ลำดับตอนที่ #25
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : ให้ท่า
ณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางกรุงเทพมหานคร เปรมมิกาเดินเลือกซื้อของไปโดยที่ไม่หันมาสนใจหรือใส่ใจกับบุคคลที่สองที่ติดสอยห้อยตามมาด้วยเลยแม้แต่น้อย ภควัตรเดินตามเปรมมิกาไปเรื่อย ๆ อย่างสบายใจที่ได้แกล้งเธอ เปรมมิกาเดินเข้าร้านนู้นออกร้านนี้เพื่อซื้อของใช้จำเป็นของเธอไม่ว่าจะเป็นพวกน้ำหอมหรือครีมบำรุงผิวต่าง ๆ ก็จะมีชายหนุ่มเป็นเงาตามตัวเข้าไปด้วยเสมอแถมยังแย่งถือของเสียเอง
"นี่คุณจะตามฉันไปถึงไหนเนี่ย จะไปไหนก็ไปสิไม่ต้องตามฉันหรอกฉันไม่ใช่นักโทษและอีกอย่างฉันจำทางกลับบ้านได้ไม่ต้องกลัวหลงหรอกน่า" เปรมมิกาพูดแบบรำคาญที่เขาเดินตามแต่ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
"คุณจะเดินไปไหนก็เรื่องของคุณสิ ผมก็เดินของผมอยู่นี่ไงหรือว่าห้างนี้คุณเป็นเจ้าของล่ะผมถึงเดินไม่ได้" ภควัตรยียวนกวนประสาทหญิงสาว
"แล้วถ้าฉันจะเข้าห้องน้ำคุณจะเดินตามไปเฝ้าหน้าห้องน้ำด้วยไหมล่ะคะคุณภควัตร"
"อืมมม ก็ไม่แน่นะ" ชายหนุ่มแสดงอาการจนหญิงสาวจับได้ว่าเขาตามเธอ
"นั่นไง ในที่สุดคุณก็ยอมรับแล้วสินะว่าตามฉันจริง ๆ จะจับผิดอะไรฉันล่ะ"
เปรมมิกาพูดแกมน้อยใจที่เขาไม่เคยไว้ใจเธอเลย
"ก็คุณเป็นภรรยาผม ผมก็ต้องดูแลคุณตามหน้าที่สิเดี๋ยวคนเขาก็เอาไปนินทาหาว่าผมไม่ดูแลภรรยาตัวเอง" ชายหนุ่มหาข้ออ้าง
"คุณไม่ต้องกลัวว่าจะเสียหน้ากับใครทั้งนั้น เพราะฉันจะไม่มีวันทำให้ครอบครัวและชื่อเสียงของตัวเองเสียหายเหมือนกัน" ว่าแล้วเธอก็เดินเชิดหน้าออกไปทันทีพร้อมกับหันมาบอกชายหนุ่ม
"อ่อ อีกอย่างคุณกลับไปได้แล้วฉันจะไปทำหน้าทำผมคงใช้เวลาอีกนานนนน" เธอลากเสียงยาวก่อนจะพูดต่อ "กว่าจะเสร็จคุณคงจะเบื่ออะไรที่มันนาน ๆ เพราะฉะนั้นกลับบ้านไปก่อนได้เลยค่ะ ถุงพวกนี้ฝากเอาไปเก็บที่บ้านด้วยนะคะ" พูดจบเปรมมิกาก็เดินตัวปลิวไปทันทีทิ้งให้ภควัตรยืนหงุดหงิดเป็นหมีกินผึ้งอยู่ตรงนั้นโดยไม่ได้หันกลับมามองอีก
"เปรมมิกาเธอทำฉันแสบมากนะ คอยดูเถอะกลับไปถึงบ้านเมื่อไหร่ฉันจะจัดการสั่งสอนเธอให้เข็ดเชียว" ชายหนุ่มเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันคาดโทษของหญิงสาวก่อนจะเดินกลับไปที่รถและกลับบ้านไปรอใครบางคนที่เขาคาดโทษเอาไว้
เปรมมิกาเข้าร้านทำผมอย่างที่บอกกับชายหนุ่มและบอกกับเจ้าของร้านว่าจะทำอะไร
