ลำดับตอนที่ #40
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #40 : หาเธอให้พบ
เกือบหนึ่งเดือนแล้วที่ทั้งภควัตรและอัครเทพช่วยกันออกตามหาเปรมมิกาในทุกที่ที่คิดว่าเธออาจจะไปแต่ก็ไม่พบทั้งสองคนจึงมานั่งคิดอีกครั้งหลังจากที่คว้าน้ำเหลวตามหาโดยไม่มีการวางแผนและไม่มีการทบทวนให้รอบคอบ
"เราก็ตามหามาเกือบทุกที่แล้วนะไอ้วัตร จนป่านนี้ก็ยังหาไม่เจอเลยเราจะเอายังไงต่อวะ" อัครเทพถามเพื่อนอย่างขอความเห็น
"ฉันก็นึกอะไรไม่ออกเหมือนกัน ที่ที่คิดว่าเขาไปก็ไม่มี เพื่อนเขาฉันก็ไม่รู้จักเลยซักคน" ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างหมดแรงคิดหาหนทางที่จะตามหาตัวเธอและลูกกลับมาหนทางนั้นริบหรี่เต็มที เขาควรจะใส่ใจเธอมากกว่านี้ ควรจะทำความรู้จักกับเพื่อนเธอไว้ไม่อย่างนั้นป่านนี้เขาอาจจะสามารถสอบถามจากเพื่อนของเธอได้บ้าง ชายหนุ่มคิดในใจ
"แล้วเราจะปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่ทำอะไรเลยอย่างนั้นเหรอวะไอ้วัตร นั่นเมียแกนะโวย" อัครเทพหัวเสียที่เพื่อนนั่งนิ่งไม่พูดไม่จาอะไร
"ฉันก็กำลังคิดอยู่นี่ไงล่ะเราจะหาเธอทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้จุดหมายอย่างนั้นเหรอ คิดสิไอ้เทพ" ภควัตรเตือนสติเพื่อนก่อนจะคิดอะไรได้
"ฉันจะลองโทรหาพ่อของเธอดูเผื่อว่าจะได้อะไรคืบหน้าเรื่องเพื่อนของเธอบ้าง" ภควัตรกดเบอร์โทรศัพท์ต่อสายบิดาทันทีเพื่อสอบถามเบอร์โทรคุณประยุทธจากท่านและติดต่อหาท่นทันทีโชคยังดีที่คุณประยุทธไม่ได้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์
"สวัสดีครับคุณพ่อ ผมภควัตรนะครับ" ชายหนุ่มแนะนำตัวเองก่อนจะเข้าเรื่องที่โทรมาหาท่านในวันนี้
"คุณพ่อสบายดีนะครับ คือที่ผมโทรมาวันนี้ผมมีเรื่องอยากจะรบกวนคุณพ่อหน่อยน่ะครับ" ชายหนุ่มถามบิดาของภรรยา
"มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับคุณวัตรดูท่าทางน่าจะเป็นเรื่องร้อนใจรีบพูดมาเถอะครับ" คุณประยุทธบอกกับชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกเขย
"คุณพ่อพอจะทราบไหมครับว่าแป้งเขามีเพื่อนสนิทบ้างหรือเปล่าคือ เราทะเลาะกันนิดหน่อยน่ะครับเธอหนีออกไปจากบ้านผมพยายามตามหาเท่าไหร่ก็ไม่พบเพื่อนเธอผมก็ไม่รู้จักสักคนเลยครับ ผมเลยต้องรบกวนคุณพ่อ" ชายหนุ่มบอกอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ทำลูกสาวเขาหายไปทั้งคนคนเป็นพ่อจะรู้สึกยังไง
"ปกติยัยแป้งไม่เคยเป็นคนเหลวไหลแบบนี้นะ นี่แสดงว่าหนักพอดูแป้งถึงหนีไป ไอ้เพื่อนของเขาผมก็พอจะรู้อยู่บ้างที่สนิท ๆ กันจริง ๆ ก็เห็นจะมีแต่หนูกรกับหนูกันสองฝาแฝดเท่านั้น" คุณประยุทธบอกลูกเขยอย่างใจเย็น
