ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Yes or No รักครั้งนี้....ผิดหรือถูก {Yaoi}

    ลำดับตอนที่ #5 : ลำดับตอนที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.พ. 58



    <~Chapter 4~>

                    ฮึกฮึก

                    น้ำตามากมายมหาศาลไหลออกมาจากตาตกลงที่หมอนลายวันพีชจนเปียกชื้นไปหมด ตุ๊กตามากมายบนเตียงถูกผมขว้างจนเละเทะเกลื่อนห้องด้วยความโกรธ พอหมดแรงผมก็ฟุบหน้าลงกับหมอน ความรู้สึกโกรธถูกแทนที่ด้วยความหดหู่ ผิดหวัง เสียใจ เจ็บปวด เคยดูแต่ในละครเวลาคนอกหักเขาร้องไห้ พร่ำเพ้อพรรณนาสารพัดจนผมเองก็คิดว่าจะเว่อร์เกินไปมั้ย ตอนนี้ผมเข้าใจดีเลยล่ะ มันเจ็บขนาดนี้นี่เอง เจ็บ….เจ็บเหมือนจะตาย

                    โอเค ผมต้องทำใจให้ได้ ผมผิดเองแหละ ที่ไปรู้สึกกับมันมากกว่าคำว่าเพื่อน ผมผิดเองแหละที่ล้ำเส้นที่มันกำหนดเอาไว้ ผมผิดเองแหละที่รู้ว่าไม่มีทางแต่ก็ยังจะฝืน ผมผิดเองทั้งหมดแหละ ผมผิดเอง…..

                    ผมผิด….เอง

     

                วันปัจฉิมฯ

                    จ้อกแจ้ก~ จ้อกแจ้ก~

                    เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดผมก็จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ชีวิตวัยมัธยมของผมกำลังจะจบลงแล้ว สถานีต่อไปก็คือมหาวิทยาลัย นี่แหละคือของจริง!

                    นับตั้งแต่วันนั้นที่ผมโดนมันไล่ออกจากบ้าน ผมกับไอ้แม็กซ์ก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย ไม่มองหน้า ไม่ส่งเสียง ไม่เฉียดเข้าใกล้ แม้ว่าผมจะพยายามแค่ไหนก็ตาม มันก็ไม่เปิดช่องว่างให้ผมเข้าถึงเลยแม้แต่น้อย

                     จากที่เคยสนิทกันมาก ตอนนี้กลับเป็นเหมือนคนไม่รู้จักกัน

                    หลังจากเราขาดกันผมก็เห็นมันอยู่คนเดียวตลอดเวลา อย่างที่ผมบอกไปไง ว่ามันหยิ่งมาก ไม่มีคนกล้าเข้าใกล้ แต่ผมคงเป็นผู้มีความกล้าและพยายามมากพอมั้ง เลยสามารถตีซี้กับมันได้

                    มันเคยบอกว่าผมเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของมัน ถ้างั้นมันคงคาดหวังอย่างมากที่จะไม่ให้ผมคิดอะไรกับมัน แต่มันไม่ทันแล้วล่ะ ถ้ารู้อย่างนี้ก่อน วันนั้นที่ห้างผมจะไม่พูดมันออกไปเลย ผมจะไม่ทำให้มันโกรธ ผมจะไม่ทำให้มันผิดหวัง ผมจะไม่ทำให้มิตรภาพสามปีของเราพังทลายเพราะคำพูดโง่ๆของผม ผมจะยอมเก็บความรู้สึกของตัวเองไว้เพียงคนเดียว ดีกว่าการที่มันจะต้องเป็นแบบนี้

                    “ซองงงงงง ขอเขียนเสื้อหน่อยน้า~”

                    มิกซ์วิ่งมาหาผมพร้อมกับปากกาเมจิกหนึ่งแท่ง รอบตัวผมตอนนี้มีแต่คนเขียนเสื้อกัน บางคนฮอตๆก็เสื้องี้แทบเปลี่ยนสี บางคนไม่ค่อยมีใครคบด้วยเสื้อก็ยังขาวสะอาดอยู่

                    “ได้ๆ เขียนดีๆนะเฮ้ย” ผมบอก มิกซ์หัวเราะแล้วจรดปลายปากกาลงบนแผ่นหลังผม รู้สึกจั๊กจี้ยึ๊กยึ๋ยๆแฮะ เขียนอะไรเยอะแยะเนี่ย -*-

                    “มา เดี๋ยวเราเขียนให้แกด้วย” ผมแย่งปากกามาจากมิกซ์แล้วเขียนลงบนแขนเสื้อของมัน สาเหตุคือหลังไอ้นี่เต็มแล้ว =_= มิกซ์เขาก็ฮอตพอตัวแหละ แต่สู้ไอ้แม็กซ์ไม่ได้หรอก เสื้อตัวที่สองแล้วมั้งนั่น

                    “เสร็จละ” ผมบอกพร้อมกับปิดฝาปากกา

                    “แต๊งกิ้วววว”

                    ผมมองมิกซ์ที่วิ่งไปหาสาวๆแฟนคลับของมันต่อ แล้วก็เลื่อนสายตาไปยังร่างสูงของใครคนนึง ที่ยิ้มระรื่นเขียนเสื้อกระหนุงกระหนิงกับเพื่อนผู้หญิงอีกคน

                    ใครวะ….?

