ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic NCT] - Anonymous - {MarkNo}

    ลำดับตอนที่ #4 : Anonymous: Chapter N

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 59


    Fiction MarkNo {Feat NCT}

     

    - Anonymous -

     

    Chapter: N

     

    “ออกจากวงไปซะ! ลี แทยง”

     

    ถ้อยคำสาปแช่งตะโกนมาจากที่ไหนสักแห่ง ไม่นานหลังจากนั้นมันก็กลายเป็นความวุ่นวายที่ก่อตัวขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ การ์ดกลุ่มหนึ่งกรูกันขึ้นไปบนเวทีเพื่อกันแฟนคลับออกจากฮยองไลน์ ในขณะที่การ์ดอีกกลุ่มหนึ่งเดินพล่านไปทั่วบริเวณด้านล่างพร้อมกับเสียงวอที่ดังปนเปกันไปหมด สิ่งที่เห็นตรงหน้าช่างดูสับสนและจับต้นชนปลายไม่ถูก ซ้ำร้ายกว่านั้นเสียงซุบซิบที่ได้ยินแว่วเข้ามาก็ทำให้มาร์คถึงกับตัวชาดิก

     

    “แก นั่นมันมาร์คไม่ใช่เหรอ หรือว่าเขาก็มาร่วมงานแฟนไซน์วันนี้ด้วย”

     

    “บ้าน่า มาร์คจะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง วันนี้ยูนิต Dream มีถ่ายรายการเพลงที่ยออีโดนี่นา”

     

    “แต่ว่าฉันจำไม่ผิดจริงๆ นะ เด็กผู้ชายคนนั้นคือมาร์คชัดๆ”

     

    เพราะแบบนี้สินะ... ดงวานฮยองถึงบอกว่าเขาไม่ควรมาที่นี่

     

    มาร์คเพิ่งจะเข้าใจคำพูดของลีเมเนก็ตอนนี้ เพราะถึงจะดั้นด้นมาถึงที่นี่เขาก็ไม่สามารถทำให้อะไรดีขึ้นได้ ยิ่งกว่านั้นสถานการณ์ในตอนนี้ดูเหมือนจะแย่ลงเรื่อยๆ แฟนคลับบางคนเริ่มส่งสายตาเคลือบแคลงสงสัยมองมาที่เด็กหนุ่มร่างโปร่ง ทว่าแทนที่ที่มาร์คจะรีบเดินหนีไปหรือทำอะไรก็ได้ที่จะทำให้ตัวเองไม่เป็นจุดสนใจ เขากลับยืนนิ่งอยู่กับที่

     

    ...อย่างคนที่ทำอะไรไม่ถูก

     

    หมับ!

     

    “มาร์คฮยอง รีบออกไปจากที่นี่เร็ว เริ่มมีแฟนคลับบางคนจำพวกเราได้แล้ว”

     

    เป็นเจโน่ที่เข้ามาฉุดแขนของพี่ชายร่างโปร่งให้รีบเดินออกมาจากบริเวณจัดงานแฟนไซน์ ความอบอุ่นจากฝ่ามือนุ่มนิ่มช่วยบรรเทาความกังวลของมาร์คให้คลายลงบ้าง ถึงอย่างนั้นก็ยังมีปัญหาใหญ่อีกหนึ่งอย่างที่มาในรูปแบบของผู้จัดการหน้าดุที่โผล่พรวดมาตัดวิถีทางเดินของพวกเขา

     

    “เจอตัวแล้ว พวกเด็กตัวแสบ นี่ถ้าดงวานไม่โทรมาบอก ทางนี้ก็คงไม่รู้ว่าพวกนายก่อเรื่องอะไรไว้บ้าง”

     

    “ไม่ได้ก่อเรื่องสักหน่อยครับ พวกเราก็แค่อยากมาเตือนพวกฮยองให้ระวังตัว... เท่านั้นเอง”

     

    ปลายเสียงของเจโน่แผ่วลงถนัดเมื่อถูกดวงตาคมกริบของฮวังเมเนปราดมองมา เห็นแบบนั้นแล้วมาร์คก็รีบดันคนเป็นน้องไปยืนข้างหลัง และเป็นเขาที่ออกมารับหน้าเสียแทน

     

    “มาแล้วมีประโยชน์อะไรรึเปล่า ต่อให้ที่นี่จะวุ่นวายแค่ไหน คนที่มีหน้าที่ก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และหน้าที่ของพวกนายตอนนี้คือการทำตัวเป็นพ่อพระเป็นห่วงชาวโลกเขาไปทั่วหรือยังไงกันแน่”

     

    “...”