"สวัสดีค่ะคุณพี่วันนี้มีอะไรให้ลิลลี่รับใช้คะ" ลิลลี่สาวประเภทสองเจ้าของร้านทำผมชื่อดังออกมาต้อนรับลูกค้าคนสำคัญของเธอทันทีอย่างคนรู้จักมักคุ้นกันมานาน
"ลิลลี่ไม่เห็นคุณพี่แป้งมานานเลยนะคะตั้งแต่แต่งงานออกเรือนไปคงไม่มีเวลาสินะคะ" ลิลลี่สาวประเภทสองยิ้มกรุ้มกริ่มในที เปรมมิกาส่ายหน้ากับความช่างซักของสาวร่างใหญ่แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเธอไม่ติดใจหาเรื่องอะไรกับลิลลี่นัก
"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกลี่ พี่ก็ยุ่งกับงานบ้านนั่นแหละไม่มีเรื่องอะไรพวกนั้นหรอกจ่ะ" เปรมมิกาตอบ
"แล้ววันนี้คุณพี่จะทำอะไรดีค่ะ ลิลลี่ว่าคุณพี่น่าจะเปลี่ยนทรงผมใหม่นะคะเอาให้เริ่ดไปเลยค่ะ รับรองเชื่อมือลิลลี่ได้เลย" สาวร่างใหญ่การันตีฝีมือตัวเองเป็นการใหญ่ เปรมมิกาเองก็เบื่อผมแบบเดิม ๆ เหมือนกันเปลี่ยนบ้างอะไรบ้างจะได้ไม่ซ้ำซากจำเจ
"ก็ได้ เห็นว่าลิลลี่รับประกันเองนะเนี่ย" เปรมมิกาใจอ่อนปล่อยให้สาวร่างใหญ่จัดการกับหน้าผมของตัวเองไปอย่างไม่เบื่อจนทุกอย่างสำเร็จเสร็จออกมาเป็นที่น่าพอใจของทั้งสองฝ่าย
"ว้าวววววว สวยเก๋ไก๋ไปเลยค่ะคุณพี่ เห็นมั้ยล่ะคะเชื่อมือลี่ได้" เปรมมิกาเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเองก็รู้สึกแปลกใจไปมากทีเดียว ผมยาวดำขลับหายไปตอนนี้กลายเป็นลอนหลวม ๆ จากการดัดและการทำสีผมให้เข้ากับใบหน้าและสีผิวของเธอทำให้เปล่งประกายมากขึ้นแม้แต่ตัวเธอเองก็แทบจะจำตัวเองไม่ได้
"อืม สวยจริง ๆด้วยจ่ะลี่ ขอบใจมากนะไว้วันหลังพี่จะมาใหม่นะวันนี้พี่ต้องกลับบ้านแล้วล่ะ" พูดจบเปรมมิกาก็เดินออกไปจากร้านเพื่อซื้อของใช้อีกสองสามอย่างก่อนจะเดินหิ้วของพะรุงพะรังเดินไปที่หน้าห้างเพื่อเรียกรถแท็กซี่กลับบ้าน ขณะที่กำลังยืนก้ม ๆ เงย ๆ กับถุงข้าวของที่ถืออยู่นั้นร่างของเธอก็ปะทะกับใครคนนึงเข้าอย่างจังของที่ถือมาร่วงไปกองกับพื้นกระจัดกระจาย เปรมมิการีบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่เพราะเธอเองก็เป็นฝ่ายที่เดินไม่ดูทาง
"ขอโทษนะคะ ขอโทษจริง ๆ ค่ะ ดิฉันไม่ทันมองคุณเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ" เปรมมิกาเงยหน้าขึ้นมาจากการเก็บของชายหนุ่มตรงหน้าจ้องมองเธออย่างไม่กระพริบตา
"คุณคะ" เปรมมิกาเรียกเขาอีกครั้ง ชายหนุ่มที่จ้องอย่างตกตะลึงในความอ่อนหวานน่ารักของหญิงสาวได้สติทันที