"ผมเข้าใจนะคุณวัตรการที่คนสองคนอยู่ด้วยกันโดยปราศจากความรักเป็นส่วนประกอบเริ่มต้นมันคงจะใช้ชีวิตคู่กันลำบากผมต้องขอโทษแทนลูกสาวด้วยนะที่ทำให้คุณต้องเดือดร้อนอย่างนี้" คุณประยุทธบอกชายหนุ่มอย่างรู้สึกผิดที่ให้ลูกสาวคนโตต้องเดือดร้อนทั้ง ๆ ที่ไม่มีความผิดอะไรเลยตอนนี้เขาซึ่งเป็นพ่อควรจะออกมาปกป้องลูกได้แล้ว
"มันไม่ใช่อย่างนั้นนะครับคุณพ่อผมยอมรับนะครับว่าตอนแรกผมไม่เคยสนใจหรือใส่ใจความรู้สึกของแป้งเลย ทำร้ายจิตใจเธอทุกอย่างไม่ได้เริ่มต้นด้วยความรักอย่างที่คุณพ่อพูดนั่นแหละครับ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วนะครับคุณพ่อ ผมไม่รู้ว่ารักแป้งตอนไหนแต่ที่ผมรู้ตอนนี้ผมขาดเธอไม่ได้ครับที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือเธอกำลังท้องครับ"
ชายหนุ่มพูดความรู้สึกในใจให้คุณประยุทธฟังอย่างเปิดอกแต่คนที่เขาอยากให้รับรู้มากที่สุดตอนนี้ก็คือเธอแล้วเธอหายไปอยู่ที่ไหน
"ผมขอบใจคุณมากนะที่รักลูกสาวผม ถ้าแป้งรู้คงจะดีใจมากก่อนหน้านั้นแกชอบโทรหามาผมบ่อย ๆ พูดคุยเรื่องโน่นเรื่องนี้ให้ฟังอยู่เรื่อย ๆ แกบอกน้อยใจที่คุณไม่เคยสนใจเธอเลยเธอจะทนอยู่กับคนที่ไม่ได้รักเธอได้อีกนานแค่ไหน ผมเองก็พยายามบอกลูกผมอยู่เสมอว่าให้อดทน ชีวิตคู่มันไม่มีอะไรสวยงามอย่างที่แกเคยฝันหรอก"
คุณประยุทธพูดกับชายหนุ่มลูกชายเพื่อนภรรยา ความจริงเขาควรจะพูดเรื่องนี้มานานแล้ว อีกทั้งยังเรื่องที่เปลี่ยนตัวเจ้าสาวคุณประยุทธตั้งใจบอกความจริงกับชายหนุ่มเพราะกลัวจะถูกหาว่ารู้เห็นเป็นใจ
"เออ ผมอยากจะบอกคุณอีกเรื่องคือเรื่องลูกสาวผมที่แต่งงานกับคุณความจริงแล้ว" คุณประยุทธพูดยังไม่ทันจบชายหนุ่มก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อนเรื่องหญิงสาว
"ถ้าเป็นเรื่องสลับตัวเจ้าสาวล่ะก็ผมทราบแล้วล่ะครับคุณพ่อไม่ต้องห่วงนะครับ ผมยังยืนยันคำเดิมคือผมอยากจะดูแลเปรมมิกาและลูกให้ดีที่สุดครับ ส่วนเรื่องที่ผมทราบยังไงนั้นคุณพ่อคงต้องไปถามลูกสาวคนเล็ดดูนะครับ" ชายหนุ่มพูดเพียงเท่านั้นก็ไม่พูดอะไรอีกขอเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนหญิงสาวแล้วก็วางสายไป
"เป็นไงบ้างวะไอ้วัตรได้เรื่องหรือเปล่าได้คุยกับคุณพ่อคุณแป้งไหม" อัครเทพถามเป็นชุด
"ได้สิ ฉันได้เบอร์เพื่อนเขามาแล้ว" เมื่อพูดจบเขาก็หยิบเบอร์โทรที่เพิ่งได้จากคุณประยุทธโทรหาเพื่อนของหญิงสาวทันที
"สวัสดีค่ะกรรัมภาพูดสายค่ะ" หญิงสาวฝาแฝดกรอกเสียงไปตามสาย
"ผมภควัตรสามีของเปรมมิกานะครับ" ชายหนุ่มแนะนำตัวเองกับเพื่อนของเธออย่างเป็นทางการ กรรัมภาเองก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรเพราะรู้อยู่แล้วว่าไม่วันใดก็วันหนึ่งเขาจะต้องโทรหาเธอเพราะเธอกับน้องสาวเป็นเพื่อนที่สนิทกับเปรมมิกามากที่สุด
