สามัญชน - สามัญชน นิยาย สามัญชน : Dek-D.com - Writer

    สามัญชน

    ผู้คนในยุทธภพล้วนไม่เป็นตัวของตัวเอง วาจาเป็นสัจจะคิดเช่นนั้น

    ผู้เข้าชมรวม

    906

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    906

    ความคิดเห็น


    14

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  31 มี.ค. 48 / 09:30 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      วิกาลไม่ดึก ภายในถ้ำศิลาไร้ชื่อแห่งหนึ่ง ยังมีบุรุษยืนตระหง่านท้าแสงจันทร์เสี้ยวอันซีดเซียวที่เล็ดลอดลงมาจากช่องบนยอดถ้ำ
      แสงจันทร์สาดส่องให้เห็นใบหน้าอันเหนื่อยหน่ายชีวิตซึ่งขัดแย้งกับรูปหน้าอ่อนวัยและผิวหนังอันเต่งตึงบนใบหน้ามันอย่างเด่นชัด
      วันนี้เป็นวันที่มันรอคอยมานับปี ในการเสาะหาสถานที่อันสงบเงียบและไม่มีใครค้นพบเช่นนี้มาก่อน มันหวังเพียงเพื่อกระทำการสิ่งหนึ่ง
      สิ่งที่มันต้องการกระทำมาเป็นเวลาช้านาน

      มันต้องการนอน

      คนผู้หนึ่งคิดนอน ไยมิใช่สะดวกดายยิ่งนัก เพียงปิดเปลือกตาลงย่อมหลับนอนได้ง่ายดายยิ่ง

      ตัวของมันเองนั้น มิได้อดหลับอดนอนมาเป็นเวลานาน มันยังคงนอนอยู่เป็นปกติทุกค่ำคืน ดังเช่นปุถุชนธรรมดาทั่วไป
      แต่มันยังคงต้องการนอน การนอนแบบที่ปุถุชนทั่วไป ไม่มีใครเคยทำ
      มันคิดนอนไปตลอดชั่วชีวิตของมัน !

      มันต้องการนอน มิใช่ ต้องการตาย
      แม้มันคิดต้องการตาย แต่มันมิอาจตายตกได้

      มันยังคงมีความรู้สึกอยู่ หากแม้ท่านมีความรู้สึก ท่านย่อมมีชีวิต เมื่อมีชีวิตอยู่ การคิดตกตายย่อมเป็นเรื่องไม่น่าคิด
      มันก็ยังคงมีชิวีต เพียงแต่มันต้องการไร้ความรู้สึก
      การนอนอย่างสงบในที่แห่งนี้ ย่อมทำให้มันไร้ความรู้สึกและยังมีชีวิต

      หลายสิบปีที่ผ่านมา ไม่มีใครไม่รู้จักมัน มันเป็นบุคคลอันดับหนึ่งในใต้หล้าและทั่วทั้งยุทธภพเทิดทูนบูชามันดุจเทพเจ้า ไฉนมันจึงเร้นกายในสถานที่ตัดขาดจากโลกภานนอกเช่นนี้
      หลายร้อยปีที่ผ่านมา ไม่มีใครไม่รู้จักมัน มันเป็นบุคคลอันดับหนึ่งในใต้หล้าแต่คนทั่วทั้งยุทธภพเกลียดชังมันยิ่งกว่าพญามาร ไฉนผ่านมาหลายร้อยปีมันยังคงมีชีวิตอยู่

      มันเป็นมนุษย์ เป็นสามัญชน ไม่ใช่เทพยดาบนชั้นฟ้า หรือปีศาจชั่วช้าในขุมนรก หากแต่มันเป็นมนุษย์ มนุษย์ที่มีชีวิตยืนยาวยิ่ง ยืนยาวยิ่งกว่ามนุษย์คนใดที่เคยปรากฏบนแผ่นดินนี้มา มันจึงเป็นมนุษย์เหนือมนุษย์

      ชื่อของมัน ไม่อาจนับเป็นชื่อได้ หากชื่อของบุคลคนใดบุคคลหนึ่ง เป็นเครื่องแสดงให้รู้ว่าบุคคลนั้นมีตัวตนอยู่จริง
      มันย่อมไม่มีชื่อ เพราะมันไม่ต้องการมีตัวตน
      หากท่านทำให้ผู้คนรอบข้างท่านสำนึกรู้ว่าท่านมีตัวตน แม้ผู้คนรอบข้างจะไม่ทราบชื่อของท่าน แต่ท่านยังคงมีตัวตน
      มันเล่า มันแม้มีชื่อ แต่ไม่มีใครรู้ว่ามันมีตัวตนอยู่จริง มันก็เปรียบดังไม่มีชื่อแล้ว