     

    “ดงวานบอกว่าอีก 45 นาที จะมีนักข่าวจากจีนมาสัมภาษณ์ยูนิต Dream เป็นสกู๊ปพิเศษ คิดดูเองก็แล้วกันว่าพวกนายกำลังทำให้ใครเดือดร้อนบ้าง”  

     

    “ขอโทษครับ”

     

    เด็กหนุ่มตอบรับเสียงอ่อน ที่มาร์คยอมจำนนให้กับฮวังเมเนอย่างง่ายดายไม่ใช่ว่าเขาไม่ห่วงแทยงฮยอง แต่เด็กหนุ่มเพิ่งได้เรียนรู้ก็วันนี้นี่เองว่าต่อให้ห่วงมากแค่ไหน สิ่งที่เขาควรทำมากกว่าก็คือทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดต่างหาก

     

    “ไปที่รถซะสิ เดี๋ยวฮยองจะขับรถไปส่งพวกนายที่สถานีโทรทัศน์เอง”

     

    “ครับ ไปกันเถอะ เจโน่”

     

    ถ้อยประโยคหลังมาร์คหันไปบอกกับเจโน่ เป็นเพียงเสี้ยววินาทีที่หน่วยตาคมปรายมองไปทางเวทีแฟนไซน์ที่อยู่ด้านหลังพวกเขา และทันเห็นแทยงฮยองกับฮยองไลน์คนอื่นๆ ถูกเรียกลงไปด้านหลังเวที สีหน้าของแทยงฮยองดูไม่ดีสักเท่าไรถึงอย่างนั้นเด็กหนุ่มร่างโปร่งก็หวังว่าพี่ชายของเขาจะไม่เป็นอะไร

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “อย่างนั้นหรือ ตำรวจจับคนร้ายที่ปาไข่ใส่หน้าแทยงได้แล้วสินะ”

     

    “ได้ยินว่าเป็นแอนตี้แฟนที่เกลียดแทยงฮยองมาตั้งแต่เปิดตัวรุกกี้ใหม่ๆ ที่สำคัญดูเหมือนว่าจะเป็นคนเดียวกับที่ขุดคุ้ยเรื่องในอดีตของแทยงฮยองแล้วลากไปให้เนติเซนรุมซะกำก่อนหน้านี้ด้วย”

     

    “น่ากลัวเป็นบ้าเลยแฮะ”

     

    โดยองส่ายหน้าเบาๆ ให้กับท่าทีโอเวอร์แอคติ้งแสดงความกลัวของเมมเบอร์ชาวญี่ปุ่นอย่างยูตะ ก่อนร่างสูงโย่งจะลุกไปหยิบน้ำจากในตู้เย็น ในขณะเดียวกันฮยองไลน์คนอื่นๆ ก็ยังคงรวมตัวกันอยู่ที่โต๊ะทานข้าวและพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้

     

    อันที่จริงโดยองไม่ใช่เมมเบอร์ที่เข้าร่วมงานแฟนไซน์ที่อิลซาน แต่เขาก็พอจะเดาเรื่องราวคร่าวๆ ได้จากการพูดคุยกับแทอิลฮยองและยูตะฮยอง และอีกส่วนหนึ่งก็มาจากการที่โดยองบังเอิญได้ยินฮวังเมเนคุยโทรศัพท์กับใครสักคนระหว่างเดินกลับมาที่หอพัก

     

