารถใช้ความสามารถพิเศษของผมได้ในโลกของยมทูตเท่านั้น

     
     

    หากใครคิดจะฝืนคำสั่งคนที่เราไปเห็นอนาคตของเขาแล้ว ห้ามไปเปลี่ยนแปลงสิ่งที่จะเกิดในอนาคตเด็ดขาด

     
     

    หากไม่แล้วผมที่ตามมาคือการดับสลายของยมทูตตนนั้นและจะต้องคอยอยู่ข้างกายคนๆนั้นตลอดไป

     

     

     

    นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงคอยอยู่ข้างกายแบมแบมตลอด

     
     

    ตอนแรกมันก็เป็นเพียงเพราะผมไปแอบดูชะตาชีวิตของแบมแบม เลยจำเป็นต้องอยู่ข้างๆคอยปกป้องน้อง

     
     

    แต่อาจจะเป็นเพราะความใกล้ชิดรวมกับความน่ารักของเจ้าตัวเลยทำให้ผมยิ่งเลยเถิดถลำลึกลงไปอีก

     

     



     

    จนตอนนี้ผมถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว

     

     

     

     

    เฮ้ออ... ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ เป็นห่วงแบมก็เป็นห่วง

    แต่จะให้ผมปล่อยตัวจินยองไปหา

     
     

    ไอ้มาร์คก็ไม่ได้ ผมไม่ต้องการให้น้องชายเพียงคนเดียวของผมไปยุ่งเกี่ยวกับซาตานสารเลวอย่างมัน

     
     

    สิ่งที่มันทำตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับการให้ผมเลือกระหว่างน้อง กับ คน(ที่แอบ)รัก

     
     

    เชื่อเถอะว่าคนอย่างไอ้แบมไม่มีทางรู้ว่าผมชอบมันจริงๆ ยังคงก้มหน้าก้มตาคิดว่าผมเป็นพี่มันอยู่ดี

     
     

    ซื่อบื่อจริงๆเลยไอ้เด็กน้อยขนาดผมไปขอแม่ให้ช่วย แม่ผมก็สั่งให้ลองคบกันก่อนแค่นี้มันยังมองไม่ออกเลย

     

     

     

     

     

    หรือไม่ก็แบมมันก็รู้แต่แกล้งปิดหูปิดตาทำเป็นไม่รู้ไม่สน

     





     

     

    เหอะ จะไม่ยอมเปิดใจให้กันเลยหรอตัวเล็ก

    จะรักแค่ไอ้ซาตานเลวๆคนเดียวรึไงกัน...








     

    เช้าวันนี้ยังคงเป็นวันที่สดใสของใครหลายๆคน

    จริงๆวันนี้มันน่าจะเป็นวันที่ดีของผมนะถ้ามีแบมแบมอยู่ด้วยกัน

     

     

    ผมนั่งหายใจทิ้งทำตัวไร้ประโยชน์แบบนี้มาร่วมเดือนได้

    หลังจากที่เด็กน้อยของผมหายไป ทุกวันนี้ผมยังคิดอยู่เลยนะ

    ว่าถ้าผมไม่รู้ว่าแบมหายไปไหนน่าจะสบายใจมากกว่านี้ก็ได้ 

     

     




     

    ผมแค่กลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ กลัวว่าสิ่งที่เห็นเมื่อคืนจะเป็นจริง

     









     

     

     

    ก๊อกๆๆ

    .

     

     

     

    “พี่แจ็คครับ...”

     


     

    เสียงเรียกจากอีกด้านนึงของประตูทำให้ผมคิ้วขมวดติดกันยิ่งกว่าเดิม

     

    สาบานได้ว่าผมไม่ต้องการให้เป็นแบบนี้จริงๆ..

     




     

     

    “เข้ามาสิ จินยอง

     



     

     

    ร่างเพรียวบางในชุดลำลองสีเรียบเดินเข้ามาในห้องอย่างไม่เข้าใจ

    การกระทำของพี่ชายตัวเองเท่าไรนัก







    ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงปล่อยตัวเขาออกมา

     




     

    หวัง แจ็คสันรอบสังเกตปฎิกริยาของน้องตัวเองก่อนจะพยักหน้ารับ

    อย่างเข้าใจ มันก็คงไม่แปลกอะไรที่จินยองจะดูหวาดระแวงในตัวเขาขนาดนั้น

     




     

    ทำไมกันนะเดี๋ยวนี้เขานิยมผู้ชายเลวๆกันหรือไง


    ทำไมคนที่เขารักและพร้อมจะปกป้องด้วยชีวิตทั้งสองคนถึงเอาแต่หลงใหลในตัวของปีศาจกัน

     

     



     

    “พี่แจ็คครับ ...ทำไมอยู่ๆก็ยอมปล่อยตัวผม?”

     

    เสียงหวานเอ่ยถามขึ้นอย่างนึกสงสัย 





     

    “แบมแบมหายตัวไป..”

     




     

     

    “......?”

