ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~*++*~*+ [My] [LiFe] +*~*++*~

    ลำดับตอนที่ #1 : * 1 * เริ่มเรื่องสบายๆ ฟังบรรยายบ้าๆ จากคนอย่างฉัน

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 49


              วันนี้เป็นวันเปิดคอร์สเรียนพิเศษอันแสนจะน่าเบื่อหน่าย  ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะกัดกินพลังชีวิตของฉันในช่วงปิดเทอมอันแสนจะร้อนบรรลัยเช่นนี้  การที่ฉันจะต้องตื่นเช้าเพื่อแบกสังขารตัวเองเข้าไปนั่งเรียนรวมกับนักเรียนคนอื่นๆที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน  มันไม่ใช่เรื่องที่จะกระตุ้นต่อมความสนใจของฉันได้เลยแม้แต่น้อย!!
             

               แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ตาม  ฉันก็ต้องพยายามงัดตัวเองขึ้นมาจากเตียงนอนนุ่มสบาย  ในห้องนอนที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำไว้ทั้งคืน  สลัดผ้าห่มทิ้งไว้  (ด้วยความซกมกส่วนตัว)  แล้วก็ไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปเรียน   


               ขณะนี้เป็นเวลา  9 โมงครึ่ง  และฉันก็ยังนั่งกินอาหารมื้อแรกของวันไปเรื่อยๆอย่างสบายอารมณ์  ทั้งๆที่เวลาเริ่มเรียนนั้นก็คือ 10.15   ถ้าเป็นสมัยก่อน  ฉันคงกำลังกระหืดกระหอบขึ้นรถบุกบั่นไปเรียนแล้วล่ะ  


               แต่ตอนนี้ ฉันกำลังจะขึ้นชั้น ม.5   เชื้อความขี้เกียจที่เริ่มบ่มเพาะในตัวฉันมันเพิ่มขึ้นตามอัตราความกระตือรือร้นในการเรียนของฉันที่ลดต่ำลงไปด้วย  แตกต่างกับสมัยที่เรียน ม.ต้น อย่างสิ้นเชิง


              แต่ก็ช่วยไม่ได้อยู่ดี  ที่ผลการเรียนของฉันไม่ได้ตกลงเลยแม้แต่น้อย  เพราะฉะนั้น  ไม่ว่าฉันจะไม่ใสใจกับการไปเรียนพิเศษช่วงปิดเทอมยังไง  ก็ไม่มีใครว่าฉันได้  ฮ่าฮ่าฮ่า   ฉันก็เลยมีเวลามานั่งเล็มไส้กรอรชีสในจานฉันอยู่ยังงี้ไง



               9.50 น.  แล้ว   ได้ฤกษ์ออกจากบ้านซะที   วันนี้ฉันใส่ชุดสบายๆ  เสื้อยืด กางเกงยีน  แล้วก้อแบกเป้ 1 ใบ  หนีบรองเท้าแตะ 1 คู่  เดินออกจากบ้านอย่างสลึมสะลือ  แม้ว่ามันจะเป็นชุดมั่นใจใส่สบายของฉัน  แต่ด้วยอากาศที่ร้อนตับแตกอย่างนี้   ก็ทำให้ฉันนึกอยากจะแก้ผ้าเดินโทงๆไปเรียนอยู่เหมือนกัน


              แต่ปัญหาใหญ่สำหรับไอเดียคลายร้อนสุดบรรเจิดของฉันก็คือ  ฉันยังไม่บ้าบอขนาดนั้น   -     -"   ฉันก็เลยต้องต่อสู้กับชะตากรรมที่เกิดมาอยู่ในประเทศที่อากาศร้อนอย่างนี้ต่อไป



              การเดินทางไปเรียนพิเศษของฉันก็เรียบง่าย   เพราะฉันไม่ชอบอะไรที่มันลำบากเกินควร  ไม่อย่างนั้น  ฉันจะไม่ยอมไปเรียนเด็ดขาด  และนั่นเป็นเหตุผลว่า  ทำไมฉันจึงขี้เกียจเรียนพิเศษนัก  สิ่งเดียวที่ดึงดูดให้ฉันไปเรียนพิเศษได้ในตอนที่อารมณ์เซ็งถึงขีดสุดก็คือ  มันเป็นหนทางที่จะทำให้ฉันได้ออกจากบ้านอย่างง่ายๆ  และนั่นก็หมายถึง  อิสระในการแอบเที่ยวหลังเลิกเรียนของฉันด้วยยังไงล่ะ  โฮะโฮะ