    “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีจดหมายสาปแช่งบ้าบอพวกนั้นส่งมาหาพวกเราแล้วสิ”

     

    “ขอให้เป็นแบบนั้นเถอะ ได้โปรด” สองคู่กัดต่างยูนิตอย่างเตนล์และวินวินหันมาสนับสนุนกัน ในขณะที่พี่คนโตอย่างแทอิลก็อดห่วงน้อยชายผู้โชคร้ายไม่ได้

     

    “ฮวังเมเนเข้าไปคุยกับแทยงในห้องตั้งนานแล้วยังไม่ออกมาเลย ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง”

     

    “ผมเป็นห่วงแทยงฮยองจัง~” วินวินเสริมขึ้นบ้างด้วยน้ำเสียงลูกเจี๊ยบอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัว

     

    “ก็คงเป็นเรื่องที่จับคนร้ายได้นั่นแหละ แทอิลฮยองอย่าทำหน้าเศร้าแบบนั้นสิครับ แทยงมีแจฮยอนอยู่ด้วยทั้งคน ยังไงต้องไม่เป็นไรแน่ๆ” ยูตะก็ยังคงเป็นยูตะ ซานนัมจาผู้มองโลกในแง่ดีเสมอ

     

    “ผมได้ยินมาว่ามาร์คกับเจโน่ไปงานแฟนไซน์ที่อิลซานวันนี้ด้วย มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า ยูนิตดรีมไม่ได้มีถ่ายรายการที่สถานีโทรทัศน์หรอกเหรอ”

     

    โดยองแสดงความเห็นขึ้นมาบ้างหลังจากเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับแก้วใบใสที่มีน้ำส้มบรรจุอยู่เต็มแก้ว เด็กหนุ่มหย่อนตัวลงนั่งตรงเก้าอี้ข้างๆ ยูตะตามเดิมก่อนจะเบนสายตาไปมองหน้าจอไอแพดที่เพื่อนชาวญี่ปุ่นกำลังไล่อ่านข่าวที่งานแฟนไซน์วันนี้ และก็เป็นอย่างที่คาดไม่มีข่าวเรื่องแอนตี้แฟนปาไข่ใส่หน้าแทยงฮยองออกมาให้เห็นแม้แต่ข่าวเดียว

     

    “ฉันก็ได้ยินสต๊าฟพูดมาแว่วๆ เหมือนกัน แต่ก็ไม่มีรูปหรือหลักฐานอะไรบอกว่าเจ้าเด็กพวกนั้นไปที่งานแฟนไซน์จริงๆ บางทีอาจจะถูกปิดข่าวไว้เหมือนกับข่าวที่แทยงถูกปาไข่ก็ได้ นายต้องไปได้ยินที่สต๊าฟพูดในงานวันนี้ดู โดยอง พวกเขาสั่งให้แฟนคลับลบทั้งรูป ทั้งรูปภาพ และถ้าใครพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็จะถูกตัดสิทธิ์ออกจากกิจกรรมทุกอย่างของ NCT

     

    “น่ากลัวชะมัด” ได้ยินยูตะพูดแบบนั้นแล้วเตนล์ก็ถึงกับบ่นอุบ ถึงอย่างนั้นเด็กหนุ่มก็อดปฏิเสธไม่ได้ว่านั่นเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ฉลาดมาก

     

    บทสนทนาของฮยองไลน์ดำเนินไปเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดลงเมื่อเสียงเอะอะโวยวายจากประตูด้านนอกบอกให้รู้ว่าพวกเด็กๆ ดรีมกลับมาจากกิจกรรมโปรโมทแล้ว มาร์คเป็นคนแรกที่ก้าวเท้าเร็วเข้ามา เด็กหนุ่มหันซ้ายแลขวาก่อนจะพุ่งตัวไปหาฮยองคนสนิทที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องพร้อมกับฮวังเมเนพอดิบพอดี 

     

    “แจฮยอนฮยอง! แทยงฮยองเป็นยังไงบ้าง”

     