                    ไม่ๆๆๆ ผมจะไม่สนใจ ผมจะออกมาจากชีวิตมัน ผมจะไม่ทำให้มันรำคาญใจอีกแล้ว ผมไม่อยากทำให้มันโกรธอีก ผมไม่…..

                    ผมไม่เขียนไม่ได้แล้ว!!! >_<

                    ในที่สุดเส้นแห่งความอดทนก็ขาดผึง ตอนนี้ไอ้แม็กซ์อยู่คนเดียวแล้ว อาศัยจังหวะที่มันกำลังเปลี่ยนเสื้อเป็นตัวใหม่พอดี มันไม่สังเกตเห็นผมหรอก ผมวิ่งร่าเข้าไปหามันทันทีโดยปลอดสายตาผู้คนพร้อมปากกาหนึ่งแท่งสีสดใสซึ่งเตรียมมาเพื่อมันโดยเฉพาะ

                    “แม็กซ์!” ผมตะโกนเรียก เจ้าของชื่อหันมาช้าๆ ด้วยสายตาที่เย็นชาไร้ความหมาย เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน!!

                    “ขอเขียนเสื้อหน่อยนะ” ผมไม่รอคำตอบ เปิดฝาปากกาออกแล้วจิ้มลงบนแผ่นหลังกว้างของมันทันที

                    ที่ผ่านมาเราขอโทษที่ทำผิดกับแก แกให้อภัยเราแล้วกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย ไม่มีแกแล้วเราโคตรเหงาเลยว่ะ ไม่มีคนคอยตบหัว ไม่มีคนคอยด่า ไม่มีคนคอยสอนการบ้าน กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเถอะ เราสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรงี่เง่าแบบนั้นอีก เราขอร้อง คิดถึงแกนะเว้ย

                    เขียนยาวเป็นหางว่าวเลยแฮะ แต่มันก็ยอมยืนให้ผมเขียนแต่โดยดี เป็นไปได้มั้ยที่มันหายโกรธผมแล้ว

                    “คือเรา….

                    ฟึ่บ! แควกกกก!!

                    !!!

                    อึ้ง! ผมอึ้งกับการกระทำของคนตรงหน้า ไอ้แม็กซ์ฉีกเสื้อออกมาแล้วเดินเหยียบผ่านไปอย่างไม่ไยดี

                    “เลิกยุ่งกับเราซะ”

                    แล้วมันก็เดินผ่านไป แต่ผมนี่! หน้าชา อึ้ง บอกไม่ถูก พูดไม่ออก เหมือนมีก้อนสะอื้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ รู้สึกเหมือนว่าถ้าผมขยับปากพูดหรือเคลื่อนไหวแม้แต่นิดเดียว ผมต้องปล่อยโฮออกมาแน่ๆ

                    เลิกยุ่งกับเราซะ

                    เลิกยุ่งกับเราซะ

                เลิกยุ่งกับเราซะ

                เลิกยุ่งกับเราซะ

                ประโยคนั่นเป็นเหมือนเสียงสะท้อนที่ก้องอยู่ในหัวผม เหมือนแผ่นซีดีที่เปิดซ้ำไปซ้ำมา หึ ผมเผลอคิดไปได้ยังไงนะว่ามันให้อภัยผมแล้ว คิดไปได้ยังไง

                    สมเพชตัวเองชะมัด!

                    มันก็คงคิดไม่ต่างจากผมนั่นแหละ ในสายตามันผมคงเหมือนขยะอะไรสักอย่าง น่ารังเกียจ น่าสมเพช เหมือนไวรัส แบคทีเรีย เชื้อโรค ไส้เดือนดิน พยาธิใบไม้ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันไม่มีค่า

                    ผมต้องเลิกยุ่งกับมันแล้วจริงๆสินะ

                    ลาก่อนนะเว้ย…..ไอ้แม็กซ์

                    .

                    .

                    .

                    .

                    .

