ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หวานใจ นายซุปเปอร์สตาร์

    ลำดับตอนที่ #3 : ยินดีที่ได้รู้จัก - Rewrite

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.ค. 65


     

    หลังจากที่ผมตกจะลึงในความน่ารักของเธออยู่นั้น เสียงหวานๆของเธอก็เรียกผมให้ตื่นจากผวัง

     

    เธอ : คุณคะ...ไม่ซิ ท่านค่ะ ท่านเทวดา”

     

    ผม : คะ..ครับ”

     

    เธอ : ฉันทำให้ท่านตื่นใช่ไหมคะ ขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจให้ท่านตื่น”

     

    //เขาจะโมโหที่เราทำเขาตื่นหรือเปล่านะ//

     

    ผม : ไม่หรอกครับ จริงๆผมตื่นอยู่แล้ว แค่แกล้งหลับน่ะ”

     

    เธอ : ห่ะ แกล้งหลับ เทวดานอนกลางวันว่าแย่แล้วนะคะ แต่นี้ทำเป็นแกล้งหลับหลอกคน ใช้ได้ที่ไหนกันคะเนี้ย........แบบนี้ก็เท่ากับว่า ⊙▂⊙ คุณ..เอ้ยท่านได้ยินที่ฉันพูดหมดเลยเหรอคะ”

     

    /ผมจะทำยังไงกับแอ๊กติ้งน่ารักๆของเธอดี ไม่ว่าเธอจะพูดหรือทำอะไร ทำไมเธอดูน่ารักไปหมดขนาดนี้ /

     

    ผม : ครับ ได้ยินหมดเลย ที่คุณชมผมว่าผมหล่อแค่ไหน”

     

    ผมพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้เธอ

     

    เธอ : งือออ >////< ไม่นะ ได้ยินตั้งแต่ตอนนั้นเลยเหรอเนี้ย”

     

    // ตาเทวดาบ้า!!  เทวดาบ้าบออะไร ทำไมขี้แกล้งขนาดนี้ //

     

    เธอเขิลอายในสิ่งที่ตัวเองพูดออกมา

     

    ผม : แล้ว...ผมหล่อขนาดนั้นเลยเหรอ?!”

     

    ผมพูดพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆเธอ ดวงตาของเธอเบิกโผล่ง ก่อนที่แก้มของเธอจะค่อยๆแดงระเรื่อ เธอเบือนหน้าหนีด้วยความอาย

     

    // ทำไมต้องน่ารักขนาดนี้ด้วยนะ //

     

    หัวใจของผมเต้นไม่เป็นจังหวะ ทุกๆครั้งที่สบตาเธอ ผมคงเป็นบ้าไปแล้ว

     

    เธอ : ปะ....เป็นเทวดาก็ต้องหน้าตาดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ

     

    เธอตอบผมโดยที่ไม่ได้มองผมด้วยซ้ำ

     

    ผม : ห่ะ!! เทวดา หมายความยังไงครับ

     

    เธอ : ก็ท่านเป็นเทวดาไม่ใช่เหรอคะ

     

    ผม : ผมเนี้ยนะ ฮ่าๆๆ คงเข้าใจผิดแล้วละครับ ผม....ก็แค่คนธรรมดา

     

    เธอ : เอ๋!!?? ไม่ใช่เทวดาหรอกเหรอคะ แล้วทำไม อยู่ที่นี่ละคะ??

     

    ผม : ก็ที่นี้เป็นความฝันของผม...คุณอยู่ในความฝันของผม

     

    เธอ : เอ๋!?? ไม่นะคะ ฉันว่าไม่น่าใช่ ที่คือดินแดนหลังความตายค่ะ.....และฉันก็ตายไปแล้ว

     

    คำพูดของเธอทำให้ผมสับสนและงงงวย

     

    ผม : ตายแล้ว!!?? คุณหมายความว่ายังไงครับ

     

    เธอ : ก็ฉันตื่นมาที่นี้ หลังจากที่โดนรถชนนะซิค่ะ

     

    ผม : อะไรนะครับ ถ้างั้นก็แสดงว่า ผมไม่ได้กำลังฝันอยู่อย่างนั้นเหรอ.......เดี๋ยวนะ!!! ผมเองก็ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่นี้หลังจากที่....

