ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าสาวจำเป็น

    ลำดับตอนที่ #35 : ปัญหาแก้ไม่ตก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.01K
      3
      30 มี.ค. 56

                          ภควัตรเดินออกมาจากห้องทำงานของบิดาหน้าตาเคร่งเครียดไม่ต่างจากเปรมมิกาเลยสักนิดทุกคนมีสีหน้าที่ไม่ต่างกันเว้นแต่อรอุมาที่ยิ้มระรื่นอยู่เพียงคนเดียว
                          "เอาล่ะทุกคนมาพร้อมกันแล้วนะพ่อจะถามหนูแอ๊นท์ก่อนว่าเรื่องที่หนูเล่ามานั้นถ้าเป็นเรื่องจริงหนูอยากให้พวกเรารับผิดชอบกับการเข้าใจผิดในเรื่องนี้ยังไง" คุณภัทรเอ่ยถามอรอุมาอย่างตรงไปตรงมา
                          "แอ๊นท์ไม่ได้อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้นะคะ แต่คนที่จะต้องได้แต่งงานกับคุณวัตรควรจะเป็นแอ๊นท์ไม่ใช่เหรอคะหรือคุณลุงคุณป้ามองว่าแอ๊นท์ผิดในเรื่องนี้" อรอุมาพูดพลางบีบน้ำตาคลอ
                          "ป้าก็ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นพวกเราทุกคนไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นเลยนะจ๊ะหนูแอ๊นท์" คุณพอฤดีพยายามเกลี้ย กล่อมให้สถานการณ์ดีขึ้น
                          "แอ๊นท์เข้าใจค่ะว่าทุกคนไม่ได้อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นแต่คนที่รู้เรื่องดีกว่าใครทำไมเขาไม่พูดล่ะคะว่าคนที่จะต้องเข้าพิธีแต่งงานไม่ใช่เขาแต่กลับรับสมอ้างราวกับจงใจจะให้เรื่องมันเป็นแบบนี้" อรอุมาพูดพลางมองหน้าพี่สาวอย่างเอาเรื่อง
                          "หนูแอ๊นท์จ๊ะป้าว่าพี่สาวนู๋ไม่ได้เป็นคนแบบนั้นหรอกนะใจเย็น ๆ ค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จากันดีกว่า" คุณพอฤดีพูดอีกครั้งเพราะตั้งแต่เธอรู้จักและคลุกคลีกับเปรมมิกาถึงแม้จะไม่ใช่เวลาที่นานอะไรนักแต่เธอก็พอจะดูออกว่าหญิงสาวไม่ได้เป็นคนอย่างที่น้องสาวเธอกำลังกล่าวหา ภควัตรที่เงียบฟ้งมานานก็เริ่มพูดบ้าง
                         "เอาแต่โทษคนอื่นแล้วตอนนั้นทำไมไม่แต่งเสียเองคงคิดว่าลูกชายบ้านนี้ขี้เหร่หน้าตาดูไม่ได้ล่ะสินะถึงหนีเตลิดไปถึงเมืองนอกเมืองนา" ภควัตรตอกกลับให้อย่างเจ็บแสบในโสตประสาทของคนฟังแต่ก็พยายามเก็บอาการไว้ไม่แสดงออกมา
                         "คุณวัตรพูดเรื่องอะไรคะแอ๊นท์ไม่เข้าใจค่ะแอ๊นท์ไม่ได้หนีไปไหนเลยนะคะแต่แอ๊นท์เรียนอยู่ที่เมืองนอกค่ะเลยไม่ทราบเรื่องถ้าหากทราบก็คงไม่ทำให้พี่แป้งหรือใคร ๆ เดือดร้อนหรอกค่ะ" อรอุมาแก้ต่างให้ตัวเองพ้นจากข้อกล่าวหา
                         "อย่าคิดว่าผมไม่รู้ไม่เห็นนะอรอุมา"ชายหนุ่มพูดเพียงเท่านั้นก็ดินออกไปจากห้องทันที
                         "ตาวัตร ๆ จะไปไหนน่ะลูกกลับมาก่อนมาคุยให้รู้เรื่องก่อน" คนเป็นแม่พยายามจะเรียกบุตรชายแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะเขาไม่สนใจฟังเสียงใครทั้งสิ้นเลยได้แต่ถอนหายใจแทน