      เหตุอันใดผู้คนเช่นมันต้องมาเร้นกายที่นี่เล่า ?
      หากท่านเป็นมันท่านคงสำนึกดี แต่ไม่มีใครเป็นเช่นมัน จึงไม่มีใครล่วงรู้ถึงสาเหตุการหลบซ่อน เร้นการจากโลกภายนอกของมัน

      หากท่านมีอายุยืนยาวหลายร้อยปีเช่นมันท่านคิดว่าท่านจะเป็นเช่นใดบ้าง ?
      ปีนี้มันอายุ เก้าร้อยเก้าสิบปี อีกเพียงสิบปีมันจะได้ชื่อว่าอายุครบพันปี นานเกินไปรึไม่สำหรับมนุษย์ ?

      นาน ยาวนานเกินไปสำหรับมนุษย์ และยาวนานเกินไปสำหรับมันเช่นกัน...มันจึงต้องการนอน

      หากท่านมีอายุยืนยาวเท่ามันท่านคิดว่าท่านจะได้พบเห็นสิ่งใดในโลกบ้าง ?

      ในช่วงอายุเช่นชนชั้นเราหากท่านมีโชค ท่านจะได้พบเจอเหตุการณ์ต่างๆหลากหลายอย่างที่คนอับโชคบางคนไม่มีทางได้พบเจอ หากท่านรู้จักใช้ชีวิตอย่างเป็นสุข ท่านก็จะมีความสุขมากกว่าคนที่ไม่รู้จักหาความสุขใส่ชีวิต หากท่านได้พบเจอเรื่องเลวร้ายนานับประการณ์ ท่านก็จะมีประสบการณ์เลวร้ายมากกว่าคนที่ไม่เคยพบเจอเรื่องเช่นนั้น นั่นล้วนแล้วแต่ท่านใช้ชีวิตตามโชควาสนา ประสบการณ์ และความรู้ของตัวท่านเองแล้ว

      โชควาสนา เป็นสิ่งที่ท่านไม่สามารถที่จะควบคุมมันได้
      ประสบการณ์ ไม่ทำให้ท่านมีความรู้ขึ้นมาได้
      ประสบการณ์และความคิด นั่นจึงจะทำให้ท่านเกิดความรู้
      หากท่านมีประสบการณ์และความรู้ ท่านย่อมจะมีแนวทางในการดำเนินชีวิตแล้ว

      มันมีประสบการณ์เท่าใด มีความรู้เท่าใด นั่นย่อมไม่มีใครทราบ แต่มันเคยเป็นทั้งเทพเจ้าและปีศาจมาแล้วในแต่ละยุคสมัย แต่ไม่นานมานี้มันสำนึกตนเองว่ามันรับรู้เรื่องราวของโลกอันแสนจะสับสนวุ่นวาย ทั้งในและนอกยุทธภพมามากยิ่งเสียกว่ามากแล้ว มันจึงต้องการยุติบทบาทของตัวมันลง ณ ถ้ำศิลาไร้ชื่อแห่งนี้  ถ้ำศิลาที่ไม่เคยมีใครค้นพบแห่งนี้

      มันลดสายตาที่กำลังชื่นชมความงดงามของท้องฟ้ายามค่ำคืนลงมาอย่างแช่มช้า เพื่อก้มมองดูกระบี่รูปร่างอัปลักษณ์ที่มันถืออยู่ในมือด้วยสีหน้าอันเศร้าสลดไม่น้อย มันคงไม่ได้เห็นกระบี่เล่มนี้อีกไม่รู้นานเท่าไร และยังจะไม่ได้เห็นท้องฟ้ายามค่ำคืนเยี่ยงนี้อีกนานเท่าไร
      มันเดินไปที่ผนังถ้ำศิลาอย่างเชื่องช้าเพื่อประวิงเวลาที่มันยังลืมตาอยุ่ให้ได้นานที่สุด แม้มันปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะได้หลับใหลในสถานที่อันวิเศษเยี่ยงนี้ มันยังคงมิอาจหักใจสิ้นในคราวเดียว เนื่องเพราะมันยังคงเป็นมนุษย์ ยังมีความรู้สึก และการมีความรู้สึกนั้นคือการมีชีวิต แต่หากมันขาดความรู้สึก แม้มีชีวิตยั่งยืนนานเพียงไร ก็ไม่ต่างจากผนังถ้ำศิลาเบื้องหน้ามันนี้เช่นกัน

      “ผู้อาสุโวพักผ่อนอย่างสงบ”
      “ต้องการชีวิตอย่ารบกวน”
      “ต้องการชื่อดึงกระบี่ไป”
      “ต้องการพักผ่อนอยู่ที่นี่”

      ตัวหนังสือสี่บรรทัดถูกสลักขึ้นที่ผนังถ้ำศิลาเหนือโลงไม้ที่ทำขึ้นมาอย่างปราณีตใบหนึ่ง ด้วยกระบี่ในมือของ มนุษย์เหนือมนุษย์ผู้นี้ กระบี่ที่มีชื่อสะท้านไปทั่วยุทธจักร กระบี่ที่ได้ชื่อว่าเป็นกระบี่วิเศษมีค่าควรเมือง เหล่าจอมยุทธมากมายล้วนตายตกภายใต้คมกระบี่นี้ และอีกมากมายยังคงต้องการครอบครองกระบี่นี้ กระบี่ที่อัปลักษณ์เล่มนี้...

