คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 7 อะไรซิ??
Chapter 7 อะไรซิ??
หลังจากเล่าเรื่องจีบพี่คริสให้เหล่าสหายรักฟัง เหตุการณ์ก็เหมือนจะปกติ เหล่าสหายรักไม่ซักถามอะไรผมอีก เฮฮาปาจิงโกะกันไปจนถึงเย็น ซ้ำยังชวนกันไปกินข้าวเย็นอีกต่างหาก แต่แค่ผมขอไปคุยกับอาจารย์เรื่องงานฟรีแลนซ์แปปเดียว ไอ้พวกนั้นมันก็หายหัวไปกันหมด
ชวนกูเองแท้ๆ เสือกหายหัวไปไหนกันวะ? ลำบากผมต้องโทรหาอีก เพื่อนเวร....
ผมกดต่อสายหาไอ้แบค รอสายสักพักก่อนทางนั้นจะกดรับสาย เสียงจ้อกแจ้กจอแจที่ดังรอดเข้ามาในสายก็สร้างความสงสัยให้ผม นี่พวกมันอยู่ไหนกัน?
“พวกมึงอยู่ไหนกัน?” ผมถามเสียงเข้ม อดคิดไม่ได้ว่าพวกมันหนีผมไปกันก่อน กูเคืองนะเว้ย อุตส่าห์โทรไปขออนุญาตเฮียเข้างานสายแท้ๆ
“เฮ้ยๆโทรศัพท์ใครวะ น้องยอลโทรมา” เสียงของใครสักคนที่ผมไม่คุ้นตะโกนเรียกหาเจ้าของโทรศัพท์ตัวจริง ก่อนเสียงเจ้าของโทรศัพท์จะดังตามมา “เออ ไอ้ยอลหรอ พวกกูอยู่ห้างฯกันแล้วๆ”
“ห๊ะ? แล้วทำไมไม่รอกู?” ผมโวยใส่ไอ้แบค อะไรคือชวนแล้วหนีไปกันก่อนวะ
“แหะๆ พอดีพวกกูโดนล่อลวงมาน่ะ” ไอ้แบคทำเสียงน่าสงสารตอบกลับมา แต่ข้อแก้ตัวมึงนี่...
“หะ...”
“จุ๊ๆๆๆ อย่าเพิ่งด่ากู๊ววว คือ...เดี๋ยวจะมีคนไปรับมึง มึงออกมายืนรอหน้าคณะนะ”
“ใครวะ?” ผมถามอย่างสงสัย แม่งจะส่งใครมารับ น้ำหน้าอย่างพวกมันไม่มีใครสละตัวมารับผมหรอก
“ตามนั้นนะ แค่นี้ก่อนนะมึง เดินทางดีๆนะ จุ๊บๆ”
“แบค ไอ้แบค!” ไม่ทันได้ถามอะไรมันต่อ มันก็ชิงตัดสายไปซะก่อน “ไอ้เพื่อนเวร แล้วใครจะมารับกูวะเนี่ย” ผมสบถย่างหัวเสีย ก่อนจะมีเสียงใครบางคนดังมาจากข้างหลัง
“กูเอง” น้ำเสียงเนือยๆคุ้นหู...
ผมหันไปมองที่มาของเสียง อ้าปากเตรียมเหวี่ยงถ้าโดนเพื่อนในคณะมาเกรียนใส่ แต่พอเห็นหน้าคนพูดเมื่อกี้ทั้นแหละ ไอ้ปากที่อ้าก็พลันหุบฉับ เอ่ยเรียกชื่อคนตรงหน้าตะกุตะกัก “พะ...พี่คริส”
“จะไปได้รึยัง?” พี่คริสถามหน้าบึ้ง อื้อหือ ใครบังคับพี่มันมารับผมวะเนี่ย
“ไปเดี๋ยวนี้ๆเลยพี่ ไปๆ” ผมกระชับกระเป๋าที่สะพายอยู่ก่อนจะเดินไปดึงมือคนหน้าบึ้งเดินไปที่รถหรูที่มาจอดหน้าคณะผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“เดี๋ยว” ไอ้พี่คริสยื้อตัวไว้ จนผมต้องหันไปมอง พี่มันทำหน้าบึ้งขมวดคิ้วมองหน้าผมสลับกับมองมือผมที่จับแขนมันอยู่ คือมันจะสื่ออะไร?