"ว่ายังไงคะคุณภควัตรยินดีที่ได้รู้จักนะคะดิฉันกรรัมภาส่วนน้องสาวของฉันชื่อกัลยาค่ะ" หญิงสาวเอ่ยแนะนำตัวเองกับน้องสาวไป
"เปรมมิกาอยู่กับพวกคุณหรือเปล่าครับผมพยายามตามหาเธอทุกที่แล้วแต่ก็ไม่พบ ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเธอเลยแม้แต่สถานที่ ๆ เธอชอบคงต้องรบกวนพวกคุณด้วยนะครับ" ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเบาจนอีกฝ่ายเห็นใจ
"คุณชอบพูดทำร้ายจิตใจคนมานักต่อนัก หลายคนอาจจะยอมคุณแต่ไม่ใช่แป้งค่ะ ก่อนหน้านั้นคุณพูดทำร้ายจิตใจเธอมากจนเธอรับไม่ได้ คุณดูถูกเธอทั้ง ๆ ที่เธอหนักแน่นกับความรักที่มีต่อคุณ ก่อนหน้านั้นทั้งคุณและเธอต่างก็ไม่ได้มีความรักมาเกี่ยวข้องในชีวิตแต่งงานจำใจแต่งแป้งก็เป็นเจ้าสาวแบบจำใจทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้มีความผิด" กรรัมภากล่าวโดยสรุป
"คุณรู้เรื่องได้ยังไง แป้งเขาบอกกับคุณเหรอ" ชายหนุ่มถามอย่างงุนงงกับสิ่งที่กรรัมภาพูดมา
"ฉันรับรู้ในสิ่งที่คุณไม่เคยรู้ แป้งไม่ได้เล่าให้ใครฟังหรอกค่ะเรื่องแบบนี้ฉันสามารถมองเห็นอนาคตได้และรู้ด้วยว่าคุณกับแป้งคือเนื้อคู่กัน" หญิงสาวเล่าต่อ
"แสดงว่าตอนนี้แป้งเขาอยู่กับคุณเหรอครับแล้วตอนนี้เธออยู่ไหมครับผมอยากคุยกับเธอ อยากขอโทษเธอ ผมจะไปรับเธอกลับมาอยู่ด้วยกันผมเคลียร์ปัญหาทุกอย่างหมดแล้ว ผมอยากจะบอกเธอเอง" ภควัตรบอกและขอพูดสายกับภรรยา
"เธออยู่ที่นี่แหละค่ะคุณไม่ต้องห่วงแต่ว่าตอนนี้เธออกไปข้างนอกยังไม่กลับค่ะคุณจะมารอพบเธอก็ได้นะคะ" กรรัมภาบอกกับชายหนุ่มเพราะรู้ว่าถึงห้ามไปก็ไม่สามารถคัดค้านความตั้งใจของเขาได้
ชายหนุ่มขับรถมาถึงหน้าบ้านของสองสาวฝาแฝดตามเส้นทางที่เธอบอก บ้านของยิปซีสาวตั้งอยู่แถวชานเมืองไม่ไกลจากตัวเมืองมากนักบริเวณโดยรอบร่มรื่นน่าอยู่มีต้นไม้ใหญ่ผูกชิงช้าอยู่หน้าบ้านเพื่อรับลม ชายหนุ่มจอดรถลงไปหน้าบ้านกดกริ่งเรียกคนข้างในให้ออกมาเปิดประตู
"สวัสดีอีกครั้งนะคะคุณวัตรเชิญข้างในก่อนดีกว่าค่ะข้างนอกอากาศร้อน" กรรัมภากล่าวต้อนรับสามีหนุ่มของเพื่อนอย่างเป็นกันเอง
"ขอบคุณมากนะครับที่บอกเรื่องของแป้งกับผมไม่อย่างนั้นผมก็ไม่รู้ว่าจะตามหาเธอได้ที่ไหน" ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณหญิงสาวอย่างจริงใจ
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะกรไม่อยากเห็นเพื่อนต้องทรมานใจแบบนี้เหมือนกันทั้ง ๆที่รักแต่ก็ไม่อาจจะยอมรับกับเขาได้ เพราะกลัวว่าจะทำผิดต่อน้องสาว แป้งมันก็เลยเก็บทุกอย่างเอาไว้เพียงคนเดียวเพราะไม่อยากให้ใครมาทุกข์กับเธอด้วยรวมทั้งคุณค่ะคุณวัตร"
