:The wacky Bodyguard: :ศึกแด่เหล่าเทพจำแลงตน: - นิยาย :The wacky Bodyguard: :ศึกแด่เหล่าเทพจำแลงตน: : Dek-D.com - Writer
×

    :The wacky Bodyguard: :ศึกแด่เหล่าเทพจำแลงตน:

    เป็นเรื่องราวของเหล่า องครักษ์ทั้ง 2 ที่ต้องเจอกับอุปสรรคมากมายในหลายรูปแบบ แนวเรื่องเป็นแฟนตาซี ได้รับแรงบันดาลใจจากนักเขียนคนอื่นๆ ฉะนั้นขอฝากผลงานนี้ไว้ด้วยนะคะ หวังว่าจะได้ตีพิมพ์ในเร็ววัน

    ผู้เข้าชมรวม

    1,206

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    1.2K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  4 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  18 เม.ย. 55 / 18:33 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    :The wacky bodyguard:

    :ศึกด่หล่าเทพจำลง:

    ผู้แต่ง//:MOCASKINI

     ...

     


    :ความรู้สึกของผู้แต่ง:

         ก็......เป็นนิยายเรื่องแรกเลยที่แต่งขึ้น  เนื่องจากมีแรงบันดาลใจอย่างหนึ่ง  ทำให้เกิดอาการอยากแต่งอะไรให้เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมากับเค้าบ้าง   ก็เลยลองแต่งนิยายแนว แฟนตาซี ดู เนื่องจากเป็นเรื่องแรกจึงไม่รู้ว่าจะออกมาดีหรือป่าว ก็..จะพยายามเขียนให้มันเป็นเรื่องเป็นราวแล้วก็ให้เข้าใจง่ายที่สุด (พอที่จะทำได้) .XD

     


     

    [บทนำ]

    :ความเชื่อ:

         ดินแดนสวรรค์ บนดิน แห่งนี้ มีนามว่า ดินแดนแห่งอนาจักรคาทัน เป็นอานาจักรที่มีเรื่องเล่าสืบทอดต่อๆกันมา หลายยุค หลายสมัย ว่า

         ในดินแดนแห่งนี้ ในรอบ 1,000 ปี จะมีทวยเทพแห่งแสงสว่าง และ ทวยเทพแห่งความมืด มาเยี่ยมเยียน เพื่อมาทำให้คำอธิฐานของเหล่าผู้คนที่ศรัทธาในเทพเจ้าต่างๆนา นา เป็นจริง ซึ่งใครที่อธิฐานในสิ่งที่ดี ทวยเทพแห่งแสงก็จะมาโปรดผู้คนเหล่านั้น ส่วนใครที่อธิฐานในสิ่งที่ชั่วร้าย ทวยเทพแห่งความมืดก็จะลงมาโปรดผู้คนเหล่านั้น โดยมีข้อแรกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อ กับคำอธิฐานที่ผู้คนขอไป บางคนถึงกับขอให้ตนได้เป็นราชาแห่งอนาจักรคาทัน แต่สิ่งที่แลกเปลี่ยนของเหล่านั้นก็ต่างกัน ไม่ว่าจะถวายชีวิต มอบดวงวิญญาณให้ ซึ่งส่วนใหญ่คนที่ขอเรื่องในแนวที่ตนไม่สามารถทำได้ไม่ว่าจะกี่ปี กี่ชาติ ก็ไม่สามารถทำได้ ก็จะพบกับจุดจบของตนเองในอีกไม่ช้าทั้งนั้น 

         เรื่องเล่าที่ เล่าต่อๆกันมานี้มีหลายคนที่เชื่อแล้วก็ไม่เชื่อคละเคล้ากันไป ที่สำคัญในดินแดนแห่งนี้มีผู้คนอาศัยอยู่มากจนถึงมากของมาก มีคนต่างเผ่าพันธุ์ก็เยอะ ไม่ว่าะ เผ่ามนุษย์  เผ่าเอลฟ์  เผ่าปีศาจ  เผ่าวิญญาณ  เผ่าเทพ หรือแม้กระทั่ง เผ่ามังกรที่ใกล้สูญพันธุ์  แถมในดินแดนนี้นอกจากเรื่องเผ่าพันธุ์ที่มากโขก็ยังแบ่งตามลักษณะธาตุอีก ทั้ง ธาตุมืด ธาตุแสง แล้วก็พวกไร้ธาตุ