"เอ่อ ผมก็ต้องขอโทษคุณด้วยนะครับที่ไม่ทันมองคุณเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ" ชายหนุ่มถาม
"ดิฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะ คุณล่ะคะเจ็บตรงไหนหรือเปล่า"
"ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ คุณเสียอีกที่ต้องเสียเวลาแถมของใช้ก็ร่วงไม่รู้ว่ามีอะไรเสียหายหรือเปล่า ผมเองก็ไม่ทันมองด้วยเอาเป็นว่าเราผิดด้วยกันทั้งคู่ดีกว่านะครับมันจะได้เท่ากัน"
พูดจบชายหนุ่มก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะถามหญิงสาวตรงหน้าต่อ
"เออ ไม่ทราบว่าจะรังเกียจไหมครับถ้าผมอยากรู้จักชื่อของคุณ ผมชื่ออัครเทพครับไม่ทราบว่าคุณ" เขาเว้นช่วงไว้ให้หญิงสาวบอกชื่อของตัวเอง
"เปรมมิกาค่ะ เรียกแป้งก็ได้นะคะ ขอบคุณคุณอัครเทพมากเลยนะคะที่ไม่ถือสาคนซุ่มซ่ามอย่างแป้ง" เปรมมิกายิ้มอย่างเป็นมิตรก่อนจะขอตัวกลับเพราะนี่เกือบจะเย็นมากแล้ว
"แป้งขอตัวกลับก่อนนะคะ ไม่รบกวนคุณอัครเทพแล้วค่ะ" เธอยิ้มก่อนจะออกตัวเดินไปข้างหน้าแต่ก็มีเสียงทุ้มดังขึ้นขัดเสียก่อน
"เอ่อคุณแป้งครับไม่ต้องเรียกผมเต็มยศขนาดนั้นก็ได้ครับเรียกว่าเทพก็ได้ครับดูไม่ทางการดี แล้วบ้านคุณแป้งอยู่แถวไหนเหรอครับผมจะได้ไปส่ง" ชายหนุ่มเอ่ยถามต่อ
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะบ้านแป้งอยู่สุขุมวิทแถวนั้นรถคงติดมาก แป้งกลับเองดีกว่าคุณเทพคงจะมีธุระต่อไม่รบกวนค่ะ"
เสียงหวานตอบกลับไปตามมารยาทแต่ด้วยความที่เป็นเพลย์บอยเจ้าเสน่ห์อย่างอัครเทพ เมื่อเขาอยากได้อะไรแล้วก็ต้องได้ทำให้เขาไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
"ไม่เป็นไรครับบ้านเพื่อนผมก็อยู่แถวนั้นผมกำลังจะแวะไปหามันพอดีเอาเป็นว่าผมไปส่งคุณแป้งดีกว่านะครับจะได้ไม่ลำบาก เชิญครับ" ชายหนุ่มผายมือเชื้อเชิญหญิงสาว ทางเปรมมิกาเองก็เห็นว่าคงจะไม่เป็นไรดูท่าทางชายหนุ่มตรงหน้านี้ก็คงไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรก็เลยยอมตกลงที่จะให้อัครเทพไปส่งตามคำเชิญ
เมื่ออัครเทพขับรถมาถึงหน้าบ้านหญิงสาวตามคำที่เธอบอกทางเขาก็ต้องแปลกใจว่าบ้านหลังนี้มันคือบ้านของภควัตรเพื่อนของเขาเอง และด้วยความแปลกใจก็เลยถามเธอไปตามตรง
"คุณแป้งอยู่บ้านหลังนี้เหรอครับ" อัครเทพถามอย่างแปลกใจ เปรมมิกาหันมายิ้มให้เขาแล้วก็พยักหน้า
