NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จักรวาลหมุนรอบความสุข (Spin off เล่มพี+เขตต์)

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 3 ✿ ความสุขของคนมีแฟนแสนดี

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ย. 67


     

    3

    ความสุขของคนมีแฟนแสนดี 

     

    ช่วงเช้าวันมงคลสมรส

    เนเปอร์วิลล์ รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา

    จันทร์จ้าวตื่นตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ของวันนี้เพื่อมาช่วยเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาวบางคนแต่งหน้าแต่งตัว ลอเรนผู้ซึ่งเป็นเจ้าสาวเป็นน้องสาวคนเล็กของคุณพ่อ ดังนั้นเธอจึงมีศักดิ์เป็นคุณอาทางสายเลือดของจันทร์จ้าว 

    งานแต่งคุณอาสาวคนสนิททั้งที แน่นอนว่าจันทร์จ้าวกับขอพรต้องมาร่วมงาน ขอพรเองก็เคยเจอลอเรนอยู่บ้างในช่วงที่หล่อนแวะมาเที่ยวประเทศไทย 

    การมาอเมริกาคราวนี้ของจันทร์จ้าวไม่เหมือนการมาเยี่ยมคุณปู่คุณย่าตามปกติที่ผ่านมา เพราะนอกจากนายหน้ามึนอย่างขอพรจะมาด้วยแล้ว ยังมีคุณพ่อคุณแม่ของชายหนุ่มที่บินลัดฟ้ามาด้วย ความจริงเรื่องนี้เริ่มต้นเพียงแค่เพราะขอพรเอ่ยปากว่า...ถ้าให้คุณพ่อคุณแม่ของเขามาเยี่ยมทางบ้านของจันทร์จ้าวด้วยคงดีนะ แล้วเธอจะว่าอะไรได้ล่ะ ชอบเสียอีกที่ครอบครัวจะได้รู้จักกันไว้

    กระจกโต๊ะเครื่องแป้งบานโตในห้องแต่งตัวขนาดใหญ่สะท้อนภาพลอเรนกำลังมองใบหน้าของหล่อนเองอย่างภูมิใจ ด้านหลังเป็นหลานสาวคนสวยที่วันนี้มารับบทเป็นช่างเสริมสวยกำลังยืนยิ้มมีความสุขกับผลงานแต่งแต้มที่เพิ่งเสร็จเรียบร้อย

    “สวยไหมคะลอเรน อยากแต่งตรงไหนเพิ่มไหม”

    “สวยมาก ชอบมากเลยจ้ะ ปกติแต่งหน้าเบา ๆ พอเป็นเจ้าสาวแล้วได้แต่งหน้าเยอะที่สุดในรอบปีเลย” 

    ลอเรนบอกหลานสาวเป็นภาษาอังกฤษ ครอบครัวฝั่งคุณพ่อของจันทร์จ้าวไม่มีใครพูดภาษาไทยได้สักคนนอกจากคุณพ่อ ซึ่งก็ไม่ได้พูดเก่งมากนัก ไทยบ้างอังกฤษบ้าง จันทร์จ้าวจึงสนทนาด้วยภาษากลางอย่างอังกฤษกับทุกท่านเสียมากกว่า

    ชั้นบนของบ้านคุณปู่คุณย่าในเช้าวันนี้ครึกครื้นกว่าปกติที่เป็นเพราะเต็มไปด้วยบรรดาแขกเหรื่อผู้ร่วมงาน คร่าว ๆ นั้นมีครอบครัวของจันทร์จ้าว คุณพ่อคุณแม่ของขอพรและเจ้าตัว เขตต์ที่บินมาเที่ยวพอดีตามคำที่ขอพรชวนจึงถือโอกาสแวะมารับงานเสริมเป็นตากล้องให้คุ้มค่าตั๋วของทริปนี้ พ่วงมากับทีมงานสองคนและจูเนียร์ที่มาช่วยแต่งหน้าแต่งตัวให้บรรดาเพื่อนเจ้าสาวคนสวยทั้งหลาย พูดได้เต็มปากว่าช่วงเช้าค่อนข้างวุ่นวาย โชคดีที่บ้านคุณปู่คุณย่าหลังนี้ค่อนข้างใหญ่ รับรองแขกได้สบายจึงไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าบรรยากาศแออัดนัก...ยังดีหน่อยที่ไม่ต้องเร่งรีบทำทุกอย่างให้ทันกำหนดการ เพราะกว่าจะถึงเวลาเข้าโบสถ์กันก็ตั้งบ่ายสองนู่นแน่ะ

    “ถ้าลอเรนพอใจแล้วจะไปแต่งตัวเลยไหมคะ”