         เนื่องจากมีคนต่างหลายสายพันธุ์แล้ว แต่ทำไมถึงได้อยู่ร่วมกันได้ด้วยไม่เกิดการทะเลาะวิวาทขึ้นเลย คำถามนี้คงผุดคิดขึ้นมาในสมองของพวกที่ยังไม่รู้ความจริง และเหตุผลก็คือ องค์ราชินี ของอนาจักรนี้ เป็นเผ่าเลือดผสมนั่นเอง  แถมยังเป็นการผสมระหว่างเผ่าปีศาจ + เผ่าวิญญาณอีก

         ทำให้ไม่มีใครกล้าพอที่จะลองดีกับนางเลยแม้แต่ องครักษ์ที่อยู่ข้างกายยังไม่เคยมีใครกล้าขัดคำสั่งนางเลย แล้วจะประสาอะไรกับเหล่าผู้คนธรรมดากัน

         นอกจากจะมี  องค์ราชินี  ที่น่าเกรงขามแล้ว ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ก็มิใช่น้อยๆ จึงจำเป็นต้องมีคนคอยคุมผู้คนเหล่านั้น ให้เป็นระบบระเบียบ ในอานาจักรนี้มีการตั้งกลุ่มคอยดูแลอยู่แล้ว ซึ่งก็คือ   กลุ่มคน คาทันเนีย เป็นกลุ่มที่คอยดูแลรักษากฎระเบียบ รวมไปถึงการจัดงานเทศาลต่างๆของ  อานาจักร พูดง่ายๆคือ เป็นกลุ่มคนที่ดูแลทุกซอกทุกมุมของอนาจักรให้เกิดความเรียบร้อยเสมอ ในตอนนี้เพิ่งจะมีแค่ 8 คน

     

    [บทที่ 1]

    :องครักษ์ทั้ง 2:

         ข้า คือ 1 ใน 2 ขององครักษ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอานาจักรคาทัน มีนามว่า องครักษ์ดำ ลุกวิส คาลร์  ส่วนอีกคนคือ องครักษ์ขาว อาร์ดี้ ลาสเตอร์ เป็นคนที่ เย่อหยิ่ง จะบอกว่า หยิ่ง ก็คงไม่เชิง คงต้องบอกว่าเป็นคนที่หน้าตาดูเย็นชา ไม่ค่อยพูดมากกว่า ตั้งแต่ที่ข้าสมัครเป็นองครักษ์ดำนี่ก็นานมากแล้ว เนื่องจาก ข้าเป็นเผ่าปีศาจมืด ข้าจึงมีอายุยืนยาวมากกว่าเผ่าอื่นๆ ส่วนองครักษ์ขาว เป็นพวกเผ่าเทพบริสุทธิ์  ทำให้มีอายุยืนยาวเหมือนกัน แต่อยากจะบอกว่า ข้าดันมีอายุน้อยกว่าเจ้านั่นตั้ง 100 ปี      

         ตอนนี้อายุของข้าก็ปาเข้าไป 180 ปีแล้ว เจ้านั่นก็คงอายุสัก 289 ปีแล้วมั้ง พอข้านึกถึงเรื่องนี้ มันก็ทำให้ข้าหมดความภาคภูมิใจในคนที่อายุมากกว่า เดิมเผ่าปีศาจ เผ่าเทพ หรือ เผ่ามังกร ถ้าอายุมากนั่นแสดงถึงความแข็งแกร่ง ในกรณีของทั้ง 3 เผ่านี้ ถ้าอายุครบ 300 ปี นั่นแสดงถึงความเป็นผู้ใหญ่  ช่างเหนื่อยใจจริงๆนั่นแหล่ะ ข้ายังขาดอีกตั้ง 120 ปีข้าต้องพยายามอยู่จนถึงตอนนั้นให้ได้

         นี่!! องครักษ์ดำ องค์ราชินี เชอริล โวลซิส เรียกเจ้า เสียงที่พูดแทรกขึ้นมา มันทำให้ข้าเริ่มรู้สึกหงุดหงิด เสียงที่คุ้นหูฟังจนน่าเบื่อ  น่ารำคาญ เสียงของ องครักษ์ขาว  อาร์ดี้ ลาสเตอร์  นั่นเอง ถึงไม่ต้องหันไปดูหน้าว่าใครเป็นคนพูดแต่เสียงแบบนี้คงมีเจ้าหมอนี่คนเดียวแน่

