คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : * 1 * เริ่มเรื่องสบายๆ ฟังบรรยายบ้าๆ จากคนอย่างฉัน
วันนี้เป็นวันเปิดคอร์สเรียนพิเศษอันแสนจะน่าเบื่อหน่าย ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะกัดกินพลังชีวิตของฉันในช่วงปิดเทอมอันแสนจะร้อนบรรลัยเช่นนี้ การที่ฉันจะต้องตื่นเช้าเพื่อแบกสังขารตัวเองเข้าไปนั่งเรียนรวมกับนักเรียนคนอื่นๆที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน มันไม่ใช่เรื่องที่จะกระตุ้นต่อมความสนใจของฉันได้เลยแม้แต่น้อย!!
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ตาม ฉันก็ต้องพยายามงัดตัวเองขึ้นมาจากเตียงนอนนุ่มสบาย ในห้องนอนที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำไว้ทั้งคืน สลัดผ้าห่มทิ้งไว้ (ด้วยความซกมกส่วนตัว) แล้วก็ไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปเรียน
ขณะนี้เป็นเวลา 9 โมงครึ่ง และฉันก็ยังนั่งกินอาหารมื้อแรกของวันไปเรื่อยๆอย่างสบายอารมณ์ ทั้งๆที่เวลาเริ่มเรียนนั้นก็คือ 10.15 ถ้าเป็นสมัยก่อน ฉันคงกำลังกระหืดกระหอบขึ้นรถบุกบั่นไปเรียนแล้วล่ะ
แต่ตอนนี้ ฉันกำลังจะขึ้นชั้น ม.5 เชื้อความขี้เกียจที่เริ่มบ่มเพาะในตัวฉันมันเพิ่มขึ้นตามอัตราความกระตือรือร้นในการเรียนของฉันที่ลดต่ำลงไปด้วย แตกต่างกับสมัยที่เรียน ม.ต้น อย่างสิ้นเชิง
แต่ก็ช่วยไม่ได้อยู่ดี ที่ผลการเรียนของฉันไม่ได้ตกลงเลยแม้แต่น้อย เพราะฉะนั้น ไม่ว่าฉันจะไม่ใสใจกับการไปเรียนพิเศษช่วงปิดเทอมยังไง ก็ไม่มีใครว่าฉันได้ ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันก็เลยมีเวลามานั่งเล็มไส้กรอรชีสในจานฉันอยู่ยังงี้ไง
9.50 น. แล้ว ได้ฤกษ์ออกจากบ้านซะที วันนี้ฉันใส่ชุดสบายๆ เสื้อยืด กางเกงยีน แล้วก้อแบกเป้ 1 ใบ หนีบรองเท้าแตะ 1 คู่ เดินออกจากบ้านอย่างสลึมสะลือ แม้ว่ามันจะเป็นชุดมั่นใจใส่สบายของฉัน แต่ด้วยอากาศที่ร้อนตับแตกอย่างนี้ ก็ทำให้ฉันนึกอยากจะแก้ผ้าเดินโทงๆไปเรียนอยู่เหมือนกัน
แต่ปัญหาใหญ่สำหรับไอเดียคลายร้อนสุดบรรเจิดของฉันก็คือ ฉันยังไม่บ้าบอขนาดนั้น - -" ฉันก็เลยต้องต่อสู้กับชะตากรรมที่เกิดมาอยู่ในประเทศที่อากาศร้อนอย่างนี้ต่อไป
การเดินทางไปเรียนพิเศษของฉันก็เรียบง่าย เพราะฉันไม่ชอบอะไรที่มันลำบากเกินควร ไม่อย่างนั้น ฉันจะไม่ยอมไปเรียนเด็ดขาด และนั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมฉันจึงขี้เกียจเรียนพิเศษนัก สิ่งเดียวที่ดึงดูดให้ฉันไปเรียนพิเศษได้ในตอนที่อารมณ์เซ็งถึงขีดสุดก็คือ มันเป็นหนทางที่จะทำให้ฉันได้ออกจากบ้านอย่างง่ายๆ และนั่นก็หมายถึง อิสระในการแอบเที่ยวหลังเลิกเรียนของฉันด้วยยังไงล่ะ โฮะโฮะ
