คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : A-Ho :1: มาหาเพื่อนที่ถึงจะแก่แล้วยังเรียกเราด้วยชื่อเล่นกันเถอะ(1) [100%]
CHAPTER 1
Fake friends are like shadows, they follow you in the sun, but leave your side when it gets dark.
เพื่อนไม่แท้ก็เหมือนกับ"เงา" พวกนั้นตามคุณเมื่ออยู่ทามกลางแสงแดดแต่จากคุณไปเมื่อมันเริ่มมืด
“ที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้างยุนอา?”คนถูกถามเงยหน้าขึ้นจากจานอาหารก่อนจะส่งยิ้มหวานน่ารักให้ผู้เป็นพ่ออย่างสดใส
“สนุกค่ะ...มีชมรมให้เลือกเยอะแยะจนเลือกไม่ถูกเลย ^^”อิมแจบอมที่กำลังง่วนอยู่กับการยัด เอ้ย รีบรับประทานเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นน้องสาวอย่างสนใจใครรู้
“เหรอ แล้ว...มีเพื่อนหรือยังจ๊ะ”คุณนายอิมเอ่ยถามพร้อมกับ สาวน้อยพยักหน้าก่อนจะปั้นยิ้มสดใสให้ผู้เป็นมารดาก่อนจะนึกไปถึงเพื่อนใหม่สามคนที่เธอเพิ่งได้พูดคุยกันเมื่ออาทิตย์ก่อน
“เป็นคนสวยมากๆทั้งสามคนเลยด้วยค่ะ”
“เพื่อนนะใช่หาแฟนถึงต้องสนใจว่าสวยหรือไม่สวยน่ะ”อิมแจบอมหรือเรียกง่ายๆว่าเจบีส่ายหัวกับ
“แล้วหาแฟนเนี่ยต้องสนใจแต่เรื่องสวยหรือไม่สวยด้วยหรือไง...พี่นี่มองคนแต่หน้าตาจริงๆ”อิมยุนอามุ่ยหน้าก่อนจะเบะปากใส่พี่ชาย
“แน่นอนก็ดูนี่ ดูหน้าพี่ชายเธอซะก่อนหล่อขนาดนี้จะมีแฟนขี้เหร่ให้เสียชาติเกิดทำไม”คนหล่อยักคิ้วก่อนจะกอดอกยืดอย่างมั่นใจเหลือแสน
“พอๆ เลิกทะเลาะกัน...เราเองก็เถอะแจบอม อยู่ม.6 แล้วก็ตั้งใจเรียนดีๆหน่อยแล้วกัน”ผู้เป็นแม่ส่ายหัวอย่างอ่อนใจปนเอ็นดูกับสองพี่น้อง จะว่าไปก็ภูมิใจแฮะไม่รู้ว่าปั้นมาอีท่าไหนถึงได้หล่อสวยกันแบบนี้
พูดแล้วก็เขิน บ้าๆ -////-
“พี่อยู่ชมรฟุตบอลด้วยไม่ใช่เหรอ แล้วแบบนี้จะมีเวลาอ่านหนังสือเตรียมสอบมั้ยเนี่ย”ยุนอาเอ่ยถามอย่างสนใจใคร่รู้
“เฮอะ ระดับนี้ซะอย่าง...”ยักไหล่อย่างมั่นอกมั่นใจจนน้องสาวเริ่มจะเอือมระอา หมั่นไส้จนเผลอกำตะเกียบแน่นเพราะเกรงว่าจะกระโดดถีบยอดหน้าผู้เป็นพี่ชายน่ะสิ U_U
“จ้าพ่อคนรูปหล่อ...แต่มัวเอ้อระเหยอยู่แบบนี้จะดีหรอ มีซ้อมเช้านี่นา”คุณนายอิมส่ายหัวอย่างอ่อนใจในความมั่นใจของลูกชาย คนเอ้อระเหบสะดุ้งเฮือกเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองสายเข้าเสียแล้วเพราะมัวแต่เม้าท์มอยหอยแครงกับน้องสาว
“จริงด้วย! แกนะแกยุนอามัวแต่มาชวนคุยอยู่ได้...ผมไปก่อนนะแม่ พ่อ บาย~”บอกลาตามสไตล์ตัวเองแล้วก็ลุกพรวดออกไปพร้อมกระเป๋าเป้คู่ใจ (ที่ไม่มีหนังสืออยู่ในนั้น) ปล่อยให้คนถูกโบ้ยความผิดได้แต่อ้าปากค้าง
“คนชักช้าคือพี่เองต่างหาก!”ตะโกนไล่หลังก่อนจะสะดุ้ง “โอ๊ะ! หนูเองก็สายด้วยนี่นา...”ลุกพรวดขึ้นก่อนจะจัดการเสื้อผ้าให้เข้าที่
“เอ๋...นี่ยังเช้าอยู่นะลูก มีซ้อมเช้าหรอ”คุณนายอิมถามอย่างแปลกใจ
“อ๋อ...ต้องไปทำเวรเช้าน่ะค่ะ ไปก่อนนะคะแม่...”ยื่นหน้าไปหอมแก้มผู้เป็นแม่ก่อนจะเดินอ้อมไปหอมแก้มผู้เป็นพ่อ “ไปก่อนนะคะพ่อ...”
“จ้า ไปดีมาดี~”ยิ้มส่งลูกสาวแสนสวยที่วิ่งออกไปอย่างรีบเร่ง “อย่าไปพังข้าวของที่ไหนล่ะลูก...”ตะโกนกำชับคนที่วิ่งออกนอกประตูไปแล้วอย่างหวั่นใจ
เฮ้อ...คุณแม่ไม่อยากเสียตังค์ซ่อมอะไรอีกแล้วนะลูกนะ U_U
“เอ๊ะ...อ๋อ จะให้ฉันทำแทนก่อนเหรอ”
[อื้ม...พอดีเมื่อคืนฉันแชทกับหนุ่มโรงเรียนโอรินใต้เพลินไปหน่อย ขอโทษน้า เธอทำแทนส่วนของฉันให้ด้วยสิยุนอา...] เสียงปลายสายเอ่ยอย่างงัวเงียก่อนจะเพิ่มเลเวลความงัวเงียขึ้นไปอีกด้วยการหาวให้ได้ยิน
“ตะ...แต่ว่ามัน...”
[โธ่ยุนอา ฉันเป็นเพื่อนเธอนะเพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนสิ...] ยังไม่ทันได้แย้งอะไรปลายสายก็เอ่ยประโยคดักคอที่ทำเอาคนรักเพื่อนพูดไม่ออก
เฮ้อ ก็เธอมีเค้าเป็นเพื่อนคนแรกตั้งแต่เข้าม.ปลายมาเลยนี่นา
“ดะ...ได้สิ เดี๋ยวซอลฮยอนกับมินอาก็จะมาแล้วนี่นา...”ยุนอาตกลงรับปากอย่างจำยอมก่อนจะถอนหายใจก้มมองไม้กวาดและโต๊ะเรียนที่ต้องจัดให้เรียบร้อย
[อ้อเรื่องนั้นน่ะ...คือสองคนนั้นเองก็จะไปช้านะเธอทำไปก่อนเลยไม่ต้องรอพวกเราหรอก] ปลายสายเอ่ยบอกเสียงเนือยๆ
“แต่มันเยอะ...”