"ใช่ค่ะ แป้งอยู่ที่นี่ คุณเทพรีบหรือเปล่าคะแวะทานน้ำทานกาแฟข้างในก่อนมั้ยคะ" เธอเชิญชายหนุ่มเข้ามาในบ้านเพื่อแสดงน้ำใจที่เขาอุตส่าห์ขับรถมาส่ง
"ไม่ได้รีบหรอกครับ ผมกำลังจะบอกคุณแป้งว่า บ้านเพื่อนที่ผมพูดถึงก็คือหลังนี้เหมือนกันครับ"
"จริงเหรอคะ คุณเป็นเพื่อนของคุณภควัตรเหรอคะ" เปรมมิกาถามอย่างงุนงงเพราะเธอไม่เคยรู้จักเพื่อนของชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีเลย หญิงสาวเปิดประตูลงจากรถกำลังจะเดินเข้ามาในบ้าน ชายหนุ่มเจ้าของบ้านก็ออกมาพร้อมกับคำพูดกระแทกแดกดัน
"ไปร่านที่ไหนมาล่ะ อย่าลืมนะว่าคุณเป็ยภรรยาของผมอยู่อย่าทำอะไรตามใจตัวเองจนเสื่อมเสียมาถึงตระกูลของผม" ภควัตรเปิดฉากทันทีโดยที่ไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัวแล้วก็เหลือบเห็นว่ายังมีใครอีกคนหนึ่งตามมาด้วย
"อ้าวไอ้เทพแกมาได้ไงวะ" ภควัตรทักทายเพื่อนรักอย่างสนิทสนมตามประสาเพื่อนซี้
"ฉันมาส่งคุณแป้งที่บ้านไม่คิดเลยว่าจะเป็นบ้านหลังเดียวกันกับแก" อัครเทพทักทายกลับก่อนจะทำสายตากรุ้มกริ่มมองไปยังร่างบางของหญิงสาวที่เดินหายเข้าไปในตัวบ้าน
"เฮ้ย ว่าแต่สาวสวยคนนั้นใครวะ จะว่าเป็นน้องสาวแกก็คงไม่ใช่แกเป็นลูกคนเดียวนี่นา เอ หรือว่า" อัครเทพทำท่าครุ่นคิด
"นี่อย่าบอกนะว่าภรรยานายที่เป็นข่าวกันครึกโครมฉันไม่ยักกะรู้นะว่าสวยขนาดนี้" อัครเทพยังคงสอดส่ายสายตามองหาร่างบาง
"นี่ให้มันน้อย ๆ หน่อย ฉันกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันหรอกนะก็แต่แค่ในนามไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น" ชายหนุ่มแก้เก้อ
อัครเทพกับภควัตรพูดคุยกันอยูพักใหญ่ภควัตรก็ขอตัวเข้าไปในครัวเพื่อตามหาร่างบางแล้วเมื่อเห็นว่าเธอกำลังยืนหันหลังทำอาหารอยู่จึงเดินเข้าไปข้างหลังหญิงสาวอย่างเงียบ ๆ
"ไปให้ท่ามันยังไงล่ะถึงได้ตามมาส่งถึงบ้านซะขนาดนี้คงจะออเซาะมันจนออกนอกหน้าเลยล่ะสิมันถึงได้ติดอกติดใจถึงขนาดไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องเลยน่ะ" ชายหนุ่มประชดประชัน
"คุณวัตรคุณกำลังดูถูกฉันอยู่นะ กรุณาให้เกียรติฉันด้วยค่ะ" เปรมมิกาตอบกลับอย่างเหลืออด
"หรือว่าไม่จริง ไม่งั้นมันคงไม่ตามมาถึงขนาดไล่แล้วไม่ยอมกลับจะขอทานข้าวเย็นที่นี่หรอก บอกมาเดี๋ยวนะเลยนะว่าเธอให้ท่ามันใช่มั้ย ห๊า"
