คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ความน่าจะเป็นที่ 6 สมทบ
ความน่าจะเป็นที่ 6 สมทบ
เรียวขาของชายหนุ่มเรือนผมสีเงินยาว ใบหน้าสวยราวกับผู้หญิงก้าวไปตามทางเดินของภัตตาคารหรูราคาแพงหูฉี่อย่างเซ็งจิต เมื่อเดินเข้าไปมุมในสุดที่นัดกับใครคนหนึ่งก็พบกับเป้าหมาย…ผู้ถูกนัดพบนั่งรอคอยอยู่ที่โต๊ะสวยริมกระจกบานใหญ่ของร้านซึ่งมองเห็นเมืองด้านล่างได้อย่างชัดเจนและเมื่อชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ดวงเนตรสีฟ้ากระจ่างคู่นั้นที่เหม่อออกไปด้านนอกก็หันกลับมาหาเขา
“คุณมาสายไปหนึ่งชั่วโมง สิบห้านาที กับอีกสิบหกวินาทีนะครับ…คุณที่ปรึกษาด้านธุรกิจบริษัทโอวาริ คุณ
“ฉันเองก็ไม่ได้ว่างเหมือนนายเสียหน่อย…สึคิโยมิ คิเซย์นะ” เจ้าของเรือนผมสีเงินทิ้งตัวลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับเด็กหนุ่มผมสีทองที่เท้าคางยิ้มให้เขาอย่างมีเล่ห์นัย “ถ้าผมว่างมากคงไม่ต้องมานั่งนับเวลารอคุณหรอกนะครับ … ไม่ทราบว่าคุณมีอะไรให้ผมช่วยรึไงครับ?”
“ฉันเอาข้อมูลมาแลกกับงานที่นายได้รับทางเมล์ไงละ” เมมโมรี่การ์ดถูกเลื่อนไปตรงหน้าเด็กหนุ่มที่เลื่อนกลับให้อย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก “ไม่ต้องหรอกครับ ข้อมูลที่คุณได้มาผมรู้หมดแล้วละ”
“หมายความว่านายไม่ช่วยฉัน?”
“ทำไมผมถึงจะไม่ช่วยคุณละครับ แม้ข้อมูลครั้งนี้จะใช้ไม่ได้แต่ครั้งหน้าก็ต้องมีบ้างละครับ” เมมโมรี่การ์ดอีกอันถูกหยิบออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเด็กหนุ่มก่อนที่เขาจะเก็บมันลงไปอีกครั้ง แล้วมือซ้ายของเขาก็หยิบรายการอาหารส่วนมือขวาก็หยิบโทรศัพท์แบบพับของตนเองออกมา “เพียงแต่ว่างานของคุณในครั้งนี้มันยากมากจนผมค่อนข้างจะปวดหัว เลยไม่รับค่าตอบแทนไม่ได้”
มิทสึฮิเดะเม้มปากแน่น…เจ้าเด็กนี้มันแผนสูงมากจนเข้าไม่รู้เลยว่าต้องรับมือยังไง…และดูเหมือนคิเซย์นะจะรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรจึงได้ยิ้มออกมา
“ไม่ต้องห่วงครับ ไม่มากนักหรอก แค่เลี้ยงข้าวผมก็พอ” …เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ…แต่ก็ต้องถอนคำพูดเมื่อรายการถูกร่ายออกมาพร้อมทั้งนิ้วที่กดโทรศัพท์ต่างเครื่องคิดเลขอย่างรวดเร็ว
“ชุดพาสต้ารวมชุดใหญ่สองชุด ของหวานเป็น ไดฟุกุช็อกโกแลตแบบพิเศษ บราวนี่เค้ก พายช็อกโกแลตเค้ก บิสกิตช็อกโกแลต ช็อกโกแลตพาเฟ่ห์ ช็อคโกแลกมูส เชอรี่ช็อกบอล ตบท้ายด้วยมาชเมลโล่บาร์ และค็อกเทลเป็น ดรายมาตินี่กับแบล็กเดวิล…” ไม่นานเกินรอ โทรศัพท์ที่กลายเป็นเครื่องคิดเลขก็ลงจอดที่ตรงหน้าของเขา…แม้ว่าจะเป็นเมนูง่ายๆ หากินได้ทั่วไป แต่ขึ้นชื่อว่าภัตตาคารราคาก็ต้องแพงอยู่แล้ว… ทำให้จำนวนเงินที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์สีดำเครื่องสวยชวนให้กระเป๋าเงินแหกยิ่งนัก!