กรรัมภาบอกชายหนุ่มและเดินนำเข้าบ้านเพื่อรอเปรมมิกากลับมาจากข้างนอก
"เรื่องน้องสาวของเขาผมจัดการเรียบร้อยแล้วล่ะครับคุณกร อรอุมาไม่ได้ต้องการตัวผม ไม่ได้มาทวงสิทธิ์ในตัวผมอย่างที่เธอบอกคนอื่นหรอกครับ" ชายหนุ่มพูดความจริงกับเพื่อนสาวของเปรมมิกา
"หมายความว่ายังไงคะคุณวัตรที่คุณพูดเมื่อกี้" เธอถาม
"ผมให้เงินเธอไปตั้งตัวก้อนนึง เพื่อแลกกับการออกไปจากชีวิตผม" ชายหนุ่มบอกตามความจริง
"ก็ดีแล้วล่ะค่ะมันจะได้จบไปเป็นเรื่อง ๆ แล้วเรื่องของคุณวิลาวัลย์ล่ะคะไปถึงไหนแล้ว"
"ผมบอกแป้งเขาไปแล้วนะครับว่าเราไม่ได้มีอะไรมานานมากหลังจากที่แป้งกับผมตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ผมยืนยันได้เลยว่าเด็กที่เธออ้างว่าเป็นลูกผมนั้นไม่ใช่เรื่องจริงแน่นอนครับ" ชายหนุ่มยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองอีกครั้ง
"ถ้าอย่างนั้นเรื่องก็คงจะจบด้วยดีนะคะแล้วคุณวิลาวัลย์เธอยอมหรือเปล่าคะเธอเรียกร้องอะไรหรือเปล่าท่างทางเธอจะไม่ได้ยอมอะไรง่าย ๆ นะคะ คือดิฉันกลัวน่ะค่ะ กลัวว่ามันจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น"
เธอหยุดคำพูดแค่นั้นทำให้ชายหนุ่มฉุกคิดขึ้นมาทันทีเขาเองก็พอจะรู้นิสัยของวิลาวัลย์ดีเธอไม่ใช่คนที่ยอมอะไรง่าย ๆ วันนั้นหลังจากที่คุยกันเธอก็ไม่ได้โทรตามหรือมาหาเขาอีกเลย
"คุณกรครับแล้วแป้งไปกับคุณกันหรือเปล่า" ชายหนุ่มฉุกถามขึ้น
"เปล่านี่คะแป้งไปคนเดียวค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะคุณวัตร" กรรัมภาถาม
"ลองโทรหาแป้งอีกครั้งได้ไหมครับ" ชายหนุ่มบอกครั้นจะโทรเองก็กลัวว่าเธอจะไม่รับสาย
"ก็ดีเหมือนกันค่ะ กรเองก็รู้สึกสังหรณ์ใจตั้งแต่ที่แป้งออกไปจากบ้านเมื่อเช้าแล้วค่ะ" พูดจบเธอเดินไปหยิบโทรศัพท์แล้วกดเบอร์เพื่อนรักทันทีแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ กรรัมภากดต่อไปหลายครั้งแต่ก็ไม่มีสัญญาณ
"ติดต่อไม่ได้เลยค่ะคุณวัตร เอาไงกันดีคะ" หญิงสาวถามสามีเพื่อนเพื่อเสนอความคิดเห็น
"ผมว่ารอดูอีกสักสองสามชั่วโมงดีกว่าครับเผื่อว่าเธอกลับมาแต่ถ้ายังไม่กลับเราค่อยแจ้งตำรวจแล้วออกตามหากัน" ชายหนุ่มออกความเห็นอีกครั้ง
กัลยาเดินมาสมทบจากหลังบ้านเห็นพี่สาวและสามีเพื่อนนั่งอยู่สีหน้าเคร่งเครียดจึงเดินเข้าไปร่วมวงสนทนาด้วยจึงทราบเรื่องราวทั้งหมด ทั้งสามนั่งใช้ความคิดอย่างเงียบ ๆ ในมุมของตัวเองจนเวลาล่วงเลยไปเกือบสามชั่วโมงก็ยังไม่มีการติดต่อกลับมาของเปรมมิกา ชายหนุ่มลุกขึ้นบอกกับทุกคนว่าจะไปแจ้งความทั้งสองสาวขอตามไปด้วยความร้อนใจ