[เอาน่ายุนอา พวกเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ...] มาอีกแล้วประโยคที่ให้ตายก็ปฏิเสธไม่ได้ไม้ตายของเพื่อนสาวผู้เป็นเสมือนผู้นำของกลุ่มชินฮเยจอง
แต่ดูจะเป็นผู้นำระบอบเผด็จการโดยแท้เลย U_U
“ก็ได้...”ตอบเสียงอ่อยกวาดสายตามองรอบห้องด้วยสายตาเหมือนซินเดอเรลล่าที่ถูกแม่เลี้ยงใจร้ายโขกสับ
ไม่ได้สิจะไปคิดว่าเพื่อนตัวเองเป็นแม่เลี้ยงใจร้ายได้ยังไงกันอิมยุนอา
[ดีมากจ้าเพื่อนรัก...แค่นี้ก่อนนะเดี๋ยวจะไม่ทันไปร้านทำผมอีก...] ปลายสายวางไปโดยไม่ทันให้อีกคนได้ล่ำลา อิมยุนอาถอนหายใจก่อนจะเขกหัวตัวเองเบาๆหนึ่งทีเป็นการทำโทษตัวเอง
เป็นอย่างนี้ทุกทีเลยยัยทึ่มยุนอา U_U
เหตุผลที่เธอต้องทำความสะอาดห้องตอนเช้าแบบนี้เพราะเมื่อวันก่อนบังเอ๊ญบังเอิญสามสาวแก๊งชาลีแองเจิ้ล (ตั้งเองเออเองน่ะ) ดันถูกจับได้ว่าแอบเล่นโทรศัพท์ในห้องเรียนเลยโดนสั่งให้มาช่วยงานเป็นการไถ่โทษ
แล้วก็เดือดร้อนมาถึงเธอนี่ไง
“เขกหัวตัวเองตอนเช้านั่นเป็นเคล็ดที่ทำให้มีแรงเยอะหรือไง =__=”เสียงทุ้มเนือยๆที่เอ่ยทักทำให้เธอสะดุ้งก่อนจะหันไปมองตามต้นเสียง คิมยูคยอมกำลังยืนหน้าประตูด้วยท่าทางงัวเงียสุดฤทธิ์
“ทะ...ทำไมนายมาเช้าจัง”ยุนอารู้แต่ว่าเขาอยู่ห้องเดียวกับเธอและติดแบล็คลิสต์บุคคลที่ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าไปเข้าใกล้จะดีกว่าจากพี่ชายของเธอด้วย
เห็นบอกว่าเพราะหมอนี่อยู่ชมรมเดียวกับสามเพี๊ยนอะไรนี่แหละ =_=;
“คิมแทยอนน่ะสิ!”พูดแล้วก็โมโห ยัยพี่ตัวดีอยู่ดีๆก็ลุกขึ้นมาแหกปากร้องเพลงแต่เช้า จะไม่อะไรเลยถ้าแม่เจ้าประคุณไม่เดินเปิดประตูเข้ามาในห้องเขาแล้วมาแหกปากร้องเพลงอยู่ข้างๆหูเขาอย่างจงใจกวนประสาทสุดๆ
“อ่านเจอในเน็ตมาบอกเสียงเพลงยามเช้าทำให้อารมณ์ดีแจ่มใสไปทั้งวันแหละน้องรัก ^[++++]^”
อารมณ์ดีกับผีน่ะสิ! นี่ตูอารมณ์บ่จอยจนเกือบจะเผลอไปหักคอไอ้พวกชมรมฟุตบอลที่เตะบอลมาเฉียดกระเป๋าเมื่อไม่กี่นาทีก่อนเพราะเสียงหล่อนที่มันหลอนหูทำกระผมหงุดหงิดจนอยากจะตั๊นหน้าใครซักคนอยู่เนี่ยคุณพี่!
“เหอะๆ...”ยุนอาหัวเราะอย่างเข้าใจดีในฐานะคนมีพี่น้องเหมือนกันถึงเขาจะไม่พูดอะไรแต่ดูก็รู้ว่าพี่สาวที่ว่าคงมีอิทธิพลต่อใบหน้าอิดโรยนี่แน่ๆ
“โอ...เธอก็ไม่ได้โดนทำโทษไปกับพวกนั้นด้วยนี่นา...”ร่างสูงเหลือบไปเห็นไม่กวาดในมือเพื่อนร่วมห้องก่อนจะเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ ก็จำได้ว่าที่โดนมีแค่ยัยสามนกแก้วนั่น พูดถึงสามคนนั้นแล้วเป็นอะไรที่หลอนหูพอๆกับยัยปีศาจคิมแทยอน
ไม่อยากจะเม้าท์ว่าทั้งสามสาวช่างจ้อพูดกันน้ำไหลไฟดับพูดกับได้แทบจะทุกชั่วโมง พูดกันแต่เรื่องเพื่อนผู้ชาย นินทาดาวโรงเรียน เสื้อผ้าเครื่องสำอางค์บลาๆสารพัดจะพูด ผู้หญิงพวกนี้นี่ยังไงกันนะไร้สาระกันเหลือเกิน แต่จะไปว่าก็ไม่ได้
เพราะไอ้สามพาวเวอร์พัฟที่เจอทุกวันนั้นไร้สาระกว่ามากโข = =
“เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนน่ะ...”อิมยุนอายักไหล่ก่อนจะเริ่มยกเก้าอี้ลงจากโต๊ะ ร่างสูงไม่ถามอะไรต่อจากนั้นเพราะก็ไม่ได้อยากยุ่งเรื่องของใครเท่าไหร่กรอกตาเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจเดินไปยกเก้าอี้ที่โต๊ะประจำของตัวเองแล้วเอนตัวนอนฟุบอยู่บนโต๊ะ
ขอซักงีบก่อนนอนนะ
“อ๊ะ!”
โครม!
ร่างสูงสะดุ้งพรวดมองตามเสียงก่อนจะเห็นว่าเพื่อนร่วมห้องคนสวยกำลังถือเศษไม้ในมือด้วยท่าทางเหลอหลา พอมองตามสายตาไปที่พื้นก็เห็นว่ามีโต๊ะตัวหนึ่งล้มอยู่บนพื้นแถมไม้ที่เป็นหน้าโต๊ะแตกละเอียดอีกต่างหาก
“เผลอวางแรงไปหน่อย...”นะ...นี่แรงไปหน่อย? หล่อนใช้คำว่าไปหน่อยเหรอแม่คุณ นี่ถึงขนาดทำไม้แตกได้นี่หล่อนผ่อนแรงอยู่เหรอ!
เป็นเทพทำลายล้างสินะ
ปัง!
เป็นก็อตซิล่าแน่ๆ =[]=
“แรงไปอีกแล้ว...”