    สิ่งแรกที่แจฮยอนทำคือผลักหัวของเจ้าเด็กหัวคาราเมลเบาๆ ราวกับจะเตือนให้มาร์คใจเย็นๆ ก่อน สิ่งที่ยังคงชัดเจนเสมอก็คือรอยยิ้มที่ยังคงเปื้อนอยู่บนใบหน้าของพี่ชายตัวขาวไม่ว่าจะยามสุขหรือยามร้ายพลอยทำให้คนเป็นน้องรู้สึกวางใจลงบ้าง

     

    “ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก แทยงฮยองแค่ต้องการเวลาคิดอะไรบ้างนิดหน่อย เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็กลับมาบ่นนายได้เหมือนเดิมแล้วล่ะ”

     

    “ผมขอโทษนะฮยอง ถ้าผมไปเตือนพวกฮยองให้เร็วกว่านี้ ก็คงไม่เกิดเรื่องบ้าๆ นี่ขึ้นกับแทยงฮยอง”

     

    “ไม่เอาน่า ไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้นแหละ เพราะฉะนั้นเลิกโทษตัวเองได้แล้ว” มาร์คทำหน้าเหมือนจะร้องไห้จนคนเป็นพี่อดไม่ได้ที่ยกฝ่ามือใหญ่ขึ้นลูบเส้นผมสีคาราเมลละเอียดราวกับจะปลอบโยน “ที่สำคัญเป็นห่วงตัวเองก่อนดีไหม ได้ข่าวว่าไปก่อเรื่องไว้ไม่ใช่รึไง”

     

    แจฮยอนพูดเหมือนรู้อะไรบางอย่างซึ่งก็คงไม่ผิดสักเท่าไรเพราะฮยองตัวขาวก็คงรู้เรื่องที่มาร์คก่อไว้จากฮวังเมเนมาไม่มากก็น้อย แตกต่างคนนอกวงอย่างโดยองที่กำลังเก็บรายละเอียดด้วยการมองคนอายุน้อยกว่าสลับไปมา

     

    “ผมคิดว่าตัวเองคงอดไปฮาวายกับฮยองแล้วล่ะมั้ง” มาร์คพูดเสียงเจื่อนขณะเกาท้ายทอยตัวเองแก้เก้อ เอาเข้าจริงเด็กหนุ่มก็ไม่กล้าหันไปถามฮวังเมเนสักเท่าไรว่าเขายังได้สิทธิ์ไปฮาวายกับพวกฮยองอยู่อีกรึเปล่า

     

    “ไหนๆ ตั๋วเครื่องบินก็จองไปแล้ว เรื่องทำโทษเอาไว้ทีหลังก็แล้วกัน”

     

    จนกระทั่งฮวังเมเนเปรยขึ้นมาเองนี่ล่ะ มาร์คถึงได้หายใจโล่งคอขึ้นมาหน่อย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    - Anonymous -

     

    ทริปไปพักผ่อนที่ฮาวายของบริษัทมีขึ้นในช่วงเย็นวันอาทิตย์ปลายเดือนสิงหาคมซึ่งรวบรวมศิลปิน ทีมงาน และคนเบื้องหลังกว่าร้อยชีวิตซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีมาร์ค แฮชาน และฮยองไลน์คนอื่นๆ ใน NCT รวมอยู่ด้วย พวกเขาใช้เวลาเดินทางจากเกาหลีใต้ไปฮาวายเกือบ 10 ชั่วโมงซึ่งเมมเบอร์ NCT ที่ตื่นเต้นกับการไปเที่ยวฮาวายมากที่สุดก็หนีไม่พ้นมาร์คกับเตนล์ สองพี่น้องที่เคยสัญญาว่าจะมาเที่ยวฮาวายด้วยกัน

     