“อะไรพี่?”ผมเอ่ยถาม พร้อมมองตามที่พี่มันมอง
“ฉวยโอกาส...” ไอ้พี่คริสตอบเสียงเบา
“ห๊ะ?” พี่มันงึมงำอะไรวะ?
“มึงจับตัวกู...” มันบอกเสียงเข้ม
“อาฮะ แล้ว..?” ผมถามมันกลับเบาๆ ยังคงไม่เข้าใจว่ามันต้องการสื่ออะไร
“ฉวยโอกาส...” ปากบางของพี่มันพึมพำบอกเสียงเบา พร้อมยู่ปากอย่างน่ารักน่าชัง(?)
อ้อ ที่แท้ก็จะบอกว่าผมฉวยโอกาส...กับมัน แต่เดี๋ยวนะ... “ห๊ะ?!”
เอ่อ... ไอ้ยอลอยากจะเงิบหงายหลังลงไปนอนวัดพื้นซะเดี๋ยวนี้ แค่จับแขนมันมันหาว่าฉวยโอกาสว่ะครับ แถมยังทำท่าทางราวกับสาวน้อยอีก เป็นลมตอนนี้ได้มั้ยครับ?
“เอ่อ คือ...ขอโทษทีพี่” ผมยอมปล่อยแขนพี่มันแล้วพยักเพยิดพี่ท่านให้เดินนำหน้าไปก่อน ไอ้พี่คริส มองหน้าผมนิดหนึ่ง ก่อนจะสะบัดหน้าแล้วเดินนำไป ส่วนผมก็ถอนหายใจเบาๆแล้วจึงก้าวเดินตามพี่มันไป
ใช้เวลาไม่นานสารถีหน้าหล่อก็พาผมมาถึงที่หมาย ห้างใกล้ๆนี่ล่ะ แถมพอจอดรถเสร็จ พี่ท่านก็จ้ำอ้าวเดินลิ่วๆแบบไม่สนใจคนเดินตามเลยสักนิด โชคดีที่ผมขายาวเลยเดินตามทัน เสียงพูดคุยของคนกลุ่มใหญ่ดังเข้ามาในโสตประสาททันที่ที่เท้าผมก้าวเข้าในร้านอาหารร้านหนึ่ง เสียงคุ้นๆเหมือนที่จ้อกแจ้กข้างหูผมอยู่ทุกวัน
“วู้ววว ไอ้ยอลมาแล้วเว้ยยย” ผมขมวดคิ้วกับเสียงแหลมสูงของไอ้แบค ก็พอเข้าใจที่มึงดีใจที่เห็นกูนะแบค แต่มึงช่วยเกรงใจและอายคนในร้านบ้างก็ดี
“มาๆ นั่งๆเลยมึง” ไอ้ไคเชื้อเชิญให้ผมนั่งพร้อมปัดพื้นที่ข้างๆอย่างเอาใจ ผมทรุดตัวนั่งข้างมันตามคำเชิญ โดยมีไอ้พี่คริสนั่งลงข้างๆอีกที พอได้สังเกตดีๆถึงได้รู้ว่านอกจากฝูงลิงเพื่อนผมแล้ว ยังมีพี่ๆกลุ่มพี่คริสนั่งอยู่ด้วย นี่ไปรู้จักกันตอนไหนวะ?