     

     





     

    “นายคิดว่ายังไงละ?”

     

     
     

    จินยองเงียบไปสักพักนึงก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจ

    ในความคิดของตัวเอง





    ไม่ใช่หรอก มันต้องไม่ใช่แบบนั้นซิ!

     

     


     

    “พี่แจ็คอย่าบอกนะว่า ..ไม่หรอก ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”

     

     

     

    “ไม่ใช่นายหรอกที่บ้า มาร์ค ต้วนต่างหากที่ควรได้รับคำๆนี้ที่สุด”

     



     

    ชัดเจน และตรงประเด็นจินยองพอจะเข้าใจลางๆแล้วว่าพี่แจ็คสันปล่อยตัวเขาออกมาทำไม





    มาร์คนายจะร้ายเกินไปแล้วนะ ทำไมถึงได้..

     

     


     

    “แล้วพี่จะทำยังไงกับผม พี่จะเอาผมไปแลกกับตัวแบมแบมงั้นหรอครับ?”

     


     

     

    “ฉันทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ...ถึงแม้ว่านายจะดูเต็มใจไปซะเหลือเกินก็เถอะ”

     




     

    ผมพุดเสียงเรียบแต่ยังไม่วายส่งสายตาดุๆไปให้อีกคน


    ที่ตอนนี้ก้มหน้าหงุดไม่ยอมสบตากับผมอีก

     

     

     

    ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ผมพยายามใช้ความคิดทั้งหมดที่มีหาทางจัดการกับเรื่องนี้โดยให้มีผลกระทบกับคนทั้งสองน้อยที่สุด

     

     







     

    “ผมว่าพี่ควรส่งผมไปคุยกับเขานะ”

     

    จู่ๆคนตรงหน้าผมก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูมั่นใจขึ้นกว่าตอนแรกมาก





    “ไม่มีทาง”

     

     

     

    ผมตอบกลับแทบจะทันทีที่ได้ยินความคิดสุดแย่จากปาก

    น้องชายคนเดียวของผม นั่นมันไม่ต่างอะไรกับการส่งเนื้อเข้าปากเสือเลยนะ

     

     


     

    “พี่แจ็ค พี่คิดดูนะพี่ก้รู้ว่ามาร์ครักผมถ้าพี่ให้ผมไปคุยกับเขา มาร์คต้องยอมปล่อยตัวแบมแบมแน่ และตัวผมเองก็จะปลอดภัยแน่นอน”

     

     



     

    “แล้วฉันจะมั่นใจได้ยังไงว่านายจะกลับมา”

     


     

    นั่นแหละคือสิ่งที่ผมกังวลที่สุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ 

    ผมรู้ว่ามาร์ครักจินยองเขาไม่มีวันจะทำร้ายน้องชายของผมเด็ดขาด


    และผมก็เชื่อว่า เขาจะไม่ยอมคืนจินยองให้ผมเช่นกัน




    นี่สินะที่เขาเรียกว่าได้อย่างเสียอย่าง เหอะ! แต่ไอ้มาร์คมันกลับได้ทั้งสองทางเลยนี่

     

     




     

    “พี่แจ็คสัน ถึงผมจะรักมาร์คแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไปจากพี่ ผมไม่เคยเห็นความรักสำคัญกว่าครอบครัวนะ”

     

     


     

    เสียงของจินยองดูจริงจังขึ้นจนผมเองอดก็ที่จะลังเลใจไม่ได้

    ความจริงแล้วผมมันก็แค่ผู้ชายขี้ขลาดคนนึงที่กลัวจะสูญเสียความรักไป
    ก็แค่นั้น








    ผมแค่กลัวจะไม่เหลือใคร...

     

     

     

    “นะครับพี่แจ็ค ให้ผมลองทำดูนะ ผมรู้ว่ามันต้องได้ผล ขอร้องนะครับ”





     

    มือขาวเอื้อมมาจับมือผมเบาๆเป็นเชิงขอร้อง ผมได้แต่หลับตาและถอดถอนหายใจออกมาช้าๆ




    มันไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วรึไงนะ?..

     





     

    “ก็ได้จินยอง ก็ได้”



     

    ในที่สุดผมก็ต้องยอมแพ้ให้แก่ความเป็นห่วงแบมแบมและความดื้อรั้นเอาแต่ใจของจินยอง


    ผมนี่มัน เป็นพี่ชายที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ

     



     

    “ขอบคุณมากครับพี่แจ็คสัน ขอบคุณที่ยังเชื่อใจผม”

     

     

     

    ...........................................................................