    หลังจากทีมงานพาศิลปินเข้าไปเช็คอินที่โรงแรมแล้ว เมมเบอร์ NCT ก็ต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนที่ห้องของตนก่อนจะนัดเจอกันในอีก 30 นาทีต่อมาเพราะวันแรกของทริปเป็นวันที่ปล่อยฟรีสไตล์อยากจะทำอะไรหรือไปที่ไหนก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้นทั้งลีเมเนและฮวังเมเนก็ต่างย้ำเด็กในความดูแลให้รักษาภาพพจน์ของตัวเองด้วย เนื่องจากยังมีแฟนคลับบางส่วนตามมาสอดส่องถึงที่ฮาวาย

     

    “อันยองจ๊ะเด็กๆ แต่งตัวแบบนี้จะลงไปเล่นน้ำตั้งแต่หัววันเชียวเหรอ”

     

    มาร์คกับแฮชานเดินมารอคนอื่นๆ ตรงริมสระว่ายน้ำด้านข้างโรงแรมที่เป็นจุดนัดพบซึ่งระหว่างทางก็เจอกับสไตลล์ลิสนูนาเข้าพอดี โซมีนูนาดูจะถูกใจกับห่วงยางรูปเป็ดของแฮชานอยู่ไม่น้อย ในขณะที่ฮวายองนูนาหันมาพูดคุยกับมาร์คเสียงใส

     

    “มาทะเลทั้งทีก็ต้องลงไปเล่นน้ำสิครับนูนา ไม่อย่างนั้นคงเรียกว่ามาไม่ถึงฮาวาย”

     

    “แดดร้อนแบบนี้นูนาไม่เอาด้วยหรอก นูนากับโซมีเข้าไปเดินช็อปปิ้งดีกว่า”

     

    “ความจริงกลุ่มเราก็มีคนที่ไม่เล่นน้ำแล้วจะเข้าไปเดินเล่นในเมืองเหมือนกันนะครับนูนา นั่งไงครับ มาโน่นแล้ว”

     

    เด็กหนุ่มร่างโปร่งชี้ไปที่กลุ่มฮยองไลน์ที่เพิ่งลงลิฟท์ให้หญิงสาวอายุมากกว่าได้เห็นซึ่งแกงค์ที่จะไปเที่ยวในเมืองกับลงเล่นน้ำแบ่งการแต่งตัวกันอย่างชัดเจน อย่างกลุ่มที่ลงเล่นน้ำจะใส่ชุดบอดี้สูทว่ายน้ำเหมือนแจฮยอนหรือไม่ก็กางเกงผ้าร่มกับเสื้อยืดเหมือนยูตะกับแทยง ส่วนกลุ่มที่จะไปเดินเล่นในเมืองบางคนก็แทบจะยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าตัวที่นั่งเครื่องบินมาเลยด้วยซ้ำ

     

    “พวกนายจะเอาอะไรจากในเมืองรึเปล่า” แทอิลฮยองผู้แสนดีเอ่ยถามน้องๆ แกงค์เล่นน้ำซึ่งส่วนใหญ่ก็ส่ายหน้าเพราะยังนึกอะไรไม่ออก จะมีก็แต่แฮชานที่กระโดดเหย็งๆ อยู่ด้านหลังของกลุ่ม

     

    “ผมๆ ผมอยากได้เสื้อลายดอกมาใส่ให้เข้ากับชายหาด ทะเล สายลม แสงแดดน่ะฮยอง”

     

    “อ้าว แล้วตัวที่ยัดใส่กระเป๋ามาด้วยล่ะ” รูมเมทอย่างมาร์คเอ่ยถามอย่างเสียไม่ได้

     

    “ก็ตัวนั้นมันใส่แล้วคับนี่นา” แฮชานบ่นกระปอดกระแปดเรียกเสียงหัวเราะคิกจากเหล่านูนาได้มากทีเดียว จะมีก็แต่คนถามนี่ล่ะที่ส่ายหน้าไปมาอย่างระอา

     

    พวกเขาพูดคุยกันอีกนิดหน่อยก่อนที่แกงค์เล่นน้ำจะปลีกตัวไปก่อน เพราะแกงค์เดินเที่ยวในเมืองที่รวมโซมีกับฮวายองนูนาเข้าไปด้วยยังเสิร์ชหาสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองอยู่

     

    ตูม!