"ใช่ ฉันให้ท่าเขาพอใจหรือยังล่ะ ถ้าได้คำตอบที่พอใจแล้วออกไปซะไม่ต้องเข้ามาในนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ" เปรมมิกาพูดกลับไปด้วยความเหลืออดกับความไม่ให้เกียรติเธอของภควัตรก่อนจะเดินหนีไปทางอื่นเพื่อระงับอารมณ์ขุ่นมัวของตัวเอง
"นี่คุณจะตามฉันไปถึงไหนเนี่ย จะไปไหนก็ไปสิไม่ต้องตามฉันหรอกฉันไม่ใช่นักโทษและอีกอย่างฉันจำทางกลับบ้านได้ไม่ต้องกลัวหลงหรอกน่า" เปรมมิกาพูดแบบรำคาญที่เขาเดินตามแต่ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
"คุณจะเดินไปไหนก็เรื่องของคุณสิ ผมก็เดินของผมอยู่นี่ไงหรือว่าห้างนี้คุณเป็นเจ้าของล่ะผมถึงเดินไม่ได้" ภควัตรยียวนกวนประสาทหญิงสาว
"แล้วถ้าฉันจะเข้าห้องน้ำคุณจะเดินตามไปเฝ้าหน้าห้องน้ำด้วยไหมล่ะคะคุณภควัตร"
"อืมมม ก็ไม่แน่นะ" ชายหนุ่มแสดงอาการจนหญิงสาวจับได้ว่าเขาตามเธอ
"นั่นไง ในที่สุดคุณก็ยอมรับแล้วสินะว่าตามฉันจริง ๆ จะจับผิดอะไรฉันล่ะ"
เปรมมิกาพูดแกมน้อยใจที่เขาไม่เคยไว้ใจเธอเลย
"ก็คุณเป็นภรรยาผม ผมก็ต้องดูแลคุณตามหน้าที่สิเดี๋ยวคนเขาก็เอาไปนินทาหาว่าผมไม่ดูแลภรรยาตัวเอง" ชายหนุ่มหาข้ออ้าง
"คุณไม่ต้องกลัวว่าจะเสียหน้ากับใครทั้งนั้น เพราะฉันจะไม่มีวันทำให้ครอบครัวและชื่อเสียงของตัวเองเสียหายเหมือนกัน" ว่าแล้วเธอก็เดินเชิดหน้าออกไปทันทีพร้อมกับหันมาบอกชายหนุ่ม
"อ่อ อีกอย่างคุณกลับไปได้แล้วฉันจะไปทำหน้าทำผมคงใช้เวลาอีกนานนนน" เธอลากเสียงยาวก่อนจะพูดต่อ "กว่าจะเสร็จคุณคงจะเบื่ออะไรที่มันนาน ๆ เพราะฉะนั้นกลับบ้านไปก่อนได้เลยค่ะ ถุงพวกนี้ฝากเอาไปเก็บที่บ้านด้วยนะคะ" พูดจบเปรมมิกาก็เดินตัวปลิวไปทันทีทิ้งให้ภควัตรยืนหงุดหงิดเป็นหมีกินผึ้งอยู่ตรงนั้นโดยไม่ได้หันกลับมามองอีก
"เปรมมิกาเธอทำฉันแสบมากนะ คอยดูเถอะกลับไปถึงบ้านเมื่อไหร่ฉันจะจัดการสั่งสอนเธอให้เข็ดเชียว" ชายหนุ่มเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันคาดโทษของหญิงสาวก่อนจะเดินกลับไปที่รถและกลับบ้านไปรอใครบางคนที่เขาคาดโทษเอาไว้
เปรมมิกาเข้าร้านทำผมอย่างที่บอกกับชายหนุ่มและบอกกับเจ้าของร้านว่าจะทำอะไร
"สวัสดีค่ะคุณพี่วันนี้มีอะไรให้ลิลลี่รับใช้คะ" ลิลลี่สาวประเภทสองเจ้าของร้านทำผมชื่อดังออกมาต้อนรับลูกค้าคนสำคัญของเธอทันทีอย่างคนรู้จักมักคุ้นกันมานาน