     

     

     


     

    ถึงแม้จะเป็นห่วงน้องชายแค่ไหนแต่ในเมื่อเจ้าตัวเลือกแล้วผมก็หนื่อย

    ที่จะขัด ผมรู้ว่าคนอย่างมาร์ค ต้วนใช้กำลังขู่ไม่มีทางสำเร็จ

    ใช้ไม่แข้งกับปีศาจตนนี้ไม่ได้ ก็คงเหลือแต่วิธีนี้เท่านั้นนั่นแหละ

     

    จินยองมองหน้าผมพร้อมกับส่งยิ้มบางๆมาให้

    ผมรู้ว่าน้องรักและเป็นห่วงผมมาก





    จินยองไม่ใช่ยมทูตที่เก่งในเรื่องการต่อสู้ ออกจะแย่ซะด้วยซ้ำ

    เก่งอย่างเดียวคือการเยียวยารักษา


     จะให้ไปสู้รบกับใครคงจะไม่ได้  ผมจึงเอาแต่ปกป้องน้องตลอดมา



    จนบางครั้งก็ลืมไปว่าน้องโตแล้ว





    เขาควรเลือกองได้แล้วว่าควรจะทำไงต่อไปกับตัวเอง

     

    ผมก็ได้แต่หวังว่ามันจะไปได้ดีสำหรับแผนนี้...

     

    ..................................................................

     

     

     

     

     

    ร่างเพรียวระหงผิวขาวซีดที่รับกับใบหน้าหวานๆของจินยอง ปาร์ค

    เดินผ่านหน้าป้ายยินดีต้อยรับของหมู่บ้านรกร้างแห่งหนึ่งช้าๆ

    ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความหวาดกลัวสิ่งรอบข้าง

     



     

    ไม่! เขาจะกลัวไม่ได้เด็ดขาด

     


     

    จินยองขบปากของตัวเองแน่น สายผมพัดผ่านส่งเสียงหวีดหวิดราวกับ

    รับรู้ถึงการบุกรุกของศัตรูคู่แค้นที่ได้ย่างกายเข้ามาในถิ่นของตนแล้ว


    ความรู้สึกหนักอึ้งหล่นทับบนหัวของคนร่างบางเข้าอย่างจังเมื่อเขา

    สังเกตพบกับผู้เฝ้าเวรยามที่คอยตรวจตราอยู่บริเวณรอบๆตัว

     


     

    จะหลบยังไงให้พ้น? เรื่องสู้เขาไม่ถนัดหลอกนะ

    มีทางเดียวคือการลักรอบเข้าไปเนี่ยแหละ

     


     

    ใบหน้าสวยที่ตอนนี้ครุ่นคิดอย่างหนักอย่างไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อ

    ถึงกับตื่นตระหนกเมื่อเห็นว่าทหารซาตานที่คอยรักษาความปลอดภัย

    สังเกตเห็นตนเข้าอย่างจัง



    คนตัวบางหน้าถอดสีรีบก้าวฝีเท้าให้ไวที่สุดเมื่อพวกมันเริ่มส่งสัญญาณ

    ว่าพบผู้บุกรุกที่กำลังจะหลบหนีเข้าเมืองและให้กำจัดให้ไวที่สุด

     

    แย่แน่ ลำพังตัวเขาไม่มีวันจะต่อกรกับพวกนี้ได้หรอก

    จากแค่ก้าวด้วยฝีเท้าที่เร็วสม่ำเสมอกลับวิ่งสับเท้าอย่างสะเปะสะปะ

    วิ่งวนอย่างไม่รู้ทิศทาง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องไปหามาร์คที่ไหน





    จินยองหันกลับมองก็พบว่าพวกที่วิ่งตามมา เริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว


    เขาควรจะหาที่แอบนะตอนนี้



    คิดได้แบบนั้นสายตาคมก็รีบหาที่ซ่อนตัวอย่างฉับไว


    จินยองเข้าไปหลบในซากตึกเก่าที่มีซอกหลืบซับซ่อนจนน่าเวียนหัว

     


     

    พวกมันน่าจะมองไม่เห็นแล้วนะ...

     



     

    ถึงจะคิดแบบนั้นแต่คนหน้าสวยก็ยังไม่ยอมหันกลับไปมองว่ามีใครสังเกตเห็นเขาหรือไม่


    แต่แล้วก็ต้องใจกระตุกวูบเมื่อรู้สึกถึงความเย็นที่แผ่ซ่านเข้ามาเกาะกุมจิตใจของเขาจนมันแข็งไปหมด

     

     

    ถูกเจอตัวแล้วงั้นหรอ?ไม่ได้นะ เขาจะตายตอนนี้ไม่ได้

     


     

    ขณะพยายามขัดขืนอาการที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งอย่างยากลำบาก

    กลับมีเสียงหนึ่งที่ดังเข้ามาในโสตประสาทจนทำให้ร่างทั้งร่างรวมทั้ง

    จิตใจอ่อนยวบลงทันที นี่มันกับดักใช่มั้ย?


    .

     

    .

    .




    .

     

    “จินยองครับ ผมคิดถึงคุณ”

     

     

    มาร์ครู้แล้วว่าเขามา....

     

     

     

     














    #ขอโทษที่ช้าาาา wifi ใช้ได้แล้วจ้าาา ฮรึกก T^T











     Photobucket - Video and Image Hosting 




     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×