"ผมคงรออยู่เฉย ๆ แบบนี้ไม่ได้แล้วครับ" ชายหนุ่มบอกกับสองสาวก่อนจะขับรถไปสถานีตำรวจเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไรอีก
"เราก็ตามหามาเกือบทุกที่แล้วนะไอ้วัตร จนป่านนี้ก็ยังหาไม่เจอเลยเราจะเอายังไงต่อวะ" อัครเทพถามเพื่อนอย่างขอความเห็น
"ฉันก็นึกอะไรไม่ออกเหมือนกัน ที่ที่คิดว่าเขาไปก็ไม่มี เพื่อนเขาฉันก็ไม่รู้จักเลยซักคน" ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างหมดแรงคิดหาหนทางที่จะตามหาตัวเธอและลูกกลับมาหนทางนั้นริบหรี่เต็มที เขาควรจะใส่ใจเธอมากกว่านี้ ควรจะทำความรู้จักกับเพื่อนเธอไว้ไม่อย่างนั้นป่านนี้เขาอาจจะสามารถสอบถามจากเพื่อนของเธอได้บ้าง ชายหนุ่มคิดในใจ
"แล้วเราจะปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่ทำอะไรเลยอย่างนั้นเหรอวะไอ้วัตร นั่นเมียแกนะโวย" อัครเทพหัวเสียที่เพื่อนนั่งนิ่งไม่พูดไม่จาอะไร
"ฉันก็กำลังคิดอยู่นี่ไงล่ะเราจะหาเธอทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้จุดหมายอย่างนั้นเหรอ คิดสิไอ้เทพ" ภควัตรเตือนสติเพื่อนก่อนจะคิดอะไรได้
"ฉันจะลองโทรหาพ่อของเธอดูเผื่อว่าจะได้อะไรคืบหน้าเรื่องเพื่อนของเธอบ้าง" ภควัตรกดเบอร์โทรศัพท์ต่อสายบิดาทันทีเพื่อสอบถามเบอร์โทรคุณประยุทธจากท่านและติดต่อหาท่นทันทีโชคยังดีที่คุณประยุทธไม่ได้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์
"สวัสดีครับคุณพ่อ ผมภควัตรนะครับ" ชายหนุ่มแนะนำตัวเองก่อนจะเข้าเรื่องที่โทรมาหาท่านในวันนี้
"คุณพ่อสบายดีนะครับ คือที่ผมโทรมาวันนี้ผมมีเรื่องอยากจะรบกวนคุณพ่อหน่อยน่ะครับ" ชายหนุ่มถามบิดาของภรรยา
"มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับคุณวัตรดูท่าทางน่าจะเป็นเรื่องร้อนใจรีบพูดมาเถอะครับ" คุณประยุทธบอกกับชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกเขย
"คุณพ่อพอจะทราบไหมครับว่าแป้งเขามีเพื่อนสนิทบ้างหรือเปล่าคือ เราทะเลาะกันนิดหน่อยน่ะครับเธอหนีออกไปจากบ้านผมพยายามตามหาเท่าไหร่ก็ไม่พบเพื่อนเธอผมก็ไม่รู้จักสักคนเลยครับ ผมเลยต้องรบกวนคุณพ่อ" ชายหนุ่มบอกอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ทำลูกสาวเขาหายไปทั้งคนคนเป็นพ่อจะรู้สึกยังไง
"ปกติยัยแป้งไม่เคยเป็นคนเหลวไหลแบบนี้นะ นี่แสดงว่าหนักพอดูแป้งถึงหนีไป ไอ้เพื่อนของเขาผมก็พอจะรู้อยู่บ้างที่สนิท ๆ กันจริง ๆ ก็เห็นจะมีแต่หนูกรกับหนูกันสองฝาแฝดเท่านั้น" คุณประยุทธบอกลูกเขยอย่างใจเย็น
"ผมเข้าใจนะคุณวัตรการที่คนสองคนอยู่ด้วยกันโดยปราศจากความรักเป็นส่วนประกอบเริ่มต้นมันคงจะใช้ชีวิตคู่กันลำบากผมต้องขอโทษแทนลูกสาวด้วยนะที่ทำให้คุณต้องเดือดร้อนอย่างนี้" คุณประยุทธบอกชายหนุ่มอย่างรู้สึกผิดที่ให้ลูกสาวคนโตต้องเดือดร้อนทั้ง ๆ ที่ไม่มีความผิดอะไรเลยตอนนี้เขาซึ่งเป็นพ่อควรจะออกมาปกป้องลูกได้แล้ว