    “ก็ดีจ้ะ” ลอเรนยิ้มรับแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้ง เดินเข้าไปในห้องแต่งตัวที่มีชุดเจ้าสาวสวยงามเรียบง่ายแขวนเอาไว้ หลานสาวคนสวยรีบจัดแจงเก็บเครื่องสำอางลวก ๆ ประมาณหนึ่งแล้วเดินตามอาสาวเข้าไปด้านใน 

     

     

     

     

     

    งานแต่งถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายที่โบสถ์ใกล้เคียงละแวกบ้าน บ่าวสาวเห็นตรงกันว่าอยากจัดงานแบบส่วนตัวจึงเชิญเฉพาะแขกคนสำคัญของสองครอบครัวเท่านั้น ภายในโบสถ์ถูกเนรมิตให้กลายเป็นงานแต่งงานธีมสีขาว น้ำตาลเปลือกไม้ ทอง และแดงสลับกันไป ดูอบอุ่นเรียบง่ายเข้ากับฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาวในอีกไม่นาน 

    ช่วงเวลากล่าวคำสาบานเป็นช่วงเวลาที่จันทร์จ้าวชอบที่สุด เธอตั้งใจฟังบ่าวสาวพูดถ้อยคำลึกซึ้งเหล่านั้นจนขอพรที่นั่งอยู่ข้างกันลอบมองพร้อมอมยิ้ม 

    “ถึงลอเรนที่รัก, ผมอาจจะไม่ค่อยได้พูดคำหวานซึ้งกับคุณมากนักในช่วงเวลาที่เราคบกัน แต่ในวันนี้เป็นวันสำคัญ ผมอยากกล่าวคำเหล่านี้ให้คุณฟัง และบอกให้โลกรู้ว่าคุณเป็นคนที่มีคุณค่าสำหรับผมขนาดไหน 

    ในโลกที่มีแต่เสียงดังและความวุ่นวาย ลอเรนเป็นความสบายใจของผม ขอบคุณที่เข้ามาเป็นความสงบ เป็นความรักในชีวิตของผม 

    ลอเรนเป็นคนน่ารัก ฉลาด และใจดี เธอมักเอาใจใส่คนรอบข้างเสมออย่างจริงใจ ตั้งแต่รู้จักกันมาผมสัมผัสได้ว่าการมีเธอมาอยู่ข้างกายนั้นคือเรื่องที่โชคดีที่สุดขนาดไหน ต่อให้ไม่ถูกลอตเตอรี่ผมก็คงไม่เสียใจเพราะผมคงใช้โชคดีไปกับการมีคุณในชีวิตหมดแล้ว 

    ลอเรน, ขอบคุณที่คอยให้กำลังใจในวันที่ผมท้อแท้หมดหวังและคิดว่าตนเองไม่ดีพอ ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันในทุก ๆ ย่างก้าวเดิน และผมอยากจะขอให้คุณอยู่กับผมในก้าวต่อ ๆ ไป

    ผมสัญญาและสาบานว่าจะรัก ดูแล ทะนุถนอมคุณและความรักของเราสองทั้งในยามสุข ยามทุกข์ ยามแข็งแรงและป่วยไข้ จะรัก จะดูแลคุณให้ดีที่สุดเสมือนสิ่งล้ำค่าหนึ่งอย่างในชีวิต...เสมอไป

    จากแดเนียล”

    คำสาบานของฝ่ายเจ้าบ่าวทำให้คนตั้งใจฟังอย่างจันทร์จ้าวเผลอน้ำตาคลอหน่วยตามอย่างอบอุ่นใจ

    บางครั้งจันทร์จ้าวเคยลองขบคิดเล่น ๆ ในใจว่าวันงานแต่งของเธอเองจะออกมาหน้าตาเป็นแบบไหน ในวันนั้นเจ้าบ่าวของเธอจะพูดคำสาบานว่าอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าคิดมากมายเกินไปกว่านั้น กลัวว่าจะเป็นเพียงแค่ฝันกลางวันของตนเพียงคนเดียว 

    “เธอ...เป็นอะไร” ชายหนุ่มผู้นั่งข้าง ๆ เอ่ยถามด้วยโทนเสียงอบอุ่น อมยิ้มเล็กมุมปากกับสายตาเอ็นดูถูกส่งมาโดยคนเอียงคอมองจ้องขณะที่การประกอบพิธีการในโบสถ์ยังคงดำเนินต่อไป

    “มันซึ้งใจน่ะสิ” จันทร์จ้าวตอบขอพร ขอบตาขึ้นสีแดงเรื่อเล็กน้อย

    “เอ็นดู” เขายิ้มกึ่งหัวเราะพร้อมกับหยิบทิชชูในกระเป๋าใบเล็กของหญิงสาวออกมาซับน้ำตาแผ่วเบาให้เธอ จากนั้นเจ้าตัวจึงคว้ามันไปซับเองต่อ ขอพรเพียงแค่ยิ้มมองด้วยแววตาหวานละมุน 