ตึง!
กรี๊ดด นี่จะทำลายทรัพท์สินโรงเรียนเหรอพี่ท่าน หยุดเถอะหยุดก่อนก่อนที่นักเรียนในห้องจะไม่มีโต๊ะนั่งเรียนกันซะก่อนน่ะ
“ดะ เดี๋ยว...”ห้ามไปจนได้ในที่สุดก็ออกปากห้ามจนได้ “เธอ เธอไปกวาดพื้นเถอะเดี๋ยวฉันยกเก้าอี้พวกนี้เอง U_U”
เพราะขืนให้หล่อนทำต่อไปต้องเป็นภัยพิบัติใหญ่แต่เช้าแน่ =_=;;
“นายเนี่ยใจดีจัง”ไม่ได้ใจดีหรอกเชื่อกระผมเถอะ แต่เป็นห่วงทรัพย์สินของโรงเรียนจริงๆ กลัวเหลือเกินว่าถ้าหล่อนยังจับมันอยู่ต้องเกิดหายนะอีกมากมาย U_U
“เอาไม้กวาดกับที่โกยมากวาดเศษๆพวกนี้ก่อนเถอะ...”ค่อยๆยกเก้าอี้วางที่พื้นก่อนจะก้มมองดูโต๊ะตัวที่พังด้วยสายตาเหมือนเห็นใจต่อสรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวง แม่คนพลังช้างสารนี่ก็สวยดีอยู่หรอก
แต่หายนะชะมัด...จดไว้ในแบล็คลิสต์ว่าต้องอยู่ให้ห่างอย่างน้อยหนึ่งเมตร!
“เอ้านี่...กรี๊ดแมลง!”
เป๊าะ
เรื่องเหลือเชื่อได้เกิดขึ้นมาอีกครั้งเมื่ออยู่ดีๆแมลงวันจากไหนก็ไม่รู้บินเข้ามาใกล้ส่งผลให้ยัยคนสวยพลังช้างตรงหน้าตกใจเผลอกำไม้กลาดในมือแน่นจนหักคามือ
“=_=;;;”
“หักอีกจนได้....แย่จัง”ไม่ต้องมาทำเสียงแบบนั้น แล้วไม่ต้องมาปั้นหน้าเป็นสาวแบ๊วเอากำปั้นชนหัวแล้วแลบลิ้นแบบการ์ตูนสาวน้อย บอกเลยหล่อนห่างจากสาวน้อยไปไกลมาก!
“เห็นนู่นมั้ย...”ชี้มือไปยังโต๊ะมุมห้องซึ่งเป็นโต๊ะของเขาเอง “ไปนั่งอยู่ตรงโน้นนะ นั่งนิ่งไม่ต้องจับต้องอะไรอีก”
แล้วอย่าพังโต๊ะเขาด้วยนะแม่คุณ!
“ขอบคุณจริงๆนะคิมยูคยอม...”อิมยุนอาโค้งขอบคุณเป็นรอบที่สิบของเช้าวันนี้เมื่อเพื่อนร่วมชั้นตัวสูงจัดการพวกข้าวของที่พังแถมทำความสะอาดให้ ซ้ำยังไปรายงานอาจารย์เพื่อขอโต๊ะใหม่แทนเธออย่างใจเย็น
ถ้าไม่มีเขาเธอคงแย่แน่
“แล้วว่าไงคุณชินฮเยจอง ควอนมินอา คิมซอลฮยอน...ทำไมคุณอิมยุนอากับคิมยูคยอมซึ่งไม่ได้ถูกทำโทษถึงได้เป็นคนทำความสะอาดเช้านี้แทนที่จะเป็นพวกคุณ”ปาร์คกาฮีอาจารย์สาวสวยสุดเนี๊ยบเอ่ยถามด้วยเสียงเย็นยะเยือก ยุนอาสะดุ้งเฮือกหันไปยังทิศทางที่เพื่อนๆกำลังยืนเรียงกันหันหน้าเข้าหาโต๊ะอาจารย์อยู่
“คือพวกหนู...”มินอาหันไปมองอีกสองสาวที่เหลือท่าทางเลิกลัก
“คืออะไร?”
“หนูอาสาเองค่ะอาจารย์ คือฮเยจองไม่ค่อยสบาย...”ยุนอายกมือขึ้นเสนอตัวด้วยท่าทางหวั่นกลัว “หนูเองก็มาเช้าเป็นปกติ”
“ไม่สบาย แต่มีเวลาไปเข้าร้านทำผม?”คุณครูสาวจับเส้นผมสีน้ำตาลเข้มสลวยที่ผ่านการสระไดร์มาอย่างดีของนักำเรียนสาวขึ้นมาก่อนจะเลิกคิ้ว “โฮ่...นี่แต่งหน้ามาด้วยอีกต่างหาก”
ยุนอากัดริมฝีปากแน่นก่อนจะหันไปมองสามสาวที่หันมามองเธอด้วยสายตาเชิงตำหนิมาก่อนอยู่แล้ว ทำเอาคนสวยหน้าซีดก้มหน้ามองพื้นด้วยความรู้สึกผิด
“ยังไงก็แล้วแต่...ครูจะตัดคะแนนพวกเธอด้วย แล้วก็เย็นนี้ขัดห้องน้ำหญิงตึกA พวกเธอสามคนต้องขัดเองจริงๆนะอย่าให้รู้ว่าให้คนอื่นทำอีก...”ส่ายหัวอย่างอ่อนใจกับนักเรียนทั้งสามก่อนจะโบกมือน้อยๆ “ไปได้...ส่วนยุนอากับยูคยอมขอบใจนะที่อุตส่าห์มีน้ำใจ แต่ครั้งนี้ห้ามเด็ดขาด”
ยูคยอมยักไหล่น้อยๆเพราะใจจริงเขาก็ไม่ได้คิดจะช่วยอยู่แล้วแค่พอดีว่าถ้าไม่ยื่นมือเข้าไปก็เกรงจะไม่ใช่แค่โต๊ะพังอาจจะเกิดตึกถล่มขึ้นมาเลยก็ได้ คนอะไรแรงช้างชะมัด
“ค่ะ/ครับ”รับคำก่อนจะโค้งอำลากันทั้งคู่ แต่เมื่อเปิดประตูมาก็เห็นแม่สามสาวยืนกอดอกรออยู่แล้วด้วยใบหน้าถมึงทึง
“เธอนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆยุนอา เห็นมั๊ยพวกฉันเลยต้องไปขัดห้องน้ำเลย!”มินอาขมวดคิ้วยุ่งก่อนจะต่อว่าต้นเหตุที่ทำให้เธอถูกดุ ยูคยอมแค่มยิ้มอย่างนึกปลง น้อยๆหน่อยแม่คุณทั้งหลาย เดิมทีนี่ก็เป็นงานของหล่อนนะโว๊ยทำไมตูกับยัยนี่ต้องมาเดือดร้อนเพราะหล่อนนึกอยากจะไปทำผมก่อนมาโรงเรียนด้วยห้ะ!!
