ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ จตุรศาสตรา
“ แช่หมอกมือปราบ โจรดาบอาบหิมะ
  ต้องสาปเด็ดศีรษะ ไร้ระยะหมื่นลี้  ”
ประโยคสี่ประโยคนี้กล่าวถึงยอดศาสตราวุธทั้งสี่ที่มีชื่อระบือลั่นทั่วยุทธภพยามนี้ หนึ่งคือกระบี่ หนึ่งคือดาบ หนึ่งคือลูกดอกและสุดท้ายคือเกาทัณฑ์
“กระบี่แช่หมอก” ยอดกระบี่ที่ตีขึ้นมาจากส่วนผสมของกระบี่หิมะครามและกระบี่เป็นสัจจะในอดีต ถูกหลอมเข้าด้วยกันจากความเย็นในปล่องภูเขาไฟ หล่อด้วยไอหมอกยามเที่ยง และลับคมด้วยศิลาลอยน้ำ
ถือเป็นกระบี่ที่ดีที่สุดเท่าที่มีการคิดค้นศาสตราวุธชนิดนี้ขึ้นมา
ตัวกระบี่สีขาวบริสุทธิ์ ราบเรียบไร้ตำหนิเช่นเดียวกับโกร่งกระบี่และด้ามจับของมัน ยามเมื่อถืออยู่ในมือคล้ายท่านถือไว้ด้วยกระดาษขาวแผ่นหนึ่งก็มิปาน
“ดาบอาบหิมะ” ดาบชั้นเลิศที่ถูกตีขึ้นมาอย่างพิสดารไม่แพ้กระบี่ มันเป็นศาสตราชนิดเดียวที่สามารถเทียบเคียงยอดกระบี่ได้ มันถูกตีขึ้นจากวัตถุดิบเดียวกับกระบี่ หลอมเข้าด้วยกันจากเปลวเพลิงใต้ทะเล หล่อด้วยหิมะหน้าร้อน ลับคมด้วยคมกระบี่แช่หมอกนั่นเอง
ตัวดาบสีชาดเข้ม คล้ายโลหิตกลุ่มหนึ่ง โกร่งและด้ามสลักไว้ด้วยลวดลายพยัคฆ์ร้ายไล่มังกรอยู่อย่างวิจิตรตระการ ถือเป็นยอดดาบที่มีความสวยงามอยู่มากยิ่ง
“ลูกดอกต้องสาป” อาวุธลับในอาวุธลับ ไม่มีใครเคยเห็นมัน ผู้คนที่เคยเห็นไม่สามารถกลับมาบอกเล่าแก่ผู้คนทั่วไปได้ มันจึงเป็นอาวุธลับที่ร้ายกาจและลึกลับที่สุดของยุทธภพ
แม้ไม่มีผู้ใดเคยเห็นลูกดอกชนิดนี้แต่มีผู้ตกตายด้วยฝีมือมันอยู่มากมายนัก หากสังเกตจากบาดแผลตามร่างไร้วิญญาณทั้งปวงชาวยุทธก็พอคาดเดาได้ว่าภายในลูกดอกจะต้องซ่อนกลไกพิสดารมากหลาย
“เกาทัณฑ์หมื่นลี้” ยอดศาสตราชนิดหนึ่ง คันเกาทัณฑ์ถูกสร้างขึ้นจากต้นไม้โลหิตที่เลี้ยงดูด้วยลมปราณและพลังวัตร ก่อนนำมาดัดโค้งแล้วรมควันสีดำสนิทคล้ายพื้นนภายามไร้สรรพแสงเช่นนั้น สายของมันสร้างขึ้นจากด้ายป่านเหล็กไหลที่มีความความเหนียวและยืดหยุ่นสูง
เป็นอาวุธที่ชาวยุทธกล่าวขานกันว่าเป็นศาสตรามีชีวิต สามารถแปรเปลี่ยนลูกเกาทัณฑ์ชั้นเลวเป็นชั้นยอด ยิงได้ไกลเท่าเส้นขอบฟ้า
ยอดศาสตราทั้งสี่นี้ ชาวยุทธขนานนามมันว่า จตุรศาสตรา เล่าขานกันปากต่อปากว่าภายในอาวุธแต่ละชิ้นสามารถบ่งบอกถึงที่ซ่อนทรัพย์สมบัติมากหลาย และตำรา คำภีร์ยุทธอีกหลายเล่ม ผู้ใดได้ครอบครองอาวุธชนิดใดชนิดหนึ่งย่อมสามารถก้าวขั้นสู่จุดสูงสุดได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
เมื่อเป็นเช่นนี้ อาวุธทั้งสี่ชนิดจึงตกเป็นเป้าของชาวยุทธทั้งหลายในการแก่งแย่งมาไว้ในครอบครอง ตั้งแต่อดีตยามจตุรศาสตราเกิดขึ้นมาจวบจนมาถึงบัดนี้....