    จันทร์จ้าวคบกับขอพรมาย่างเข้าปีที่แปดแล้ว ใช่ว่าชายหนุ่มไม่เคยคิดเรื่องแต่งงาน 

    คิด...แต่ไม่เคยถามต่างหาก 

     

     

     

     

     

     

    ของเหลวสีอินทนิลเข้มในแก้วไวน์อย่างดีไหลลงลำคอระหงรวดเดียวหมดค่อนแก้ว ต่อจากนั้นไม่ถึงนาทีก็มีบริกรในงานเดินมากลางฟลอร์เต้นรำเพื่อรับภาชนะใสนั้นไปวางในถาดแล้วเดินจากไป ขอพรมองหญิงสาวหุ่นทรงนาฬิกาทรายตรงหน้าตนอย่างเหลือเชื่อถึงขั้นเผลอทำหน้าเหวอออกมา เขายังจับมือเธอไม่คลาย พารองเท้าผ้าใบขยับไปตามจังหวะเพลงที่บรรเลงในงาน จันทร์จ้าวส่งยิ้มแป้นชอบใจมาให้ราวกับคืนนี้เธอจะดื่มไวน์ชั้นเลิศเยอะแค่ไหนก็ได้ในเมื่อบ้านพักอยู่ห่างจากสถานที่จัดเลี้ยงเพียงไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้น แถมยังมีคนขับรถพากลับบ้าน ปลอดภัยหายห่วงจนไม่ต้องกังวลอะไร

    สมกับเป็นยายตัวแสบเลยนี่นะ

    หลังจากเสร็จพิธีการที่โบสถ์ก็มาจัดเลี้ยงกันต่อที่บ้านจัดเลี้ยงละแวกใกล้ ๆ ท้องฟ้าด้านนอกเปลี่ยนจากสีชมพูแซมแสดน่ามองเป็นสีทึบที่ทำให้ไฟของสถานที่จัดเลี้ยงงานแต่งสวยยิ่งกว่าเดิม ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มครึ่ง พวกเขากำลังเต้นรำกันอยู่บนฟลอร์ เท้าหลายคู่ก้าวย่ำไปข้างหน้าบ้างถอยไปด้านหลังบ้างตามจังหวะเพลง เขาและเธอเองก็เช่นกัน

    ขอพรขบคิดอย่างขำขันว่าเพลง Leave me alone - Boy Pablo ในเวลานี้มันช่างเข้ากับหญิงสาวตรงหน้าเสียเหลือเกิน 

     

    ~

    I don't wanna go home, I'm fine right here, leave me alone

    'Cause I just wanna dance and be in the zone, eat some candy

    Just leave me alone, 'cause I just wanna...

     (ฉันไม่อยากกลับบ้านเลย ฉันอยู่ที่นี่ก็ดี ปล่อยฉันไว้คนเดียวสิ

    เพราะฉันแค่อยากจะเต้นโดยไม่สนเรื่องใดอีก กินลูกอมเหล่านี้

    แค่ปล่อยฉันไว้คนเดียวสิ เพราะฉันไม่อยากจะ...) 

    ~

     

    แววตาหวานเยิ้มของชายหนุ่มผู้ลอบอมยิ้มมองหญิงสาวในชุดเดรสสายเดี่ยวสีน้ำตาลเปลือกไม้ฉายชัด เขายกแขนขึ้นสูงในจังหวะที่จันทร์จ้าวหมุนตัวจนกระโปรงผ้ามันขลับพลิ้วไปตามการขยับ จากนั้นจบด้วยการก้าวเข้าประชิดตัวเจ้าหล่อนแล้วใช้ท่อนแขนแกร่งช้อนเอวคนทำท่าจะเซเสียหลักหงายหลังเอาไว้

    “เมาแล้วหรือไง”

    “มั่วเถอะ...ยัง” จันทร์จ้าวตอบกลับเสียงใสพร้อมกับช้อนนัยน์ตาดุแฝงความขี้อ้อนมองกลับมา ดูแค่นี้ยังรู้เลยว่ายายนี่ดื้ออยู่เหมือนกันนะ ฝ่ามือเล็กของเธอกำเสื้อคอวีสีขาวของคนรักเป็นหลักยึดไว้

    “แน่ใจ? ...ถ้าเมาพีทิ้งไว้ที่นี่เลยดีกว่า”