“ขอโทษ”แม่คนนี้ก็อีกคน เห็นๆอยู่ว่าตัวเองต่างหากที่เดือดร้อนเพราะยัยพวกนี้...ส่ายหัวอย่างอ่อนใจกับความหัวอ่อนของคนข้างๆก่อนจะเบี่ยงตัวเดินหนีไป
“นายก็เหมือนกันยูคยอม...แค่นี้ก็ต้องไปฟ้องอาจารย์ด้วยเหรอ”ฮเยจองหัวหน้าแก๊งนกแก้วเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูงกว่าอย่างเอาเรื่อง ประเดี๋ยวนะแม่คุณไม่ได้คิดจะฟ้องหรือบอกใครหรอกถ้าไม่ต้องไปขอโต๊ะใหม่น่ะ
“ใช่ยุ่งชะมัด...”มินอาที่เปลี่ยนเป้าหมายจากยุนอามาเป็นชายหนุ่มตรงหน้า เอาจริงๆพวกเธอก็คิดว่าเขาน่ารักจัดว่าหน้าตาดีเกินมาตรฐานทั่วไปขึ้นมาแหละนะเพียงแต่เขามันมนุษยสัมพันธ์แย่ ชอบทำหน้าเหม็นเบื่อใส่พวกเธอ
ซึ่งพวกเธอก็จะไม่ง้อเหมือนกัน!
“แค่นายไปทำตัวน่าอายอยู่ชมรมบ้าๆอะไรนั่นก็ไม่มีใครอยากจะคบอยู่แล้ว...คิดจะเอาหน้าล่ะสิหึ”คิมซอลฮยอนส่ายหัวก่อนจะกอดอกเหมือนคนอยู่เหนือกว่า
“ขอโทษเถอะ...พวกเธอน่ะสมควรโดนแล้ว งานตัวเองแท้ๆแต่โยนให้คนอื่นทำแบบไร้ความรับผิดชอบ”ยูคยอมส่ายหัวอย่างอ่อนใจ ก่อนจะเดินเบี่ยงตัวหลบสามสาวแล้วล้วงกระเป๋าเดินไปด้วยท่าทางไม่หยี่ระ สามสาวเบ้หน้าใส่เพื่อนร่วมชั้นก่อนจะชะงักเมื่อคนตัวสูงหันมามองพวกเธอด้วยสายตาเย้ยหยัน “แล้วก็นะ...เลิกไปทำผมร้านที่เธอไปทำวันนี้ซะนะ กลิ่นเหมือนแชมพูหมาขิงบ้านฉันเลย เกือบโยนกระดูกให้แทะแหน่ะJ”
“แก!...”สามสาวกำหมัดกัดฟันแน่นเพราะถูกหยาม ก่อนจะมองหน้ากันเลิกลักจับผมมาดมอย่างไม่มั่นใจ “นี่เป็นแชมพูจากฝรั่งเศษเชียวนะยะไอ้บ้า!!”
“ขอบคุณนะ!”ยุนอาตะโกนไล่หลังเพื่อนร่วมชั้นตัวสูงแต่คนถูกขอบคุณทำแค่ยกมือโบกไปมาน้อยๆด้วยมาดเท่
“ไปขอบคุณมันทำไม นี่เธอคิดจะเข้าข้างมันเหรอยุนอา!”คนขี้เกรงใจหุบปากที่ยิ้มแย้มฉับลงทันทีก่อนจะหันไปมองฮเยจองที่มองเธอด้วยสายตาน่ากลัว “เธอก็เหมือนกัน...กล้าปล่อยให้หมอนั่นไปฟ้องครู จริงๆก็อยากเอาหน้ากับครูแล้วทำให้พวกฉันถูกทำโทษเพราะปล่อยเธอทำคนเดียวใช่มั้ยล่ะ”
“ไม่ใช่นะ!...ฉันแค่ซุ่มซ่ามและเพราะเขาเป็นคนดีเลยช่วยฉันเท่านั้นเอง...”
“ถ้างั้นก็ไปคบกับมันเลยสิอย่ามาคบกับพวกฉัน!”มินอาสะบัดหน้าก่อนจะเดินผ่านคนที่กำลังก้มหน้าน้ำตาคลออย่างหัวเสีย ก่อนที่สาวๆคนอื่นจะตามกันไปติดๆโดยไม่วายทิ้งสายตาเสียดสีมาให้เธอ
“เดี๋ยวสิ...”
“ไปให้พ้นๆเลยตอนนี้ฉันเบื่อหน้าเธอจะแย่แล้ว...ไอ้เราก็คบไว้เพราะนึกว่าจะมีประโยชน์กว่านี้ แต่เธอทั้งซื่อบื้อซุ่มซ่ามสร้างแต่ความเดือดร้อน...”ยุนอาสะดุ้งเฮือกเมื่อฮเยจองหันมามองเธอด้วยสายตาเย็นชาก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปอย่างไม่ใยดีเธอเลยซักนิด ยุนอายืนนิ่งตัวแข็งค้าง
มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ...
คิมยูคยอมสงสัยมาได้ซักพักแล้วว่าทำไมตัวเอง
ต้องมาทำอะไรแบบนี้.... =__=
“กระตือรือร้นหน่อยยูคคุง~”เสียงแหบหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของคนตายิ้มที่กำลังยิ้มแย้มร่าเริงโบกมือให้เขาอย่างสดใสทั้งที่มืออีกข้างกำลัง
ถอนวัชพืช...
นี่มันงานของภารโรงไม่ใช่หรือไงฟะ! ตาลุงนั่นคิดจะอู้แล้วเนียนมาให้พวกเขาทำอย่างนั้นเหรอ แล้วอีกสองคนนั้นจะถอนยันดอกไม้ในแปลงทำไมตาถั่วมองเป็นวัชพืชเร๊อะ พวกหล่อนเองก็โดนถอนไปด้วยเลยไป!
“มองอะไร! นี่นายคงไม่ได้มองกางเกงในพี่สาวใช่มั๊ยไอ้น้องชาย...ลืมใส่กางเกงซับมาซะด้วย...โฮ่นี่น้องชายฉันถึงวัยนั้นแล้วเหรอเนี่ย แย่ล่ะสิเพิ่งรู้ว่าน้องชายเราก็ชอบรูท*พี่สาวสินะจะทำยังไงดีเนี่ย”พูดมาได้หน้าไม่อาย ใครมันจะไปอยากดูไอ้กางเกงในสีเขียวสะท้อนแสงของหล่อนกันฟะ แล้วอย่ามาทำหน้าทำตาเหมือนกำลังคิดเรื่องเพ้อเจ้อแบบการ์ตูนลามกที่หล่อนชอบอ่านนะโว๊ย
“โอ้...ไม่น่าเชื่อเลยนะยูคคุง”แล้วก็อย่าไปเชื่อเค้าจะได้มั๊ย มันต้องไม่ใช่อยู่แล้วสิจะมีใครในโลกนี้คิดบัดสีกับพี่สาวของตัวเองกัน ยิ่งโดยเฉพาะพี่สาวที่บ้าบอแบบนี้น่ะ!