“ทำไมพวกพี่มากับพวกมันได้” ผมส่งคำถามให้คนที่น่าจะให้คำตอบได้ดีที่สุด ซึ่งเจ้าตัวก็ยิ้มใจดีมาให้ก่อนจะเอ่ยบอก
“พี่ไปรับมาเอง” พูดเสร็จก็ยิ้ม ปล่อยให้ผมรอว่าเขาจะพูดอะไรต่อรึเปล่า แต่ก็ไม่...
อืม.. เป็นคำตอบที่กระจ่างมาก ผมคงคาดหวังกับพี่เกินไป พี่เลย์..
“ชานยอลหิวรึยัง วันนี้กินเต็มที่เลย ไอ้คริสเลี้ยง” พี่เทาคนเฟรนลี่รีบประชาสัมพันธ์ทันที พี่คริสมันจะเลี้ยงจริงๆหรือพี่แกล้งเค้าเนี่ย
“หูยยย ทั้งหล่อทั้งป๋า ไอ้ยอลมึงนี่ตาถึงจริงๆว่ะ” ไอ้แบคชื่นชมทำท่าเพ้อ หืมม กูขอถีบสักทีได้มั้ยวะ
“เพื่อนผมๆ” ไอ้ไคยืนตบอกยิ้มอย่างภูมิใจ กวนตีนไม่มีใครเกิน....
“หึ” เสียงหัวเราะ(?)ในลำคอของคนข้างตัวแว่วเข้าหูจนผมต้องหันมอง
พี่คริสมันขำ?
“มีอะไร?” สงสัยผมจะมองหน้ามันนานไปหน่อย จนเจ้าตัวหันมาถามเสียงเข้ม ผมสั่นหัวดิ๊ก ก่อนจะยิ้มประจบ
“ไม่มี๊” ย้ำด้วยคำพูดอีกครั้ง
“มึงมี...” อูยยย เสียงเข้ม... แต่ผมไม่กลัวพี่แล้วเว้ย ฮ่าๆๆ
“ไม่มีจริงๆพี่” ย้ำอีกครั้งพร้อมยิ้มหล่อ(?)ให้พี่มัน
“มึงด่ากูในใจ” คนหล่อเหลือบมองผมด้วยหางตา แต่เดี๋ยว เข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้วเฮ้ยยย
“เฮ้ย เปล่าๆๆๆ”
“แล้วมองหน้ากูทำไม?”
“ผมแค่คิดว่า... พี่ยิ้มแล้วโคตรดูดี” ผมทำหน้าจริงจังให้พี่มันรู้ว่าผมพูดจริง ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆด้วยเลยอ่ะ
“...” พี่มันจ้องหน้าผมนิ่ง ก่อนจะดันหน้าผมออก ส่วนเจ้าตัวก็หันหน้าหนี แล้วโยนเล่มเมนูอาหารลงตรงหน้าผม “จะกินอะไรก็สั่งๆเอา อย่าพูดมาก”
ดูไว้นะครับ นี่คืออาการเขินของคนแมน ฮ่าๆๆๆๆ
ผมยิ้มกับตัวเอง แต่พอหันไปมองหน้าเพื่อนตัวเองก็แทบหุบยิ้มไม่ทัน
“อะไร?” ผมแกล้งทำเสียงเข้มหน้าขรึมถามพวกเพื่อนตัวดี
“ผมแค่คิดว่า พี่ยิ้มแล้วโคตรดูดีเลย ~” ไอ้ไคทำท่าจับมือกับมือกับพี่เทา ดัดเสียงทุ้มจนหน้าถีบ บังอาจล้อเลียนนะไอ้ดำ
“หึ่ยยย บ้า” ไอ้พี่เทาก็รับมุก ทำท่าสะดีดสะดิ้งฟาดแขนไอ้ไค
ยิ่งมองยิ่งสงสัย ทำไมเพื่อนผมกับเพื่อนพี่คริสมันสนิทกันเร็วจังวะ?