  ต้องสาปเด็ดศีรษะ ไร้ระยะหมื่นลี้  ”
ประโยคสี่ประโยคนี้กล่าวถึงยอดศาสตราวุธทั้งสี่ที่มีชื่อระบือลั่นทั่วยุทธภพยามนี้ หนึ่งคือกระบี่ หนึ่งคือดาบ หนึ่งคือลูกดอกและสุดท้ายคือเกาทัณฑ์
“กระบี่แช่หมอก” ยอดกระบี่ที่ตีขึ้นมาจากส่วนผสมของกระบี่หิมะครามและกระบี่เป็นสัจจะในอดีต ถูกหลอมเข้าด้วยกันจากความเย็นในปล่องภูเขาไฟ หล่อด้วยไอหมอกยามเที่ยง และลับคมด้วยศิลาลอยน้ำ
ถือเป็นกระบี่ที่ดีที่สุดเท่าที่มีการคิดค้นศาสตราวุธชนิดนี้ขึ้นมา
ตัวกระบี่สีขาวบริสุทธิ์ ราบเรียบไร้ตำหนิเช่นเดียวกับโกร่งกระบี่และด้ามจับของมัน ยามเมื่อถืออยู่ในมือคล้ายท่านถือไว้ด้วยกระดาษขาวแผ่นหนึ่งก็มิปาน
“ดาบอาบหิมะ” ดาบชั้นเลิศที่ถูกตีขึ้นมาอย่างพิสดารไม่แพ้กระบี่ มันเป็นศาสตราชนิดเดียวที่สามารถเทียบเคียงยอดกระบี่ได้ มันถูกตีขึ้นจากวัตถุดิบเดียวกับกระบี่ หลอมเข้าด้วยกันจากเปลวเพลิงใต้ทะเล หล่อด้วยหิมะหน้าร้อน ลับคมด้วยคมกระบี่แช่หมอกนั่นเอง
ตัวดาบสีชาดเข้ม คล้ายโลหิตกลุ่มหนึ่ง โกร่งและด้ามสลักไว้ด้วยลวดลายพยัคฆ์ร้ายไล่มังกรอยู่อย่างวิจิตรตระการ ถือเป็นยอดดาบที่มีความสวยงามอยู่มากยิ่ง
“ลูกดอกต้องสาป” อาวุธลับในอาวุธลับ ไม่มีใครเคยเห็นมัน ผู้คนที่เคยเห็นไม่สามารถกลับมาบอกเล่าแก่ผู้คนทั่วไปได้ มันจึงเป็นอาวุธลับที่ร้ายกาจและลึกลับที่สุดของยุทธภพ
แม้ไม่มีผู้ใดเคยเห็นลูกดอกชนิดนี้แต่มีผู้ตกตายด้วยฝีมือมันอยู่มากมายนัก หากสังเกตจากบาดแผลตามร่างไร้วิญญาณทั้งปวงชาวยุทธก็พอคาดเดาได้ว่าภายในลูกดอกจะต้องซ่อนกลไกพิสดารมากหลาย
“เกาทัณฑ์หมื่นลี้” ยอดศาสตราชนิดหนึ่ง คันเกาทัณฑ์ถูกสร้างขึ้นจากต้นไม้โลหิตที่เลี้ยงดูด้วยลมปราณและพลังวัตร ก่อนนำมาดัดโค้งแล้วรมควันสีดำสนิทคล้ายพื้นนภายามไร้สรรพแสงเช่นนั้น สายของมันสร้างขึ้นจากด้ายป่านเหล็กไหลที่มีความความเหนียวและยืดหยุ่นสูง
เป็นอาวุธที่ชาวยุทธกล่าวขานกันว่าเป็นศาสตรามีชีวิต สามารถแปรเปลี่ยนลูกเกาทัณฑ์ชั้นเลวเป็นชั้นยอด ยิงได้ไกลเท่าเส้นขอบฟ้า
ยอดศาสตราทั้งสี่นี้ ชาวยุทธขนานนามมันว่า จตุรศาสตรา เล่าขานกันปากต่อปากว่าภายในอาวุธแต่ละชิ้นสามารถบ่งบอกถึงที่ซ่อนทรัพย์สมบัติมากหลาย และตำรา คำภีร์ยุทธอีกหลายเล่ม ผู้ใดได้ครอบครองอาวุธชนิดใดชนิดหนึ่งย่อมสามารถก้าวขั้นสู่จุดสูงสุดได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
เมื่อเป็นเช่นนี้ อาวุธทั้งสี่ชนิดจึงตกเป็นเป้าของชาวยุทธทั้งหลายในการแก่งแย่งมาไว้ในครอบครอง ตั้งแต่อดีตยามจตุรศาสตราเกิดขึ้นมาจวบจนมาถึงบัดนี้....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น