      กระบี่เป็นเพียงของตาย เป็นเพียงสิ่งของที่มนุษย์สร้างขึ้น แต่กระบี่บางเล่มกลับถูกยกย่องเหนือชีวิตของผู้คนหลากหลายคน เพียงเพื่องกระบี่มีชื่อเล่มเดียวกลับต้องแลกด้วยโลหิตและน้ำตาของผู้คนหลายๆคน กระบี่ที่มันถืออยู่นี้ก็เป็นเช่นนั้น กระบี่นี้มันใช้ตั้งแต่เริ่มท่องยุทธภพ กระบี่ที่ตีโดยสหายสนิทของมัน กระบี่ที่เริ่มแรกมันเป็นผู้สร้างชื่อให้กระบี่ ภายหลังกระบี่กลับสร้างชื่อให้มัน กระบี่ที่ชาวยุทธเรียกหาว่าเป็นกระบี่วิเศษ กระบี่ที่แสนจะอัปลักษณ์เล่มหนึ่ง กระบี่เลวเล่มหนึ่ง !

      กระบี่ที่ดี ย่อมเป็นกระบี่ที่คม เพราะกระบี่ใช้ฆ่าคนย่อมต้องมีความคมจึงเป็นกระบี่ดี  คนเล่า
      คนดี หากแต่ไม่ใช่คนที่ฆ่าคน แต่เป็นคนที่ช่วยเหลือคน ยึดถือในหลักคุณธรรม เมตตาธรรม
      กระบี่ที่ดี อยู่ในมีคนดี ย่อมบังเกิดเป็นคุณอนันต์ต่อหลายชีวิต ภายใต้คมกระบี่
      หากเกิดกระบี่ที่ดีนั้น ตกอยู่ในมือคนไม่ดีเล่า ผลที่เกิดย่อมไม่อยากจะคาดคิดแล้ว
      ภายใต้คมกระบี่คงชโลมด้วยโลหิตไม่ขาดสาย

      กระบี่เลว ย่อมเป็นกระบี่ที่ไม่คม ผิดจากคุณสมบัติของกระบี่ที่ดี แต่มันยังคงใช้ฆ่าคนได้
      กระบี่เลว อยู่ในมือคนดียังสามารถใช้กระบี่ช่วยเหลือคนได้
      คนเลว บางครั้งยังไม่ต้องใช้กระบี่ก็ยังสามารถฆ่าคนได้  
      กระบี่เลวที่มันถืออยู่นี้ก็มิอาจหนีจากกฏนั้นเช่นกัน...

      มนุษย์เหนือมนุษย์มองกระบี่ของมันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะซัดกระบี่ของมันจมหายไปใต้ผิวของผนังศิลาเสมอด้าม แสดงให้เห็นถึงกำลังภายในอันล้ำลึกของบุคคลซึ่งเคยเป็นหนึ่งในใต้หล้าถึงสองยุคสมัยอย่างแจ่มจัด
      “...ลาก่อนกระบี่น้อย”
      มันรำพึงอย่างแผ่วเบาก่อนจะเปิดฝาโลงไม้อันปราณีต  หย่อนกายลงไป และนอนลงบนพื้นโลง ยื่นมือออกมาปิดฝาโลงอย่างเชื่อยชา ฝาโลงปิดสนิทแล้ว บุคคลที่อยู่ในโลงไม้ ถอนหายใจครั้งหนึ่งเบาๆ ก่อนพริ้มตาหลับลงไป  จนกว่ามันจะตื่นขึ้นอีกครั้ง...



      .............................

      จากผู้เขียน

      ผลงานชิ้นนี้เป็นของตัวละครหนึ่งใน สุราร้อน กระบี่เย็น ที่ข้าพเจ้าแต่งขึ้น
      หากสหายท่านมีความสงสัยใดในตัว วาจาเป็นสัจจะ
      ก็ได้แต่มอบนิยายบทนี้ไขข้อข้องใจต่อสหายแล้ว

      เรื่องราวทั้งหลายย่อมกระจ่างในสักวัน... /ดาบไร้ฝัก รักไร้สื่อ ชื่อไร้เกียรติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×