“ค้ำคอร์**...”รุ่นพี่ซันนี่ก็อย่าไปร่วมวงด้วยอีกคนจะได้มั๊ย!
“นี่นะเมื่อวันก่อนเห็นเข้ามาหยิบตะกร้ากางเกงในใช้แล้วของฉันด้วย...คงต้องเอาไปฮืดฮาดๆคนเดียวในห้องแน่ๆ”คิมแทยอนทำท่าหันไปกระซิบกระซาบกับทิฟฟานี่ฮวังด้วยสีหน้าจริงจังสุดๆ แต่โทษทีครับคุณพี่นี่กระซิบกันดังมาถึงตรงนี้เลยครับพวกหล่อน
แล้ววันนั้นตูจะเอาไปซักครับโดนแม่จิกหัวใช้มาอีกทีครับหยุดมโน!
“งั้นดีล่ะ เราจะประชุมกันว่าด้วยเรื่องหาวิธีหยุดเรื่องค้ำคอร์ของน้องชายก่อนจะเลยเถิด”ไม่ต้องหยิบมาประชุมอะไรทั้งนั้นพวกแกน่ะ ช่วยอย่ามาทำเรื่องเพ้อเจ้อในหัวพวกหล่อนให้มันเหมือนเรื่องจริงจังที่เป็นวาระระดับชาติจะได้มั๊ยกระผมชักขนลุกกับความจริงจังในเรื่องไม้ป็นเรื่องของพวกหล่อนแล้วครับ
แล้วก็นะจะมาหยุดเรื่องกระผมช่วยหยุดปัญหาเรื่องความเสื่อมในสมองและสติสตังของพวกหล่อนก่อนเถอะยัยพวกบ้า!
เพลียจะตบมุขแล้วนะพวกแก!
หนีจากพวกสามต๊องไปหลบมุมอยู่ข้างๆเครื่องขายน้ำอัตโนมัติที่ตั้งอยู่ขนาบข้างกับประตูเข้าตึกชมรมซึ่งอยู่ไม่ห่างจากแปรงดอกไม้ของโรงเรียนเท่าไหร่ก่อนจะกดเลือกน้ำอัดลมเย็นๆมานั่งกินที่มานั่งดับอารมณ์อยากกระโดดถีบพี่สาวตัวเองให้เจ้าหล่อนเอาไปมโนเป็นตุเป็นตะอีก
ระหว่างกำลังกร่นด่าความเพ้อเจ้อของพี่สาวอยู่ในใจก็เหลือบไปเห็นเพื่อนร่วมห้องคนสวยกำลังนั่งกินขนมปังจากร้านค้าในโรงเรียนด้วยท่าทางหง็อยๆอยู่ม้านั่งฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นตึกเรียนอย่างน่าสงสาร คงจะทะเลาะกับยัยนกแก้วพวกนั้นสินะ
ทำเป็นไม่สนใจแล้วหันไปมองสามต๊องที่ตอนนี้เลิกถอนวัชพืชมาถกประเด็นกันอย่างจริงจังก็ชักอยากจะเดินไปถวายมะเหงกให้คนละโป๊กสองโป๊ก เขามาทำอะไรอยู่กันนะ แทนที่จะได้เข้าเรียนม.ปลายเป็นนักเรียนธรรมดาเล่นกีฬาบ้างไปไหนมาไหนกับเพื่อนบ้างต้องมาติดแหง็กอยู่กับพวกบ้าที่วันๆเอาแต่ทำตัวบ้าบอไปเรื่อย
พอหันไปมองทิวทัศน์ไอ้ตาเจ้ากรรมก็ดันเหลือบไปมองคนที่กัดขนมปังทั้งน้ำตาเข้าจนได้ ยัยนี่ก็อะไรของเค้ากันนะทำอย่างกับไม่มีสามคนนั้นแล้วโลกจะถล่มอยู่ตรงหน้า
น่ารำคาญแต่จะยอมให้ระบายด้วยก็ได้!
“ทำหน้าอย่างกับโลกจะถล่มอยู่ตรงหน้า...”อิมยุนอาเงยหน้าขึ้นมองตามร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้า เพราะแสงแดดที่สะท้อมเข้ามาจึงต้องยกมือขึ้นมาปิดแสงก่อนจะหรี่ตามองใบหน้าที่ย้อนกับแสงแดดเพื่อดูว่าเป็นใคร
“คิมยูคยอม...”
“โดนยัยสามคนนั่นดุอะไรมาหรอถึงมาทำหน้าแบบนี้อยู่ตรงนี้เนี่ย”ยักไหล่ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆคนที่กำลังนั่งถอนหายใจเหมือนคนดวงตก “ถอนหายใจมากๆเค้าว่าจะเอาโชคดีออกจากตัวนะ”
“ฉันน่ะตั้งแต่ประถมก็แทบไม่มีเพื่อนเลย...เพราะสวยเกินไป”อยู่ๆก็รู้สึกหมั่นไส้จนอยากจะถวายมะเหงกให้คนข้างๆตะหงิดๆ =_=^
ก่อนจะเปลี่ยนมาข่มใจนั่งฟังเงียบๆเพราะตั้งใจไว้แล้วว่าจะมาฟังที่ยัยนี่ระบายซะ
“ทุกคนเอาแต่จับกลุ่มแล้วทิ้งฉันไว้ข้างหลัง บ้างก็หมั่นไส้ปล่อยข่าวลือต่างๆนา....พอสามคนนั้นเข้ามาคุยด้วยก็เลยดีใจมาก...”จะว่าเข้าใจก็เข้าใจแต่ก็ไม่ข้าใจอยู่ดี คิมยูคยอมเป็นคนง่ายๆสบายๆเลยมีเพื่อนเยอะและที่สำคัญไม่มีผู้ชายคนไหนคิดเรื่องจุกจิกอย่างหน้าตา แล้วก็ไม่แคร์เรื่องพวกนี้มากนัก
กับผู้หญิงคงต่างออกไปล่ะมั้ง
“แล้วพอมีเพื่อนกับเขาทั้งทีก็อยากจะทำให้ดีที่สุด...แต่ฉันคงมีเพื่อนแบบคนอื่นไม่ได้สินะ? ก็ฉันน่ะทั้งบ้าพลัง ซุ่มซ่ามแล้วก็เงอะงะทำอะไรไม่ถูกที่ถูกทางไปเสียหมด”สบตาคนตัวสูงที่กำลังมองเธออย่างสับสนก่อนจะเบือนสายาไปยังเสียงเอะอะของสามสาวทางแปลงดอกไม้ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับที่พวกเขานั่งอยู่
“ฉันน่ะไม่เข้าใจเธอหรอก...ที่เธอพูดมาทั้งหมดนั่นไม่ใช่เหตุผลของการไม่มีเพื่อนซักหน่อย เพราะถ้าแค่เธอแรงเยอะหรือซุ่มซ่ามหรือเพราะสวยแล้วมันจะทำให้หาเพื่อนไม่ได้ยัยพวกนั้นคงมานั่งอมทุกข์แบบเธอตรงนี้แล้ว...”ยุนอามองสามคนที่กำลังเล่นหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ทั้งสามคนเป็นผู้หญิงที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสวย
แถมยังสวยมาก!
