คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : การปลอบโยน
ณ ร้านหนังสือแห่งหนึ่ง 15 สิงหาคม 2549
วันนี้ฉันมาร้านหนังสือกับพี่เนย์ เพื่อซื้อหนังสือภาษาเกาหลีเบื้องต้น เพื่อจะได้เตรียมตัวก่อนเรียนจริง
พี่เนย์เดินดูหนังสือภาษาเกาหลี ส่วนฉันไม่รู้จะทำอะไร เดินดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนมาหยุดอยู่ที่สมุดบันทึกเล่มเล็ก ลายดอกเดซี่ ฉันไม่ลังเลที่จะหยิบมัน
// เราควรจะมีสมุดบันทึกซักเล่ม ไว้เขียนถึงเขา ฉันไม่อยากให้ความทรงจำของเรามันหายไปตามกาลเวลา นับจากวันนี้ฉันจะเรียนบันทึกถึงเขา //
หลังจากที่เราจ่ายเงินที่เค้าเตอร์ ฉันกันพี่เนย์แวะไปหาอะไรทานแล้วก็กลับหอ
ทันที ที่ฉันกลับมาถึงห้อง ก็ไม่รอช้าที่จะลงมือเขียนบันทึกเรื่องราวทั้งหมดของเราลงไป
// ฉันไม่รู้หรอก ว่าคุณจะมีตัวตนจริงๆหรือเปล่า แต่ฉันก็อยากจะเชื่อว่าเรื่องราวของเรามันคือความจริง ฉันได้แต่หวังว่าขอให้คุณได้ไปเกิดใหม่และได้ใช้ชีวิตตามที่ตัวเองต้องการ ได้ทำตามฝันเหมือนที่คุณเคยเล่าให้ฉันฟัง ฉันอยากให้คุณมีความสุข ถึงจะมีแค่ฉันที่จำเรื่องราวทั้งหมดได้ ก็ไม่เป็นไร ........ฉันคิดถึงคุณเหลือเกิน รอยยิ้มและอ้อมกอดของคุณฉันยังจำมันได้เสมอ ฉันรักคุณ...... จียง //
ฉันเขียนเรื่องราวของเราทั้งหมดลงไปในสมุดบันทึก เรื่องราวตลอดเวลาที่เราเจอกัน และจากกัน และหลังจากนี้ี้
ตอนเย็นฉันกับพี่เนย์ ไปซื้อของมาทำเนื้อยางเกาหลีกินที่หอ ด้วยความที่แกเป็นคนชอบเกาหลี และชอบทำอาหาร ทำให้ฉันได้อานิสงในการชอบอาหารเกาหลีไปด้วย
และที่ฉันชอบกินมากที่สุดก็คงจะเป็นกิมจิค่ะ และแน่นอนค่ะ ว่าพี่เนย์แกทำกิมจิเป็น ฉันทึ่งในความรักเกาหลีของแกมาก
ประดุจเหมือนกับบ้านเกิดของแกเลยทีเดียวค่ะ แกเคยบอกฉันว่า ตอนแก่ อยากจะไปอยู่เกาหลี
ฉันไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่ค่ะ กับความรู้สึกการรักโอปป้าของแก และการเป็นติ่งเกาหลีของแก แต่เท่าที่ดูมันก็เป็นเรื่องที่ดี ที่ทำให้แกมีแรงผลักดัน และความฝันในชีวิต
หลังจากซื้อของเสร็จเราก็กลับมาทำอาการกันที่ห้อง เราช่วยกันจัดเตรียมจนเสร็จค่ะ ใช้เวลาไม่นานนักเพราะว่า นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราทำเนื้อย่างเกาหลีค่ะ
พี่เนย์ : “เดซี่โทรบอกพวกนั้นด้วยนะว่าเสร็จแล้ว เรียนเสร็จรีบมากิน”
เดซี่ : “ได้เลยค่ะเจ้”
ฉันทำเสียงประชดแกเหมือนเด็กเสริฟในร้าน พี่เนย์หันมามองแล้วยิ้มกับคำนั้น
ฉันโทรไปยัยเอม มาย บิ้ว และแยม ไม่ถึง 20 นาทีพวกมันก็โผล่มา พร้อมชุดนักศึกษาที่ยังไม่ได้เปลี่ยน
แยม : “เย้ วันนี้เนื้อย่างเกาหลี กำลังหิวพอดีเลยค่ะพี่เนย์คนสวย”
พี่เนย์ : “แหม พอเป็นเรื่องกินปากหวานเชียวนะ ปกติไม่เคยเห็นหน้าเลย”
แยม : “แหะๆ ช่วงนี้หนูยุ่งค่ะ”
เดซี่ : “หรา ไม่ใช่เพราะไปอยู่บ้านแฟนเหรอ”
แยม :“มึงนี้......รู้ทันกูอีกแระ”
มาย : “พวกมึงคุยกันไปนะ กูกินก่อนแระ”
บิว : “มึงนี้เหมือนตายอดตายอยากเลยนะ”
เอม : “พี่เนย์ เรียนจบไปเปิดร้านอาหารไหม เดี๋ยวพวกหนูไปเป็นเด็กเสิร์ฟให้”
เดซี่ : “อืมมม ใช่ๆ เหมาะมากเลยค่ะ เดี๋ยวหนูช่วยด้วยคนนะเจ้”
พี่เนย์ : “เดี่ยวเถอะ เจ้อีกแระนะ กิมจงกิมจิ ไม่ต้องกินมันแระนะ”
เดซี่ : “แงๆ หนูหยอกนะค๊า”
พวกเราพวกกินเนื้อย่าง อยากสนุกสนาน ทำให้ฉันหายเศร้าไปได้ซักพัก ฉันมองเพื่อนๆของฉันแล้วก็ได้แต่ยิ้ม