     

    ผมพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด

     

    เธอ : แสดงว่าคุณเองก็ตายแล้วเหมือนกันซินะ.....ทำไมเราสองคนต้องตายตอนนี้ด้วย เราสองคนอายุยังน้อยกันอยู่แท้ๆ

     

    ผม : ไม่จริง!! ผมแค่ฝันอยู่ ตื่นซิ ตื่น

     

    ผมพยายามปลุกตัวเองให้ตื่น ด้วยการตบหน้าตัวเอง แต่ไม่ว่าจะยังไงผมก็ยังอยู่ที่นี้กับเธอ

     

    เธอ : พอเถอะค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองฝันเหมือนกัน แต่พอพยายามจะปลุกหรือจะตื่น มันก็ทำไม่ได้ และต่อให้ร้องเรียกให้คนมาช่วยแค่ไหน ก็ไม่มีใครตอบกลับมาเลย แล้วก็ดูเหมือนว่าที่แห่งนี้กว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุดด้วย

     

    เราสองคนมองไปรอบๆ ก็ไม่พบสิ่งมีชีวิตอะไรเลยน้องจากเราสองคน

     

    ผม : เป็นไปไม่ได้ ผมจะตายได้ยังไง ...ผมแค่หลับไปเฉยๆจริงๆนะ

     

    ถึงผมจะบอกกับเธอแบบนั้นแต่ผมก็อดที่จะสงสัยไม่ได้

     

    / นี้ฉันตายไปแล้วจริงๆเหรอ หรือว่ากำลังฝันอยู่กันแน่ แต่ทำไมมันเหมือนจริงขนาดนี้ /

     

    เธอ : คุณแน่ใจเหรอคะ ...ว่าแค่หลับไปเฉยๆ คุณพอจะจำได้ไหมคะว่า ก่อนที่คุณจะตื่นขึ้น คุณทำอะไรอยู่

     

    ผม : “ผมจำได้ว่าตัวเอง กำลังซ้อมเต้นกับเพื่อนๆ แล้วก็ภาพดับวูบไป  ตื่นมาก็มาอยู่ที่นี้เหมือนคุณ”

     

    เธอ : “นั่นไง ไม่ใช่ว่าคุณเส้นเลือดในสมองแตกแล้วตาย หรอกเหรอ

     

    ผม : มันจะเป็นไปได้เหรอ ที่เราสองคนตายไปแล้ว

     

    เธอ : ฉันก็ไม่รู้หรอกค่ะ ก็แค่คิดถึงความน่าจะเป็น เพราะมันไม่มีอะไรมาอธิบายที่ที่เราอยู่ตอนนี้ได้ นอกจากว่าพวกเราตายแล้ว

     

    ผมพยายามคิดตามที่เธอพูด ถ้าผมฝันอยู่ทุกอย่างก็คงไม่ได้ดูสมจริงขนาดนี้ และถ้าผมตายจริงๆ ทุกอย่างที่ผมพยายามมาทั้งหมดก็หมดความหมาย

     

    ผม : “นี่ผม.......... ตายแล้วจริงๆเหรอ

    ผมทรุดลงกับพื้น ผมเสียใจมาก

     

    ผม : ไม่จริง ฮืออออ

     

    เธอ : ใจเย็นๆนะคะ ฉันเข้าใจว่าคุณรู้สึกยังไง แต่สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือต้องยอมรับมัน

     

    "..."

     

    "..."

     

    เธอปลอบผมอยู่พักใหญ่ๆ ผมเริ่มตั้งสติได้ และขอบคุณเธอ

     

    ผม : ขอบคุณนะครับ ถ้าผมอยู่ที่นี่คนเดียว ผมคงจะเสียใจมากกว่านี้ แต่เพราะว่ามีคุณเป็นเพื่อน เลยทำให้ที่ไม่ได้ดูน่ากลับและเงียบเหงา

     

    เดซี่ : ไม่เป็นไร เรามารับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้กันดีกว่า อย่างน้อยคุณก็ยังมีฉันเป็นเพื่อนผีทั้งคนนะ...........อย่างน้อยเราก็ไม่ได้ตายอย่างโดดเดี่ยว จริงไหม?”