-> ปฏิเสธไอ้เด็กนี่ไปซะ
ด่าไปหนึ่งยกแล้วถอยกลับ ครั้งหน้าว่ากันใหม่
ต่อรองราคาให้น้อยลงครึ่งหนึ่ง
แอบต่อราคาเด็กเสริฟ
ที่ปรึกษาด้านธุรกิจคิดนักก่อนที่จะเลือกตัวเลือกที่เป็นประโยคกับตนเองที่สุด
ปฏิเสธไอ้เด็กนี่ไปซะ
ด่าไปหนึ่งยกแล้วถอยกลับ ครั้งหน้าว่ากันใหม่
->ต่อรองราคาให้น้อยลงครึ่งหนึ่ง
แอบต่อราคาเด็กเสริฟ
“นายกินไม่หมดหรอกน่า กินไม่หมดฉันก็เสียเงินเปล่าสิ” อ้างเหตุผลที่ชาวบ้านเขาทำกันอย่างมั่นใจสุดขีดว่าได้ผล แต่เจ้าเด็กเวรตรงหน้ากลับหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง “ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมเป็นแชมป์เก่าการแข่งกินจุครับ ติดอันดับสามปีซ้อนด้วยนะครับ”
…เอาไงดีวะ… นี่มันคนหรือแบล็คโฮลก็ไม่รู้… ถ้าปฏิเสธไปเราก็มีแต่เสีย … แต่ถ้าไปด่ามันอย่าว่าแต่คราวหน้าเลย คราวนี้จะรอดกลับไปรึเปล่าเถอะ … แถมให้บากหน้าไปต่อรองกับเด็กเสริฟหรือคนคิดเงินก็ดูจะหน้าด้านหน้าทนเกินเหตุไปหน่อย… สุดท้ายตัวเลือกที่เขาต้องเลือกก็กลายเป็น…
->จ่ายก็ได้โว้ย TT^TT
“งั้นเหรอ…คิเซย์นะเป็นหมากให้ผู้หญิงคนนั้นจริงๆ…” มาซามุเนะเอ่ยด้วยใบหน้าเคร่งเครียด…โคโตรุที่เพิ่งรายงานจบก็พยักหน้าเป็นการยืนยันก่อนจะหันไปหายูคิมูระที่นั่งอยู่ข้างเตียงชั่วครู่ก่อนที่จะหันกลับมาหาเจ้านายตัวเอง “ผมจะเป็นโล่ให้พวกคุณสองคนครับ”
“…คราวนี้นายวิ่งเข้าหาการต่อสู้เองเลยงั้นเหรอ?”
“ครับ… มันเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยเขาได้…” คำพูดกำกวมถูกเอ่ยออกมาทำให้อีกสองคนในห้องงุนงง…กำลังหมายถึงใครกันแน่?
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูเรียกให้มาซามุเนะที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงขมวดคิ้วอย่างสงสัย ใครมาตอนที่เขาบอกไม่ให้คนรบกวนกันฟะ มือสังหารรึไง?
“ผมโคจูโร่เองครับ คุณชาย” บางอ้อทันทีที่ได้ยิน เขาจึงอนุญาตให้มือสังหาร(แบบเออเอง)เข้ามาในห้องได้ หากแต่คนแรกที่เข้ามากลับไม่ใช่พ่อบ้านหนุ่ม แต่เป็น…
“ยูคิ!!!”
หญิงสาวผมสีน้ำตาลออกส้มกระโจนเข้ากอดยูคิมูระที่ลุกขึ้นมาทำเอาแทบหงายหลังลงไปทับคนป่วยบนเตียงหากไม่ได้โคโตรุดันหลังเอาไว้ … แต่ถึงทับไปแม่สาวจากนางาโนะทั้งสองก็ไม่คิดจะสนใจหรอก(ชะอ้าว)
“ซาสึเกะ! คิดถึงจังเลย!!” เด็กสาวกอดตอบอย่างดีอกดีใจถึงจะไม่ได้เจอกันแน่สี่ห้าวันแต่เธอเห็นคนสนิทคนนี้เป็นเหมือนกับพี่สาวจึงผูกผันกันเป็นพิเศษ … แต่ในขณะที่ตรงหน้ากำลังแฮปปี้สุดๆ คุณชายกลับอ้าปากค้าง
“ผู้หญิง?!”
ผู้หญิงบ้าอะไรชื่อ ซารุโทบิ ซาสึเกะ!!