                         "คุณแม่คะจะเป็นอะไรไหมคะถ้าแป้งอยากจะให้น้องไปอยู่กับแป้งที่บ้านด้วย คือแป้งเป็นห่วงน้องน่ะคะตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ก็ไปเมืองนอกทั้งคู่อีกอย่างแป้งก็ไม่ทราบด้วยว่าท่านไปพักอยู่ที่ไหนจะให้น้องอยู่คนเดียวแป้งกลัวว่าจะเป็นอันตรายค่ะ" เปรมมิกาพูดยืดยาวเพื่อขอความเห็นใจจากท่านทั้งสองที่ถึงแม้ว่าจะรู้ความจริงทั้งหมดแล้วแต่ท่านก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรสักคำ
                         "พ่อว่าเราควรจะไปถามตาวัตรนะเพราะยังไงซะเราก็ผัวเมียกันลองไปปรึกษาพี่เขาดูก่อนแต่ถ้าพี่เขาไม่ตกลงเดี๋ยวเราค่อยมาว่ากันอีกที" คุณภัทรออกความเห็น
                         "ขอบคุณนะคะคุณพ่อ"
    เปรมมิกายกมือไหว้ขอบคุณอย่างจริงใจก่อนจะขอตัวออกไปตามหาชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีและก็พบว่าเขานั่งอยู่ที่ท่าน้ำหลังบ้านเพียงลำพัง หญิงสาวเดินเ้ข้าไปใกล้ก่อนจะเอ่ยทักเขาก่อน
                         "คุณวัตรคะฉันมีเรื่องจะพูดด้วยค่ะ" หญิงสาวบอกชายหนุ่มที่ยังคงนั่งอยู่ท่าเดิมไม่ขยับไปไหนไม่แม้แต่จะหันมามองว่าใครเดินเข้ามา
                         "คุณวัตรคะ คุณฟังฉันอยู่หรือเปล่า" เปรมมิกาย้ำคำพูดอีกครั้งเผื่อว่าเขาจะไม่ได้ยิน
                         "มีอะไรก็พูดมาไม่ต้องอ้อมค้อม" ชายหนุ่มตอบกลับทั้งที่ยังนั่งท่าเดิม
                         "คือฉันอยากให้น้องไปอยู่กับฉันที่บ้านคุณจะว่าอะไรไหมคะ" หญิงสาวกล้า ๆ กลัว ๆ จะพูด
                         "ไม่ฉันไม่ตกลง ฉันไม่ต้องการให้ใครมาวุ่นวายในบ้านของฉันถ้าน้องเธออยากจะอยู่กับเธอมากฉันให้ได้แค่พักกับคุณพ่อคุณแม่ของฉันที่นี่ ถ้าเธอไม่ตกลงฉันก็ไม่ตกลงเหมือนกัน" ชายหุน่มกล่าวเสียงแข็งต่อต้านการเข้ามาของผู้มาใหม่
                         "ทำไมคะ คุณจะอคติกับน้่องฉันมากเกินไปแล้วนะคะคุณวัตรน้องสาวฉันไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรทำไมคุณถึงใจร้่ายแบบนี้นะ" หญิงสาวอดคิดไม่ได้
                         "ฉันไม่ได้อคติกับน้องสาวเธอนะแต่ฉันรู้ความจริงหมดทุกอย่างแล้วต่างหากฉันรู้ตั้งแต่วันแรกที่เธอเหยียบเข้ามาในบ้านหลังนี้ ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่น้องสาวเธอ ฉันรู้ว่าเธอสวมรอยเป็นน้องสาวตัวเองที่หนีการแต่งงานไปกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้โดยทิ้งจดหมายเพียงแค่ฉบับเดียวให้เธอและครอบครัวเป็นคนแก้ปัญหา เป็นไำงล่ะเปรมมิกาเธออย่าคิดว่าฉันโง่นะฉันไม่ได้โง่อย่างที่น้องสาวเธอเข้าใจ"
                         ชายหนุ่มร่ายยาวในความจริงที่เธอและครอบครัวพยายามปกปิดเรื่องการสลับตัวของเจ้าสาวเพียงหนึ่งอาิทิตย์ก่อนวันแต่ง
    นี่เขารู้เรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นเลยเหรอ เปรมมิกาคิดในใจ
                                              "แสดงว่าคุณรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว คุณรู้ทุกเรื่องตั้งแต่ต้นแต่คุณก็ยอมแต่งงานกับฉันอย่างนั้นเหรอคุณวัตร" หญิงสาวแทบทรุดเมื่อรู้ความจริง
                         "ใช่ผมรู้ รู้มานานแล้วและไม่เคยคิดจะพูดให้ใครฟังจนกระทั่งน้องสาวคุณโผล่มาวันนี้แหละ" ชายหนุ่มบอก