     

    ผมมองหน้าเธอ ที่กำลังทำสีหน้าจริงจัง และดูอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน เธอพยายามพูดเพื่อปลอบผม

     

    มันก็จริงอย่างที่เธอบอก ผมเศร้าไปก็คงทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้เราสองคนคงทำได้แค่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น

     

    ผม : เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ เพื่อนผี งั้นเหรอ ฮ่าาาาาา

     

    คำพูดนี้ของเธอทำให้ผมอดหัวเราะไม่ได้

     

    ผม : คุณทำให้ผมหัวเราะได้ แม้กระทั้งตอนที่กำลังเศร้าเลยนะ ฮ่าๆ คุณคิดได้ยังไง เพื่อนผี ฮ่าๆ”

     

    เธอ : “เอ้า หรือไม่จริงละ ก็เราสองคนตายแล้วก็ต้องเป็นผีซิ ฉันอุส่าห์ปลอบใจ เพราะเห็นว่ากำลังเศร้านะ ยังจะมาขำอีก รู้ไหมตอนแรกที่มาที่นี้ ที่รู้ว่าตัวเองตายฉันเศร้าแค่ไหน แต่ไม่มีใครคอยปลอบเหมือนคุณนะ”

     

    พูดจบเธอก็ทำหน้างอนตุ๊บป่อง ไม่ว่าเธอจะทำอะไร มันก็ดูน่ารักไปหมด นี่ถ้าผมเจอเธอบนโลกแห่งความ ผมคงตกหลุมรักเธอไปแล้ว และคงขอให้เธออยู่ข้างๆผม คอยเป็นกำลังใจให้ผมแน่ๆ

     

    ผม : ฮ่าๆ โอเคๆ ผมขอโทษ ขอบคุณนะ ที่คอยปลอบผม เพราะมีคุณผมเลยไม่รู้สึกเศร้าเท่าไหร่แล้วตอนนี้”

     

    เธอ : ^-^ ไม่เป็นไร เห็นไหมละ ฉันบอกคุณแล้วว่าการมีเพื่อนผีมันดียังไง”

     

    เธอยิ้ม ออกมาทันที่ ที่ผมขอโทษและขอบคุณเธอ จริงๆอยากให้เธองอนอีกหน่อย เพราะมันน่ารักดี แต่ตอนที่เธอยิ้มออกมานี้ซิ มันน่ารักยิ่งกว่า

     

    ผม : “ครับๆ ผมเชื่อ  ว่าแต่คุยกันมาตั้งนาน ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย”

     

    เดซี่ : “อ่ะ!! จริงด้วย เรายังไม่ได้แนะนำตัวกันเลยเนอะ ฉันเดซี่นะ  คุณล่ะ”

     

    ผม : “ว๊าว คุณชื่อเดซี่ ที่หมายถึงดอกเดซี่นะเหรอ”

     

    / ชื่อของเธอช่างน่ารักเหมาะกับเธอมากเลย /

     

    เดซี่ : “อือ ^^ ใช่  ดอกเดซี่ ที่กำลังบานพวกนี้แหละ คือชื่อของฉัน”

     

    เธอผายมือไปยังดอกเดซีที่บานสะพรั่งเต็มทุ่ง

     

    ผม : “ชื่อนี้ เหมาะกับคุณมาก ผมชื่อ จียง ควอนจียง   ยินดีที่ได้รู้จักนะเดซี่”

     

    เธอ : ชื่อคุณเหมือนคนเกาหลีเลย

     

    ผม : อ่ะ!! ใช่ ผมเป็นคนเกาหลี

     

    เธอ : ไม่จริงอะ ถ้าคุณเป็นคนเกาหลีทำไมฉันฟังภาษาคุณเข้าจล่ะ

     

    ผม : อาจจะเพราะที่นี้เป็นดินแดนหลังความตาย ก็เลยสามารถทำให้เราเข้าใจภาษาของกันและกันได้ละมั้ง ...ว่าแต่คุณ..

     

    เธอ : ฉันเป็นลูกครึ่ง ไทย-ญี่ปุ่น แต่ว่าพูดญี่ปุ่นไม่ได้เพราะว่าพ่อฉันเสียตั้งแต่เด็กๆ เลยไม่มีโอกาสได้ไปที่ญี่ปุ่น

     

    ผม : อ่าา ผมเสียใจด้วยนะ

     

    เธอ : ไม่เป็นไร ตอนนี้ไม่มีอะไรที่น่าเสียใจเท่าสถานการณ์ของเราสองคนตอนนี้หรอก

     

    จียง : ฮ่าๆ นั่นซินะ ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้จักนะ เดซี่

     

    เดซี่ : “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน จียง”

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×