    ก็อย่างที่บอก นั่นมันเรื่องเมื่อหลายปีก่อน

    ย้อนกลับมาที่ปัจจุบัน ผมอยู่มหาวิทยาลัยแล้วนะ ตอนนี้ผมอยู่ปีสาม คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาเลข ผมอ่อนวิชาเลขนะ แต่อยากเป็นครูสอนเลข ตลกมั้ย ^^; ส่วนไอ้แม็กซ์ นับจากวันปัจฉิมฯ เราก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย มันไปเรียนมหาวิทยาลัยไหนก็ไม่รู้ เพื่อนๆตอน ม.6 แยกย้ายกันไปหมด ไม่ได้อัพเดตข่าวสารกัน

    ถ้าให้ผมเดามันคงเรียนคณะแพทย์แน่ๆ แต่เรียนที่ไหนก็ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครรู้ข่าวคราวของไอ้แม็กซ์เลย ก็เงี้ยแหละ พวกโลกส่วนตัวสูง เข้าถึงยาก

    Rrrrrrrrrrr

    ใครโทรมาหว่า~

    “ฮัลโหล”

    [เฮลโหลซอง วอทซับ]

    เสียงสำเนียงภาษาอังกฤษดัดจริตดังผ่านลำโพงโทรศัพท์ออกมา ไม่ใช่ใครหรอก ไอ้กอล์ฟ เพื่อนสนิทผมเองแหละ ทำไมผมถึงไปสนิทกับมันน่ะเหรอ หึๆ

    มันเป็นเกย์ (เหมือนผมเป๊ะ)

    แหมมมมม หายากนะพวกหัวอกเดียวกันเนี่ย พอเจอกันปุ๊บ รู้ความลับกันปั๊บ สนิทกันอย่างเร็วเลย แต่ไม่ต้องกลัวว่าเราจะมาชอบกันเองหรอก ทั้งผมทั้งมันเป็นควีนทั้งคู่ ไม่มีทางปิ๊งกันแน่ๆ

    “เออๆ มีไรว่ามา”

    [คือแบบว่า กูต้องย้ายไปอยู่คอนโดฯว่ะ]

    “ว่าไงนะ!!! แล้วกูจะอยู่กับใครวะไอ้กอล์ฟฟฟฟฟ”

    [กูขอโทษษษษษ พอดีไอ้กลอยมันดันสอบได้มหาลัยเดียวกับเราว่ะ ป๊ากับม๊าเลยบังคับให้กูไปอยู่คอนโดฯเป็นเพื่อน]

    มันอธิบายเหมือนกลัวผมโกรธ กลอย ที่ว่าคือน้องสาวมันเองแหละ มันเล่าให้ฟังบ่อยๆ เคยเจออยู่สองสามครั้ง น้องมันเป็นสาววาย ชอบหาเรื่องจิ้นผมกับไอ้กอล์ฟตลอด

    “แล้วถ้ามึงย้ายไปอ่ะ กูจะอยู่กับใครวะ กลัวผีนะเว้ย” ผมกับไอ้กอล์ฟเป็นรูมเมตกัน ถ้ามันย้ายผมก็ต้องอยู่คนเดียว เฮ้อ เศร้า~

    [มีคนย้ายมาใหม่เว้ยมึง เขาจะมาอยู่เป็นรูมเมตมึงอ่ะ ติดต่อเรียบร้อยละ ดูแลเพื่อนใหม่ดีๆนะเว้ย เห็นว่าเรียนหมอด้วยนี่นา]

    “จริงดิ แม่งเอ๊ย กูไม่ชอบพวกเรียนหมอว่ะ แม่งเนิร์ดชิบ น่าเบื่อจะตาย”

    [เหอะน่า อยู่กันไปเหอะ มีห้องเราห้องเดียวที่ว่าง ห้องอื่นแม่งเต็มหมดแล้ว เปิดใจหน่อย ตีสนิทไว้เผื่อมึงจะได้หมอเป็นผัว]

    ไอ้กอล์ฟ!!! ไอ้เพื่อนชั่ว  -O-+

    [ฮ่าๆๆๆ กูล้อเล่น กูรู้น่าว่าคนที่จะเป็นผัวมึงได้มีแต่แม็กซ์คนเดียว]

    ….