ถ้าไม่มีพวกเขาฉันก็คงต้องนั่งเศร้าและจนถึงตอนนี้ก็คงร้องไห้ยังไม่หยุดแน่ๆ
// ขอบคุณนะ....ทุกคน จียงคะ ฉันมีเพื่อนที่ดีมากๆเลยละ ฉันอยากให้คุณได้รู้จักพวกเขา //
นี้ก็ผ่าน 5 วันแล้วที่ฉันได้กลับมาเรียน หลายๆอย่างเริ่มเข้าที่
แต่ฉันยังไม่หายเศร้า ยังมีเหม่อลอย ใช่เพราะฉันคิดถึงเขา เวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ณ ที่แห่งนั้น มันไม่ใช่ระยะเวลาแค่ 1 เดือน เพราะฉันรู้สึกเหมือนมันนานมากๆ
ความผูกพันและความรักของเรามันไม่ได้เกินขึ้นแค่ 1-2 วัน มันมากกว่านั้น มันเลยยากที่จะทำให้ฉันลืมได้ ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันเองไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน หรือมีตัวตนจริงๆหรือเปล่า แต่ทำไมกันนะฉันกลับรู้สึกถึงเขาเสมอ
บิว : “เดซี่ เดซี่................ยัยเดล”
เดซี่ : “ห่ะ มีอะไร”
บิว : “กูเรียกมึงเป็นชาติแล้วนะ เป็นอะไร พักนี้มึงแปลกๆนะ เพราะเรื่องวันนั่นหรือเปล่า เมื่อไหร่มึงจะเล่าให้พวกกูฟังซะที ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
มาย : “นั้นซิ ถ้ามึงไม่เล่า พวกกูก็ช่วยปลอบมึงไม่ได้นะ”
เอม : “มึงสองคนก็อย่าไปคาดคั้นมันเลย มันอาจจะลำบากใจที่จะเล่าก็ได้”
แยม : “อืม ถ้ามึงอยากเล่าก็บอกพวกกูนะ กูอยู่ไหนก็จะรีบมาหามึงเลย”
ฉันคิดอยู่นานว่าควรจะเล่าดีไหม สำหรับคนอื่นมันอาจจะฟังดูเหมือนเรื่องเพ้อเจ้อไร้สาระ ฉันไม่อยากให้ใครมาหัวเราะเยาะเรื่องของเรา แต่สำหรับเพื่อนๆของฉัน ฉันอยากจะลองเชื่อใจในความห่วงใยของพวกเขาดู
เดซี่ : “ถ้ากูเล่า พวกมึงต้องสัญญากับกูก่อนว่าจะไม่ขำ ไม่ตลก เพราะกูซีเรียส”
มาย/เอม/แยม/บิว : “ได้ สัญญา!!!!!”
เดซี่ : “งั้นคืนนี้อาบน้ำเสร็จมาที่ห้องกูนะ กูจะเล่าให้ฟัง”
เวลา 20.00 ที่ห้องของฉัน
ทุกคนมาพร้อมเพียงกัน และตั้งใจที่จะฟังสิ่งที่ฉันเล่าจริงๆ ฉันย้ำกับทุกคนอีกครั้ง ว่าไม่ว่าจะคิดยังไง อย่าพูดออกมา แค่ฟังก็พอ รวมถึงพี่เนย์เองก็สัญญาว่าจะรับฟังอย่างเปิดใจ
ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนๆฟัง
เดซี่ : “เรื่องมันเริ่มมาจากที่กูประสบอุบัติเหตุ และนอนสลบไป 1 เดือน จากนั้นฉันพบว่าตัวเองตื่นมาในที่ที่นึง.............................................”
ฉันเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ทุกคนฟัง ตลอดเวลา 2 ชั่วโมง ไม่มีใครเลยที่จะไม่ตั้งใจฟัง
บ้างคนมีน้ำตาคลอกับเรื่องของฉันที่เกิดขึ้น ด้วยความที่เราเป็นคนพุธ เลยอาจจะทำให้ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเชื่อเรื่อง วิญญาณออกจากร่าง และไปยังที่ที่นึง
ฉันที่เล่าไปและร้องไห้ไป ทุกครั้งที่ได้กลับมานึกถึงหรือเล่าออกมา ฉันจะปวดใจและร้องไห้ทุกครั้ง
แต่ครั้งนี้มันเป็นความรู้สึกดีๆที่มีคนคอยรับฟัง หลังจากฉันเล่าจบ ทุกคนน้ำตาคลอ และเข้ามากอดฉัน และบอกกับฉันว่า พวกเขาเชื่อสิ่งที่ฉันพูด ถึงไม่รู้ว่าพวกเขาพูดจริงไหม แต่มันก็เป็นคำที่ทำให้ฉันน้ำตาไหลอีกครั้ง
พวกเขาปลอบฉันจนดึก หวังว่าฉันจะสามารถใช้ชีวิตที่ปราศจากความเศร้าได้ในซักวัน
จียง ถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่ หรือไม่ว่าอยู่ที่ไหน ฉันก็หวังว่าคุณจะมีความสุขอยู่ที่ไหนซักแห่ง
ความคิดเห็น