และทั้งๆที่ผู้คนในโรงเรียนต่างมองพวกเธอแปลกประหลาดและเป็นตัวตลกแต่ทั้งสามคนก็ยังใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน หัวเราะ และยังคงเป็นตัวของตัวเอง
“ถ้าการมีเพื่อนแล้วต้องมานั่งกังวลไม่เป็นตัวของตัวเองล่ะก็ฉันไม่มีซะดีกว่า...”ยูคยอมยักไหล่อย่างไม่หยี่ระ “แล้วก็นะยุนอา...สิ่งที่เธอต้องโทษไม่ใช่หน้าตาที่สวยของตัวเองหรือแรงเยอะหรือแม้แต่ซุ่มซ่ามอะไร...เธอควรจะโทษที่เซ้นท์การคบเพื่อนของตัวเองมากกว่า”สำหรับเขายุนอาไม่ได้มีข้อบกพร่องและไม่มีใครในโลกนี้บกพร่องเกินกว่าจะมีเพื่อนหรอก เพียงแต่ว่าอิมยุนอาคนนี้ดันไปให้ความสำคัญกับกลุ่มเพื่อนที่ไม่ได้เหมาะกับเธอเลยแม้แต่น้อย
ไม่ใช่สามคนนั้นไม่ดีหรืออะไรนะ แต่ยุนอาไม่ใช่แนวทางแบบนั้น
ยัยสามสาวเห็นเธอเป็นเบ๊ชัดๆฟันธงเลย =_=
“ยูคคุง~…”หันไปตามเสียงเรียกก็เห็นคนตาหวานกำลังโบกมือมาทางนี้อย่างร่าเริงพร้อมกับวิ่งเข้ามาใกล้ๆ ด้วยสภาพที่มอมแมมเต็มที่ นี่สาบานดิว่ามาถอนวัชพืชไม่ได้เอาตัวไปคลุกวัชพืชน่ะคุณหัวหน้าชมรม “พวกเราต้องเอาวัชพืชพวกนี้ไปเทที่ถังนะ...มายกไปเร็วๆสิ”
ไม่ใช่แค่สามสาวนกแก้วที่เห็นยุนอาเป็นเบ๊หรอก
ยัยพวกนี้ก็เห็นเค้าเป็นเบ๊ด้วยแน่ๆ!
“นั่นคุณทิฟฟานี่ที่ใครๆก็พูดถึงสินะ...”ยุนอามองไปยังคนที่กำลังโบกมือเรียกเขาด้วยตาเป็นประกาย ไม่อยากจะรู้เลยว่าไอ้พวกใครๆที่ว่ามันพูดถึงไปในแง่ไหน
แบบว่าพอจะเดาคำตอบได้ในใจ
“พอเห็นตัวเป็นๆแล้วสวยจริงๆด้วย”ปกติหล่อนเห็นจากโปสเตอร์รึไงถึงไม่เคยเห็นตัวเป็นๆคุณประธานชมรมนี่น่ะ ออกจะทำตัวเป็นสัมภเวสีเร่ร่อนทำท่าทางประหลาดๆไปรอบโรงเรียนทุกเช้าเชียวนะ!
“โอ้...หลังจากค้ำคอร์แล้วก็จะมาสร้างรูทสาวสวยด้วย ร้ายนะร้ายนะ~”คนหน้าหวานที่เดินเข้าใกล้หรี่ตามองเขาอย่างล้อเลียน ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนั้นโว๊ย ไม่ได้ทั้งค้ำคอร์แล้วก็ไม่ได้สร้างรูทอะไรทั้งนั้นแหละคุณพี่ครับ! “ชื่ออะไรหรอ”
“ยุนอาค่ะ อิมยุนอา”แนะนำตัวเองก่อนจะโค้งให้รุ่นพี่สาวอย่างนอบน้อม อิมยุนอาเพิ่งเคยมีโอกาสได้เห็นคนสวยแบที่สวยมากๆแบบตัวเป็นๆใกล้ๆจะๆแบบนี้ครั้งแรกเพราะสวยมากจะเห็นแต่ในกระจก #หืม
“โอ้ ชื่อน่ารัก~…”ยูคยอมรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่บนสวรรค์ ไอ้รัศมีฟรุ้งฟริ้งวิ้งวับที่แว๊บเข้ามาในหัวตอนสองสาวนี่คุยกันทำให้รู้สึกเหมือนเห็นนางฟ้าสองคนกำลังพูดคุยกันในสวนแห่งสรวงสวรรค์
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ”อิมยุนอาปิดปากหัวเราะอย่างเขินอาย
บรรดานักเรียนที่ผ่านมาเห็นต่างพากันตกอยู่ในภวังค์เมื่อเห็นภาพทั้งสองกำลังหัวเราะคิกคักพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
“ยูคคุงนี่แฟนหรอ แฟนใช่ม้า~…”เกือบจะเออออตกลงไปแล้วเพราะไอ้ภาพวิ้งวับของรอบยิ้มหวานตรงหน้า ไม่ชินเลยจริงๆไม่เคยชินกับความสวยขนาดนี้ซักทีต่อให้คลุกคลีอยู่กันมาได้ซักพัก เกือบจะล่องลอยเตลิดไปไกลแล้ว
ถ้าไม่ติดว่า
“ถ้ารวมแทยอนด้วยก็3Pสินะเนี่ย...”3Pบ้า3Pบออะไร นี่ตกลงหล่อนเป็นผู้หญิงลามกสินะถึงได้ถามอะไรมาได้ด้วยหน้าตาไร้ยางอายแบบนี้ แล้วก็เลิกยัดเยียดให้เขาชอบพี่สาวตัวเองได้แล้วโว๊ย บอกแล้วไงว่าไม่เคยคิดไม่เคยพิศวาส
“สามพี!...=[]= ….อันที่จริงก็ไม่เกี่ยงหรอกนะคะแต่ว่ามัน... -//-..”แล้วหล่อนจะไปตอบรับพร้อมทำท่าบิดไปบิดมาขวยเขินทำไม! ปฏิเสธโว๊ยแบบนี้เขาให้ปฏิเสธ
“ร้ายจริงๆ ร้ายจริงๆ~...”ทุกสายตาหันมาจับจ้องเขาเหมือนกำลังมองโรคจิต แอบรู้สึกถึงประกายแห่งความอำมหิตเล็กจนขนลุกซู่
“เพื่อนครับเพื่อน เพื่อนร่วมชั้น!...แล้วก็ไม่สวิงกิ้งอะไรทั้งนั้นไม่ได้รักคิมแทยอนด้วย”อยู่คนหน้าหวานก็มองเขาด้วยสายตาแบบที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดตะลึงงัน
“นายเกลียดพี่สาวอย่างนั้นเหรอ...นายคิดว่าแทยอนกำลังจะแย่งสมบัติที่ควรเป็นของนายสินะ นายคิดว่าพี่สาวคือตัวขัดขวางการได้รับสืบทอดจากครอบครัวของนายงั้นเหรอ...ไม่ได้นะยูคคุง พี่น้องจะต้องรักกันไว้”ไปใหญ่แล้วโว๊ย หล่อนชักจะมโนได้ใหญ่เกินเหตุไปแล้วนะแม่คุณ
“ไม่ใช่ครับ...คือไม่ใช่ไม่รักครับ...”