"ลิลลี่ไม่เห็นคุณพี่แป้งมานานเลยนะคะตั้งแต่แต่งงานออกเรือนไปคงไม่มีเวลาสินะคะ" ลิลลี่สาวประเภทสองยิ้มกรุ้มกริ่มในที เปรมมิกาส่ายหน้ากับความช่างซักของสาวร่างใหญ่แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเธอไม่ติดใจหาเรื่องอะไรกับลิลลี่นัก
"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกลี่ พี่ก็ยุ่งกับงานบ้านนั่นแหละไม่มีเรื่องอะไรพวกนั้นหรอกจ่ะ" เปรมมิกาตอบ
"แล้ววันนี้คุณพี่จะทำอะไรดีค่ะ ลิลลี่ว่าคุณพี่น่าจะเปลี่ยนทรงผมใหม่นะคะเอาให้เริ่ดไปเลยค่ะ รับรองเชื่อมือลิลลี่ได้เลย" สาวร่างใหญ่การันตีฝีมือตัวเองเป็นการใหญ่ เปรมมิกาเองก็เบื่อผมแบบเดิม ๆ เหมือนกันเปลี่ยนบ้างอะไรบ้างจะได้ไม่ซ้ำซากจำเจ
"ก็ได้ เห็นว่าลิลลี่รับประกันเองนะเนี่ย" เปรมมิกาใจอ่อนปล่อยให้สาวร่างใหญ่จัดการกับหน้าผมของตัวเองไปอย่างไม่เบื่อจนทุกอย่างสำเร็จเสร็จออกมาเป็นที่น่าพอใจของทั้งสองฝ่าย
"ว้าวววววว สวยเก๋ไก๋ไปเลยค่ะคุณพี่ เห็นมั้ยล่ะคะเชื่อมือลี่ได้" เปรมมิกาเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเองก็รู้สึกแปลกใจไปมากทีเดียว ผมยาวดำขลับหายไปตอนนี้กลายเป็นลอนหลวม ๆ จากการดัดและการทำสีผมให้เข้ากับใบหน้าและสีผิวของเธอทำให้เปล่งประกายมากขึ้นแม้แต่ตัวเธอเองก็แทบจะจำตัวเองไม่ได้
"อืม สวยจริง ๆด้วยจ่ะลี่ ขอบใจมากนะไว้วันหลังพี่จะมาใหม่นะวันนี้พี่ต้องกลับบ้านแล้วล่ะ" พูดจบเปรมมิกาก็เดินออกไปจากร้านเพื่อซื้อของใช้อีกสองสามอย่างก่อนจะเดินหิ้วของพะรุงพะรังเดินไปที่หน้าห้างเพื่อเรียกรถแท็กซี่กลับบ้าน ขณะที่กำลังยืนก้ม ๆ เงย ๆ กับถุงข้าวของที่ถืออยู่นั้นร่างของเธอก็ปะทะกับใครคนนึงเข้าอย่างจังของที่ถือมาร่วงไปกองกับพื้นกระจัดกระจาย เปรมมิการีบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่เพราะเธอเองก็เป็นฝ่ายที่เดินไม่ดูทาง
"ขอโทษนะคะ ขอโทษจริง ๆ ค่ะ ดิฉันไม่ทันมองคุณเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ" เปรมมิกาเงยหน้าขึ้นมาจากการเก็บของชายหนุ่มตรงหน้าจ้องมองเธออย่างไม่กระพริบตา
"คุณคะ" เปรมมิกาเรียกเขาอีกครั้ง ชายหนุ่มที่จ้องอย่างตกตะลึงในความอ่อนหวานน่ารักของหญิงสาวได้สติทันที
"เอ่อ ผมก็ต้องขอโทษคุณด้วยนะครับที่ไม่ทันมองคุณเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ" ชายหนุ่มถาม
"ดิฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะ คุณล่ะคะเจ็บตรงไหนหรือเปล่า"
"ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ คุณเสียอีกที่ต้องเสียเวลาแถมของใช้ก็ร่วงไม่รู้ว่ามีอะไรเสียหายหรือเปล่า ผมเองก็ไม่ทันมองด้วยเอาเป็นว่าเราผิดด้วยกันทั้งคู่ดีกว่านะครับมันจะได้เท่ากัน"
พูดจบชายหนุ่มก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะถามหญิงสาวตรงหน้าต่อ
"เออ ไม่ทราบว่าจะรังเกียจไหมครับถ้าผมอยากรู้จักชื่อของคุณ ผมชื่ออัครเทพครับไม่ทราบว่าคุณ" เขาเว้นช่วงไว้ให้หญิงสาวบอกชื่อของตัวเอง
"เปรมมิกาค่ะ เรียกแป้งก็ได้นะคะ ขอบคุณคุณอัครเทพมากเลยนะคะที่ไม่ถือสาคนซุ่มซ่ามอย่างแป้ง" เปรมมิกายิ้มอย่างเป็นมิตรก่อนจะขอตัวกลับเพราะนี่เกือบจะเย็นมากแล้ว
"แป้งขอตัวกลับก่อนนะคะ ไม่รบกวนคุณอัครเทพแล้วค่ะ" เธอยิ้มก่อนจะออกตัวเดินไปข้างหน้าแต่ก็มีเสียงทุ้มดังขึ้นขัดเสียก่อน
"เอ่อคุณแป้งครับไม่ต้องเรียกผมเต็มยศขนาดนั้นก็ได้ครับเรียกว่าเทพก็ได้ครับดูไม่ทางการดี แล้วบ้านคุณแป้งอยู่แถวไหนเหรอครับผมจะได้ไปส่ง" ชายหนุ่มเอ่ยถามต่อ
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะบ้านแป้งอยู่สุขุมวิทแถวนั้นรถคงติดมาก แป้งกลับเองดีกว่าคุณเทพคงจะมีธุระต่อไม่รบกวนค่ะ"
เสียงหวานตอบกลับไปตามมารยาทแต่ด้วยความที่เป็นเพลย์บอยเจ้าเสน่ห์อย่างอัครเทพ เมื่อเขาอยากได้อะไรแล้วก็ต้องได้ทำให้เขาไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
"ไม่เป็นไรครับบ้านเพื่อนผมก็อยู่แถวนั้นผมกำลังจะแวะไปหามันพอดีเอาเป็นว่าผมไปส่งคุณแป้งดีกว่านะครับจะได้ไม่ลำบาก เชิญครับ" ชายหนุ่มผายมือเชื้อเชิญหญิงสาว ทางเปรมมิกาเองก็เห็นว่าคงจะไม่เป็นไรดูท่าทางชายหนุ่มตรงหน้านี้ก็คงไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรก็เลยยอมตกลงที่จะให้อัครเทพไปส่งตามคำเชิญ
เมื่ออัครเทพขับรถมาถึงหน้าบ้านหญิงสาวตามคำที่เธอบอกทางเขาก็ต้องแปลกใจว่าบ้านหลังนี้มันคือบ้านของภควัตรเพื่อนของเขาเอง และด้วยความแปลกใจก็เลยถามเธอไปตามตรง
"คุณแป้งอยู่บ้านหลังนี้เหรอครับ" อัครเทพถามอย่างแปลกใจ เปรมมิกาหันมายิ้มให้เขาแล้วก็พยักหน้า
"ใช่ค่ะ แป้งอยู่ที่นี่ คุณเทพรีบหรือเปล่าคะแวะทานน้ำทานกาแฟข้างในก่อนมั้ยคะ" เธอเชิญชายหนุ่มเข้ามาในบ้านเพื่อแสดงน้ำใจที่เขาอุตส่าห์ขับรถมาส่ง
"ไม่ได้รีบหรอกครับ ผมกำลังจะบอกคุณแป้งว่า บ้านเพื่อนที่ผมพูดถึงก็คือหลังนี้เหมือนกันครับ"