                         "ในเมื่อคุณรู้ความจริงอยู่แล้วทำไมคุณถึงยอมแต่งงานทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเจ้าสาวไม่ใช่คนที่พ่อแม่คุณอยากให้แต่งด้วย" เปรมมิกาถาม
                         "คุณไม่จำเป็นต้องรู้เหตุผลหรอกเปรมมิกาผมมีเหตุผลของผมก็แล้วกัน" ชายหนุ่มพยายามหลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยคำว่ารักออกไป
                         "ทำไมฉันจะรู้ไม่ได้ในเมื่อฉันคือคนต้องรับภาระของทุกคนฉันไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย แล้วฉันต้องมารับชะตากรรมอย่างนั้นเหรอ" หญิงสาวปาดน้ำตาที่ไหลลงมาข้างแก้มล้วก ๆ
                         "คุณเห็นฉันเป็นตัวตลกเหรอคุณวัตร ในสายตาคุณฉันไม่เคยมีค่ามีความหมายเลยใช่ไหม" น้ำตาที่เกือบจะแห้งก็พาลไหลออกมาอีกครั้งราวกับเขื่อนแตก
                         "ไม่ใช่อย่างนั้นนะเปรมมิกาเธอเข้าใจฉันผิด" ชายหนุ่มพยายามจะแก้ต่างแต่ก็ไม่เป็นผล
                         "คุณไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันยอมทุกอย่างฉันไม่มีทางเทียบอะไรกับใครได้เลยไม่ว่าจะเป็นคุณวิลาวัลย์หรือแม้แต่น้องสาวฉันเองฉันยอมแพ้ค่ะ เอาเป็นว่าฉันจะจบเรื่องทุกอย่างเองคุณไม่ต้องกังวลนะคะฉันจะไปเองฉันจะหลีกทางให้พวกคุณเอง"
                         เปรมมิกาพูดด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจที่เธอพยายามจะทำดีกับเขาแต่สุดท้ายเธอก็ได้เพียงแค่ความเห็นใจสงสารจากคนรอบข้างเธอไม่อยากให้ทุกคนที่เธอรักต้องเดือดร้อนหรือไม่สบายใจเธอจึงตัดสินใจจบปัญหาทุกอย่างไว้ที่ตัวเองเพียงคนเดียว เธอถอยหลังออกมาทีละก้าวก่อนจะหันหลังกลับทางเพื่อที่จะไปให้พ้นจากตรงนี้
                        "เดี๋ยวเปรมมิกาเธอจะไปไหนน่ะ" ชายหนุ่มเรียกซ้ำหลายครั้งแต่ขาก็ก้าวยาว ๆ ตามหลังเธอไปและคว้าแขนเธอเข้ามาปะทะอกกว้างแล้วกอดกระชับร่างบางนั้นอย่างหวงแหน โดยไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาอีก ร่างบางสะิึอึกสะอื้นร่ำไห้ทำให้ใจของเขาแทบขาดไปด้วย ภควัตรลูบหัวเธอเบา ๆ เป็นการปลอบโยน
                        "ปล่อยฉัน" เปรมมิกาผลักอกเขาอย่างแรงก่อนจะวิ่งหนีกลับไปทางเดิม
                        "เดี๋ยวสิแป้งฟังพี่ก่อนอย่าทำตัวเป็นเด็กได้ไหม" ภควัตรพูดเพราะเริ่มจะหงุดหงิดที่เธอไม่ยอมฟังอะไรเลย
                        "ฉันไม่ใช่เด็กฉันโตแล้วโตพอที่จะแยกแยะออกมาอะไรดีอะไรไม่ดีคุณเองเถอะอย่าทำตัวเหมือนคนเก็บกดเที่ยวว่าคนอื่นเขาปัญหาของตัวเองน่ะแก้ได้หรือยังเรื่องเก่ายังไม่ทันซาเรื่องใหม่ก็มีเข้ามาอีก" เปรมมิกาพูดประชดประชัน
                        "พี่ก็กำลังจะอธิบายให้แป้งฟังอยู่นี่ไงเรื่องเก่าที่ว่าน่ะเรื่องวีวี่ใช่ไหมนั่นพี่ไม่มีส่วนรู้เห็นและไม่เกี่ยวข้องด้วยเลยสักนิดพี่รู้ทุกเรื่องรู้ทุกอย่างเขาไม่ได้คบพี่แค่คนเดียวเพราะฉะนั้นเรื่องที่ท้องกับพี่ไม่มีทางเป็นไปได้พี่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเขามานานแล้วก็ตั้งแต่....."