“ซึนเดเระ***! เพราะกลัวความรักที่เป็นไปไม่ได้ถึงได้คอยเอาแต่ปฏิเสธและต่อต้าน...”หล่อนดูหนังมากไปมั๊ยแม่คุณ เลยเถิดแล้ว เลยเถิดไปใหญ่แล้วโว๊ย!
“ไม่นึกมาก่อนว่านายต้องเจ็บปวดขนาดนี้ เรื่องของฉันดูเล็กไปเลย...”แล้วแม่คุณครับไม่ต้องไปเชื่อเรื่องที่ผู้หญิงไร้สาระคนนี้พูดก็ได้ จะจับมือกระผมไปกุมอย่างเห็นอกเห็นใจแบบนั้นทำไม! ไม่ใช่เรื่องจริงโว๊ย
อิมยุนอา เธอจะเริ่มเสียสติตามพวกนี้ไปทำไม!!
แล้วสุดท้ายก็จบที่ยุนอามาช่วยเขาแบกตะกร้าซึ่งพวกรุ่นพี่บอกว่าแบกไม่ไหวกันสองคน ทิฟฟานี่ขอบคุณยุนอาด้วยการชวนเธอไปนั่งจิบน้ำชาด้วยกันที่ห้องชมรมซึ่งหนีไม่พ้นเขาที่ต้องคอยชงชารวมถึงหาขนมมาให้ทั้งสี่ทานเป็นของว่าง
“ยูคยอมกับคุณแทยอนเนี่ยเป็นพี่น้องที่สนิทกันจังเลยนะคะ...อยู่ชมรมเดียวกันอีกต่างหาก”อยากจะบอกเหลือเกินว่าจริงๆแล้วโดนบังคับยัดเยียดมา
แต่ก็ดูจะอนาถกับตัวเองที่ไม่มีพาวเวอร์มากเกินไป
“บอกแล้วหมอนี่เป็นซิสค่อน****...”แล้วคุณรุ่นพี่ซันนี่ครับ! กรุณาเลิกยัดเยียดให้ผมเป็นไอ้โรคจิตซักทีเถอะขอร้องล่ะ
“ไม่ใช่ครับรุ่นพี่!”ยัยรุ่นพี่ตัวเล็กสัดส่วนกระทัดรัดนี่เป็นผู้เป็นคนที่สุดแต่ทำไมถึงยังทำตัวเออออตามน้ำกับคนพวกนี้ไปได้ ตกลงนี่คุณเจ๊จงใจแกล้งผมสินะครับ
รู้เรื่องรู้ราวแต่ตีเนียนเพื่อแกล้งกันสินะครับ!
“ฮ่าๆ”ยุนอาหัวเราะจนเกือบจะเห็นไปถึงลิ้นไก่ เสียงหัวเราะที่ดูสนุกสนานจนคนอื่นหัวเราะตามไปด้วยทำให้บรรยากาศรอบข้างดูสนุกสนานไปหมด ทิฟฟานี่ยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนจะมองรุ่นน้องตรงหน้าด้วยสายตาเหมือนผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก
“เปิดให้หน่อย~…”แทยอนที่เงียบไปได้ซักพักเพราะมัวนั่งเปิดกระปุกคุ๊กกี้ที่ฝืดจนเปิดยากจนแทบหมดแรงเลยส่งให้น้องชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ยูคยอมรับมาเปิดก่อนจะปาดเหงื่อเล็กน้อยเพราะกระปุกมันเปิดยากกว่าที่คิดทำให้ยุนอาซึ่งนั่งอยู่ข้างๆยูคยอมอีกทีดึงมาเปิดให้
“ยุนอาเนี่ย...แข็งแรงแบบนี้นี่ดีจัง”คนถูกชมสะดุ้งก่อนจะยกมือปิดปากด้วยความเขินอาย ที่ถูกคนสวยตรงหน้าชม
“ไม่หรอกค่ะ ฉันแรงเยอะเกินไปด้วยซ้ำ”แล้วก็เปลี่ยนมาสลด
“แข็งแรงน่ะดีแล้วรู้มั๊ย ^^…เห็นมั๊ยล่ะในห้องนี้ไม่มีใครเปิดมันได้ด้วยซ้ำ”ยุนอาเอียงคอมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นคนตายิ้มยังคงหัวเราะ “ถ้าใช้ถูกที่ถูกเวลาจะต้องกลายเป็นตัวช่วยที่ดีของเพื่อนๆแน่ๆ”
ทิฟฟานี่ไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้นและปล่อยให้รุ่นน้องคนสวยนั่งอยู่ก่อนที่เจ้าตัวจะหันไปสนใจโทรศัพท์ที่มีข้อความเข้าแทน ยุนอาชะงักและคิดตามที่รุ่นพี่ว่าก่อนจะเหลือบมองสามสาวที่ต่างคนต่างก็หันไปสนใจวุ่นวายกับธุระของตัวเอง
ดวงตาหวานก้มมองคราบเปื้อนในมือก่อนจะหันไปมองกล่องคุ๊กกี้ที่วางอยู่
“โอ๊ะ...เย็นป่านนี้แล้ว...”ยุนอาสะดุ้งน้อยๆเมื่อเหลือบไปนอกหน้าต่างก็เห็นว่าท้องฟ้าเริ่มครึ้มๆเสียแล้ว อย่างที่คนว่ากันเวลาแห่งความสนุกมักผ่านไปเร็วกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เย็นจนได้เวลากลับบ้านแล้วจนได้
รู้สึกอิจฉาคิมยูคยอมนิดหน่อยที่ได้มาสนุกสนานแบบนี้อยู่ทุกวัน
ส่ายหัวไล่ความคิดแปลกๆก่อนจะลุกขึ้นยืนโค้งให้สามสาวที่โบกมือส่งเธออย่างร่าเริง “ลานะคะ”
“ถ้าเหงาก็แวะมาเล่นได้นะ”ทิฟฟานี่ยิ้มกว้าง
“ขอบคุณสำหรับขนมนะ”หันไปโบกมือลาเพื่อนร่วมชั้นก่อนจะวิ่งกลับไปที่ตึกเรียนเพื่อไปเอากระเป๋าที่วางไว้ที่โต๊ะเรียน เพราะถ้าไปช้าได้ถูกคุณพี่ชายจิกกัดที่ปล่อยให้รออีกแน่ๆ
ลับหลังยุนอายูคยอมหันมายิ้มน้อยๆเมื่อเห็นว่าเพื่อนร่วมชั้นที่เซื่องซึมเมื่อกลางวันตอนนี้ร่าเริงขึ้นมาหน่อยแล้ว ถึงจริงๆจะเป็นการแก้ปัญหาจากปลายเหตุก็เถอะ
“ฮั่นแน่...ยูคคุง~”รุ่นพี่ตายิ้มทำหน้าล้อเลียนก่อนจะหันไปพยักเพยิดกับซันนี่ที่กำลังทำท่าจะเอ่ยปากล้อเลียนอยู่เหมือนกัน
“พอเลย คิดไปถึงไหนเนี่ย...”กรอกตาอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองก็ต้องรีบกลับบ้านเหมือนกันเพราะต้องไปซุปเปอร์ฯซื้อวัตถุดิบทำอาหารเย็นให้ยัยพี่สาวที่ไร้ซึ่งความเป็นกุลสตรีที่นอนกลิ้งเกลือกอยู่ตรงนี้
นี่มันไม่ใช่หน้าที่ของน้องชายไม่ใช่หรอ!