"มันไม่ใช่อย่างนั้นนะครับคุณพ่อผมยอมรับนะครับว่าตอนแรกผมไม่เคยสนใจหรือใส่ใจความรู้สึกของแป้งเลย ทำร้ายจิตใจเธอทุกอย่างไม่ได้เริ่มต้นด้วยความรักอย่างที่คุณพ่อพูดนั่นแหละครับ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วนะครับคุณพ่อ ผมไม่รู้ว่ารักแป้งตอนไหนแต่ที่ผมรู้ตอนนี้ผมขาดเธอไม่ได้ครับที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือเธอกำลังท้องครับ"
ชายหนุ่มพูดความรู้สึกในใจให้คุณประยุทธฟังอย่างเปิดอกแต่คนที่เขาอยากให้รับรู้มากที่สุดตอนนี้ก็คือเธอแล้วเธอหายไปอยู่ที่ไหน
"ผมขอบใจคุณมากนะที่รักลูกสาวผม ถ้าแป้งรู้คงจะดีใจมากก่อนหน้านั้นแกชอบโทรหามาผมบ่อย ๆ พูดคุยเรื่องโน่นเรื่องนี้ให้ฟังอยู่เรื่อย ๆ แกบอกน้อยใจที่คุณไม่เคยสนใจเธอเลยเธอจะทนอยู่กับคนที่ไม่ได้รักเธอได้อีกนานแค่ไหน ผมเองก็พยายามบอกลูกผมอยู่เสมอว่าให้อดทน ชีวิตคู่มันไม่มีอะไรสวยงามอย่างที่แกเคยฝันหรอก"
คุณประยุทธพูดกับชายหนุ่มลูกชายเพื่อนภรรยา ความจริงเขาควรจะพูดเรื่องนี้มานานแล้ว อีกทั้งยังเรื่องที่เปลี่ยนตัวเจ้าสาวคุณประยุทธตั้งใจบอกความจริงกับชายหนุ่มเพราะกลัวจะถูกหาว่ารู้เห็นเป็นใจ
"เออ ผมอยากจะบอกคุณอีกเรื่องคือเรื่องลูกสาวผมที่แต่งงานกับคุณความจริงแล้ว" คุณประยุทธพูดยังไม่ทันจบชายหนุ่มก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อนเรื่องหญิงสาว
"ถ้าเป็นเรื่องสลับตัวเจ้าสาวล่ะก็ผมทราบแล้วล่ะครับคุณพ่อไม่ต้องห่วงนะครับ ผมยังยืนยันคำเดิมคือผมอยากจะดูแลเปรมมิกาและลูกให้ดีที่สุดครับ ส่วนเรื่องที่ผมทราบยังไงนั้นคุณพ่อคงต้องไปถามลูกสาวคนเล็ดดูนะครับ" ชายหนุ่มพูดเพียงเท่านั้นก็ไม่พูดอะไรอีกขอเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนหญิงสาวแล้วก็วางสายไป
"เป็นไงบ้างวะไอ้วัตรได้เรื่องหรือเปล่าได้คุยกับคุณพ่อคุณแป้งไหม" อัครเทพถามเป็นชุด
"ได้สิ ฉันได้เบอร์เพื่อนเขามาแล้ว" เมื่อพูดจบเขาก็หยิบเบอร์โทรที่เพิ่งได้จากคุณประยุทธโทรหาเพื่อนของหญิงสาวทันที
"สวัสดีค่ะกรรัมภาพูดสายค่ะ" หญิงสาวฝาแฝดกรอกเสียงไปตามสาย
"ผมภควัตรสามีของเปรมมิกานะครับ" ชายหนุ่มแนะนำตัวเองกับเพื่อนของเธออย่างเป็นทางการ กรรัมภาเองก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรเพราะรู้อยู่แล้วว่าไม่วันใดก็วันหนึ่งเขาจะต้องโทรหาเธอเพราะเธอกับน้องสาวเป็นเพื่อนที่สนิทกับเปรมมิกามากที่สุด
"ว่ายังไงคะคุณภควัตรยินดีที่ได้รู้จักนะคะดิฉันกรรัมภาส่วนน้องสาวของฉันชื่อกัลยาค่ะ" หญิงสาวเอ่ยแนะนำตัวเองกับน้องสาวไป