"จริงเหรอคะ คุณเป็นเพื่อนของคุณภควัตรเหรอคะ" เปรมมิกาถามอย่างงุนงงเพราะเธอไม่เคยรู้จักเพื่อนของชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีเลย หญิงสาวเปิดประตูลงจากรถกำลังจะเดินเข้ามาในบ้าน ชายหนุ่มเจ้าของบ้านก็ออกมาพร้อมกับคำพูดกระแทกแดกดัน
"ไปร่านที่ไหนมาล่ะ อย่าลืมนะว่าคุณเป็ยภรรยาของผมอยู่อย่าทำอะไรตามใจตัวเองจนเสื่อมเสียมาถึงตระกูลของผม" ภควัตรเปิดฉากทันทีโดยที่ไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัวแล้วก็เหลือบเห็นว่ายังมีใครอีกคนหนึ่งตามมาด้วย
"อ้าวไอ้เทพแกมาได้ไงวะ" ภควัตรทักทายเพื่อนรักอย่างสนิทสนมตามประสาเพื่อนซี้
"ฉันมาส่งคุณแป้งที่บ้านไม่คิดเลยว่าจะเป็นบ้านหลังเดียวกันกับแก" อัครเทพทักทายกลับก่อนจะทำสายตากรุ้มกริ่มมองไปยังร่างบางของหญิงสาวที่เดินหายเข้าไปในตัวบ้าน
"เฮ้ย ว่าแต่สาวสวยคนนั้นใครวะ จะว่าเป็นน้องสาวแกก็คงไม่ใช่แกเป็นลูกคนเดียวนี่นา เอ หรือว่า" อัครเทพทำท่าครุ่นคิด
"นี่อย่าบอกนะว่าภรรยานายที่เป็นข่าวกันครึกโครมฉันไม่ยักกะรู้นะว่าสวยขนาดนี้" อัครเทพยังคงสอดส่ายสายตามองหาร่างบาง
"นี่ให้มันน้อย ๆ หน่อย ฉันกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันหรอกนะก็แต่แค่ในนามไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น" ชายหนุ่มแก้เก้อ
อัครเทพกับภควัตรพูดคุยกันอยูพักใหญ่ภควัตรก็ขอตัวเข้าไปในครัวเพื่อตามหาร่างบางแล้วเมื่อเห็นว่าเธอกำลังยืนหันหลังทำอาหารอยู่จึงเดินเข้าไปข้างหลังหญิงสาวอย่างเงียบ ๆ
"ไปให้ท่ามันยังไงล่ะถึงได้ตามมาส่งถึงบ้านซะขนาดนี้คงจะออเซาะมันจนออกนอกหน้าเลยล่ะสิมันถึงได้ติดอกติดใจถึงขนาดไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องเลยน่ะ" ชายหนุ่มประชดประชัน
"คุณวัตรคุณกำลังดูถูกฉันอยู่นะ กรุณาให้เกียรติฉันด้วยค่ะ" เปรมมิกาตอบกลับอย่างเหลืออด
"หรือว่าไม่จริง ไม่งั้นมันคงไม่ตามมาถึงขนาดไล่แล้วไม่ยอมกลับจะขอทานข้าวเย็นที่นี่หรอก บอกมาเดี๋ยวนะเลยนะว่าเธอให้ท่ามันใช่มั้ย ห๊า"
"ใช่ ฉันให้ท่าเขาพอใจหรือยังล่ะ ถ้าได้คำตอบที่พอใจแล้วออกไปซะไม่ต้องเข้ามาในนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ" เปรมมิกาพูดกลับไปด้วยความเหลืออดกับความไม่ให้เกียรติเธอของภควัตรก่อนจะเดินหนีไปทางอื่นเพื่อระงับอารมณ์ขุ่นมัวของตัวเอง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น