พรึ่บ!
อยู่ๆไอ้พี่คริสก็ดึงเมนูออกไปจากมือผม “อ้าว ผมยังไม่ได้สั่งเลยนะพี่”
“กูสั่งให้แล้ว ลีลาอยู่ได้” พี่มันว่างั้นผมเลยไม่เถียง จะมันสั่งผมสั่ง ผมก็กินได้ทั้งนั้น ผมเลี้ยงง่ายจะตาย ฮ่าๆๆๆ
“แล้วจะไปไหนกันต่อ?” พี่ซูโฮส่งเสียงออกมาคนแรกหลังจากที่ทุกคนตั้งหน้าตั้งตาจัดการอาหารบนโต๊ะ
“ผมว่าจะไปดูหนังกันต่ออ่ะพี่”
“อืม ดูเรื่องอะไรดีล่ะ ชานยอลอยากดูเรื่องอะไร?”
ทำไมผมรู้สึกทุกคนเอาใจผมแปลกๆวะ?
“เอ่อ ผมคงไม่ได้ดูด้วยอ่ะพี่ พอดีต้องกลับไปทำงาน”
“มึงยังไม่ลาออกอีกหรอ?” พี่คริสถาม คิ้วหนาๆขมวดเป็นปม
“ไอ้คริส!” พี่เลย์กัดฟันเรียกชื่อพี่คริส ดุมันทำไมครับพี่ คำถามแบบนี้ไม่สะเทือนผมหรอก ฮ่าๆ
“ลาออกผมจะเอาอะไรกินล่ะพี่” จริงๆนะ ถึงจะมีเงินที่พี่เลย์จ้างจีบพี่คริสก็เหอะ แต่ผมตั้งใจจะเก็บเป็นเงินค่าบ้านมากกว่า ส่วนค่ากินค่าใช้ก็ยังต้องทำงานต่อไปล่ะนะ
“จิ๊” ไอ้พี่คริสจิ๊ปากขัดใจ มันคงจะหมั่นไส้ผม คนหล่อแถมขยันก็งี้ ฮ่าๆ
“แต่พี่ไม่ต้องห่วง ถึงผมจะต้องทำงาน แต่ผมมีเวลามาจีบพี่แน่นอน” ผมแกล้งทำหน้าจริงจังพูดกับพี่คริสพร้อมมองตามันไปด้วย พี่มันหรี่ตามองผมก่อนจะหันหน้าหนี แล้วมันก็พึมพำอะไรบางอย่างแต่ไม่หันมามองหน้าผม
“มันก็ต้องอย่างนั้นอยู่แล้ว…”
“ห๊ะ?” ผมอุทานเบาๆ เมื่อกี้พี่มันพูดว่าอะไรวะ?