"เปรมมิกาอยู่กับพวกคุณหรือเปล่าครับผมพยายามตามหาเธอทุกที่แล้วแต่ก็ไม่พบ ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเธอเลยแม้แต่สถานที่ ๆ เธอชอบคงต้องรบกวนพวกคุณด้วยนะครับ" ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเบาจนอีกฝ่ายเห็นใจ
"คุณชอบพูดทำร้ายจิตใจคนมานักต่อนัก หลายคนอาจจะยอมคุณแต่ไม่ใช่แป้งค่ะ ก่อนหน้านั้นคุณพูดทำร้ายจิตใจเธอมากจนเธอรับไม่ได้ คุณดูถูกเธอทั้ง ๆ ที่เธอหนักแน่นกับความรักที่มีต่อคุณ ก่อนหน้านั้นทั้งคุณและเธอต่างก็ไม่ได้มีความรักมาเกี่ยวข้องในชีวิตแต่งงานจำใจแต่งแป้งก็เป็นเจ้าสาวแบบจำใจทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้มีความผิด" กรรัมภากล่าวโดยสรุป
"คุณรู้เรื่องได้ยังไง แป้งเขาบอกกับคุณเหรอ" ชายหนุ่มถามอย่างงุนงงกับสิ่งที่กรรัมภาพูดมา
"ฉันรับรู้ในสิ่งที่คุณไม่เคยรู้ แป้งไม่ได้เล่าให้ใครฟังหรอกค่ะเรื่องแบบนี้ฉันสามารถมองเห็นอนาคตได้และรู้ด้วยว่าคุณกับแป้งคือเนื้อคู่กัน" หญิงสาวเล่าต่อ
"แสดงว่าตอนนี้แป้งเขาอยู่กับคุณเหรอครับแล้วตอนนี้เธออยู่ไหมครับผมอยากคุยกับเธอ อยากขอโทษเธอ ผมจะไปรับเธอกลับมาอยู่ด้วยกันผมเคลียร์ปัญหาทุกอย่างหมดแล้ว ผมอยากจะบอกเธอเอง" ภควัตรบอกและขอพูดสายกับภรรยา
"เธออยู่ที่นี่แหละค่ะคุณไม่ต้องห่วงแต่ว่าตอนนี้เธออกไปข้างนอกยังไม่กลับค่ะคุณจะมารอพบเธอก็ได้นะคะ" กรรัมภาบอกกับชายหนุ่มเพราะรู้ว่าถึงห้ามไปก็ไม่สามารถคัดค้านความตั้งใจของเขาได้
ชายหนุ่มขับรถมาถึงหน้าบ้านของสองสาวฝาแฝดตามเส้นทางที่เธอบอก บ้านของยิปซีสาวตั้งอยู่แถวชานเมืองไม่ไกลจากตัวเมืองมากนักบริเวณโดยรอบร่มรื่นน่าอยู่มีต้นไม้ใหญ่ผูกชิงช้าอยู่หน้าบ้านเพื่อรับลม ชายหนุ่มจอดรถลงไปหน้าบ้านกดกริ่งเรียกคนข้างในให้ออกมาเปิดประตู
"สวัสดีอีกครั้งนะคะคุณวัตรเชิญข้างในก่อนดีกว่าค่ะข้างนอกอากาศร้อน" กรรัมภากล่าวต้อนรับสามีหนุ่มของเพื่อนอย่างเป็นกันเอง
"ขอบคุณมากนะครับที่บอกเรื่องของแป้งกับผมไม่อย่างนั้นผมก็ไม่รู้ว่าจะตามหาเธอได้ที่ไหน" ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณหญิงสาวอย่างจริงใจ
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะกรไม่อยากเห็นเพื่อนต้องทรมานใจแบบนี้เหมือนกันทั้ง ๆที่รักแต่ก็ไม่อาจจะยอมรับกับเขาได้ เพราะกลัวว่าจะทำผิดต่อน้องสาว แป้งมันก็เลยเก็บทุกอย่างเอาไว้เพียงคนเดียวเพราะไม่อยากให้ใครมาทุกข์กับเธอด้วยรวมทั้งคุณค่ะคุณวัตร"
กรรัมภาบอกชายหนุ่มและเดินนำเข้าบ้านเพื่อรอเปรมมิกากลับมาจากข้างนอก