               เมื่อฉันก้าวขาออกจากบ้าน   ความโรคจิตเล็กน้อยที่ถูกกระตุ้นขึ้นมาพร้อมกับความหวาดระแวงคนรอบข้างที่อาจจะเป็นภัยต่อผู้หญิงตัวเล็กๆแสนบอบบางอย่างฉัน (ฉันสูงแค่ 158 ซม.  หนัก 43 กก.)  ก็ทำให้ฉันเดินเร็วชนิดที่เรียกกระชับได้ใจความว่าเดินไล่กระบือ   และไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุนี้รึปล่าว  ทำให้ตลอดทางที่ฉันเดินไปนั้น  มีแต่คนเหลียวมอง   



               นั่นมันเรื่องที่ทำให้ฉันหงุดหงิดได้เป็นอันดับต้นๆเลยล่ะ   ฉันไม่ชอบถูกมอง  ด้วยเหตุผลที่ฉันไม่รู้ว่าจะมองทำไม   มันทำให้ฉันเป็นประสาทได้ง่ายๆ  และนั่นก็มักจะเป็นบ่อยๆด้วยสิ  ฮ่ะฮ่ะ  แต่โชคดีที่ธรรมชาติสร้างฉันให้เกิดมาเป็นคนรักสงบเช่นกัน   ความประสาทของฉันเลยไม่ค่อยได้ระเบิดออกมาบ่อยๆเท่าไรนัก  (น้อยครั้งจริงๆ  ที่ฉันจะวีนแตกขึ้นมาครั้งนึง)  



               หลังจากที่ฉันเดินทางมานานแสนนาน  (ประมาณ 36 นาทีได้)   ในที่สุด  ฉันก็ได้มาประทับรอยเท้าของฉันไว้ที่ที่เรียนพิเศษแห่งนี้  ฉันเข้าเรียนสาย  แน่นอนอยู่แล้วว่าที่นั่งข้างหน้าต้องถูกคนอื่นจองไปหมด  ที่นั่งที่เหลือก็คือข้างหลังสุด


               ฉันนึกขอบคุณสวรรค์ที่บันดาลให้ฉันเกิดมาสายตายาวก็เพราะอย่างนี้แหละ  หุหุ   ถึงฉันจะต้องนั่งข้างหลังเพราะมาสาย   มันก็ไม่เป็นอุปสรรคในการเรียนของฉันแม้แต่น้อย   เพราะอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นก็คือ   ความง่วงของฉันนั่นเอง  


               ฉันหลับได้แม้กระทั่งเพื่อนที่นั่งข้างๆฉันจะคุยจะเล่นกันเสียงดังแค่ไหน  ไม่ว่าครูจะกรอกเสียงผ่านไมโครโฟนให้นักเรียนสนใจเพียงใด  ก็ไม่สามารถยับยั้งการนอนเอาแรงระหว่างเรียนของฉันได้   และนี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันภูมิใจในตัวเองมากมาย   ฮ่าฮ่าฮ่า



               ฉันนั่งเรียนไปสักพัก  ก็รู้สึกว่ามีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ล่องลอยมาแตะจมูกฉัน  และมันรุนแรงจนฉันรู้ได้ว่า  ต้นตอของกลิ่นนั้นอยู่ใกล้ๆฉันนี่เอง   ฉันพยายามทำสารพัดวิธีเพื่อขจัดกลิ่นทุเรศๆนั่นออกไปให้พ้นจากรัศมีการได้กลิ่นของฉัน  แต่ก็ไม่เป็นผล   เพราะรู้สึกว่า  ต้นตอของกลิ่นจะทำหน้าที่ของมันได้ดีเยี่ยมไม่ขาดตอน  จนกระทั่งเลิกเรียน !!!



                คนอย่างฉันหรือที่จะยอมนั่งทนดม ตด ของใครฟรีๆ  ภายใต้สภาวะการณ์ที่ถูกบังคับให้หนีไม่ได้ แม้อยากจะย้ายที่นั่ง  ก็ไม่มีที่จะให้ย้าย   ดังนั้นหลังจากที่อาจารย์ออกจากห้องไป   และนักเรียนคนอื่นๆกำลังเก็บของของตัวเองอยู่นั้น  ฉันจึงพูดขึ้นมาลอยๆ  แต่เสียงดังพอที่จะได้ยินกันทั่ว



               " ส้วมที่บ้านน่ะ หัดใช้ให้เป็นประโยชน์ซะบ้าง  ไม่ใช่เก็บมาปล่อยสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเค้าแบบนี้  สำนึกน่ะมีบ้างมั๊ย "




               แล้วฉันก็สะพายกระเป๋าเดินออกจากห้องมาโดยไม่หันไปสนใจคนอื่นๆที่เหลืออยู่ข้างในอีก   ให้ตายสิ   ฉันไม่ชอบมีเรื่องกับใครก็จริง   แต่ฉันก็ทนไม่ได้ถ้าฉันจะถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว   ในเมื่อความเป็นธรรมจากสังคมปัจจุบันไม่ได้ลอยมาหาเรา   เราก็ต้องสร้างเองสิ  จริงมั๊ย?


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×