    [….เฮ้ยซอง ขอโทษเว้ย กูไม่ได้ตั้งใจว่ะ]

    “เออๆ ช่างแม่งเหอะ” ผมพูดเนือยๆ “แล้วเขาจะย้ายมาเมื่อไหร่วะ”

    [ไม่รู้ดิ ไม่พรุ่งนี้ก็วันนี้อ่ะ]

    “ไม่มีเวลาให้เตรียมใจเลยวะ เออๆ แค่นี้นะ ลงไปกินข้าวก่อน”

    [เออๆ บาย]

    ผมกดตัดสาย ไอ้กอล์ฟมันรู้เรื่องผมกับไอ้แม็กซ์หมดแหละ เพราะผมระบายให้มันฟังทุกอย่าง แล้วมันก็รู้ด้วยว่าผมยังรักแม็กซ์อยู่

    ผมยังไม่คิดจะตัดใจ ผมยังคิดถึง ยังรัก ยังชอบ ยังคงหวังว่าเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง ไฟแห่งความหวังยังคงสว่างอยู่ในเบื้องลึกของหัวใจ แม้มันใกล้จะดับเต็มทีแล้วก็ตาม มันก็ยังคงจุดติดขึ้นมาใหม่ได้ทุกครั้ง

    ก็ผมเล่นเติมเชื้อเพลิงให้ตัวเองตลอดเวลา ถ้าดับก็แปลกแล้วล่ะ

    โอเค เลิกคิดมาก เลิกฟุ้งซ่าน ลงไปกินข้าวดีกว่า

    ผมล็อคประตูห้องเรียบร้อยแล้วเดินลงมาที่ร้านอาหารด้านล่างหอพัก เป็นหอพักนักศึกษามหาลัยผมนี่แหละ ร้านอาหารร้านนี้ขวัญใจนักศึกษาเลยล่ะ ถูก อร่อย บรรยากาศดี เป็นร้านห้องกระจกติดแอร์ จัดร้านสะอาดสะอ้าน จานเด็ดต้องส้มตำ ขอบอกว่าแซบเว่อร์ >.,<

    ตอนนี้เวลาเที่ยงกว่าๆแล้ว คนเลยเยอะแน่นร้าน แต่ไม่เป็นไร เพื่อส้มตำปูปลาร้า ผมสู้ตาย! O(>O<)O

    ผมวิ่งไปต่อแถวที่เคาน์เตอร์ เบียดเสียดฝูงชนมากมายเพื่อส้มตำปูปลาร้าสุดแซบ เมื่อเช้าไอ้กอล์ฟมันซื้ออเมริกันเบรกฟาสต์มาให้กิน โคตรเลี่ยนเลย กลางวันเลยอยากกินอะไรจัดๆแก้เลี่ยนหน่อย

    “ป้าครับ ส้มตำปูปลาร้าถุงนึงครับ” ผมเดินบอกคุณป้าวัยห้าสิบกว่าๆ หลังจากที่คนข้างหน้าผมหลีกทางไปเก็บตังค์ใส่กระเป๋าอยู่ข้างๆ

    “ตำปูปลาร้าหมดแล้วจ้ะพ่อหนุ่ม เอาอย่างอื่นแทนได้มั้ย”

    ฮะ!!! =O=

    โอ้ม่ายยยยย

    ไม่จริ๊งงงงงงงงงง TOT

    “ก็ได้ครับ งั้นเอาเป็น….

    “เอามั้ยครับ ผมยกให้”

    คนข้างๆซึ่งคาดว่าเป็นคนที่ได้ครองส้มตำปูปลาร้าถุงสุดท้ายพูด ผมที่รีบปฏิเสธด้วยความเกรงใจ แต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามอง

    “ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไรๆๆ ผมซื้ออย่างอื่นก็ได้”

    “เอาไปเถอะครับ ผมยกให้ ^_^” คนมีน้ำใจยื่นถุงส้มตำมาให้ คนอะร๊ายยย น้ำใจงามเหลือเกิน >_<

    “งั้นก็ขอบคุณมากๆครับ” ผมเก็บกระเป๋าตังค์ใส่กระเป๋าแล้วเงยหน้ามองวีรบุรุษผู้ช่วยชีวิต ขอมอบตำแหน่งตำตำแมนให้เลยครับ! ปรบมือ!!!

    “ไม่เป็นไรครับ…..!!” เมื่อเราประสานสายตากัน

    “เฮ้ย…..OoO

    ผมจำได้!!! ผมจำมันได้!!!!

    “ไอ้แม็กซ์!!

    “ไอ้ซอง!!!!

    เราสองคนพูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย แต่อารมณ์แตกต่างกัน ผมนี่โคตรจะดีใจเลย แต่ดูแล้วไอ้แม็กซ์คงรังเกียจซะมากกว่า

    ฟุ่บ!! แผละ~

    ถุงส้มตำในมือไอ้แม็กซ์หล่นลงพื้นทันทีเมื่อมันปล่อยมือ มันจิ๊ปากอย่างอารมณ์เสียสุดๆแล้วเดินออกจากร้านไปอย่างไม่หันกลับมามองผมเลย

    เหมือนวันนั้นเลยแฮะ….

    วันที่ผมเขียนเสื้อให้มัน แล้วมันก็โยนเสื้อทิ้ง แล้วก็เดินหนีผมไปแบบนี้…..แบบนี้เลย 

     





















    B B
    Chrome Pointer
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×