                        ชายหนุ่มเว้นช่วงในการพูดเพื่อให้เธอระลึกถึเหตุการณ์ระหว่างเธอกับเขาในคืนนั้น
                        "ตั้งแต่ที่เรามีอะไรกัน" ชายหนุ่มพูดประโยคต่อไปจนจบแทนที่เขาจะกระดากอายแต่กลับเป็นหญิงสาวเองที่หน้าแดงก่ำก่อนจะพูดแก้เก้อ
                        "นี่คุณวัตรอย่าพูดแบบนี้ให้ใครได้ยินนะ คนอื่นเขาจะเข้าใจผิด" เธอชี้แจงเพราะกลัวว่าคนอื่นที่จะได้ยินนั้นอาจจะเป็นน้องสาวของเธอเอง
                        "ไม่เห็นต้องกลัวใครได้ยินเราเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายนะแป้งคนอื่นนั่นแหละไม่มีสิทธิ์" ชายหนุ่มตอบกลับ
                        "สรุปว่าเรื่องวีวี่แป้งเลิกคิดไปได้เลยว่าพ่อของเด็กในท้องวีวี่คือพี่ มันเป็นไปไม่ได้ ส่วนเรื่องของน้องสาวแป้งที่แป้งอยากให้ไปอยู่กับเราที่บ้านพี่ไม่เห็นด้วยนะพี่ให้แป้งได้แค่ให้น้องสาวแป้งอยู่กับคุณพ่อคุณแม่พี่ที่นี่ พี่ไม่อยากให้เขาไปวุ่นวายที่บ้านของเราแป้งคงเข้าใจพี่นะ" ชายหนุ่มพยายามอธิบายและเกลี่ยกล่อมให้หญิงสาวโอนอ่อนผ่อนตามอย่าง ใจเย็น
                        "ฉันไม่เข้าว่าทำไมคุณถึงไม่ยอมให้น้องฉันไปอยู่ที่บ้าน" เปรมมิกายังไม่ยอมลดละที่จะเอาชนะสามี
                        "แป้งพี่อยากให้ที่บ้านมีแค่เราสองคนพี่ไม่อยากให้ใครเข้าไปวุ่นวายในที่ของเราแป้งเข้าใจพี่ไหม"
                        ชายหนุ่มพยายามที่จะใจเย็นอย่างที่สุดเพื่อให้เธอยอมรับข้อเสนอที่เขายื่นให้ถ้าเป็นเมื่อก่อนนั้นเขาคงไม่ยอมแน่ที่จะให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายในครอบครัวแต่ครั้งนี้เขาจะยอมสักครั้งเพราะเห็นแกเธอผู้หญิงที่เขารักถึงแม้จะยังไม่ได้พูดความในใจออกไปเขาบอกกับตัวเองเสมอว่าจะต้องบอกเธอให้ได้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเขาเองก็รู้สึกแปลกใจพักหลังมานี้เปรมมิกาไม่ค่อยยอมอ่อนข้อให้เขาเลยสักครั้งไม่เหมือนก่อนหน้านั้น และที่ร้ายก็คือเธอจะหงุดหงิดง่ายกว่าแต่ก่อนมากอีกทั้งยังขี้ใจน้อยผิดปกติแต่เขาเองก็ไม่ทราบสาเหตุว่าเพราะอะไร
                      
                  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×