    คิ้วดกดำที่ถูกปัดตั้งเรียงเส้นของคนในอ้อมแขนแกร่งย่นเข้าหากันเล็กน้อยก่อนจะคลี่ยิ้มราวกับท้า “ถ้ากล้า...ก็ได้” พร้อมยักคิ้วให้และทำหน้าดื้อใส่เขา 

    ชายหนุ่มหรี่ตาลงพินิจเธอเล็กน้อย เอียงคอนิดหน่อยราวกับกำลังคิดอยู่ สุดท้ายมุมปากของเขาก็คลี่ยิ้มเล็ก ๆ ที่ดูขี้อายแต่กลับแฝงไปด้วยความเจ้าชู้พร้อมส่งสายตาเอ็นดูมาให้ เล่นเอาคนตาโตต้องหลบตาวูบไปเพราะจู่ ๆ หัวใจก็อุ่นวาบขึ้นมา

    “หึ” ขอพรหัวเราะในลำคอพร้อมมะเหงกลงบนปลายจมูกของจันทร์จ้าวเบา ๆ ความคิดข้างในใจเขากำลังบ่นเธออยู่ว่ายายตัวดี จากนั้นก็พยุงจันทร์จ้าวให้กลับมายืนตัวตรงดี ๆ

    ส่วนจันทร์จ้าวเวลานี้...กำลังครุ่นคิดเช่นกัน

    อาจจะเป็นเพราะแอลกอฮอล์หรือเปล่านะที่ทำให้ขอพรหล่อขึ้นกว่าปกติ...เป็นสองเท่า 

    แววตากลมโตของคนแก้มขาวลอบมองเขา คบกันมาแปดปีแล้วทำไมเราถึงยังเขินแฟนอยู่อีก...ตกหลุมรักกันทุกวันของจริง 

    จันทร์จ้าวรู้ดีแก่ใจว่าคนอย่างขอพรหรือผู้ชายที่ชื่อย่อเคพีไม่มีทางทิ้งเธอไว้ข้างถนนหรอก ต่อให้เธอจะเมาหรือสลบมันเสียตรงนี้ เมื่อครู่นี้ก็เป็นแค่การหยอกเอินของเขา

    คืนนี้ขอพรแทบไม่แตะเครื่องดื่มที่จัดอยู่ในหมวดของมึนเมา เดิมทีเขาก็ไม่ชอบมันอยู่แล้ว อีกทั้งน่าจะอยากเป็นคนขับรถให้เธอ พอหญิงสาวคาดเดามาถึงตรงนี้แล้วก็เม้มปากพออกพอใจคนเดียวก่อนจะเดินกลับมานั่งลงบนเก้าอี้สีน้ำตาลไหม้ ชายหนุ่มตัวสูงเดินตามมานั่งลงข้างกัน

    แอลกอฮอล์ในเส้นเลือดของจันทร์จ้าวเริ่มออกฤทธิ์ บางครั้งเมาแล้วก็ชอบทำตัวกรุ้มกริ่มหรือรุกคนรักอย่างหนักหน่วง ทว่าคืนนี้เธอคิดว่าตนยังไม่ได้เมามากนัก

    …เธอลอบมองเสี้ยวหน้าของคนรักแล้วกลั้นรอยยิ้มอีกรอบ

    ดูขอพรสิ...ไม่รู้ทำไมถึงหล่อขนาดนี้...ทั้งน่ารัก แสนดี ใจดี แถมยังน่าแกล้งอีก

    ทำไมหนอ…

    ทำไมคนคนหนึ่งถึงมีทุกฟังก์ชันที่เธอชอบได้ขนาดนี้ โลกนี้มันสวยงามเสียจริง ความรักที่ดีนี่มันดีเสียจริง

    แฟนฉันแสนดี แสนดีที่สุดในโลกเสียจริง!

    คงจะเป็นตอนนี้ที่จันทร์จ้าวคิดพิเรนทร์ขึ้นมาในใจ แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปเริ่มทำให้พวงแก้มขึ้นสี คนสวยผิวพรรณงามอิ่มน้ำคิดขบขันแล้วอมยิ้มลำพองใจซึ่งท่าทางเหล่านี้ก็เรียกความสนใจจากขอพรที่คอยสังเกตหล่อนอยู่ใกล้ ๆ แต่จันทร์จ้าวไม่ได้เริ่มลงมือกระทำการผิดแผกอันใดมากมาย เธอเพียงแค่อยากจะทำไอ้สิ่งที่คิดในใจมันเสียตอนนี้เลย

    ไอ้สิ่งที่ว่านี่…ถ้าขอพรไม่ขอเธอแต่งงานเสียที เธอขอเองเสียเลยดีไหม!

     

     

     

     

    #จักรวาลหมุนรอบความสุข

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×