“คุณชายครับ ชื่อเนี่ย…ตั้งตามความชอบส่วนบุคคลไม่เกี่ยวกับเพศหรอกนะครับ” โคโตรุหันมาบอกด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ดูอย่างชื่อของเขาสิ แม่กะจะตั้งให้ลูกสาวแต่เขาดันเกิดมาเป็ฯผู้ชายเลยได้ชื่อนี้…
“Hey! Kojuro!” เรียกชื่อของคนสนิทตนเองเพื่อกลบเกลื่อนอาการอ้าปากค้าง ไม่งั้นจะเป็นขี้เก๊ก ดาเตะ มาซามุเนะได้ยังไง! ทว่าผิดคาดเมือคนสนิทไม่ได้หันมาไม่… ดวงเนตรสองข้างของเขาจับจ้องอยู่ที่คนสนิทสาวอย่างไม่ละสายตา…
…เธอคนนี้สวยจริงๆ เลย…
“Hey…~” … เสียงดังรบกวนนี่ก็น่ารำคาญจริงๆ คนกำลังส่องสาว มีมารยาทบ้างดิ…
“Hey~ Hey~”
…รบกวนอย่างมาก และมากที่สุดเลยไอ้เด็กเวรที่ไหนฟะ…
“Ko~ ju~ ro~~~~~” …สำเนียงมันเริ่มคุ้นฟะ… ใช่คุณชายจอมเพี้ยนรึเปล่าฟะ? “…!?” สะดุ้งเฮือกเมื่ออยู่ๆ หน้าของไอ้หนุ่มตาเดียวก็โผล่พรวดเข้ามาตรงหน้า เขาผงะถอยหลังไปสองก้าว
“ทำอะไรน่ะครับคุณชายมันอันตรายนะ! แล้วคุณลุกขึ้นมาทำไมกันครับ!” ต่อว่าคนที่เดินบิดไปนั่งบนเตียงก่อนเอาผ้าห่มขึ้นคลุมเข่าเหมือนเดิม
“Are you ok?”
“ผมเป็นอะไรเหรอครับคุณชาย?” ผมก็ปกติของผมดีนะเออ… ซึ่งคุณชายเองก็มองหน้าของคนสนิทหนุ่มอย่างครุ่นคิดก่อนหันไปมองหน้าเด็กหนุ่มผมสีฟ้าที่เขาค่อนข้างเกลียดนิสัยเจ้าตัวดีนี่ ซึ่งเจ้าของดวงเนตรสีฟ้าก็ปรายตาไปหาคนสนิทสาวของคุณหนูที่จับตัวคุณหนูของเธอหมุนไปมาเพื่อเช็คความปลอดภัยของร่างบาง เรียกให้ดวงเนตรข้างเดียวของมาซามุเนะมองคนสนิทสาวก่อนกลับมามองคนสนิทของตนเองที่เอาแต่จ้องหญิงสาวไม่วางตาอีกแล้ว แถมหน้าแดงๆ นั่นยังเป็นหลักฐานยืนยันชั้นยอด… คุณชายบางอ้อก่อนพยักหน้าลงความเห็นกับตนเอง
“Oh! I see , I see”
แล้วทั้งสามคนที่ยังไม่รู้เรื่องก็หันมาหาคุณชายหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ ส่วนโคโตรุก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
…มันซีอะไรของมันวะ?