"เรื่องน้องสาวของเขาผมจัดการเรียบร้อยแล้วล่ะครับคุณกร อรอุมาไม่ได้ต้องการตัวผม ไม่ได้มาทวงสิทธิ์ในตัวผมอย่างที่เธอบอกคนอื่นหรอกครับ" ชายหนุ่มพูดความจริงกับเพื่อนสาวของเปรมมิกา
"หมายความว่ายังไงคะคุณวัตรที่คุณพูดเมื่อกี้" เธอถาม
"ผมให้เงินเธอไปตั้งตัวก้อนนึง เพื่อแลกกับการออกไปจากชีวิตผม" ชายหนุ่มบอกตามความจริง
"ก็ดีแล้วล่ะค่ะมันจะได้จบไปเป็นเรื่อง ๆ แล้วเรื่องของคุณวิลาวัลย์ล่ะคะไปถึงไหนแล้ว"
"ผมบอกแป้งเขาไปแล้วนะครับว่าเราไม่ได้มีอะไรมานานมากหลังจากที่แป้งกับผมตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ผมยืนยันได้เลยว่าเด็กที่เธออ้างว่าเป็นลูกผมนั้นไม่ใช่เรื่องจริงแน่นอนครับ" ชายหนุ่มยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองอีกครั้ง
"ถ้าอย่างนั้นเรื่องก็คงจะจบด้วยดีนะคะแล้วคุณวิลาวัลย์เธอยอมหรือเปล่าคะเธอเรียกร้องอะไรหรือเปล่าท่างทางเธอจะไม่ได้ยอมอะไรง่าย ๆ นะคะ คือดิฉันกลัวน่ะค่ะ กลัวว่ามันจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น"
เธอหยุดคำพูดแค่นั้นทำให้ชายหนุ่มฉุกคิดขึ้นมาทันทีเขาเองก็พอจะรู้นิสัยของวิลาวัลย์ดีเธอไม่ใช่คนที่ยอมอะไรง่าย ๆ วันนั้นหลังจากที่คุยกันเธอก็ไม่ได้โทรตามหรือมาหาเขาอีกเลย
"คุณกรครับแล้วแป้งไปกับคุณกันหรือเปล่า" ชายหนุ่มฉุกถามขึ้น
"เปล่านี่คะแป้งไปคนเดียวค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะคุณวัตร" กรรัมภาถาม
"ลองโทรหาแป้งอีกครั้งได้ไหมครับ" ชายหนุ่มบอกครั้นจะโทรเองก็กลัวว่าเธอจะไม่รับสาย
"ก็ดีเหมือนกันค่ะ กรเองก็รู้สึกสังหรณ์ใจตั้งแต่ที่แป้งออกไปจากบ้านเมื่อเช้าแล้วค่ะ" พูดจบเธอเดินไปหยิบโทรศัพท์แล้วกดเบอร์เพื่อนรักทันทีแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ กรรัมภากดต่อไปหลายครั้งแต่ก็ไม่มีสัญญาณ
"ติดต่อไม่ได้เลยค่ะคุณวัตร เอาไงกันดีคะ" หญิงสาวถามสามีเพื่อนเพื่อเสนอความคิดเห็น
"ผมว่ารอดูอีกสักสองสามชั่วโมงดีกว่าครับเผื่อว่าเธอกลับมาแต่ถ้ายังไม่กลับเราค่อยแจ้งตำรวจแล้วออกตามหากัน" ชายหนุ่มออกความเห็นอีกครั้ง
กัลยาเดินมาสมทบจากหลังบ้านเห็นพี่สาวและสามีเพื่อนนั่งอยู่สีหน้าเคร่งเครียดจึงเดินเข้าไปร่วมวงสนทนาด้วยจึงทราบเรื่องราวทั้งหมด ทั้งสามนั่งใช้ความคิดอย่างเงียบ ๆ ในมุมของตัวเองจนเวลาล่วงเลยไปเกือบสามชั่วโมงก็ยังไม่มีการติดต่อกลับมาของเปรมมิกา ชายหนุ่มลุกขึ้นบอกกับทุกคนว่าจะไปแจ้งความทั้งสองสาวขอตามไปด้วยความร้อนใจ
"ผมคงรออยู่เฉย ๆ แบบนี้ไม่ได้แล้วครับ" ชายหนุ่มบอกกับสองสาวก่อนจะขับรถไปสถานีตำรวจเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไรอีก
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น