“ไปแล้ว...เย็นนี้จะกินอะไรล่ะ...”
“อะไรก็ด้ายยย~...”ตอบด้วยน้ำเสียงเนือยๆขณะที่กำลังนอนอ่านการ์ตูนพลางกินคุ๊กกี้อย่างสบายอารมณ์ คงจะหลุดเข้าสู่โลกการ์ตูนไปแล้วถามไปก็เท่านั้นรีบชิ่งดีกว่า
อยู่กับคนพวกนี้มากๆเข้าก็ไม่รู้ว่าจะต้องคอยรับมุขอะไรพวกหล่อนอีก!
ปลีกตัวออกจากห้องมาเงียบๆ ระหว่างเดินไปห้องเรียนก็มองบรรยากาศช่วงเย็นของโรงเรียนไปด้วย เพราะยังไม่ถึ่งกับมืดค่ำจึงยังมีนักเรียนอยู่ส่วนนึงกว่าครึ่งเป็นบรรดานักกีฬาที่กำลังซ้อมกันอย่างเอาเป็นเอาตาย และมีบ้างพวกที่กำลังนั่งอ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมชมรม
ชะงักน้อยๆเมื่อเห็นว่ายุนอาที่น่าจะเดินนำเขามาซักพักแล้วกำลังยืนแอยอยู่ตรงผนังข้างๆประตูห้องไม่ยอมเข้าไป
“สลัดยัยนั่นไปได้ก็ดีเหมือนกัน...อุตส่าห์เห็นว่าน่าจะช่วยงานได้ แค่ให้ทำความสะอาดแทนแค่นี้ยังทำเสียเรื่อง...”เพราะเดินเข้ามาใกล้พอสมควรจึงได้ยินเสียงคนคุยกันดังมาจากในห้องอย่างชัดเจน
“นี่นะเคยได้ยินมาว่ามีผู้ชายมาสารภาพรักตั้งแต่วันเข้าเรียนน่าหมั่นไส้ชะมัด...”ภายในห้องเรียนยังคงคุยกันเจื้อยแจ้วโดยไม่รู้เลยว่าเจ้าของบทสนทนากำลังยืนฟังพวกหล่อนพูดถึงตัวเองด้วยถ้อยคำแย่ๆ
ทั้งน้ำตานองหน้า...
loading
** ค้ำคอร์ - ค้ำคอร์ เป็นวลีย่อยกำเนิดมาจาก"ศีลธรรมมันค้ำคอ"เป็นสภาพที่เราต้องทนกลืนน้ำลายยอมรับและหักใจตัวเอง เนื่องจากมันเป็นการกระทำที่ผิดสามัญสำนึกขั้นรุนแรง Cr.ไร้สาระนุกรม
***ซึนเดเระ (ツンデレ) - เป็นคำจำกัดความของบุคลิกภาพแบบหนึ่งที่มักจะปรากฏในอนิเม และมังงะ มักจะแสดงอาการในแบบที่มักจะเรียกกันว่า "รักนะ แต่ไม่แสดงออก" หรือมักจะมีอาการ "ปากไม่ตรงกับใจ"
**** ซิสค่อน (siscon) - พวกนิยมชอบพี่สาวตัวเองหรือน้องสาวตัวเอง
TALK //
100% --- ก่อนอื่นขอโทษเอลวิสทุกคนก่อนน้าา แต่ยืนยันเลยว่าสาวๆจะมีตอนของตัวเองมาให้เห็นด้านน่ารักๆแน่นอน T^T แต่ยัยสามต๊องนี่เป็นขาจิ้นสินะจิ้นดะจิ้นมั่วจิ้นไปเรื่อย 55555555
70%--- ตกลงจะมีใครฟังยูคคุงเค้าบ้างม๊ายยย โธ่ลูก...น่าสงสารจริงๆ 55555555555 ยัยรุ่นพี่คิดเองเออเองแล้วดันมีแนวร่วมด้วยช่วยคิดอีก ตอนมันยาวๆจังค่ะหั่นๆไปไว้ตอนหน้าบ้างดีมั๊ย แบบว่ามันยังเหลือเนื้อหาของตอนนี้อีกเยอะเลย T^T
50% --- คือเรื่องนี้เป็นแนวประเภทมีตัวละครปรากฎมาเรื่อยๆนะคะ แต่หลักๆจะมีอยู่สามพวกคือห้าคนในชมรม สภานักเรียน แล้วก็บรรดาตัวละครประจำเลยไม่รู้จะทำแนะนำตัวละครแบบไหนดี เรื่องนี้ความจริงอาจจะเป็นยูคฮาเร็ม #ห้ะะะ แหมก็มันน่าจิ้นเนาะตั้งแต่ยุนอา คุณพี่สาว ประธานนักเรียน เลขาปากจัด ยังมีโมเม้นมาให้จิ้นกันสลับคู่สนุกเลยค่ะตราบใดที่ยังไม่ปักธงอย่างแน่ชัด สงสัยจะโบกธงกันสนุกเลย ฮาาาา แล้วประโยคสุดท้ายนั่นยูคยอมแอบซึนใช่มั๊ยนายแอบซึนใช่มั๊ยยย โมเอะไปล้าววว
10% ---- งานมั่นหน้าต้องยกให้พี่น้องบ้านนี้ น้องยุนนั่ลลักกกก สาวๆสามคนไม่ได้ร้ายนะคะไม่ต้องห่วงไป ตอนนี้อาจจะน่าหมั่นไส้ไปบ้างแต่พวกเธอจะมีตอนเป็นของตัวเองที่มาหักลบกลบไปบ้าง ยูคยอมน่าสงสารอีกแล้ว ชีวิตเจอแต่คนประหลาด มาหล่อๆแป๊บเดียวก็ต้องมาตบมุขละ โอยยย นี่เอาตัวละครมาทรมานสินะ 'คิมยูคยอมปักธงเบ๊Flag'ฮาาาาาา แล้วเจอกันที่เหลือนะคะ จุ๊บ~ >3<
แล้วเจอกันค่ะ :)
◈ H E & H E◈
ความคิดเห็น