         อะไรของเจ้า!! ข้ากำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่แท้ๆอย่ามาพูดแทรกสิ!! ข้าหันไปตะคอกใส่เขาทันที ด้วยความโกรธ + หงุดหงิด  แต่ข้า!!...พอเห็นใบหน้าขององครักษ์ขาวทีไร ข้าก็ต้องชะงักทุกที พูดตรงๆ ข้าไม่ค่อยกล้าสู้หน้าเจ้าหมอนี่เท่าไหร่เลย เห็นแล้วใจมันก็เริ่มเต้นเร็วทุกที น่ารำคาญจริงๆ

         ข้าไม่รู้ องครักษ์ขาวตอบทันควัน เสียงที่ทุ้มต่ำนิดหน่อย ทำให้ไม่ค่อยมีใครเชื่อว่า องครักษ์ขาว  อาร์ดี้ ลาสเตอร์  คนนี้ เป็นผู้ชาย ถึงจะไม่เคยมีใครพิสูจน์ก็ตาม แต่เจ้าตัวก็ประกาศตอนที่ได้รับตำแหน่งเป็นองครักษ์ขาว แล้วว่า ตนเองเป็นผู้ชาย

         ข้าเผลอคิดอะไรต่อมิอะไรอยู่นานพอดู นั่นทำให้องครักษ์ขาวเริ่มไม่พอใจกับการที่ข้ายืนคิดอยู่นาน  ข้าที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ถูกองครักษ์ขาวลากตัวไปที่ห้องของ องค์ราชินี เชอริล โวลซิส เสียแล้ว

     

    !!ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก!!

      #160;  ท่านเชอริล โวลซิส ข้านำตัวองครักษ์ดำมาแล้วขอรับ

         เข้ามา

         เมื่อข้ากับอาร์ดี้เข้าไปในห้องสิ่งที่ต้องทำเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นใคร ก็คือ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่                                                                                                                                  เมื่ออยู่ต่อหน้า องค์ราชินี ในรัศมี 4 เมตร ต้องนั่งคุกเข่าเพื่อเป็นการแสดงความเคารพเท่านั้น ข้าเคยคิดในใจนะว่า ทำไมต้องตั้งให้อยู่ในรัศมี 4 เมตร ตั้งไปก็คงไม่มีใครเอาไม้บรรทัดมาวางวัดเวลาจะนั่งคุกเข่าหรอก แต่ใน วังหลวง ของอนาจักรนี้มีกฎมากมายซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในบรรดากฎทั้งหมดเหมือนกัน

         มีอะไรงั้นเหรอ เชอริ!!!! อาร์ดี้สะกิดข้าจนข้าเกือบล้ม จะเรียกว่าสะกิดดีไหมเนี่ยเหมือนผลักข้ามากกว่าสะกิดอีกนะ ทำไมกันเล่า!! ข้าอายุมากกว่า เชอริล อีกนะ ถึงองค์ราชินีของที่นี่จะดูเหมือนเป็นคนที่ดูอายุมาก เพราะต้องวางมาดราชินีตลอด แต่ความจริงนางเพิ่งจะอายุ  162 ปีเท่านั้น

         ขะ ขออภัยขอรับ แล้วท่านมีอะไรหรือเปล่าครับ องค์ราชินี (ผู้น่ารัก)?

         เจ้าแอบเติม วงเล็บผู้น่ารัก ให้ข้างั้นรึ? เชอริลถามข้าอย่างไม่พอใจ แต่นางก็ดูท่าจะไม่พูดอะไรต่อให้มากความ นางจึงเอ่ยต่อ

         ช่างเถอะ ข้ามีงานให้พวกเจ้าทำ เมื่อนางพูดจบ ข้าก็อ้าปากค้าง แต่ไม่มีเสียงออกมา ส่วนอาร์ดี้เป็นคนที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ทำ หน้าตาย อยู่เสมอจึงไม่แสดงกริยาท่าทางออกมาให้เห็น

         อาร์ดี้เป็นคนที่ตรงเวลาเสมอ และก็ จงรักภักดีต่อ อนาจักร คาทัน มาก ฉะนั้นไม่ว่าเมื่อไหร่ ถ้ามีงานมาให้เจ้านี่ทำละก็ ถึงแม้มันจะกำหนดให้เสร็จภายในวันเดียวก็ตาม อาร์ดี้ก็จะตรงต่อเวลาโดยไม่เคยพลาด