     

    แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวลงไปเหยียบพื้นทราย เสียงบางอย่างตกลงบนพื้นน้ำอย่างแรงก็ทำให้มาร์คและคนอื่นๆ หันกลับไปมองโดยอัตโนมัติ และสิ่งที่เห็นก็ทำให้เด็กหนุ่มเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ มาร์คตวัดฝีเท้าวิ่งกลับไปที่ริมสระว่ายน้ำเช่นเดียวกับแจฮยอน แทยอง ยูตะ และแฮชาน  

     

    “แทอิลฮยอง!

     

    “เกิดอะไรขึ้น!” แทยงสำทับถามเมื่อเห็นว่าทุกคนที่ยืนอยู่รอบสระดูเหมือนจะอึ้งตกใจไปตามๆ กัน

     

    “แหะๆ โทษทีๆ พอดีเดินไม่ระวังไปหน่อยน่ะก็เลยลื่นตกลงไปในสระว่ายน้ำ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า“

     

    แล้วก็เป็นฮยองคนโตของวงที่ช่วยแถลงไขให้ความอึดอัดรอบตัวค่อยๆ เจือจางลง โดยองที่ยืนอยู่ใกล้สระที่สุดก้มลงไปช่วยดึงแทอิลขึ้นจากน้ำท่ามกลางคำพูดเย้าแหย่ของแฮชานที่หวังจะคลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดลงบ้าง

     

    “แทอิลฮยองนี่ก็ซุ่มซ่ามอยู่เรื่อยเลยนะครับ”

     

    “โชคดีนะครับที่น้ำตื้น ฮยองก็เลยไม่เป็นอะไรมาก เพราะถ้าผมจำไม่ผิดแทอิลฮยองว่ายน้ำไม่เป็นนี่นา”

     

    “ฮะฮาฮ่าๆ นั่นสินะ โชคดีจริงๆ”

     

    แทอิลตอบรับคำพูดของโดยองด้วยน้ำเสียงที่แสร้งทำเป็นร่าเริง ขณะที่ในใจกำลังเฝ้าถามตัวเองซ้ำๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ว่ามันเป็นแค่ลื่นล้มตกลงไปจริงๆ น่ะหรือ คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกจนสุดท้ายความคิดวุ่นวายพวกนั้นก็ลอยหายกลายเป็นละอองอากาศเมื่อน้องๆ เข้ามารุมถามไถ่อาการด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

     

    จะมีก็แต่เด็กหนุ่มสองคนที่ยังยืนนิ่งอยู่กับที่ แจฮยอนเบือนสายตาไปมองสบกับคนรักตัวเล็กของเขาและสายตาที่แทยงตอบกลับมาก็สื่อความหมายอย่างเดียวกัน

     

    ...เหตุการณ์วันนี้มันเป็นแค่อุบัติเหตุจริงๆ น่ะหรือ

























    +++ TBC +++

     

    รู้สึกตอนนี้แต่งฟิคนิรนามเหมือนกับแต่งสารคดีของ NCT เข้าทุกวันค่ะ 555 เอาเป็นว่าใครอยากอ่านสารคดีของเด็กๆ ก็เร่เข้ามานะคะ เนื้อเรื่องอาจจะเครียดบ้างนิดหน่อยแต่จะคอยเติมความหวานให้ด้วยความน่ารักของน้องโน่นะคะ ส่วนตัวละครอื่นอาจจืดจางหรือหายไปบ้างนี่ขึ้นอยู่กับความเอ็นดูของคนแต่งจริงๆ ค่ะ


    มีปริศนามาให้ทายเล่นๆ  ถ้าทายถูกกันมิ้นจะอัพตอนใหม่ให้เสร็จภายใน 2-3 วันหลังจากทายถูกดีไหมคะ

    อย่างคำถามของแชปนี้ก็คือฟิคเรื่องนี้จะมีคร่าวๆ ทั้งหมดกี่ตอน ลองทายกันดูเล่นๆ นะคะ :)


    #ฟิคนิรนาม

    @plzforgetme_not

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×