“แล้วใครจะไปส่งชานยอลล่ะ” พี่ลู่หานคนสวย เอ้ย คนแมนเอ่ยถามขึ้นกลางวง โหย พี่เค้ายังมีกระจิตกระใจถามหาคนไปส่งผมด้วย (ทั้งๆที่ยังไม่เคยพูดกับกูสักคำ)
“ไม่เป็นไรพี่ เดี๋ยวผมไปเองได้ พวกพี่ไปต่อกันเหอะ”
“เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง มีเรื่องจะคุยกับเราพอดี” พี่เลย์อาสา ประโยคหลังนี่จงใจเน้นชัดเจนเลย
“ครับ...” ตามนั้นครับ แล้วผมก็เดินตามหลังพี่เขามาอย่างง่ายดาย
“งานไปถึงไหนแล้วครับ” ระหว่างที่ขับรถอยู่ พี่เลย์ก็เอ่ยถาม งานที่ว่า คงหมายถึงเรื่องพี่คริส
“ยังไม่ถึงไหนเลยพี่ เอ่อ ขอโทษนะครับ”
“ไม่เป็นไร ถ้าเปลี่ยนใจก็บอกพี่ได้นะ”
“เฮ้ย ไม่นะพี่ ผมแค่.. ยังไม่รู้จะเริ่มยังไง ไม่ได้ลำบากใจอะไรนะ”
พี่เลย์หันมามองหน้าผมก่อนจะยกยิ้มเล็กน้อย
“งั้นหรอ ไอ้คริสเป็นไงบ้างล่ะ”
“พี่คริส... ก็ไม่ได้แย่อะไรนะครับ”
พี่เลย์หันมามองหน้าผมประมาณว่า พูดใหม่สิ อ้าวเห้ ผมพูดอะไรผิดวะ
“เอ่อ ผมหมายถึง เขาก็ไม่ได้ตั้งท่ารังเกียจอะไร ดูพี่เขาจะเฉยๆด้วยซ้ำเวลาโดนผมจีบ” พูดจบก็หันไปมองคนข้างๆที่พยักหน้าราวกับบอกว่า พูดต่อสิ “จะว่าไปพี่คริสก็น่ารักดี ปากร้ายไปหน่อย แต่ก็ใจดี...”
“งั้นก็เป็นสัญญาณที่ดี พี่คงไม่กดดันอะไรเราหรอก แต่ก็อยากให้คืบหน้าเร็วๆหน่อย ก่อนความลับจะแตก”
ไม่กดดันเลยครับแหม่...
“ครับ”
วันนี้ลูกค้าน้อย เฮียก็ใช้งานผมน้อยเกินไปอีกต่างหาก ตอนนี้ผมมานั่งหาวอยู่หลังร้าน เพราะเฮียแกบอกว่า “เดี๋ยวมีอะไรข้าเรียกเอง เอ็งไปกินข้าวกินปลานั่งพักซะไป”
ผมเลยระเห็จมาอยู่ตรงนี้นี่เอง...
“เฮ้อออ....” ไอ้ไม่ต้องทำงานมันก็ดี แต่มานั่งกร่อยแบบนี้ก็น่าเบื่อ เล่นเกมโทรศัพท์จนไม่รู้จะเล่นอะไรแล้ว นั่งคุยกับหมาหมามันยังเดินหนีเลย...
หรือจะคุยกับคนดี?
“โทรมาทำไม” รับปุ๊บเสียงดุใส่เลยเว้ย เสียงรอบตัวพี่มันดังมาก สงสัยจะอยู่ที่คนเยอะ
“ผมคิดถึงพี่ไง” ผมตอบกลับไป ไม่แน่ใจว่าเป็นคำหวานหรืออยากกวนตีนปลายสายกันแน่
“...” คนฟังเงียบไปสักพัก ก่อนเสียงจ้อกแจ้กจอแจเมื่อครู่จะค่อยๆเบาลงด้วย พี่มันกำลังเดินไปไหนรึเปล่าวะ?
“เฮ้ยพี่ โกรธผมป่ะเนี่ย” ผมท้วงเมื่อเห็นปลายสายเงียบนานเกินไป
“ตกลงโทรมาทำไม?”