“อะแฮ่ม…” เสียงกระแอมไอของโคโตรุเรียกให้คุณชายที่เพิ่งบรรลุสะดุ้งเฮือกก่อนหันไปหาพ่อบ้านหนุ่มที่แทบจะฝั่งตัวเองไว้กับมุมห้องอีกครั้ง… ซึ่งอีกฝ่ายก็ปรายตาไปที่คุณหนูยูคิมูระเป็นการส่งสัญญาณว่าธุระจริงๆ ที่ควรทำคืออะไร
“ว่าแต่เจ้าบอดเนี่ยนะ ดาเตะ มาซามุเนะ” ไม่ทันเปิดประเด็นแม่สาวจากนางาโนะคนใหม่ก็เข้ามาประชิดตัวทำเอาคนขี้เก๊กสะดุ้ง … เดี๋ยวก่อนเจ้… ที่เรียกว่า ‘ไอ้บอด’ เนี่ยหมายความว่าไง ฉันออกจะหล่อเหลาและแฮนซั่ม(และหลงตัวเองระดับสูงสุด)
“อือ นี่แหละว่าที่สามีฉันละ” ยูคิมูระพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงอย่างไม่คิดอะไรเหมือนปกติ ทำให้มาซามุเนะยืดอกโชว์เท่ห์ … ไงละ จงดีใจซะที่ได้เป็นคนสนิทของว่าที่ภรรยาของคุณชายสุดเท่ห์ หล่อ แฮนซั่ม อย่างเขา
“…ไม่ผ่าน”
“เอ๊ะ?” อีกสี่คนที่เหลืออุทานออกมาอย่างงุนงงกับคำพูดของหญิงสาวนามซารุโทบิ ซาสึเกะ
“ถึงหน้าจะหล่อก็เหอะ แต่นี่อะไร ผมทรงอะไรไม่ทราบคิดว่าแซกผมปัดขวามันดูดีนักรึไง แถมตาบอดอีกต่างหากมีตำหนิที่หนึ่งหล่ะ แล้วนี่อะไร ยังจะนอนโรงพยาบาลอยู่อีกเหรอเป็นผู้ชายรึเปล่า ถ้าเป็นผู้ชายก็ต้องอดทนแล้วออกจากไปข้างนอกไปฉะกับยัยป้าแก่นั่นแบบตัวต่อตัวเลยสิ… ไม่ต้องมาอินเตอร์กับฉันด้วย ออ! แล้วก็อย่ามายืนออกโชว์เท่ห์ไปหน่อยเลยไอ้ขี้เก๊กคิดว่าหล่อมากนักรึไง?”
ร่ายยาวเป็นสี่บรรทัดทำเอาคนทั้งห้องเอ๋อรับประทาน…แต่แล้ว…
“ฮะฮะฮะ!!” เป็นโคโตรุที่หลุดขำออกมา เขาเดินเข้ามาหาหญิงสาวที่หันมามองเขาอย่างไม่เข้าใจ เด็กหนุ่มผมสีฟ้าจึงยื่นมือออกไปก่อนที่จะแนะนำตัวเอง “ผมเป็นพ่อบ้านชื่อ ยูคิโระ โคโตรุ ครับ … ผมเห็นด้วยกับคำพูดของคุณทุกอย่างเลยละครับ เขาเป็นคุณชายแต่มีดีที่เงินในบัญชีเท่านั้นแหละครับ”
“โอ้! ฉันชอบพ่อบ้านที่ไม่กลัวนายอย่างนายจังเลย… ยินดีที่ได้รู้จักนะ โคโตรุ” จับมือของเด็กหนุ่มกลับเป็นการตอบรับการแนะนำตัวและขอสนิทด้วย ซึ่งดูเหมือนว่าคุณชายเริ่มสะพรึง
…ชิบละสิ… มันหาแนวร่วมได้แล้ว…
“เอ่อ…คุณชายครับ ผมว่าเปิดประเด็นเรื่องแผนของเราก่อนดีไหมครับ” โคจูโร่เอ่ยขึ้นขัดจังหวะคนกำลังแกล้งอย่างเมามันส์เรียกให้คนกำลังถูกแกล้งรู้สึกตัวอีกครั้ง
“นั่นสินะ…ช้ากว่านี้คงไม่ดีนัก…”
“แผนอะไรเหรอครับ คุณชาย?” โคโตรุหันมาอย่างงุนงง เช่นเดียวกับยูคิมูระที่ยังไม่ค่อยเข้าใจในสภาพตรงหน้าแต่ก็พอจะคาดๆ ได้ละว่าพี่เลี้ยงเธอไม่ชอบหน้าว่าที่สามีของเธอ… มาซามุเนะขมวดคิ้วเป็นปมก่อนที่จะเอ่ยออกมาให้พ่อบ้านของตนเองทั้งสองเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
“ฉันคิดว่าเราน่าจะหาตัวลูกชายของตระกูลไอซาว่ามาช่วยเรา”
*
เบรกเอี๊ยด... สวัสดีทุกท่านครับ ท่านคงสงสัยใช่ไหมครับว่ามันจะอัพเร็วไปไหน แบบว่ามันว่างครับ ว่างจนขี้เกียจเลยแหละก็เลยลุกมาปั่นฟิคให้อ่าน (ได้ข่าวว่าต้นเดือนหน้าแกสอบ?) สำหรับตอนนี้ก็ค่อนข้างมึนๆ งงๆ กันไปนะครับ
มันนี้ไม่ได้ตอบเม้นนะครับเพราะว่าวันนี้ตัวขี้เกียจหิวข้าวครับ เดี๋ยวไปหาข้าวกินก่อนนะครับ (//โดนเสยออกนอกเว็บ)
24/07/2556
FesenyAReseT.
ความคิดเห็น