         ข้าโวยวายเสียงดัง  เอ๋!! มีงานให้ทำงั้นเหรอครับ งานอีกแล้วเหรอ

         นางเค้นหึ ก็ใช่น่ะสิ!! งานนี้พวกเจ้า 2 คนต้องไปช่วยกันทำด้วย เชอริลชี้หน้าข้ากับอาร์ดี้ แล้วเอ่ยอย่างไม่พอใจออกมา

         งานนี้ยังหนักไปสำหรับพวกระดับ A ฉะนั้นข้าจึงส่งพวกเจ้าที่เป็น ลาพาร์เทรน ไปไงล่ะ 

         หา!! หนักกว่าระดับ A อีกเหรอแล้วทำไมเจ้าไม่หางานที่มันเบาๆให้พวกข้าทำบ้างล่ะ

    ....เปรี้ยง....!!!!

         ...

         ต้องขออภัยด้วยครับ ที่องครักษ์ดำเสียมารยาทกับท่าน อาร์ดี้ตบหัวข้าจนหน้าข้าคะมำไปถูกับพื้นทันทีที่พูดจบ แถมหัวข้าก็ดันปูดขึ้นเหมือนผลส้ม หรือ บางที่อาจใหญ่กว่าผลส้มด้วยซ้ำ ข้าทำได้แค่พยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้นเท่านั้นแต่อาร์ดี้ก็......!!!

        ...ตุบ!!

         แต่อาร์ดี้ก็ใช้มือกดหัวข้าให้หน้าข้าลงไปถูกับพื้นอีกครั้ง  อั่ก!!...อึก!!แรงของเจ้านี่ยังมีมากกว่าคนที่ฟิดกล้ามมา 5 คน ไม่สิอาจจะมากกว่า 10 คนมานั่งทับหัวข้าซะอีก ข้าแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว แต่ดูท่าอาร์ดี้จะไม่ยอมละมือออกจากหัวข้าซักที

        ท่านเชอริล!! เรื่องงานที่ให้พวกผมที่เป็น ลาพาร์เทรน ไปทำนี่คืออะไรงั้นหรือครับ

        อ๋อ..!! ข้าจะให้พวกเจ้าไปสืบเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นใน อานาจักรดันเคนร์ ที่อยู่ข้างๆอานาจักรของเราหน่อยน่ะเห็นมีข่าวลือแปลกๆ ว่า ในอานาจักรดันเคนร์ มีผู้คนล้มตายโดยไร้สาเหตุมาหลายรายแล้ว จนถึงตอนนี้ในอานาจักรนั้นก็ยังไม่ทราบสาเหตุของเหตุการณ์คราวนี้เลย พวกเค้าจึงขอความช่วยเหลือจากอนาจักรคาทันของเราให้ไปช่วยสืบหาเบาะแสของเหตุการณ์คราวนี้น่ะ แถมยังเป็นการขอร้องโดยตรงให้ช่วยส่งคนที่เป็น ลาพาร์เทรน ไปอีกด้วย ในคาทันก็มีแค่พวกเจ้าเท่านั้นแหล่ะที่เป็น ลาพาร์เทรน ผู้ที่มีพลังเทียบเท่าองค์มหาเทพ และ เป็นผู้ที่ครอบครองพลังส่วนหนึ่งของเทพเจ้าแห่งสรวงสวรรค์ และ พลังส่วนหนึ่งของเทพเจ้าแห่งยมโลก เชอริลตอบคำถามของอาร์ดี้อย่างยาว พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ไปพลางๆของงานที่พวกข้าจะต้องไปทำในครั้งนี้ แต่ระหว่างที่เชอริลกำลังสาธยายเนื้อเรื่องอันยาวนานของนาง มันก็จะทำให้ข้าเริ่มตายในที่สุด เนื่องจากระหว่างที่ข้าฟังการสาธยายของนางมือของอาร์ดี้ก็ยังไม่ละจากหัวของข้าซักที บางทีข้าก็รู้สึกว่ามือของเจ้านี่เริ่มกดหัวข้าหนักขึ้นจนตอนนี้ข้าคิดว่า 'คงมีคนมานั่งทับหัวข้าสัก 50 คนแล้วมั้ง 

    _____________________________________________________________

    สวัสดีคร๊า เราลองแต่งดูเป็นนิยายเรื่องยาวเรื่องแรกเลย (ปกติแต่ง fic Y) อุ๊ย...ไม่มีอะไรหรอกนะแค่ fic น่ะจ๊ ยังไงก็ขอขอบคุณและขอฝากตัวด้วยนะคะ 
    .....MoCAskiNI 

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น