“ก็คิดถึง ไม่รู้ว่าถึงมั้ย เลยโทรมาหา ถ้าคิดถึงไม่ถึง จะได้คิดถึงอีก” ผมแกล้งพูดเสียงกระเง้ากระงอด ซ้ำคำจนผมยังงงเอง
“มึงพูดเหี้ยอะไรเนี่ย!” พี่มันโวยเสียงดัง ไม่งงก็เขินล่ะวะ
“ฮ่าๆๆๆๆ”
“มึงตั้งใจโทรมากวนตีนกูใช่มั้ย?” หูยยย เสียงเข้มอีกแล้ว
“ก็ส่วนหนึ่ง กวนพี่แล้วสนุกดี”
“งั้นกูวาง”
“เฮ้ยๆๆๆ อย่านะพี่ ผมขอโท้ดดดดดดดดดดดด”
“หึ” แม่งหัวเราะเยาะผมอยู่แน่
“ผมเหงาว่ะพี่ เฮียแม่งไม่ให้ผมทำอะไรเลย”
“ก็ดีแล้วไง” ตอบสั้นกลับมาตามสไตล์
“ไม่ดีเว้ย มันเบื่ออ่ะ นั่งจ้องถังขยะหลังร้านจนมันจะท้องแล้วเนี่ย” ผมบ่นไปเรื่อย
“หึ มึงอยากซะจนจะเอาถังขยะเป็นเมียเลยหรอ?” พี่มันเล่นกูแล้วไง
“พี่ก็กวนตีนเหอะ” ผมบ่นเสียงเบา แต่ไม่วายปลายสายเสือกได้ยิน
“งั้นกูวาง”
“ไม่ๆๆๆ โหยไรวะ ว่าอะไรไม่ได้เลยแม่ง”
“มึงไม่มีสิทธิ์ตั้งแต่โทรมาหากูแล้ว”
“ไม่รู้ไม่ชี้ ผมมีเบอร์พี่ ผมโทรได้” ผมหน้าด้านซะอย่างอ่ะ ฮ่าๆๆๆ
“ประสาท”
“ด่าเค้างี้ รักเค้าแล้วอ่ะดี๊”
“กูวาง...”
“ขู่จ๊างงงงง”
“แดกตีนมั้ย?”
“ไม่ครับไม่ วันนี้พี่ไปกินที่ไหน?”
“รู้ไปทำไม?”
“ถามไปงั้นแหละ แต่พี่น่าจะมากินร้านผมนะ อุดหนุนผมหน่อย เผื่อเงินเดือนผมจะขึ้น ฮ่าๆๆ”
“หึ ไม่ล่ะ เดี๋ยวกูอดใจไม่ไหว”
“อดใจรักเค้าไม่ได้ใช่ป่ะ” ผมแกล้งทำเสียงแบ๊ว อย่าอยากได้ยินเลยครับ มันไม่น่าฟังหรอก ผมกวนพี่มันเฉยๆ ฮ่าๆ
“อดใจกระทืบมึงไม่ได้”
“โหดไปนะพี่.... จริงจังนะ มาเหอะนะ นะๆๆ”
“...”
“กับแกล้มที่นี่อร่อยนะเว้ย”
“...”
“นะพี่...”
ตรู๊ดดดดดดดดดดดดดดด
อ้าวเชี่ย วางสายเฉยเลย นี่พี่มันรำคาญผมรึเปล่าวะ?
แต่ต่อปากต่อคำกับพี่มันสนุกดี ฮ่าๆๆๆ กูบ้าแล้วครับ นั่งยิ้มคนเดียวเนี่ย ว่าแต่ผมจะทำอะไรต่อดี ปล้ำถังขยะดีมั้ย? ไม่ดีหรอกหรอ ผมว่าก็โอเคนะ ถังสีชมพูหวานเชียว น่ารักน่าชัง...
คิดไม่ออก งั้นผมงีบดีกว่า... zzZZ
“ชานยอล....ยอล...ไอ้ยอล...ไอ้ยอลโว้ยยยย”
“เฮ้ยเฮีย ตกใจหมด มีอะไรครับ” ผมหันไปหาเฮียสุดที่รักที่มายืนหน้ายักษ์อยู่ข้างคนหล่อ(?)
“ไปทำงานสิวะ รับออเดอร์โต๊ะสิบ ดูแลแขกดีๆด้วย วันนี้มึงต้องนั่งดริ๊ง”
หื้มมม อะไรซิ? ใครนั่งดริ๊งนะ?
-----------------------------------------
ไม่ได้ตาฝาดดด เราอัพจริงๆ ฮ่าๆๆๆ
ความคิดเห็น