เมื่อฉันก้าวขาออกจากบ้าน ความโรคจิตเล็กน้อยที่ถูกกระตุ้นขึ้นมาพร้อมกับความหวาดระแวงคนรอบข้างที่อาจจะเป็นภัยต่อผู้หญิงตัวเล็กๆแสนบอบบางอย่างฉัน (ฉันสูงแค่ 158 ซม. หนัก 43 กก.) ก็ทำให้ฉันเดินเร็วชนิดที่เรียกกระชับได้ใจความว่าเดินไล่กระบือ และไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุนี้รึปล่าว ทำให้ตลอดทางที่ฉันเดินไปนั้น มีแต่คนเหลียวมอง
นั่นมันเรื่องที่ทำให้ฉันหงุดหงิดได้เป็นอันดับต้นๆเลยล่ะ ฉันไม่ชอบถูกมอง ด้วยเหตุผลที่ฉันไม่รู้ว่าจะมองทำไม มันทำให้ฉันเป็นประสาทได้ง่ายๆ และนั่นก็มักจะเป็นบ่อยๆด้วยสิ ฮ่ะฮ่ะ แต่โชคดีที่ธรรมชาติสร้างฉันให้เกิดมาเป็นคนรักสงบเช่นกัน ความประสาทของฉันเลยไม่ค่อยได้ระเบิดออกมาบ่อยๆเท่าไรนัก (น้อยครั้งจริงๆ ที่ฉันจะวีนแตกขึ้นมาครั้งนึง)
หลังจากที่ฉันเดินทางมานานแสนนาน (ประมาณ 36 นาทีได้) ในที่สุด ฉันก็ได้มาประทับรอยเท้าของฉันไว้ที่ที่เรียนพิเศษแห่งนี้ ฉันเข้าเรียนสาย แน่นอนอยู่แล้วว่าที่นั่งข้างหน้าต้องถูกคนอื่นจองไปหมด ที่นั่งที่เหลือก็คือข้างหลังสุด
ฉันนึกขอบคุณสวรรค์ที่บันดาลให้ฉันเกิดมาสายตายาวก็เพราะอย่างนี้แหละ หุหุ ถึงฉันจะต้องนั่งข้างหลังเพราะมาสาย มันก็ไม่เป็นอุปสรรคในการเรียนของฉันแม้แต่น้อย เพราะอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นก็คือ ความง่วงของฉันนั่นเอง
ฉันหลับได้แม้กระทั่งเพื่อนที่นั่งข้างๆฉันจะคุยจะเล่นกันเสียงดังแค่ไหน ไม่ว่าครูจะกรอกเสียงผ่านไมโครโฟนให้นักเรียนสนใจเพียงใด ก็ไม่สามารถยับยั้งการนอนเอาแรงระหว่างเรียนของฉันได้ และนี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันภูมิใจในตัวเองมากมาย ฮ่าฮ่าฮ่า
ฉันนั่งเรียนไปสักพัก ก็รู้สึกว่ามีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ล่องลอยมาแตะจมูกฉัน และมันรุนแรงจนฉันรู้ได้ว่า ต้นตอของกลิ่นนั้นอยู่ใกล้ๆฉันนี่เอง ฉันพยายามทำสารพัดวิธีเพื่อขจัดกลิ่นทุเรศๆนั่นออกไปให้พ้นจากรัศมีการได้กลิ่นของฉัน แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะรู้สึกว่า ต้นตอของกลิ่นจะทำหน้าที่ของมันได้ดีเยี่ยมไม่ขาดตอน จนกระทั่งเลิกเรียน !!!
คนอย่างฉันหรือที่จะยอมนั่งทนดม ตด ของใครฟรีๆ ภายใต้สภาวะการณ์ที่ถูกบังคับให้หนีไม่ได้ แม้อยากจะย้ายที่นั่ง ก็ไม่มีที่จะให้ย้าย ดังนั้นหลังจากที่อาจารย์ออกจากห้องไป และนักเรียนคนอื่นๆกำลังเก็บของของตัวเองอยู่นั้น ฉันจึงพูดขึ้นมาลอยๆ แต่เสียงดังพอที่จะได้ยินกันทั่ว
" ส้วมที่บ้านน่ะ หัดใช้ให้เป็นประโยชน์ซะบ้าง ไม่ใช่เก็บมาปล่อยสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเค้าแบบนี้ สำนึกน่ะมีบ้างมั๊ย "
แล้วฉันก็สะพายกระเป๋าเดินออกจากห้องมาโดยไม่หันไปสนใจคนอื่นๆที่เหลืออยู่ข้างในอีก ให้ตายสิ ฉันไม่ชอบมีเรื่องกับใครก็จริง แต่ฉันก็ทนไม่ได้ถ้าฉันจะถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว ในเมื่อความเป็นธรรมจากสังคมปัจจุบันไม่ได้ลอยมาหาเรา เราก็ต้องสร้างเองสิ จริงมั๊ย?
ความคิดเห็น